Tuesday, 3 June 2025
SPECIAL

ชลบุรี - ครั้งที่ 3 แล้ว ! วัดช่องแสมสารห่วงใยพระสงฆ์และประชาชน จัดต้มยาสมุนไพรตำราหลวงปู่ทวดสู้ภัยโควิด-19 ให้ดื่มกินฟรี

เมื่อวันนี้ 29 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณวัดช่องแสมสาร จ.ชลบุรี พระครูวิสารทสุตากร เจ้าคณะตำบลพลูตาหลวง เจ้าอาวาสวัดช่องแสมสาร ได้จัดให้มีการต้มยาสมุนไพรต่อสู้ภัยโควิด-19 ที่เคยต้มแจกให้ประชาชนดื่มกินฟรี เมื่อครั้งโควิดระบาดรอบแรกและรอบที่สองที่ผ่านมา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่จัดให้มีการต้มยาสมุนไพรนี้ ซึ่งการปรุงยานี้เป็นยาตำราหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่เคยใช้ได้ผลมาแล้วในยุคอโยธยาที่โรคห่าระบาด โดยประชาชนสามารถมาดื่มทานได้ฟรี หรือจะนำกลับไปทานที่บ้านก็ได้

ท่านพระครูวิสารทสุตากร กล่าวว่า ด้วยปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของเชืื้อโควิด-19 ในระลอกที่ 3 และมีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ทางวัดช่องแสมสารเป็นห่วงคณะสงฆ์และสาธุชนที่มาทำบุญ จึงจัดให้มีการต้มยาสมุนไพรนี้ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งที่ผ่านมา 2 ครั้งก่อนที่มีการแพระระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็มีประชาชนเข้ามานำไปทานกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนผสมของยานี้ก็มี ข่า ขิง หอม กระเทียม ตะไคร้ พริกไทดำ เอามาต้มผสมรวมกัน ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ก็เป็นสูตรยารักษาหวัดให้กับญาติโยมทั่วไป และก็ทานกันเป็นประจำอยู่แล้ว และยังเป็นสูตรยาเดียวกันที่ใช่รักษาโรคห่าในอดีตที่ผ่านมาอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

Soft Power ไทย ... อะไรดี ??? | LOCK LENS GURU EP.5

LOCK LENS GURU / EP.5 วันศุกร์ ที่ 30 เมษายน

???? GURU : อ.อาทิตยา ทรัพย์สินวิวัฒน์

อาจารย์ประจำสาขานวัตกรรมการสื่อสาร วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

▶️ หัวข้อ : Soft Power ไทย ... อะไรดี ???

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021032103

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

.

.

แม่ฮ่องสอน - นายอำเภอแม่ลาน้อย สนธิกำลังป่าไม้ ตำรวจร่วมจับกุม 6 ผู้ต้องหา ฐานร่วมกันมีไม้สักท่อนไว้ในครอบครอง

เมื่อเร็ว ๆ นี้  นายชูชาติ คำมา นายอำเภอแม่ลาน้อย  ได้ร่วมกับทาง  นายนิพนธ์ วรนาม เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน พ.ต.ท.เดชา วิบูลกิจ สว.สส.สภ.แม่ลาน้อย นายวัชรพงศ์ จันทิมา ปลัดอำเภอแม่ลาน้อย พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 6 คน ตรวจยึดไม้สักท่อนจำนวน 7 ท่อน ปริมาตร 9.7 ลบ.ม. และรถยนต์ 3 คัน กระทำความผิดฐานร่วมกันมีไม้สักท่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และฐานร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต 

ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ได้รับแจ้งจาก ผู้หวังดี ว่ามีการลักลอบตัดไม้ บริเวณในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งขวา ท้องที่บ้านแม่แลบ ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้สนธิกำลังวางแผนและเดินทางมาถึงบริเวณตามที่ได้รับแจ้ง ได้พบชาย จำนวน 6 คน อยู่ในบริเวณที่มีการตัดไม้ ห่างออกไปจากบริเวณที่ไม้ถูกโค่นล้มออกไปประมาณ 30 เมตร พบรถบรรทุก 2 คันและรถเก๋ง 1 คัน ในบริเวณข้างเคียง ตรวจพบไม้ถูกโค่นล้มตัดทอนแล้ว จากการสอบถามชายทั้ง 6 คน ได้ให้การว่าไม้ดังกล่าวมีการซื้อขายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ปรากฏว่าเป็นไม้สัก จึงทำการจับพิกัดตอไม้ ปรากฏว่าไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่กรรมสิทธิ์แต่อย่างใด ซึ่งไม้ดังกล่าวขึ้นอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งขวา

สำหรับไม้สักท่อนของกลางได้ขออนุมัติพนักงานสอบสวนนำมาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส. 25 (ท่าผาปุ้มเดิม) ตามระเบียบต่อไป คณะเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ลาน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีนายชูชาติ คำมา นายอำเภอแม่ลาน้อย เข้าร่วมเป็นผู้สอบสวนในครั้งนี้ด้วยตนเอง


ภาพ/ข่าว สุกัลยา / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

ปทุมธานี – นายกแจ๊ส เดินหน้าพัฒนาสระเก็บน้ำพระรามเก้า ควบคู่ท้องฟ้าจำลองรังสิตเป็นแลนด์มาร์คแหล่งใหม่

