Monday, 9 June 2025
NEWS FEED

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงถึงความคืบหน้าเพิ่มเติม กรณีคดีตำรวจสันติบาลหญิงทำร้ายร่างกายทหารหญิงได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเปิดเผยถึงความคืบหน้าเพิ่มเติมกรณีตำรวจสันติบาลหญิงทำร้ายร่างกายทหารหญิงได้รับบาดเจ็บ 

ความคืบหน้าในส่วนของการดำเนินคดีอาญา สภ.เมืองราชบุรี จว.ราชบุรี ในวันนี้ (2ก.ย.65) พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเบิกตัวผู้ต้องหาไปทำการตรวจจิตเวชเพื่อนำผลการตรวจมาประกอบสำนวนคดี และพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก อยู่ระหว่างรอผลตรวจและทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมาย

ในส่วนการดำเนินคดีของ สภ.ชะอำ จว.เพชรบุรี พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เรือนจำราชบุรีเพิ่มเติม และสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมรวมถึงได้ทำการเก็บตัวอย่างส่งตรวจเปรียบเทียบทางนิติวิทยาศาสตร์ และทำการสอบปากคำพยานประกอบคดีไปแล้วหลายปาก โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนกฎหมาย

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับการปฎิบัติของเจ้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนอย่างตรงไปตรงไปมา ทั้งในส่วนของการดำเนินการทางวินัยและการดำเนินการในทางคดีอาญา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งเพื่อป้องกันให้สังคมเกิดความสับสนและเสียรูปคดี จึงขอความร่วมมือติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น

'อองซาน' ถูกจำคุกเพิ่มอีก 3 ปี ข้อหาโกงการเลือกตั้ง ฟากกองทัพพม่าเล็งแบนพรรค NLD จากการเลือกตั้งใหญ่

(2 ก.ย. 62) ศาลพม่าได้อ่านคำพิพากษาตัดสินโทษ นาง อองซาน ซูจีน ที่ปรึกษาแห่งรัฐของพม่าว่ามีความผิดในข้อหาโกงการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2020 ทำให้อองซาน ซูจี ต้องถูกจำคุกเพิ่มอีก 3 ปี หลังจากที่โดนตัดสินโทษในความผิดข้อหาอื่นๆ ก่อนหน้านี้มาแล้วหลายคดี ตั้งแต่การคอร์รัปชัน การใช้อำนาจในตำแหน่งมิชอบ การปลุกระดม และอื่นๆ ที่ทำให้อองซาน ซูจี มีโทษจำคุกสะสมแล้วกว่า 17 ปี 

และนอกเหนือจากโทษจำคุกแล้ว ยังมีระบุว่าต้องมีการบังคับใช้แรงงงานหนักในช่วงที่ถูกจองจำด้วย ซึ่งไม่ได้ระบุว่าโทษแรงงานมีรายละเอียดอย่างไร รวมถึง นาย วิน มินท์ ผู้นำพม่าของพรรค NLD ที่ชนะการเลือกตั้งปี 2020 ก็ถูกตัดสินรับโทษในข้อหาโกงการเลือกตั้งเช่นเดียวกับ นาง อองซาน ซูจี 

จากการเลือกตั้งใหญ่ของพม่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2020 พรรค NLD ของ อองซาน ซูจี ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย กวาดที่นั่งในสภาไปได้ถึง 315 จาก 440 ที่นั่ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียวได้สบายๆ แต่กลับยังตั้งรัฐบาลไม่ได้สักที ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องโกงการเลือกตั้ง และนำไปสู่การรัฐประหารในพม่าเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021  

แม้ว่า The Asian Network for Free Elections องค์กรอิสระที่เข้ามาสังเกตการณ์ในคูหาเลือกตั้งในพม่ากว่า 400 แห่ง ในช่วงระหว่างมีการเลือกตั้ง ได้ยืนยันว่าไม่พบการกระทำผิดกฏหมายตามที่ฝ่ายกองทัพพม่ากล่าวอ้าง แต่สุดท้าย นายพล มิน อ่อง หล่าย ก็ประกาศว่าผลการเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะอยู่ดี เพราะขาดความยุติธรรม และเสรีภาพ

