Monday, 12 May 2025
SPECIAL

‘ชัยวุฒิ’ ฉะ ‘โพลดัง’ หลัง ‘บิ๊กป้อม’ หลุด Top 10 นายกฯ  ลั่น!! พปชร. มุ่งก้าวข้ามความขัดแย้ง-ไม่คิดเอาเปรียบใคร

เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.66) ที่ลานตลาดนัดวันอาทิตย์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีของพรรค พปชร. ว่า บางคน บางพรรคยังพูดถึงโครงการเก่าในอดีต โดยไม่ดูบริบทการเมือง เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ผมลงพื้นที่สงสารพี่น้องประชาชน บางพรรคยังพูดถึงกองทุนหมู่บ้านนโยบายเมื่อ 20 ปีที่แล้วซึ่งที่ตนเองได้ลงพื้นที่นั้น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันมากจากกองทุนหมู่บ้าน พรรค พปชร. จะยกเลิกกองทุนหมู่บ้าน ประชาชนจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้

นายชัยวุฒิกล่าวต่อว่า เพราะเป็นกองทุนที่สร้างหนี้ให้กับประชาชน จะได้ไม่ต้องสร้างหนี้ให้กับประชาชน เราต้องมองอนาคต ต้องมองนโยบายของพรรคการเมืองที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ พร้อมมองว่ามีบางพรรคการเมืองได้คิดนโยบายที่ไกลเกินไป การเลือกตั้งนั้นให้มาเปลี่ยนรัฐบาล แต่อยากเปลี่ยนประเทศไทย คุณทำได้ไหม

‘อนุทิน’ เผยกินข้าวกับ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่ใช่ความลับอะไร ขอไม่พูดถึงทิศทางจัดตั้ง รบ. ใหม่ ยัน!! ภท. ยึดกติกาสากล

‘อนุทิน’ ปัดดีลจัดตั้งรัฐบาล ร่วม พท.-พปชร. ให้รอผลเลือกตั้งชัด ‘ชี้’กินข้าวร่วม ‘บิ๊กป้อม’ ไม่แปลก ไม่ได้กินข้ามฟาก ยอมรับมีอัพเดตตัวเลขเลือกตั้งปกติ แต่ไม่มีความลับ ดักทางหลังเลือกตั้ง สว.ยังร่วมโหวตนายกฯในสภา แต่แค่พายเรือส่ง ชี้พรรคเล็กได้นั่งนายกฯลำบากแน่นอน ไร้เสถียรภาพ แย้ม เม.ย.จนถึงเลือกตั้ง ไม่อยู่กทม. จ้องหาวันลาราชการลงพื้นที่ 

(27 มี.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดีลกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งมองกันว่าพรรคภท. จะอยู่ในสมการนั้นด้วย ว่า ยังไม่รับทราบเรื่องพวกนี้เลย อ่านจากข่าวเหมือนกัน ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยใดๆเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รอเลือกตั้งดีที่สุด หลังการเลือกตั้งทิศทางจะออกมาเอง รอผลเลือกตั้ง เมื่อถามว่าการไปทานข้าวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. 2 รอบ มีการพูดคุยถึงการจับมือจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดมากไปหรือเปล่า ทำงานมาด้วยกัน 4 ปี กินข้าวกันมันแปลกตรงไหนใช่ไหม และตนก็ไม่ได้ข้ามฟากไปกินกับอีกฟากหนึ่งเสียเมื่อไหร่ ก็กินกันอยู่ในนี้มันเป็นเรื่องปกติมากกว่า หากจะพูดคุยความลับกันจริงๆ พูดคุยเรื่องที่มีการวิเคราะห์ออกมาตามสื่อที่ไปตั้งรัฐบาลให้ใครเป็นนายกฯถ้าจริงคงไม่คุยกันแค่ 8 คนมั่งใช่ไหม อันนั้นไม่มีความลับอะไรเป็นการไปกินข้าวกันธรรมดา

เมื่อถามว่านอกเหนือจากการคุยเรื่องทางการเมืองแล้วมีข่าวว่าไปคุยเรื่องคดีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หลังหยุดปฏิบัติหน้าที่รมว.คมนาคม นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเลย นายศักดิ์สยามมั่นใจในข้อกล่าวหาว่าเขาสามารถเตรียมเอกสารไปแก้ข้อกล่าวหาได้ การไปกินข้าวเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องของราชการ และไม่ใช่เรื่องของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใครที่โดนเขาก็มีหน้าที่ชี้แจงไป 

เมื่อถามว่าพรรค ภท.เตรียมเปิดตัวส.ส.ทั่วประเทศเมื่อไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เริ่มรับสมัครส.ส.เขตวันที่ 3 เม.ย. และรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อวันที่ 4 เม.ย. เมื่อถามอีกว่าแสดงจะไม่เปิดรายชื่อก่อน แต่จะให้ไปรู้วันสมัครเลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้เปิดเรียงตามลำดับอักษรว่ามีใครบ้าง รอเอกสารให้เรียบร้อยทุกอย่าง และจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคอย่างเร่งด่วน เมื่อถามว่าลงตัวหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ภท.ลงตัวทุกเรื่องอยู่แล้ว เมื่อถามว่าในพื้นที่อีสานไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาโจมตีหลายๆเรื่อง นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ตอนที่มีเรื่องนี้ออกมาเราก็เร่งทำโพลในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ก็เห็นแล้วว่ามีโพลออกมาบอกว่าเราไม่ได้รับผลกระทบอะไร ตรงกันข้ามคะแนนนิยมในตัวบุคคลของ ภท.มีมากขึ้น 

เมื่อถามว่า ถ้าอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้คะแนนน้อยกว่า ภท. จะหลีกทางให้พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กติกาสากลมีอยู่แล้วอย่าเพิ่งถามเลย ถามตรงนี้หากบอกคนนี้น้อยคนนี้มาก คนได้น้อยจะไม่พอใจหรือเสียกำลังใจ กติกาสากลมีอยู่แล้ว คะแนนมากจะต้องทำตัวอย่างไร คะแนนน้อยจะต้องทำตัวอย่างไร เรื่องการเมืองไม่พ้นกติกาสากลเหล่านี้หรอก อย่าไปกังวล รอผลการเลือกตั้งออกมาให้นิ่งและชัดเจนก่อนไม่ต้องไปรอรับรองอย่างเป็นทางการหรอกอย่างที่ตนเรียนเย็นวันที่ 14 พ.ค. 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม มันก็พอเห็นเค้าลางแล้ว แล้วเราค่อยดำเนินการอะไรจากนั้นไป ตอนนี้พูดอะไรไปสิ่งที่ตนกลัวที่สุดคือมันจะเหมือนกับว่าไม่ให้เกียรติพี่น้องประชาชน ซึ่งตรงนี้ตนกลัวมาก ฉะนั้นตนคงจะไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องทิศทางใดๆ จนกว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาแล้ว 

