Thursday, 15 May 2025
SPECIAL

'สามารถ' ฉะกลับ 'พิธา' ย้อนดูลูกพรรคตัวเอง ยัน!! 'ประวิตร' ประวัติใสสะอาด เหมาะสมเป็นนายกฯ

วานนี้ (30 เม.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล​ กล่าวพาดพิง พล.อ.ประวิตร วงษ์​สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ให้ชี้แจงเรื่องฉาวให้เสร็จก่อนจะมาเป็นผู้นำประเทศ ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังกับ นายพิธา ซึ่งถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ การที่นายพิธาพูดแบบนั้นไม่ใช่เรื่องจริง และ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ถูกศาลตัดสินโทษอย่างที่นายพิธาพูดแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมูลนิธิป่าร้อยต่อ 5 จังหวัดนั้น ตนเคยชี้แจงไปแล้วว่า คนที่ก่อตั้งมูลนิธิเป็นคนที่ใหญ่กว่า พล.อ.ประวิตร มาก โดยส่วนตัวเชื่อว่า คนทั้งประเทศรู้ และมองว่า การที่ นายพิธา พยายามโจมตีนั้นหวังอะไรเชื่อว่าชาวบ้านรู้ดี อย่าลืมว่าประเทศไทยมีกฎหมายอาญา ซึ่งหน้าแปลกใจที่นายพิธา กลับเพิกเฉยต่อ ส.ส.ในพรรคของตัวเองที่กระทำผิด จึงเหมือนเป็นการให้ท้าย ส.ส. คนดังกล่าว

ส่วนเรื่องการค้ามนุษย์ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง จึงไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆ ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร มีแต่ถูกใส่ร้ายป้ายสี และประเด็นที่นายพิธา บอกว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. นั้นไม่ทราบว่านายพิธา ไปแก้รัฐธรรมนูญมาตรา​ 158 วรรค 3 แล้วหรืออย่างไร​ ถ้ายังไม่แก้ ขอเตือน นายพิธา ให้ทำตามกฎหมายบ้านเมือง อย่าทำตามใจตัวเองเพราะมันจะทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม​

'ศักดิ์เจียม' ด้อยค่า 'คำผกา' รับจ้างหากินไปวันๆ หลังพิธีกรสาวแหกปากเชียร์แม้ว แต่ไม่แตะ 112

วานนี้ (30 เม.ย. 65) นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ปัจจุบันลี้ภัยที่ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า "ผมไม่อยากเล่นงานคุณคำผกา เพราะบอกตรงๆ ว่าคุณคำผกาก็เหมือนพวกรับจ้างหากินไปวันๆ น่ะครับ เป็นพวกไม่มีน้ำหนักเท่าไร เหมือนรับจ้างเขาก็ต้องพูดแบบที่เขาชอบ แต่คุณคำผกาก็เบาๆ ไว้หน่อยก็ดีครับ น่าเสียดายที่ลดคุณค่าตัวเองลงทุกวัน"

โพสต์ของนายสมศักดิ์ สืบเนื่องจาก นางสาวลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำ ผกา พิธีกรในสถานีวอยซ์ทีวี ออกมาเคลื่อนไหวในโซเชียลฯ ปกป้องนายทักษิณ ชินวัตร และสนับสนุนพรรคเพื่อไทย หลังมีผู้วิจารรณ์นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ว่า "ฐานเสียงเพื่อไทยที่แกล้งมองไม่เห็นปัญหาของ 112 และไม่เคยแตะหรือพูดถึงมันเลย ก็ไม่ต่างอะไรกับสลิ่มถ้ามีเลือกตั้งรอบนี้ก็เหมือนแอบเข้าคูหากาเพื่อไทยด้วยใจจำยอม"

ส.ส. ฝ่ายรบ.อังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังสารภาพแอบดู 'หนังโป๊' ในสภาฯ

นีล แพริช สมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักร จากพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เปิดเผยในวันเสาร์ (30 เม.ย.) จะลาออกจากตำแหน่ง หลังยอมรับว่าแอบดูหนังโป๊ในสภาสาสมัญชน (สภาผู้แทนราษฏร) ถึง 2 รอบ

แพริช ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี ว่า ครั้งแรกที่เขาดูหนังโป๊นั้นเป็นอุบัติเหตุ พลาดเข้าไปยังเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ระหว่างพยายามค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวกับรถแทรกเตอร์ทางออนไลน์ แต่ด้วยที่มีคำคล้ายกัน เขาจึงถูกนำไปยังเว็บไซต์ดังกล่าว ส่วนครั้งที่ 2 เป็นการจงใจและเป็นช่วงเวลาบ้าๆ บอๆ ส.ส.วัย 65 ปีกล่าว

