Saturday, 31 May 2025
WORLD

‘ภูฏาน’ ประกาศตั้งสหพันธ์มวยไทยแห่งชาติ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เสริมสัมพันธ์ไทย-ภูฏาน IOC ร่วมผลักดันเยาวชนสู่เวทีโอลิมปิก

เมื่อวันที่ (27 เม.ย.68) ที่ผ่านมา ราชอาณาจักรภูฏานได้ประกาศจัดตั้ง สหพันธ์มวยไทยแห่งชาติ ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ซึ่งเป็นองค์กรกำกับกีฬามวยไทยที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC)

การเปิดตัวตรงกับช่วงเสด็จเยือนภูฏานอย่างเป็นทางการของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ภายในงานมีการสาธิตมวยไทยและการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-ภูฏาน เพื่อเน้นย้ำถึงคุณค่าของมวยไทยทั้งในฐานะศิลปะการต่อสู้และกีฬาระดับโอลิมปิก

สำหรับสหพันธ์มวยไทยแห่งภูฏานอยู่ภายใต้การดูแลของ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งภูฏาน นำโดย เจ้าฟ้าชายจิกเยล อุกเยน วังชุก ซึ่งทรงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันโครงการร่วมกับ IFMA และหน่วยงานมวยไทยของไทย อาทิ สมาคมมวยไทยสมัครเล่น (AMTAT) และสมาคมมวยอาชีพ (PAT)

ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธาน IFMA กล่าวว่า ภูฏานในฐานะสมาชิกใหม่ลำดับที่ 157 ของ IFMA สะท้อนถึงความภาคภูมิใจของวงการมวยไทยทั่วโลก และเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนามวยไทยบนเวทีนานาชาติ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การแข่งขันอย่าง Asian Youth Games 2025 และรายการกีฬาภายใต้ IOC อื่น ๆ

การจัดตั้งสหพันธ์มวยไทยแห่งชาติในภูฏานนับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือด้านกีฬาและวัฒนธรรมไทย-ภูฏานที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยตอกย้ำบทบาทของมวยไทยในฐานะมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สามารถเติบโตและยั่งยืนในระดับสากล

‘ทรัมป์’ เผย ‘ปูติน’ พร้อมยุติสงครามกับยูเครน แต่โยนความผิดให้ ‘ไบเดน’ ทำสถานการณ์เลวร้ายตั้งแต่เริ่มต้น

(30 เม.ย. 68) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย แสดงความเต็มใจที่จะยุติความขัดแย้งในยูเครน ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC News ในวาระดำรงตำแหน่งครบ 100 วัน

ทรัมป์กล่าวว่า ปูตินอาจกำลังส่งสัญญาณบางอย่างเพื่อโน้มน้าวให้ยุติสงคราม และย้ำว่า “เขาเต็มใจที่จะยุติการสู้รบ” พร้อมกันนี้ยังวิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ว่าเป็นผู้ทำให้สงครามปะทุ โดยเชื่อว่าหากตนชนะเลือกตั้งในปี 2020 ปูตินอาจยึดยูเครนได้ทั้งหมด

ผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ยังตำหนิคำพูดของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ว่าเป็นการ 'ปลุกระดม' โดยเฉพาะการปฏิเสธที่จะยอมรับไครเมียเป็นของรัสเซีย ซึ่งเขามองว่าเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาสันติภาพและทำให้สงครามยืดเยื้อ

ทั้งนี้ในช่วงเมื่อต้นสัปดาห์ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับเกล็น เบ็ค (Glenn Lee Beck) นักวิจารณ์การเมือง อนุรักษ์นิยมชาวอเมริกัน โดยกล่าวว่าเซเลนสกีเรียกร้องมากขึ้น ทั้งที่ไม่มีอำนาจต่อรอง พร้อมระบุว่าปูติน “จัดการได้ง่ายกว่าเซเลนสกี” และเปิดกว้างต่อการบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามในภูมิภาคนี้

สิงคโปร์สั่ง Meta บล็อกด่วน โพสต์เฟซบุ๊กชาวต่างชาติ 3 ราย หวั่นแทรกแซงการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้

