Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บินด่วนเกาะหลีเป๊ะ หารือความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายทั้งเรื่องที่ดินพิพาทและเรือประมงพาณิชย์

วันนี้ (17 มี.ค.66) เวลาประมาณ 14.00 น. ณ ห้องประชุม ภ.จว.สตูล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ได้ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนเอกชน และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหากรณีเอกชนปิดทางเข้าออกโรงเรียน กระทบความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว รวมทั้งปัญหาการทำประมงพื้นบ้านที่มีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติซึ่งห้ามทำประมงโดยเด็ดขาด

ความคืบหน้าล่าสุด ในส่วนของการดำเนินคดีกับโรงแรมซึ่งมีการบุกรุกที่ดิน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ ผบก.ภ.จว.สตูล ดำเนินคดีกับรีสอร์ทและสถานที่ที่มีการบุกรุกที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ จำนวน 8 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 13 ราย รวมทั้งได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ นายก อบต. ในกรณีที่มีการตรวจพบความผิดดังกล่าว แต่กลับเพิกเฉยไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย นอกจากนี้ยังได้ประสานให้นายอำเภอผู้รับผิดชอบดำเนินการทำข้อมูลโรงแรมและรีสอร์ทในพื้นที่ทั้งหมดที่ไม่มีใบอนุญาต เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ในส่วนของคดีการทำประมงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา วันนี้ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ เพื่อแสดงความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมายในการดำเนินคดีกับเรือประมงพาณิชย์ทั้ง 27 ลำ ที่ตรวจพบการทำประมงในพื้นที่อุทยานดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้ประชุมร่วมกับกรมประมง กรมอุทยานฯ และชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อหาแนวทางในการกำหนดพื้นที่สำหรับทำประมงให้กับชาวประมงพื้นบ้านให้สามารถทำประมงเพื่อยังชีพได้ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเรือประมงขนาดเล็ก ไม่สามารถออกไปทำประมงในระยะไกลได้ ดังนั้นจึงได้หาทางออกร่วมกันเพื่อให้สามารถคงวิถีชีวิตการทำประมงพื้นบ้าน และสามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลไว้ได้ต่อไป

รองแม่ทัพภาคที่ 2 ให้การต้อนรับ คณะผู้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค(RBC) กัมพูชา–ไทย ครั้งที่ 24

วันที่ 16 มีนาคม 2556 พลตรีบุญสิน พาดกลาง รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 2 ให้การต้อนรับ พลเอกโปว เฮง รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ประเทศกัมพูชา เเละคณะ ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค(RBC) กัมพูชา – ไทย ซึ่งดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) ไทย - กัมพูชา

บก.สส.สตม. รวบหนุ่มแดนมังกรหนีคดีเลี่ยงภาษีศุลกากรเสียหายกว่า 100 ล้านบาท 

บก.สส.สตม. จับกุมนายลู่ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในข้อหา ลักลอบนำเข้าสินค้า (เม็ดพลาสติก) โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยจับกุมตัวในข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในย่าน ต.บางพลี อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีน หน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

ประสานงานผ่านสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย แจ้งข้อมูลผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ราย นายลู่ (นามสมมติ) สัญชาติจีน อายุ 52 ปี ซึ่งมีหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในข้อหา ลักลอบนำเข้าสินค้า (เม็ดพลาสติก) โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร มูลค่ารวม 20 ล้านหยวน (ประมาณ 100 ล้านบาท) ผบก.สส.สตม. จึงได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการ บก.สส.สตม. ทำการสืบสวนติดตามจับกุม นายลู่ สัญชาติจีน ซึ่งต่อมาสืบทราบว่า ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี  ปัจจุบันพักอาศัยอยู่คอนโดแห่งหนึ่งย่านบางพลี จว.สมุทรปราการ

