Saturday, 17 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

เปรียบเทียบค่าเทอมระหว่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

เปรียบเทียบค่าเทอมระหว่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ของนักเรียนแต่ละชั้นปี ต้องจ่ายค่าเทอมกันปีละเท่าไรบ้าง ไปดูกัน!!
 

Operation fish ปฏิบัติการขนย้ายสมบัติครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ของสหราชอาณาจักร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2



แหวนทองที่พลเมืองอังกฤษส่งมอบให้รัฐบาลเพื่อนำไปแปรรูปเป็นทองคำแท่ง

‘Operation fish’ (ปฏิบัติการปลา) เดือนกันยายน ค.ศ.1939 รัฐบาลอังกฤษได้ออกคำสั่งให้พลเมืองทุกคนที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร ต้องแสดงและมอบทรัพย์สิน โดยเฉพาะทองคำของตนให้กับกระทรวงการคลัง ด้วยเมฆพายุแห่งสงครามที่รวมตัวกันทำให้รัฐบาลอังกฤษเกิดความกลัวที่สหราชอาณาจักรมีโอกาสจะเพลี่ยงพล้ำ หากกองทัพเยอรมันยกพลบุกและยึดครองเกาะอังกฤษได้สำเร็จในที่สุด เพื่อให้อังกฤษมีเงินและทรัพยากรที่จะทำการสู้รบต่อไปได้ แม้ว่าเกาะอังกฤษจะถูกยึดครองก็ตาม ดังนั้น รัฐบาลอังกฤษจึงตัดสินใจขนย้ายสมบัติไปยังแคนาดา ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษในทวีปอเมริกาเหนือ


ปืนพก Colt ขนาด .380 ที่ถูกสั่งซื้อโดย British Purchasing Commission

ก่อน Operation fish ได้มีการส่งขบวนเรือพร้อมทองคำและเงินมูลค่าหลายล้านปอนด์ เพื่อซื้ออาวุธจากสหรัฐอเมริกามาแล้ว โดย British Purchasing Commission (คณะกรรมาธิการจัดซื้อของอังกฤษ) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เดิมคือ คณะกรรมการจัดซื้อของแองโกล-ฝรั่งเศส (Anglo-French Purchasing Board) มีสำนักงานอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งทำหน้าที่จัดการในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากผู้ผลิตในอเมริกาเหนือ และหลังจากการยอมจำนนของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1940 จึงกลายเป็น British Purchasing Commission คณะกรรมาธิการชุดนี้ยังรับผิดชอบต่อคำสั่งซื้อที่แต่เดิมเป็นของฝรั่งเศส เบลเยียม และต่อมาโดยนอร์เวย์ หลังจากการยอมจำนนต่อเยอรมันของประเทศเหล่านั้น


Sir Winston Churchill นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

เมื่อ ‘Winston Churchill’ จัดตั้งรัฐบาลในปี ค.ศ.1940 สงครามกับเยอรมันกำลังดำเนินไปโดยฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นฝ่ายย่ำแย่ เพื่อให้มีหลักประกันว่า สหราชอาณาจักรจะสามารถสู้รบต่อไปได้ แม้เกาะอังกฤษจะถูกยึดครองก็ตาม Churchill จึงวางแผนจัดส่งทรัพย์สมบัติของอังกฤษจำนวนมหาศาลไปเก็บเพื่อความปลอดภัยในแคนาดา จากการที่รัฐบาล Churchill ได้ใช้อำนาจในช่วงสงคราม (กฎอัยการศึก) ยึดทรัพย์สินที่ชาวอังกฤษทุกคนได้ถูกบังคับให้ลงทะเบียนเมื่อกันยายน ค.ศ.1939 และทำการขนย้ายทรัพย์สินเหล่านั้นไปยังท่าเรือ Greenock ในสกอตแลนด์ภายใต้การคุ้มกันอย่างเป็นความลับสุดยอด


