Wednesday, 14 May 2025
SPECIAL

ทหารพรานที่ 2110 รวบหนุ่มเดชอุดม เดินทางมารับยาบ้า 160,000 เม็ด ที่บ้านนาตาล ได้ค่าจ้าง 50,000 บาท

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 21.40 น. ร้อย.ฉก.ทพ.2110 ฉก.ทพ.21, ชปข.กอ.รมน., ฝ่ายปกครอง อ.ดอนตาล, ชปข.7 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, ศขย.ฝขว.ศปก.ทบ. และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า ได้มีชายต้องสงสัยแบกกระสอบอยู่ริมถนนข้างวัดนาตาลศรีลาวาส พื้นที่ บ.นาตาล ม.8 ต.ดอนตาล อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร แล้วนำไปซุกซ่อนไว้ในป่าข้างถนน เจ้าหน้าที่จึงได้บูรณาการจัดกำลังเข้าตรวจสอบตามที่แหล่งข่าวแจ้ง 

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นกระสอบสีฟ้า ซึ่งคาดว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้กำลังซุ่มเฝ้าตรวจและวางกำลังตามเส้นทางที่คาดว่าน่าจะมีคนมาเอาสิ่งของที่ซุกซ่อนอยู่ป่าริมถนน จนกระทั่งเวลา 02.00 จนท.ได้เข้าตรวจสอบวัตถุที่ซุกซ่อนอยู่ในป่าริมถนน เมื่อเปิดดูภายในพบว่าเป็นยาบ้าห่อด้วยกระสอบปุ๋ย จำนวน 2 ก้อน บรรจุอยู่ในกระเป๋าสีน้ำตาล 1 ใบ ในขณะที่ จนท.กำลังตรวจสอบ ได้มีรถปิคอัพ คันหนึ่ง ขับขี่มาตามถนนหมายเลข 2034 จาก อ.ดอนตาล แล้วเลี้ยวขวามุ่งหน้ามายังจุดที่ จนท.กำลังตรวจสอบห่างประมาณ 5 เมตร  จนท.จึงได้แสดงตัวและทำการตรวจค้นภายในร่างกายและยานพาหนะ ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้น จนท.จึงได้ตรวจสอบพบว่า โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ภายในโทรศัพท์มีหลักฐานการติดต่อในการรับส่งยาเสพติด(ยาบ้า)

‘นิพนธ์’ ขึ้นปราศรัย อ้อนชาวสงขลา เทคะแนนให้ ‘ปชป.’ ลั่น!! เลือก ‘ปชป.’ นโยบายที่ปชช. คาดหวังจะเป็นจริง

(9 เม.ย.66) ที่เวทีปราศัยย่อย ต.บ้านไร่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ผอ.เลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า หากเลือกพรรประชาธิปัตย์สิ่งที่พี่น้องประชาชนคาดหวังนั้นจะเป็นจริงอย่างแน่นอน ทั้งนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี นโยบายออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง รวมทั้งนโยบายที่ดำเนินการมาในช่วงที่เป็นรัฐบาลคือการประกันรายได้เกษตร ในพืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ครองใจเกษตรกร และจะต่อยอดไปยังการประกันรายได้อาชีพอื่น ๆ นอกจากเกษตรกร ตลอดจนการประกันรายได้ให้แก่ประเทศ

นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า ขอให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นในพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 ว่า นโยบายที่ประกาศไปทุกนโยบายนั้น ทำได้จริงอย่างแน่นอน ขอพี่น้องประชาชนได้ให้ความไว้วางใจเลือกทั้งพรรคทั้งคน เพื่อให้ได้ส.ส.และเป็นฝ่ายบริหารไปขับเคลื่อนนโยบายที่จะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

‘ชัยวุฒิ’ ปราศรัยปทุมเดือด ชี้!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตัวหลอก ฟันธง!! เลือก ‘พท.’ ได้เศรษฐาเป็นนายกฯ แน่นอน

‘ชัยวุฒิ’ ปราศรัยปทุมเดือด ให้ 2 ทางเลือก ‘เศรษฐา’ อยากเป็นนายกฯถ้าไม่ทำตามคำสั่งนายใหญ่ต้องไปเป็นน้องเขย โชว์ข้อมูล ‘อุ๊งอิ๊ง’ ยังถือหุ้นบริษัท เลือก ‘เพื่อไทย’ ได้เศรษฐาเป็นนายกฯแน่นอน

(9 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. , นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์พรรคภาคเหนือ ลงพื้นที่ช่วย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดปทุมธานี ของพรรค ทั้ง 7 เขต ปราศรัย ที่บริเวณลานสามแยกสวนเกษตร คลอง 3

นายวิรัช กล่าวปราศรัยว่า ตนเป็น ส.ส.นครราชสีมา 10 สมัย ซึ่งเก้าอี้ ส.ส.โคราชในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจะเอา 12 ที่นั่ง จาก 16 ส่วนบัตรประชารัฐถ้าได้รับการเลือกตั้ง มิ.ย.นี้ บัตรประชารัฐจะได้ 700 บาทแน่นอนต่อไปอีก 4 ปี ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปทุมฯ ไม่มีผู้แทนจากพลังประชารัฐเลย แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ก็เดินทางมาตรวจสถานการณ์ป้องกันน้ำท่วมอยู่ตลอด พร้อมยืนยันว่าถ้ามีพล.อ.ประวิตร จังหวัดปทุมธานีจะไม่แล้งและน้ำก็จะไม่ท่วมแน่

