Sunday, 6 July 2025
ค้นหา พบ 49232 ที่เกี่ยวข้อง

เหตุการณ์รัฐประหารครั้งล่าสุดของพม่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อกองทัพพม่ายกพลเข้ากรุงเนปิดอว์ และเข้าควบคุมตัวผู้นำคณะรัฐบาลพลเรือน รวมถึง นาง อองซาน ซูจี

ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และ นาย วิน มินท์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน กลายเป็นจุดสนใจของชาวโลก ว่าเกิดอะไรขึ้นในดินแดนฤาษีแห่งอาเซียนแห่งนี้กันแน่

โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น บรรดาชาติตะวันตกหลายชาติ ก็เริ่มออกมาประณามการตัดสินใจของกองทัพพม่า และกดดันไปทางองค์การสหประชาชาติ (UN) ให้ออกมาเคลื่อนไหวแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์ในพม่า

ล่าสุด สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เปิดประชุมด่วน เมื่อวันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ เพื่อประเมินสถานการณ์ในพม่า และหามติร่วมในการแถลงจุดยืนในนามองค์กร

ที่ประชุมประกอบด้วยตัวแทนสมาชิก 15 ชาติ ที่เป็นสมาชิกถาวร 5 ชาติ คือ สหรัฐ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, จีน และ รัสเซีย ได้หารือที่จะร่วมออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์รัฐประหารในพม่า และอาจนำไปสู่มาตรการกดดันจากองค์การสหประชาชาติในขั้นตอนต่อไป

แต่ประเทศจีน และ รัสเซีย ได้ใช้สิทธิ์สมาชิกภาพถาวร คัดค้านคำแถลงการณ์ประณามของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประเด็นจึงถูกตีตกไป

โดยทางจีนได้ให้เหตุผลที่ไม่สนับสนุนให้สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หลังออกมาร่วมแถลงการณ์ประณาม และคัดค้านกิจกรรมใดๆ ที่เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของพม่าว่า จีนมิได้หมายถึงรัฐบาลปักกิ่งสนับสนุนการรัฐประหารในพม่า แต่เห็นว่าการที่องค์กรนานาชาติเข้าไปกดดัน หรือเข้าแทรกแซงด้วยมาตรการคว่ำบาตร อาจทำให้สถานการณ์ภายในพม่าเลวร้ายลงกว่าเดิม

นอกจากนี้ ยังตอบโต้ข้อครหาที่ว่ารัฐบาลปักกิ่ง อาจมีผลประโยชน์แอบแฝงร่วมกับกองทัพพม่าว่า ทางรัฐบาลจีนมีความสัมพันธ์กับรัฐบาลพม่า ภายใต้การนำของพรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี เป็นอย่างดี และเข้าไปร่วมลงทุนในพม่าจากการสนับสนุนของรัฐบาลพลเรือนของพม่ามาโดยตลอด

แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่า จีนก็ต้องเข้าไปเจรจาข้อตกลงกันใหม่ ซึ่งจะดำเนินโครงการร่วมกันต่อหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพูดคุยในอนาคต แต่ทางจีนจะไม่เข้าไปวุ่นวายเรื่องภายในรัฐบาลของพม่า เช่นเดียวกันกับรัสเซีย ที่มีจุดยืนไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของพม่า เหมือนเมื่อกรณีการกวาดล้างชน กลุ่มน้อยชาวโรฮิงญานับล้านที่เคยเกิดขึ้นในปี 2017

ทว่า กลุ่มประเทศผู้นำเศรษฐกิจ G7 อันประกอบด้วย อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี และญี่ปุ่นนั้น มีความเห็นที่แตกต่างออกไป และได้ออกแถลงการณ์ให้กองทัพพม่าคืนอำนาจให้กับรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งโดยทันที พร้อมกดดันให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงปล่อยตัวคณะรัฐมนตรีที่ถูกจับกุมตัว เพื่อเป็นการเคารพต่อหลักกฏหมาย และสิทธิมนุษยชน

ฉะนั้นในเมื่อทางองค์การสหประชาชาติได้ประกาศว่าเหตุการณ์ทางการเมืองในพม่า เป็นการรัฐประหารอย่างเป็นทางการ ก็เท่ากับว่า สหรัฐอเมริกาจะตัดความช่วยเหลือทุกทางไม่ว่าจะผ่านทางหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนของประเทศพม่านับจากนี้ไป รวมถึงทางสหภาพยุโรป อังกฤษ และออสเตรเลีย ก็ได้ออกแถลงการณ์ประณามแล้วเช่นกันด้วย


