Thursday, 5 June 2025
SPECIAL

ชลบุรี - ผบ.กร.เยี่ยมบำรุงขวัญหน่วยเรือ และเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามให้พร้อมรับวิกฤติ COVID-19

พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) เยี่ยมบำรุงขวัญ และติดตามการดำเนินการตามมาตรการในการป้องกัน COVID-19 ของหน่วยเรือ ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 27 เม.ย.64 ที่ผ่านมา

โดยมี พล.ร.ต.ไพศาล  วงค์เมฆ ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ พร้อมด้วยผู้บังคับการเรือในท่าเรือแหลมเทียนรายงานความพร้อมในการดำเนินการป้องกัน COVID-19 ของเรือ

เรือทุกลำในกองเรือยุทธการได้ดำเนินการตามมาตรการในการรับมือ COVID-19 รอบใหม่ ของผู้บัญชาการทหารเรือทั้ง 18 ข้อ อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้กองเรือยุทธการได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติม เนื่องจากสภาพภายในเรือส่วนใหญ่มีความคับแคบ รวมทั้งระบบการระบายอากาศภายในเรือเป็นระบบปิด มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรือหลายลำมีแนวทางเฉพาะในการป้องกัน เช่น ร.ล.นเรศวร นำระบบฆ่าเชื้อในอากาศด้วยหลอดแสง UV มาติดตั้งตามห้องต่าง ๆ ทั้งนี้ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้มอบแนวทางในการดูแลกำลังพลให้มีความรัดกุมมากขึ้น เพื่อให้เรือทุกลำในกองเรือยุทธการคงความพร้อมในการปฎิบัติต่อทุกภารกิจที่ได้รับ

ในการนี้ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้ติดตามการเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยมีหน่วยในกองเรือยุทธการ ที่มีความพร้อมในการจัดเตรียม ดังนี้

- กองการบินทหารเรือ สามารถรองรับผู้ติดเชื้อ/กลุ่มเสี่ยง ได้ประมาณ 150 เตียง

- กองการฝึก กองเรือยุทธการ (พื้นที่สำรอง) สามารถรองรับผู้ติดเชื้อ/กลุ่มเสี่ยง ได้ประมาณ 200 เตียง

         

ทั้งนี้ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้มอบนโยบายในการเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หากมีการสั่งการจากกองทัพเรือ ภายใต้กรอบการพึ่งพาตนเอง ด้วยขีดความสามารถที่มี เพื่อรองรับกำลังพล และครอบครัวของกองเรือยุทธการที่ติดเชื้อ หรือเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตามขีดความสามารถที่กองเรือยุทธการ จะสามารถทำได้ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อ หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ประสบปัญหาโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอ ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาความแออัดของโรงพยาบาลภาครัฐบาล อีกด้วย


ภาพ/ข่าว กองกิจการพลเรือน กองเรือยุทธการ

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ปราจีนบุรี - บชภ.2 ร่วม ปปส.ภ.2 ยึดทรัพย์กว่า 30 ล้านบาท เครือข่ายยาเสพติด

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 28 เม.ย.64 ที่หน้ากองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 2  พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ปฏิบัติราชการ บก.สส.ภ.2 นายสุรเดช ละเต๊ะซัน ผอ.ส่วนบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภ.2 และ นายวินิจฉัย กาญจนางกูรพันธุ์ ผอ.ตรวจสอบทรัพย์สิน ปปส.ภ.2 ร่วมแถลงข่าว ตรวจค้นยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภ.2 แถลงว่า ตามคำสั่งโดย พล.ต.อ.เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป.) และ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(รรท.ผบช.ภ.2) ให้สืบสวนเครือข่ายยาเสพติดของ นางบัวจันทร์ ขาวอินทร์ หรือนางจิตตะ คำปิว ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จึงได้ร่วมกับ ปปส.ภ.2 ตำรวจสืบสวนภาค 2 รวมกว่า 170 นาย ออกตรวจค้นเป้าหมาย 20 เป้าหมาย มี จ.ชลบุรี , ระยอง , จันทบุรี ,ฉะเชิงเทรา และ จ.สระแก้ว ส่วนอีก 3 เป้าหมาย อยู่ในพื้นที่ จังหวัดสมุทรปราการ ,นนทบุรี และ กรุงเทพฯ ยึดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีของกลางเป็นเงินสด จำนวน 8,579,306  บาท เป็นธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 7,030,000 บาท และธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐ จำนวน 50,000 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงินไทย มูลค่าประมาณ 1,567,306 บาท และได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 17 บัญชี มูลค่าประมาณ 9,801,461 บาท ตรวจยึดบ้านพร้อมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 10 ล้านบาท ยึดรถยนต์ยี่ห้อ เมอสิเดซเบ็นช์ รุ่น GLE 20 D จำนวน 1 คัน 2.7 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จากการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่อง

จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พรบ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 และ พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 31,098,768 บาท นำส่ง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 2 ( ป.ป.ส.ภาค 2 ) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ปทุมธานี - องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม จัดหน่วยตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 เวลา 09.00 น. ณ ตึกนวัตกรรม องค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานี จัดหน่วยตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม โดยมีนายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง พร้อมด้วย ผศ.(พิเศษ)ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม และ ทีมผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสามได้ลงตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่วนภายในงาน ผศ.(พิเศษ)ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสามได้ให้ความรู้ในการป้องกันตัวเองในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แก่พนักงานบริษัทและประชาชนที่มารอคิวรับการตรวจคัดกรอง