ปัจจุบัน รัฐบาลของจอห์นสัน กำลังถูกห้อมล้อมด้วยเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ไม่กี่วันก่อนถึงศึกเลือกตั้งท้องถิ่นอันสำคัญ ตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่งถูกตำรวจปรับเงินฐานละเมิดกฎระเบียบป้องกันโควิด-19 ของตนเองระหว่างการล็อกดาวน์ปี 2020 และเผชิญการสืบสวนกรณีโกหกรัฐสภาเกี่ยวกับงานปาร์ตีต่างๆ ที่จัดขึ้นในทำเนียบนายกรัฐมนตรี

'จีน' เมินประณามคว่ำบาตร หันจับมือการค้า 'รัสเซีย' ตั้งเป้าเงินสะพัด 200,000 ล้านดอลฯ ในปี 2024

รัสเซียเมื่อวันเสาร์ (30 เม.ย.) คาดว่าการไหลเวียนของสินค้ากับจีนจะเติบโตขึ้น และการค้ากับปักกิ่งจะแตะระดับ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2024 ในขณะที่มอสโกกำลังถูกตะวันตกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น

จีนปฏิเสธประณามปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน และวิพากษ์วิจารณ์มาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงอย่างไม่เคยมีมาก่อนของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก สองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงคำแถลง "ความเป็นหุ้นส่วนแบบไร้ขีดจำกัด" ในเดือนกุมภาพันธ์

"เรามุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมาย ตามที่ทางประมุขแห่งรัฐตั้งเป้าไว้ว่าจะนำพาการค้าทวิภาคีสะพัดสู่ 200,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2024" จอร์จี ซิโนเวียฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ "ยิ่งไปกว่านั้น เราคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่เราจะบรรลุตัวเลขแห่งความทะเยอทะยานนี้เร็วกว่าแผนที่วางเอาไว้"

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ ที่ 1 พฤษภาคม 2565 : หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ

ให้ดูในหลวงเป็นแบบอย่าง ให้เดินตามที่ท่านสอน
เดินตามรอยท่าน ท่านทำไว้เยอะ 
ตรองดูให้ดีเถอะ มีเป็นร้อยเป็นพัน เรื่องดีดีทั้งนั้น

- หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ -

อดีตรมว.พลังงาน  เตือนรัฐต้องเสียสละ ไม่ดึงเงินออกจากกระเป๋าปชช. หลังพรุ่งนี้ น้ำมันดีเซล จะปรับขึ้นเป็น 32 บาท/ลิตร  ชี้อย่ามุ่งแค่เก็บภาษีตามเป้า บอกรัฐบาลอยู่ได้ แต่ปชช.อยู่ไม่ได้   แนะ รัฐควรต่ออายุการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไป

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก  ปรามรัฐบาล  ไม่ควรทำอะไร ที่ดึงเงินออกจากกระเป๋าประชาชน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ โดยระบุ ว่า อย่างที่ทราบว่า พรุ่งนี้ 1 พฤษภา 65 ราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั๊มจะขึ้นเป็น 32 บาท ต่อลิตร สิ่งที่ตามมาแน่ๆ คือ เราต้องควักเงินออกจากกระเป๋าสตางค์เพิ่มขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ราคาข้าวของก็จะสูงขึ้น เพราะต้นทุนการผลิต การขนส่ง ที่ปรับตัวตามราคาน้ำมัน

นายสนธิรัตน์ ย้ำว่าในเวลาที่ประชาชนลำบากอย่างนี้ รัฐต้องเสียสละ  อย่าไปมุ่งอยู่กับเป้าของการเก็บภาษีให้ได้ตามเป้า การที่น้ำมันดีเซลราคาขึ้นก็เพราะต้นทุนน้ำมันจากราคาตลาดโลกที่คุมไม่ได้ บวกกับโครงสร้างภาษีและอื่นๆที่เป็นสูตรเฉพาะของเรา

ตนขอเสนอว่า เรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล รัฐควรต่ออายุการลดออกไปอีกครับ รัฐต้องยอม ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ต้องมาช่วยอุ้มประชาชนและโครงสร้างต้นทุนราคาน้ำมันคืออีกหนึ่งคำตอบ คือทางออกของเรื่องนี้  โดยวันนี้กองทุนน้ำมันติดลบ ประมาณ 24,000 กว่าล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบประมาณ 31,000 กว่าล้านบาท การช่วยเหลือจากกองทุนน้ำมัน ด้วยการไปหาเงินกู้มาใส่ในกองทุน จึงเหมือนเป็นการพายเรือในอ่าง เพราะการไม่ลดการเก็บภาษี แต่สุดท้ายก็ไปกู้เงินมา เพื่อมาพยุงราคา จริงๆ แล้วก็คือ เงินไม่มีพอทั้งคู่ แต่ไม่ไปดูไปลดที่โครงสร้างภาษีน้ำมัน

