Monday, 9 June 2025
NEWS FEED

'มนพร' แนะ 'ประวิตร' เร่งแก้หนี้นอกระบบทำชาวบ้านผวา อัดการกระตุ้นเศรษฐกิจและบริหารเงินกู้เห็นแก่ตัว ทำผู้ประกอบการปิดตัวเพียบ

นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม ในฐานะรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจครึ่งแรกของปี 2565 พบผู้ ประกอบการปิดกิจการสูงถึง 7,500 บริษัท ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ที่ชี้ชัดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยยังไม่พ้นปากเหว นับแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ภายหลังเกิดปัญหาการระบาดของโควิด รัฐบาลประเมินสถานการณ์ ผิดพลาดและออกมาตรการที่ไม่จริงใจส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการรายย่อยหลายแสนรายปิดตัวลง

ผลที่ออกมาอยากให้รัฐบาลย้อนไปดูตัวเองว่า บริหารประเทศอย่างไร เงินกู้จำนวน 1.5 ล้านล้าน ที่รัฐบาลบอกว่าจะนำมาช่วยผู้ประกอบการ ก็ไม่เป็นความเป็นจริงไม่มีผู้ประกอบการหลายหมื่นบริษัท เข้าไม่ถึงเงินกู้ที่รัฐบาลจัดไว้ ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หลายแห่งต้องประสบปัญหาด้านเงินทุน จนไปต่อไม่ได้ 

 

'นพพล' จี้ 'อนุพงษ์' เร่งเพิ่มค่าตอบแทนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อัดเงินค่าตอบแทนผู้นำท้องถิ่นน้อยกว่าเงินเติมน้ำมันรถประจำตำแหน่ง 'อนุพงษ์'

นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่งบประมาณ 2566 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว หวังว่าพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการะทรวงมหาดไทย ใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด

นอกจากนี้อยากให้กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน มากขึ้น ที่ผ่านมากำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศไทยทำงานหนักมาก โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิดหลายพื้นที่ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปกป้องชีวิตคนในพื้นที่ ทั้งการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อโควิด การจัดหาเครื่องนอน การจัดหาอาหารการกิน การประสาน ทุกหน่วยงานเพื่อดูแลผู้ตดเชื้อให้มีอาการดีขึ้น 

นายนพพล กล่าวด้วยว่า เงินที่มาทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน ส่วนหนึ่งจะมาจากการบริจาคจากนักธุรกิจในพื้นที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันบริจาค ทั้งเงินทั้งของกิน ของใช้ เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อให้มากที่สุด ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐไม่เคยมีจัดสรรงบประมาณสนับสนุนผู้นำท้องถิ่นกลุ่มนี้ แต่อย่างใด

‘บิ๊กป้อม’ เคาะแผนพัฒนากีฬาชาติปี 66-69 กำชับกองทุนกีฬา มุ่งพัฒนานักกีฬาทุกระดับ

พล.อ.ประวิตร ให้ความสำคัญ "นักกีฬาเยาวชน-คนพิการ" ประชุม กองทุนกีฬาฯ  อนุมัติแผนสนับสนุนฯปี 66-69 มุ่งเสริมศักยภาพนักกีฬาทุกสมาคม  เน้นช่วยเหลือ สวัสดิการ/ทุนการศึกษา สร้างขวัญกำลังใจ นักกีฬา/จนท. 

เมื่อ (31 ส.ค. 65) 11.00 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์

ที่ประชุมได้รับทราบ รายงานผลการให้การสนับสนุนของกองทุนประจำปี 65 และการเบิกจ่ายเงินกองทุน ณ 31 ก.ค. 65  ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน และวัตถุประสงค์ของกองทุนกีฬา เพื่อส่งเสริมการพัฒนากีฬาของทุกสมาคมกีฬา สู่ความเป็นเลิศและยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานด้านกีฬา สู่สากลทั้งส่วนกลาง และระดับจังหวัด ทั่วประเทศ

'สุรนันทน์' พบปะพ่อค้าแม่ค้าตลาดวังหลัง เน้นนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กับทุกคน

