Sunday, 11 May 2025
SPECIAL

จับหัวโจกและสมาชิกแก๊งหาดวัดใต้ ก่อเหตุรุมทำร้ายคู่อริ พบเกี่ยวข้องกับกลุ่มยิงอาวุธสงครามกลางเมือง

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 65 สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย ได้นำเสนอคลิปวิดีโอ เกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันที่บริเวณร้านอาหารซิ๊กตี้นายบาร์ เลขที่ 69 ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน ได้พังประตูร้านเข้าไปทำร้ายร่างกาย น.ส.จุฑามาศ หรือจูน คชนะ อายุ 23 ปี, นายปฏิวัติ บุญเสนอ อายุ 19 ปี และนายสุรวิสิฐ หรือโก้ วิจิตรพณิชยากุล อายุ 33 ปี พร้อมกับทำลายกล้องวงจรปิดภายในร้าน และนำฮาร์ดดิสของกล้องวงจรปิดของร้านที่เกิดเหตุไปด้วย 

โดยกลุ่มชายดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับแก๊งเอกมัยหรือแก๊งหาดวัดใต้ ที่เคยใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้กับแก๊งคู่อริ มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ปรากฎเป็นข่าวดังเมื่อประมาณ เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา นั้น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เร่งสืบสวนคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ลดความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจต่อหน้าประชาชนเป็นจำนวนมาก และยังมีความเกี่ยวพันกับกลุ่มแก๊งค์ที่เคยใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุยิงถล่มกันใน พื้นที่ จ.อุบลราชธานี 

โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 และพล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย จากการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนปากคำผู้เสียหาย ทราบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุ มีนายเอกรินทร์ หรือ เสี่ยเอก เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยมีสาเหตุเกิดจาก น.ส.จุฑามาศฯ ผู้เสียหาย มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับหญิงคนสนิทของเสี่ยเอก ทำให้เสี่ยเอกโกรธแค้นยกพวกมารุมทำร้าย น.ส.จุฑามาศฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.) นายเอกรินทร์ หรือเอก สุนทราเมธากุล อายุ 45 ปี ที่อยู่ 33 ถ.ห่อบำรุ่ง ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 
2.) นายกิรินทร์ หรือเดียร์ เกลียวทอง อายุ 25 ปี ที่อยู่ 31/2 ซอยสุขาอุปถัมป์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
3.) นายอรรถพล หรืออิฐ ทัศน์ศรี อายุ 30 ปี ที่อยู่ 41/3 ถ.เขื่อนธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
4.) นายยศกฤศ หรือเต๋า ตุยาสัย อายุ 29 ปี ที่อยู่ 97 ถ.เขื่อนธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
5.) นายวุฒิพงศ์ หรือบัวขาว ทองบ่อ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 140 ม.5 ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
6.) นายสุรชาติ หรือหนุ่ย ตุยาสัย อายุ 27 ปี ที่อยู่ 97 ถ.เขื่อนธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
7.) นายชุมพร หรือเหลื่อม สะอาด อายุ 32 ปี ที่อยู่ 64 ม.8 ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 

โดยกล่าวหาว่า ปล้นทรัพย์ และร่วมกันบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย, โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ในเวลากลางคืนและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และซ่องโจร

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นอีกคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชน กลุ่มผู้ก่อเหตุลงมือกระทำผิดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย อีกทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงกันกลางเมืองอุบลราชธานีมาแล้ว เชื่อว่ายังมีผู้ก่อเหตุอยู่อีก 

ดังนั้นจึงต้องเร่งขยายผลจับกุมตัวมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้หมดทุกราย ซึ่งหลังจากนี้จะสั่งการให้ทางภ.จว.อุบลราชธานี มีมาตรการในการป้องกันเหตุลักษณะเช่นนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุรุนแรงเกิดซ้ำรอยขึ้นมาได้อีก พี่น้องประชาชนชาวอุบลราชธานีจะได้อยู่กันโดยสงบสุข มีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่านี้ ลดความหวาดกลัวภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด 

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 : หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป

ปัญญามากเกินไปขาดศรัทธา
กลายเป็น...ทิฐิมานะ
สมาธิมากเกินไปขาดปัญญา
กลายเป็น...โมหะ
ปัญญามากเกินไปขาดสมาธิ
กลายเป็น...ฟุ้งซ่าน

หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ไม้แก่น ได้ออกปฎิบัติหน้าที่บริเวณถนนสายไม้แก่น-ต้นไทร อ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี ในเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ดังนี้...