อ้างอิง

https://www.businessinsider.com/china-russia-block-un-security-council-condemn-myanmar-coup-2021-2

https://www.france24.com/en/americas/20210203-china-russia-block-un-security-council-condemnation-of-myanmar-coup

https://www.bbc.com/news/world-asia-55913947

ส.ส.กทม. ก้าวไกล สะท้อนปัญหาคนกรุง ทั้งน้ำประปา - PM 2.5 ซัดรัฐละเลย ไม่สนใจประชาชน ย้ำ ‘ประยุทธ์’ ต้องเพิ่มมาตรการ แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีเเลกกับภาษีที่จ่าย

น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 3 บางคอเเหลม พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีปัญหาเรื่องน้ำประปาเค็ม และประชาชนชาวกรุงเทพมหานครและจังหวัดข้างเคียงต้องทนรับสภาพดื่มน้ำเค็มๆ เป็นปีที่สอง ซึ่งรัฐบาลไม่ใส่ใจที่จะแก้ไขปัญหาพื้นฐานเมื่อคนไทยต้องจ่ายเงินเพียงเพื่อต้องการอากาศที่ดีและน้ำดื่มที่สะอาด

สำหรับ เเนวทางที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แนะนำเมื่อปีก่อนคือ ให้นำน้ำไปต้ม ซึ่งการต้มนอกจากจะลดความเค็มไม่ได้แล้ว ยังจะเพิ่มความเข้มข้นของเกลือในน้ำดื่มอีกด้วย อีกทั้งปีนี้ เกิดเป็นปีที่สอง ซึ่งก็ไม่มีการจัดสรรงบประมาณ หรือเตรียมการใด ๆ ทำให้ประชาชนผู้เสียภาษี รับกรรมกันเองตามยถากรรม

ซึ่งถ้าน้ำประปาดื่มไม่ได้ ก็ต้องซื้อดื่ม คนเราเฉลี่ยต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ถ้าซื้อน้ำขวดกิน ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอย่างน้อยๆ ก็ต้องมี 20 - 30 บาท ต่อคน ถ้าในครอบครัวมีสมาชิก 3 คน ต่อเดือน ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายครัวเรือนเพิ่มขึ้น เดือนละ 600 - 900 บาท คิดเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนไม่ใช่น้อยๆ สำหรับคนตัวเล็กตัวน้อย หาเช้ากินค่ำ รับจ้างทั่วไป และในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำย่ำแย่ ประชาชนตกงาน แรงงานต้องหยุดงาน แม้แต่เรื่องพื้นฐานอย่างอาหาร ยังคิดหนักว่าจะเอาเงินจากไหนมาซื้อข้าว ไม่ต้องพูดถึงทางเลือกอื่นๆในชีวิต

"สิ่งที่เจ็บปวดและสร้างความผิดหวังซ้ำซาก คือ รัฐบาลนี้ไม่เคยใส่ใจความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเลยมีแต่ผลักภาระให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตตามยถากรรม กลายเป็นว่า การมีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่เป็นเรื่องปกติ หรือ new normal ของการอยู่อาศัยในกรุงเทพฯเมืองฟ้าอมรที่ไม่มีจริง"

การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ หากท่านพอจะมีทางเลือก ท่านก็ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นให้กับตัวเอง ลูกๆ และคนในครอบครัว ทั้งค่าเครื่องกรองน้ำ หน้ากากอนามัย บางบ้านที่ลูกมีปัญหาการแพ้ฝุ่น PM 2.5 หนักๆ ก็ต้องลงทุนซื้อเครื่องกรองอากาศ และในฐานะของคนเป็นแม่ ที่มีลูกเล็ก ปัจจัยพื้นฐานที่ดิฉันต้องการคือ ต้องการให้ลูกเติบโตมาในเมืองที่มีความปลอดภัย มีปัจจัยต่อการดำรงอยู่ขั้นต่ำที่เพียงพอ

ดิฉัน ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะแม่ลูก ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ในฐานะคนกรุงเทพฯขอเรียกร้องในฐานะนายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินการเยียวยาให้แก่พี่น้องประชาชน และดำเนินการเตรียมการเตรียมงบประมาณในการรับมือกับปัญหาน้ำประปาเค็ม PM 2.5 ได้แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปีถัดไปนับจากนี้ ดิฉันจะไม่ต้องมาเรียกร้องในปัญหาเดิม ๆ ในแบบนี้อีก" วรรณวรี กล่าวทิ้งท้าย