เรือ HMS Emerald

จากนั้น ทรัพย์สินทั้งหมดก็ถูกขนส่งโดย ‘เรือรบ HMS Emerald’ ซึ่งออกเดินทางเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ.1939 พร้อมด้วยด้วยเรือพิฆาตคุ้มกันจำนวนหนึ่งได้แล่นไปยังแคนาดา การเดินทางของขบวนเรือครั้งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวด เพื่อเป็นการรักษาความลับและลวงพรางศัตรู ลูกเรือทุกนายต้องสวมเครื่องแบบ ‘สีขาวเขตร้อน’ เพื่อสร้างความสับสนให้กับเยอรมัน ในขบวนเรือคุ้มกันประกอบด้วยเรือประจัญบาน HMS Revenge และ HMS Resolution และ HMS Enterprise รวมถึงเรือลาดตระเวน HMS Caradoc ระหว่างทางขบวนเรือเผชิญกับพายุที่รุนแรงลูกหนึ่ง ที่ทำให้เกิดคลื่นลมแรงจนขบวนเรือต้องลดความเร็วลง จนเกือบจะกลายเป็นเป้าหมายง่ายๆ สำหรับเรือดำน้ำของเยอรมันที่พยายามเข้ามามาด้อมๆ มองๆ แต่ในที่สุดขบวนเรือก็มาถึงท่าเรือเมืองแฮลิแฟกซ์ของแคนาดา ทรัพย์สมบัติของอังกฤษก็ถูกขนย้ายด้วยรถไฟ และถูกส่งไปยังกรุงออตตาวาซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคนาดา ก่อนส่งต่อไปยังนครมอนทรีออล


อาคาร Sun Life ในนครมอนทรีออล

ทองคำแท่งน้ำหนักสองล้านปอนด์ (900 ตัน) มูลค่าราว 1.948 ล้านบาทในปัจจุบัน อันเป็นทรัพย์สินของอังกฤษ ถูกเก็บไว้ในห้องนิรภัยใต้ดินที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษใต้อาคาร Sun Life ในนครมอนทรีออล ภายใต้การคุ้มกันตลอดเวลาโดย ตำรวจของ Royal Canadian Mounted และมีการปล่อยข่าวลืออย่างต่อเนื่องว่า มีการเก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักรไว้ที่นครมอนทรีออล โดยไม่มีการพูดถึงทองคำจำนวนมหาศาล เพื่อเป็นการอำพรางกิจกรรมที่เกิดขึ้นในอาคาร Sun Life โดยที่พนักงาน 5,000 คน ที่ทำงานในอาคาร Sun Life ไม่เคยสงสัยเลยว่า มีทองคำจำนวนมหาศาลถูกเก็บไว้ในห้องใต้ดินของอาคาร


แม้จะมีผู้คนจำนวนมากเข้าร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ แต่หน่วยข่าวกรองของเยอรมันก็ไม่เคยทราบหรือระแคะระคายข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการนี้เลย นักบัญชีและการเงินหลายร้อยคนทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อจัดรายการเนื้อหาของทรัพย์สินที่ถูกขนย้ายมา เมื่อเสร็จปฏิบัติการแล้วก็พบว่า ‘ทองคำ’ มูลค่าราว 1.948 ล้านบาท ที่ถูกส่งจากสหราชอาณาจักรไปยังแคนาดานั้น ไม่สูญหายเลยแม้แต่แท่งเดียว



มีแผ่นหินจารึกบนกำแพงด้านนอกของ Martins Bank บนถนน Water Street ในนครลิเวอร์พูลเป็นที่ระลึกถึงทองคำ ซึ่งถูกเก็บไว้ที่นั่นระหว่างเดินทางไปแคนาดา ระบุข้อความว่า…

“ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1940 เมื่อประเทศนี้ถูกคุกคาม ทองคำสำรองบางส่วนของประเทศถูกนำมาจากกรุงลอนดอน และถูกเก็บเพื่อความปลอดภัยในห้องใต้ดินของ Martins Bank”

