Thursday, 8 May 2025
ค้นหา พบ 47953 ที่เกี่ยวข้อง

ญี่ปุ่นเริ่มสร้าง MGM Osaka ‘รีสอร์ตคาสิโนแห่งแรก’ บนเกาะเทียมยูเมะชิมะ มูลค่า 1.27 ล้านล้านเยน หวังปั้นโอซาก้าเป็นฮับท่องเที่ยว-บันเทิงระดับเอเชีย

(7 พ.ค. 68) เมื่อเดือนเมษายน 2025 ญี่ปุ่นได้เริ่มต้นการก่อสร้าง 'MGM Osaka' รีสอร์ตครบวงจรแห่งแรกของประเทศ บนเกาะเทียมยูเมะชิมะ เมืองโอซาก้า โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง MGM Resorts International จากสหรัฐฯ และ Orix Corporation จากญี่ปุ่น มูลค่ารวมกว่า 1.27 ล้านล้านเยน (ราว 311,500 ล้านบาท)

MGM Osaka ได้รับอนุมัติภายใต้กฎหมาย IR ปี 2018 ซึ่งอนุญาตให้สร้างรีสอร์ตคาสิโนแบบถูกกฎหมายได้สูงสุด 3 แห่งทั่วประเทศ โดย MGM Osaka เป็นโครงการแรกที่ผ่านการอนุมัติอย่างเป็นทางการ นับเป็นก้าวสำคัญของญี่ปุ่นในการเปิดตลาดคาสิโน และส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซ

โครงการประกอบด้วยคาสิโน โรงแรม 3 แห่งกว่า 2,500 ห้อง ศูนย์ประชุม พื้นที่แสดงสินค้า โรงละคร ร้านอาหาร และค้าปลีก โดยคาดว่าจะสร้างรายได้จากการเล่นเกมราว 5.9 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และสร้างงานนับหมื่นตำแหน่ง ทั้งทางตรงและทางอ้อม

แม้จะมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง แต่โครงการต้องเผชิญกับเสียงคัดค้านจากประชาชนบางกลุ่มที่กังวลเรื่องปัญหาการพนัน การฟอกเงิน และผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงและกระบวนการยุติธรรม โครงการจึงมีการจำกัดการเข้าคาสิโนของคนญี่ปุ่น และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อควบคุมความเสี่ยง

ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงการกระตุ้นการพัฒนาเมืองอย่างชัดเจน เช่น การเปิดสถานีรถไฟใต้ดินใหม่ในต้นปี 2025 และการขยายสายรถไฟเชื่อมเกาะยูเมะชิมะ ขณะเดียวกัน การก่อสร้างจะถูกปรับแผนช่วงงาน Expo 2025 ซึ่งจัดบนเกาะเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบต่อผู้เข้าร่วมงาน

MGM Osaka จึงไม่เพียงเป็นโครงการคาสิโนแห่งแรกของญี่ปุ่น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านเชิงนโยบาย มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงและการบริการอย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบการจัดสมดุลระหว่างโอกาสทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อสังคม

ทั่วโลกจับตา ‘วันแห่งชัยชนะ’ ที่เครมลิน เมื่อผู้นำโลกหลายประเทศตอบรับเข้าร่วมตามคำเชิญของ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’

(7 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง มีกำหนดเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 7–10 พฤษภาคมนี้ เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี “วันแห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมัน" โดยระหว่างการเยือน ผู้นำจีนจะพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อกระชับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและรัสเซีย รวมถึงลงนามในข้อตกลงทวิภาคีหลายฉบับ ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดระดับโลกที่ยังคงดำเนินอยู่

งานเฉลิมฉลองครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงชัยชนะของกองทัพโซเวียตเหนือกองกำลังนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งรัสเซียให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยสหภาพโซเวียตในขณะนั้นสูญเสียประชาชนกว่า 27 ล้านคน ซึ่งนอกจาก สี จิ้นผิง แล้วสำนักข่าว Sputnik ยังรายงานว่าผู้นำโลกหลายประเทศจะร่วมงาน รวมถึงผู้นำจากบราซิล เซอร์เบีย และสโลวาเกีย เพื่อแสดงจุดยืนทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้

กบน. ขยับปรับเงินกองทุนน้ำมันฯ รับมือภาษีใหม่ ตรึงราคาหน้าปั๊ม ช่วยประชาชนยุคค่าครองชีพสูง

เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.68) คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ ประเภทน้ำมัน เพื่อรองรับการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยยืนยันจะไม่ให้กระทบราคาขายปลีกน้ำมันหน้าปั๊ม ช่วยลดภาระค่าครองชีพในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน มอบหมายให้ สกนช. ประเมินผลกระทบและเสนอแนวทางรองรับการเก็บภาษีใหม่ โดยปรับลดเงินกองทุนฯ เท่ากับอัตราภาษีสรรพสามิต และพิจารณาค่าการตลาดที่เหมาะสม เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 7 พฤษภาคม 2568

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการ สกนช. เปิดเผยว่า การปรับครั้งนี้จะทำให้รายรับของกองทุนฯ ลดลงประมาณ 49.57 ล้านบาทต่อวัน แต่ยังสามารถรองรับได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ หากเกิดวิกฤตราคาน้ำมัน กบน.อาจขอให้กรมสรรพสามิตพิจารณาลดภาษีลงอีกครั้ง

ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะติดลบอยู่ที่ 47,779 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 2,540 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,239 ล้านบาท ซึ่ง กบน. จะบริหารจัดการอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาในประเทศ

นายพรชัยย้ำว่า กบน. ดำเนินงานภายใต้หลักการโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยึดกฎหมายกองทุนน้ำมันฯ พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด โดยมุ่งให้ทุกมาตรการเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติสูงสุด

ปลัดเทศบาลอุดรฯ แจงปมเครื่องออกกำลังกายสแตนเลส 32 ล้าน ยันราคาตาม TOR ‘โปร่งใส-คุ้มค่า’ ใช้งานได้นานกว่า 10 ปี

(7 พ.ค. 68) นายไพทูรย์ เหลืองอิงคะสุต ปลัดเทศบาลนครอุดรธานี ชี้แจงกรณีดราม่าเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งสแตนเลสราคาเฉลี่ยชุดละล้าน หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักบนโซเชียล โดยระบุว่าโครงการใช้งบรวม 32 ล้านบาท ติดตั้งใน 30 ชุมชน แบ่งเป็นชุดเล็ก 8 ตัว ราคาชุดละกว่า 6 แสนบาท และชุดใหญ่ 16 ตัว ราคาชุดละกว่า 2 ล้านบาท ยืนยันอุปกรณ์มีความคงทน ใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี

การจัดซื้อผ่านการสำรวจความต้องการจากชาวบ้าน 105 ชุมชน เหลือพื้นที่เหมาะสมเพียง 30 ชุมชน จากนั้นเทศบาลจึงบรรจุโครงการเข้างบปี 68 ผ่านสภาเทศบาล ตั้งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดสอบราคาจาก 7 ร้านค้า มีผู้เสนอราคา 3 ราย โดยบริษัท ส.สิงห์อยู่สปอร์ต จำกัด เป็นผู้ชนะ

ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งและยังไม่ตรวจรับเครื่องอย่างเป็นทางการ โดยในจุดที่เป็นข่าว เช่น ชุมชนพิชัยรักษ์ มีการติดตั้งจริงแต่ยังไม่เปิดให้ใช้งาน ชาวบ้านให้ความเห็นว่าเครื่องดูแข็งแรงแต่ควรเพิ่มไฟและหลังคาเพื่ออำนวยความสะดวก

ปลัดเทศบาลระบุว่า แม้ราคาอาจดูสูง แต่ผ่านกระบวนการตรวจสอบและประชาพิจารณ์ ย้ำว่าไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย และเป็นอุปกรณ์ที่หลาย อปท. ก็ใช้งานอยู่ ทั้งยังช่วยส่งเสริมสุขภาพประชาชนอย่างยั่งยืน

สำหรับงบรวม 32.06 ล้านบาท แบ่งเป็นชุดเล็ก 26 ชุด รวม 17.5 ล้านบาท และชุดใหญ่ 7 ชุด รวม 14.5 ล้านบาท ซึ่งเทศบาลมั่นใจว่าเกิดความคุ้มค่าและโปร่งใสในการดำเนินการทุกขั้นตอน

รัฐบาลทรัมป์ เปิดโครงการให้เงิน 1,000 ดอลลาร์ แก่ผู้เข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย แลกความสมัครใจออกจากสหรัฐฯ กลับประเทศบ้านเกิด…โดยไม่ต้องถูกจับ

(7 พ.ค. 68) รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศโครงการใหม่เสนอเงิน 1,000 ดอลลาร์ (ราว 34,000 บาท) ให้แก่ผู้อพยพที่อยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมาย หากยินยอมเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด โดยจะได้รับเงินหลังเดินทางถึงประเทศปลายทางและยืนยันผ่านแอปพลิเคชัน CBP Home ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิพัฒนาขึ้นใหม่

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนของกระบวนการจับกุมและเนรเทศผู้อพยพ ซึ่งโดยเฉลี่ยมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 17,000 ดอลลาร์ต่อคน ขณะที่การสมัครใจเดินทางกลับโดยได้รับเงินช่วยเหลือ จะช่วยลดต้นทุนได้มากถึง 70% ทั้งยังช่วยลดจำนวนผู้ต้องกักขัง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถกลับเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมายในอนาคตได้

โฆษกกระทรวงฯ เปิดเผยว่ามีผู้อพยพรายแรกที่เข้าร่วมโครงการแล้ว โดยได้รับตั๋วเครื่องบินจากชิคาโกกลับฮอนดูรัส พร้อมมีการจองเที่ยวบินเพิ่มเติมให้กับผู้สมัครใจเดินทางกลับในเร็วๆ นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า รัฐบาลจะให้โอกาสแก่ “คนดี” ที่จากไปอย่างสมัครใจ ได้กลับเข้ามาอีกครั้ง

โครงการนี้ต่อยอดมาจากแอปฯ CBPOne ที่ริเริ่มในยุครัฐบาลโจ ไบเดน โดยถูกทรัมป์สั่งปิดและดัดแปลงใหม่เป็น CBP Home ซึ่งเน้นใช้เพื่อการเดินทางออกนอกประเทศ มากกว่าการอำนวยความสะดวกในการเข้ามาอย่างถูกกฎหมายตามแบบเดิม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top