สำหรับการตรวจในครั้งนี้จะใช้การตรวจแบบเจาะเลือดแรปบิทเทสจะทราบผลภายใน 2-3 นาที เมื่อผลบวกก็ส่งไปตรวจแบบสวอปต่อ แล้วระหว่างที่รอผลสวอปภายใน 24 ชั่วโมง ก็จะมีเจ้าหน้าที่ชุดฉีดพ่นเข้าไปพ่นฆ่าเชื้อที่บ้านท่าน และขอให้ท่านกักตัวอยู่บ้าน เพื่อรอผลในวันพรุ่งนี้ หากผลสวอปเป็นลบคุณก็ปลอดภัย แต่หากผลเป็นบวกก็ต้องได้รับการรักษาตัวที่ทางภาครัฐจัดเตรียมไว้ต่อไป


ภาพ/ข่าว วะจะนะชัย วาจาพารวย

ตราด - วางแหล่งปะการังเทียม สร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเลขนาดใหญ่

น.อ.นฤพนธิ วิไลธัญญา รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดตราด และ ศคท.จังหวัดตราด ได้รับรายงานจาก นายผจงศักดิ์ วงษ์สง่า ประมงจังหวัดตราด ว่า จังหวัดตราด โดยสำนักงานประมงจังหวัดตราด ได้ดำเนินการจัดวางแหล่งอาศัยสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ ในจังหวัดตราด (ปะการังเทียม)  จำนวน 2 แห่ง  ประกอบด้วย

1.) บริเวณ บ้านสลักอวน หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด ครอบคลุมพื้นที่ 1.0 ตารางกิโลเมตร ใช้แท่งคอนกรีต จำนวน 490 แท่ง ทุ่นลอยแสดงตำแหน่งที่หมาย จำนวน  6 ทุ่น จัดวางห่างฝั่ง 3.3-3.5 กิโลเมตร พิกัด

จุด A. 11 องศา 43.020 ลิปดาเหนือ , 102 องศา 28.020 ลิปดาตะวันออก  จุด B. 11 องศา 43.020 ลิปดาเหนือ , 102 องศา 29.100 ลิปดาตะวันออก จุด C. 11 องศา 42.780 ลิปดาเหนือ , 102 องศา 29.100 ลิปดาตะวันออก จุด D. 11 องศา 42.780 ลิปดาเหนือ , 102 องศา 28.020 ลิปดาตะวันออก

โดยได้ดำเนินการจัดวางในวันที่ 26 ก.พ.64 ถึงวันที่  27 ก.พ.64

   

2.) บริเวณชายฝั่งทะเล บ้านบางเบ้า หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ครอบคลุมพื้นที่ 1.0 ตารางกิโลเมตร ใช้แท่งคอนกรีต จำนวน 580 แท่ง ทุ่นลอยแสดงตำแหน่งที่หมาย จำนวน 6 ทุ่น จัดวางห่างฝั่ง 2.5 -  2.7 กิโลเมตร พิกัด

จุด A. 11 องศา 54.000 ลิปดาเหนือ , 102 องศา 18.230 ลิปดาตะวันออก จุด B. 11 องศา 54.000 ลิปดาเหนือ , 102 องศา 19.310 ลิปดาตะวันออก จุด C. 11 องศา 53.760 ลิปดาเหนือ , 102 องศา 19.310 ลิปดาตะวันออก จุด D. 11 องศา 53.760 ลิปดาเหนือ , 102 องศา 18.230 ลิปดาตะวันออก

โดยได้ดำเนินการจัดวางในวันที่ 7 มี.ค64 ถึงวันที่ 8 มี.ค.64

     

ซึ่งในจังหวัดตราด มีเรือชาวประมงพื้นบ้าน จำนวน 3,063 ลำ  ซึ่งเป็นเรือประมงขนาดเล็ก ดังนั้นการดำเนินการจัดทำปะการังเทียม เพื่อใช้เป็นแหล่งอาศัย เพาะพันธุ์สัตว์น้ำจะยังประโยชน์ต่อกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านได้เป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ ปัจจุบันจังหวัดตราด มีปะการังเทียมแล้ว จำนวน 21 แห่ง ซึ่งจากการสำรวจแนวปะการังเทียมต่าง ๆ พบว่ามีปลาใหญ่ อาทิ ปลากะรัง ปลาโฉมงาม ปลาเก๋า รวมทั้งฝูงปลาขนาดเล็ก เข้าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก  ซึ่งนอกจาจากจะยังประโยชน์ให้กับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านแล้ว ปะการังเทียมยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในกลุ่มนักตกปลาได้อีกด้วย


ภาพ/ข่าว ศรชล.ภาค 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ตราด - พ่อค้าแม่ค้าครวญพิษโควิด-19 รายได้หด ไม่พอเลี้ยงชีพ

พ่อค้าแม่ค้าโอดครวญโควิด-19 กระทบรายได้หด ไม่พอเลี้ยงชีพ ด้านลูกค้าที่ใช้บริการสั่งอาหารทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่รายได้พุ่งผลกระทบจากโควิด-19 นอกเหนือจากสุขภาพแล้วยังส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจด้วย ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดสดเทศบาลตําบลคลองใหญ่และร้านขายของชําพร้อมด้วยแม่ค้าขายเสื้อผ้าทั่วไปเขตเทศบาลตําบลคลองใหญ่พบว่า บรรยากาศแตกต่างจากช่วงปกติที่จะมีคนมาเดินจับจ่ายใช้สอยกันในยามเช้า