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 เวลา 15:00 น. ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เพื่อร่วมประชุมวางแผน ขับเคลื่อนและบูรณาการการมีส่วนร่วมดำเนินการภายใต้โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมเพิ่มต้นทุนทางธรรมชาติให้แก่เมืองพื้นที่โครงการขยายผลสระเก็บน้ำพระรามเก้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บนเนื้อที่ 1,700 ไร่ ให้เป็นแหล่งพักผ่อนออกกำลังกายของชาวปทุมธานี

โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี และ ดร.ปรีชา ชื่นชนกพิบูล เลขานุการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อม ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม , ผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.ปทุมธานี ได้เยี่ยมสำรวจ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เพื่อวางแผนพัฒนาให้ควบคู่ไปกับโครงการพัฒนาสระเก็บน้ำพระราม 9 ซึ่งอยู่ระหว่างขอใช้พื้นที่จาก มูลนิธิชัยพัฒนา ให้เป็นแหล่งพักผ่อนออกกำลังกายของชาวปทุมธานี โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิตอยู่ติดกับสระเก็บน้ำพระรามเก้า ได้ให้บริการการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ภายในศูนย์ฯ มีกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านนิทรรศการ ค่ายวิทยาศาสตร์ ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ กิจกรรมเสริมทักษะ วิทยาศาสตร์เคลื่อนที่ การบริการวิชาการ การประกวดแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ และท้องฟ้าจำลอง

ว่าที่ ร.อ.อาศิส เชยกลิ่น ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต กล่าวว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ภายในสังกัดปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีพื้นที่ 60 ไร่ ในส่วนของตัวอาคารมี 4 ชั้น ที่ให้บริการชมนิทรรศการ 20 นิทรรศการ ที่รองรับน้อง ๆ นักเรียนเข้ามาเยี่ยมชมแล้วได้ความรู้กลับไป ซึ่งภายในนิทรรศการจะมีสิ่งที่น่าสนใจทั้งวิชาการและความสนุก นอกจากนี้ยังมีท้องฟ้าจำลอง ขนาด 160 ที่นั่ง ขนาดใหญ่ที่สุดรองจากทองฟ้าจำลองเอกมัย ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงที่เอากล้องตัวใหม่จากต่างประเทศเข้ามา คาดว่าเดือนตุลาคม 2564 จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ แต่ในส่วนที่ให้บริการด้านนิทรรศการยังคงให้บริการปกติ เรามีค่ายเยาวชนราคาประหยัด มีกิจกรรมเสริมสมองให้กับเด็ก ๆ  หน่วยงานไหนไม่มีงบประมาณ เราก็มีงบในการสนับสนุนเพื่อการศึกษาได้

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี  กล่าวว่า เนื่องจากผมได้มีนโยบายในการพัฒนาสระเก็บน้ำพระรามเก้า เมื่อมาดูในมุมสูงจะเห็นว่าสระเก็บน้ำพระรามเก้ามีขนาดใหญ่มาก เฉพาะฉะนั้นเมื่อสระเก็บน้ำพระรามเก้าและศูนย์วิทย์ฯ ต้องมีการพัฒนาไปด้วยกัน บริเวณนี้จะเป็นแลนด์มาร์คที่ดี อาจจะพัฒนามีหอสูงเพื่อชมวิวบริเวณนี้ซึ่งจะสวยงามมาก ในส่วนของสระเก็บน้ำพระรามเก้าเราทำแน่นอนที่จะทำเป็นสถานที่ออกกำลังกาย พี่น้องชาวปทุมธานีมาปั่นจักรยานรอบสระน้ำพระรามเก้า รวมถึงมีกิจกรรมทางน้ำ มีการแสดงขนบธรรมเนียมประเพณีทางน้ำ ประเพณีมอญ มีศูนย์อาหาร สินค้าโอทอปของจังหวัดปทุมธานี ทุกอย่างจะควบคู่กันไปหมด เพื่อจุงใจให้พี่น้องชาวจังหวัดอื่น ๆ มาท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี และทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดปทุมธานีดีขึ้น สระเก็บน้ำพระรามเก้าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นปอดของคนปทุมธานี จากที่ตนเองได้ไปดูงานที่ต่างประเทศมาแล้วหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาทางการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่ง เศรษฐกิจนำเงินเข้าประเทศมากมายเราตื่นตาตื่นใจกับเขา แต่ในบ้านเรามีดีกว่าเขาเยอะขาดเเต่การพัฒนา ซึ่งสระเก็บน้ำพระรามเก้ามีพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ ตนเองสามารถนำความรู้ที่ไปดูงานมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และพัฒนาเด็กไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นเด็กประถมศึกษาในจังหวัดปทุมธานีต้องมาดูท้องฟ้าจำลองที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ศึกษาดาราศาสตร์ที่จังหวัดปทุมธานี และเด็กที่อื่นต้องมาดูที่จังหวัดปทุมธานี นอกจากนี้ยังจะสร้างห้องสมุด อบจ.ปทุมธานี เพื่อคนปทุมธานีที่นี่ด้วย


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ  

นครพนม - ครอบครัวผู้ใจบุญ มอบเครื่องช่วยหายใจ สนับสนุนการรักษาผู้ป่วยโรงพยาบาลนครพนม

