Sunday, 6 July 2025
ค้นหา พบ 49241 ที่เกี่ยวข้อง

‘อัศวิน’ เผย กทม. งดจัดงานตรุษจีนเยาวราช ป้องกัน ‘โควิด-19’

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในช่วง วันตรุษจีน ของทุกปี กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ จะร่วมกับคณะกรรมการจัดงานตรุษจีนเยาวราช ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ จัดงานเทศกาลตรุษจีนเป็นประจำ

แต่เนื่องจากปีนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 ในกลุ่มคนจำนวนมาก

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (COVID-19) ที่อาจเกิดขึ้นได้จากงานตรุษจีนยาวราช จึงยกเลิกการจัดงานในปีนี้


ที่มา: https://www.infoquest.co.th/2021/63902

ทัพบกแจง!! เยียวยาเหยื่อเหตุกราดยิงโคราช แล้ว 88 ราย รวมถอดยศ-คาดโทษ ผู้ก่อเหตุและมีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมรื้อระบบสวัสดิการทัพบกใหม่ รวมถึงปิดสนามมวย-รื้อสนามม้าตามความเหมาะสม

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก แถลงสรุปครบ1 ปี เหตุการณ์กราดยิงโคราช เมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 หลังจากที่กองทัพบกมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และฟื้นฟูเยียวยา รวมถึงพิจารณาลงโทษผู้เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปจากฝ่ายเสนาธิการ โดยจะเยียวยาใน 2 ลักษณะ ให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 31 ราย และบาดเจ็บ 57 คน รวมทั้งสิ้น 88 ราย โดยบรรจุราชการทหาร 31 คน ในสังกัดกองทัพบก 26 คน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4 คน และพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟ 1 คน

ในส่วนผู้ที่ไม่ได้รับการเยียวยามีทั้งหมด มี 4 คน คือ ผู้ก่อเหตุ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุ, พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์, นางอนงค์ มิตรจันทร์ และ นายพิทยา แก้วพรหม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนปลดประจำการถอดยศ ทั้ง จ.ส.อ.จักรพันธ์ และ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว ก็จะไม่ได้รับสิทธิตามระเบียบบำเหน็จตกทอด

ขณะที่ผู้บังคับบัญชาประจำหน่วยกองทัพภาค โดนคาดโทษ รวมไปถึงผู้บัญชาการช่วยรบที่ 2 ถูกปรับเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำกองทัพบก (ยศไม่ขึ้น) นอกจากนี้ กองทัพบกยังปรับปรุงระเบียบการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ และปรับปรุงระบบสวัสดิการกองทัพให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งสวัสดิการภายในและนอกเหนือ

นอกจากนี้ พล.ท.สันติพงษ์ ยังชี้แจงถึงแผนสวัสดิการทั้งหมดของกองทัพ โดยพื้นที่สนามกอล์ฟทั้งหมด 36 แห่ง นำไปจัดทำเป็นพื้นที่สวัสดิการเชิงธุรกิจ 1 แห่ง คือ สวนสนประดิพัทธ์ และอีก 2 แห่งที่ รามอินทรา จังหวัดกรุงเทพมหานครฯ และ ลานนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเอกสาร โดยจะคงเหลือพื้นที่ 33 แห่งเป็นสวัสดิการภายใน

ส่วนสนามมวย 3 แห่ง ปิดถาวรไปแล้ว 2 แห่ง คือ ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี และ ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ขณะที่สนามมวยลุมพินี ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจหรือสนามกีฬาที่อาจไม่มีการจัดการแข่งขันแล้ว

ด้านสนามม้า จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันไม่ได้เปิด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และขณะนี้ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งตั้งคณะกรรมการศึกษาสำหรับการใช้พื้นที่ว่าจะรื้อสนามม้ามาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบสถานที่ท่องเที่ยว หรือสวนสาธารณะเพื่อออกกำลังกาย