“เงียบมาก คนเดินน้อยช่วงนี้” หนึ่งเสียงจากแม่ค้านางเขมปภาสร มยุรมาศ แม่ค้าวัย 65 ปี ค้าขายเสื้อผ้ามา 38 ปีแล้วบอกกับผู้สื่อข่าวว่า รายได้ลดลงมาก จากเดิมที่เคยขายได้วันละ 2,000 บาท เหลือเพียงวันละไม่ถึง 1,000 บาท ผู้คนเริ่มลดน้อยลงตั้งแต่ต้นปีที่ไวรัสยังไม่ระบาดหนัก จนกระทั่งช่วงนี้ที่ระบาดระลอกใหม่หนักมาก คนก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ แต่ยังดีที่ต้นทุนในการขายของเท่าเดิมวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ยังไม่ขึ้นราคาขณะที่แม่ค้าขาย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงนี้คนเข้ามาซื้อเสื้อผ้าน้อยมากๆเดินตลาดก็น้อยเพราะกลัวไวรัสระบาด หลังเวลา 09.00 น.ของทุกเช้าตลาดเงียบเหงามาก

พ่อค้าขายขนมหวานขนมเบื้อง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ไวรัสระบาดขายของเงียบมาก ขายของไม่ดี ยอดลดลงไปเยอะมาก จากเดิมที่ขายได้วันละ 500 บาท แต่ช่วงนี้ขายได้เพียง 200 -300 บาทเท่านั้นก็พออยู่รอดแม้จะขายของได้น้อยแต่ก็ต้องทำเพื่อเลี้ยงชีพ ขณะที่ต้นทุนในการขายของก็ยังอยู่ในราคาเดิมลงไปก่อนดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ส่วนทางวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บอกว่าช่วงนี้ นายณรงค์ อนัน อายุ 75 ปี วิ่งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างมานานกว่า 25 ปีแล้วรู้สึกว่าแย่มากๆในปีนี้ เมื่อก่อนเคยวิ่งได้วันละ 400-500 บาท พอมีโควิดระลอกใหม่เกิดขึ้นมาตอนนี้วิ่งได้วันละสูงสุด 150 บาท บางวันก็ไม่ได้ถึงตอนนี้ก็เหลือวิ่งวินแค่ 3 คันเท่านั้นเมื่อก่อนมีอยู่มากกว่า 10 คัน แย่ไปหมดแต่ก็ไม่รู้จะทําอาชีพอะไรแล้วแก่ลงทุกวันแล้วทั่วไปก็เหมือนกันหมดสภาพซบเซาปิดร้านอยู่แต่ในบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน


ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด รายงาน

นราธิวาส - ประธานรัฐสภา ลงพื้นที่มอบหน้ากากอนามัยให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นำไปแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนในพื้นที่

 

วันนี้ 29 เม.ย.64 นายชวน  หลีกภัย ประธานรัฐสภา เดินทางลงพื้นที่เพื่อส่งมอบหน้ากากอนามัย จำนวน 5,000 ชิ้น ให้กับนายเจษฎา  จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พร้อมกล่าวว่า ในวันนี้ถือโอกาสในช่วงปิดประชุมรัฐสภา ประกอบกับรัฐบาลได้กำชับให้ทุกคนสวมหน้ากากป้องกันโรคโควิด-19 และในฐานะมูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคม ได้รับการสนับสนุนหน้ากากอนามัย จำนวน 120,000 ชิ้น เพื่อนำแจกจ่ายให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้

ประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่า จะเป็นประโยชน์ในแง่อุดช่องว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับกรณีของชาวบ้านที่ไม่มีหน้ากากอนามัย นำมามอบให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส จำนวน 5,000 ชิ้น หลังจากนี้จะไปมอบที่จังหวัดปัตตานีและยะลา ซึ่งแล้วแต่ทางจังหวัดจะพิจารณามอบต่อให้ อสม. หรือเจ้าหน้าที่ หรือประชาชน และคิดว่าต้องร่วมมือกัน ขอพี่น้องทั้งหลายได้ร่วมมือกันเพื่อสะกัดกั้นการแพร่กระจายของเชื้อโดยการที่เราป้องกัน ไม่ว่าที่ตัวเราเอง ไปถึงส่วนรวมด้วย ในแง่สวมหน้ากากอนามัย แพทย์ใหญ่ก็ยืนยันว่า สามารถป้องกันได้ถึงร้อยละ 90 เราต้องให้ความร่วมมือและไม่ยากเกินไป คิดว่าหน้ากากอนามัยช่วยได้มากถือโอกาสนำมามอบให้

โอกาสนี้นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายแพทย์วิเศษ  สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ได้สรุปรายงานสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ ซึ่งการระบาดในระลอกที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา มีผู้ป่วยสะสม 512 ราย กำลังรักษา 82 ราย รักษาหายแล้ว 429 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยการดูแลรักษาผู้ป่วยทั้ง 82 ราย รักษาในโรงพยาบาลภาครัฐ 38 ราย และรักษาในโรงพยาบาลสนามที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส 28 ราย และที่ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส 16 ราย