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. ของวันที่ 20 กันยายน 2565 ทาง สภ.ไม้แก่น ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิด บริเวณบริเวณถนนไม้แก่น-ต้นไทร อ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจได้ออกปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ในเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ในส่วนของผู้บาดเจ็บได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา โดยหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป 

เพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ รวมถึงการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ในการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการปฎิบัติหน้าที่ พร้อมได้กำชับสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เกี่ยวข้องให้เป็นอย่างดี ในส่วนของความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป 

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 : หลวงปู่ชา สุภทฺโท

ถ้าความสุขของเรา
ขึ้นอยู่กับคนอื่น
รอให้คนอื่น
ทำให้ถูกใจเรา
เราจะไม่มีวัน...มีความสุข

หลวงปู่ชา สุภทฺโท

เปิดปฏิบัติการตรวจยึดทรัพย์ผู้ต้องหาเพิ่มอีกกว่า 309 ล้านบาท พร้อมสรุปสำนวนคดีทุจริตสหกรณ์พัทลุงส่งอัยการ

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมา กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์จังหวัดพัทลุง ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ช่วยติดตามคดีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวที่เป็นสมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และคดีนี้ยังมีความสลับซับซ้อน แม้มีเจ้าหน้าที่หลายคนถูกพบว่ากระทำผิด แต่ยังสามารถทำงานในสหกรณ์ได้ ซึ่งอาจทำให้พยานหลักฐานต่างๆ สูญหายหรือถูกแก้ไขไปอีก ความเสียหายโดยรวมมีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท นั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เร่งสืบสวนและสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น และได้ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 293/2565 ลงวันที่ 22 มิ.ย.65 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งดังกล่าว มีอำนาจในการสืบสวนคดีร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุง จำกัด โดยประสานความร่วมมือกับ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขา ป.ป.ง., พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ผอ.คด.4 ปปง., นางชลธิชา ดาวเรือง ผอ.คด.3 ปปง. เจ้าหน้าที่ ปปง. เพื่อเร่งคลี่คลายคดีและติดตามทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายกลับคืนให้กลุ่มผู้เสียหายและดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหาในความผิดฐานฟอกเงิน

พฤติการณ์ในคดี กล่าวคือ เมื่อปี พ.ศ.2563 ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการสหกรณ์ , คณะกรรมการดำเนินการชุดใหม่ และได้จัดให้มีการตรวจสอบหลักฐานทางบัญชีของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง พบความผิดปกติทางบัญชี การเงิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทุจริตของคณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการเจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอก จึงได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และจากการสอบสวนพยานบุคคล และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏพบผู้ต้องหากับพวก ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการ ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด และบุคคลภายนอก มีพฤติการณ์ร่วมกัน ตกลง วางแผน แบ่งหน้าที่กันทำ กระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระต่างกัน เป็นเวลาต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 จนถึงปี พ.ศ.2563  โดยมีรูปแบบการกระทำความผิดและวิธีการ มากกว่า 10 วิธีการ เช่น การตกแต่งบัญชีของสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก การตกแต่งบัญชีลูกหนี้และลูกหนี้ที่ไม่มีตัวตน หรือตกแต่งบัญชีเกินความเป็นจริง การปลอมใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ  1,489,572,427.14 บาท
ในคดีนี้ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 27 ราย แบ่งเป็น...

- เป็นผู้จัดการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ จำนวน  12 ราย (คดีอาญา) 

- เป็นข้าราชการตำรวจ อยู่ในราชการ จำนวน 6 ราย ขณะกระทำความผิดมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ รองประธาน และเหรัญญิก ซึ่งมีอำนาจลงนามสั่งจ่ายเช็ค (คดีอาญา) ร.ต.ต.พันธ์ชัยฯ รอง สว.(ป) สภ.เมืองพัทลุง, พ.ต.ท.วิเชียรฯ สว.กก.2 บก.ส.๑
ด.ต.ชุณฐกฤตม์ฯ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.พัทลุง, ร.ต.อ.ธนเวทย์ฯ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.พัทลุง, ร.ต.ท.หญิง อรุชาฯ รอง สว.ธุรการ สภ.โคกชะงาย และ ด.ต.สุทัศน์ฯ ผบ.หมู่ ป.สภ.ควนขนุน