วันที่ 29 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า ในการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินที่อยู่ในภาวะวิกฤตนั้น เครื่องช่วยหายใจเป็นหนึ่งในเครื่องมือแพทย์ที่มีความจำเป็นและมีประโยชน์ต่อการรักษาเป็นอย่างมากเพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีระบบทางเดินหายใจผิดปกติ สามารถหายใจได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ ที่ผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจำเป็นจะต้องใช้

ซึ่งนับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งของชาวนครพนม เพราะในวันนี้ทางโรงพยาบาลได้รับการบริจาคเครื่องช่วยหายใจ ยี่ห้อ CareFusion T Bird Series รุ่น VELA Plus จำนวน 2 เครื่อง ในราคารวม 900,000 บาท จากครอบครัวผู้ใจบุญ คือครอบครัวของคุณมัติกานต์ อินทร์ดี และ Mr. Alan Randall ที่ได้ติดต่อประสานผ่านทางนางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่เป็นลูกหลานชาวนครพนมจนนำมาสู่การนำเครื่องช่วยหายใจมามอบให้ในครั้งนี้

จึงขอเป็นตัวแทนชาวนครพนมและผู้ป่วยทุกคนที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพนมในการขอบคุณครอบครัวผู้ใจบุญที่มีจิตอันเป็นกุศลนำเครื่องช่วยหายใจมามอบให้ในวันนี้ โดยเครื่องรุ่นนี้มีคุณลักษณะที่โดดเด่น คือเป็นเครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดัน สามารถใช้กับผู้ป่วยได้ทั้งที่เป็นเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งสามารถควบคุมการปรับตั้งค่าด้วยระบบ Touch Screen หรือจะใช้ปุ่มหมุนก็ได้เช่นเดียวกัน มีระบบล็อคจอภาพที่แสดงผลปริมาตรของการหายใจ แสดงระยะเวลาและจำนวนครั้งของการหายใจ และค่าอื่น ๆ อีกหลายอย่างด้วยจอภาพสีชนิด LCD ขนาด 10.4 นิ้ว

มีการควบคุมการจ่ายอากาศด้วยระบบ Turbine สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Invasive และแบบ Non-invasive มีระบบช่วยหายใจสำรอง Apnea backup ventilation ที่สามารถเลือกการทำงานเป็นแบบ Volume หรือ Pressure สามารถใช้งานกับแหล่งจ่ายออกซิเจนได้ทั้งแบบ High pressure และ Low pressure มีระบบพ่นยาจากตัวเครื่อง โดยพ่นยาเฉพาะช่วงหายใจเข้า ซึ่งสามารถพ่นยาได้นานสูงสุด 60 นาที มีระบบ Leak Compensation ที่สำคัญคือมีแบตเตอรี่สำรองภายในตัวเครื่องในกรณีไฟฟ้าขัดข้องสามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

ภูเก็ต - ศรชล.ภาค 3 ”ลาดตระเวนทางทะเล ตรวจเข้ม !! เรือประมงในทะเล

ศรชล.ภาค 3 โดย น.อ.เกรียงไกร ลายเงิน หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต และ น.อ.ปุณณรัตน์ เลาวัณศิริ รอง ผบ.หมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3ร่วมกับ เรือ ต.994 ร่วมบูรณาการตรวจเรือประมงในทะเล ตรวจเครื่องมือและสัตว์น้ำจากการทำการประมง ตรวจสภาพการจ้างสภาพการทำงาน และการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในกิจการประมงทะเล ตรวจการลักลอบเข้าเมืองของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ในภาคประมง และแจ้งให้ลูกเรือประมง และผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในการทำการประมง และการป้องกันโรคตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

ชลบุรี - ส่งอาหารจากใจ ให้บุคลากรทางการแพทย์ รพสิริกิติ์ฯ ทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด

นายกก่อตั้งและผู้ช่วยผู้ว่าการภาค แพรทอง สินชู  นายก รัมภาพรรณ์ อินมะโรง นายกสโมสรโรตารี มิตรภาพ สัตหีบ ภาค 3340 โรตารีสากล และสมาชิกสโมสรโรตารี มิตรภาพ สัตหีบ ภาค 3340 โรตารีสากล พร้อมด้วย น.อ. สมศักดิ์ พรหมมาลี ประชมรมผู้สูงอายุ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ นำคณะมอบอาหารกลางวันให้กับคณะ แพทย์ พยาบาล และบุคคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในการทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19

โดยมี นอ.วิทวัช โลเกศกระวี ศัลยกรรมแพทย์ ออร์โธปิดิกส์ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นผู้แทนรับมอบ พร้อมกล่าวขอบคุณในมิตรภาพและมิตรไมตรีของ สโมสรโรตารี มิตรภาพ สัตหีบ และชมรมผู้สูงอายุ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ได้นำอาหารมามอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในการเฝ้าระวังดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในวันนี้ นอกจากจะเป็นกำลังใจในการปฏิบัติงานแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤติจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นไปได้ ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ของ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ รู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจและขอขอบคุณในความมีน้ำใจนี้เป็นอย่างยิ่ง

นายกก่อตั้งและผู้ช่วยผู้ว่าการภาค แพรทอง สินชู และ น.อ. สมศักดิ์ พรหมมาลี ประชมรมผู้สูงอายุ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวว่า ได้นำอาหารมามอบให้ในวันนี้ เป็นการส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19  เพื่อสนับสนุนการทำงานของแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในการทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตลอดจนเป็นกำลังใจ แทนคำขอบคุณในความเสียสละของทีมแพทย์ทุกท่าน ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