ตัวเลขทองคำสำรองของอังกฤษในปัจจุบันอยู่ที่ 310 ตัน (ในขณะที่ตัวเลขทองคำสำรองของไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 244 ตัน) ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความนิยมสูง เพราะเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ไม่สามารถพิมพ์ออกมาใหม่ได้เหมือนเงิน และมูลค่าของทองคำไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการรักษามูลค่ามีมาแต่อดีต ดังนั้น เมื่อมีเกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซาหรือเข้าสู่วิกฤติ ราคาทองคำจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น ดังนั้นทองคำเป็นหลักประกันที่จับต้องได้ที่ดีสุดสุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เรื่อง : ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล
ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการสมัยใหม่ อาจารย์พิเศษหลักสูตรปริญญาโทและเอก นักเล่าเรื่องมากมายในหลากหลายมิติ เป็นผู้ที่ชื่นชมสนใจในประวัติศาสตร์สงครามสมัยใหม่ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ

 

ผบ.ตร. มอบรางวัลตำรวจจราจรจราจร สภ.เมืองราชบุรี

วันนี้ (23 มิ.ย.66) เวลา 11.45 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่ตำรวจจราจร สภ.เมืองราชบุรี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล” นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน และกรณีนี้คือร.ต.ต.วิเชียร มณีวิหค รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมาย อำนวยความสะดวกบนเส้นทางจราจรได้อย่างเข้มแข็ง ตลอดยังเป็นผู้มีจิตสาธารณะ ทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์และได้รับการชื่นชมจากสังคมในหลายกรณี ดังเช่น  

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 11.20 น. ร.ต.ต.วิเชียรฯ ได้ทำการช่วยเหลือพลทหาร มีพฤติกรรมคล้ายจะกระโดดลงน้ำจากสะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ โดยทำการรับฟัง เกลี้ยงกล่อม ปลอบใจ จนสามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับตัวไปดูแล

และเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 07.40 น. ร.ต.ต.วิเชียรฯ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลเด็กนักเรียนจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันอย่างทันท่วงที พร้อมประสานรถพยาบาลรับตัวผู้บาดเจ็บไปรักษา จนได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก

เหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 16.40 น. ระหว่างที่ 
ร.ต.ต.วิเชียร มณีวิหค รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณถนนสมบูรณ์กุล หน้าโรงพยาบาลราชบุรี ได้พบเห็นรถยนต์กระบะจอดรถสวนเลนไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย จึงเข้าตรวจสอบ พบว่ามีผู้ขับขี่ในรถ จึงเข้าไปสอบถาม แต่ชายผู้ขับรถคันดังกล่าวตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และลงจากรถ และใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพวีดีโอการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการชี้แจงและอธิบายถึงการปฏิบัติผิดกฎหมายจราจร 
สร้างความเสี่ยงให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ด้วยความใจเย็น 

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ สามารถควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี และเป็นผู้รักษากฎหมายจราจร เพื่อรักษาความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างแท้จริง ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล รวมทั้งสิ้น 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”

26 มิถุนายน วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีพระนามเดิมว่า อัมพร ประสัตถพงศ์ ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2470 ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ณ ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 

พระองค์ผนวชเป็นสามเณร ณ วัดสัตตนารถปริวัตรวรวิหาร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เมื่อ พ.ศ.2483 โดยมีพระธรรมเสนานี (เงิน นนฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วย้ายไปอยู่วัดตรีญาติเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม ต่อมาได้ทรงเข้าพิธีผนวชเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2491 ณ พัทธสีมาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยมีพระเทพโมลี (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระจินดากรมุนี (ทองเจือ จินฺตากโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ทรงศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดราชบพิธฯ จน พ.ศ.2491 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และ พ.ศ.2493 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค ต่อมา เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย เป็นนักศึกษารุ่นที่ 5 จบศาสนศาสตรบัณฑิต เมื่อปี พ.ศ.2500 และได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยพาราณสี (Banaras Hindu University) ประเทศอินเดีย จบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2512 ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ปี พ.ศ.2552 สภามหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ถวายศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์ ปี พ.ศ.2553 สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรมนิเทศ

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดสถาปนาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และได้เสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชพิธีสถาปนาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น. ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยนิมนต์สมเด็จพระราชาคณะ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค และเจ้าคณะจังหวัดทั่วราชอาณาจักร เข้าร่วมพระราชพิธี

‘เบส คำสิงห์’ ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ขัดผิวทุกวัน อยากให้ดูดีเพื่อคนใหม่ ไม่ได้มีสเปกตายตัว ขอแค่คุยกันรู้เรื่อง นิสัยดี

โสดแล้วสวย โสดแล้วแซ่บ สำหรับ “เบส คำสิงห์” หรือ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ลูกสาวคนเก่งของ “สมรักษ์ คำสิงห์” โดยในงานประกาศรางวัล MAYA TV AWARDS 2023 เจ้าตัวเผยสวยขึ้นเพราะอยากดูแลตัวเองให้ดูดีเพื่อแฟนใหม่

“เราก็ดูแลตัวเองค่ะ เพราะว่าว่าง ตอนไม่โสดไม่ว่างเพราะอยู่กับแฟนไง เราเป็นผู้หญิงติดแฟน แต่ตอนนี้หนูตื่นมาออกกำลังกายทุกเช้า แล้วก็ดูแลผิว สครับ ขัดผิวทุกวัน (อยากให้ดูดีขึ้นเพื่อคนที่เข้ามาใหม่?) เพื่อเขาด้วย คนใหม่ก็ต้องภูมิใจที่มีแฟนเป็นเรา (หัวเราะ) เราต้องพัฒนาขึ้นไง เขามาคบเราแล้ว เราก็ต้องพัฒนาในเรื่องของความคิด ทัศนคติ รูปร่างด้วย หุ่นด้วย”

โสดแล้วแซบได้ ชินโดนแซะ คงไม่หนักเท่าปีก่อนแล้ว
“ตอนนี้โสดก็แซบได้ สเปกเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยน จริงๆ หนูก็ไม่ได้มีสเปกตายตัวนะ แค่คุยกันรู้เรื่อง นิสัยดีก็โอเคแล้ว ส่วนคนคอมเมนต์แซะก็ปกติค่ะ เป็นเรื่องปกติมาก เพราะว่าเราเป็นผู้หญิง เราก็ต้องโดนอยู่แล้ว คือก่อนหน้านี้เราโดนมาหนักมาก ช่วงปีที่แล้ว ไปออกรายการ ทำอะไรก็โดนไปหมด ความรู้สึกเรามันอยู่ตัวแล้ว ก็คงไม่มีอะไรหนักเท่าปีที่แล้วแหละ
ตอนนี้ก็ยังอ่านคอมเมนต์นะ แต่ว่าถ้าใครว่าเรา เราก็ไปอ่านคนที่ชมเรา เราไม่ได้อิกนอร์นะ ถ้าเกิดเขาบอกว่าเราอ้วน เราก็จะลดน้ำหนัก แต่ถ้าด่าว่าเราไม่สวย เราก็จะไปส่องกระจกที่บ้าน ถ้าส่องแล้วรู้สึกว่าก็ดูดีนะ ก็ไม่ได้ไม่สวยขนาดนั้น เราก็ข้ามไป เวลาอ่านเจอคอมเมนต์ไม่ดีก็ไม่โกรธ เพราะว่าหนูเจอมาหนักมากเลยค่ะปีที่แล้ว ปีนี้ก็เลยไม่ค่อยเท่าไหร่ ปีที่แล้วกว่าจะผ่านมาก็ยาก ก็หนักเหมือนกัน”

เคยถามคนเคยฟ้อง แต่ไม่เคยทำ และยังไม่เคยคิด
“ก็เบาๆ ค่ะ คอมเมนต์กันเบาๆ (หัวเราะ) แต่เรื่องฟ้องร้องไม่มีค่ะ ไม่เคยคิดเลย แต่ถามพี่ๆ นักแสดงเหมือนกัน ว่ามันได้เงินจริงเหรอคะ ใช้เวลานานไหม ก็ถามเฉยๆ แต่ไม่เคยทำค่ะ”