ขณะที่ นายชัยวุฒิ กล่าวปราศรัยว่า เห็นบรรยากาศแล้วเชื่อว่าเราจะสามารถปักธงในพื้นที่ปทุมได้แน่นอน พร้อมยืนยันว่า ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเป็นคนดีมีคุณภาพที่สุด และย้ำว่าวันนี้ประเทศชาติมันคงภายใต้การนำของรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำมา 4 ปี โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นเสาหลัก และขอให้ชาวปทุมเลือก พปชร.ทั้ง 7 เขต ทั้งนี้ เราไม่ได้มองพื้นที่ เราต้องทำให้การเมืองนิ่ง รัฐบาลมีเสถียรภาพ ประเทศชาติเข้มแข็ง ซึ่งวางนโยบายส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ เราเสนอนโยบายเอาใจพี่น้องประชาชน ถูกใจคนไม่ถูกต้องเราก็ไม่ทำ พร้อมยอมรับว่า เสียใจกับมันนโยบายของบางพรรค เช่น ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งตนเสียใจและรับไม่ได้ ซึ่งการเมืองมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร และมีบางพรรคไม่คำนึงถึงความมั่นคงของประเทศชาติ ตอนนี้เรามีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รู้หรือไม่ เราใช้ทหารกี่หมื่นกี่แสนคน แล้ววันนี้ประเทศเพื่อนบ้านเขารบกันดูข่าวบ้างหรือไม่ ขณะที่ในยุโรปก็มีสงคราม

ทั้งนี้ เราเป็นประเทศพี่ใหญ่ในอาเซียน ซึ่งอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง เราจึงต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งและต้องมีทหาร เพื่อเข้าไปทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน พร้อมยกตัวอย่างว่า สถานการณ์น้ำท่วมปี 54 ตอนสมัยนั้นแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายกฯ บอกว่าเอาอยู่ ๆ แต่คนที่มาช่วยคือทหาร เราอย่างมาสร้างความเกลียดชังทหาร อย่ามาพูดให้คนเกียจกัน อย่ามาสร้างค่านิยมตามใจวัยรุ่น คุณไม่ต้องรักชาติก็ได้ แล้วใครจะมาปกป้องประเทศแทนทหาร ซึ่งเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ประเทศชาติจะอยู่อย่างงั้นได้อย่างไรฉะนั้นมันต้องมีทหาร และ พปชร. ยืนหยัดเราต้องให้ประเทศชาติมั่นคงแข็งแรง

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคประชารัฐ ซึ่งลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 และเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วยตัวเองชัดเจน แต่พรรคเพื่อไทย แคนดิเดตนายกฯ ไม่ลงสมัคร ส.ส.แล้วไม่เข้าสภา ผมก็ตกใจว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งเป็นพรรคเดียว แต่แคนดิเดคนายกฯ คือหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คือ อุ๊งอิง แพทองธาร ชินวัตร แต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นแคนดิเดตฯ พร้อมยืนยันว่า ผมไม่ได้ขัดแย้ง แค่เปรียบเทียบให้ฟัง เพราะเขาอาจจะให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่าพรรคการเมือง

‘พิธา’ เคลียร์ชัด!! ไม่ได้ค่อนแคะนโยบายแจกเงินดิจิทัล ‘พท.’ ชี้!! เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าให้นามสกุลนโยบายเป็นเหตุแตก 2 ขั้ว

‘พิธา’ ยันไม่ได้ค่อนแคะนโยบายแจกเงินดิจิทัล ‘เพื่อไทย’ หวังสักวันคงได้นั่งหารือ ‘เศรษฐา’ ที่ทำเนียบฯ ชี้ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าให้นามสกุลนโยบายถูกกีดกันจนแตกเป็น 2 ขั้ว

(9 เม.ย.66) ที่ตลาดนัดหน้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ บางแค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ประกาศบนเวทีปราศรัยว่ามีพรรคอื่นค่อนแคะนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ว่า การค่อนแคะไม่ใช่เจตนาของพรรคก้าวไกล ตนหวังว่าวันหนึ่งคงจะได้นั่งลงกับนายเศรษฐาในทำเนียบรัฐบาล และพูดคุยในเรื่องรายละเอียด ในการทำนโยบายนี้ ซึ่งในรายละเอียดหากจะดำเนินการได้ต้องมีการแก้กฎหมายก่อนตาม พ.ร.บ. สินทรัพย์ดิจิทัล

“เราเห็นด้วยในเรื่องที่จะเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์เพราะเราก็มีนโยบายหวยใบเสร็จที่ต้องใช้แอพพลิเคชั่นในการทำเหมือนกัน เราสนับสนุนในการที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ในรายละเอียดก็ยังมีอะไรที่ต้องมาพูดคุยกัน และเรื่องกฎหมายที่จะต้องแจ้งหรือไม่หากไม่ต้องแก้ภายใน 100 วันแรก ก็คิดว่าพี่น้องประชาชนน่าจะชอบมากกว่า แต่หากต้องไปแก้กฎหมายมันก็ต้องใช้เวลา” นายพิธากล่าว