“การไปเจอคนนั้นคนนี้ รับประทานอาหารกับคนนั้นคนนี้เป็นเรื่องปกติอย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นการปล่อยทิศทางการเมืองอะไรออกมา ไม่ใช่เลย แต่ละพรรคการเมืองมีนโยบายของตัวเอง เป็นผู้บริหารพรรคการเมืองในความเป็นปัจเจกบุคคลไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครเลย สมมุติว่าเราจะไปทานข้าวอะไรกับใครเราก็ไปอัพเดตกัน ในวงการธุรกิจคู่แข่งเขายังมีนัดกินข้าวกันเพื่ออัพเดตสถานการณ์ อัพเดตตลาด อัพเดตปัญหาความต้องการหลายๆเรื่อง ฉะนั้นถ้าเราอยู่ในองค์กรแบบนี้เราก็ไปอัพเดตสถานการณ์กัน มันไม่ใช่ความลับอะไรมากมาย พรรคผมส่งกี่คนกี่เขต ใครมีแนวโน้มเป็นปาร์ตี้ลิสต์บ้าง เราไม่ได้บอกว่าคนนี้เบอร์หนึ่งสองสาม เป็นเรื่องที่เราพูดจาบนโต๊ะอาหารซึ่งเป็นเรื่องปกติ และเรื่องอื่นๆก็พูดเยอะ มันไม่ใช่เป็นการรับประทานอาหารอย่างเป็นทางการและถ้าเกิดมันจะลับจริงๆทำไมจะลับไม่ได้ อันนี้แสดงว่าไม่ได้มีความลับอะไร รูปถึงออกมา และไม่ได้มีการโวยวายอะไร ปกติ การสื่อสารข้อมูลทางโทรศัพท์มันเร็วมาก เผลอๆไลฟ์สดด้วยซ้ำ เราอย่าไปซีเรียสอะไรมาก ทางการเมืองทุกอย่างโดยเฉพาะยิ่งใกล้เลือกตั้งทุกอย่างต้องรอผลเลือกตั้ง ผมยืนยันตรงนี้” นายอนุทิน กล่าว

‘พท.’ เตรียมปราศรัยใหญ่ 3 เวที ส่งท้ายเดือน มี.ค. พร้อมจัดทีมกระจายหาเสียงทุกเขต หวังแลนด์สไลด์

(27 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคพท.เตรียมจัดเวทีปราศรัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ ในวันที่ 28 มี.ค. เปิดเวทีปราศรัยที่ศาลากลาง จ.สมุทรปราการ เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.มหาสารคาม นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์รวมทั้งตน 

วันที่ 29 มี.ค. เปิดเวทีปราศรัยที่ลานหน้าห้างโลตัส รังสิต (ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต) อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป นำโดย นพ.ชลน่าน น.ส. แพทองธาร นายจาตุรนต์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต ส.ส.กทม.และตน

‘กรุณพล’ เผย นิด้าโพลชี้คนกรุงเทพฯ อยากได้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ สะท้อน ปชช. ต้องการเปลี่ยนแปลง จับตา 4 เม.ย. เปิด 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์

(27 มี.ค. 66) ที่พรรคก้าวไกล กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวประจำสัปดาห์ในหลายประเด็น เริ่มต้นที่กรณีนิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจของประชาชน พบว่าบุคคลที่คนกรุงเทพฯ สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นสิ่งสะท้อนว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนนายกฯ หรือเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเชื่อว่าแนวโน้มนี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง

ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 และกำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า โดยประชาชนจำเป็นต้องลงทะเบียนระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 9 เมษายน 2566 เพื่อขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในเขตและนอกเขต พรรคก้าวไกลมีความกังวลอย่างยิ่งว่า กกต. ไม่ได้ประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงเพียงพอ ทำให้ประชาชนไม่ทราบเรื่องนี้ จนอาจกระทบต่อการใช้สิทธิ์ของคนนับล้าน ทั้งคนที่จะเลือกตั้งล่วงหน้า เลือกตั้งนอกเขต และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร อีกทั้งในการเปิดลงทะเบียนวันแรก ก็พบปัญหาเชิงเทคนิคมากมาย ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงการลงทะเบียนได้โดยสะดวก พรรคก้าวไกลจึงขอเรียกร้องให้ กกต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงมากขึ้นและแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่าให้ซ้ำรอยสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อการเลือกตั้ง 2562 ที่บัตรเลือกตั้งจากต่างประเทศ ส่งมาถึงประเทศไทยแต่ไม่ได้รับการนับคะแนน รวมถึงในหลายประเทศที่มีข้อขัดข้องในการใช้สิทธิ์

นอกจากนั้น ในวันที่ 1-20 เมษายน 2566 จะเข้าสู่ช่วงเกณฑ์ทหาร ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ของชายไทย ที่ต้องถูกบังคับให้จับใบดำใบแดง ต้องห่างคนที่รักทั้งที่หลายคนเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องสูญเสียเวลาที่จะก้าวหน้าในการงานไปถึง 2 ปี พรรคก้าวไกลแม้ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกฎเกณฑ์เก่าๆ ได้ในวันนี้ แต่ขอเรียกร้องให้กองทัพมีมาตรการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของทหารชั้นผู้น้อย ดังนี้ 

1. สร้างความปลอดภัย จากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ผ่านกลไกการร้องทุกข์และร้องเรียนผู้บังคับบัญชาที่มีกระบวนการที่เป็นธรรมและปลอดภัยต่อตัวผู้ร้อง รวมถึงมีการแก้ พ.ร.บ.วินัยทหาร ที่ให้อำนาจล้นเกินแก่ผู้บังคับบัญชาในการธำรงวินัย

2. สร้างความมั่นคง ผ่านรายได้ที่เหมาะสม สอดคล้องกับค่าครองชีพ โอนตรง-โอนครบ-ไม่มีหัก-ไม่มีทอน มีประกันชีวิตที่มีทุนให้กับครอบครัวในการประกอบอาชีพหากพิการหรือเสียชีวิต และมีทุนการศึกษาแก่ทายาทจนกว่าจะมีเงินได้กลับมาเลี้ยงครอบครัว รวมถึงการให้พลทหารมีสิทธิประกันสังคมสำหรับการรักษาพยาบาลเหมือนกับพนักงานราชการทั่วไป 

3. สร้างอนาคต ผ่านการทลายระบบเส้นสาย การเลื่อนขั้น-โยกย้ายต้องเน้นผลงานมากกว่าอายุงาน และในกรณีพลทหารหรือชั้นประทวน ต้องเพิ่มโอกาสในการเรียนโรงเรียนนายร้อย-นายสิบ และโอกาสไต่เต้าสู่นายทหารชั้นสัญญาบัตร ทั้งนี้ หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล เราจะผลักดันนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหารให้เป็นจริง

‘ภูมิธรรม’ สยบข่าวดีล พท. หนุน ‘บิ๊กป้อม’ นั่งนายกฯ ชี้!! แค่กระแสฉุดรั้งความนิยมคนไทยไปจาก พท.