ทั้งนี้ทางจังหวัดนราธิวาส ได้ออกมาตรการควบคุมทางสาธารณสุข อาทิ การปิดสถานบริการ สถานบันเทิง การห้ามใช้อาคารหรือสถานที่โรงเรียน ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคล และมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกำหนดบทลงโทษกรณีประชาชนไม่ใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่นอกเคหะสถาน/สถานที่สาธารณะ


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

นราธิวาส - ผอ.ศปพร. ตรวจเยี่ยม พร้อมปรับภูมิทัศน์ โดยรอบต้นไม้ทรงปลูก ในพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางลงพื้นเข้าตรวจเยี่ยม ต้นไม้ทรงปลูก  ณ วัดชลธาราสิงเห ซึ่งตั้งอยู่ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้พลตรีไพศาล หนูสังข์ ได้จัดชุดทหารช่างดำเนินการจัดทำรั้วรอบต้นไม้ทรงปลูก เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์รอบต้นไม้ทรงปลูกให้เป็นระเบียบ สง่างามและสมพระเกียรติโดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตระหนักเห็นความสำคัญของต้นไม้ทรงปลูก จึงจัดโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบต้นไม้ทรงปลูกขึ้น เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ได้ทรงเสด็จปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และได้ทรงปลูกต้นไม้ในสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้ทรงเสด็จปฎิบัติพระราชกรณียกิจ จึงจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาต้นไม้ทรงปลูกไม่ให้เสื่อมโทรม ให้เจริญเติบโตงอกงามอย่างสมพระเกียรติ

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ได้กำชับและเน้นย้ำหน่วยกำลังในพื้นที่ให้ดูแล รักษา ต้นไม้ทรงปลูกให้เป็นอย่างดี โดยกล่าวว่าการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ตลอดจน พระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ ทรงปลูกต้นไม้ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงาน หรือทรงเยี่ยมราษฎรในที่ต่างๆนั้น ไว้เป็นที่ระลึกและให้แบบอย่างที่ดีในการอนุรักษ์ป่าไม้ไว้เสมอ ด้วยทรงเห็นความสำคัญของปัญหาป่าเสื่อมโทรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านอื่น ๆ ไม่เฉพาะเรื่องดินและน้ำ หากแต่โยงถึงปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง คุณธรรม และระบบนิเวศบางอย่างอีกด้วย เราซึ่งในฐานะทหารที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ควรจะ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ต้นไม้ทรงปลูกให้อยู่คู่กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

สำหรับต้นไม้ทรงปลูก ภายในวัดชลธาราสิงเห ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีจำนวน 2 ต้นได้แก่ 1. ต้นสาละ โดยสมเด็จพระเจ้าพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงปลูกเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ไปเยี่ยมราษฎรในพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไว้เป็นที่ระลึก บริเวณวัดชลธาราสิงเห ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยทรงปลูกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พุทธศักราช 2540 และ 2. ต้นพิกุลทอง โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ไปเยี่ยมราษฎรในพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไว้เป็นที่ระลึก บริเวณวัดชลธาราสิงเห ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยทรงปลูกเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2534


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

เชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับสมาชิกใหม่ “ลูกกูดูใหญ่” สัตว์แห่งแอฟริกา

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับสมาชิกใหม่ “ลูกกูดูใหญ่” สัตว์แห่งแอฟริกา พร้อมเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด COVID – 19 อย่างต่อเนื่อง

นายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหารพัฒนาพิงนคร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่า เนื่องจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2564  ตามมาตรการเฝ้าระวังระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งในช่วงเวลานี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้มีการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการอีกครั้ง  รวมทั้งการดูแลสวัสดิภาพของสัตว์กว่า 1,266  ตัว 129 ชนิด  เป็นอย่างดี พร้อมทั้งต้อนรับสมาชิกใหม่ “ลูกกูดูใหญ่”  จำนวน 1 ตัว เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 (ยังไม่ทราบเพศ)และได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ตามธรรมชาติ ปัจจุบันอาศัยรวมกับฝูงกูดูใหญ่อยู่ภายในส่วนแสดงซาวันนาซาฟารี ซึ่งเป็นส่วนแสดงสัตว์จากทุ่งหญ้าซาวันนา และสัตว์ผู้ถูกล่าในธรรมชาติ และนับเป็นสมาชิกกูดูใหญ่ ตัวที่ 9 ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

สำหรับ “กูดูใหญ่” (Greater dudu) เป็นสัตว์แอนทีโลปที่มีความสูงที่สุดแห่งแอฟริกา มีจุดเด่นที่ทำให้มันโดดเด่นสะดุดตาคือเขาที่บิดเป็นเกลียวอย่างสวยงาม ซึ่งจะมีเฉพาะในตัวผู้เท่านั้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายดอกสว่าน ใช้เวลาในการบิดเต็มที่ประมาณ 5 ปี โดยความยาวเฉลี่ยของเขาจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 เมตร (ถ้ายืดตรง) กูดูใหญ่ตัวเมียชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง และจะปลีกตัวออกจากฝูงในช่วงเวลาตกลูก ส่วนตัวผู้บางครั้งอยู่ร่วมกันเป็นฝูงเล็ก แต่ส่วนมากชอบอยู่อย่างสันโดษ สามารถพบในแถบแอฟริกาตะวันออกถึงแอฟริกาใต้ อาศัยอยู่ตามป่าไม้สูง ไม้เตี้ย และป่าโปร่ง กินหญ้าและใบไม้เป็นอาหาร มีอายุเฉลี่ยถึง 23 ปี

และเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 ระลอกใหม่ ที่มีการพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีความห่วงใยและตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงขอแจ้งหยุดให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน- 4 พฤษภาคม 2564 และระหว่างช่วงปิดให้บริการ ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ดำเนินการทำความสะอาด Big Cleaning ในทุกพื้นที่ รวมถึงการฆ่าเชื้อบริเวณกรงสัตว์ การฉีดวัคซีน และการดูแลสัตว์อย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงส่วนต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาให้บริการอีกครั้ง

ทั้งนี้ ในช่วงเวลานี้นักท่องเที่ยวสามารถติดตามข่าวสารและชมภาพบรรยากาศ พร้อมคลิปน่ารักๆ ของเหล่าบรรดาสมาชิกสัตว์ป่าของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ในช่องทาง TIKTOK: https://vt.tiktok.com/ZSJdBmEAR/, IG : https://bit.ly/3nhUqs0, LINE@ : nightsafari และ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

สระแก้ว – พบระเบิดสังหารบุคคล หน่วยกู้ระเบิดสามารถเก็บกู้และทำลายเรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

เรียนผู้บังคับบัญชาเมื่อเวลา 12.30 น.หน่วยกู้ระเบิด EOD จากสืบจังหวัดสระแก้วนำโดย ร้อยตำรวจเอกบุญเลิศ เรืองหิรัญ ดาบตำรวจโกวิทย์ บัวขาว รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดสระแก้ว รับแจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดบริเวณบ้านคลองปูนหมู่ 8 ตำบลสระขวัญอำเภอเมืองจังหวัดสระแก้ว ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจสอบ พบเป็นระเบิดขว้างสังหารบุคคล แบบ M 67 ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา นำมาดัดแปลงใช้ ใหม่ สภาพเก่า มีสนิมจับเต็มลำตัว สามารถเก็บกู้และทำลายเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ปลอดภัย เสร็จสิ้นภารกิจ

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 เม.ย. นายราเยส ราย รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองสระแก้ว และนายบุรินทร์ ล่วงเขต ปลัดอำเภอเมืองสระแก้วฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว เข้าตรวจสอบวัตถุคล้ายระเบิด ที่กลางสวนยูคา บ้านคลองปูน ม.8 ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว ตรวจสอบพบเป็นระเบิดชนิดขว้างสังหารบุคคล แบบ M จุด 67 ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา นำมาดัดแปลงใช้ใหม่ มีสภาพเก่า แต่ยังใช้งานได้ จึงต้องกั้นบุคคลไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณ ซึ่ง จนท.EOD ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าที่บริเวณคอชนวนขาดแล้วไม่สามารถทำการเก็บกู้ได้และถ้ามีอะไรกระทบกระเทือนก็สามารถทำงานได้ทันที จึงจำเป็นต้องทำลายวัตถุระเบิดทิ้งในที่เกิดเหตุทันที

ร้อยตำรวจเอกบุญเลิศ เรืองหิรัญ หัวหน้าหน่วยกู้ระเบิด EOD จากสืบจังหวัดสระแก้วทั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ที่กลัวมีความผิด จึงนำระเบิดมาทิ้งไว้ที่กลางสวนเพื่อหลบหลีกการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ดี ที่มีชาวบ้านมาพบเห็นก่อนไม่งั้นอาจจะต้องมีเหตุบาดเจ็บหรือสูญเสียขึ้น ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบว่าจุดที่พบระเบิด พร้อมกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากพื้นที่เสี่ยงด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ฯ นำอุปกรณ์พร้อมเครื่องมือเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นระเบิดที่ใช้ในสงครามแบบชนิดขว้างสังหารบุคคล แบบ M 67 ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวเรือนไม่มีชนวน ถ้ามีการเผาไฟหรือกระทบกระเทือนรุนแรงอาจเกิดระเบิดได้ จึงได้ทำลายในบริเวณใกล้เคียงเป็นที่เรียบร้อย


ภาพ/ข่าว ตำรวจภูธรสระแก้ว / อรอุมา อร่ามศรี / บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน

สงขลา – บรรยากาศคืนแรก งดออกจากเคหะสถานตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึงตี 4 ที่อำเภอหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามคำสั่ง

ในส่วนของ อ.หาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามตลาดต่าง ๆ เช่น ตลาดหาดใหญ่ใน พบว่าในช่วงเวลา 20 นาฬิกา บรรดาร้านค้าแผงลอยริมถนนยังคงเปิดให้บริการ ตามปกติบางร้านก็มีลูกค้าเข้าไปนั่งเนื่องจากเข้าใจว่าต้องปิดตอน 22 นาฬิกา 

เจ้าหน้าที่จึงได้ชี้แจงทำความเข้าใจขอความร่วมมือเจ้าของร้านให้ปฏิบัติตามคำสั่งให้ปิดตอน 20 นาฬิกาเพื่อร่วมกันการระบาดของโควิด ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์และให้ความร่วมมือและพร้อมปฏิบัติตาม

ส่วนบรรยากาศในเมืองหาดใหญ่หลังจากที่ย่างเข้าเวลา 22 นาฬิกา ปรากฏว่าตามถนนสายต่างๆในตัวเมืองหาดใหญ่เงียบเหงาลงทันที โดยเฉพาะถนนสายหลักที่เป็นสายเศรษฐกิจ ย่านบันเทิง เช่นถนนราษฎร์อุทิศ หรือเขต 8 ถนนเพชรเกษมวงเวียนน้ำพุ , ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 , ถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งเป็นถนนคนเดินย่านโรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า เริ่มว่างเปล่าแทบไม่มีรถวิ่งผ่านไปมา และทั้งเมืองเงียบสงบลงทันที