นครสวรรค์ – แมลงกระเบื้องปีกแข็ งบุกบ้านเรือนชาวบ้าน ตำบลหนองพิกุล อ.ตากฟ้า

วันที่ 29 เมษายน 2564 อบต.หนองพิกุล ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน หมู่ 1 ต.หนองพิกุล ว่ามีแมลงกระเบื้องปีกแข็ง มาก่อกวนสร้างความรำคาญ และมีจำนวนมากขึ้นตามผนังบ้านและภายในบ้าน จึงแจ้งมายัง อบต.หนองพิกุล ให้เจ้าหน้าที่ช่วยไปกำจัดแมลงกระเบื้องปีกแข็งให้ด้วย ดังนั้น นางสุวรรณา แจ้งมณี นายก อบต.หนองพิกุล มอบหมายให้ นายบุญมั่น มั่นนวล เลขานายกฯ รองปลัดฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.หนองพิกุล และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เข้าช่วยเหลือชาวบ้านและทำการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงกระเบื้องภายในที่พักอาศัยของชาวบ้าน หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์  2 หลัง คือ บ้าน นางเล็กอิ่มแย้ม บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล และบ้าน นางสาวลัดดา พันทะท้าว บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล

เนื่องจากแมลงกระเบื้องจะออกมาในช่วงฤดูฝน จึงได้นำเครื่องพ่นฝอยละออง ฉีดพ่นบริเวณโดยรอบที่อยู่อาศัย ฉีดให้โดนตัวแมลงจะตกมาตาย และสารเคมีที่ฉีดพ่นจะตกค้างอยู่ที่พื้นบริเวณบ้านประมาณ 6 เดือน ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง  หากบ้านเรือนประชาชนท่านใดมีแมลงกระเบื้องปีกแข็ง เข้ามาที่อยู่อาศัยจำนวนมากไม่สามารถกำจัดด้วยตนเองได้ โปรดแจ้งหรือมายื่นคำร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ อบต.หนองพิกุล ได้ในเวลาราชการ ถ้าไม่ติดภารกิจก็จะออกปฏิบัติในทันที ทันต่อเหตุการณ์ในการกำจัดแมงกระเบื้องปีกแข็ง ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านทันที 


ภาพ/ข่าว สมเกียรติ วงษ์อยู่น้อย ตาคลีรายงาน

แม่ฮ่องสอน - ชายแดนสาละวินเสียงปืนยังดัง ราษฎรเมียนมาอพยพข้ามาฝั่งไทยแล้ว 179 ราย ทหารตรึงกำลังคุม ขณะที่ราษฏรไทยบ้านท่าตาฝั่งและแม่สามแลบ หวั่นโดยกระสุนลูกหลงอพยพออกจากหมู่บ้านไปอยู่พื้นที่ปลอดภัย

ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย - เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย -เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน ประจำวันที่ 29 เม.ย. 64 น. ว่า จากสถานการณ์ของเมื่อวานที่ผ่านมา ยังมีเสียงปืน ชนิด ค.60 จำนวน 2 ลูก ทางทิศใต้ของ ฐานฯ แม่สะล็อก รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 1 กม. คาดว่า ทหารเมียนมา พบความเคลื่อนไหวของ กองกำลังKNU จึงทำการยิงอาวุธปืน ค.60 เพื่อป้องกันการลอบโจมตี ฐานฯ ต่อมาช่วงเย็นได้ยินเสียงปืน ค.60 จำนวน 2 ลูก ทางด้านทิศใต้ ฐานฯ ด๊ากวิน ของทหารเมียนมา ด้านตรงข้าม ฐานฯ บ.ท่าตาฝั่ง ฯ ห่างจากชายแดนไทย ประมาณ 1 กม. คาดว่า ทหารเมียนมา เห็นความเคลื่อนไหว กองกำลัง KNU จึงทำการยิงอาวุธเพื่อป้องกันการลอบโจมตีฐาน ผลการยิงทั้งสองช่วงไม่ทราบความเสียหาย ต่อมาในเย็นวันเดียวกัน  เวลา 17 .00 - 17.12 น ทหารเมียนมา ได้นำเครื่องบินปีกหมุน (ไม่ทราบแบบ) จำนวน 2 ลำ ปฏิบัติการทางทหาร จำนวน 6 ครั้ง เข้าโจมตีด้วยปืนกลทางอากาศ จำนวน 6 ชุด และสลับกับยิงลูกจรวดอากาศสู่พื้น บริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของฐานฯด๊ากวิน ต้านตรงข้าม บ.ท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 1.5 กม เพื่อสกัดและป้องกันรอบฐานที่มั่น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางฝ่ายความมั่นคงตามแนวชายแดนยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้        

      

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบในฝั่งประเทศเมียนมา มีราษฎรชาวเมียนมา ข้ามมายังฝั่งไทยจากเหตุความไม่สงบในเมียนมา อาศัยอยู่ใน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 3 แห่งรวมทั้งสิ้น 179 คน กระจายในพื้นที่ 3 จุด คือ บริเวณตรงข้ามฐานฯดาข่วย ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 68 คน  บริเวณห้วยอีนวล ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 39 คน  และ บริเวณห้วยโกเฮ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 72 คน