(27 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหาว่า มีการตกลงกันยอมให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ขอชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทย โดยคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลกับใครหรือไม่ 

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันเดินหน้ารณรงค์หาเสียงให้เลือกพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ในสภาให้ถึง 310 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล  เพราะขณะนี้ปัญหาของประเทศ คือ ส.ว. 250 คน ที่ถือว่าเป็นตัวปัญหา หากพรรคเพื่อไทยได้ 310 เสียง ขึ้นไป ไม่มีเหตุผลใดที่จะจับมือกับใคร  มีเงื่อนไขเดียว คือจับมือกับพรรคการเมืองที่มีกรอบความคิดตรงกัน หรือฝ่ายค้านที่เคยทำงานร่วมกันมา

“การมีคนพยายามที่จะโหนพรรคเพื่อไทย เพื่อทำลายอำนาจที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน คนที่จะตัดสินใจการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและตัดสินใจว่าใครเป็นรัฐบาล คือประชาชน ถ้าคะแนนเสียงออกมาอันดับ 1 พรรคนั้นก็ต้องได้จัดตั้งรัฐบาล อันดับถัดมา ก็จะได้รับการพิจารณาเป็นลำดับถัดไป ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ เรื่อง  จึงขอย้ำอีกครั้ง การจับมือกับพลังประชารัฐ จะจับมือพรรคนั้นพรรคนี้ เป็นเรื่องเพ้อฝันทั้งสิ้น หรือมีเจตนาแอบแฝงที่จะฉุดรั้งความนิยมของประชาชนออกไปจากเรา ขอให้ประชาชนมั่นใจ วันนี้พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นเป็นรัฐบาลให้ได้ เพื่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่เกิดขึ้น และจะไม่ขอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว ขอความเป็นธรรมให้พรรคเพื่อไทยและประชาชนด้วย” นายภูมิธรรม กล่าว

ฉงน!! ไร้ชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ลงปาร์ตี้ลิสต์ รวมไทยสร้างชาติ ‘ส.ส.เขต’ เริ่มเขว ‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ+’ อาจล่ม

อย่างที่เราๆ รู้กันตามปฏิทินของ กกต.ว่า วันที่ 3 - 7 เม.ย.66 เป็นวันรับสมัคร ส.ส.เขต ส่วน วันที่ 4 - 7 เม.ย.66 เป็นรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) เหตุที่ต้องกำหนดรับสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หลังหนึ่งวันก็เพราะกฎหมายเขียนไว้ พรรคไหนจะส่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะต้องส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตก่อน (อย่างน้อยก็หนึ่งเขต)

ตอนนี้ระหว่างทำไพรมารี่โหวต..โผรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แต่ละพรรคก็ว่อนไปทั่วหน้าสื่อทุกสำนัก

พลังประชารัฐ เรียงลำดับ 1-100 ชัดเจน นำโดยลำดับ 1 ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดทนายกฯหนึ่งเดียวของพรรค โดยรอบนี้ไม่มีชื่อ ‘อ.แหม่ม’ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ที่ประกาศสละสิทธิ์หลังจากที่ทราบว่าชื่อตนเองหลุดไปอยู่อันดับ 24 (ด้วยเหตุยุทธการทีฮูทีอิท)

พรรคเพื่อไทย เรียงตามตัวอักษร ตั้ง ก.เกรียง กัลป์ตินันท์ บ้านใหญ่อุบลราชธานี จนถึง อ.อนงค์ ล่อใจ ซึ่งตอนยื่นสมัครพรรคจะต้องจัดอันดับตัวจริงเสียงจริงใหม่…

น่าสังเกตว่าไม่มีชื่อ 2 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคคือแพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน หรือแม้แต่ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ลือกันไม่เสร็จว่าน่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3

พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีชื่อปล่อยออกมา แต่ก็พอจะคาดหมายกันได้ว่ารอบนี้ ‘จุรินทร์-เฉลิมชัย-นิพนธ์’ ชี้เป็นชี้ตาย และไฮไลต์สำคัญก็คือรอบนี้ ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ขอบาย…นัยว่าเพื่อความสบายใจของสามผู้ยิ่งใหญ่และความเป็นเอกภาพของพรรค

พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.66 ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เคยหลุดปากออกมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ‘บิ๊กตู่’ จะลงสมัครปาร์ตี้ลิสต์ด้วย ทำเอาหุ้น รทสช. พุ่งกระฉูด แต่ถึงนาทีนี้ รทสช. เปิดไต๋แค่แคนดิเดตนายกฯ 2 คน คือ ‘บิ๊กตู่’ กับ ‘บิ๊กตุ๋ย’ (พีระพันธุ์) ไม่มีการบอกว่าลุงตู่จะลงสมัครหรือไม่...?

‘ดร.กมล’ ภท. เล็งต่อยอด ‘เรียนออนไลน์’ เน้นคุณภาพ-เท่าเทียม ผลักดัน จัดตั้ง ‘สถาบันพัฒนาฯ’ สร้างระบบการเรียน-สอนใหม่ ให้มีคุณภาพ

‘ดร.กมล รอดคล้าย’ ทีมการศึกษา ภท. เล็งต่อยอดเรียนออนไลน์ให้มีคุณภาพ เพื่อความเท่าเทียม สร้างระบบใหม่การจัดการสอน เปลี่ยนภาพจำของโรงเรียน นำพาคนไทยให้มีขีดความสามารถแข่งขันระดับโลก

(27 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.กมล รอดคล้าย คณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ ‘พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ’ เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูป และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบาย 'การจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ (Online)'

โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอนโยบายการจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ไว้ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 โดยมองว่าช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องของการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียม สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทุกที่ ทุกเวลา มีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก และจะทำให้ระบบการศึกษาไทยสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีคุณภาพ ในช่วงที่ผ่านมา การศึกษาผ่านระบบออนไลน์ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ตามที่พรรคภูมิใจไทยได้ประกาศนโยบายไว้