- เป็นอดีตข้าราชการตำรวจ เกษียณแล้ว จำนวน 3 คน 

ขณะกระทำความผิดมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ รองประธาน และสมาชิกสมทบ (คดีอาญา), พ.ต.อ.ชำนาญฯ อดีต ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.พัทลุง, ร.ต.ต.ใจฯ อดีต ผบ.หมู่ ป.สภ.ควนขนุน และ ด.ต.วิชาฯ อดีต รอง สว.(ป) สภ.ศรีบรรพต เป็นสมาชิกสมทบ/ผู้นำเช็คไปขึ้นเงิน

- บุคคลภายนอก จำนวน 5 คน (คดีอาญา) 
เป็นสมาชิกสมทบ/ผู้นำเช็คไปขึ้นเงิน/รับโอนเงิน จำนวน 3 ราย (นางสารภีฯ, นายศิรัฐโรจฯ และนางมณฑาฯ) เป็นโปรแกรมเมอร์ จำนวน 1 ราย (นายวิเชียรฯ) เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีภาคเอกชน จำนวน 1 ราย (นางพรศรีฯ)  

โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม และดำเนินคดีในความผิดเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่

- เป็นอดีตข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ฯ เกษียณแล้ว จำนวน 1 ราย (ส่ง ปปช.)    

นางพัชราฯ ตำแหน่ง ผอ.ฯ ผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 ได้มีปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 74 เป้าหมายในพื้นที่ 9 จังหวัด เพื่อตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้มูลค่ากว่า 694 ล้านบาท มีรายละเอียด ดังนี้...

1.อายัดบัญชี ผู้ต้องหาจำนวน 37 บัญชี เงินคงเหลือในบัญชี  4,369,867.76 บาท  
2.ตรวจยึดบ้านพร้อมที่ดิน 28 หลัง 
3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 28 หลัง 
4.ห้องชุด 6 ห้อง 
5.ที่ดินเปล่า(โฉนด) 13 แปลง 
6.ที่ดินเปล่า (นส.3 ก.) 11 แปลง 
7.รีสอร์ต 1 แห่ง (หัวหิน) 
8.ตลาดสดนาโยง จ.ตรัง (6 ไร่) 
9.อายัดทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ (ผตห.6ราย) 
10.รถยนต์ 19 คัน รถจักรยานยนต์ 12 คัน 

ต่อมาเช้าวันที่ 13 ก.ย.65 ได้เข้าตรวจค้นเพิ่มเติมอีก 25 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี, นครศรีธรรมราช, ตรัง และพัทลุง สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้เพิ่มเติมอีกกว่า 309 ล้านบาท
โดยทรัพย์สินที่สามารถติดตามยึดอายัดมาได้ในคราวนี้ ประกอบด้วย...

1. บ้าน จำนวน 7 หลัง โฉนดที่ดิน 5 แปลง (เพิ่ม)
2. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 5 จุด
3. ที่ดินตามโฉนดที่ดิน จำนวน 18 จุด
4. อายัดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่า 52,311,640 บาท

รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกยึดอายัดในคราวนี้ 309,311,640 บาท

รวมมูลค่าทรัพย์สินตรวจยึดได้ทั้งหมด 1,003,753,140 บาท

อีอีซี ผนึกกำลัง อบจ.ระยอง ตรงเข้าพื้นที่คลายทุกข์ผู้ประสบอุทกภัย พร้อมเตรียมร่วมบูรณาการฯ วางแผนป้องกันระยะยาว

วันที่ 11-12 กันยายน 2565 นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการฯ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมด้วยนางสาวพจนี อรรถโรจน์ภิญโญ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านนโยบายและแผน และนายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ลงพื้นที่ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (อบจ.ระยอง) เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งมีสาเหตุหลักจากปริมาณฝนจำนวนมาก ที่ตกลงอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดระยอง จนเกิดผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่ และชุมชนในวงกว้าง 

'เพื่อไทย' ระดม 'ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร-ส.ก.-ทีมงาน' ลงพื้นที่ช่วยปชช. หลังน้ำท่วมกรุงหนัก