ส่วนสถานที่พักฟื้นพักผ่อน 5 แห่ง จะเข้าสู่สวัสดิการเชิงธุรกิจ 2 แห่ง คือ ไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงราย และสวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนลานนา มทบ.33 จังหวัดเชียงใหม่ กำลังดำเนินการ ขณะที่อีก 2 แห่งคือ บางปู จังหวัดสมุทรปราการ และหาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี ยังคงเป็นสวัสดิการภายใน

5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404 กำเนิด ‘ถนนเจริญกรุง’ ถนนสายหลักที่สร้างให้ชีวิตคนไทยเปลี่ยนแปลงสู่วิถีอันทันสมัย

ถ้าเป็นสายฮิปสเตอร์ ชื่อ ‘ถนนเจริญกรุง’ ในวันนี้ คือถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ บูติกโฮเทลเก๋ๆ ที่ผุดขึ้นมาเรียงรายสองฝั่งถนน แต่หากสืบย้อนกลับไป ถนนที่มีความยาวกว่า 8,575 เมตร สายนี้ ได้ชื่อว่า เป็นถนนสายหลักแห่งแรกของประเทศไทย

ถนนเจริญกรุง ถูกดำริให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404 โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นด้วยเหตุที่มีชาวต่างชาติ ได้เข้ามาทำธุรกิจห้างร้าน รวมถึงที่ทำการกงสุลต่างๆ ก็ถูกก่อสร้างขึ้นในย่านนี้ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ได้ขอให้สร้างถนนสายสำหรับขี่ม้า หรือนั่งรถม้า พระองค์จึงทรงดำริให้มีการสร้างถนนที่มีมาตรฐานขึ้น แล้วเสร็จเมื่อราวปี พ.ศ. 2407

แรกเริ่มเดิมที ผู้คนเรียกถนนสายนี้ว่า ถนนใหม่ ส่วนฝรั่งเรียกว่า นิวโรด (New Road) และชาวจีนเรียกว่า ซินพะโล้ว แปลว่า ถนนตัดใหม่ เช่นกัน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามถนนว่า ‘ถนนเจริญกรุง’ ซึ่งมีความหมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง

ถนนเจริญกรุงในยุคก่อน ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่ใหญ่และยาวที่สุด โดยแบ่งเป็น 2 ตอน คือ ถนนเจริญกรุงตอนใน ตั้งแต่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ถึงสะพานดำรงสถิต (สะพานเหล็ก) และถนนเจริญกรุงตอนใต้ ตั้งแต่สะพานเหล็กออกไปนอกกำแพงพระนคร ต่อเนื่องไปถึงตลาดน้อย บางรัก จรดดาวคะนอง (ในปัจจุบัน)

เมื่อมีถนนหลักใหม่และงดงาม จึงนำมาซึ่งวิถีชีวิตของผู้คนสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างอาคาร ห้างร้าน บ้านเรือน ไปตลอดแนวถนน ต่อมามีการติดไฟฟ้านำทางส่องสว่าง และด้วยความสวยงามของท้องถนน ผู้คนจึงรู้จักที่จะออกมาใช้ชีวิตในยามค่ำคืนกันมากขึ้น จนเป็นที่มาของถนนที่ได้ชื่อว่า เป็นถนนที่ไม่มีวันหลับใหล ตราบจนทุกวันนี้ ‘เจริญกรุง’ ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน แม้สองข้างทางจะเก่าแก่ไปตามกาลเวลา แต่จิตวิญญาณของถนนที่ได้ชื่อว่า เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ก็ยังคงปรากฎอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง


ที่มา: https://sites.google.com/site/ibkkgroup3/home/yan-ceriykrung

โฆษกรัฐบาล เผยเศรษฐกิจไทยไทยผ่านจุดตกต่ำแล้ว เชื่อปี 2564 ตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ จะดีขึ้น ลั่นเงินคงคลังเข้มแข็ง ยืนยันมีงบประมาณลงทุนเพียงพอ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยขณะนี้ถือว่ามีสัญญาณที่ดี มีรานงานจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลังออกมาให้ข้อมูลว่าช่วงเดือน ธ.ค. 2563