‘โรม’ รับไม้ต่อโฆษกพรรคก้าวไกลจาก ‘วิโรจน์’ ประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง เสนอแคนดิเดทที่มีความกล้าหาญให้ประชาชนเลือก พร้อมต่อสู้อย่างแหลมคมในทุกประเด็นอย่างต่อเนื่อง ชี้ ขาดนักการเมืองที่กล้าหาญประเทศไทยเปลี่ยนไม่ได้

ในเวทีช่วงบ่ายของการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคก้าวไกล ครั้งที่ 1/2565 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ในฐานะอดีตโฆษกพรรคก้าวไกล ขึ้นกล่าวแสดงความรู้สึกก่อนส่งมอบตำแหน่งโฆษกพรรคสู่รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โดยระบุว่าในฐานะสมาชิกพรรคก้าวไกล ตัวเองขอให้ทุกคนที่นี่ตั้งคำถาม ว่าการที่ทุกคนมาเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ จนกระทั่งพรรคถูกยุบแล้วมาเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลวันนี้ เราล้วนแต่มาเพื่อการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้าง เพราะเราทุกคนรู้ว่าจะหลับตาข้างเดียวปล่อยให้ความอยุติธรรมแบบนี้ดำรงต่อไปไม่ได้ 

วิโรจน์กล่าวต่อว่าการบริหารประเทศภายใต้ความจริงที่กระอักกระอ่วน พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องหลับตาข้างเดียวตลอดเวลา ปล่อยให้คนกลุ่มหนึ่งได้ประโบชน์ในขณะที่คนส่วนใหญ่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ปล่อยให้ความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมขยายตัวไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ได้

เครือข่ายอุปถัมภ์ไม่ได้หดตัวลง แต่นับวันยิ่งขยายตัวออกไปเรื่อยๆ เมื่อเครือข่ายใหญ่โตขึ้น ทรัพยากรจะถูกสูบไปให้คนกลุ่มนั้น ประชาชนจะได้แต่เศษเนื้อข้างเขียงเหมือนเดิม นี่คือเหตุผลที่เรามาเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลวันนี้

“ถ้าเปรียบเป็นทีมฟุตบอล มีทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง บอร์ดบริหารบอกว่าแผนการเล่นเปลี่ยนไม่ได้ นักเตะขายออกไม่ได้ ซื้อเข้าไม่ได้ ทีมแบบนี้ไปต่อไม่ได้ แน่นอนว่าการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทีมแบบนี้อาจจะยาก แต่ถ้าเรายอมแก้โครงสร้าง ก็สามรรถลุ้นสี่แชมป์ได้ พรรคก้าวไกลไม่ต้องการเป็นผู้เล่นใหม่ในเกมแบบเดิม แต่เราต้องการเข้ามาเปลี่ยนเกม เราไม่อยากเปลี่ยนแค่ผู้เล่น และถ้าต้องดารเปลี่ยนเกม ต้องก้าวไกลทั้งแผ่นดินเท่านั้น” วิโรจน์กล่าว

กองทัพเรือ ลงทัณฑ์ ‘จ่าโททักษิณ’  อุตริบังคับทหารใหม่กินอสุจิ สั่งขัง 30 วัน พร้อมปลดออกจากราชการ และธำรงวินัย ผู้บังคับบัญชา 2 ระดับ

เมื่อวันที่ 30 เมษายน พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงผลการสอบสวนครูฝึกบังคับทหารกองประจำการผลัดใหม่ ให้กินน้ำอสุจิของตนเอง รายละเอียดตามข่าวที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น เหตุการณ์ดังกล่าว ทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ จ่าโท ทักษิณ หงอกพิลัย ได้สั่งย้าย จ่าโท ทักษิณ ให้มาทำหน้าที่อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับทหารกองประจำการ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งหากตรวจพบว่ากระทำความผิดจริงจะต้องถูกลงทัณฑ์ทางวินัยตามความผิดสูงสุด

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 กรมรักษาความปลอดภัย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้รายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า จ่าโท ทักษิณ ได้กระทำความผิดจริง จึงให้ลงทัณฑ์ขัง จ่าโท ทักษิณ มีกำหนด 30 วัน ฐานทำให้เสียชื่อเสียงแก่หมู่คณะทหารอย่างร้ายแรง ซึ่งจะมีผลตามระเบียบกองทัพเรือคือปลดออกจากราชการ