โดนด่าเพราะจริต เป็นคนตรงๆ
“อาจจะเป็นจริตหนูด้วย เราเป็นคนตรงๆ อาจจะบอกว่าหนูออกตัวแรงด้วย หลายๆ อย่างค่ะ แต่ตอนนี้ก็ปรับตัวเองลงมาเยอะมากแล้ว หนูแทบไม่ลงสตอรี่เลยด้วยซ้ำ คือเวลามีปัญหาถ้าเกิดเป็นปัญหาเล็กๆ มันก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่บางทีเรื่องเล็กๆ แต่ทำไมปัญหามันใหญ่จัง เราก็ซีเรียสนิดหนึ่ง เลยระวังตัวเอง”

แฟนใหม่จะเปย์เหมือนเดิม เปรยขำๆ อาจดาวน์รถให้ก็ได้ แถมไม่เอาคืน
“ก็เปย์นะ ก็แฟนเรา ก็เป็นคนคลั่งรัก มันไม่ได้ให้ถึงขั้นหมดตัว แบบไปกินข้าว เราก็เลี้ยงได้ แต่ถ้าเขาอยากได้รถ ก็ใหญ่ไป แต่หนูอาจจะดาวน์ให้ก็ได้ (หัวเราะ) หนูว่าการเป็นแฟนกันมันเป็นเรื่องปกติมาก ซึ่งหนูให้หนูก็ไม่ได้จะเอาคืน ให้ก็คือให้ ให้แล้วก็จบไป ส่วนคนมองว่าน่าจะเป็นผู้ชายเปย์ มันก็อยู่ที่เขา เราไม่สามารถพูดได้ ว่าพี่จ่ายอันนี้ให้หน่อย แต่ถ้าเกิดเขาอยากให้เรา เราก็รับ แต่เราอยากให้มากกว่า เราดูเหมือนเราอยากให้มากกว่า (หัวเราะ)”

ไม่หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ผู้ชายคนใหม่ต้องดีกว่าเดิม
“ไม่ค่ะ เรายังพัฒนาขึ้นเลย ผู้ชายคนใหม่ต้องดีกว่าเดิม ลิมิตในการให้ของใครก็มี ก็ไม่ใช่ว่ามีล้านจะให้ล้านขนาดนั้น ก็บอกอยู่ว่าให้ครึ่งหนึ่ง(หัวเราะ) เดี่ยวเราหาใหม่ ถามว่ากลัวเขาหลอกไหม ไม่หรอกๆ เหมือนคนที่เข้ามาเขาไม่ได้หวังอย่างนั้น”

มั่นใจดูคนเป็น
“เราก็ดูคนเป็นอยู่ เราดูคนออกอยู่ ก่อนที่จะมาเป็นแฟนมันก็ต้องคุยกันมาก่อน ตอนคุยกันเราก็ดูออกประมาณหนึ่งอยู่แล้ว ต้องเป็นแฟนถึงเปย์ ต้องมีสถานะแฟน ทำไมไม่มีใครถามหนูว่ามีใครมาเปย์หนูหรือยัง
(แล้วมีหรือยัง?) ยังค่ะ (หัวเราะ)”

ลุ้นไม่ขึ้น “ซิม คิวเท โอปป้า” แค่เพื่อน แรงเชียร์ไม่เคยได้ผล
“เป็นเพื่อนกัน แต่เขาสายเปย์อยู่แล้ว หนูไปกับเขาไม่ต้องพกกระเป๋าตังค์เลยนะ คิวเทจ่ายให้หมด ถามว่าลุ้นขึ้นไหม ไม่ค่ะ เป็นเพื่อนกันเลย ถามไปก็ไม่ได้อะไรหรอก เพราะว่าคนเชียร์มาก่อนหน้านี้นานแล้ว ก็ไม่เคยได้ผล หนูว่าให้เป็นความน่ารักแบบเพื่อนกันดีแล้ว เป็นเพื่อนกันค่ะ”

ไม่บอกโสด
“ไม่บอก (หัวเราะ) โสดค่ะ แต่ไม่อยากบอกเฉยๆ”

ที่มา :  https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000057346


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top