ตัวเลขต่าง ๆถือว่าดีเช่นการขยายการส่งออก มีการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 8 เดือน อยู่ที่ร้อยละ 4.7 อัตราเงินเฟ้อต่ำ ทุนสำรองสูง ผ่านพ้นจุดที่ตกต่ำมาแล้ว และ ในปี 2564 ตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ จะดีขึ้น

อีกทั้งสำนักงานบลูมเบิร์ก ประเมินมุมมองอนาคตเศรษฐกิจของไทยปี 2564 ว่า เป็นประเทศที่น่าสนใจอันดับ 1 ใน 17 ประเทศของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ทำให้มีแรงดึงดูดจากเงินทุนต่างประเทศ รวมทั้ง ดัชนีสุขภาพของไทยติด 1 ใน 10 ประเทศแรกของโรค

ส่วนการจัดเก็บรายได้ของไทยระหว่างปี 2557- 2563 ก็ถือว่าขยายตัวร้อยละ 2.1 ต่อปี มีเพียง3 ปี ที่จัดเก็บลดลงจากปีก่อนหน้า คือ 2557 , 2560 และ 2563 โดยปี 2563 สาเหตุที่จัดเก็บภาษีได้น้อยที่เกิดผลประทบจากโควิด19 ที่รัฐบาลออก มาตรการภาษีช่วยเหลือประชาชน และ มาตรการช่วยผู้ประกอบการต่าง จึงจัดเก็บรายได้น้อยลง

อีกทั้งสำนักงานบลูมเบิร์ก ประเมินมุมมองอนาคตเศรษฐกิจของไทยปี 2564 ว่า เป็นประเทศที่น่าสนใจอันดับ 1 ใน 17 ประเทศของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ทำให้มีแรงดึงดูดจากเงินทุนต่างประเทศ รวมทั้ง ดัชนีสุขภาพของไทยติด1ใน 10 ประเทศแรกของโรค ส่วนการจัดเก็บรายได้ของไทยระหว่างปี 2557- 2563

ก็ถือว่าขยายตัวร้อยละ 2.1 ต่อปี มีเพียง3 ปี ที่จัดเก็บลดลงจากปีก่อนหน้า คือ 2557 ,2560 และ 2563 โดยปี 2563 สาเหตุที่จัดเก็บภาษีได้น้อยที่เกิดผลประทบจากโควิด19 ที่รัฐบาลออก มาตรการภาษีช่วยเหลือประชาชน และ มาตรการช่วยผู้ประกอบการต่าง ึงจัดเก็บรายได้น้อยลง

นายอนุชา กล่าวว่า "สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ชี้แจงว่าสภาพ เงินคงคลัง มีเพียงพอในการดำเนินนโยบาย และการลงทุนต่างๆ โดยเงินคงคลังปลายงวดปี 2563 มากกว่าเงินคงคลังปลายปี 2562 ร้อยละ 49.5 และ หนี้สาธารณะไม่เกินกรอบที่กฎหมายร้อยละ 60"

"บิ๊กป้อม" มอบที่ดินราชพัสดุกว่า 649 ไร่ ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำไปพัฒนาต่อยอดเป็น "เมืองสร้างสุข ต้นแบบอาเซียน" คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท

พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน มอบหนังสืออนุญาตที่ดินราชพัสดุ ก.คลัง จำนวน 649 ไร่ ส่งมอบให้นายจุติ รมว.พม. นำไปพัฒนา "เมืองสร้างสุข ต้นแบบอาเซียน" โดยมี นายสันติ รมช.ก.คลัง, ปลัด ก.คลัง, ปลัด ก.พม., และอธิบดีกรมธนารักษ์, ร่วมส่งมอบและเป็นสักขีพยาน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เช่าที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ชบ.219 (บางส่วน) ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ส่งมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลข 219 (บางส่วน) จำนวน 649-0-72 ไร่