โดยโฆษกกองทัพเรือ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับในส่วนของผู้บังคับบัญชาของ จ่าโท ทักษิณ ทางหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้มีคำสั่งให้ธำรงวินัย ผู้บังคับการกรมรักษาความปลอดภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นเวลา 7 วัน และผู้บังคับกองร้อยกองบังคับการและบริการ กรมรักษาความปลอดภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นเวลา 15 วัน ในฐานะผู้บังคับบัญชาขึ้นไป 2 ระดับของผู้กระทำความผิดวินัยทหาร

รมว.ยุติธรรม ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน ’ควง รมว.สำนักนายกฯ ‘อนุชา นาคาศัย’ จับมือ กองทุนหมู่บ้านฯ ทุ่ม 50 ล้าน ผุดโครงการแจกยืมวัว 1,000 ครอบครัว สร้างอาชีพให้ชาวบ้าน ปักหมุด สุโขทัยเป็นพื้นที่นำร่อง ก่อนขยายไปทั่วประเทศ

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์เรียนรู้การเกษตรเทิดไทฟาร์ม จ.สุโขทัย มีการจัดงานโครงการไกล่เกลี่ยหนี้สิน หาช่องทางทำกิน ขจัดหนี้สิ้นความจน ภายใต้การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายอนุชา นาคาศัย รมว.ประจำสักนายกรัฐมนตรี นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย นายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พิจิตร พรรคพลังประชารัฐ  ผอ.กองทุนหมู่บ้าน(กทบ.) เกษตรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย อุตสาหกรรมจังหวัด ตัวแทนกองทุนหมู่บ้าน 600 แห่ง ข้าราชการและประชาชนร่วมงาน

นายอนุชา กล่าวเปิดงานว่า โครงการนี้กองทุนหมู่บ้านและประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ตนต้องขอบคุณท่าน รมว.ยุติธรรม ที่นำ กรมคุ้มครองสิทธิฯและกรมบังคับคดีมาร่วมขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวด้สย นายสมศักดิ์ ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน ตนอยู่กับท่านมา 30 กว่าปี ตั้งแต่ก่อนเป็นส.ส. จนปัจจุบันนี้ ตนเห็นท่านตั้งใจคิดจะทำให้พี่น้องหมดหนี้สิน ท่านคิดแบบนี้มาตลอด และวันนี้พี่น้องกองทุนหมู่บ้านได้รับอานิสงค์จากโครงการที่ท่านคิดในอดีต ซึ่งวันนี้ท่านอยากเห็นพี่น้องสร้างอาชีพที่มีรายได้อย่างแท้จริง อยากเห็นพี่น้องจับเงินแสน ที่มีโครงการทดลอง และอยากให้รัฐบาลสนใจ และพยายามมาตลอด จนปัจจุนได้ร่วมกับภาคเอกชน นำร่องให้โค 300 ตัวแก่ชาวบ้านสุโขทัยยืมไปเลี้ยง เป็นโครงการนำร่อง

นายอนุชา กล่าวิกว่า 3 ปีพี่น้องจะได้จับเงินแสน เป็นโครงการจริง ไปถามคนเลี้ยงได้ ไม่ใช่ความฝันแต่เป็นเรื่องจริง ตนคิดว่าพวกท่านทำได้หากตั้งใจจริง จะได้จับเงินแสน กทบ.เป็นหน่วยงานที่ผมกำกับดูแล เมื่อเห็นผลจาก จ.สุโขทัย เราจึงนำโครงการเข้าสู่กองทุนหมู่บ้าน ทำโครงการนำร่อง ให้ จ.สุโขทัย 50 ล้านบาท ให้กับ 1,000 ครอบครัว เงิน 50,000 บาท ซื้อวัว 3 ตัว เงินที่ยืม ปลอดดอกเบี้ย 2 ปี เราอยากเห็นพี่น้องเกษตรกรปลดหนี้สินได้ อยากเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก ถ้าโครงการนี่สำเร็จไปทั่วประเทศ ท่านสมศักดิ์คงร้องไห้ ดีใจ ท่านคิดเรื่องนี้มานาน นี่คือโอกาสที่พวกผมจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไป เรามาสร้างงานสร้างอาชีพ ไม่ได้มาสร้างหนี้ เราอยากเห็นพี่น้องคนไทย ลืมตาอ้าปาก
 

นอนหลับอย่างไรให้สุขภาพดี

ในแต่ละวันการนอนหลับใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของช่วงเวลาทั้งวัน ดังนั้นหากนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ฮอร์โมนต่างๆ ทำงานอย่างปกติและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในขณะที่นอนหลับสนิท ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโต (Growth hormone) ออกมาเป็นจำนวนมาก

การนอนหลับบนที่นอนและหมอนที่เหมาะสมมีส่วนช่วยให้เกิดความผ่อนคลายและความสบาย ดังนั้นการเลือกที่นอนและหมอนที่ดีจึงมีความสำคัญและไม่ควรมองข้าม

✨ที่นอนที่ดีเป็นอย่างไร ?