“ระบบนี้กำลังจะขับเคลื่อนต่อไปในอนาคต เราเตรียมการอีกอย่างน้อย 3-4 เรื่อง เช่น การจัดการเรียนการสอน หรือเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี เป็นต้น ซึ่งตรงนี้ระบบออนไลน์สามารถจัดการได้ ส่วนการฝึกงาน กิจกรรมกลุ่ม หรือห้องแลป (ห้องปฏิบัติการ) เด็กๆ หรือนักศึกษา ก็มาที่สถาบันได้เหมือนเดิม” ดร.กมล ระบุ

ดร.กมล กล่าวต่อว่า ทุกโรงเรียนในประเทศไทยซึ่งเรียนผ่านออนไซต์ (On-site) ปัจจุบัน เราสามารถสร้างระบบที่เรียกว่า เวอร์ช่วลสคูล (Virtual School) หรือออนไลน์สคูล (Online School) เป็นห้องที่ทำการเรียนการสอนได้ทุกแห่ง จุดเด่นก็คือเด็กๆ ไม่ว่าอยู่ในชนบทห่างไกล หรือโรงเรียนขนาดเล็ก จะได้เรียนกับครูเก่งๆ

นอกจากนี้ยังนำไปสู่อีก 2 ประเด็นหลักๆ ก็คือ เรากำลังจะส่งเสริมพัฒนาคุณภาพของครู ให้ครูสามารถได้รับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากระบบออนไลน์ด้วย

โดยเมื่อครูสอนเสร็จ ก็จัดทำเป็นคลิปการเรียนการสอนของตัวเอง เพื่ออัปโหลดลงไปในระบบออนไลน์ เมื่อเด็กๆ คลิกเข้าไปชม ครูที่สอนก็จะได้รายได้ เป็นรายได้แบบเพย์-เพอร์-วิว (Pay Per View) หรือชำระเงินเพื่อการรับชม แต่การจ่ายเงินตรงนี้ เด็กไม่ได้เป็นผู้จ่าย รัฐจะเข้ามาเป็นผู้จ่ายแทน

‘สกลนคร’ ส่อเดือด หลังแบ่งเขตใหม่เป็น 7 ที่นั่ง ‘เพื่อไทย’ ไม่น่าพลาด!! จ่อกวาดยกจังหวัดตามเคย

สนามเลือกตั้ง จ.สกลนคร ที่มีเก้าอี้ ส.ส.เพิ่มจาก 6 เป็น 7 ที่นั่ง ทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งส่อเค้าดุเดือด แต่ละพรรคการเมืองต้องปรับแผนการลงพื้นที่กันใหม่หลายจุด โดยเฉพาะแชมป์เก่าอย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่กวาด ส.ส.ยกจังหวัด

เขตที่ 1 อ.เมือง (ยกเว้น ต.หนองลาด ต.โคกก่อง ต.ม่วงลาย ต.ดงชน และ ต.โนนหอม) อภิชาติ ตีรสวัสดิชัย แชมป์เก่าหลายสมัยจากพรรค พท. ที่คอยผลักดันงบประมาณลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ลงป้องกันพื้นที่ตนเอง เจอคู่ต่อสู้อย่าง ตวงสิทธิ์ พงษ์พิศ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นักธุรกิจหนุ่ม ชูนโยบายพรรค เน้นนิวโหวตเตอร์จากสถานศึกษา ขณะที่ บ่าวนิก สิรภพ สมผล พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) คนรุ่นใหม่ไฟแรง ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น สานต่อการเมืองจากพ่อแม่เป็น ส.อบจ. รอบนี้ขอสู้สนามใหญ่ และ ‘ณปภัช เสโนฤทธิ์’ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คนรุ่นใหม่พกความรู้มาแน่นเอี้ยดลุยขอคะแนนเสียงแอบลุ้นไกล ๆ

เขตที่ 2 อ.กุสุมาลย์ อ.โพนนาแก้ว อ.โคกศรีสุพรรณ อ.เต่างอย และ อ.เมือง (เฉพาะ ต.โคกก่อง ต.ม่วงลาย ต.ดงชน และ ต.โนนหอม) ‘มหานิยม’ นิยม เวชกามา แชมป์เก่าหลายสมัยอีกคนพรรค พท. มีผลงานอภิปรายในสภาแก้ปัญหาช่วยชาวบ้าน ส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาขวัญใจชาวบ้าน จะลงป้องกันตำแหน่ง เจอคู่แข่งอย่าง ‘ชาญชัย งอยผาลา’ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อดีตนักการเมืองท้องถิ่น รอบที่แล้วลงสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พ่ายแพ้ราว 1 หมื่นเสียง คราวนี้หวังล้างตาอีกครั้ง

ขณะที่ 'กัญญาภัค ศิลปะรายะ' พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นักการเมืองท้องถิ่น อดีตนายก อบต.โพธิไพศาล สาวมาดมั่นขอท้าชิงแชมป์เก่า ส่วน 'กฤษณะ พุฒซ้อน' พรรค พปชร. นักธุรกิจในพื้นที่ อ.เต่างอย ยังมี 'ชาตรี หล้าพรหม' พรรค ปชป. นักการเมืองท้องถิ่น และ 'ภูเบศวร์ เห็นหลอด' พรรค ก.ก.นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยที่หวังลุ้นแต้มด้วย

เขต 3 อ.อากาศอำนวย อ.พรรณานิคม อ.เมืองสกลนคร (เฉพาะ ต.หนองลาด) อ.วานรนิวาส (เฉพาะ ต.นาซอ) 'จิรัชยา สัพโส' พรรค พท. ลูกสาว 'พัฒนา สัพโส' ส.ส.เขต 3 ที่ส่งลูกสาวลงป้องกันตำแหน่งแทนพ่อ ต้องเจอคู่ต่อสู้คือ 'สาคร พรหมภักดี' จากพรรค ปชป. ที่คร่ำหวอดการเมืองมานาน อดีต ส.ส.หลายสมัย แม่ทัพนำทีมพรรค ปชป.สู้ศึกเลือกตั้ง จ.สกลนคร ที่หวังขอพลิกคว้าเก้าอี้ และ 'ภิญโญ ขันติยู' พรรค ก.ก.