ชาวเมืองหาดใหญ่พร้อมให้ความร่วมมือเป็นผลมาจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ มียอดผู้ป่วยโควิดมากที่สุดใน จ.สงขลา จำนวน 447 คน จากผู้ป่วยทั้งหมดของ จ.สงขลา 567 คน


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ชลบุรี - กองเรือยุทธการ จัดอบรมศาสตร์พระราชาให้แก่พลทหารก่อนปลดประจำการในวาระเมษายนนี้ เพื่อเป็นแนวทางสู่การปฏิบัติตามเกษตรทฤษฎีใหม่แบบประยุกต์

วันที่ 27 เมษายน 64 พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ มอบหมายให้ น.อ.กฤษดา จิระไตรพร ผู้บังคับการกองสนับสนุน กองเรือยุทธการ จัดการอบรมพลทหารที่กำลังจะปลดประจำการในวาระเมษายน 2564 เพื่อปลูกฝังเกษตรทฤษฏีใหม่แบบประยุกต์ (โคก หนอง นา) ณ พุทธสถานกองเรือยุทธการ และทำการอบรมในภาคปฏิบัติ ณ สวนผักรัษ์สุข กองเรือยุทธการ โดยมีหัวข้อการสอน ประกอบด้วย การเตรียมดิน , เพาะกล้าดิน , ปลูกเพอร์มาคัลเจอร์ (permaculture) , การเพาะต้นกล้าผัก , การทำน้ำหมัก/จุลินทรีย์ สำหรับบำรุงพืชผักและดิน , การจัดการแมลงศัตรูพืช

เพื่อส่งเสริมให้พลทหารที่ปลดไป ให้มีความรู้ในการปลูกผักปลอดภัย มีคุณภาพได้มาตรฐานเพื่อบริโภค อันเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน หากเหลือจากการบริโภคแล้ว สามารถจำหน่ายเป็นรายได้เสริมอีกด้วย น้อมนำแนวทางที่ได้ต่อยอดจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ซึ่งในช่วงโควิดระบาดแบบนี้ เสบียงอาหารเป็นเรื่องสำคัญ เราทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาที่มีการปรับสูงขึ้น การปิดตัวหรืองดการจำหน่ายของแหล่งขายอาหารในภาวะต่าง ๆ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก การมีวัตถุดิบที่หลากหลายเก็บไว้ในบ้าน หรือหน่วยงาน เพื่อทำอาหารกินเองนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

โดยนอกจากเนื้อสัตว์ และเครื่องเทศแล้ว สิ่งที่เราควรมีติดบ้านไว้ก็คือ “ผักสวนครัวที่ปลูกเอง” เพราะถ้าเราปลูกไว้ได้มากพอ นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหารการกินได้แล้ว เรายังได้งานอดิเรกใหม่เพิ่มขึ้นด้วย การปลูกผักกินเองนั้น คือ ความมั่นคงทางอาหารที่เราสร้างได้ แม้จะเป็นการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อย เช่น การปลูกพริก ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง แต่เมื่อยิ่งปลูกก็จะยิ่งงอกงาม ช่วยประหยัดค่าอาหารได้ตลอดทั้งปี เมล็ดที่ได้มาจากพืชที่ปลูกก็สามารถหมุนเวียนปลูกต่อหรือแบ่งปันต่อได้ เศษผักบางชนิดอย่างเช่น หอม กระเทียม  แครอท สัปปะรด ก้านผักกาด ผักสลัด ก็สามารถปักลงดินและเติบโตต่อได้เช่นกัน โดยไม่มีสิ่งเหลือทิ้ง เศษอาหารก็กลับมานำเป็นปุ๋ยใช้ต่อได้ เป็นการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร

ในการนี้ คุณสุนันท์ สมานรักษ์ ประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ ได้นำคณะภริยาสมาชิกในชมรม ร่วมศึกษาดูงานในการเรียนการสอน การเตรียมดินเพาะกล้า และการทำน้ำหมัก/จุลินทรีย์ ณ สวนผักรักษ์สุข กองเรือยุทธการ เพื่อจะได้นำมาเผยแพร่ให้กำลังพลในกองเรือยุทธการนำมาประยุกต์ใช้ในครอบครัวต่อไป


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ปลดล็อก!! ‘นิ้วล็อก’ | LOCK LENS GURU EP.4

LOCK LENS GURU / EP.4 วันพฤหัสบดี ที่ 29 เมษายน

???? GURU : กภ.คณิต คล้ายแจ้ง นักกายภาพ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลศิริราช

▶️ หัวข้อ : ปลดล็อก!! ‘นิ้วล็อก’

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021032102

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

.

.