ที่นอนที่ดีต้องรองรับน้ำหนักตัวได้อย่างเต็มที่ สามารถกระจายน้ำหนักตัวออกไปได้มากที่สุดจนร่างกายทุกส่วนรู้สึกผ่อนคลายและกล้ามเนื้อต่างๆ ทำงานน้อยที่สุด ทำให้กล้ามเนื้อได้พักผ่อนตลอดการนอนหลับ        6-8 ชั่วโมง ในทางตรงข้ามหากนอนหลับบนที่นอนที่ไม่เหมาะสม ไม่สามารถรองรับและกระจายน้ำหนักตัวได้เต็มที่ กล้ามเนื้อบางมัดอาจอยู่ในท่าเกร็งหรือไม่ผ่อนคลาย ส่งผลให้ปวดเมื่อยร่างกายได้

1.) ที่นอนที่ดีต้องเรียบ ตึง และแน่น
อาจทำจากนุ่น ใยสังเคราะห์ สปริงหรือใยมะพร้าว โดยมีความยืดหยุ่นพอสมควร นอกจากนี้ต้องไม่มีส่วนนูนโค้งเพราะทำให้รับน้ำหนักไม่สม่ำเสมอและกล้ามเนื้อบางมัดต้องทำงานขณะนอนหลับ 

2.) ที่นอนที่ดีต้องไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป
ถ้าที่นอนนิ่มเกินไป ร่างกายจะจมลงไปในที่นอน ส่วนที่หนักจะถูกกดทับและรับน้ำหนักมากกว่าส่วนอื่น การกระจายน้ำหนักไม่ดี ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยได้ง่าย ส่วนที่นอนที่แข็งเกินไป อาจทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณปุ่มกระดูกต่างๆ 

3.) ควรเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับรูปร่างของตัวเอง
สำหรับคนรูปร่างผอมอาจเลือกที่นอนที่มีลักษณะนิ่มกว่าเพื่อรองรับปุ่มกระดูกต่างๆ ของร่างกาย ส่วนคนรูปร่างใหญ่อาจเลือกที่นอนที่มีความแข็งกว่า เพราะกล้ามเนื้อและไขมันจะช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักตัวได้ แต่ถ้าคนรูปร่างใหญ่ใช้ที่นอนนิ่ม ส่วนของร่างกายจะจมลงไปในที่นอน ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว

นอกจากที่นอนที่ดีแล้ว อุปกรณ์ในการนอนที่มีความสำคัญเช่นกันก็คือ “หมอน” เพราะช่วยรองรับและกระจายน้ำหนัก โดยเฉพาะร่างกายช่วงคอบ่าไหล่

บิ๊กเซอร์ไพรส์!! ประชุมใหญ่ ‘พรรคกล้า’ เปิดตัว ‘กอร์ปศักดิ์’ อดีตรองนายกฯสมัย ‘มาร์ค’ นั่งประธานยุทธศาสตร์ฯ ด้าน ‘กรณ์’ เสนอ 4 แนวทาง ฟื้นเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปากท้อง หลังโควิด ลั่นพรรคกล้าประชาชนต้องมาก่อน  

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.เวลา 09.30 น. ที่ ห้องวายุภักษ์ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราบาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ  พรรคกล้า ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิกาพรรคกล้า และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงาน  โดยไฮไลน์การประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดตัวนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคกล้า

 โดยนายกรณ์ กล่าวในหัวข้อ ฟื้นเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปากท้องว่า ในการประชุมครั้งนี้เท่ากับเวลาที่เราได้มาทำงานครอบ2ปีพอดี ซึ่งเป็น2ปีที่ประชาชนมีความเดือดร้อนหนักหนาสาหัส เพราะประสบกับสถานการณ์โควิด และปัญหาทางเศรษฐกิจ และที่หนักที่สุดที่ทำให้ประชาชนคนไทยมีความทุกข์มากที่สุดคือการที่เขามองไม่เห็นอนาคตว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ได้อย่างไร พรรคกล้าเราตั้งใจเสนอว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องสร้างโอกาสสร้างรายได้  เราต้องชัดเจนว่าจะสร้างกลับคืนมาให้ประชาชนได้อย่าไร 