วันนี้ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และหัวหน้าทีมกรุงเทพ พร้อมด้วยนายพัลลภ ปิยะตระกูล ผู้ประสานงานพื้นทีเขตบางกอกน้อย ได้ลงพื้นที่ตลาดวังหลัง เพื่อสำรวจภาวะเศรษฐกิจและนับฟังปัญหาของพ่อค้าแม่ค้า และผู้ประกอบการต่างๆ

จำนวนนักท่องเทียวที่ยังไม่กระเตื้อง และภาวะเศรษฐกิจที่ฟืดเคือง ยังมีผลกระทบที่รุนแรงต่อการค้าขาย และปัญหาปากท้องของประชาชน

'ตำรวจ PCT' ออกหมายจับอีก 3 ราย เครือข่าย Eddy เจ้าของเว็บ 888Point บิ๊กข้าราชการ ศอบต. หนึ่งในผู้ต้องหาย่องเข้ามอบตัว

วันนี้ (31 ส.ค. 65) เวลา 12.00 น. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. ที่ 4  เปิดเผยว่า จากกรณีจับกุมเว็บพนันออนไลน์ 888Point เมื่อวันที่ 13 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเครือข่ายของนาย Eddy สามารถจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย ยึดเงินสดกว่า 35 ล้านบาท และทรัพย์สินอีกกว่า 10 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 45 ล้านบาท ส่ง พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ

จากการสอบสวนขยายผลทำให้ทราบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวเกี่ยวพันกับบุคคลต่างๆ อีก จำนวนหนึ่ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับให้จับกุมบุคคลต่าง ๆ อีก 3 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” ซึ่งปรากฏว่าในกลุ่มดังกล่าวปรากฏว่าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง ที่เราได้ออกหมายจับ และเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเมื่อค่ำวานนี้ ได้ประกันตัวหรือปล่อยตัวไป ด้วยวงเงินประกันสองแสนบาทถ้วน 

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเวปพนัน 888Point เป็นเว็บการพนันที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับต้นๆ ที่มีคนไทยเข้าเล่น โดยพบว่าเจ้าของเว็บหรือ Eddy ได้เปิดโรงแรมและคาสิโนอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ต่อมาได้ลักลอบแอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ให้บริการกับผีพนันในประเทศ แล้วนำเงินที่ได้ดังกล่าวมาฟอกเงินผ่านทางธุรกิจโรงแรมและการรับเหมาก่อสร้างจำนวนหลายราย มีข้าราชการเข้ามาเกี่ยวพันจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการบุกทลายเครือข่ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อ 13 ส.ค.65 นั้น ปรากฏว่าพบหลักฐานจากหนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนสนิทของ น.ส.กัลยวีร์ สงวนนามสกุล ซึ่งเป็นภริยาของ Eddy และเป็นผู้ควบคุมเครือข่ายเวปพนันดังกล่าว ดูแลธุรกิจในประเทศไทย ตลอดจนเป็นกรรมการบริษัทหลายบริษัทฯ ในเครือ 

พล.ต.ต.ไตรงรงค์ กล่าวอีกว่า ในส่วน น.ส.กัลยวีร์ฯ ปรากฏข้อมูลการสั่งการให้ทำธุรกรรมทางการเงิน และนำเงินมาส่งมอบให้กับตน และภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมกลุ่มเครือข่ายปรากฏว่าเช้ารุ่งของวันที่ 14 ส.ค.65 ผู้ต้องหากับพวกรวมสองรายได้ไหวตัวบินหลบหนีออกไปนอกประเทศทันที ทั้งนี้ นอกจากออกหมายจับข้างต้นแล้วเจ้าหน้าที่ยังได้อายัดบัญชีผู้เกี่ยวข้องอีกกว่า 11 บัญชี ยอดเงินกว่า 25 ล้านบาท รวมตลอดปฏิบัติการยึดเงินสดและทรัพย์สินแล้วกว่า 70 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม รวมถึงดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อหาบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีคืบหน้า บิ๊กข้าราชการแดนใต้เข้ามอบตัวกรณีพัวพันเวปออนไลน์ และถูกศาลออกหมายจับในความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และฟอกเงิน 