‘เอกนัฏ’ หนุน ‘เกรียงไกร’ หาเสียง อ้อนชาวบางแค กาเบอร์ 2 เผย ปชช. ต้อนรับดี เป็นกำลังใจในการลงพื้นที่อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

เลขาฯ รทสช. ลุย เขตบางแค ถิ่นเก่าเคยเป็นส.ส. ช่วย ‘เกรียงไกร จงเจริญ’ ผู้สมัครเบอร์ 2 ชาวบ้านให้กำลังใจ

(9 เม.ย.66) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลงพื้นที่หาเสียงขอคะแนนสนับสนุนนายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้สมัครส.ส.เขตบางแค(เฉพาะแขวงบางแคเหนือและแขวงบางไผ่) หนองแขม(ยกเว้นแขวงหนองแขม) เบอร์ 2 บริเวณตลาดรักเจริญ และชุมชนวัดวงษ์ลาภาราม เขตหนองแขม ซึ่งเป็นพื้นที่เลือกตั้งเดิมของนายเอกนัฏสมัยเป็นส.ส. ขณะลงพื้นที่มีประชาชนมารอต้อนรับและขอถ่ายรูปกับนายเอกนัฏ และนายเกรียงยไกร ตลอดเส้นทาง พร้อมให้กำลังใจในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ให้สำเร็จ

‘พิธา’ เยือนบางแค ลั่น!! มาเพื่อรักษาแชมป์ ขอปชช. ไว้ใจ ไม่หวั่น!! ‘นิด้าโพล’ อยู่อันดับ 2 ตาม ‘อุ๊งอิ๊ง’ แบบทิ้งห่าง

‘ก้าวไกล’ ลุยหาเสียงบางแค ตั้งเป้ารักษาแชมป์ ด้าน ‘พิธา’ ไม่หวั่น ‘นิด้าโพล’ ตาม ‘อุ๊งอิ๊ง’ แบบทิ้งห่าง อ้อน ชาวอุบลฯ ยังอยู่ในใจเสมอ 

(9 เม.ย.66) ที่ตลาดนัดหน้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ บางแค กทม. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อดีต ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล ช่วยผู้สมัคร ส.ส. เขต 29 และ 30 ลงพื้นที่หาเสียง

โดยนายพิธา กล่าวว่า เราลงมารักษาแชมป์ของเขตบางแค ซึ่งเป็นเขตที่พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจมาตั้งแต่ปี 2562 ไปจนถึงการเลือกตั้งสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ดังนั้นจึงเป็นพื้นที่ที่มีความสม่ำเสมอที่เราจะต้องรักษาแชมป์ อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งนี้เขตบางแคถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เพราะฉะนั้นเวลาหาเสียงก็ต้องอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจว่ามีทั้ง 2 ผู้สมัคร ดังนั้นจึงต้องเร่งรักษาแชมป์และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

“ต้องรีบทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และสร้างภาพจำให้ได้ ต้องให้ทุกคนจำได้ โดยเรามีจุดขายก็คือการทำงานที่ไร้รอยต่อ ถ้าเลือกก้าวไกลทั้งบางแคเหนือ บางแคใต้ ก็จะทำงานอย่างไร้รอยต่อทั้ง ส.ส.และ ส.ก. ขอความไว้ใจกับพี่น้องประชาชนว่าเคยไว้ใจอนาคตใหม่อย่างไร เคยไว้ใจตอนสมัย ส.ก.อย่างไร ก็ขอให้เลือกพรรคก้าวไกล” นายพิธากล่าว

‘จุรินทร์’ นำทัพ ‘ปชป.’ มั่นใจ!! ปักธงนครสวรรค์ โว!! ผู้สมัครทุกคนมีคุณสมบัติพร้อมเป็นส.ส.

‘จุรินทร์’ มั่นใจ 'ปชป.' ปักธงนครสวรรค์ได้ โวผู้สมัครทุกคนคุณสมบัติเยี่ยม พร้อมเป็นส.ส. เชื่อนโยบายโดนใจชาวปากน้ำโพ

(9 เม.ย.66)  ที่จ.นครสวรรค์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะผู้สมัคร ส.ส.ใน 6 เขตเลือกตั้งของ จ.นครสวรรค์ ประกอบด้วย เขต 1 นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร เบอร์ 9 เขต 2 นายจรูญ ลาโพธิ์ เบอร์ 7 เขต 3 นายมารุต โมราสุต เบอร์ 8 เขต 4 นายไพรัช ฤทธิ์บำรุง เบอร์ 7 เขต 5 นางคณิฏฐ์ษา ทองวงศ์พิทักษ์ เบอร์ 11 เขต 6 น.ส.สิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ เบอร์ 7 เดินทางไปที่วัดวรนาถบรรพต (วัดกบ) จ.นครสวรรค์ เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว โดยเจ้าอาวาสอวยพรให้นายจุรินทร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงให้กำลังใจนายจุรินทร์ในการบริหารประเทศเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และชาวไทยทุกคน พร้อมกับขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์และประสบความสำเร็จ 