ในส่วน กรณีราษฎรไทย ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในประเทศมียนมา ใน 2 พื้นที่ รวมทั้งสิ้น 278 คน ได้จัดให้พำนักในพื้นที่รวบรวมพลเรือน 2 แห่ง คือ ราษฎรไทยพื้นที่ บ.แม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ได้อพยพไปยังพื้นที่รวบรวม พลเรือนโรงเรียนบ้านห้วยกองก้าด ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 450 คน เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ณ ปัจจุบันบางส่วนได้ไปพักอาศัย ในบ้านญาติ ขณะนี้คงเหลือในพื้นที่พักรอ จำนวน 208 คน และ ราษฎรไทยในพื้นที่ บ.ท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 70 คน ได้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย ที่พักริมห้วยกองคา ต.ท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง ซึ่งชาวบ้านที่อพยพออกมาส่วนใหญ่หวั่นกระสุนลูกหลงของการสู้รบในฝั่งประเทศเมียนมา

ขณะที่พื้นที่บ้านแม่สามแลบยังถูกห้ามไม่ให้สื่อมวลชนและบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องข้าเด็ดขาดเนื่องจากต้องป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของสถานการณ์การณ์โควิด และ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และ ยังคง ตรึงกำลังมิให้มีการละเมิดหรือรุกล้ำอธิปไตย และ คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ ผู้หลบหนีภัย และให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บตามหลักมนุษยธรรม


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร  อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

ขอนแก่น – ฝนตกหนักน้ำท่วมถนนมิตรภาพ ยาวหลายกิโลเมตร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดฝนตกหนัก และมีลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่น ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉบับพลัน ทั้งถนนสายหลักสายรองรวมทั้งในซอยตามหมู่บ้าน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันบนถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ช่วง 4 แยกห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น ยาวไปถึงช่วง 4 แยกก่อนถึงโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร โดยปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาได้ไหลท่วมผิวจราจรบนถนนมิตรภาพ 4 ช่องทางจราจร เหลือเพียง 2 ช่องทางจราจรทั้ง 2 ฝั่งที่สามารถวิ่งได้ตามปกติ โดยระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 ซม. ซึ่งรถเล็กควรหลีกเลี่ยงอาจทำให้น้ำเข้าท่อและเครื่องยนต์ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครขอนแก่นได้ออกมาตรวจสอบและเปิดปากท่อเคลียร์เศษขยะออกให้น้ำสามารถระบายได้รวดเร็วขึ้น

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สำรวจตามตรอกซอกซอยพบว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังส่งผลให้น้ำท่วมถนนสายหรองและถนนในชุมชนหลายแห่ง รถเล็กไม่สามารถขับผ่านได้เนื่องจากปริมาณน้ำสูงประมาณ 50 ซม. โดยเฉพาะที่ถนนบ้านกอกหน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในซอยสวัสดี ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดย 2 จุดนี้เป็นจุดที่น้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากปริมาณน้ำจะไหลมารวมกันในจุดนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมขังฉับพลัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถระบายน้ำทั้งหมดได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงหากฝนหยุดตก ขณะที่หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายในภาพรวมเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ชลบุรี - ฮือฮา ‘วาฬบรูด้า’ 2 คู่ น้ำหนักตัวละกว่า 4 ตัน โผล่เล่นน้ำหน้าเกาะสีชัง

วาฬบรูด้า ซึ่งมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 4 ตันต่อตัว ได้พากันแหวกว่ายหากินทะเลหน้าน่านน้ำหน้าเกาะสีชัง อย่างสนุกสนาน ทำให้นักท่องเที่ยวและไต๋เรือที่พบต้องรีบคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายภาพเท่าที่ได้เก็บไว้ทันที เนื่องจากไม่ค่อยได้พบมากนัก

บรรยากาศบริเวณน่านน้ำทะเลศรีราชา เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี   เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 64  เมื่อมีนักท่องเที่ยวที่ไปพักผ่อนที่เกาะสีชัง และไต๋เรือ ที่นำเรือออกไปได้พบ ปลาวาฬบรูด้า สัตว์สงวนลำดับที่ 16 ของประเทศไทย  2 คู่  ซึ่งมีน้ำหนักแต่ละตัวไม่ต่ำกว่า 4 ตัน  และแยกเป็นคู่แหวกว่ายหากินไม่ห่างกัน ได้พากันแหวกว่ายหากินฝูงปลาเล็ก เช่น ปลากะตัก ที่ว่ายกันเป็นฝูง บริเวณร่องน้ำลึกที่เรือสินค้าผ่าน บริเวณน่านน้ำหน้าเกาะสีชังและหลังเกาะสีชัง อย่างสนุกสนานไปมา สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่พาครอบไปพักผ่อนที่เกาะสีชัง และไต๋เรือที่ไปเจอเป็นอย่างมาก จนต้องรีบคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายภาพเก็บไว้เท่าที่ถ่ายได้ทัน เพราะพบเห็นได้ไม่ง่ายนัก