รัฐบาลสิงคโปร์มีคำสั่งให้ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ปิดกั้นการเข้าถึงโพสต์ของชาวต่างชาติ 3 คน ซึ่งรวมถึงนักการเมืองมาเลเซียและชาวออสเตรเลีย โดยกล่าวหาว่าโพสต์เหล่านี้เป็นความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้

กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกิจการเลือกตั้งของสิงคโปร์ระบุว่า โพสต์ดังกล่าวเป็นภัยต่อความสามัคคีทางเชื้อชาติและศาสนา พร้อมเน้นย้ำว่าการกระทำของชาวต่างชาติในกรณีนี้เป็นการละเมิดกฎหมายโซเชียลมีเดียฉบับใหม่ ที่ห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเผยแพร่เนื้อหาทางการเมืองในประเทศ

ผู้ใช้งานที่ถูกสั่งบล็อกประกอบด้วยรัฐมนตรีมาเลเซียจากพรรค PAS ชาวออสเตรเลียที่เคยถือสัญชาติสิงคโปร์ และผู้นำเยาวชน PAS ซึ่งแชร์โพสต์ที่วิจารณ์นักการเมืองมุสลิมในสิงคโปร์ 

คำสั่งดังกล่าวอ้างอิงจากพระราชบัญญัติความปลอดภัยออนไลน์ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2023 ซึ่งให้อำนาจหน่วยงานควบคุมสื่อในการสั่งลบเนื้อหาที่เป็นอันตราย รวมถึงโพสต์ที่ปลุกปั่นความขัดแย้งทางชาติพันธุ์หรือศาสนา และกฎหมายอื่น ๆ ที่สิงคโปร์บังคับใช้เพื่อสกัดกั้นอิทธิพลจากต่างชาติ

แม้รัฐบาลจะอ้างถึงการปกป้องเอกภาพของชาติ แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักวิเคราะห์บางฝ่ายชี้ว่า การบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้อาจเป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความเห็น และสะท้อนความหวาดระแวงของรัฐบาลต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากต่างชาติในโลกออนไลน์

ญี่ปุ่นเตือนแรง มาตรการภาษี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ กำลังเขย่าพันธมิตร ชี้อาจเป็นบูมเมอแรงทำเอเชียตีตัวออกห่างสหรัฐฯ ซบอกจีนแทน

(29 เม.ย. 68) อิตสึโนริ โอโนเดระ (Onodera Itsunori) หัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรครัฐบาลญี่ปุ่น (LDP) แสดงความกังวลว่า มาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้หลายประเทศในเอเชียที่เคยมีท่าทีใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น หันไปสร้างสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาค

คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นระหว่างที่โอโนเดระร่วมงานที่สถาบันฮัดสัน กรุงวอชิงตัน โดยเขาระบุว่าหลายประเทศในเอเชียเริ่มไม่สบายใจกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะมาตรการภาษีของทรัมป์ที่อาจสร้างแรงจูงใจให้พันธมิตรเดิมเปลี่ยนทิศทางทางยุทธศาสตร์

โอโนเดระยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมความร่วมมือด้านกลาโหมกับสหรัฐฯ ท่ามกลางภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากจีน โดยเฉพาะการขยายอิทธิพลในช่องแคบไต้หวัน การซ้อมรบเชิงรุก และการกดดันด้านจิตวิทยาในประเด็นดินแดนพิพาท

ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเจรจาการค้ารอบใหม่กับสหรัฐฯ โดยมีรายงานว่าทรัมป์พยายามผลักภาระค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันให้ญี่ปุ่นมากขึ้น โอโนเดระเสนอให้ทั้งสองฝ่ายพิจารณาความร่วมมือในการผลิตและส่งออกอาวุธ เช่น กระสุน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายใหม่ของญี่ปุ่นที่เปิดทางสู่การส่งออกยุทโธปกรณ์มากขึ้นในอนาคต

