Saturday, 17 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ถูกขบวนการเฟคนิวส์ ตัดต่อภาพ ทำคลิปโฆษณาอาหารเสริมแก้เบาหวาน

(17 พ.ค. 68) นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ สูตินรีแพทย์ชื่อดัง ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเฟคนิวส์ หลังจากมีการนำภาพของท่านไปตัดต่อเป็นวิดีโอเพื่อโฆษณาขายอาหารเสริมแก้เบาหวาน สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน

ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการนำภาพของนายแพทย์ตุลย์ขณะพูดในงานหนึ่ง มาตัดต่อใส่ข้อความและเสียงที่กล่าวอ้างถึงสรรพคุณของอาหารเสริมแก้เบาหวาน สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของท่านและทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรักษาโรคเบาหวาน

นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ชี้แจงว่า ท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และขอให้ประชาชนระมัดระวังข่าวปลอมที่ใช้ชื่อและภาพของท่านเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการค้า ทั้งนี้ ท่านยังเน้นย้ำว่า การรักษาโรคเบาหวานควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ ไม่ใช่อาหารเสริมที่ไม่มีการรับรองทางการแพทย์

ประชาชนที่พบเห็นวิดีโอนี้ โปรดอย่าหลงเชื่อ หากเป็นเบาหวาน ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องเป็นมาตรฐานต่อไป

อินเดียเดือด!! ไอดอลจีนล้อแรง เพิ่งซื้อเครื่องบินก็โดนยิง ‘ปากีสถาน’ กระหน่ำแชร์!! จนกลายเป็นไวรัลทั่วโลก

(17 พ.ค. 68) สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถานไม่ได้จำกัดอยู่แค่สนามรบหรือเวทีการทูตอีกต่อไป แต่ลุกลามไปถึงโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อเน็ตไอดอลจีนผู้มีเลือดรักชาติเข้มข้นชื่อดัง '豪哥哥' (หาวเกอเกอ) จุดกระแสความฮาแบบดุดัน ด้วยการปล่อยคลิปเพลงล้อเลียนเหตุการณ์ที่อินเดียสูญเสียเครื่องบินรบผลิตโดยฝรั่งเศส 'Dassault Rafale' ซึ่งเพิ่งซื้อมาใหม่ ในมูลค่าสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 328,500 ล้านบาท) แต่กลับถูก เครื่องบินรบ J-10C ของฝั่งปากีสถานซึ่งซื้อจากจีน ยิงตก

หาวเกอเกอ และทีมงานสวมผ้าโพกหัวสีแดงสด ทาหน้าคล้ำ และพูดภาษาจีนสำเนียง 'อินเดีย' อย่างชัดเจน พร้อมร้องเพลงที่เขาแต่งขึ้นใหม่ชื่อว่า《刚买的飞机被打啦 (เพิ่งซื้อเครื่องบินก็โดนยิงแล้ว!) เนื้อเพลงตลกร้ายสุดสะเทือนใจอินเดีย เช่น '雷达都是坏哒,九十亿全部白花!' (เรดาร์ก็เสีย เก้าพันล้านเสียไปเปล่าๆปลี้ๆ)

เนื้อหาและการแสดงที่ขยี้จุดเจ็บของอินเดียโดยตรง ทำให้คลิปนี้กลายเป็นไวรัลในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักทั่วโลก โดยมียอดวิวและยอดแชร์ทะลุหลักร้อยล้านทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศปากีสถานที่คลิปดังกล่าวถูกนำไปแชร์ต่อในทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง TikTok, X (อดีต Twitter), Facebook และ YouTube

ชาวเน็ตแดนภารตะตอบโต้ทันควัน พากันเข้าไปถล่มคอมเมนต์คลิปดังกล่าว บางส่วนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงถึงขั้นเรียกร้องให้ TikTok

ลบคลิปนี้ทิ้ง ขณะที่อีกกลุ่มถึงกับกล่าวหาว่าเป็นการดูหมิ่นชาติและกองทัพอินเดียอย่างชัดเจนแต่ยิ่งมีเสียงคัดค้าน คลิปล้อเลียนนี้ก็ยิ่งดังมากขึ้น ค่ายสื่อหลายรายในต่างประเทศเริ่มรายงานข่าวเกี่ยวกับกระแสดังกล่าว พร้อมกับตั้งคำถามอย่างจริงจังถึง "ความพร้อมของกองทัพอินเดีย" ที่ใช้เงินมหาศาลซื้อเครื่องบินรบจากฝรั่งเศส แต่กลับถูกยิงตกตั้งแต่ยังไม่ทันได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า