โดยปลาวาฬบรูด้า ได้ขึ้นมาอวดโฉมให้เห็นพอแวบ ๆ ตอนพุ่งหัวขึ้นเหนือน้ำเพื่อล่าเหยื่อ หรือโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำอีกทีก็ตอนหายใจ โดยจะโผล่ส่วนหัวที่มีช่องหายใจขึ้นเหนือผิวน้ำ แล้วหายใจออกอย่างแรง จนทำให้เกิดฝอยละอองน้ำพุ่งขึ้นสูง 3-4 เมตร ก่อนจะหายใจเข้า ทิ้งตัวดำลงไปใต้ผิวน้ำ เมื่อมองจากที่ไกลๆ จึงเห็นแต่ฝอยละอองน้ำที่พุ่งขึ้นมาเหนือผิวน้ำ กับเงาตะคุ่ม ๆ ของลำตัวหรือวงน้ำขนาดใหญ่ เท่านั้น  ซึ่งทำให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของบริเวณน่านน้ำทะเลหน้าเกาะสีชัง – ศรีราชา ว่ายังมีความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลเป็นอย่างมาก

ปลาวาฬบรูด้า ถือเป็นสัตว์ประจำถิ่นในอ่าวไทย ซึ่งได้มีการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าสงวน ลำดับที่ 16 ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

กาฬสินธุ์ - เข้ม 9 อำเภอ กันไข่แตก !! ปรบมือส่งกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าโควิด

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์นำหัวหน้าส่วนราชการและกรมการจังหวัดลุกขึ้นยืนปรบมือ เพื่อเป็นการขอบคุณ  และสร้างขวัญกำลังใจให้กับทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 พร้อมกำชับทุกพื้นที่เข้มงวดตามมาตรการ โดยเฉพาะพื้นที่อีก 9 อำเภอที่ยังไม่พบผู้ป่วย

เมื่อวันที่ 29 เมษายน  2564 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ครั้งที่ 4/2564 ซึ่งเป็นการประชุมแบบ New Normal โดยเชิญเฉพาะผู้แทนกระทรวงเข้าร่วมประชุม  โดยมีนายเลิศบุศย์ กองทอง นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.อ.เรืองพงษ์ วงศรีสุข รองผอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุม

โดยนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้กล่าวเชิญชวนให้คณะกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ลุกขึ้นยืน พร้อมปรบมือ เพื่อเป็นการขอบคุณ สร้างขวัญและกำลังใจให้กับทีมแพทย์ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ อสม.รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 พร้อมทั้งกำชับให้ทุกคนร่วมมือกันในการป้องกันตนเอง ด้วยการงดหรือชะลอการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่อีก 9 อำเภอที่ยังไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 ให้เข้มงวดและเร่งสร้างความความรู้ความเข้าใจกับประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนพื้นที่ 9 อำเภอที่พบผู้ป่วยแล้วก็ได้เข้มงวดปฏิบัติตามมาตรการของสาธารสุขเช่นกัน เพื่อที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดในรอบนี้ให้ได้ 

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดวันที่ 29 เมษายน 2564 ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเติม โดยขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 61 ราย และรักษาหายสามารถกลับบ้านได้แล้ว 12 ราย  อยู่ระหว่างการรักษา 49 ราย โดยรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ 25 ราย โรงพยาบาลฆ้องชัย 14 ราย และพักฟื้นเพื่อรอกลับบ้าน ที่โรงพยาบาลสนามกาฬสินธุ์แห่งที่ 1 จำนวน 10 ราย ทั้งนี้พื้นที่ที่พบผู้ป่วยโควิด-19 มีจำนวน 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ยางตลาด 24 ราย, อ.เมือง 10 ราย, อ.กมลาไสย 8 ราย, อ.สมเด็จ 5 ราย, อ.สหัสขันธ์ 5 ราย, อ.สามชัย 4 ราย,อ.กุฉินารายณ์ 3 ราย, อ.ดอนจาน 1 ราย และ อ.นาคู 1 ราย ส่วนพื้นที่อีก 9 อำเภอที่ยังไม่พบผู้ป่วยประกอบด้วย อ.ฆ้องชัย อ.ร่องคำ อ.ห้วยเม็ก อ.หนองกุงศรี อ.ท่าคันโท อ.เขาวง อ.ห้วยผึ้ง  อ.คำม่วง และ อ.นามน

นอกจากนี้ทางจังหวัดยังได้ออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออกจากเคหสถาน 100 % หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมขอให้ประชาชนทุกคนเคร่งครัดในการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร ไม่เข้าไปในสถานที่แออัดอากาศไม่ถ่ายเท ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สแกนไทยชนะหรือหมอชนะ หากท่านใดที่สัมผัสใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา ควรสังเกตอาการตนเองที่บ้าน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ถ่ายเหลว ตาแดง ผื่นขึ้น หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก โปรดแจ้งประวัติการสัมผัสกับผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้บุคลากรการแพทย์ทราบเพื่อคัดกรองความเสี่ยงด้วย

อย่างไรก็ตามในการประชุมยังได้มีพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติให้แก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจําปี 2563  จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 4 ราย พิธีมอบเกียรติบัตรยกย่องชุมชนองค์กรอำเภอและจังหวัดคุณธรรมประจำปีงบประมาณ 2562 พิธีมอบเกียรติบัตรปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ระดับจังหวัด ประจำปี 2564  พิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณให้กับบุคคลผู้ได้รับการพิจารณาเป็น "คนดี ศรีกาฬสินธุ์" ตามค่านิยม "มีมารยาทแบบไทย"  พิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยประจำปี 2564 และการมอบระบบบริหาร ครัวเรือนยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ KHM - V.2 โดยมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นข้อมูลในการติดตามครัวเรือนตามโครงการ  Kalasin Happiness Model อีกด้วย