เมื่อวันที่ 11 กันยายน นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวราวุธ ยันต์เจริญ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่นำอาหารไปมอบให้พี่น้อง ชุมชนเลียบคลองเปรมประชากร ที่ประสบภัยน้ำท่วม ร่วมกับ นายตกานต์ สุนนทวุฒิ ส.ก.เขตหลักสี่ และ นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ จากนั้น นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และนายตกานต์ ได้ลงพบปะกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อ รับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือพร้อมกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครมหานคร และผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ในชุมชนคลองเปรมพัฒนา ชุมชนมิตรประชา และชุมชนเปรมสุขสันต์ ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ติดกับคลองเปรมประชากร

ขณะที่ ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. และส.ก. ของพรรคเพื่อไทย ได้ระดมกำลังและทีมงานลงพื้นที่ต่อเนื่อง โดยนายสุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง และนางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย  นำอาหารกล่องไปมอบให้กับชุมชนซอยอิ่มละมัย ชุมชนสะพานปูน และชุมชนร่มเย็นที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมประสานแก้ปัญหาเบื้องต้นให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมหาแนวทางแก้ไขเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น 

เขตลาดกระบัง น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช ส.ส.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ พร้อมประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้เจ้าหน้าที่นำเรือผลักดันน้ำมาช่วยพร่องน้ำในคลอง เนื่องจากประสานไปทางกทม. แล้วแต่ ยังไม่ได้คำตอบว่าจะสามารถดำเนินการหรือไม่ อย่างไร ตอนไหน ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมส่งหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพเรืออีกครั้ง 

เขตบางกะปิ น.ส.นภัสสร พละระวีพงศ์ ส.ก.เขตบางกะปิ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเช่นกันโดยเร่งประสานงานช่วยเหลือประชาชน ทั้งนึ้ น.ส.นภัสสร กล่าวว่า ขอขอบคุณนายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ทุกๆท่าน เร่งสูบน้ำ เร่งบรรจุกระสอบทรายเพิ่ม เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่น้ำท่วมเข้าบ้าน  และนำไปปิดอุดรอยรั่วที่เป็นฟันหลอ ป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วม ด้านเจ้าหน้าที่เทศกิจได้นำรถออกบริการประชาชน

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก จัดตั้งโรงครัวพระราชทานช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.ระยอง

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่บริเวณสถานีรายงานบ้านเพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ของจังหวัดระยอง ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อประกอบอาหารข้าวกล่องเมนูข้าวกระเพราหมู-ไข่ต้ม มอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ จ.ระยอง โดยมีนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง และนายศุภมงคล รัตนจิตร ผู้จัดการแผนกปฏิบัติการ สายงานปฏิบัติการภัยพิบัติ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ร่วมปรุงอาหารข้าวกล่องดังกล่าว พร้อมกับมอบถุงยังชีพของสภากาชาดไทยให้ผู้บริหาร  อปท.ผู้นำ กำนัน และ ผญบ.ไปแจกจ่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทุกครัวเรือนต่อไป 

ต่อมานายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.บ้านนา ต.ทุ่งควายกิน ต.ทางเกวียน อ.แกลง พบบริเวณถนนสายโพธิ์ทอง-บ้านนา ที่ถูกน้ำท่วมน้ำหนัก น้ำลดลงเกือบแห้งแล้ว มีบางจุดที่เป็นที่ลุ่มยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยได้ร่วมกับทุกภาคส่วนนำถุงยังชีพพระราชทาน จากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จำนวน 2,000 ถุง มอบให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย 

'วิโรจน์' ชี้ แค่ขุดลอกคูคลองไม่เพียงพอแก้ปัญหาน้ำ แนะ!! ในปีงบฯ หน้าต้องเร่งปรับปรุง 'อุโมงค์ระบายน้ำ' 

(11 ก.ย. 65)​ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้

น้ำท่วม กทม. แก้แค่เส้นเลือดฝอยเอาไม่อยู่ ต้องทะลวงเส้นเลือดใหญ่ด้วย

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ในปี 2565 นี้ นั้นเกิดจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำที่มีอยู่ ซึ่งแตกต่างจากปี 2554 ที่เกิดจากน้ำเหนือที่หลากลงมาจากการพายุที่เข้าประเทศไทยถึง 5 ลูก โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดปี 2565 น่าจะพอๆ กับ ปี 2564 (ปี 65 น้อยกว่าปี 64 อยู่เล็กน้อย) แต่น่าจะมากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 30 ปี