รวบหนุ่มใหญ่ชาวจีนมอมเหล้าสาวเพื่อนร่วมชาติ ก่อนลากไปขืนใจคาโรงแรมกลางเมืองกรุง

บก.สส.สตม. ได้จับกุมตัว นายหยาง (นามสมมติ) สัญชาติ จีน อายุ 47 ปี สืบเนื่องมาจาก กก.2     บก.สส.สตม. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ ให้ช่วยติดตามจับกุมตัว นายหยางฯ สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.118/2566 ลงวันที่ 2 มี.ค.2566 ความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเรา โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” โดยพฤติการณ์ กล่าวคือ เมื่อเดือน ธ.ค.2565 นายหยางฯ ได้ชักชวนหญิงผู้เสียหายชาวจีนไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยระหว่างนั้นได้มีการดื่มแอลกอฮอล์จนกระทั่งผู้เสียหายเมาไม่ได้สติ นายหยางฯ จึงฉวยโอกาสพาผู้เสียหายไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีนครินทร์ 59 และได้ทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในขณะที่ยังเมาไม่ได้สติจนสำเร็จความใคร่ เมื่อผู้เสียหายรู้สึกตัว จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายหยางฯ ตามหมายจับข้างต้น

‘ชายพิการ’ ขาขาดสองข้าง จากเหตุรอบวางระเบิด ลุยสร้างแรงบันดาลใจให้สังคม-คนพิการ ฮึดสู้ต่อ

ตัวอย่างนักสู้ชายพิการขาขาดทั้งสองข้างจากเหตุลอบวางระเบิดใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั้งขับรถเองโดยต่อเหล็กกับคันเร่งและเบรคบังคับด้วยมือ สร้างแรงบันดาลให้กับคนพิการและคนที่ท้อ

(17 มี.ค.66) ที่ จ.สงขลา มีตัวอย่างของชายพิการขาขาดจากเหตุลอบวางระเบิดจนขาขาดทั้งสองข้าง แต่ก็ยังไม่ท้อกับโชคชะตาแม้จะขาขาดทั้งสองข้าง แต่ก็ยังคงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทั้งขับรถยนต์เดินทางไปไหนมาไหนเอง และยังช่วยเหลือสังคมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้พิการด้วยกัน

นายดนรอหิม สันโยก อายุ 54 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา ปัจจุบันเป็นรองนายกสมาคมคนพิการ จ.สงขลา โดยพิการขาขาดทั้งสองข้างเกือบถึงโคนขาจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่ร้านน้ำชาว ในพื้นที่บ้านลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ปี49 ซึ่งเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิต4คน

โดยปัจจุบัน นายดนรอหิม จะขับรถเก๋งเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเองแม้ขาจะขาดทั้งสองข้าง โดยใช้วิธีต่อเหล็กจากคันเร่งและเบรคขึ้นมาและบังคับด้วยมือขวาและขาขวา ซึ่งเป็นวิธีที่คิดขึ้นมาเอง ขับได้เหมือนกับคนปกติและมีความชำนาญในการบังคับรถ และทุกครั้งที่เดินทางก็จะพาวีลแชร์ขึ้นรถไปด้วยโดยวางไว้ท้ายรถ เวลาขึ้นลงจากรถก็จะเปิดประตูหลังขึ้นลงและยกวีลแชร์ขึ้นลงด้วยตัวเองอย่างคล่องคล่องแคล่ว

‘ดาว TikTok เขมร’ ด่า ‘คนไทย’ ปมดรามาซีเกมส์ สุดท้ายทัวร์ลงหนัก จนต้องตั้งไพรเวตหนี

จากกรณีความขัดแย้งระหว่างชาวไทย และชาวกัมพูชา เริ่มจากประเด็นดรามา ‘มวยไทย’ กับ ‘กุนขแมร์’ ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา จนทำให้มีการตอบโต้กันในโลกออนไลน์อย่างเผ็ดร้อนของสองชาติ

โดยมีดาว TikTok ชาวเขมรเจ้าของบัญชี kissman5t6 ที่ออกมาด่ากราดคนไทย ทั้งเรื่องประเด็นไม่ส่งแข่ง ‘กุนขแมร์’ รวมทั้งเรื่องค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ ที่มีการขายให้ไทย แพงกว่าชาติอื่น ๆ และยังระบุว่า หากไทยไม่ต้องการแข่งขันก็ไม่ต้องมาร่วม จนโดนทัวร์ลงอย่างหนัก