เขตที่ 4 อ.กุดบาก อ.วาริชภูมิ อ.ภูพาน อ.นิคมน้ำอูน อ.ส่องดาว (ยกเว้น ต.ท่าศิลา) 'พัฒนา สัพโส' ที่ย้ายจากเขต 3 มาลงเขต 4 มั่นใจไม่น่าพลาด ต้องเจอคู่แข่งอย่าง 'พงษ์ศักดิ์ สุทธิคีรี' สวมเสื้อพรรค ปชป. นักการเมืองท้องถิ่นและนักกฎหมาย และ 'ขจรศักดิ์ เบ็ญชัย' พรรค ก.ก. นักกฎหมาย อดีตนักการเมืองท้องถิ่น

‘กรณ์’ ร่วมดีเบตเวที จ.สงขลา ยก ‘จูรี’ เป็นโรลโมเดล ปลุกความหวัง-สร้างโอกาส เติมเต็มรอยยิ้มให้คนใต้

เมื่อวานนี้ (25 มี.ค. 66) ที่จังหวัดสงขลา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าร่วมเวทีดีเบต ‘อนาคตประเทศไทย’ โดยมี 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสงขลา ได้แก่ นายจูรี นุ่มแก้ว, นายกัณฑ์ นวกัณฑ์, รศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ และนายพงศธร สุวรรณรักษา ร่วมให้กำลังใจ พร้อมด้วยกองเชียร์มาร่วมฟังการแสดงวิสัยทัศน์กันอย่างคึกคัก ซึ่งแม้ว่าจะมาจากต่างพรรคการเมือง แต่ส่วนใหญ่มาทักทายและรุมขอถ่ายรูปกับจูรี ขวัญใจคนใต้กันอย่างเนืองแน่น

โดยนายกรณ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า โดยส่วนตัวมีความรักผูกพันกับพี่น้องชาว จ.สงขลา และเพิ่งเข้าร่วมกิจกรรมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลาไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการว่ายต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เพื่อร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ จ.สงขลา ทั้งนี้เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของพรรคชาติพัฒนากล้า เรามียุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้คนใต้ทุกคนมีโอกาสร่ำรวยเหมือนคนที่ชื่อ ‘จูรี นุ่มแก้ว’ ดาวติ๊กต่อก ภาคใต้ หนึ่งในว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชน คุณสมบัติเด่นของจูรี คือ รอยยิ้ม ยิ้มได้เพราะได้ทำงานที่ดี มีเงินในกระเป๋า มีรายได้เพียงพอ ต่อราคาสินค้าที่สูงขึ้นทุกวัน พรรคชาติพัฒนากล้าจะมาเติมรอยยิ้มให้พี่น้องชาวใต้ทุกคน ด้วยการสร้างโอกาสดี มีงานดี มีเงินในกระเป๋า ราคาสินค้าต้องไม่แพง

อย่างไรก็ตาม นอกจากรอยยิ้มแล้ว คุณสมบัติอีกอย่างของจูรี ที่พี่น้องชาวใต้ชื่นชอบ คือ การลงมือทำจริง ในช่วงที่เขาเรียนหนังสือ ขณะนั้น ครอบครัวมีฐานะยากจน จูรีต้องแบกกระสอบข้าวสารในตอนกลางวัน และช่วงค่ำมาทำงานที่เซเว่น เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือ แต่หลังจากที่เขามีโอกาส สร้างรายได้หลายสิบล้าน แต่เมื่อคิดจะซื้อบ้านให้คุณแม่อุไร นุ่มแก้ว ธนาคารกลับไม่อนุมัติ เพราะเขาติดแบล็กลิสต์ในช่วงโควิด แม้ตอนนี้ชำระหนี้หมดแล้ว ก็ยังต้องติดอยู่ในระบบอีก 3 ปี ถึงจะหลุด เรื่องนี้เป็นปัญหาที่พรรคชาติพัฒนากล้าประกาศชัดว่า ต้องแก้ปัญหาให้กับพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ ให้มีโอกาสกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่ต้องพึ่งหนี้นอกระบบเหมือนกับที่จูรีต้องทำ

'ลุงตู่' นายกฯที่ สร้างความสัมพันธ์อันดี ต่อมิตรประเทศ

'ลุงตู่' ประกาศยุบสภาไปเรียบร้อย หากย้อนคิดถึงการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีคนนี้ นับแค่ในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ถามว่ามีเรื่องไหนที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร ต้องบอกว่า เรื่องสร้าง 'มิตรประเทศ' ของลุงตู่ โดดเด่นเป็นอย่างมาก

ตลอด 4 ปีมานี้ แม้จะมีช่วงโควิด-19 ระบาด จนต้องหยุดการเดินทางไปยังต่างประเทศอยู่บ้าง แต่ที่ผ่านมา ถือว่านายกฯ ประยุทธ์ออกเดินทางไปเยี่ยมเยือน รวมทั้งไปร่วมงานประชุมครั้งสำคัญๆ ในระดับนานาชาติอยู่ตลอดเวลา 

แต่ที่ถือว่าเป็นภาพที่น่าจดจำสำหรับการ 'ผูกมิตร' และรวมถึงการสร้างภาพลักษณ์อันดีให้ประเทศ คงต้องยกให้กับ 2 เหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ นั่นคือ การเป็นผู้นำในการประชุมเอเปค และการเดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2565

สำหรับการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย นายกประยุทธ์มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือข้อราชการ แต่ประเด็นสำคัญที่ฉายภาพชัดกว่านั้น นี่คือการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งถือเป็นการสานสัมพันธ์ที่ขาดหายไปของมหามิตรอย่างซาอุดีอาระเบียได้เป็นอย่างดี

‘เสี่ยเฮ้ง’ แจง ไม่ลงเขต 1 ชลบุรี ขยับขึ้นปาร์ตี้ลิสต์แทน เตรียมลุยสู้ศึกหาเสียง หนุน ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯ อีกสมัย

‘สุชาติ’ แจงส่งน้องเมียลงเขต 1 ชลบุรี รทสช.แทน เหตุ ‘สนธยา’ ไม่รับคำท้าศึกช้างชนช้าง เลือกขึ้นปาร์ตี้ลิสต์พท. เลยตัดสินใจขยับไปบัญชีรายชื่อ ลุยสู้ศึกใหญ่ โซนตะวันตก-กลาง-ตะวันออก หนุน ‘ประยุทธ์’ นั่งนายกฯต่อ ลั่นต้องชนะสงครามเลือกตั้ง ไม่แค่ชนะศึกเขตที่เป็นแชมป์เก่า