ม.นานาชาติกวางตุ้ง ผลักดันโมเดล ‘ภาษา+เทคโนโลยี’ ส่งนักศึกษาเยือน Alibaba แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้าน AI และระบบคลาวด์ เพื่อพัฒนาการแปลในยุคดิจิทัล

(29 เม.ย. 68) มหาวิทยาลัยภาษาและการค้าต่างประเทศกวางตุ้ง (GDUFS) เดินหน้าปั้นนักแปลพันธุ์ใหม่ที่ไม่เพียงเก่งภาษา แต่ยังเข้าใจเทคโนโลยี ล่าสุดส่ง “หลี่ หมิงข่าย” นักศึกษาสายเทคโนโลยีและการแปล ร่วมภารกิจระดับโลกที่สำนักงานใหญ่ Alibaba และบริษัทเทคโนโลยี Xinfengwei เมืองหางโจว ประเทศจีน เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียด้าน AI กับเยาวชนจากนานาชาติ

ภารกิจครั้งนี้ หลี่ หมิงข่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับนักศึกษาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยคีล ประเทศเยอรมนี พร้อมนำเสนอโปรเจกต์ “แอป AI แบบไม่ต้องเขียนโค้ด” บน DingTalk ด้วยภาษาอังกฤษ และเข้าร่วมการถกประเด็นระดับโลก เช่น บทบาทของ AI ต่อการศึกษาและความร่วมมือข้ามชาติ ถือเป็นเวทีที่ผสมผสานทั้งนวัตกรรมและวัฒนธรรมอย่างลงตัว

ในการเยือน ซิน เฟิงเวย นักศึกษาจาก GDUFS ยังได้สัมผัสเวิร์กช็อปด้าน “AI แปลภาษาบนคลาวด์” ซึ่งร่วมพัฒนาโดย GDUFS และ Alibaba Cloud พร้อมเรียนรู้เบื้องหลังการจัดการระบบคลาวด์ แชทอัจฉริยะ และโมดูลการเรียนรู้แบบใหม่ ซึ่งทีมของหลี่หมิงข่ายกำลังนำกลับไปปรับใช้กับหลักสูตรของมหาวิทยาลัยอย่างเข้มข้น

ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนวิสัยทัศน์ของ GDUFS ที่ต้องการยกระดับการศึกษาด้านการแปลให้ทันสมัย ด้วยเทคโนโลยี AI และการเรียนรู้แบบประสานศาสตร์ โดยในเดือนธันวาคม 2024 ได้เปิดตัว “แพลตฟอร์ม AI แปลภาษาผ่านระบบคลาวด์” ที่ออกแบบตามมาตรฐาน CSE ของจีน มีฟีเจอร์ล้ำสมัย เช่น การวัดผลอัตโนมัติและ AI เพื่อนช่วยเรียน

ไม่หยุดแค่ในประเทศ GDUFS ยังขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเก๊า (MPU) และองค์การสหประชาชาติ เพื่อปั้นนักแปลที่มีทั้งอุดมการณ์ ความรู้รอบด้าน และศักยภาพในการทำงานระดับโลก โดยในปี 2023 ได้จัดการแข่งขันล่ามระดับนานาชาติ “อวิ๋นซานเปย” รอบชิงชนะเลิศครั้งที่ 3 อย่างยิ่งใหญ่

จากเวทีหางโจวสู่คลาสเรียนดิจิทัล GDUFS กำลังเขียนนิยามใหม่ของนักแปลมืออาชีพในศตวรรษที่ 21 ด้วยการผนวก “ภาษา+เทคโนโลยี” เข้าด้วยกัน เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาก้าวสู่โลกอนาคตที่ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างทักษะและนวัตกรรมอีกต่อไป

สส.เดโมแครต เสนอ 7 ญัตติด่วนถอดถอน ‘ทรัมป์’ พ้นตำแหน่ง ปธน. ปมใช้อำนาจเกินขอบเขต-ขัดขวางกฎหมาย-รับสินบน และอีกเพียบ!!