อนึ่ง คลิปล้อเลียนของชาวเน็ตจีนชิ้นนี้ ถูกจัดทำขึ้นหลังจากเหตุการณ์กองทัพปากีสถาน ใช้เครื่องบินขับไล่ผลิตโดยจีน สอยเครื่องบินรบของอินเดียอย่างน้อยสองลำร่วง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ทางการอินเดียไม่ยอมเปิดเผยจำนวนเครื่องบินของฝ่ายตนที่ถูกทัพปากีสถานสอยร่วง รัฐมนตรีกลาโหมแห่งปากีสถาน Khawaja Muhammad Asif เปิดเผยว่า กองทัพปากีฯได้ใช้เครื่องบินขับไล่J-10 ผลิตโดยจีน ยิงเครื่องบินรบของกองทัพภารตะร่วงไป 5 ลำ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ Rafale ผลิตโดยฝรั่งเศส3 ลำที่อินเดียเพิ่งจัดซื้อมาประจำการในกองทัพ เครื่องบินรบของรัสเซีย 2 ลำ คือ MiG-29 และ Su-30 ทั้งนี้ เครื่องบินขับไล่J-10 และ Rafaleเป็นเครื่องขับไล่รุ่น 4.5 ถือเขี้ยวเล็บใหม่ของกองกำลังฝูงบินรบ

สื่อทางการจีน ซินหัว ยังได้รายงานข่าวด้วยท่าทีภาคภูมิใจในเทคโนโลยีการทหารจีน โดยเรียกขานว่า 'รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ของการทำสงคราม'

เหตุการณ์กองทัพปากีสถานยิงเครื่องบินรบของคู่อริตกในศึกปะทะที่จุดชนวนจากเหตุทัพฟ้าภารตะโจมตีเขตควบคุมของปากีฯในแคชเมียร์ ซึ่งทางอินเดียอ้างเหตุผลในการโจมตีฯนี้ว่าเพื่อโต้ตอบการจู่โจมกลุ่มนักท่องเที่ยวในเขตควบคุมของอินเดียในแคชเมียร์เมื่อวันที่ 22 เม.ย. แต่ทางปากีฯปฏิเสธว่าตนไม่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ จีนเป็นซับพลายเออร์ป้อนอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่สุดให้กับปากีสถาน

เพจ ‘คุยทุกเรื่องกับสนธิ’ โพสต์ข้อความกรณี ‘nailname’ รับพูดเท็จ ‘สนธิ’ ออกมาไล่ ‘ทักษิณ’ เพราะไม่ให้ยืมเงิน

(17 พ.ค. 68) เพจ ‘คุยทุกเรื่องกับสนธิ’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ยูทูบเบอร์ nailname ขอโทษ 'สนธิ' รับพูดเท็จ สนธิ ออกมา 'ไล่ทักษิณ' เพราะไม่ให้ยืมเงิน

"ตามที่ข้าพเจ้า เนม รติศา วิเชียรพิทยา หรือ nailname เผยแพร่คลิปวิดีโอ ชื่อหัวข้อ #สนธิ vs ทักษิณ ตำนานเพื่อนรักไม่ให้ยืมเงิน จุดเริ่มต้นสงครามเหลืองแดง เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 เผยแพร่ใน YouTube ช่อง NailName ซึ่งเนื้อหาในคลิปวิดีโอดังกล่าว ข้าพเจ้าขอยอมรับว่าไม่เป็นความจริง ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบแล้วไม่พบหลักฐานหรือข่าวใด ๆ ที่ยืนยันได้ว่า คุณสนธิไปยืมเงินคุณทักษิณ โดยปรากฏข่าวว่าคุณสนธิปฏิเสธว่าไม่ใช่เพื่อนรักกับคุณทักษิณ และมีบุคคลอื่น เคยขอโทษคุณสนธิเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังที่ปรากฏข้อมูลไว้ในคลิปวิดีโอดังกล่าว โดยเนื้อหาในคลิปวิดีโอ ทำให้คุณสนธิได้รับความเสียหาย ต่อชื่อเสียง ข้าพเจ้ารับทราบแล้วจึงขออภัยและขอโทษมาด้วยความจริงใจ ต่อคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และขอบคุณคุณสนธิยินดีที่จะไกล่เกลี่ยและไม่เอาความ มา ณ โอกาสนี้"

