นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 2/2566เพื่อเร่งรัดทุกหนว่ยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์
วันนี้ (23 มิถุนายน 2566) นายชัยวุฒิ รัฐมนตรีดีอีเอส พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์ สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.อ. ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ต. เอก รักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. พล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ท. สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการประจําสํานักงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ นาวาโท ศักติพงษ์ สิบหมื่นเปี่ยม ผู้อํานวยการฝ่ายเฝ้า ระวังความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ สกมช. นายเขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อํานวยการกองคดีเทคโนโลยี และสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ ไทย นายกฤษณ์ ไพโรจน์กีรติกุล ผู้อํานวยการฝ่ายอาวุโส บมจ. ธนาคารกรุงไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย นางสาวสุชา บุณยเนตร ผู้ช่วยเลขาธิการสํานักงาน ก.ล.ต. นางสาวอรวรี เจริญพร ผู้อํานวยการสํานักบริหาร จัดการหมายเลขโทรคมนาคม สํานักงาน กสทช. และนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 2/2566 เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดําเนินการที่เกี่ยวข้องกับตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และพิจารณากระบวนการ ดําเนินงานที่เกี่ยวข้องในการระงับยับยั้งธุรกรรมที่ต้องสงสัยและช่องทางสําหรับให้บริการประชาชนอย่าง สะดวกและรวดเร็ว
ที่ผ่านมาหลัง พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดําเนินการ สรุปผลได้ดังนี้ เมื่อเทียบก่อนและหลังออก พ.ร.ก. สถิติการเกิดคดีออนไลน์ ลดลง และสามารถอายัดบัญชีคนร้ายได้มากขึ้น ดังนี้
- สถิติคดีออนไลน์ - การอายัดบัญชีก่อน เฉลี่ย 790 เรื่อง/วัน หลัง เฉลี่ย 684 เรื่อง/วัน
(คดีลดลงเฉลี่ย 106 เรื่อง/วัน) ก่อน อายัดได้ทัน 6.5% (ขออายัด 1.35 พันล้านบาท อายัดทัน 87 ล้านบาท) หลัง อายัดได้ทัน 15.3% (ขออายัด 1.5 พันล้านบาท อายัดทัน 229 ล้านบาท) (อายัดได้ทันเพิ่มขึ้น 8.8%)
ผลการดําเนินงาน 4 ด้าน
1. บัญชีม้าซิมม้าแก๊งCallCenter-ปิดกั้นSMS/เบอร์โทรหลอกลวงรวม188,915รายการ (กสทช.) / ปิดกลุ่ม facebook ซื้อขายบัญชีม้า 19 กลุ่ม (กระทรวงดิจิทัลฯ) / อายัดบัญชี 101,904 บัญชี (สตช.) / - แจ้งรายชื่อบุคคล /เจ้าของบัญชีธนาคาร ที่ใช้กระทําความผิด 993 รายชื่อ (ปปง.) / ดําเนินคดี บัญชีม้า ซิมม้า 219 คดี ผู้ต้องหา 216 คน (ตํารวจ)
2. การหลอกลวงลงทุน-ระดมทุนออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน-ดําเนินคดี740คดี/ผู้ต้องหา 762 ราย (ตํารวจ)
3. การพนันออนไลน์-ดําเนินคดี662คดี/ผู้ต้องหา774ราย(ตํารวจ)/ปิดกั้น2,334เว็บไซต์ (กระทรวงดิจิทัลฯ)
4. การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ - ดําเนินคดี 331 คดี / ผู้ต้องหา 347 ราย (ตํารวจ)
ที่ประชุมไดพ้ ิจารณาประเด็นที่สําคัญในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 7 เรื่อง
1. เหตุอันควรสงสัยของสถาบันการเงินโดยได้กําหนดเหตุอันควรสงสัยของธุรกรรมทางการเงินที่อาจเป็น การดําเนินการของมิจฉาชีพ 18 ข้อ
2. เหตุอันควรสงสัยของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่อาจเป็นการดําเนินการของมิจฉาชีพ10ข้อ
3. ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลฯ ระหว่าง สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล ITMX ซึ่งที่ ประชุมมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศและสมาคมธนาคารไทยเร่งรัดการจัดทําระบบแลกเปลี่ยน ข้อมูลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
4. ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่าง ผู้ให้บริการ เครือข่ายโทรศัพท์ ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้สํานักงาน กสทช เร่งพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เพื่อใช้ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์
5. วิธีการและช่องทางในการแจ้งเหตุอันควรสงสัย และรับส่งข้อมูล ของสถาบันการเงินฯ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตํารวจจะพัฒนาระบบ Banking เชื่อมต่อกับระบบ ITMX ของสถาบันการเงินเพื่อเป็น ช่องทางรับแจ้งเหตุอันควรสงสัย และให้ ปปง. และ DSI พิจารณาช่องทางในการรับแจ้งเหตุอันควร สงสัยและการรับส่งข้อมูลกับสถาบันการเงินด้วย
6. วิธีการและช่องทางในการแจ้งเหตุอันควรสงสัย และรับส่งข้อมูล ของผู้ให้บริการโทรศัพท์ฯ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยระบบ banking ของตํารวจจะเชื่อมต่อกับระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลของ
กสทช. ด้วยเพื่อรับแจ้งเหตุอันควรสงสัย
7. วิธีการและช่องทาง ของสถาบันการเงินฯ ในการรับแจ้งจากผู้เสียหาย โดยหน่วยงานได้ ร่วมกัน ดําเนินงานตาม พรก อย่างจริง
8. มาตรการอื่นๆได้แก่การควบคุมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อไม่ให้เป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยน และฟอกเงิน การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรัฐร่วมเอกชน แนวทางการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้าและ ซิมม้า แนวทางในการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้แก่ประชาชน มาตรการในการป้องกันปราบปรามคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีประเภท แอปพลิเคชันดูดเงิน
รัฐมนตรีชัยวุฒิฯ แจ้งว่า คณะกรรมการได้เห็นชอบแนวทางตามที่เสนอและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นําไปดําเนินการ อย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาลดความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยเร็วต่อไป และขอขอบคุณทุก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขานรับและตั้งใจร่วมกันในการดําเนินงานแก้ไขปัญหาลดความเสียหายและอาชญากรรมที่ เกิดขึ้น บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จับกุมผู้กระทําความผิด และดําเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า และซิมม้ามาลงโทษ ซึ่งจะสามารถบรรเทาการสูญเสียทรัพย์ได้แน่นอน