(29 เม.ย. 68) นายชริ ธาเนดาร์ (Shri Thanedar) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียจากพรรคเดโมแครต รัฐมิชิแกน เสนอญัตติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยชี้ว่าเป็นการรับมือกับพฤติกรรมที่บ่อนทำลายหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยของสหรัฐฯ พร้อมนำเสนอบทความถอดถอนจำนวน 7 ประการ ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม การใช้อำนาจบริหารโดยมิชอบ การติดสินบน และการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐอย่างผิดกฎหมาย

ในรายละเอียดข้อกล่าวหา นายธาเนดาร์ ระบุว่าทรัมป์ได้เพิกเฉยต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง ดำเนินนโยบายเนรเทศที่ละเมิดสิทธิทางกฎหมาย ใช้อิทธิพลครอบงำกระทรวงยุติธรรม และก่อตั้ง “กระทรวงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล” หรือ DOGE ซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยมีการกล่าวหาว่า “อีลอน มัสก์” ได้รับอำนาจเกินควรผ่านหน่วยงานดังกล่าว

บทความถอดถอนยังชี้ว่าทรัมป์ใช้ตำแหน่งเพื่อโจมตีนักวิจารณ์และสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง เป็นการละเมิดสิทธิตามบทบัญญัติการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 1 นอกจากนี้ยังมีข้อกล่าวหาเรื่องการใช้นโยบายภาษีเป็นเครื่องมือทางการเมืองและการคุกคามทางทหารต่อประเทศอื่น ๆ ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ

นายธาเนดาร์เรียกร้องให้รัฐสภาเร่งดำเนินการ โดยกล่าวว่า “เราไม่สามารถรอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ได้” อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าญัตติดังกล่าวมีแนวโน้มไม่คืบหน้า เนื่องจากพรรครีพับลิกันยังควบคุมทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งอาจขัดขวางการพิจารณาได้ตั้งแต่ต้นทาง

BYD ปักธงสีหนุวิลล์ ‘กัมพูชา’ ลงทุน 32 ล้านดอลล์ สร้างโรงงานผลิตรถ EV ตั้งเป้าผลิต 10,000 คันต่อปี ส่งออกทั่วโลก-เตรียมยลโฉมคันแรกพฤศจิกายนนี้

(29 เม.ย. 68) BYD ผู้ผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จากจีน เดินหน้าขยายฐานการผลิตในต่างประเทศ ล่าสุดเริ่มก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 เมษายน โดยโรงงานนี้เป็นแห่งแรกของกัมพูชาที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และมีมูลค่าการลงทุนรวม 32 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,171.2 ล้านบาท) ครอบคลุมพื้นที่ 12 เฮกตาร์ (75 ไร่)

โรงงานจะดำเนินการในรูปแบบ CKD (Completely Knocked Down) โดยนำเข้าชิ้นส่วนจากจีนมาประกอบในกัมพูชา คาดว่าเฟสแรกจะเริ่มผลิตรถยนต์ BEV และ PHEV ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งมีกำลังการผลิตปีละ 10,000 คัน และรถยนต์คันแรกจะออกจากสายการผลิตช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในกัมพูชาแม้ยังเล็กแต่ถือว่าเติบโตได้อย่างเร็ว โดยในปี 2567 มีการจดทะเบียนรถ EV เพิ่มขึ้นถึง 620% จากปีก่อนหน้า ซึ่ง BYD เป็นหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยม ร่วมกับ Toyota และ Tesla ทั้งนี้ BYD เข้าตลาดกัมพูชาตั้งแต่ปี 2020 และได้เปิดตัวรุ่น Atto 3 ไปในปี 2565

สำหรับโครงการในกัมพูชานี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายกำลังการผลิตในอาเซียน ต่อจากโรงงานในไทยที่เปิดเมื่อกลางปี 2567 และโรงงานใหม่ในอินโดนีเซียมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจะช่วยเสริมบทบาทของ BYD ในการเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคอาเซียน

ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส อันดอร์รา พังเป็นโดมิโน ผู้คนติดลิฟต์-รถไฟหยุด-สนามบินวุ่น ยังไม่ฟันธงสาเหตุแต่ไม่ใช่ไซเบอร์โจมตี