ดังนั้นข้อหาเรื่องการโกงการเลือกตั้ง จึงเป็นคดีหลักของอองซาน ซูจี มากกว่าคดียิบย่อย ที่โดนพิพากษาไปก่อนหน้านี้ และจะเป็นคดีที่ส่งผลต่อพรรค NLD ที่อาจถูกรัฐบาลทหารใช้เป็นเหตุผลที่จะแบนพรรค NLD ทั้งพรรคออกจากการเลือกตั้งใหญ่ ที่ทางนายพล มิน ออง หล่าย เคยสัญญาว่าจะจัดขึ้นแน่ๆในปี 2023 ที่จะถึงนี้

ศาลกาฬสินธุ์ติวเข้มผู้บังคับใช้กฎหมาย

ศาลกาฬสินธุ์จัดอบรมโครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรม ของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เพื่อเป็นกลไกหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการยุติธรรมทุกภาคส่วน ติวเข้มผู้บังคับใช้กฎหมายทั้งระบบยุติธรรมที่โรงแรมชาร์ลองบูทรีค อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นางสาวโกมลลดา ไกรสิงห์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางวัฒนานันท์ ธรรมบุตร ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาล จ.กาฬสินธุ์ นายพูนศักดิ์ นามเพ็ง ส่วนช่วยอำนวยการประจำศาล จ.กาฬสินธุ์ เปิดการอบรมตามโครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมทุกระบบ โดยมีนายณัชฐปกรณ์ เจริญรัตนวานนท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาล จ.กาฬสินธุ์ นายอัครรัฐ สูตรสุวรรณ ผู้พิพากษาศาล จ.กาฬสินธุ์ เป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านกฎหมาย

นางสาวโกมลลดา ไกรสิงห์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรม ของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมจัดขึ้นเพื่ออบรม ให้ความรู้เพิ่มเติมในด้านกฎหมาย เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนในกระบวนยุติธรรมภายใน จ.กาฬสินธุ์ทั้งระบบ ทั้งในส่วนประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา ประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับยาเสพติดที่ให้โทษ นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับกฎหมายที่แก้ไขฉบับใหม่ ซึ่งการประสานความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ระเบียบงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมเป็นไปในแนวทางเดียวกัน อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมใน จ.กาฬสินธุ์

ทั้งนี้ ศาลยุติธรรมเป็นสถาบันหลักในการอำนวยความยุติธรรม และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตามแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2565-2568 เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย  ในการประสานความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมถึงวางแนวทางแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรมและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ภายใต้ยุทธศาสตร์กระบวนการยุติธรรม เพื่อขับเคลื่อนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมทุกภาคส่วนให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ภายใต้ระบบนิติธรรม เพื่อพัฒนาเครือข่ายในการแก้ไขปัญหา การปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ของสำนักงานศาลยุติธรรมและศาลกาฬสินธุ์

ปทุมธานี กัลฟ์มอบ55ล้านบาท รพ.ธรรมศาสตร์สนับสนุนสร้างศูนย์ไตเทียมเพิ่มช่องทางเข้าถึงการรักษา

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่อาคารม.ร.ว.สุวพรรณ สนิทวงศ์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) นำโดย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มอบเงินสนับสนุนจำนวน 55 ล้านบาทให้แก่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ไตเทียม โดยมี ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร เป็นผู้รับมอบ โดยมี นางนลินี รัตนาวะดี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิพลังงานไทย , นายบุญชัย ถิราติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GULF , นายสิตมน รัตนาวะดี และรศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ ผศ.นพ.ปรีดิ์ นิมมานนิตย์ ผู้ช่วยผู้อํานวยการฝ่ายวางแผนและงบประมาณ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นสักขีพยาน  