เหรียญอีกด้านที่เผยเบื้องลึกอีกมุมจากการรัฐประหารในพม่า โดย ‘นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว’ นักเขียนสารคดีชื่อดังและนักเรียกร้องสิทธิมนุษยชนหญิง บุตรสาวอาจารย์ล้อม เพ็งแก้ว ปราชญ์ด้านภาษาไทย

…เพื่อนกลุ่มชาติพันธุ์ติดต่อส่งข่าวจาก Source: IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ | 1 Feb 2021 7:02 ว่า ‘อองซาน ซูจี’ ถูกทหารเมียนมาควบคุมตัว พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงพรรค NLD โดยการควบคุมตัวนางซูจีเกิดขึ้น หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัฐบาลพลเรือนและกองทัพเมียนมาได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดการรัฐประหารหลังจากกองทัพเมียนมาอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

นายเมียว ยุนต์ โฆษกพรรค NLD เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า นางซูจี, นายอู วินมิ่นท์ ประธานาธิบดีเมียนมา และผู้นำคนอื่นๆ ของเมียนมา ได้ถูกควบคุมตัวในช่วงเช้านี้ “ผมต้องการจะบอกกับประชาชนของเราว่าอย่าตอบโต้อย่างผลีผลาม และผมต้องการให้พวกเขาทำตามกฏหมาย” นายเมียวกล่าวและคาดว่าตัวเขาก็คงจะถูกควบคุมตัวด้วยเช่นกัน

ดิฉันจึงเริ่มประสานงานตรวจเช็คจากเพื่อน ๆ แหล่งข่าวกลุ่มชาติพันธุ์หลายคนที่ทำงานอยู่ชายแดนไทย และในเมียนมา โดยในยามสายได้มีข่าวจากกลุ่มชาติพันธุ์ชัดเจนแล้วว่า นายพล มิน อ่อง หล่าย เป็นผู้นำรัฐประหาร ตอนนี้ทหารพม่าได้เข้าจับกุม นักการเมืองท้องถิ่นที่รัฐบาลซูจีของพรรค NLD แต่งตั้งให้ทำงานอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ดังที่ท่าขี้เหล็กผู้นำท้องถิ่นสังกัดพรรค NLD ของซูจีโดนรวบแล้ว และตามเมืองต่างๆ ทหารได้เข้าล็อคตัวผู้นำที่รัฐบาลซูจีแต่งตั้งไว้แล้ว แต่ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ และคนของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ทำงานทางการเมืองโดยตรง ยังไม่โดนอะไร

สำหรับในประเทศเมียนมา ดิฉันได้ประสานงานกับเพื่อนสัญชาติพม่าที่อยู่ในเมียนมา เขาบอกชีวิตชาวบ้านและทุกอย่างยังสงบ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เพิ่งมีประกาศเป็นทางการในทีวีพม่าว่า มีการแต่งตั้งอูมินส่วย รองประธานาธิบดีพม่าคนที่ 1 ขึ้นรักษาการประธานาธิบดีชั่วคราว ทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศ 1 ปี ก่อนจะมีการเลือกตั้งใหม่ ให้โปร่งใสกว่านี้

ข้อมูลที่เป็นไฮไลท์จาก นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว ได้เผยว่า...

นี่เป็นข้อมูลที่ดิฉันรวบรวมจากเพื่อนกลุ่มชาติพันธุ์ และติดต่อทางสื่อออนไลน์คุยกับเพื่อนในเมียนมา โดยได้รับทราบมาตลอดหลายปี และรวบรวมเหตุการณ์รัฐประหารวันนี้ มีดังนี้

1.) การรัฐประหารครั้งนี้ ทั้งประชาชนพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมาก เป็นส่วนใหญ่ก็ว่าได้ ‘เห็นด้วยกับทหาร’ และประชาชนไม่เอาด้วยกับซูจีและนักการเมืองพรรค NLD