เมื่อวานนี้ (28 เม.ย. 68) สเปนและโปรตุเกสประสบเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เมืองใหญ่ทั้งมาดริด บาร์เซโลนา และลิสบอนต้องเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับแบบไม่ทันตั้งตัว ขณะที่บางพื้นที่ในฝรั่งเศสและประเทศอันดอร์ราก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เหตุการณ์สร้างความโกลาหลในระบบขนส่ง สนามบิน และบริการสาธารณะต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค

ส่งผลให้รัฐบาลทั้งสองประเทศเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า โดยนายกรัฐมนตรีสเปนระบุว่าไฟฟ้า 50% ได้รับการฟื้นฟูแล้ว ขณะที่โปรตุเกสสามารถจ่ายไฟกลับคืนให้ลูกค้า 750,000 ราย ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าไฟดับครั้งนี้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบเชื่อมโยงไฟฟ้าระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน

ด้านบริษัทพลังงาน REN ของโปรตุเกสระบุว่า ปรากฏการณ์อากาศที่หายากทำให้เกิด “แรงสั่นสะเทือนที่ชักนำโดยสภาพอากาศ” ส่งผลให้สายไฟแรงสูง เกิดความล้มเหลวพร้อมกัน เป็นเหตุให้ระบบไฟฟ้าล่มทั่วเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ระหว่างสอบสวน และยังไม่มีสัญญาณว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์

สำหรับสเปนเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนในยุโรป โดยผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดถึง 56% ของทั้งประเทศในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ระบบไฟฟ้าแบบใหม่นี้ต้องเผชิญความท้าทายในการรักษาสมดุลของการผลิตและจ่ายไฟอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากแหล่งพลังงานที่ไม่แน่นอนอย่างแสงอาทิตย์และลม

ทั้งนี้ การไฟฟ้าดับวงกว้างไม่ใช่เหตุการณ์ใหม่สำหรับยุโรป โดยเคยเกิดขึ้นในอิตาลีปี 2003 และในเยอรมนีปี 2006 แต่เหตุการณ์ล่าสุดตอกย้ำถึงความสำคัญของการอัปเกรดโครงข่ายไฟฟ้าให้สามารถรองรับพลังงานหมุนเวียน และพร้อมรับมือกับความเสี่ยงใหม่ที่มากับสภาพอากาศสุดขั้วและเทคโนโลยีพลังงานยุคใหม่

‘ทรัมป์’ เผย ‘เซเลนสกี’ พร้อมยกไครเมียให้รัสเซีย แลกข้อตกลงสันติภาพ ขณะที่ ‘ปูติน’ เสนอหยุดยิงเชิงสัญลักษณ์ แต่ฝ่ายยูเครนยังไม่วางใจ

(29 เม.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระบุว่า ตนเชื่อว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน พร้อมที่จะยกดินแดนไครเมียให้รัสเซีย เพื่อแลกกับข้อตกลงสันติภาพ แม้เซเลนสกีจะเคยปฏิเสธเรื่องนี้อย่างหนักแน่นมาก่อนหน้านี้ก็ตาม พร้อมกันนี้ ทรัมป์ยังส่งสารถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เรียกร้องให้ยุติการโจมตีและเร่งลงนามข้อตกลงสันติภาพภายใน 2 สัปดาห์

ล่าสุด วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเตรียมหยุดยิงยูเครนเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่เช้าวันที่ 8 พฤษภาคมถึงวันที่ 11 พฤษภาคม เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่าการหยุดยิงครั้งนี้มีเหตุผลด้านมนุษยธรรม และแสดงความหวังว่าฝั่งยูเครนจะตอบสนองด้วยการหยุดยิงเช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเต็มรูปแบบอย่างน้อย 30 วัน เพื่อปูทางสู่การเจรจาทางการทูต

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายยูเครนออกมาโต้ตอบทันที โดยระบุว่าไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องรอจนถึงวันที่ 8 พฤษภาคมในการหยุดยิง โดยชี้ว่าควรหยุดการสู้รบทันทีเพื่อเห็นแก่ชีวิตของประชาชน ไม่ใช่เพื่อขบวนพาเหรดเฉลิมฉลอง พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัสเซียแสดงความจริงใจมากกว่าการหยุดยิงชั่วคราว