เนื่องจากสถานการณ์ที่ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตที่จําเป็นต้องได้รับการฟอกไตเพิ่มมากขึ้นทุกปี การได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่เท่าเทียมและได้มาตรฐานจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โดยปัจจุบันหน่วยฟอกไตของรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีความจําเป็นต้องเพิ่มรอบการให้บริการการฟอกไต เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งสำหรับพื้นที่ภาคกลางตอนบน รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติถือเป็นโรงพยาบาลที่สามารถให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางได้อย่างครบวงจรแห่งเดียว ทำให้คนในพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียงอย่าง จ.สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาฟอกไตในกรุงเทพฯ รวมถึงเป็นรพ.ที่รับส่งต่อผู้ป่วยที่ยากไร้ ที่เกินศักยภาพการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ในบริเวณกรุงเทพตอนเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง รวมถึงในพื้นที่ภาคอีสาน ทําให้ในปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเป็นจํานวนมาก มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง

ส่งผลให้สถานที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ จึงมอบเงินจำนวน 55 ล้านบาทแก่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง “ศูนย์ไตเทียม” ที่มีเครื่องฟอกไตประสิทธิภาพสูง (On-line Hemodiafiltration) จำนวน 30 เครื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยยากไร้ที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังได้เข้าถึงการรักษาที่ทั่วถึงและได้มาตรฐาน โดยมุ่งเป็น Center of Excellence ที่รองรับผู้ป่วยโรคไตและผู้ป่วยบำบัดทดแทนไตอย่างครบวงจร ทั้งการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบเฉียบพลัน (Acute Hemodialysis) และแบบเรื้อรัง (Chronic Hemodialysis) การล้างไตผ่านทางช่องท้อง การผ่าตัดปลูกถ่ายไต และการให้บริการทำ Plasmapheresis เป็นต้น นอกจากนี้ศูนย์ฯ จะต่อยอดเป็นสถานที่การเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ นักศึกษาพยาบาล และแพทย์ประจำบ้านด้านอายุรศาสตร์โรคไต สอดคล้องกับพันธกิจของ GULF ที่มุ่งส่งเสริมด้านสาธารณสุข ควบคู่ไปกับกับพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมา GULF ได้มีการดำเนินโครงการด้านสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แพร่ระบาดมากว่า 2 ปี ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของผู้คนเป็นวงกว้าง ซึ่งผู้ป่วยโรคไตนั้นถือเป็นอีกกลุ่มที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากก่อนหน้านี้ หลายโรงพยาบาลจำเป็นต้องเลื่อนนัดผู้ป่วยออกไปเป็นจำนวนมาก จนส่งผลไปถึงผู้ป่วยที่จำเป็นต้องฟอกเลือดหรือปลูกถ่ายไต โดยทาง GULF ตระหนักว่าปัญหาของผู้ป่วยโรคไต และผู้ป่วยโรคเรื้อรังไม่ได้มีแค่เรื่องค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น

แต่ยังพบปัญหาค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไปฟอกเลือด และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทาง GULF จึงมุ่งหวังว่าการมอบเงินสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ไตเทียมนี้จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคไต และเป็นศูนย์การแพทย์ที่เป็นประโยชน์ต่อทางโรงพยาบาลในระยะยาวต่อไป ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหารรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า งานการพยาบาลผู้ป่วยโรคไตและไตเทียมของทางโรงพยาบาล เป็นหน่วยงานที่มีผู้ป่วยเข้ารับการบริการเป็นจํานวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ไตรุนแรงและซับซ้อนเพิ่มสูงขึ้น ทําให้โรงพยาบาลมีจํานวนผู้ป่วยไตวายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  แต่ด้วยปัญหาข้อจํากัดในเรื่องพื้นที่และอุปกรณ์ ทําให้ปัจจุบันหน่วยฟอกไตโรงพยาบาลจําเป็นต้องเพิ่มรอบการให้บริการเป็น 3 รอบต่อวัน