จากนั้น นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เรามั่นใจว่าเที่ยวนี้ทีมพรรคประชาธิปัตย์ใน จ.นครสวรรค์สามารถปักธงได้ เพราะผู้สมัครทุกคนมีคุณสมบัติที่จะเป็นส.ส.ได้ และมีหลายคนที่ยืนหยัดอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร ที่เคยเป็นส.ส. 2 สมัย ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหนนั้น เราจะพยายามอย่างสุดกำลังและสู้ทุกเขต

เมื่อถามถึงการที่มีคนที่มั่นคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ได้ สะท้อนถึงเรื่องใด นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ อุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อุดมการณ์แห่งความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งในยามนี้ ตนเชื่อว่าประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น เรียกร้องมากขึ้น และต้องการเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยสุจริต ประชาธิปไตยไม่โกง มิฉะนั้นบ้านเมืองจะไปต่อไม่ได้ และประชาธิปไตยก็ไปไม่รอด เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่จะพาประเทศไปข้างหน้าได้ คือต้องเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ และประชาธิปไตยไม่โกง

‘สุวัจน์’ หวั่นปชช. รับอันตราย จากการเดินทางช่วงสงกรานต์ ย้ำ ‘ชพก.’ ดันนโยบายสร้างมอเตอร์เวย์ทั่วไทย แก้ปัญหาจราจร

สุวัจน์ เป็นห่วงความปลอดภัยช่วงหยุดยาวสงกรานต์ เน้นนโยบายสร้างมอเตอร์เวย์ทั่วไทย เร่งเปิดใช้มอเตอร์เวย์โคราช

(9 เม.ย.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ปัญหาการจราจรติดขัด ในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ที่จะมาถึงนี้ 13 - 17 เมษายน 2566 วันสงกรานต์เป็นวันที่มีความสำคัญ สำหรับคนไทยเพราะถือเป็นวันครอบครัว ประชาชนคนไทยใช้โอกาสนี้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่ออยู่กับครอบครัว และทำบุญร่วมกัน  ถือว่าเป็นโอกาสในการเติมพลังแห่งความสุขพลังของครอบครัว เมื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยพร้อมเพียงกันก็จะเกิดปัญหาความไม่สะดวกสบาย ในเรื่องการเดินทางจากปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนสายหลักต่าง ๆ คือ ถนนเพชรเกษมลงใต้ ถนนมิตรภาพไปอีสาน ถนนสุขุมวิทไปภาคตะวันออก และถนนพหลโยธินมุ่งสู่ภาคเหนือ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ สูญเสียชีวิตและผู้บาดเจ็บตลอดจนความสูญเสียทางเศรษฐกิจอีกมาก 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้จากโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจร คือ ถนนที่ไม่เพียงพอ ไฟสัญญาณ และป้ายจราจรต่าง ๆ ที่มีไม่ทั่วถึง และเกิดจากผู้ขับขี่และสภาพรถยนต์ ฉะนั้น อยากให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้จัดทำเส้นทางการจราจรบนทางสายหลักสายรอง ที่จะช่วยระบายรถให้ประชาชนได้รับทราบและวางแผนการจัดจราจรล่วงหน้า 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ควรเร่งการปรับปรุงผิวจราจร การติดตั้งป้ายจราจร สัญญาณไฟต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ขณะเดียวกันผู้ขับขี่ก็ต้องเตรียมพร้อมในการตรวจสอบสภาพรถยนต์ ยาง เบรค ทุกอย่างให้อยู่ในสภาพความพร้อม รวมทั้งการดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยง สุรา และแอลกอฮอล์ต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์เต็มที่ ก็จะช่วยกันลดอุบัติเหตุได้

นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า ได้เน้นย้ำในเรื่องของนโยบาย การแก้ไขปัญหาการจราจรและสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน และเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมให้เพียงพอ เพื่อสนับสนุนภาวะด้าน การลงทุนและการท่องเที่ยวด้วย จึงได้จัดทำนโยบายเสริมสร้างระบบการคมนาคม โดยการสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ทั่วไทย ทั่วทุกทิศ ไปยังทุกภาค เป็นระยะทางประมาณ 2,000 กิโลเมตร 

‘มินทร์’ ฉุน!! ป้ายหาเสียง ‘รทสช.’ โดนกรีดยับกว่า 40 ป้าย ลั่น!! จับได้ต้องตัดมือ ไม่ปล่อยเป็นเยี่ยงอย่าง ทุกอย่างมีต้นทุน 

เลือกตั้งจอมทองเดือด ป้ายผู้สมัคร รทสช. โดนกรีดยับกว่า 40 อัน ‘มินทร์’ ลั่นจับได้ต้องตัดมือ ไม่ปล่อยเป็นเยี่ยงอย่าง

(9 เม.ย.66) นายมินทร์ ลักษ์ตานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางขุนเทียน (เฉพาะแขวงท่าข้าม) เขตจอมทอง (ยกเว้นแขวงบางขุนเทียน) เบอร์ 7 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงเหตุการณ์ป้ายหาเสียงถูกทำลาย ว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงคืนวันที่ 7 - 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวดูเป็นการจงใจทั้งในส่วนป้ายหาเสียงของตน และป้ายหาเสียงของ นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 8 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ถูกทำลายเสียหายด้วยเช่นกัน เพราะป้ายอยู่ติดกันก็โดนเหมือนกันทั้งคู่ ซึ่งในเหตุการณ์ล่าสุดที่ตนดำเนินการแจ้งความนั้นป้ายของตนนั้นโดนไป 20 กว่าป้าย แต่ถ้ารวมก่อนหน้านี้ก็จะประมาณ 40 กว่าป้าย