‘ปคบ.’ เตือน ‘สารบอแรกซ์’ อ้างสรรพคุณรักษาโรค  ชี้ เป็นสินค้าอันตราย หลังพบขายเกลื่อนออนไลน์

เพจ ‘ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค’ โพสต์เตือนพบผลิตภัณฑ์ ‘CHEMRICH BORAX’ หรือสารบอแรกซ์ โฆษณาขายทางสื่อออนไลน์ พร้อมอวดอ้างสรรพคุณรักษาโรค ด้าน อย.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

วันนี้ (17 มี.ค.) เพจ ‘ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค’ ได้ออกมาโพสต์เตือนหลังพบผลิตภัณฑ์ “CHEMRICH BORAX” หรือ สารบอแรกซ์ โฆษณาขายทางสื่อออนไลน์ พร้อมอวดอ้างสรรพคุณรักษาโรค โดยระบุสรรพคุณไว้ว่า “cds ดีจริงๆ พี่อาการดีขึ้นมาก ๆ ภายใน 5 วัน แฟนพี่งงมาก ๆ ทำไมตื่นนอนตอนเช้า ไม่ไอ ไม่จาม นอนหลับลึกหลับสนิทไม่ตื่นนอนกลางดึก พี่เป็นภูมิแพ้ ความดัน เบาหวาน อย่ารอช้าค่ะมาเอาน้ำอัมฤทธิ์ไปดื่มเลยนะคะ”

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ไม่พบการอนุญาตผลิตภัณฑ์และโฆษณากับ อย. จึงขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อโฆษณาลักษณะนี้

‘แพทย์’ ยก ‘วิจัยมะกัน’ เผยเด็กที่สูด PM 2.5 ทำโครงสร้างสมองเปลี่ยน ส่งผลต่อความฉลาด

วันที่ 17 มีนาคม 2566 ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช หัวหน้าหน่วยประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ และเลขานุการและกรรมการบริหารศูนย์โรคสมองภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กผ่าน “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” อ้างถึงผลงานวิจัยเกี่ยวกับเอฟเฟกต์จากการสูดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ว่า เด็กสูด PM2.5 โครงสร้างสมองเปลี่ยนนะครับ

“โง่ลง เพราะ pm 2.5”

คนสูงวัยเจอ pm 2.5 เสี่ยงสมองเสื่อม และ stroke แล้ว เด็กเป็นอย่างไร
งานวิจัย ถึง pm 2.5 ใน อเมริกา ที่อยู่ในถิ่นที่อากาศไม่สู้ดีนัก พบว่า โครงสร้างสมองเปลี่ยนไป เลยทีเดียว การเปลี่ยนแปลง มันรวมถึงความหนาตัวของเซลล์ประสาทนึกคิด ที่มันบางลง ซึ่งเป็นตำแหน่งความฉลาดด้วย

อีกงานวิจัย ดูความจำ ความคิดเร็ว ก็พบว่าเปลี่ยนไป เช่นกัน
pm2.5 เพิ่มอัตราการทุพลภาพผู้สูงวัย
pm 2.5 ลดพัฒนาการสมองเด็ก

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย มิจฉาชีพใช้เว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์ปลอม ดึงข้อมูลส่วนบุคคลและทำธุรกรรมทางการเงิน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย มิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม ผ่านเว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์ที่ปลอมขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โอนเงินออกจากบัญชีสร้างความเสียหาย ดังนี้ 


กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือบก.ตอท. ได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์ปลอมเว็บไซต์หนึ่ง คือ http://moc-no-th.com ซึ่งมิจฉาชีพได้ฉวยโอกาสสร้างเว็บไซต์ดังกล่าวให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับเว็บไซต์จริงของกระทรวงพาณิชย์ https://www.moc.go.th โดยภายในเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวมีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญหน้าเว็บไซต์มีปุ่มให้คลิกเพื่อทำการติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม เมื่อประชาชนหลงเชื่อคลิกปุ่มจะเป็นการติดตั้งไฟล์อันตราย นามสกุล .APK ลงในโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยก่อนการติดตั้งจะมีการขอสิทธิ์เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก ขอสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ และขอสิทธิ์ควบคุมโทรศัพท์มือถือ จากนั้นแอปพลิเคชันปลอมจะให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ตั้งรหัส PIN 6 หลัก จำนวนหลายครั้ง เพื่อหวังให้เหยื่อกรอกเลขชุดเดียวกับรหัสในการทำธุรกรรมทางเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์แล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ ทำให้เสมือนว่าโทรศัพท์มือถือค้างไม่สามารถใช้งานได้ กระทั่งมิจฉาชีพนำรหัส PIN 6 หลัก ที่ผู้เสียหายตั้ง หรือกรอกไว้ก่อนหน้านี้ไปทำการยืนยันการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย 


ทั้งนี้จากการตรวจสอบเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวมีการจดทะเบียนอยู่นอกราชอาณาจักร โดย บช.สอท. ได้ทำการแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เพื่อทำการปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าว และได้ทำการประสานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังประชาชนต่อไปแล้ว  


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้ หรือแอบอ้างหน่วยงานราชการต่างๆ มาหลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง 
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบในด้านงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ 


ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ  
โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อประชาชนเริ่มรับทราบ หรือรู้เท่าทันกลโกงมิจฉาชีพในเรื่องใดๆ แล้ว มักจะฉวยโอกาสเปลี่ยนแปลงหน่วยงาน ปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ แต่ยังคงใช้แผนประทุษกรรมในรูปแบบเดิม คือ การหลอกลวงให้เหยื่อติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเพื่อเอารหัสการทำธุรกรรมทางการเงินของเหยื่อ เพราะฉะนั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือบริการต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ไม่หลงเชื่อเพียงเพราะการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงาน แอบอ้างสัญลักษณ์ของหน่วยงานนั้นๆ หรือมีชื่อเว็บไซต์ที่คิดว่าน่าจะเป็นเว็บไซต์จริง และพึงระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมิจฉาชีพจะฉวยโอกาสไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ  
 

อาลัย ‘คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี’ ภรรยาเจ้าสัวเจริญ แห่ง TCC Group เสียชีวิตแล้ว

(17 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า ‘คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี’ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัททีซีซี และภรรยาเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เสียชีวิตแล้ว 

คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ‘กลุ่มบริษัททีซีซี’ หรือ TCC Group อาณาจักรธุรกิจแสนล้าน โดยมีประสบการณ์ร่วมกับสามี คือ ‘นายเจริญ สิริวัฒนภักดี’ ในการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 50 ปี

สำหรับธุรกิจของ เจ้าสัวเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ภายใต้บริษัท ไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ TCC Group นั้น ประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

1) กล่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีหัวหอกคือ ‘ไทยเบฟเวอเรจ’ แบรนด์ดังในพอร์ตโฟลิโอ เช่น เบียร์ช้าง กาแฟสตาร์บัคส์ โออิชิ เคเอฟซี

2) ธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้า เป็นภาคการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค โรงงานขวดแก้ว และห้างค้าปลีกอย่าง ‘เบอร์ลียุคเกอร์’ หรือบีเจซี และ ‘บิ๊กซี’

3) ธุรกิจประกันและการเงิน อาคเนย์ ประกันภัย

4) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโรงแรม ค้าปลีก อาคารสำนักงาน ฯ ภายใต้บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC บริษัท เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ ประเทสไทย จำกัด มีโครงการดังเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ หรือปัจจุบันคือศูนย์ค้าส่ง โรงแรมนับสิบแห่ง จำนวนห้องพักหลายพันแห่ง และ

5) ธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มีทั้งพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ ผลิตปุ๋ยตรามงกฎ เป็นต้น

เกี่ยวกับเกียรติประวัติของคุณหญิงวรรณา ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก 8 มหาวิทยาลัยในประเทศไทย ได้แก่

- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจ มหาวิทยาลัยพะเยา
- ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้
- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณประโยชน์ทางธุรกิจของแต่ละสาขาวิชาได้เป็นอย่างดี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top