(27 มี.ค.66) เมื่อวานนี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ แทนการลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 1 ซึ่งเป็นแชมป์เก่า ว่า ตนไม่เพียงแต่รับผิดชอบพื้นที่ จ.ชลบุรี หรือภาคตะวันออกเท่านั้น แต่ยังต้องดูแลพื้นที่ยุทธศาสตร์ภาคกลาง และภาคตะวันตก ให้กับพรรคด้วย การลงในแบบบัญชีรายชื่อจะสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

‘ลุงป้อม’ เมินไม่ติดโพล 1 ใน 10 นายกฯ ของคนกรุงเทพฯ เผย ไม่ต้องปรับยุทธศาสตร์ ชี้!! กระแสนิยมดีขึ้นตลอด

‘ประวิตร’ เมิน ไม่ติดโพล 1 ใน 10 นายกฯของคน กทม. ชี้ ปชช. เป็นคนตัดสินนายกฯ คนที่ 30 ยัน ‘นฤมล’ ไม่งอน-ไม่น้อยใจ ทิ้งปาร์ตี้ลิสต์เอง

(26 มี.ค.66) ที่จ.กำแพงเพชร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าป่วยต้องให้หมอเข้าไปรักษาที่มูลนิธิอนุรักษ์รอยต่อ 5 จังหวัด ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยว่า  ไม่ได้ป่วย ยังแข็งแรงดี และย้อนถามผู้สื่อข่าวว่าใครเป็นคนบอก

เมื่อถามถึงผลสำรวจของนิด้าโพล คนกทม. ที่ไม่ปรากฏชื่อตนอยู่ในลิสต์ 10 อันดับแรกนายกฯ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาเอาชื่อออก ให้ไปถามคนจัดโพลเอง ยืนยันไม่สูญเสียความมั่นใจ และไม่ต้องปรับยุทธศาสตร์อะไร  กระแสนิยมของตนนั้นดีขึ้นตลอด  เมื่อถามย้ำว่า ผลโพล เชื่อได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ว่ากันไป เรื่องของโพลคือเรื่องของโพล มั่นใจกระแสของตัวเองและประชาชน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของประชาชนเป็นคนเลือก หากเลือกก็พร้อม ก่อนที่จะย้อนสื่อมวลชนว่า คุณเลือกหรือไม่ 

‘เพื่อไทย’ ลุยปราศรัยใหญ่ อ้อนแลนด์สไลด์ชาวนครปฐม  ชี้!! เลือกตั้งครั้งนี้ตัดสินชะตาอนาคตประชาชน-ประเทศ

‘เพื่อไทย’ บุกปราศรัยใหญ่นครปฐม ‘อุ๊งอิ๊ง’ อ้อน ขอคนนครปฐมเลือก พท.ให้แลนด์สไลด์ ขณะที่ ‘ณัฐวุฒิ’ แปลงเพลงถึง ‘บิ๊กตู่’ “เลือกลุงตู่ ไม่เชื่อลองดูจะฉิxหายกันทั้งชาติ”

(26 มี.ค.66) ที่สนามกีฬากลาง 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดปราศรัยใหญ่ นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครปฐมทั้ง 6 เขต ทั้งนี้ มีประชาชนมารอรับฟังคำปราศรัยเต็มพื้นที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเวทีปราศรัยครั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัว ไม่ได้เดินทางมาร่วมด้วย

โดย นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า หากพี่น้องชาวนครปฐมจับมือกับพรรค พท. เรามาคิดใหญ่ร่วมกัน คิดใหญ่เรื่องแรกเหตุแห่งทุกข์คือ 3 ป.เข้ามายึดอำนาจ และสืบทอดอำนาจเป็นรัฐบาลมาอีก 4 ปี รวมแล้ว 9 ปี ตนจึงอยากเชิญชวนประชาชนร่วมกันกำจัดเหตุแห่งทุกข์ โดยใช้โอกาสนี้เข้าคูหากาเอาเหตุแห่งทุกข์ เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกไป หากเราไม่เอาเหตุแห่งทุกข์ออกไป ความทุกข์เราไม่เหือดหาย การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการตัดสินชะตาอนาคตของประชาชนและประเทศ โดยเฉพาะชาวนครปฐม

นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกอดีตผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ปราศรัยว่า ความเป็นจริง พรรค พท.เราต้องได้เป็นรัฐบาล เพราะเราได้ที่ 1 เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านเขาเอาที่ 1 เป็นแต่นายกรัฐมนตรีเขาเอาที่ 2 เป็น ไม่มีทางเลือกอื่นต้องสามัคคีกันเลือก พท. เราต้องแลนด์สไลด์และในอดีตที่ผ่านมาเราทำมาแล้ว วันนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลือกลูกสาวมาทำหน้าที่แทน คนนครปฐมเลือกหรือไม่ นครปฐม 6 ที่นั่งไม่ต้องเกรงใจบ้านใหญ่ ไม่ต้องมีนักเลง ระบบประชาธิปไตยเสมอภาคกัน มีสิทธิ์ลงคะแนนได้ 1 คะแนน ขอบคุณนายทักษิณที่ให้แก้วตาดวงใจมา นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ชื่อแพทองธาร ถาเลือกเรา 2 ที่นั่งให้บ้านใหญ่ 4 ที่นั่ง เราเจ๊งเลย แต่ถ้าให้เรา 6 ที่นั่งบ้านใหญ่ศูนย์เลย 

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า พรรค พท. รู้สึกอบอุ่นมากที่พี่น้องมากันเต็มที่ขนาดนี้ แม้แดดร้อนแต่พี่น้องก็ยังมา แล้วแบบนี้คนท้อง 8 เดือนจะไม่มาได้อย่างไร วันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมใกล้เข้ามาแล้ว ย้ำว่า หากพรรค พท.ได้เป็นรัฐบาลจะพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านการเกษตร เมื่อได้ผลผลิตมากขึ้น พรรค พท.จะทำให้ผลผลิตของพี่น้องเกษตรไปทั่วโลก เราไม่สามารถแบ่งใจให้พรรคอื่นได้ เรามีแค่ประชาชาสนับสนุนเท่านั้น เราไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย วันนี้มาขอให้พี่น้องช่วยหันเลือก พท.ให้แลนด์สไลด์ทั้งนครปฐมได้หรือไม่ หากเราได้เบอร์เมื่อไหร่เราจะกลับมาบอกอีกครั้งและขอให้เลือกพรรค พท.ให้แลนด์สไลด์ทั้งนครปฐม