นายมินทร์ กล่าวว่า เบื้องตนได้แจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่ไปแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังตามสืบอยู่ว่าเป็นใคร หนีไปทางไหน แต่เชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่คล่องตัวอย่างนี้ และไม่น่าจะใช่คนเมา เพราะป้ายบางอันต้องปีนสูงขึ้น คาดว่าจะทำเป็นขบวนการอย่างน้อยต้องเกิน 2 คนขึ้นไป โดยสภาพของป้ายถูกกรีด เลาะหายเหลือแต่โครง บางอันก็กรีดแล้วห้อยซากทิ้งไว้

‘วิโรจน์’ ซัด ‘พีระพันธุ์’ ปมผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ลั่น!! ทัศนคติอันตรายต่อชาติ-สถาบันพระมหากษัตริย์

‘วิโรจน์’ จวก ‘พีระพันธุ์’ ผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ไล่คนเห็นต่างออกนอกประเทศ  ชี้ ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันฯ

(9 เม.ย.66) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาไล่คนเห็นต่างออกจากประเทศ พร้อมผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ล้มเจ้า ซึ่งเป็นผลผลิตของความขัดแย้งทางการเมืองนานนับทศวรรษ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทัศนคติเช่นนี้ต่างหากที่เป็นอันตรายต่อชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สุด เพราะเท่ากับเป็นการดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง และแบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย

นายวิโรจน์ กล่าวว่า พฤติกรรมแบ่งแยกประชาชนแบบนี้ ส่งผลเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มามากพอแล้ว ยกตัวอย่างเช่นคนสร้างภาพว่าตนเป็นคนที่จงรักภักดี สักหน้าอก "ทรงพระเจริญ" แล้วไปตั้งแชร์ลูกโซ่หลอกลวงประชาชน จนมีมูลค่าความเสียหายเป็นพันล้าน หรือกรณีที่มาเฟียทุนจีนสีเทา เอาภาพถ่ายที่ไปถ่ายกับพระราชวงศ์ชั้นสูง ไปแอบอ้างสร้างความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังไม่รวมกลุ่มคนอันธพาล ที่อ้างว่าตนเป็นคนที่ปกป้องสถาบันฯ แล้วไปเที่ยวใช้กำลังระรานประชาชนคนที่คิดต่างไปทั่ว เที่ยวไปแจ้งความในมาตรา 112 ตามอคติของตน สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ต้องถามว่าการปกป้องสถาบันฯ ด้วยวิธีการของอันธพาลแบบนี้ ส่งผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่

‘สิริอร’ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาพ่อค้า-แม่ขาย ชูนโยบายพักหนี้ 3 ปี เชื่อ!! ตัดวงจรหนี้นอกระบบ เพื่อให้ปชช. สร้างตัวได้อย่างยั่งยืน

ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ‘สิริอร’ ภูมิใจไทย ขอรับอาสาช่วยปลดหนี้พ่อค้า-แม่ขาย ทุนจมหนี้บานจากโควิด-19 ชู นโยบายพักหนี้ 3 ปี เปิดกู้ฉุกเฉิน 5 หมื่นบาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย-คนค้ำ เชื่อ ตัดวงจรหนี้นอกระบบได้

(9 เม.ย.66) น.ส.สิริอร ม้ามณี ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 6 เขต 1 พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดุสิต (ยกเว้นแขวงนครไชยศรี) บางรัก พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องหนี้สิน ทั้งหนี้ในระบบ และนอกระบบ ซึ่งหนี้สินเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงโควิด - 19 ระบาดหนัก คนส่วนใหญ่ในพื้นที่มีอาชีพค้าขาย แต่เมื่อประสบกับปัญหาโควิด - 19 มาหลายปี รายได้จากค้าขายหดหายไป เงินทุนจม ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ เพราะไม่มีหลักทรัพย์ ไม่มีคนค้ำ ถูกคิดดอกเบี้ยโหด เมื่อกลับมาค้าขายได้แต่หนี้ก็ยังไม่ลด เพราะดอกเบี้ยเดินไม่มีวันหมด บางรายที่เป็น SME ถึงกับต้องปิดกิจการ เพราะไม่มีรายได้ 

‘เดชรัต’ ประกาศกร้าว!! เสนอ 7 ข้อ หยุดวงจรอุบาทว์  แก้วิกฤติฝุ่น ‘PM 2.5’ ลั่น!! ถ้าเป็นรัฐบาลเห็นผลทันที

(9 เม.ย.66) ‘ก้าวไกล’ ประกาศ 7 ข้อแก้วิกฤติฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ถ้าเป็นรัฐบาลเห็นผลทันที 1 มกรา 67 ดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด-งบตำบลละ 3 ล้านป้องกันไฟป่า- ถทุกคันตรวจสภาพฟรี 3 เดือน ด้านผู้สมัครเชียงใหม่ เขต 1 จี้รัฐบาลแก้ปัญหา หลังปล่อยประชาชนรับผลกระทบ รายได้ธุรกิจกลางแจ้งสูญ 30% ใน 3 เดือน

เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) และหนึ่งในทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล กล่าวถึงมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่กำลังวิกฤติอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือว่า เมื่อวานนี้ (8 เมษายน) ตนเป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล เข้าร่วมเวทีดีเบตประเด็น ‘อนาคตของอากาศบริสุทธิ์จะมาอีกเมื่อไร’ ที่จัดโดยภาคประชาสังคมที่จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมตั้งคำถามต่อพรรคการเมืองว่าจะแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะสั้น ซึ่งหมายถึงรอบฤดูฝุ่น 2567 อย่างไร เนื่องจากหลายครั้ง ผู้กำหนดนโยบายมักกล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในระยะยาว จนประชาชนไม่สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กก็เวียนกลับมาหาประชาชนเป็นประจำทุกปี และหนักขึ้นในปี 2566 นี้

เดชรัตกล่าวว่า ดังนั้น เพื่อทำลายวงจรอุบาทว์นี้ พรรคก้าวไกล ขอประกาศความเปลี่ยนแปลง 7 ข้อ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือวันเริ่มต้นฤดูที่อาจจะเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กรอบหน้า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล

1. ประเทศไทยจะมี ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด และร่างพระราชบัญญัติการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม หรือ PRTR เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อาจผ่านวาระ 1-2 แล้วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความกระตือรือร้นของพรรคการเมืองอื่นๆ แต่พรรคก้าวไกลเราจะยื่นร่างกฏหมายนี้เข้าสู่สภาฯ ภายใน 1 เดือนแรกอย่างแน่นอน

2. จะมีงบประมาณแก้ปัญหาไฟป่าลงสู่พื้นที่ระดับตำบล ตำบลละ 3 ล้านบาท เพื่อการป้องกันไฟป่า การจัดการเชื้อเพลิง การเตรียมทีมอาสา พร้อมทั้งสวัสดิการของทีมอาสา และการปรับระบบการเกษตรแบบไม่เผา พร้อมดำเนินการได้ทันที

3. รัฐบาลไทย จะประกาศใช้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (หรือ GAP) เพื่อไม่ให้นำเข้าสินค้าเกษตรที่มีที่มาจากการเผาทุกประเภท เข้าสู่ประเทศไทย ทำลายวงจรธุรกิจการเผาเพื่อการเกษตร แบบเดียวกับมาตรการที่ประเทศสิงคโปร์ทำ

4. ประกาศทางเลือกให้พี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด อ้อย และข้าว ว่า (1) สามารถนำเศษวัสดุเหลือใช้ เช่น ฟางข้าว ใบอ้อย ต้นข้าวโพด มาขายในราคา 1,000 บาท/ตัน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณผ่านผู้ประกอบการหรือผู้รวบรวมรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตร (2) สามารถซื้อเครื่องจักรในการเก็บเกี่ยว (สำหรับผู้ปลูกอ้อย) และเตรียมดิน (สำหรับผู้ปลูกข้าวและข้าวโพด) โดยขอรับสินเชื่อที่ดอกเบี้ย 0% พร้อมการดูแลหลังการขาย โดยรัฐบาลมีหน้าที่เจรจากับธุรกิจเครื่องจักรทางการเกษตร และทำโครงการร่วมกัน และ (3) สามารถเปลี่ยนไปปลูกพืชอาหารอื่นๆ หรือไม้ยืนต้น โดยรับประกันผลตอบแทนที่ 500-1,000 บาท/เดือน

5. รถยนต์ทุกคันได้รับการตรวจสภาพรถยนต์และควันดำ โดยจะเปิดให้ตรวจสภาพรถยนต์ฟรีในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี (ตุลาคม-ธันวาคม 2566) จากนั้น รถทุกคันต้องติดสติ๊กเกอร์การตรวจสภาพรถที่เห็นได้ชัดเจน หากคันใดยังไม่ติด ต้องไปตรวจสภาพรถทันที เพื่อจบปัญหารถควันดำที่วิ่งทั่วประเทศไทย ซ้ำเติมปัญหา PM 2.5

6. เปิดตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง และโรคระบบทางเดินหายใจสำหรับประชาชนในภาคเหนือตอนบนฟรี พร้อมทั้งสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำหรับผู้เข้าตรวจ เพื่อให้มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในการติดตามเฝ้าระวังโรคในระยะยาว

7. เตรียมพื้นที่ปลอดภัยที่มีเครื่องกรองอากาศ โดยเฉพาะศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ห้องสมุดประชาชน ในทุกๆ อำเภอ โดยสนับสนุนงบประมาณผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาล และโรงเรียน โดยตรง รวมถึงสนับสนุนให้ภาคเอกชนปรับให้พื้นที่ของตน เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน เช่น co-working space โดยรัฐบาลจะสนับสนุนผ่านมาตรการลดหย่อนภาษี พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณเพื่อแจกหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กฟรี หากมีฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน

‘จุรินทร์’ นำทีม ‘ปชป.’  อ้อนชาวพิษณุโลก กาเบอร์ 26 ย้ำจุดยืนประชาธิปไตยไม่โกง ไม่เอาระบอบประธานาธิบดี