วันนี้ 31 ส.ค. 65 เวลา 12.00 น. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงจาก พ.ต.อ.ฤทธิชัย ช่างคำ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.7 ปฏิบัติหน้าที่ ศป.อส.ตร ฝ่ายสอบสวน (PCTชุด4) เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวทราบว่าสืบเนื่องจากกรณี การจับกุมเวปพนันออนไลน์ 888Point เมื่อวันที่ 13 ส.ค.65 ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 6 ราย และยึดเงินสดกว่า 35 ล้านบาท และมีการยึดทรัพย์สินตรวจสอบอีก กว่า 10 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 45 ล้านบาท พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ

จากการสอบสวนขยายผลทำให้ทราบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวเกี่ยวพันกับบุคคลต่างๆ อีก จำนวนหนึ่ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับให้จับกุมบุคคลต่าง ๆ อีก 3 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” ซึ่งปรากฏว่าในกลุ่มดังกล่าวปรากฏว่าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง ที่เราได้ออกหมายจับ และเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเมื่อค่ำวานนี้ ได้ประกันตัวหรือปล่อยตัวไป ด้วยวงเงินประกันสองแสนบาทถ้วน

รอง ผบ.ตร. สั่งกำชับตำรวจจราจร เร่งกวดขันรถนักเรียน ย้ำต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย

วันนี้ (31 ส.ค. 65) เวลา 13.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศบจร.ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ลืม ด.ญ.เขมนิจ ทองอยู่ หรือน้องจีฮุน อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2/2 ไว้ในรถตู้โรงเรียน จนเป็นเหตุให้น้องเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ส.ค.65 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่ผ่านมานั้น  

เรื่องนี้ได้สั่งการไปยัง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ ผกก.สภ.พานทอง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพราะเป็นคดีที่กระทบต่อความรู้สึกของผู้ปกครองทั่วประเทศ โดยเฉพาะพ่อแม่และญาติของผู้เสียชีวิต หากพบว่าเป็นการประมาทเลินเล่อของครู ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในข้อเท็จจริงพบว่า ในวันดังกล่าวช่วงเช้ารถโรงเรียนได้ไปรับนักเรียนตามปกติ ซึ่งจะมีเด็กประถม 5 คน และชั้นอนุบาล อีก 2 คนรวมเป็น 7 คน มีครู 1 คนทำหน้าที่เป็นพลขับ และมีครูดูแลเด็กอีก 1 คน ในส่วนของน้องจีฮุน นั่งอยู่เบาะแถว 3 ส่วนครูที่ดูแลนั่งอยู่แถวหลังสุด เมื่อรถตู้มาถึงโรงเรียน คุณครูที่ดูแลเด็กให้การว่าเดินลงจากรถก่อน จากนั้นได้ชะโงกเข้าไปดูเด็ก ไม่เห็นว่ามีใคร จึงได้ตะโกนบอกครูที่เป็นพลขับ เพื่อให้เลื่อนรถไปจอดในโรงรถ ต่อมาเวลา 16.30 น. หลังจากที่มานำรถเพื่อไปรับนักเรียนตามปกติ จึงได้พบว่า น้องจีนฮัน ได้เสียชีวิตแล้ว

'นักร้องดัง' แปลกใจ นักข่าวสัมภาษณ์ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง แต่พูดจาไม่มีหางเสียง แบบที่ควรประพฤติปฏิบัติ

(31 ส.ค. 65) 'บิลลี่​ โอแกน'​ นักร้อง นักแสดง นักแต่งเพลง ชาวไทยชื่อดัง​ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก​ ว่า... 

ดูข่าวในทีวี นักข่าวสัมภาษณ์ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองท่านหนึ่ง แปลกใจว่า นักข่าวทำไมพูดสัมภาษณ์แต่พูดจากับท่านแบบไม่มีหางเสียง ไม่มีคำลงท้าย  ประโยค แบบที่สมควรจะพูดกับผู้ใหญ่

ไม่มีเลย!!