ด้าน นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า แต่ก่อนบนอะไรจะบนด้วยหัวหมู แต่ตอนนี้เหลือแค่แคปหมู ในยุคพล.อ.ประยุทธ์ เจ้าที่ยังกินไม่อิ่ม การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องทำให้นครปฐมเป็นจังหวัดที่เลอฆ่าพล.อ.ประยุทธ์ให้ได้ ไม่ใช่ฆ่าด้วยอะไร แต่ต้องฆ่าด้วยการออกจากบ้านไปกา พท.ทั้ง 2 ใบ โพลทุกสำนักขานรับน.ส.แพทองธาร สะท้อนว่าเขาต้องการมองเห็นอนาคตข้างหน้า ไม่ใช่หันไปก็เห็นแต่พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมองไม่เห็นอนาคตเลย เห็นแต่อดีตที่เจ็บปวด แก้รัฐธรรมนูญมาให้ตัวเองอยู่ต่อ 8 ปี แล้วยังจะอยู่ต่ออีก พี่น้องจะไปกับเขาหรือไม่

‘ลุงป้อม’ อ้อนชาวกำแพงเพชร เลือก ‘พปชร.’ ยกจังหวัด เผย “ผมพูดไม่เก่ง แต่ทำงานเพื่อประโยชน์ของปชช.ได้”

พล.อ.ประวิตร' นำ พปชร.ปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครกำแพงเพชร ยกจังหวัด ลั่น!! ถึงจะพูดไม่เก่ง สามารถประสานประโยชน์เพื่อ ปชช. เชื่อคนไทยส่งนั่งนายกฯคนที่ 30 

(26 มี.ค.66) ณ ลานตลาดนัดวันอาทิตย์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัย นําโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร., นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรค พปชร., นายวราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบาย โดยมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร จ.กำแพงเพชร ทั้ง 4 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน ประกอบไปด้วย...

นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท, นายไผ่ ลิกค์ เขต 1, นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ เขต 2, นายอนันต์ อำนวยผล เขต 3, นายปริญญา ฤกษ์หร่าย เขต 4 โดยบรรยากาศเวทีปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 10,000 คน มีการชูป้ายข้อความ นายกฯ คนที่ 30 มาแล้ว, ประชารัฐ 700 และเรารักลุงป้อม รวมถึงมีการส่งเสียงเชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้ได้

พล.อ.ประวิตร กล่าวในเวทีปราศรัยกับประชาชนว่า ตนรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางชาวจังหวัดกำแพงเพชร เราจะทำทุกอย่างเพื่อจะก้าวข้ามยากจน ความเจริญรุ่งเรืองของจังหวัดกำแพงเพชรขึ้นอยู่กับความร่วมมือกับชาวกำแพงเพชรและ พปชร. ซึ่งพวกเราพร้อมแล้วที่จะมาทำงานให้กับชาวกำแพงเพชร  เราจะร่วมมือกันที่จะพัฒนาจังหวัดกำแพงเพชรให้เจริญอย่างยั่งยืน พรรคพลังประชารัฐได้คัดสรรคนดี คนเก่งที่จะมาเป็นตัวแทนของประชาชน ขอให้เลือกผู้สมัครของเราทั้ง 4 คนด้วย 

"พรรคพลังประชารัฐ คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้นนโยบายทุกข้อของเราทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ไม่ว่าจะเป็นโครงการบัตรประชารัฐการดูแลผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ รวมถึงการลดราคาน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า ให้กับทุกคน และเราก็จะดูแลผู้สูงอายุ รวมไปถึงแม่และเด็กในทุกช่วงวัย"

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้แก้ปัญหาปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม จะเห็นได้ว่าไม่มีปัญหาภัยแล้งอีกเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีเรา ไม่มีแล้ง อีกต่อไป และเมื่อมีเรา ต้องมีที่ทำกิน ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน ในส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที 

"ขอโอกาสจากทุกคน เราจะนำความรัก ความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติหมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข สันติภาพเกิดขึ้น และมีความเป็นหนึ่งเดียวต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ผมพูดไม่เก่ง แต่ทำงานประสานเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้ และนำพาคนเก่งๆ มาทำงานให้กับประชาชนได้"

ด้านนายวราเทพ กล่าวปราศรัยว่า ในตอนนี้จังหวัดกำแพงเพชร เป็นจังหวัดที่เนื้อหอมมากที่สุดเพราะทุกพรรคการเมืองอยากจะได้ทีม ส.ส.ชุดนี้ไปอยู่ด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าเป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ เมื่อส่งลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วประชาชนจะให้การสนับสนุน ตอนนี้ขอเพียงแค่ชาวกำแพงเพชรให้สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และสานต่อนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพราะเมื่อครั้งที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงไม่สามารถดำเนินการนโยบายต่างๆ ได้ทั้งหมด แต่ครั้งนี้ หาก พล.อ.ประวิตร ได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี นโยบายทุกข้อที่พรรคพลังประชารัฐประกาศเอาไว้กับประชาชน จะถูกผลักดันและดำเนินการในทันที

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัยว่า จังหวัดกำแพงเพชรไปจังหวัดที่มีโอกาสที่จะมีตัวแทนเข้าไปเป็นต่อต่อแทนทำหน้าที่แทนทุกคนถึงห้าท่าน ต้นการันตีว่าทั้งห้าคนทำงาน ส.ส.อย่างมีประสิทธิภาพ ฝากไปบอกพรรคอื่นเลยว่าใครที่คิดจะเข้ามาตีกำแพงเพชรเป็นไปไม่ได้   เพราะเราจะตั้งป้อมไว้หน้ากำแพงเพชรใครเข้ามาเอาตังปลอมเอาไว้ทั้งหมดไม่ให้ใครเข้ามาตีกำแพงเพชรได้

"พลังประชารัฐของเราจะก้าวข้ามความขัดแย้งสีเหลืองสีแดงจะไม่มีเกิดขึ้นในประเทศไทยอีก เรามีธงชาติคืนเดียวสามสีคือขาวแดงน้ำเงิน ชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ทรงอยู่คู่กับคนไทยนำประเทศไทยไปสู่ความมั่นคงมั่งคั่งอย่างยังยืน ผมขอประกาศทำสงครามกับที่ดินเถื่อน ที่ทำกินของพี่น้องประชาชนจะต้องไม่มีที่ดินเถื่อน"

ร.อ.ธรรมนัส กล่าว พรรคพลังประชารัฐมีบุคลากรที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ อย่างเช่น ท่านวราเทพ ที่ถือเป็นเพชรเม็ดงามชาวกำแพงเพชร เพราะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายดี ๆ เพื่อประชาชนอย่าง บัตรประชารัฐ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะเราจะดูแลกลุ่มเปราะบางอย่าง ผู้สูงอายุ 