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า โดยพรรคกล้าขอเสนอ 4 แนวทางและการสร้างรายได้ สร้างโอกาส คือ 1.สร้างอุตสาหกรรมใหม่ จะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ ที่เรียกว่ากล้า Green Deal, 2.ยกเลิกสิ่งที่อยู่ใต้ดินให้มาอยู่บนดิน สิ่งที่อยู่ในที่มืดมาอยู่ในแสงสว่าง เพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้รัฐบาล โดยเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี, 3. ผลักดันเศรษฐกิจดิจิตอล สร้างช่องทางการค้าขายออนไลน์ให้กับประชาชน และ4. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์  ซึ่งทั้ง 4 แนวทางหลักนี้ จะนำไปสู่แหล่งรายได้หลักของไทย แต่ทั้งหมดจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ มี 2 คำ คือเทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างได้ด้วยวิธีคิด และทัศนคติที่ปรับใหม่ ทั้งเรื่องการศึกษา ระบบราชการที่จะต้องปฏิรูปสู่เทคโนโลยี ถ้ายังไม่มีการปฏิรูประบบราชการจะกลายเป็นคอขวดและตัวถ่วงของประชาชนและภาคเอกชน ดังนั้นต้องปฏิรูปนำระบบราชการให้เข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่าง 100 เปอร์เซนต์  นำระบบราชการเข้าสู่โทรศัพท์มือถือได้  ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความฝัน เพราะตอนนนี้คนไทย 30 กว่าล้านคนที่ให้แอปเป๋าตังค์ 

 นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการปครอง ต้องมีการกระจายอำนาจ หมดยุคการรวมศูนย์อำนาจแล้ว เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด สร้างวัฒนธรรมสตาร์ทอัพ พร้อมที่จะผิดพาด พร้อมที่จะเรียนรู้ และเปลี่นแปลงโดยเร็ว  ซึ่งเชื่อว่าถ้าในอนาตเรามีโอกาสทำเรื่องแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความครึกคัก ขวัญกำลังใจ ความหวังของประชาชนจะกลับมา  เพราะเราอยู่ได้ด้วยความหวัง และความหวังต้องมาจากการที่ประชาชนสามารถมองเห็นผู้นำที่เชื่อใจ สนใจใส่ใจ เข้าใจแก้ปัญหาดร้อนของเขาได้อย่างไร  ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเราชาวพรรคกล้า และเป็นภารกิจของพรรคกล้า ที่จะต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนมีความเชื่อว่าปัญหาที่เป็นอยู่มันแก้ไม่ได้ ทั้งปัญหาทุจริต ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาด้านการศึกษา ฝุ่น PM 2.5 ปัญหาการปฏิรูปตำรวจ ทั้งนี้แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไข แต่ตนเชื่อว่าทุกเรื่องแก้ได้ โดยต้องอาศัยความกล้า นี่คือยุคของโอกาสนิยม ไม่ใช่ประชานิยม ต้องสร้างรายได้สร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน ทุนใหญ่ต้องโตได้ทุนเล็กต้องมีที่ยืน รัฐบาลต้องร่วมมือกับเอกชน 

“ตลอด 2ปีที่ผ่านมาเราสัมผัสได้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่คำตอบให้กับสังคม เราลงเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งและเห็นว่าประชาชนให้โอกาสกับเรามากขึ้น และเราต้องทำงานอย่างหนักก่อนจะถึงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ภายในอีก 10 เดือนข้างนี้  ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือการเมืองแบบใหม่ การเมืองที่มีความสร้างสรรค์ การเมืองที่ทำด้วยคนที่เป็นมืออาชีพ พวกเราจะไม่ป่าวประกาศในฐานะพรรคใหม่ว่าเราจะได้ ส.ส.กี่คน หรือจะแลนด์ไสลด์ เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้เราเป็นพรรคใหม่ยังมีการบ้านที่ต้องทำอีกมาก แต่ที่อยากจะบอกคือเราพร้อมทำงานหนัก พร้อมรับฟังประชาชน และพร้อมที่จะเสียสละ และสำหรับพรรคกล้าประชาชนต้องมาก่อน” นายกรณ์กล่าว

จากนั้นนายกรณ์ ได้เปิดตัวคณะกรรมการเศรษฐกิจ โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ จะเข้ามาทำหน้าที่ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคฯ โดยมีตน และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคฯ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจต่อไป ส่วนนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค ฯ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจคนตัวเล็ก และนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษานาคารแห่งประเทศไทย มาเป็นที่ปรึกษานโยบายด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจดิจิตอล ของพรรคฯ มาช่วยงานด้านเศรษฐกิจดิจิตอล รวมทั้งยังมี ร.อ.หญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และอดีตคณะทำงานพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ามาดูแลงานด้านท่องเที่ยว โดยเฉพาะเศรษฐกิจท่องเที่ยวภาคล้านนา