‘เอกนัฏ’ ลั่น!! ต้องปิดเกม ‘นิคมศูนย์เหรียญ’ ส่ง ‘สุดซอย’ บุกระยอง ชักปลั๊ก!! หยุดกิจการ

(17 พ.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ 'ทีมสุดซอย' พร้อมด้วย กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ลงพื้นที่ ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง หลังได้รับการประสานงานจาก นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ให้เข้าตรวจสอบกลุ่มโรงงานและโกดังต้องสงสัยที่อาจเข้าข่ายตั้งเป็นนิคมจีนศูนย์เหรียญ รวมทั้งยังมีประชาชนบริเวณใกล้เคียงร้องเรียนว่า ได้รับผลกระทบด้านมลภาวะจากกลุ่มโรงงานดังกล่าวด้วย 

“นิคมศูนย์เหรียญ เป็นวาระสำคัญ กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเร่งปราบปราม แก้ไขอย่างเร่งด่วน เป็นโมเดลธุรกิจ ที่เอารัดเอาเปรียบ ไม่ก่อให้เกิดมูลค่า ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำร้ายชีวิตคน ทำร้ายธุรกิจไทย ไร้ความรับผิดชอบ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจไทยอย่างร้ายแรง“ นายเอกนัฏ ระบุ 

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวเสริมถึงผลการลงพื้นที่ตรวจสอบกลุ่มโรงงานที่ ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ว่า ในพื้นที่มีอาคารลักษณะโกดังจำนวน 4 หลังเป็นของ บริษัท ซีเอสเค เอสเตรท จำกัด ประกอบกิจการให้เช่าพื้นที่โรงงานและโกดัง มี นายหว่าน ชิว เฉิน รับเป็นเจ้าของโครงการบริหารจัดการดูแลพื้นที่ทั้งหมด โดยมีข้อเสนอพิเศษให้ผู้เช่าว่า สามารถขอใบอนุญาตโรงงาน (รง.4) ให้ได้ด้วย โดยพบว่า 4 โกดังในพื้นที่มี 5 บริษัทที่มีกรรมการบริษัทเป็นชาวจีนทั้งหมดตั้งประกอบกิจการโรงงานอยู่ ตรวจสอบใบอนุญาตโรงงานพบข้อพิรุธว่า เกือบทุกบริษัทได้รับโอนใบอนุญาตจาก บริษัท ซีเอสเค เอสเตรท จำกัด และประเภทของใบอนุญาตก็จะมีลักษณะคล้ายหรือใกล้เคียงกัน แต่ในข้อเท็จจริงแต่ละโรงงานผลิตสินค้าที่แตกต่างกัน 

“กรณีของบริษัท ซีเอสเคฯ ในฐานะผู้ให้เช่าโกดังมีใบอนุญาตประเภทเดียวกันจำนวน 3-4 ใบ และยังสามารถโอนไปยังผู้เช่าโกดังในห้วงเวลาเดียวกัน ต้องไปไล่ดูว่า มีช่องโหว่ในกระบวนการขออนุญาตของ กรอ. หรือมีเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ หรือสนับสนุนผู้ประกอบการกระทำความผิดหรือไม่ด้วย“ นางสาวฐิติภัสร์ กล่าว 

นางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบโรงงานทั้งหมด ดังนี้ 

1.บริษัท ซานเซน อิเล็คทริคอล (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ปลั๊กไฟ ปลั๊กราง และสายไฟ โดยไม่แจ้งขออนุญาตเริ่มประกอบกิจการ เจ้าหน้าที่จึงสั่งหยุดประกอบกิจการทั้งหมด พร้อมดำเนินคดีฐานประกอบกิจการโดยไม่แจ้ง และฐานทำผลิตภัณฑ์ โดยไม่มีใบอนุญาต รวมถึงจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยไม่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) กับบริษัทและกรรมการ รวมทั้งยึดอายัดผลิตภัณฑ์ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท 

2.บริษัท ชุนเล่ย (ไทยแลนด์) จำกัด แจ้งประกอบกิจการโรงงานผลิต นำเข้า ส่งออก เชือกรัด สายรัด สลิง เชือกยกของหัวเข็มขัด ตัวล็อกและชิ้นส่วนอุปกรณ์ ซึ่งเป็นกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ที่จะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะดำเนินกิจการได้ แต่ตรวจพบว่า ประกอบกิจการผลิตสายรัดของ ซึ่งไม่ตรงกับประเภทหรือชนิดของโรงงานที่ได้รับอนุญาต จึงสั่งให้หยุดประกอบกิจการ พร้อมดำเนินคดีกับบริษัทและกรรมการ ฐานประกอบกิจการไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาต 