‘อุ๊งอิ๊ง’ เผย เปลี่ยนความจริงไม่ได้ที่เป็นลูกพ่อ ดีใจ!! โพลโตขึ้นตามท้อง สะท้อน ปชช. วางใจ 

‘อุ๊งอิ๊ง’ รับหวัง ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน เผย “เปลี่ยนความจริงไม่ได้ที่เป็นลูกพ่อ” ถ้ายุติธรรมจริงคงไม่เป็นเช่นนี้ ยันปมนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค ขอบคุณและดีใจเห็นโพลโตตามท้อง 

(26 มี.ค.66) ที่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานส.ส.พรรค พท. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครปฐม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเดินทางมาพูดคุยกับผู้ประกอบการค้าสุกรใน จ.นครปฐมที่ห้องประชุม สนามกีฬากลาง 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม

จากนั้น เวลา 17.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน พร้อมให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพ่อ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนประเทศญี่ปุ่นว่า พร้อมกลับประเทศไทยภายในปีนี้และรับโทษนั้น ว่า ตนได้คุยกับนายทักษิณแล้ว ซึ่งประโยคเช่นนี้เราก็ได้คุยในครอบครัวตลอด ถ้าเหตุการณ์ปกติที่คดีต่าง ๆ ดำเนินไปตามปกติ ไม่ใช่หลังรัฐประหาร ก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้ แต่ที่ต้องเป็นแบบนี้ หากกระบวนการยุติธรรม ยุติธรรม มันก็ดี อย่างไรก็ตาม ตนเคารพการตัดสินใจของนายทักษิณอยู่แล้ว เพราะเขาออกไปนอกประเทศนานแล้ว เขาจะตัดสินใจอย่างไรเราก็เคารพการตัดสินใจของเขาอยู่แล้ว และเป็นกำลังใจให้

“อิ๊งค์พูดจากใจเลยว่า อิ๊งค์เปลี่ยนความจริงไม่ได้ที่อิ๊งค์เป็นลูกของคุณพ่อ และอิ๊งค์ก็ไม่อยากจะเปลี่ยนด้วย ฉะนั้น การนำพรรคเพื่อไทยต่อไปสำหรับการเลือกตั้ง และยื่นนโยบายสู่ประชาชน เป็นหน้าที่หลักซึ่งเราจะทำต่อไป ในสิ่งที่คุณพ่อพูด ถ้าจะเกิดอะไรขึ้น และเป็นผลอย่างไร ก็อยากให้เป็นส่วนของท่าน เพราะท่านพูดอยู่แล้วว่าการที่จะกลับมาหรืออะไรก็ตามไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย และบอกว่าจะไม่มีการทำอะไรทั้งสิ้น คุณพ่อพูดมาก่อนหน้านี้ตั้งหลายเดือนแล้ว ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เมื่อถามว่า นายทักษิณระบุเวลากลับประเทศแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้บอก ถ้าบอกแล้วตนอาจจะตื่นเต้นจนหลุดไปแล้วก็ได้ ทั้งนี้ จากใจตนหวังตลอด ทำไมเราจะไม่อยากให้คุณพ่อกลับบ้าน ทำไมจะไม่อยากให้คุณตากลับมาเลี้ยงหลาน โดยเฉพาะตอนนี้ที่เหลือไม่ถึง 2 เดือนก็จะคลอดแล้ว ฉะนั้น มีความหวังแน่นอน 

ถามต่อว่า การที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้ เกี่ยวข้องกับการหาเสียงแบบแลนด์สไลด์ เพื่อจะนำนายทักษิณกลับมาประเทศไทยได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราถามหัวหน้าและทุกคน คุณพ่อก็คือหนึ่งในแรงใจของเรา นั่นเป็นสิ่งที่เถียงไม่ได้ เป็นกำลังใจสำคัญ ท่านเป็นคนก่อตั้งพรรคตั้งแต่ไทยรักไทย ฉะนั้น ตอนนี้ไม่เกี่ยวกัน 

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า ตัวชี้วัดที่แท้จริงคือประชาชนก่อนการเลือกตั้ง ข้อเท็จจริงปรากฏว่า คนอีกกลุ่มหนึ่งพยายามใช้สถานการณ์นี้ กล่าวหาและโจมตีพรรค พท. เสมือนต้องการดิสเครดิตแลนด์สไลด์ วิธีการแบบนี้ปรากฏขึ้นเมื่อเขามีโอกาส พรรคพท.จึงมองว่า ท่านเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของคนที่รักไทยรักไทย พลังประชาชน ความเชื่อความศรัทธาเราห้ามไม่ได้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมนี้อยู่แล้ว แต่หากใช้ประโยชน์นอกเหนือข้อกฎหมายจนพรรคเสียหาย พรรค พท.ก็ต้องใช้สิทธิของเรา

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วิจารณ์ถึงพรรค พท.ว่าระวังจะแลนด์สไลด์ออกนอกเลน น.ส.แพทองธาร นิ่งครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “นายกฯ เป็นคนครีเอทีฟเนอะ ให้ท่านครีเอทีฟไป เราก็เดินหน้าหาเสียงต่อ” 

เมื่อถามถึง กรณีมีรายงานข่าวรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน แต่ไม่ปรากฏชื่อของ น.ส.แพทองธาร ที่ถูกจับตาว่าอาจเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท. น.ส.แพทองธาร หันไปถามนพ.ชลน่านว่า “เห็นว่าจะสรุปรายชื่อกันเมื่อไหร่” 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในวันที่ 26-28 มีนาคม เราจะส่งรายชื่อผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและเขต ให้ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้ความเห็นชอบหรือไพรมารีโหวต ซึ่งบัญชีรายชื่อที่ปรากฏไปแล้ว ก็ต้องมาฟังความเห็นว่าประชาชนในเขตเลือกตั้งทั้งประเทศเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ซึ่งกรรมการบริหารจะเป็นด่านสุดท้ายในการประกาศรายชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีควรเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ไม่จำเป็น จะมีหรือไม่มีก็ได้ เราก็ทำหน้าที่ของเราต่อ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในจุดของตนจะเดินหน้าทำเพื่อประชาชนต่อไป ในฐานะอะไรก็ได้ เพราะประเทศไม่ไหวแล้ว และต้องการการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก

เมื่อถามว่า นายทักษิณให้การสนับสนุนและได้ฉันทามติจากประชาชนแล้ว หากจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับที่หนึ่ง พร้อมหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “เขินเลย อิ๊งค์คิดว่าขอคนที่เหมาะสมและดีที่สุด เป็นอย่างนั้นดีกว่า”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top