เราไม่ควรเห็นท่านเป็นเพื่อนเล่น ที่จะพูดจาแบบขาดมารยาท ถึงแม้ท่านจะเมตตาไม่ถือสา

'วัชระ' เตรียมส่งภาพป้ายบริจาคบูรณะศาลาวัดใน จ.ราชบุรี ที่มีชื่อสว.กับ 'เธอคนนั้น' เป็นหลักฐานให้พรเพชรใช้เป็นเบาะแสสอบเรื่องสว.ฉาวซุกเมียน้อย หากยังเฉยเตรียมถวายฎีกาเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

(31 ส.ค 65) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้ไปร่วมงานศพของอาจารย์ท่านหนึ่งที่ศาลาดำรงค์สกุล วัดบางลี่เจริญธรรม ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี ปรากฎว่าได้พบป้ายสีเหลืองทอง มีการระบุชื่อผู้บริจาคว่า คุณธานี อ่อนละเอียด  บรรทัดต่อมาคือชื่อคุณกรกศิร์ บัวแย้ม พร้อมจำนวนเงิน 120,000บาท ซึ่งทั้ง 2 คนนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างไร จะเกี่ยวโยงกับกรณีข่าวอื้อฉาวสว.ซุกเมียน้อยหรือไม่ ก็จะต้องให้ทางวุฒิสภาเป็นผู้สอบสวน ขณะนี้ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเตรียมนำเสนอต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ใช้เป็นข้อมูลเบาะแสว่า มีความเกี่ยวโยงกับกรณีที่ตกเป็นข่าวอยู่หรือไม่ 

นายวัชระ กล่าวว่า หากมีผู้ใดพบหลักฐานหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการทำให้เรื่องนี้เป็นที่กระจ่างต่อสาธารณชนก็สามารถส่งมาที่ตนได้ เพื่อจะได้รวบรวมนำเสนอต่อประธานวุฒิสภาให้ดำเนินการต่อไป แต่หากวุฒิสภายังเพิกเฉย ไม่ยอมดำเนินการใดๆก็ต้องถามว่า เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ยังทำให้ประชาชนไม่ได้ แล้วเรื่องใหญ่ ๆ ของชาติ ประชาชนจะพึ่งพาวุฒิสภาได้หรือไม่ ขณะเดียวกันตนก็กำลังเตรียมร่างเพื่อถวายฎีกาต่อประธานองคมนตรีด้วย เพราะเรื่องนี้ได้สร้างผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง สร้างความเสื่อมเสียต่อองค์กรต่าง ๆ เกี่ยวพันกับจริยธรรม การฝากฝังบุคคลของตนเองเข้ารับราชการตำรวจ-ทหาร การทำร้ายทารุณกรรม การค้ามนุษย์ รวมถึงเรื่องการขอเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ เป็นต้น ซึ่งจะยอมให้เรื่องเงียบหายไปเฉย ๆไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ตร.เตือน หลอกขายของออนไลน์ ภัยออนไลน์อันดับ 1 ของคนไทย เพียงเดือนกว่า ความเสียหายรวมเกือบ 120 ล้านบาท

วันที่ 31 ส.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านเว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com พบว่า ประเภทคดีที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนมากที่สุดคือ หลอกขายของออนไลน์ โดยสถิติตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 จนถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2565 มีจำนวนการรับแจ้งถึง 9,841 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 118,874,403.38 บาท
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อของออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การซื้อของผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพราะผู้ไม่หวังดีมักจะสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้ข้อมูลปลอม หรือข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น เพื่อใช้หลอกขายสินค้าโดยเฉพาะ ดังนั้นก่อนที่พี่น้องประชาชนจะเลือกซื่อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ขอให้ใช้ความระมัดระวังก่อนที่จะโอนเงินค่าสินค้าให้กับผู้ขาย เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองตกเป็นเหยื่อของการหลอกขายของออนไลน์ ดังนี้
1. เลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางหรือเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
2.  ระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกเกินจริง หรือสินค้าหายากในท้องตลาด (Limited Edition)
3.  อ่านรีวิวจากผู้อื่นที่ซื้อสินค้าเดียวกัน ว่าเป็นอย่างไร น่าเชื่อถือหรือไม่
4.  ค้นหาข้อมูลของผู้ขายและบัญชีธนาคารรับโอนเงิน ในเว็บไซต์ Search Engine เช่น google หรือตรวจสอบจากเว็บไซต์ที่ให้บริการตรวจสอบข้อมูล ว่าผู้ขายหรือบัญชีที่รับโอนเงินเคยมีประวัติฉ้อโกง หรือไม่ส่งสินค้าหรือไม่
 