พร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 267 รายการ ให้กับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบสังคม "เมืองสร้างสุข (Happiness Social City)" ให้เป็นศูนย์เรียนรู้และอบรมด้านสวัสดิการสังคมระดับอาเซียน และศูนย์ที่พักผู้สูงอายุครบวงจร (Senior Complex) ภายใต้กรอบนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

ทั้งนี้ในการนำที่ราชพัสดุมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในครั้งนี้ ถือเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลมอบให้ พม. ดำเนินการพัฒนาให้เป็นไปตามแผนการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชลบุรีให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภายใต้เขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Corrdor :EEC) และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์การดำเนินงานด้านอาเซียน โดยการขับเคลื่อนแผนงานประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยที่มากขึ้น

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “ตามที่กระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ดำเนินการนำที่ดินและที่ราชพัสดุ ที่ส่งมอบคืนไปใช้พัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด

เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นการมอบที่ราชพัสดุให้กับ พม. เป็นไปตามแผนงานหลักโดยการนำไปใช้พัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านสังคม "เมืองสร้างสุข (Happiness Social City) ที่พร้อมให้บริการกับประชาชน"

โดย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า "โครงการดังกล่าว นับว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอย่างมาก หลังจากนี้ ทางกระทรวง พม. จะนำที่ดิน จำนวน 649 -0-72 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 267 รายการ ไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ และเป็นโครงการต้นแบบ "เมืองสร้างสุข (Happiness Social City) ให้เป็นศูนย์เรียนรู้และอบรมด้านสวัสดิการสังคมระดับอาเซียนและศูนย์ที่พักผู้สูงอายุแบบครบวงจรภายใต้กรอบนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป"

สำหรับการพัฒนาพื้นที่ดินพื้นที่ดังกล่าว แบ่งออกเป็นพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ประกอบด้วย

1.) สำหรับบริการแก่กลุ่มเป้าหมายครบวงจร (Center Club House) อาทิ ศูนย์ให้บริการทางการแพทย์ ศูนย์ฝึกอาชีพ พื้นที่ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่างๆ

2.) ศูนย์บริการของหน่วยงาน พม.ในพื้นที่ เพื่อให้บริการด้านสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง และศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมด้านผู้สูงอายุจังหวัดชลบุรี เป็นต้น

3.) พื้นที่สำหรับในการ ให้บริการในเชิงพาณิชย์ เช่น ศูนย์การประชุม โรงแรมและ (Community Mall)

4.) ศูนย์ที่พักอาศัยผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex) ซึ่งอยู่ในการครอบครองของกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นพื้นที่ติดชายทะเล เนื้อที่จำนวน 48 ไร่

โดยนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุว่า ที่ดินราชพัสดุบางละมุง แปลงหมายเลขทะเบียน ชบ.219 (บางส่วน) จำนวน 649-0-72 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 267 รายการ จะอยู่ภายใต้โครงการขับเคลื่อนต้นแบบ "เมืองสร้างสุข (Happiness Social City)” ซึ่งดำเนินการโดย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

"กรมอนุญาตให้ พม.ใช้ที่ดิน จากนี้ ทางพม.จะต้องไปดำเนินการต่อ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 16,000 ล้านบาท เป็นโครงการของ พม. ในรูปแบบร่วมลงทุนกับภาคเอกชน แต่จะกำหนดให้มีการขายและเช่าสิทธิ แต่จะต้องมีราคาไม่สูงมาก เพื่อให้ผู้สูงอายุทุกคนเข้าถึงได้ โดยคาดว่าจะเริ่มคัดเลือกเอกชนมาลงทุน พร้อมทั้งเปิดจองสิทธิซื้อจองได้ภายในปีนี้"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top