3.บริษัท จินต๋า พรีซิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่พบว่ามีการแบ่งพื้นที่ให้ บริษัท แฮนด์ดีแจ็ค อีควิปเมนท์ จำกัด ประกอบกิจการผลิตแม่แรงไฮดรอลิก แต่ตั้งประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่ด้วย จึงได้สั่งหยุดประกอบกิจการทั้งหมด พร้อมผูกมัดประทับตรายึดอายัดเครื่องจักร และควบคุมตัว นายยู่ เจียงหัว อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ที่รับเป็นผู้จัดการผู้ควบคุมงานของบริษัทไปดำเนินคดีข้อหาตั้งประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต 

"การปราบปรามนิคมจีนศูนย์เหรียญ เป็นวาระเร่งด่วน และนโยบายสำคัญของ กระทรวงอุตสาหกรรม จึงต้องเร่งจัดการให้หมดไปโดยเร็ว และจะดำเนินคดีลงโทษกับผู้กระทำความผิดอย่างถึงที่สุด ซึ่งทีมสุดซอยจะรวบรวมข้อมูลเป็นรายสรุปนำเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ไปถึงผู้บริหารกระทรวงฯ ถึงพฤติกรรม และรูปแบบดำเนินกิจการของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เพื่อนำไปสู่การปรับระเบียบ หลักเกณฑ์การพิจารณาออกใบอนุญาตต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบันและสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป“ นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย

‘เทพไท’ เตือนรัฐบาล หวั่น!! ปชช.ซ้ำรอย ‘เจ้าคุณแย้ม’ หลัง 'เพื่อไทย’ เร่ง!! ผลักดันร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิง

(17 พ.ค. 68) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “สะกิดรัฐบาล คิดเปิดกาสิโน ดูเจ้าคุณแย้มเป็นตัวอย่าง” มีเนื้อหาระบุว่า …

มีข่าวจากพรรคเพื่อไทย โดยนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค แถลงว่า จะเร่งดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้เข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 นี้เลย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพรรคเพื่อไทย ที่จะผลักดันบ่อนกาสิโนให้สำเร็จจนได้ โดยไม่สนใจกระแสคัดค้านจากสังคมใด ๆ ทั้งสิ้น

ในขณะเดียวกัน ที่กระทรวงการคลัง นาย Chris Gordon ประธานบริษัท Wynn Development ของ Wynn Resorts หนึ่งในผู้นำธุรกิจรีสอร์ตครบวงจรระดับโลก ของประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเข้าหารือกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนในโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย เป็นการดำเนินการแบบคู่ขนานกันไป ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับรัฐบาล

ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยก็เร่งผลักดันกฎหมายให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด ในฝ่ายรัฐบาลก็เร่งเจรจากับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่า โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรหรือไม่ หรือมีการตกลงอะไรไว้ล่วงหน้ากับกลุ่มทุนต่าง ๆ ตามคำเล่าลือหรือไม่

อยากจะเตือนให้รัฐบาลกลับไปดูบทเรียน หรืออุทาหรณ์ ที่เกิดขึ้นกับพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ถูกจับข้อหานำเงิน 300 ล้านบาทไปเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นถึงระดับพระราชาคณะ บวชเรียนตั้งแต่อายุ 12 ปี ยึดถือพระธรรมวินัย 227 ข้อ ยังหลงเป็นทาสการพนันได้ นับประสาอะไรกับชาวบ้านคนธรรมดา ที่ถือศีล5ยังไม่ครบทุกข้อ จะไม่ตกเป็นทาสการพนันบ้าง

ถ้าหากรัฐบาลผลักดันให้เอนเตอร์เทนคอมเพล็กซ์ ที่มีบ่อนกาสิโนอยู่ด้วยจนประสบความสำเร็จ ยังนึกไม่ออกว่า สภาพสังคมไทยจะเป็นเช่นไร คนไทยจะติดการพนันกันงอมแงมแค่ไหน และเป็นปัญหาทางสังคมที่เกินกว่าจะเยียวยาได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top