ที่ผ่านมา ส.ก.ก้าวไกล ได้ติดตาม และกำกับการตระเตรียมระบบระบายน้ำของ กทม. อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าฝ่ายบริหารก็พยายามเร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำอย่างเต็มที่ และในหลายพื้นที่ก็พบปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน เนื่องจากไม่ได้ลอกท่อมานาน

ผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังเป็นอย่างดี และยืนยันว่าประชาชนสมควรที่จะไม่พอใจ และติติงระบบระบายน้ำของ กทม. แต่ผมคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะกล่าวโทษผู้ว่าที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือน

สิ่งหนึ่งต้องยอมรับกันตรงๆ ก็คือ ศักยภาพในการระบายน้ำของ กทม. นั้นมีปัญหาจริงๆ และลำพังแค่การลอกท่อระบายน้ำ ที่เป็นเส้นเลือดฝอย นั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะในหลายพื้นที่แม้ว่า ส.ก.ก้าวไกล จะได้เร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำไปแล้ว มีเครื่องสูบน้ำไปประจำการแล้ว แต่น้ำก็ยังระบายได้ช้า และท่วมขังอยู่

น้ำที่ท่วมขัง ณ วันนี้ เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า แค่เส้นเลือดฝอย เอาไม่อยู่แน่ครับ

'รัฐบาล' เร่งผลักดัน 'มวยไทย' สู่เวทีโลก ต่อยอดให้เป็นที่นิยม เพิ่มมูลค่าทางศก. ให้ประเทศ

(11 ก.ย. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลสนับสนุนการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยยกมวยไทยเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์สำคัญวางแผนประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก ส่งเสริมให้เป็นกีฬาเชิงศิลปะป้องกันตัวในระดับนานาชาติ โดยจะบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนเพื่อต่อยอดกีฬาของไทยให้เป็นที่นิยมในวงกว้าง ซึ่งจะช่วยเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทยและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศด้วยซอฟต์พาวเวอร์ โดยกำหนดส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ 5 หมวด (5F) ได้แก่ อาหาร (Food), ภาพยนตร์ (Film), เทศกาล (Festival), แฟชั่น (Fashion) และการต่อสู้ (Fighting) ซึ่งสามารถขยายประเภทออกเป็นสินค้าและบริการท่องเที่ยวได้จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กีฬามวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ได้รับความนิยม มีความงดงามในท่วงท่าการเคลื่อนไหว รวมทั้งยังนำไปประยุกต์ใช้ในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้อีกด้วย

'ลุงป้อม' ปลื้ม!! นักตบลูกยางสาวไทยชนะต่อเนื่อง ชื่นชมความท็อปฟอร์ม แสดงถึงฝึกซ้อมมาเต็มที่

รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผย 'พล.เอกประวิตร' ปลื้มผลงานนักตบลูกยางสาวไทยชนะต่อเนื่อง นัดที่ 2 ชนะรวด 3 เซ็ต ชมท็อปฟอร์มแสดงถึงฝึกซ้อมมาเต็มที่

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ได้ติดตามชมเพื่อเป็นกำลังใจเชียร์ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยที่ลงสนามแข่งนัดแรกของการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงอาเซียน กรังด์ปรี 2022 ครั้งที่ 2 มาตลอด และวันนี้ (10 กันยายน 2565) ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย ทีมชาติสาวไทยก็สามารถเอาชนะไปได้ 3-0 เซ็ต

'ยิ่งลักษณ์' เป็นห่วงสถานการณ์น้ำมากในกทม. บ่นอุบ ถ้าได้ทำงานต่อ ปัญหาเช่นนี้คงไม่เกิด

‘ยิ่งลักษณ์’ บ่นอดเสียดายโครงการจัดการน้ำทั้งระบบที่เคยวางแผนมิได้ หากวันนั้นได้มีโอกาสเดินหน้านโยบาย วันนี้ปัญหาเช่นนี้คงไม่เกิดแนะ รัฐบาลวางแผนระบายน้ำประสานงานกับ กทม.