จับกุมผู้ต้องหาสำคัญเครือข่ายค้ามนุษย์ชาวโรฮินจา ปี 2558 ได้เพิ่มเติม 2 ราย

จากกรณีเมื่อประมาณเดือน พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารพบศพผู้เสียชีวิตและศพที่ถูกฝังไว้รวมกันกว่า 30 ศพ บริเวณแคมป์คนงานกลางป่าบนเขาแก้ว ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จากการสืบสวนทราบว่า ทั้งหมดเป็นศพของชาวโรฮินจา ที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร และหลบซ่อนบริเวณค่ายกักกันดังกล่าว เพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามและจับกุมผู้ต้องหาซึ่งมีผู้ร่วมขบวนการทั้งทหาร ตำรวจ และนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนมาก ตามที่สื่อมวลชนและสื่อโซเชียลนำเสนออย่างต่อเนื่องนั้น

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนีอยู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้จำนวนหลายราย ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ออกติดตามจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายหม่อง ถ่าน ทุน สัญชาติเมียนมา อายุ 55 ปี และนางราฮานา เจ๊ะสะมะแอ สัญชาติไทย คู่สามีภรรยา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ได้หลบหนีหมายจับโดยการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล และใช้หนังสือเดินทางประเทศมาเลเซีย เดินทางเข้ามายังประเทศไทยอีกครั้ง จนเมื่อวันที่ 1 ก.ย.65 ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร.สามารถยืนยันตัวตนของผู้ต้องหาทั้งสองได้อย่างแน่นอนแล้ว จึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี มีรายละเอียดดังนี้ 

1. นายหม่อง ถ่าน ทุน สัญชาติเมียนมา หรือ นายซุลกิฟลี บิน อับดุลลาห์ (Zulkifli Bin Abdullah) สัญชาติมาเลเซีย ถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 308/2558 ลง 22 มิ.ย.58 ความผิดฐาน สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่ และหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 477/2558 ลง 27 ส.ค.58 ความผิดฐาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

2. นางราฮานา  เจ๊ะสะมะแอ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/12 ซ.สุมาลี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือ นาง Rohano Binti Mat said (โรฮานา บินติ มาต ซาอิด) ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 307/2558 ลง 22 มิ.ย.58 โดยกล่าวหาว่า สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่  และ หมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 476/2558 ลง 27 ส.ค.58 โดยกล่าวหาว่า สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

ผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนพระรามเก้า แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
 

'หนุ่ย พงศ์สุข' ยืดอก!! ขอโทษนักศึกษาฝึกงาน ยอมรับโพสต์แขวน ปม 'ไม่ทัก' ไม่เหมาะสม

(2 ก.ย. 65) จากกรณีที่ 'หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์' พิธีกรด้านไอทีชื่อดัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงพฤติกรรมของนักศึกษาฝึกงานที่ไม่ทัก ไม่สื่อสารกับใครในออฟฟิศ แม้จะทำงานที่ตนเองรับผิดชอบได้ดี ซึ่งมองว่าเป็นการเสียโอกาสที่ไม่ได้สายสัมพันธ์ ออกสังคม สะสมคอนเน็คชั่น ตามคุณค่าที่คนทำงานทุกคนพึงได้รับ และเมื่อ COO (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ) ของบริษัทฯ คุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาพบว่า นักศึกษาฝึกงานมีพฤติกรรมสองบุคลิกกับที่สถาบันเช่นกัน ซึ่งทาง COO ก็กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ตัดสินในยุติการฝึกงาน เพราะเห็นว่าทำงานดี ไม่มีอะไรเสียหาย แต่มารยาททางสังคมสอบตก ปรากฎว่าโพสต์ดังกล่าวถูกทัวร์ลงอย่างหนัก เพราะเห็นว่าเป็นการเอานักศึกษาฝึกงานไปแขวนประจาน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดหรือเสียหาย และเห็นว่าควรพูดต่อหน้ากันตรง ๆ ดีกว่ามาโพสต์ลับหลังแบบนี้ จนภายหลังหนุ่ย ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป

ล่าสุด 'หนุ่ย พงศ์สุข' ได้โพสต์ข้อความขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ระบุว่า...