นครพนม - ‘ผู้ว่าฯนครพนม - นพ.สสจ.’ พร้อมบุคลากรด่านหน้า รับวัคซีนโควิดฯ เข็ม 2

วันที่ 21 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมศรีโคตรบูรณ์ ชั้น 5 อาคารอำนวยการโรงพยาบาลนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม และนางพัชรินทร์ ฉลาดธัญญกิจ ประธานชมรมแม่บ้านสาธารณสุขจังหวัดนครพนม รวมถึงคณะบุคลากรสาธารณสุขปฏิบัติงานด่านหน้า ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) Sinovac เข็มที่ 2 รวม 180 คน


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

ระยอง - มารู้จัก “เต่าทะเล” สัตว์โลกล้านปีใกล้วันสูญพันธุ์

"ระยอง" อีกหนึ่งจังหวัดยอดนิยมทางภาคตะวันออกของไทยที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ทุกคนควรมาเยือน ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ, อุทยานแห่งชาติ“เขาแหลมหญ้า” หรือ ทะเลแหวก เกาะมันใน ที่อะเมซิ่งสุด ๆ เพราะใคร ๆ ก็คาดไม่ถึงว่าจะมีทะเลแหวกสวย ๆ แบบนี้ในทะเลฝั่งตะวันออกด้วย นอกจากที่เกาะมันในแห่งนี้จะมีทะเลแหวกให้ชมแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และเป็นสถานที่อนุบาลลูกเต่าทะเลก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล ซึ่งมีทั้งส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์เต่าทะเลไว้ให้ความรู้เรื่องเต่า และบ่อเลี้ยงเต่าช่วงวัยต่าง ๆ ก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล อย่าลืมแวะมาหาความรู้และชมความน่ารักของเต่าทะเลไทย ที่เกาะมันใน จ.ระยอง

เต่าทะเล จัดเป็นสัตว์ประเภทเลื้อยคลานที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า เต่าทะเลทั่วโลกมีทั้งหมด 8 ชนิด แต่พบในไทยเพียง 5 ชนิด ได้แก่ เต่าตนุ เต่ากระ เต่าหญ้า เต่าหัวฆ้อน  และเต่ามะเฟือง ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าในปี พ.ศ.2535 

บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) เล็งเห็นความสำคัญของความ สัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศทางทะเล รวมทั้งการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากโดยเฉพาะเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์  ดังนั้นในปี 2564 ทาง BLCP จึงได้ริเริ่มการอนุบาลเต่าทะเล โดยเบื้องต้นได้ร่วมกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง จ.ระยอง สนับสนุนกิจกรรมเต่าทะเล เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 60,000 บาท เพื่อเป็นค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาลเต่า ณ เกาะมันใน จ.ระยอง

นอกจากนี้ โรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก ภายใต้การดูแลของ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก  จัดเป็นสถานดูแลอภิบาลสัตว์ทะเลหายากที่เกยตื้น ไม่ว่าจะเป็นโลมา ปลาวาฬ รวมไปถึงเต่าทะเล โดยสาเหตุจากการเกยตื้นได้แก่ ป่วย, หลงทิศ, กินขยะทะเล และโดนจับด้วยเครื่องมือประมง ทำให้สัตว์ทะเลเหล่านี้บาดเจ็บและป่วย โดยที่สัตว์ทะเลที่เกยตื้นมากที่สุดคือเต่าทะเลนั่นเอง

ในปัจจุบันทางโรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก จ.ระยอง ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ที่สำคัญในการรักษาสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนการปรับปรุงห้องทำงานคุณหมอและห้องปฎิบัติการ การสนับสนุนเครื่อง  Vet state เครื่องชั่งน้ำหนักกันน้ำ ขนาด 300 กิโลกรัม, บ่อพักรักษาสัตว์ขนาดใหญ่ (ขนาด 5,000-6,000 ลิตร) เครื่องตรวจ Blood gas analysis เพื่อวัดปริมาณสารเคมีในเลือดเครื่องตรวจค่าเคมีในเลือด และเครื่องตรวจนับจำนวนเซลล์เม็ดเลือด ดังนั้นหากท่านใดประสงค์จะช่วยเหลือเต่าทะเลและสัตว์ทะเลหายาก สามารถติดต่อได้โดยตรงที่  ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ที่อยู่ 309 ม.1 ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง โทร. 038-661-693-4

กาฬสินธุ์ – นก อพยพปักหลักขยายพันธุ์ กินหอยเชอรี่ศัตรูข้าว ชาวนาเผยเป็นผลดี พื้นที่ท้องนาสวยงาม และมีความชุ่มชื้น ช่วยลดอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวเย็นลง

ฝูงนกธรรมชาตินานาชนิดหลายพันตัว บินอพยพจากต่างถิ่น เข้ามาปักหลักหากินในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และเกิดการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ชาวนาเผยเป็นผลดีช่วยกินหอยเชอรี่ศัตรูข้าว และมองดูเหมือนสวนสัตว์นกดูเพลิดเพลินสวยงามเต็มท้องทุ่ง ขณะที่ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ทสจ.กาฬสินธุ์ขอความร่วมมือประชาชนร่วมอนุรักษ์ ไม่ควรจับมาทำอาหารเพราะอาจจะติดเชื้อพยาธิได้