มาเลเซีย ส่อเกิดวิกฤตการศึกษา หลังเด็กจบมัธยม 72% ไม่สนใจเรียนต่อ

สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งมาเลเซีย (ASM) ได้ทำการสำรวจความเห็นของนักเรียนมาเลเซีย ถึงเป้าหมายในการเรียนหลังจบ ระดับมัธยมศึกษา พบว่ามีนักเรียนมาเลเซียกว่า 390,000 จากจำนวน 560,000 หรือราว ๆ 72.1% ตอบว่าไม่สนใจที่จะเรียนต่อแล้ว แต่ต้องการเริ่มอาชีพอิสระ เช่นการทำคอนเทนท์ Online หรือ เป็น YouTuber มากกว่า จึงมีนักเรียนเพียง 170,000 คน ที่ยืนยันว่าจะเรียนต่อในชั้นเรียนระดับสูงอย่างแน่นอนเท่านั้น 

3 สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กนักเรียนมาเลเซีย ช่วงอายุระหว่าง 17-18 ปี สนใจเรียนต่อในระดับสูงน้อยลงมาก คือ 

1. การขยายตัวของ Gig Economy หรือระบบเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากงานแบบครั้งคราว ที่มักเรียกว่ากลุ่มงานฟรีแลนซ์ งานรับจ้างเป็นชิ้น ๆ ที่ไม่มีสัญญาผูกมัดระยะยาว ที่ตรงกับค่านิยมของหนุ่มสาวยุคใหม่ ที่รักอิสระ เน้นทำงานเฉพาะทางที่อยากทำจริง ๆ 

2. จึงตามมาด้วยเหตุผลที่ 2 คืออิทธิพลของสื่อโซเชียลที่กำลังมาแรง และมีโอกาสสร้างรายได้มหาศาล กลายเป็นแรงจูงใจให้เด็กรุ่นใหม่เลือกเดินสายอาชีพ Influencer, Youtuber, Streamer หรือการขายของทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอาชีพที่สามารถทำได้ทันที ไม่จำกัดวัย และวุฒิการศึกษา 

3. ความเชื่อว่า วุฒิการศึกษาระดับสูงในปัจจุบันไม่สามารถการันตีรายได้ในอนาคต อีกทั้งการเรียนต่อในระดับวิชาชีพขั้นสูง หรือ ในมหาวิทยาลัยก็มีค่าใช้จ่ายสูง ที่บางหลักสูตรไม่ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดแรงงานของยุคนี้อีกแล้ว

นอกจากนี้ กระทรวงการศึกษาของมาเลเซียยังเปิดเผยว่า ยังมีเด็กมาเลเซียอีกถึง 5.8% ที่ไม่เคยเข้าระบบการศึกษาภาคบังคับ หรือมีโอกาสเรียนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน

The Star สื่อยักษ์ใหญ่ของมาเลเซียชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักเรียนมาเลเซียจำนวนมากเลิกเรียนกลางคัน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่จบระดับมัธยมด้วยซ้ำ มาจากปัญหาความยากจน ระบบการศึกษาที่เน้นผลสัมฤทธิ์จากการสอบมากเกินไป และ นักเรียนไม่เห็นความสำคัญของการศึกษาในระดับสูงอีกต่อไปแล้วนั่นเอง 

ดาโต๊ะ เสรี แอดฮาม บาบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี และนวัตกรรม แสดงความเป็นห่วงที่เห็นตัวเลขนักเรียนมาเลเซียจำนวนมาก ไม่สนใจจะเรียนต่อในระดับการศึกษาขั้นสูงหลังสอบจบ Sijil Pelajaran หรือวุฒิมัธยมศึกษาระดับพื้นฐานของมาเลเซีย ซึ่งหากตัวเลขที่ได้จากผลสำรวจนี้สะท้อนความเห็นของนักเรียนมัธยมส่วนใหญ่ของมาเลเซียจริง ๆ อาจไม่เป็นผลดีกับการพัฒนาประเทศในระยะยาว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top