2.) สำหรับทางกลุ่มชาติพันธุ์แล้ว แม้หลายปีมานี้ ในช่วงรัฐบาลซูจี ทางซูจีจะช่วยชนกลุ่มน้อยหลายอย่าง แต่ก็เหยียบย่ำบีบคั้น ชนกลุ่มน้อยมาก โดยบังคับให้ผู้นำทุกกลุ่มชาติพันธุ์ต้องพูดภาษาพม่าในรัฐสภา, กระทั่งนักการเมืองพรรค NLD เองจะเสนอแนวคิดใดในสภา ก็ต้องนำเสนอประเด็นที่จะพูดในรัฐสภากับซูจีก่อน จึงจะได้รับโอกาสให้เสนอความเห็นในสภาได้

3.) นักการเมืองเมียนมาจำนวนมาก และกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มเจอเรื่องสุดแสบจากซูจีมาตลอด 5 ปี จนเข็ดขี้อ่อนขี้แก่ จนกระทั่งมีนักการเมืองรุ่นใหม่ทั้งของเมียนมาและชนกลุ่มน้อย ไม่เอากับ NLD และเข้ารวมตัวกันกับทหารรุ่นใหม่ เข้าสู่สนามเลือกตั้งในช่วงการเลือกตั้งปลายปีที่ผ่านมา

4.) เพื่อนกลุ่มชาติพันธุ์บอกกำลังตรวจเช็ค จะเป็นการรัฐประหารยาวหรือทำแค่ควบคุมระยะสั้น เพราะตอนนี้เป็นช่วงเลือกตั้งเสร็จใหม่ๆ เหลือเวลาให้ต้องเปิดรัฐสภาให้ได้ภายใน 10 วัน ถ้าเปิดสภาไม่ได้ ผลเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ ทหารต้องการให้ผลเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะโกงมาก และทางซูจีจะต้องเปลี่ยนรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่แน่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเอื้อกับการใช้อำนาจของทหารมาก ดังนั้นทหารต้องยึดอำนาจ ตรงนี้กลุ่มชาติพันธุ์ก็ต้องการที่สุดในการแก้ รธน. แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มชาติพันธุ์ก็ถูกบีบบังคับอย่างที่สุดจากซูจีด้วย และกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมากได้เมินเฉยไม่เอากับรัฐบาลซูจีไปมากแล้วด้วย

5.) ดิฉันได้สัมภาษณ์ออนไลน์กับเพื่อนสัญชาติเมียนมา เขาอยู่กลางเมืองใหญ่ในเมียนมา เขาให้รายละเอียดว่า ขณะนี้ทั้งประเทศไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ มีแต่ WIFI ธนาคารก็หยุดชั่วคราว เมื่อเช้านักการเมืองถูกคุมตัวที่เนปิดอว์ 31 คน ทั้งหมดเป็นคน NLD ของซูจี และพรรคอื่นๆ ซูจีก็โดนด้วย นักการเมืองมาชุมนุมกันที่เนปีดอว์ตอนเช้า เพราะวันนี้เป็นวันเริ่มประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตอนนี้ในประเทศเมียนมายังไม่มีประกาศอะไร ทีวีช่องต่างๆ ในเมียนมาไม่เปิด มีแต่ทีวีช่องทหารอันเดียว ซึ่งที่ออกอากาศให้ประชาชนดูกันอยู่ก็ไม่มีข่าวปัจจุบัน ไม่มีข่าวใหม่ มีแต่ข่าวเมื่อ 2 - 3 วันก่อน

ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเมียนมาและผู้ใหญ่ในกลุ่มชาติพันธุ์ที่พบปะติดต่อกัน มีความเห็นว่า ‘ดีที่มีการรัฐประหาร’ เพราะNLDของซูจี โกงเลือกตั้งมาก คนตายแล้วยังมีชื่อไปเลือกตั้ง บางคนชื่อมีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ถึง 3-4 เมือง และมีการไปเลือกตั้งทุกเมือง, คนไม่มีบัตรประชาชน คนอายุไม่ถึงเกณฑ์ ยังเข้าไปเลือกตั้งได้ หลายเมืองมากที่เสียงคนลงคะแนนเกินจำนวนคนมีสิทธิ์จริง การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในพม่า มีการโกงอย่างโจ่งแจ้ง เละเทะมาก

กระทั่งทหารเอง นายพล มิน อ่อง หล่าย ออกมาบอกหลายครั้ง ให้ตรวจสอบการโกงเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมก่อนเปิดสภา เพราะไม่เป็นประชาธิปไตยจริง ไม่สะอาด ไม่ถูกต้อง มิน อ่อง หล่าย ออกมาบอกหลายครั้ง ซูจีและNLD ก็ไม่ฟัง จะเปิดสภาให้ได้