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอ ซึ่งอยู่ในช่วงของฤดูแล้งและบางวันมีฝนหลงฤดูตกลงมา ทำให้เกิดความชุ่มชื้น บางแห่งมีน้ำขัง ช่วยลดอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวเย็นลงบ้าง ขณะที่พื้นที่ใช้น้ำจากคลองชลประทานลำปาวหรือเขื่อนลำปาว กำลังอยู่ในระหว่างเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรัง จึงพบว่าในช่วงนี้ จะมีฝูงนกธรรมชาตินานาชนิด โดยเฉพาะนกกระยางและนกปากห่าง โบยบินอยู่รอบ ๆ รถเกี่ยวข้าว และโผบินขึ้นบนท้องฟ้า แล้วโฉบลงมาจิกกินหอย กบ เขียด ปู ปลา ตามท้องนา ทำให้เกิดสีสัน สวยงาม

นายนาคินทร์ ภูจ่าพล ผู้ใหญ่บ้านดอนยานาง หมู่ 9 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ฝูงนกกระยางและนกปากห่างดังกล่าว เห็นเข้ามาในพื้นที่ครั้งแรกประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเห็นประปราย ไม่กี่ตัว ก่อนที่ระยะหลังต่อมาจะเห็นเพิ่มจำนวนมาก คาดว่าจะมีจำนวนหลายพันตัว กระจายอยู่หลายพื้นที่ ที่เป็นพื้นที่ทำนาปรัง ทั้งในเขต ต.ดอนสมบูรณ์ ต.บัวบาน ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด, ต.เหนือ ต.หลุบ ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยจะเห็นอยู่กันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละประมาณ 20-100 ตัว

นายนาคินทร์ กล่าวอีกว่า ช่วงที่ฝูงนกดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับข้าวในนาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากนัก จะมีเพียงเหยียบต้นข้าวเท่านั้น เนื่องจากอาหารหลักของนกเหล่านี้คือหอยเชอรี่ รวมทั้งกบ เขียด ปู ปลาที่อยู่ในนาข้าว ซึ่งหอยเชอรี่ถือเป็นศัตรูข้าว โดยจะกัดกินต้นข้าวเป็นอาหารและมีการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความเสียหายต่อต้นข้าว ชาวนาต้องไปหาซื้อสารเคมีที่ราคาแพงมากำจัดหอยเชอรี่ ทำให้เกิดสารพิษตกค้าง ส่งผลเสียต่อคุณภาพข้าวและสุขภาพของชาวนา ทั้งนี้ พอมีนกกระยางและนกปากห่างเข้ามาในพื้นที่ จึงเป็นการช่วยกำจัดหอยเชอรี่ศัตรูข้าวได้เป็นอย่างดี และผลดีของนกเหล่านี้ ยังทำให้แลดูเพลินตาเพลินใจ มองดูเหมือนเป็นสวนสัตว์นกธรรมชาติ ที่สร้างความสวยงามอยู่ตามท้องทุ่งนา

ขณะที่นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า ฝูงนกธรรมชาติดังกล่าว สันนิษฐานว่าบินอพยพมาจากต่างประเทศ และในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง อาหารขาดแคลน โดยจับกลุ่มบินเข้ามาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ พบกับสภาพอากาศที่ชุ่มชื้น มีแหล่งน้ำ มีอาหาร ให้หากินตลอดปี โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ จึงปักหลักหากินและเกิดการขยายพันธุ์ดังกล่าว

นายนิยมกล่าวอีกว่า อาหารของนกเหล่านี้คือ กุ้ง หอย ปูปลา และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอื่น ๆ ช่วงแรกที่นกธรรมชาติเหล่านี้เข้ามาในพื้นที่ ได้รับการร้องเรียนจากชาวนาบ้าง ว่าลงเหยียบย่ำต้นข้าวเสียหาย และลงหากินตามบ่อกุ้งบ่อปลา  ซึ่งก็ได้ให้คำแนะนำให้หาวิธีการป้องกันความเสียหาย โดยทำนาดำเพื่อจะได้ต้นข้าวที่แข็งแรง ขณะที่ผู้เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาเอง ก็ให้ทำอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ใช้ภูมิปัญญาไล่นกด้วยวิธีการต่าง ๆ ซึ่งบรรเทาความเสียหายลงได้ ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ชาวนาและประชาชนทั่วไป ไม่ทำร้ายและไม่นิยมจับนกเหล่านี้มาทำอาหาร อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นนกธรรมชาติ ที่ช่วยกำจัดหอยเชอรี่ที่เป็นศัตรูข้าว และยังสร้างสีสัน มองดูสวยงาม จึงขอความร่วมมือจากประชาชน ช่วยกันอนุรักษ์เป็นสัตว์ประจำถิ่น เพราะฝูงนกเหล่านี้ให้คุณมากกว่าโทษ และไม่ควรจับมาทำอาหาร เพราะอาจจะติดเชื้อพยาธิได้

(เสียงสัมภาษณ์ นายนาคินทร์ ภูจ่าพล ผู้ใหญ่บ้านดอนยานาง หมู่ 9 ต.ดอนสมบูรณ์และนายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top