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่เขาเดินทางกลับจากพิธีพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่นครรัฐวาติกัน ซึ่งเขาได้พบกับเซเลนสกีในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ ทรัมป์เคยย้ำว่าข้อตกลงสันติภาพกำลังคืบหน้า และตำหนิรัสเซียที่โจมตีเขตพลเรือนโดยไร้เหตุผล

ยอดผู้โดยสารทางอากาศจีนพุ่งแตะ 190 ล้านครั้ง ไตรมาสแรก 2568 เพิ่มขึ้นสูง 4.9% เมื่อเทียบปีต่อปี

(28 เม.ย. 68) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีนรายงานว่าในไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคม-มีนาคม) ยอดผู้โดยสารทางอากาศของจีนแตะ 190 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเติบโตนี้สะท้อนถึงความฟื้นตัวของภาคการบินหลังจากการลดลงในช่วงวิกฤตโควิด-19

ในช่วงไตรมาสแรก การบินพลเรือนของจีนดำเนินการบินทั้งสิ้น 3.58 ล้านชั่วโมงบิน และมีเที่ยวบินรวม 1.36 ล้านเที่ยว เพิ่มขึ้น 4.8% และ 2.6% ตามลำดับเมื่อเทียบปีต่อปี ปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งหมดสูงถึง 38,500 ล้านตัน-กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบปีต่อปี

สำหรับการขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศในไตรมาสแรกมีปริมาณรวม 2.24 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 11.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของการขนส่งสินค้าทางอากาศในตลาดจีน

นอกจากนี้ ภาคการบินพลเรือนของจีนยังมีอัตราความตรงต่อเวลาของเที่ยวบินในไตรมาสแรกอยู่ที่ 94.5% เพิ่มขึ้น 4.9 จุดเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และไม่มีรายงานอุบัติเหตุในภาคการบินพลเรือนในช่วงเวลาดังกล่าว

‘รองนายกฯ ลาว’ ลุยเจรจา Rosatom สร้างโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ พร้อมพัฒนาความร่วมมือการศึกษา-อวกาศ-เศรษฐกิจกับรัสเซีย

(28 เม.ย. 68) นายสะเหลิมไซ กมมะสิด (Saleumxay Kommasith) รองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เดินทางเยือนรัสเซียเพื่อสานสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาพลังงานสะอาดและพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติร่วมกับ Rosatom บริษัทพลังงานปรมาณูของรัสเซีย ในระหว่างการเยือนระหว่างวันที่ 21-23 เมษายน ที่ผ่านมา 

นอกจากการหารือด้านพลังงานแล้ว นายสะเหลิมไซยังได้พบกับ ดิมิตรี บาคานอฟ (Dmitry Bakanov) ผู้อำนวยการ Roscosmos และหารือถึงการส่งนักศึกษาลาวไปเรียนต่อในสาขาวิชาอวกาศที่รัสเซีย นอกจากนี้ยังมีการพบปะกับ อานาโตลี ทอร์คูนอฟ (Anatoly Torkunov) อธิการบดี MGIMO และ เซียร์เกย์ ลัฟรอฟ (Sergey Lavrov) รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างสองประเทศ

ในการเยือนครั้งนี้ นายสะเหลิมไซยังได้พบกับ อเล็กเซย์ โอเวอร์ชุค (Alexey Overchuk) รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ซึ่งมีการหารือถึงการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยเน้นที่การเพิ่มความร่วมมือในสาขาพลังงานสะอาด การท่องเที่ยว และการขนส่ง รวมถึงพัฒนาการเชื่อมโยงด้านต่างๆ ระหว่างสองประเทศที่ยังไม่ได้สูงพอ

ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว จะเดินทางไปรัสเซียเพื่อเข้าร่วมในพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี Victory Day ซึ่งรัสเซียจะจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะในสงครามป้องกันปิตุภูมิ หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กองทัพรัสเซียสามารถพิชิตกองทัพนาซีเยอรมันได้