แม้ “คุณค่าที่ยึดถือ” เป็นคนละแบบ แต่การแสดงออกของผมก็ผิด 

- ผิดที่เอาเรื่องนี้มาเล่า 
- ผิดที่เอาน้องไปแขวน 

แม้ไม่มีการระบุชื่อเสียงเรียงนาม แต่ผมก็ผิดอย่างมากที่ทำการสื่อสารเรื่องราวนี้อย่างไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง

ตลอดสองคืนนี้ ผมได้อ่านความคิดเห็นของผู้คนมากมาย ทั้ง Gen Y, Z และย้อนกลับมาที่ Gen X ช่วงวัยผมด้วย ผมยอมรับความจริง ยอมรับความต่าง แล้วตกผลึกความคิดกับการเปลี่ยนผ่าน 

คนแต่ละเจนฯ โตมาในโลกที่มีโฉมหน้าต่างกัน เราจึงยอมรับในเนื้อหาและบริบทที่ต่างกันออกไป แล้วก็เป็นสิทธิที่ทุกคนจะคิดหรือปฏิบัติอย่างไรต่อกันก็ได้หากยังอยู่ภายใต้กฎหมาย 

ในนามบริษัท เราได้ขอพบน้องทั้งคู่เมื่อวาน และกล่าวคำขอโทษตรงหน้ากับการกระทำนี้ของผม ผมเขียนบันทึกภายในส่งในไลน์กลุ่มองค์กรที่มีพนักงานทุกคนอยู่พร้อมเพื่อแสดงความขอโทษ และความผิดพลาดแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่ว่ากับใครหรือกับบุคคลสถานะไหน

ถอดบทเรียนเส้นทางค้ามนุษย์ เสริมเคี้ยวเล็บสร้างเครือข่ายข่าวกลุ่มประมงพื้นบ้าน

วันนี้ 2 กันยายน 2565 ทัพเรือภาคที่ 3 มอบหมายให้ น.ท.รัฐพล แก้วกระจาย ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 จัดอบรมจัดโครงการสร้างเครือข่ายด้านการข่าวในกลุ่มประมงทะเลพื้นบ้าน เพื่อการแก้ไขปัญหา ป้องกันและสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในการปราบปรามการค้ามนุษย์ 

ทั้งนี้ความยากลำบากในการเฝ้าระวังตามแนวตะเข็บชายแดนทางทะเลของหน่วยรักษาความมั่นคง ด้วยพื้นที่อาณาเขตที่กว้าง ฝั่งทะเลอันดามันมีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 144.8 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้ทั้งทางบกและทางทะเล จึงทำให้ยากต่อควบคุมผู้ที่ลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงาน หรือการนำแรงงานต่างด้าวส่งต่อให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้มีการเล็ดลอดรวมทั้งการอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของแรงงาน โดยเฉพาะชาวโรฮิงญาที่เล็ดลอดเข้ามาได้ง่าย แม้จะเฝ้าระวังเข้มในการลาดตระเวนทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศแล้วก็ตาม โดยบทเรียนในต้นเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

พบชาวโรฮิงญา 59 คน หลบหนีเข้าประเทศบริเวณอ่าวกำนัน เกาะดง ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา บริเวณเกาะดง (แยกเป็น ญ 23 ช 31 เด็ก 5) และยังพบว่าในห้วงเดือนเดียวกัน  มิ.ย. 2562  เรือขนชาวโรฮิงญาเคยถูกคลื่นซัดจนเรือแตกห่างไปเพียง 5 ไมล์ทะเลเท่านั้น จากสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในการทบทวนภารกิจของหน่วยความมั่นคง หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 ได้จัดโครงการสร้างเครือข่ายด้านการข่าว (ในกลุ่มประมงทะเลพื้นบ้าน)  เพื่อการแก้ไขปัญหา ป้องกันและสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในการปราบปรามการค้ามนุษย์ จำนวน 50 คน ที่ห้องประชุมบารารีสอร์ท ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ในการประสานความร่วมมือนำชาวประมงทะเลพื้นบ้านในพื้นที่ตำบลแหลมสน  อำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อควบคุมยับยั้งการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ในพื้นที่เกาะแก่งต่าง ๆ และเขตพื้นที่ชายฝั่งภายในจังหวัดสตูลที่ติดกับทะเล ป้องกันการยับยั้งการทำประมงในทะเลที่ผิดกฎหมาย  , ควบคุมกำกับดูแลความมั่นคงของชาติทางทะเลในเขตพื้นที่จังหวัดสตูล ,ควบคุมและตรวจสอบมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ , ควบคุมตรวจสอบและป้องกันการค้ามนุษย์ในภาคประมงทะเลในพื้นที่จังหวัดสตูล