(11 ก.ย. 65) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก 'Yingluck Shinawatra' ระบุว่า จากที่ดิฉันได้ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศในประเทศไทย เห็นว่าปีนี้เป็นปีที่ฝนตกมาก ทำให้มีปริมาณน้ำมาก แม้อาจจะไม่เท่าปี 2554 แต่ก็อดห่วงพี่น้องเกษตรกรไม่ได้ค่ะ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง เพราะพบว่ามีการปล่อยให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่นา ทำให้ผลผลิตข้าวของชาวนาได้รับความเสียหาย ทั้งๆ ที่ควรระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยังพร่องอยู่ ขณะที่น้ำจากทุ่งรังสิตกำลังเข้ามาใกล้กรุงเทพฯ

'อดีตนักเรียนเลว' ฉกเงินจัดคอนฯ ไปใช้ส่วนตัว ทำงาน 'T-POP MUSIC EXPO' ล่ม ด้านชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น

สะเทือนวงการ ผู้จัด T-POP MUSIC EXPO วัย 18 ปี นักเคลื่อนไหวต้านคอร์รัปชันและอดีตสมาชิก 'นักเรียนเลว' ขโมยเงินการจัดงานไปใช้ส่วนตัว จนต้องประกาศยกเลิกงาน ชาวเน็ตแห่วิจารณ์สนั่น

จากกรณีเพจ T-POP MUSIC EXPO ประกาศจัดคอนเสิร์ต 'T-POP MUSIC EXPO' โดยเป็นการรวมตัวของศิลปิน T-POP จากหลากหลายค่ายที่จะมาส่งความสุขให้กับเหล่าแฟนคลับ ในวันที่ 24-25 ก.ย. แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ทางเพจ T-POP MUSIC EXPO ได้ออกมาแถลงการณ์ยกเลิกคอนเสิร์ต T-POP MUSIC EXPO โดยระบุเหตุผลที่ทางทีมงานต้องประกาศยกเลิกนั่นเป็นเพราะกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท ในฐานะผู้ดำเนินการจัดงานนั้นได้นำเงินของบริษัทที่เป็นต้นทุนการจัดงานคอนเสิร์ตไปใช้ในประโยชน์ส่วนตัวทำให้ต้องยกเลิกคอนเสิร์ตดังกล่าว โดยทางเพจได้ออกแถลงการณ์ ว่า

“แถลงการณ์เรื่องการยกเลิกคอนเสิร์ต T-POP MUSIC EXPO

สืบเนื่องจากทางทีมงาน T-POP MUSIC EXPO ได้ประกาศและประชาสัมพันธ์ว่าจะจัดงานคอนเสิร์ต ขึ้นในวันที่ 24-25 กันยายน 2565 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป โดยมีศิลปิน T-POP ที่จะมาร่วมงานคอนเสิร์ตมากกว่า 30 ชีวิตต่อมาในวันที่ 8 กันยายน 2565 ทางทีมงานได้ประกาศยกเลิกการจัดงานดังกล่าว ซึ่งการที่บริษัทตัดสินใจประกาศยกเลิกการจัดงาน เพราะกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท (นายพีรพล ระเวกโสม) แต่เพียงผู้เดียว ในฐานะเป็นผู้ดำเนินการจัดงานดังกล่าวข้างต้น ได้มีการนำเงินของบริษัทที่เป็นต้นทุนในการจัดงานคอนเสิร์ตไปใช้ในทางที่ผิดไปจากวัตถุประสงค์ของบริษัท

กล่าวคือไปใช้ในทางประโยชน์ส่วนตัวของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท คนดังกล่าว จึงทำให้คอนเสิร์ตดังกล่าวไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการจัดงานที่ได้เตรียมไว้โดยบริษัท โก ออน เมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะ ผู้จัดจึงมีความจำเป็นต้องยกเลิกงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯ เสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ทางบริษัทฯ จึงขอเรียนชี้แจงในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.) บุคลากร หรือบุคคลอื่นใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมจัดงานคอนเสิร์ต ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการที่กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทคนดังกล่าว นำเงินของบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้มาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวแต่อย่างใด โดยทีมงานหรือบุคลากรที่ถูกอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าวได้รับการว่าจ้างในลักษณะของพนักงานฟรีแลนซ์เท่านั้น

2.) ทางบริษัทกำลังดำเนินการตรวจสอบมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น และจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับบุคคลดังกล่าวต่อไป