นอกจากนี้ กองทัพสหพันธรัฐรัสเซียยังได้เชิญกองทัพประชาชนลาวส่งทหารเข้าร่วมเดินสวนสนามในพิธีดังกล่าว โดยกองทัพประชาชนลาวได้ส่งทหารจำนวน 60 นาย ไปยังกรุงมอสโก โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศลาว เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ

‘ทรัมป์’ กดดันปานามาและอียิปต์ เปิดทางให้เรือสินค้าและเรือรบสหรัฐฯ ผ่านคลอง ‘ปานามา-สุเอซ’ ไม่เสียค่าธรรมเนียม อ้างเพื่อปกป้องความมั่นคงชาติ

(28 เม.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้เรือสินค้าและเรือกองทัพของสหรัฐฯ สามารถผ่านคลองปานามาและคลองสุเอซได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม โดยอ้างว่าสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญต่อการอยู่รอดของเส้นทางเดินเรือเหล่านี้ และถือเป็นการปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา

ทรัมป์ระบุว่าทั้งคลองปานามาและคลองสุเอซจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากการสนับสนุนจากสหรัฐฯ พร้อมย้ำถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของคลองสุเอซ ในการจำกัดอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในภูมิภาคนี้ โดยได้มอบหมายให้มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ดำเนินการจัดการสถานการณ์อย่างเร่งด่วน

แม้ว่าสหรัฐฯ จะส่งมอบการควบคุมคลองปานามาให้แก่ปานามาในปี 1999 ตามสนธิสัญญาปี 1977 แต่ล่าสุด พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้เสนอแนวคิดให้กองทัพสหรัฐฯ กลับไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลเรื่องอิทธิพลของจีน

สำหรับคลองสุเอซ ซึ่งรองรับการค้าโลกประมาณ 12–15% กำลังเผชิญวิกฤต หลังจากรายได้จากการดำเนินงานลดลงกว่า 50% เนื่องจากการโจมตีของกลุ่มฮูตีในเยเมน ทรัมป์ประกาศว่าจะเดินหน้ากดดันกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เพื่อฟื้นฟูเส้นทางเดินเรือที่สำคัญนี้

ทั้งนี้ ทางการปานามาได้ยืนยันหนักแน่นว่าจะรักษาความเป็นกลางและสิทธิ์การควบคุมคลองปานามาอย่างสมบูรณ์ ขณะที่อียิปต์ยังคงพึ่งพารายได้จากคลองสุเอซ แม้จะต้องเผชิญแรงกดดันจากความไม่สงบในภูมิภาคทะเลแดงอย่างต่อเนื่อง

ACFTA 3.0 นำพาอาเซียนและจีนเข้าสู่ยุคใหม่ของการค้าเสรี สร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ขยายตลาดขนาดใหญ่รับมือวิกฤตการค้าทั่วโลก

(28 เม.ย. 68) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ท่ามกลางสถานการณ์การค้าโลกที่ไม่แน่นอน ผู้เชี่ยวชาญจากมาเลเซียและจีนได้ย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับจีน โดยเฉพาะในการใช้ประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่ร่วมกันเพื่อบูรณาการภูมิภาคและต่อต้านกระแสการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น ในเวทีสัมมนาอาเซียน-จีนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้เข้าร่วมจากหลายภาคส่วนได้เห็นพ้องกันถึงศักยภาพของการร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย

โลว์ เคียน ชวน ประธานสภาธุรกิจมาเลเซีย–จีน กล่าวว่าการที่มาเลเซียดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันความร่วมมือระหว่างสองภูมิภาค และการลงนามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ฉบับ 3.0 จะเป็นจุดสำคัญในการเสริมสร้างการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยช่วยขยายความร่วมมือในหลายมิติ

นับตั้งแต่การเปิดตัวเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีนในปี 2010 ความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่ายเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากการค้าโลก แต่ในไตรมาสแรกของปี 2025 มูลค่าการค้าระหว่างจีนและอาเซียนยังเติบโตขึ้นถึง 7.1% ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