ลพบุรี – ทหารปืนใหญ่ค่ายภูมิพล บริจาคโลหิตสำรองให้โรงพยาบาล ในสถานการณ์โควิด-19

ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล นำกำลังพล ร่วม บริจาคโลหิต ตามโครงการ กองทัพบกบริจาคโลหิต เพื่อชาติ เพื่อเป็นโลหิตสำรองให้กับโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิตในการดูแลผู้ป่วย จากวิกฤต COVID 19 ระลอกใหม่

พลตรี ทวนชัย นัดนะรา ผู้บัญชาการศูนย์การทหารปืนใหญ่ นำกำลังพล จากหน่วยขึ้นตรงในพื้นที่ ค่ายภูมิพล ฯ ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เข้าข่ายที่เป็นผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID19 ประกอบด้วย กองพันทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 25 นาย  กองพันบริการ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 50 นาย  โรงเรียนทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 25 นาย รวม 100 นาย เข้าร่วมบริจาคโลหิต ตามโครงการ   ทบ.บริจาคโลหิต เพื่อชาติ  ซึ่งอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิตสำรองไม่เพียงพอต่อการนำที่ใช่ในการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วย ในห้วงสถานการณ์การระบาด Covid 19 ระลอกใหม่ เมษายน 2564 ณ สโมสรนายทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี

โดยมีเจ้าหน้าที่ ทีมแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี และ ทีมแพทย์หมอทหาร จากหน่วยตรวจโรคศูนย์การทหารปืนใหญ่ มาคอยอำนวยความสะดวกในการตรวจคักกรองกำลังพล ที่เดินทางมาบริจาคโลหิตในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการคัดกรองและเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส COVID 19 ในสถานที่รับบริจาคอย่างเคร่งคัด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีการตรวจคัดกรองซักประวัติผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิต มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกำหนดการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่มารอบริจาคโลหิต “Social Distancing” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริจาคโลหิตทุกคน ตลอดจนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการถ่ายทอดโรคติดเชื้อ COVID19 ทางโลหิต

โดยได้โลหิตรวมทั้งสิ้น 49 ยูนิต รวม 19,600 ซีซี โดยโลหิตที่ได้จะถูกนำไปใช้เป็นโลหิตสำรอง สำหรับใช้ดูแลรักษาผู้ป่วย ในโรงพยาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ในพื้นที่รับผิดชอบ รวม 8 จังหวัด ของสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ที่ 2 ในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมแก้ปัญหาภาวะโลหิต ขาดแคลน จากสถานการณ์ การแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 รอบใหม่ เมษายน 2564 ตามนโยบายของกองทัพบก


ภาพ/ข่าว  กฤษณ์ สนใจ

นนทบุรี - สภ.รัตนาธิเบศร์ จับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองโต๊ะกัง 1991ห้างพันธ์ทิพย์จังหวัดนนทบุรีได้แล้ว

เมื่อวันพุธที่ 28 เม.ย.64 เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร  ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พล.ต.ต.ณพล กลัดเข็มเพชร ผู้ทรงคุณวุฒิ ตร., พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ รอง ผบก.ฯ ปฏิบัติราชการ ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกุล ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ และดร.ชัยรัตน์ จำนงค์การ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา กต.ตร.ภ.1 ร่วมแถลงข่าวจับกุมและทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองโต๊ะกัง 1991 ห้างพันทิพย์งามวงศ์วาน พื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์

จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ

1.นายวรธนหรือโทน สมปาง อายุ 21 ปี ที่อยู่ 32 ม.4 ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จว.เลย

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

2.นายดำรงหรือดำ ใจภักดี อายุ 57 ปี ที่อยู่ 10 ม.8 ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จว.นครสวรรค์

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน รับของโจร

พฤติการณ์ ด้วยวันที่ 24 เม.ย.64 เวลา 18.28 น. เกิดเหตุคนร้าย จำนวน 1 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงเอาสร้อยทองคำรูปพรรณ ไปจากร้านทองโต๊ะกัง 1991 ห้างพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน ได้สร้อยคอทองคำรูปพรรณ หนัก 1 บาท จำนวน 37 เส้น คิดเป็นมูลค่า 999,000 บาท จากนั้นได้วิ่งหลบหนีและใช้อาวุธปืนชิงเอารถจักรยานยนต์ บริเวณกลางซอยงามวงศ์วาน 25 ต.บางกระสอ อ.เมือง จว.นนทบุรี แล้วขับขี่หลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะพักอาศัยอยู่บริเวณวัดบัวขวัญ จึงได้กระจายกำลังกันพิสูจน์ทราบ จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายวรธนหรือโทน สมปาง อายุ 21 ปี พักอาศัยอยู่ภายในวัดบัวขวัญ ซอยงามวงศ์วาน 25 กับนายดำรง หรือดำ ใจภักดี อายุ 57 ปี ต่อมาพบตัวนายดำรงฯ ยอมรับว่านายวรธนฯ ได้นำทองที่ได้จากการก่อเหตุชิงทรัพย์มาฝากไว้ ต่อมาได้นำไปซุกซ่อนภายในห้องพักและนำทองจำนวน 2 บาท ไปขายที่ร้านทองตลาดท่าน้ำนนท์ ได้เงินมา 49,000 บาท จึงนำตัวไปตรวจค้นห้องพักและพบทองรูปพรรณ จำนวน 29 เส้น, เศษทอง จำนวน 1 ชิ้น ซุกซ่อนอยู่ จึงยึดเป็นของกลาง และจับกุมตัวนายดำรงฯ ดำเนินคดีข้อหา รับของโจร