‘จุรินทร์’ นำทัพปชป. บุกพิษณุโลก ขอเสียงกาเบอร์ 26 ย้ำจุดยืนประชาธิปไตยไม่โกง เป็นระบบ ‘รัฐสภา’ ไม่ใช่ ‘ระบอบประธานาธิบดี’ โนคอมเมนท์ปม ‘บิ๊กตู่’ ถ้าเป็นนายกฯ ก็อีก2ปี ชี้เป็นไปตามข้อเท็จจริง-ศาลวินิจฉัยแล้ว สุดท้าย ‘พรรคยั่งยืน’  คือทางรอดประเทศ

(9 เม.ย.66) ที่ ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพาณิชยการ จ.พิษณุโลก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต  และ นายอรัญ วงศ์อนันต์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 เดินทางมาปราศรัยย่อยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อแนะนำผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกอบด้วย เขต 1 นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร เบอร์ 5 เขต 2 น.ส. ปุญชรัสมิ์ ศิริสวัสดิ์ เบอร์ 7 เขต 3 นายวิมล สารมะโน เบอร์ 1 เขต 4 น.ส.มุธิตา ทองคำนุช เบอร์ 6 เขต 5 นายพริ้ง บุญแสงสวัสดิ์ เบอร์ 4 และนำเสนอนโยบายที่มาพร้อมด้วยความรับผิดชอบ ตั้งแต่นโยบาย “ประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง” “ชาวนารับ 30,000 ต่อครัวเรือน” “โฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี” “กรรมสิทธิ์ที่ดินทำกินให้กับผู้ทำกินในที่ดินของรัฐ” “เรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่ตลาดต้องการ” “Startup – SME ต้องมีแต้มต่อ” “ตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” “ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาทต่อชมรม” “ธนาคารหมู่บ้าน/ชุมชนแห่งละ 2 ล้านบาท” เป็นต้น โดยมีพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย สนใจเข้ารับฟังการปราศรัยเต็มห้องประชุม และร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่ยืนหยัดหนักแน่น มั่นคงกับประชาธิปัตย์ ไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ ซึ่งปัจจัยนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่คนพิษณุโลกจะพิจารณาตัวผู้สมัคร และตัวผู้สมัครทุกคนของเราก็มีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน พร้อมกับหวังว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์จะปักธงที่จังหวัดพิษณุโลกได้ นอกจากนี้ตนมีความเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์สามารถอยู่ในใจของประชาชนได้ เพราะนอกจากอุดมการณ์ที่เป็นจุดเด่นสำคัญของพรรคแล้ว ยังมีผลงาน และนโยบายที่โดนใจ ซึ่งเป็นทั้งจุดเด่น และจุดแข็งของประชาธิปัตย์ รวมถึงแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งสมประสบการณ์มา ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร พร้อมเข้าไปทำหน้าที่ได้ จึงเชื่อมั่นว่าขณะนี้ประชาธิปัตย์มีเสียงสนับสนุนจากทั่วประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ

เมื่อถามว่า จากการที่ภาคเหนือกำลังผจญกับฝุ่นพิษ PM 2.5 พรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางในเรื่องนี้อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า การแก้ปัญหามลพิษนั้น ต้องแก้ไขที่จุดนั้น หากเป็นมลพิษที่เกิดจากรถยนต์ก็ต้องแก้ที่ควันรถ รวมทั้งเร่งส่งเสริมการใช้รถ EV ให้มากขึ้น และส่งเสริมการใช้รถสาธารณะเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถ EV ให้มากขึ้น รวมถึงการเป็นฮับในการผลิตรถยนต์ EV ในภูมิภาคได้ต่อไป ส่วน PM 2.5 ที่เกิดจากการเผาป่าหรือเผาไร่ ในแต่ละพื้นที่ก็ต้องเคร่งครัดการใช้กฎหมายมากขึ้น รวมทั้งต้องเดินหน้าในการเจรจาระหว่างประเทศ เพราะปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดเฉพาะที่บ้านเรา รวมทั้งการที่จะต้องไปเจรจาร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะขับเคลื่อน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เพื่อให้แก้ไขปัญหามลพิษ และ ปัญหา PM 2.5 แบบครบวงจร

เมื่อถามถึงกำหนดการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้ในช่วงบ่าย ตนจะนำจุรินทร์ออนทัวร์ ไปจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน รวมทั้งเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ 4 ปี ประกันรายได้ของประชาธิปัตย์ เกษตรกรได้อะไร” ส่วนในวันพรุ่งนี้(10เม.ย.) ทีมเศรษฐกิจ ประชาธิปัตย์ จะได้เปิดนโยบายการอัดฉีดเม็ดเงิน 1 ล้านล้าน เข้าสู่ระบบ ขณะที่ทัพหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีกำหนดการไปอีกหลายพื้นที่

เมื่อถามว่าขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองหาเสียงด้วยการชูเรื่องประชาธิปไตย นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจน ตนได้ประกาศไปแล้วว่า จุดยืนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเป็นทางรอดให้กับประเทศก็คือ ประเทศไทยหนีไม่พ้นที่จะต้องเดินหน้าการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องไม่เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะหลายปีที่ผ่านมาประชาธิปไตยครึ่งใบ ต้องประสบแรงเสียดทาน ประสบปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด

“ทางเดียวที่จะต้องขับเคลื่อนประเทศด้วยประชาธิปไตยเต็มใบ ระบบรัฐสภา ไม่ใช่ระบบประธานาธิบดี และเท่านั้นยังไม่พอ จะต้องเป็น ประชาธิปไตยไม่โกงด้วย เพราะถ้าโกงเมื่อไหร่ เราก็สูญเสียประชาธิปไตยเมื่อนั้น จากหลายยุคที่เกิดการยึดอำนาจ รัฐประหาร ก็เพราะรัฐบาลก่อนหน้านั้นทุจริต คอร์รัปชัน ดังนั้นเราต้องนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นบทเรียน” นายจุรินทร์ กล่าว

‘อนุทิน’ ปลื้ม!! ชาวเชียงรายแห่ต้อนรับ ปล่อยสโลแกน ‘อู้แล้วยะ’ พร้อมชูนโยบายสุขภาพ ลั่น!! ขอแค่ปชช. ไว้ใจ พร้อมทำแน่นอน

ขอบคุณเจ้า ! ‘อนุทิน’ ปลื้ม ‘ชาวเชียงราย’ ต้อนรับแน่น ก่อนประกาศสโลแกน “อู้แล้วยะ” ไม่ขายฝัน พูดจริง ทำจริง ชู 3 นโยบายเด็ด เน้นเรื่องสุขภาพ เครื่องฉายรังสีทุกจังหวัด ศูนย์ไตเทียมทุกอำเภอ ประกันชีวิตผู้สูงวัย

(9 เม.ย.66) ที่ สนามกีฬาตำบลป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะผู้บริหารพรรค อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค และผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ, นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ และนายสามารถ แก้วมีชัย ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ ไปจนถึง ผู้สมัครระบบเขต จ.เชียงราย ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อปราศรัยหาเสียง ประชาชนต้อนรับอย่างเนืองแน่น โดยการปราศรัยครั้งนี้ นายอนุทิน ได้ใช้ภาษากลาง ผสมกับภาษาถิ่นภาคเหนือ เพื่อสื่อสารกับประชาชน บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน

นายอนุทิน กล่าวว่า “ขอบคุณนักนักเจ้า ขอบคุณขนาดเจ้า อากาศฮ้อนจะอี้ ก็ยังมาต้อนฮับอย่างอบอุ่น พี่น้องมาต้อนฮับ ขนาดนี้ จะไม่ได้หัวใจผมไปได้จะได๋”

จากนั้น นายอนุทิน ได้แนะนำตัวผู้สมัครรายคน ก่อนระบุว่า ที่อยู่ตรงนี้ คือ คนรับใช้ของพี่น้องทุกคน มาวันนี้ เพื่อขอโอกาสให้ท่านได้เลือกเราเข้าไปทำงานในสภา ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้ทำงาน รับใช้ท่านมาแล้ว ตอนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ครั้งนั้น มีคุณหมอท่านหนึ่งมาบอกว่า คนเชียงรายเป็นมะเร็งกันมาก ขอให้เพิ่มเครื่องฉายรังสีให้หน่อย ตั้งเป็นศูนย์มะเร็งเพิ่มเติมเลยก็ได้ เพราะเครื่องเดียวไม่พอแล้ว ประชาชนเจ็บป่วยต้องเดินทางไกล สิ่งที่คุณหมอขอมา ตนได้จัดให้แล้ว อย่างที่บอกอยู่เสมอ กับพรรคภูมิใจไทย เรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่มีคำว่าไม่ได้

นอกจากนั้น เรายังมองเห็นว่า จังหวัดท่านมีศักยภาพ เพียงแต่ต้องเติมเรื่องการคมนาคมเข้าไปหน่อย เรื่องรถไฟทางคู่เด่นชัย เชียงราย เชียงของ คาราคาซังมานาน ตอนนี้ เราก็จัดให้แล้ว ดำเนินการไปมาก เป็นอีกหนึ่งเส้นทางยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบรางของประเทศไทย เชื่อมโครงข่ายรถไฟเดิมเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ สปป.ลาว และเมียนมา

จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวถึง การด้อยค่านโยบายกัญชา ว่ามาจากพวก “ขี้ฮก” พูดแต่เรื่องแย่ๆ ทั้งที่เรื่องดีก็มีมาก มันอยู่ที่การใช้ เราพรรคภูมิใจไทย ไม่ปิดกั้นโอกาสประชาชน

“สำหรับนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ที่อยากมานำเสนอในวันนี้ คือเรื่องของสุขภาพพี่น้องประชาชน ที่มานั่งฟังกัน ก็มีผู้สูงวัย เมื่ออายุมากเข้า เราไม่อยากให้ท่านเป็นกังวล ว่าจะเป็นภาระกับลูกหลาน เมื่อจากไป ลูกหลานจะทำอย่างไร ไม่ต้องคิดมากแล้ว พรรคภูมิใจไทย ได้ออกนโยบายสำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับสิทธิ์ เป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ซึ่งผู้สูงวัย มีสิทธิกู้เงินดูแลตัวเอง ในวงเงิน 20,000 บาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แต่จะใช้กรมธรรม์ประกันชีวิตที่รัฐบาลจัดทำให้ ค้ำประกันตัวเอง และในวันที่จากไป ‘ผู้สูงวัย’ ไม่สร้างภาระให้ลูกหลาน ทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาท และครอบครัว รายละ 100,000 บาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top