ในอนาคต ความร่วมมือระหว่างอาเซียนและจีนจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการปรับโครงสร้างห่วงโซ่มูลค่าโลก โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างจริงจังจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในภูมิภาคนี้

‘คิม จองอึน’ ยอมรับส่งทหารไปช่วย ‘รัสเซีย’ ในสงครามกับยูเครน มอสโกซูฮกพันธมิตรเกาหลีเหนือ ช่วยปลดปล่อยแคว้นเคิร์สก์

(28 เม.ย. 68) รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า ได้ส่งทหารไปร่วมสงครามกับยูเครนภายใต้คำสั่งของผู้นำ “คิม จองอึน” โดยมีส่วนสำคัญในการปลดปล่อยดินแดนที่ถูกยูเครนยึดไป เช่น ภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึง “มิตรภาพอันแน่นแฟ้น” ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า การเข้าร่วมของทหารเกาหลีเหนือในสงครามครั้งนี้สอดคล้องกับสนธิสัญญาพันธมิตรที่ผู้นำคิมได้ลงนามกับปูตินเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเกาหลีเหนือเห็นว่าดินแดนของรัสเซียเป็นเสมือนประเทศของตน และยืนยันความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างทั้งสองชาติ

มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า การส่งทหารจากเกาหลีเหนือแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในระดับสูง และการช่วยเหลือมอสโกในการปลดปล่อยแคว้นเคิร์สก์จากการรุกรานของยูเครน ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเกาหลีเหนือได้ส่งทหารประมาณ 14,000 นาย รวมถึงกำลังเสริม 3,000 นาย

ทั้งนี้ การยอมรับอย่างเป็นทางการของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นหลังจากรัสเซียยืนยันเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่าทหารเกาหลีเหนือต่อสู้เคียงข้างรัสเซียในภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศไม่เคยยืนยันหรือปฏิเสธการส่งทหารเข้าร่วมการรบในยูเครน

น้ำมันอาเซอร์ไบจานยังส่งผ่านตุรกีสู่ท่าเรือไฮฟา ท่ามกลางมาตรการตัดสัมพันธ์การค้าของอังการา

(28 เม.ย. 68) สื่ออิสราเอลรายงานว่า แม้รัฐบาลตุรกีประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการค้าทั้งหมดกับอิสราเอลอย่างเป็นทางการ เพื่อตอบโต้การโจมตีฉนวนกาซ่า แต่การส่งออกน้ำมันจากสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานไปยังอิสราเอลผ่านท่าเรือตุรกียังคงดำเนินต่อไป

Globes สื่อเศรษฐกิจของอิสราเอลเปิดเผยว่า น้ำมันดิบจากอาเซอร์ไบจานยังคงส่งผ่านท่อบากู-ทบิลิซี-เจฮานถึงท่าเรือเจฮานในตุรกี ก่อนถูกลำเลียงต่อไปยังท่าเรือไฮฟาในอิสราเอลโดยเรือบรรทุกน้ำมัน ทั้งนี้ อิสราเอลนำเข้าน้ำมันดิบจากอาเซอร์ไบจานมากกว่า 523,000 ตันในเดือนมกราคม คิดเป็นมูลค่าเกือบ 297 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความตึงเครียด ฮิกเมต ฮาจิเยฟ ผู้ช่วยฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ได้พบกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูที่สถานทูตอาเซอร์ไบจานในกรุงเทลอาวีฟ เพื่อหารือเรื่อง "การพัฒนาในภูมิภาค" โดยเน้นความพยายามไกล่เกลี่ยกับตุรกีเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ฮาจิเยฟเดินทางต่อไปยังกรุงอังการา เพื่อพบกับฟาเรตติน อัลตุน หัวหน้าสำนักงานสื่อสารแห่งชาติของตุรกี และผู้ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีเออร์โดกัน โดยทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับประเด็นในภูมิภาคและระดับโลก ท่ามกลางความพยายามฟื้นฟูเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top