จนเมื่อ 3 - 4 วันก่อน ทหารกับNLD ประชุมกันที่เนปีดอว์ ทหารขอให้มีการตรวจสอบการเลือกตั้งก่อน ให้ประชาชนได้เห็นความยุติธรรม ความสะอาดโปร่งใสก่อนค่อยเปิดสภา แต่ซูจีและNLD ไม่ยอม ยืนยันจะเปิดสภาให้ได้

6.) การรัฐประหารครั้งนี้ คนเมียนมาและผู้นำทางความคิดของกลุ่มชาติพันธุ์เห็นด้วย เพื่อนดิฉันที่เคยถูกทหารพม่าจับติดคุก และต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด ยืนยันว่า ดีที่มีการรัฐประหาร เขาเห็นด้วยกับการรัฐประหาร เพราะทหารไม่ได้มายึดอำนาจเหมือนครั้งก่อน แต่ทหารมาเป็นนายกสภา อูมินส่วย มารักษาการประธานาธิบดี ภายใน 1 ปีจะมีการเลือกตั้งใหม่

ที่คนจำนวนมาก ผู้นำทางความคิดของกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมากเห็นด้วยกับการยึดอำนาจของทหารครั้งนี้ เพราะตลอดหลายปีในการปกครองของซูจีและรัฐบาลพรรคNLD ซูจีได้ทำในหลายสิ่งที่ประชาชนต่อต้าน ไม่เห็นด้วย เป็นการกระทำที่แย่มากๆ ตัวอย่างเช่น ซูจีไปเอาคนยุโรป ฝรั่งต่างประเทศมาเป็นที่ปรึกษาประเทศจำนวนถึงประมาณ 90 กว่าคน แต่ละคนต้องจ่ายเงินเดือนเขาอย่างน้อยเดือนละ 2000 USดอลลาร์ (60,000บาท) ทั้งที่ประเทศเมียนมาร์ยากจนมาก ประชาชนยากจนมาก ไม่มีเงิน

แต่ซูจีเอางบประมาณชาติมาผลาญ ตลอด 5 ปีของรัฐบาลซูจีเสียเงินไปมาก ทั้งที่คนพม่าเองที่เก่งๆ มีความรู้ในเมืองก็มีมาก ซูจีไม่เอาไปปรึกษา เธอเห็นแก่ชาติตะวันตก ประเทศเมียนมาของเราจะเอาแบบตะวันตกไม่ได้ เราไม่เหมือนกัน ชนกลุ่มน้อยก็มีมาก คนไม่มีการศึกษาก็มาก ตลอด 5 ปีของการปกครองของซูจี บ้านเมืองไม่ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเลย งบประมาณที่ซูจีเอาไปให้ที่ปรึกษาฝรั่ง เอามาช่วยการศึกษาดีกว่า แต่ซูจีและNLD ไม่ทำ

ที่สำคัญซูจีไม่เห็นหัวชนกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่อยากร่วมมือกับกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่อยากเอาคนของกลุ่มชาติพันธุ์เข้าร่วมทำงานการเมืองในสภา ซูจีไม่เอาอย่างชัดเจนมาก ดังนั้นรัฐประหารครั้งนี้น่าจะดีกับประเทศของเรา มากกว่าปล่อยให้ซูจีเปิดสภาแล้วตั้งรัฐบาลปกครองประเทศต่อไป

ทั้งหมดนี้ดิฉันรวบรวมจากการสัมภาษณ์เพื่อนสัญชาติพม่า และคนของกลุ่มชาติพันธุ์ในช่วงครึ่งวันที่ผ่านมา


ที่มา:

https://www.facebook.com/1190754654403357/posts/2485003138311829/

https://www.thaipost.net/main/detail/91873

กรณ์ ยกทัพพรรคกล้า นำเสนอ สราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่พบปะประชาชนตลาดชะอวด พร้อมให้คำแนะนำการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า พรรคกล้ามีความพร้อมเต็มที่ในศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ และหวังว่าประชาชนจะให้โอกาสคนรุ่นใหม่ ให้โอกาส นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ได้เป็นปากเป็นเสียง เป็นตัวแทนประชาชน เข้าไปทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรของพรรคกล้า เชื่อว่านายสราวุฒิจะสามารถใช้ ประสบการณ์ทั้งหมด พัฒนาความเป็นอยู่ให้คนในพื้นที่ เปลี่ยนแปลงนครศรีธรรมราชไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้

"การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเลือกตั้งซ่อมธรรมดา แต่ส่งผลไปถึงการเมืองของนครศรีธรรมราช นึกภาพว่า ถ้าวันที่ 7 มีนาคมนี้ พรรคกล้าได้ ส.ส.คนแรก เป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 การเมืองในนครศรีธรรมราชเปลี่ยนไปแน่นอน ไม่ได้มีผลแค่กับชีวิตนายสราวุฒิ หรืออนาคตของพรรคกล้าเท่านั้น แต่มั่นใจว่าจะมีผลต่ออนาคตของชาวนครศรีธรรมราชทุกคน เพราะการเมืองนครศรีธรรมราชเป็นแบบเดิมมายาวนาน" หัวหน้าพรรคกล้ากล่าว

ส่วนเรื่องคู่แข่งในพื้นที่ทางผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเสรีรวมไทย นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคกล้ามีความพร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงแข่ง ไม่ว่าคู่แข่งในพื้นที่ จะเป็นอย่างไร หรือมาจากพรรคใด และย้ำว่า เสียงของพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช เขต 3 ไม่ใช่มรดกของคนตระกูลใดตระกูลหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง

‘ชื่อหวานๆ ต้องโครงการลุงตู่’ รวมรายชื่อโครงการเยียวยา ช่วยเหลือประชาชน ของรัฐบาลลุงตู่นับตั้งแต่ปี 2560-2564 ตีความง่าย ประชาชนเข้าใจได้เลย

ถามว่า อะไรเอ่ย ‘ชื่อเยอะ โครงการแยะ’ อันนี้ก็ต้องยกให้ ‘โครงการของรัฐบาลลุงตู่’ นิเอง ลองย้อนๆ เช็กดู ตั้งแต่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัย 7 ปี ทำเป็นเล่นไป มีโครงการช่วยเหลือประชาชนออกมามากมาย ไม่ต้องนับย้อนไปไกลมากถึง 7 ปีหรอก เอาแค่ 3-4 ปีให้หลังมานี้ ลุงตู่แอนด์เดอะแก๊งค์ ผุดสารพัดโครงการ ไม่ว่าจะเป็นแนวแก้ปัญหา เยียวยา หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทยอยมาเป็นชู๊ดดๆ

ช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา ก็เพิ่งปล่อย ‘ม.33 เรารักกัน’ ลำพังแค่ได้ยินชื่อ ก็แอบหวานเห็นรอยยิ้มลุงตู่นำมากันเลยทีเดียว เราจึงลองสืบย้อนกลับไปดูบรรดารายชื่อโครงการมากมาย ก็พบว่า มีจุดเด่นคือ อ่านง่าย เข้าใจได้เลย และเป็นประโยคหวานๆซอฟท์ๆ อาทิ โครงการกำลังใจ, เราไปเที่ยวด้วยกัน (แนะนำว่า เวลาอ่านแต่ละชื่อ ขอให้นึกใบหน้าลุงตู่แย้มยิ้มไปด้วยนะจ๊ะ)

ข้อดีอีกประการที่หากสังเกตจะทำให้รู้ว่า บรรดาโครงการเหล่านี้ มีวิธีให้ผู้คนทุกระดับต้องเอาตัวเข้าไปสู่ ‘โลกดิจิตัล’ หรือพูดง่ายๆ คือ ต้องหัดลงทะเบียน เบิกจ่าย สั่งจอง ผ่านโลกออนไลน์ทั้งสิ้น แรก ๆ มีเสียงคัดค้านว่ายากต่อการเข้าถึง แต่ถึงวันนี้ คุณลุง คุณป้า คุณย่า คุณยาย มีสารพัดแอปฯ ของรัฐกันเรียบร้อย มันอาจจะยุ่งวุ่นวายกันบ้างในช่วงแรก แต่นี่คือกุศโลบายในการเดินหน้าเข้าสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ไปโดยไม่รู้ตัว

เล่ามาถึงตรงนี้ The States Times เลยไปรวบรวมบรรดาชื่อโครงการอ่านง่าย เข้าใจได้เลย ของรัฐบาลลุงตู่ มาให้ได้ดูกัน งานนี้ขออนุญาตย้อนถามคุณสักหน่อยว่า ชอบชื่อไหนกันบ้าง วานบอก...


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top