3.) การชำระคืนเงิน บริษัทจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินคืนในวันที่ 15 กันยายน 2565 เวลา 16.00 น. ผ่าน Google from โดยผู้ที่ซื้อบัตรและประสงค์ขอรับเงินคืน จะต้องเตรียมข้อมูลดังนี้
- ชื่อและนามสกุลที่ปรากฏบน The concert Application
- หมายเลขบัตรที่ปรากฏอยู่หน้าบัตร ในเมนู 'บัตรของฉัน'
- เบอร์โทรศัพท์
- เลขที่บัญชีธนาคาร และ ชื่อธนาคาร สำหรับการคืนเงิน

ทางบริษัทขอขอบคุณทุกการสนับสนุน ความไว้วางใจ และทุกคำแนะนำตลอดมา ทางบริษัทต้องขออภัยเป็นอย่างสูงที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และทางกรรมการบริษัท ผู้มีอำนาจลงนามยินดีชดใช้ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป"

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเพิ่มเติมจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท โก ออน เมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 มีนายพีรพล ระแวกโสม เป็นกรรมการบริษัท ทุนจดทะเบียน 50,000 บาท นอกจากนี้ นายพีรพล หรือ ฟิวส์ เป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านการคอร์รัปชัน และเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า นักเรียนเลว

'กรณ์' ลงใต้ พบนักศึกษา - นักธุรกิจใต้ 14 จังหวัด ชี้!! วัยเกษียณ - LGBTQ+ - โลจิสติกส์ พลิกฟื้นศก.ใต้ได้

'กรณ์' โชว์เก๋าอดีตรมว.คลัง บรรยายให้นักศึกษาม.หาดใหญ่ และนักธุรกิจใต้ 14 จังหวัด ชี้โอกาสทางเศรษฐกิจใหม่จากกลุ่ม LGBTQ+ และกลุ่มวัยเกษียณ พัฒนาระบบขนส่งจากอ่าวไทยไปจีน-ตะวันออกกลาง เชื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้ได้   

11 กันยายน 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงภารกิจได้รับเชิญให้บรรยายให้นักศึกษามหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และพบนักธุรกิจ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยนายกรณ์ระบุว่า ลงใต้รอบนี้มีงานบรรยายเศรษฐกิจสำคัญ 2 งาน ๆ แรกนักศึกษา ม.หาดใหญ่ เชิญบรรยายในหัวข้อที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับ โอกาสทางเศรษฐกิจไทยจากการผลักดันเรื่องความหลากหลายทางเพศ ซึ่งตนขอเรียกว่า Rainbow Economy งานนี้นักศึกษาจัดงานกันเองอย่างมืออาชีพ มีการโหวตว่าสนใจประเด็นไหนมากที่สุด

นายกรณ์ กล่าวว่า ในห้องบรรยายเราถกกันหลายเรื่อง ซึ่งได้พบว่า ถึงแม้ว่าเขาจะสนใจเรื่องประเด็นทางสังคมอย่างสิทธิของ LGBTQ+ และกฎหมาย แต่ก็ย้ำถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจปากท้อง และยังมองถึงโอกาสที่ตัวน้อง ๆ เองจะได้รับจากสิ่งนั้นเพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคตด้วย ช่วงตอบคำถามมีอาจารย์ท่านนึงเสริมว่ากลุ่มวัยเกษียณก็เป็นหนึ่งกลุ่มโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งตรงกับใจตนมาก เพราะเราเตรียมพร้อมถึงยุทธศาสตร์ Silver Economy เอาไว้แล้วด้วยเช่นกัน ทั้งสองเรื่องนี้จริงๆ แล้วผูกโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ และตนเชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ให้คนไทยอีกมาก

โฆษก MDES รุดช่วย-สำรวจพื้นที่น้ำท่วมขังบางเขน มอบน้ำยารักษาน้ำกัดเท้า-เสื้อกันฝนให้ประชาชน

ภญ.นพวรรณ โฆษก MDES ลุยสำรวจพื้นที่น้ำท่วมขังเขตบางเขน วอนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ-ตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม มอบน้ำยารักษาน้ำกัดเท้า เสื้อกันฝนให้ประชาชน

ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขตบางเขน ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (MDES) ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาน้ำท่วมขังตามชุมชนและหมู่บ้านต่างๆ ในเขตบางเขน โดยแจ้งพยากรณ์อากาศ สภาพอากาศประจำวัน นำยาทารักษาน้ำกัดเท้า เสื้อกันฝนมอบให้กับประชาชนตามบ้าน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top