แบบนี้ก็มีด้วย!! นักลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เบนเป้า หันมายื่นฟ้อง ‘แจ็ค หม่า’ หลังยื่นฟ้องอาลีบาบากรุ๊ปไม่เป็นผล ปมราคาหุ้นอาลีบาบาตกหนัก ทำสูญเงินมหาศาล

เพจ “ลึกชัดกับผิงผิง” สื่อที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีน โพสต์ข้อความระบุว่า ปี 2021 นักลงทุนหุ้นสหรัฐฯ หลายคนยื่นฟ้องกลุ่มอาลีบาบาต่อศาลเขตภาคใต้นครนิวยอร์ก ด้วยสาเหตุที่ราคาหุ้นอาลีบาบาตกหนัก ทำให้พวกเขาสูญเสียมหาศาล แต่ไม่เป็นผล 

วันที่ 22 เมษายน 2022 นักลงทุนดังกล่าวแก้ไขหนังสือฟ้องร้อง โดยมีเป้าหมายที่นายแจ็ค หม่าผู้ก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา ทั้งๆ ที่นายแจ็ค หม่าลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการอาลีบาบาตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2019  แล้ว 

เป็นเรื่องน่าขำยิ่ง เพราะตอนที่ค่าหุ้นอาลีบาบาพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก บรรดานักลงทุนพากันดีใจใหญ่ ปัจจุบันราคาหุ้นตกอย่างหนัก จึงรู้สึกไม่พอใจก็เลยไปฟ้องร้อง ตลาดหุ้นมีกติกาแบบนี้หรือ? 

เหตุใดที่ทำให้ราคาหุ้นบริษัทนิวไฮเทคจีนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯตกลงอย่างฮวบฮาบ 

ช่วงรัฐบาลทรัมป์ จีนกับสหรัฐฯเกิดข้อขัดแย้งทางการค้า สหรัฐฯออกมาตรการจำนวนหนึ่งเพื่อทำลายล้างบริษัทจีน ปี 2020 วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่าน “กฎหมายสืบสวนความรับผิดชอบบริษัทต่างประเทศ” โดยพุ่งเป้าต่อบริษัทจีนอย่างชัดเจน หลังจากนั้น ราคาหุ้นบริษัทนิวไฮเทคจีนที่มีอาลีบาบาเป็นตัวแทนตกลงอย่างอวบฮาบต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 

แต่นักลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่ฟ้องร้องนายแจ๊ค หม่าไม่ได้เอ่ยถึงเบื้องหลังสำคัญนี้ในหนังสือร้องเรียนดังกล่าว 

ต้นเดือนมีนาคมปีนี้ คณะกรรมการแลกเปลี่ยนพันธบัตรสหรัฐฯ หรือ SEC จัดบริษัทจีน 5 บริษัทเข้าไว้ในบัญชี “รายชื่อบริษัทที่จะไล่ออก” วันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา รายชื่อนี้ได้เพิ่มบริษัทจีนอีก 19 บริษัท คาดว่าในอนาคตบริษัททุนจีน 191 บริษัทจะถูกขึ้นบัญชีดำทั้งหมด ทำให้นักลงทุนพากันเทขายหรือไม่ซื้อหุ้นบริษัทจีนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ

‘เทพไท’ ฟันธง นายกฯสำรอง โอกาสกินแห้วสูง เหตุ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่มีชื่อในบัญชีแคนดิเดต เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ เลือกยุบสภา มากกว่าลาออก

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊กว่า ช่วงนี้มีการพูดถึงกระแสข่าวนายกฯสำรองให้ได้ยินกันอย่างหนาหู หลังจากที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ได้เปิดประเด็นเสนอ ให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นนายกฯขัดตาทัพ แทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นไปได้ และความเหมาะสม รวมทั้งการเปิดรายชื่อนายกฯสำรองกันหลายคน 

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ถ้าหากพล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีอันเป็นไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลใดก็ตาม บุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป อันดับแรก ต้องมาจากรายชื่อแคนดิเดตของพรรคการเมืองต่างๆก่อน เช่น พรรคภูมิใจไทยมีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคประชาธิปัตย์มีชื่อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่วนพรรคเพื่อไทย มีชื่อของนายชัยเกษม นิติสิริ ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ไปตั้งพรรคไทยสร้างไทยแล้ว และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ลาออกจากพรรคเพื่อไทยออกไปผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.อยู่ในขณะนี้