ต่อมาสืบทราบว่า นายวรธนฯ หลบหนีไปอยู่ที่ อ.เอราวัณ จว.เลย จึงได้ติดตามไปจับกุมตัวได้ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ จ.162/2564, จ.163/2564 ลงวันที่ 27 เมษายน 2564พร้อมพบของกลาง สร้อยคอทองคำ หนัก 15.21 กรัม จำนวน 1 เส้น และเศษโลหะสีเหลืองคล้ายทอง หนัก 14.68 กรัม

พร้อมตรวจยึดทรัพย์

1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ดรีม ซูเปอร์คัพ ทะเบียน 7 กข 3816 กทม จำนวน 1 คัน (จอดทิ้งไว้บริเวณปากซอยรังสิต นครนายก 39 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี)

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวฯ ณ ร้านทองโต๊ะกัง 1991 ห้างพันทิพย์งามวงศ์วาน จว.นนทบุรี


ภาพ/ข่าว  ปริญญา​  ดวง​สุวรรณ​ ​ / ข่าว​ สยามโฟกัสไทม์

ขอนแก่น - ม.ขอนแก่น ผลิตชุด "พีเอพีอา" อุปกรณ์ป้องกันทางเดินหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์ สนับสนุนการทำงานของชุดพีพีอีและหน้ากากพีเอ็ม 2.5 ใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และเริ่มทดลองใช้งานในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 เม.ย.2564 ที่ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. รศ.ดร.จีรนุช เสงี่ยมศักดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มข.พร้อมด้วย นพ.อภิชาติ โซ่เงิน อายุรแพทย์ โรคระบบทางเดินหายใจ รพ.ศรีนครินทร์  คณะแพทยศาสตร์ มข. ร่วมทำการทดสอบอุปกรณ์ป้องกันทางเดินหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์ หรือ พีเอพีอาร์ (PAPR)  ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มข. ได้ทำการวิจัยและประดิษฐ์ขึ้น ชุดแรก จำนวน 10 ชุด สำหรับการให้บุคลากรทางการแพทย์นำไปใช้งานสำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลสนาม จ.ขอนแก่น แห่งที่ 1 ( หอพัก 26 มข.) อยู่ในขณะนี้

รศ.จีรนุช เสงี่ยมศักดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มข. กล่าวว่า การปฎิบัติงานในปัจจุบันของบุคลากรทางการแพทย์นั้น ชุดพีพีอี เป็นชุดที่สามารถกรองเชื้อได้แต่ว่าในลักษณะของการกรองอากาศที่เข้าไปให้กับผู้ที่สวมใส่นั้นจะต้องสวมใส่หน้ากาก N95 เพิ่มเข้าไป ทำให้มีลำบากที่จะหายใจต่อการใช้งาน ทีมงานวิจัยร่วมระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ และ คณะแพทยศาสตร์ มข. จึงได้ร่วมกันวิจัยและผลิตชุดดังกล่าวขึ้นมาที่จัดเป็นชุดที่จ่ายอากาศบริสุทธิ์ที่มีความสามารถในการกรองเชื้อไวรัสได้มากกว่า96%  ในลักษณะของหมวกแรงดันบวก โดยผ้าที่ใช้ต้องเป็นผ้าร่มกันน้ำกันลม  เพื่อให้ภายใน สามารถจ่ายลมแรงดันบวก จากด้านหลัง และออกแบบท่อให้นำอากาศมาด้านหน้า เพื่อความสะดวกในการหายใจ และยังมีฟิวเตอร์ ที่สามารถกรองไวรัสได้ ดังนั้นผู้ที่อยู่ในห้องที่มีอากาศไม่บริสุทธิ์หรือในห้องติดเชื้อผู้ที่สวมใส่จะหายใจได้สะดวกกว่าโดยไม่ต้องใส่หน้ากากN95 โดยที่สามารถสวมหน้ากากที่ใช้ในทางการแพทย์แบบปกติได้

ขณะที่ นพ.อภิชาติ โซ่เงิน อายุรแพทย์ โรคระบบทางเดินหายใจ รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวว่า  กรณีที่มีโรคระบาดที่เราไม่มั่นใจว่าจะแพร่กระจายทางระบบทางเดินหายใจ ทุกครั้งที่มีโรคอุบัติใหม่จะต้องคิดเสมอว่าน่าจะเป็นโรคที่แพร่กระจายทางเดินหายใจ ดังนั้นผลงานวิจัยที่ร่วมกันคิดค้นขึ้นชุดนี้จึงมีความสำคัญในทุกครั้งที่มีโรคระบาดที่เกิดขึ้น ในยุคที่เจอมาไม่ว่าจะเป็นH5n1 ,H1n1 ,ซ่าร์ส จนกระทั่งมาถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 " โดยเฉลี่ย 10ปีจะเจอโรคแบบนี้สักครั้งซึ่งชุดนี้จะมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นชุดที่มีความปลอดภัยสูงสุดและทำให้ดูแลคนไข้ได้มากกว่าชุดพีพีอีโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล บุคลากรกลุ่มอื่นที่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในห้องที่ผู่ป่วยมีการหายใจเช่น เจ้าหน้าที่รังษีเทคนิคที่เข้าไปเอ๊กซ์เรย์ปอดคนไข้หรือแม้กระทั่งแม่บ้านที่เข้าไปเก็บขยะหรือของเสียอะไรก็ตามที่ออกมาจากห้องถ้ามีชุดพอและเหมาะสมกับทุกฝ่ายที่จำเป็นต้องเข้าไปดูแลคนไข้ในห้องที่มีท่อช่วยหายใจกับผู้ป่วยแยกโรคดังกล่าว"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top