“การเปิดประเด็นเสนอชื่อของพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นบุคคลนอกบัญชีของพรรคการเมือง ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนพล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้เงื่อนไขตามมาตรา 272 วรรค 2 นั้น น่าจะเป็นการโยนหินถามทาง หยั่งกระแสของสังคม หรือสร้างความหวาดระแวงกันในหมู่พี่น้อง 3 ป.มากกว่า อาจจะเป็นการหวังดีประสงค์ร้ายต่อพล.อ.ประวิตร เพราะถ้าหากพล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนพล.อ.ประยุทธ์จริง โอกาสที่จะถูกโจมตี โค่นล้มรัฐบาลจากฝ่ายตรงข้ามง่ายกว่า เพราะต้นทุนทางสังคมของพล.อ.ประวิตร ต่ำกว่าพล.อ.ประยุทธ์ พอสมควร” นายเทพไท กล่าว

“เฉลิมชัย” สั่งฟรุ้ทบอร์ดเร่งปลุกตลาดผลไม้ทั่วประเทศ “อลงกรณ์” ผนึก” อตก.” เปิดจุดขายขยายตลาดออนไลน์ออฟไลน์เพิ่มการบริโภคในประเทศ 40%

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลไม้ล่วงหน้าในคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้(30 เม.ย.)ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และการบริหารจัดการตลาดสดของ อ.ต.ก. พร้อมทั้งมอบนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อผลักดันการบริโภคผลไม้และผลผลิตทางการเกษตรของไทย โดยมีนายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. พร้อมด้วยผู้บริหาร อ.ต.ก. ให้การต้อนรับว่า ได้มอบหมายให้ อ.ต.ก. เป็นหน่วยงานกลางผู้ประสานงานระหว่างตลาดสินค้าเกษตรทั้งหมดทั่วประเทศเพื่อส่งเสริม ผลักดันการบริโภคผลไม้ไทย


พร้อมทั้งนำผลไม้ไทยบุกตลาดออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และในส่วนของการทำการตลาดออฟไลน์ให้ดำเนินการเชิงบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐเช่นองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย บริษัทไปรษณีย์ไทย หอการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอี. โมเดิร์นเทรด ตลาดกลางสินค้าเกษตรทั่วประเทศ โปรโมทขายผลไม้ นอกจากนี้ขอให้ อ.ต.ก. พัฒนาและปั้น Brand Ortorkor ให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและระดับสากลเพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรและเป็นแบรนด์การันตีคุณภาพสินค้าเกษตรของไทย รวมทั้งเพิ่ม จุดจำหน่ายและกระจายสินค้าเกษตรเพื่อเป็นช่องทางกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ อ.ต.ก. เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนและสนับสนุนตลาดเกษตรกร( Farmer Market )ในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อมากที่สุดอีกด้วย 
    นอกจากนี้นายอลงกรณ์และคณะได้ลงพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. พบปะพูดคุยกับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการผู้ค้าทุเรียน มังคุด เงาะ ลำไย ชมพู่ มะม่วง มะพร้าว แตงโม พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนบริโภคผลไม้ไทยเพิ่มขึ้นเพื่ออุดหนุนและสนับสนุนเกษตรกรไทยในช่วงฤดูกาลผลไม้ปีนี้

‘หมอวรงค์’ จับพิรุธขบวนการเลื่อยขาเก้าอี้ ‘บิ๊กตู่’ ชี้อาจเป็นทฤษฎีสมคบคิด ห้วงเวลาเดินเกมเหมาะเจาะลงตัว สอดรับความต้องการคนแดนไกล

30 เม.ย.2565 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ถึงกระแสข่าวการตั้งนายกรัฐมนตรีคนนอก แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า...ทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่

ผมเป็นคนหนึ่ง ที่คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญบัตรสองใบ เพราะระบบนี้จะทำให้เกิดมุ้งการเมือง ซึ่งมีนายทุนมาคุมต่ออีกทอด และใช้เงินสูงมาก ต่อรองกันมาก โกงกันมาก เผด็จการรัฐสภา สุดท้าย นายทุน จะเป็นคนชี้ว่าใครจะเป็นนายก หรือรัฐมนตรี

หลังจากการแก้รัฐธรรมนูญ มาสู่บัตรสองใบ ก็เกิดมุ้งขึ้นมาจริงๆ แต่มุ้งดังกล่าว แยกพรรคออกไป ล่าสุดก็มีภาพมุ้งต่างๆทยอย ออกมาให้เห็น เช่นกลุ่ม 16 ประกอบกับมีข่าวว่า คนมีอำนาจบางคนพบปะคนแดนไกล ที่ต่างประเทศ

ถัดมามีข่าวนายไพบูลย์ ซึ่งใกล้ชิดคนมีอำนาจ และเคยเป็นประธานกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตรสองใบ แต่ภายหลัง ถูกหักไม่ได้ตำแหน่ง ประธานกรรมาธิการแก้ไขกฏหมายลูก ออกมาพูดว่า การคิดจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องหาร 100 ไม่ใช่ 500 ซึ่งสอดรับกับ ที่พรรคเพื่อไทยต้องการ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top