'ม.นเรศวร' เปิดเวทีประชุมนานาชาติระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีนและเมาะลำไย ครั้งที่ 5 มุ่งส่งเสริมด้านการแข่งขันและความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิด การประชุมระดับนานาชาติระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีนและเมาะลำไย ครั้งที่ 5 (The 5th LIMEC Academic International Conference) เพื่อถ่ายทอดและขยายผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน บนระเบียงเศรษฐกิจหลวงพระบาง อินโดจีน และเมาะลำไย สู่สถาบันการศึกษา และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นเวทีให้ให้นักเรียน นักวิจัย และคณาจารย์ ได้นำเสนอผลงานวิชาการ และแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู้ที่เกี่ยวข้องกับระเบียงเศรษฐกิจหลวงพระบาง อินโดจีน และเมาะลำไย เพื่อร่วมมือกันพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจฯ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ในการส่งเสริมด้านการสร้างความสามารถ ในการแข่งขันและส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 

สำหรับในปีนี้ การประชุมจัดขึ้นในหัวข้อ “เทคโนโลยีดิจิตอลด้านโลจิสติกส์สำหรับฐานชีวิตใหม่” (Logistics for New Normal with Digital Technology) ซึ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตและการดําเนินธุรกิจของเราหลังจากการเกิดขึ้นของ COVID-19 ที่เร่งการพัฒนา และการนําวิธีการทํางานใหม่ๆ มาใช้ เช่น การทํางานจากที่บ้าน บริการจัดส่งอาหารออนไลน์ ธนาคารดิจิทัล และการเว้นระยะห่างทางสังคม และกิจกรรมอื่นๆ แบบไม่ต้องสัมผัส ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลได้กลายเป็นหนึ่งในโซลูชั่นที่สําคัญในการเชื่อมต่อเรา และเพื่อรักษาธุรกิจในหลายภาคส่วน ตั้งแต่การเงินไปจนถึงบริการภาครัฐ สุขภาพ และการศึกษา ตลอดจนเทคโนโลยีดิจิทัลด้านโลจิสติกส์และปัญญาประดิษฐ์พร้อมนี้ภายในงานจัดให้มีการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ หัวข้อ “มุมมองต่อการนาดิจิทัลทรานฟอเมชั่นมาใช้ในการสร้างการไหลของอุปสงค์และอุปทานในการข้ามแดน” หัวข้อ “Building Supply Chain Resilience in the post-pandemic World-The Role of Digital Technologies” และการเสวนาในหัวข้อ “Digital Technology for the New Normal in Business” เป็นต้น ณ ห้องประชุม 210 อาคารเอกาทศรถ มหาวิทยาลัยนเรศวร และในรูปแบบออนไลน์

‘นิพนธ์’ ควง ‘วสันต์’ แถลงสู้คดี เปิดหน้าซัด ป.ป.ช.ชุดนาฬิกายืมเพื่อน ให้เหตุผลรับคดีนี้ เหตุ ‘นิพนธ์’ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่น ถ้าไม่คิดว่าชนะคดี คงไม่รับทำ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์  อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ร่วมกันแถลงข่าวคดีรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา

นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์  อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เล่าย้อนถึงความเป็นมาก่อนมารับคดีเป็นทนายความให้กับนายนิพนธ์ ต่อสู้คดีกับ ป.ป.ช. ซึ่งถูกสังคมและสื่อ วิพากษณ์วิจารณ์ว่าเป็นถึงอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ แล้วลดตัวมาเป็นทนายว่า อาชีพเดิม เคยเป็นทนายความในสำนักงานหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เมื่อปี 2510 และเริ่มว่าความในปี 2511 ก่อนเข้ารับราชการเป็นผู้พิพากษาปี 2516 อีกทั้งอาชีพที่ตั้งตัวได้คืออาชีพทนายความ ก่อนมาเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ คำพูดแบบนี้มองว่าเป็นการดูถูกอาชีพอิสระ เพราะทุกวงการมีทั้งคนดีคนเลวปะปนกัน และหลังจากลาออกก็ไม่เคยคิดจะไปสู้คดีให้ใคร เพื่อมาสู้กับศาลรัฐธรรมนูญที่เคยเป็นประมุข แต่ก็คงไม่น่าเกลียดเพราะไม่เคยเป็นประธานศาลฎีกา 

ขณะเดียวกันยังยกตัวอย่างหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยังไปเป็นทนายความ ขณะเดียวกันเมื่อลาออกจากประธานศาลรัฐธรรมนูญในปี 2556 มาทำอาชีพทนายความปี 2558 โดยว่าความคดีแรกก็ไม่มีใครรู้ว่าตนเองเคยเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญมาก่อน ดังนั้นการที่สื่อบางคน บอกว่าเป็นการลดตัวไปว่าความ และเวลาไปศาลนั้นคนจะยกมือไหว้ตั้งแต่หัวกะไดศาล ไม่เป็นความจริง 

พร้อมกันนี้ยังเปิดเผยว่าเคยรับคดีว่าความสู้กับ ป.ป.ช. มาแล้ว ซึ่งที่รับทำเพราะมีคนถูกกลั่นแกล้ง รังแก หากช่วยพรรคพวกได้ก็ควรช่วย และการรับคดีก็ต้องพิจารณาจะมีทางต่อสู้หรือไม่ ซึ่งหากนายนิพนธ์เป็นฝ่ายผิด คงไม่รับทำคดีให้ เพราะจะเสียฟอร์ม “ตนเป็นทนายเงียบๆ ไม่ได้หิวแสงเหมือนคนอื่น” 

ซึ่งคดีแรกที่ว่าความคือคดีที่ ป.ป.ช. กล่าวหาคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการกระทรวงการคลัง ที่มี นายสมหมาย ภาษีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งชนะคดี

นายวสันต์ ยังเล่าว่าตนไม่คุ้นเคยกับนายนิพนธ์ แต่คุ้นเคยกับ นายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แนะนำให้นายนิพนธ์ มาพบมาพูดคุยก่อนบอกว่า “ตนอยู่ในวงการยุติธรรมมา 50 ปี มองออกว่าใครได้รับความเป็นธรรม หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม” ทั้งนี้เมื่อตรวจเอกสารรายละเอียดคดี เห็นว่านายนิพนธ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงรับทำคดีให้

สำหรับรายละเอียดของคดี อบจ.สงขลา ซื้อรถเอนกประสงค์ 2 คัน มูลค่ากว่า 40 ล้าน และมีการประมูลทำสัญญาส่งมอบรถ ซึ่งเมื่อนายนิพนธ์ มาเป็นนายก อบจ.สงขลา มีเรื่องร้องเรียนตรวจสอบเอกสารพบสงสัยมีการฮั้ว จึงทำเรื่องให้ผู้ว่าฯ สงขลา ระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน และ อบจ.ได้ไปแจ้งความเพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมด้วย และขณะนี้พนักงานอัยการสั่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 และออกหมายจับ  นอกจากนี้ ป.ป.ช. ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความกล่าวโทษเอกชนที่ฮั้วประมูล ซึ่ง ป.ป.ช. ต้องเชื่อว่ามีการฮั้ว ขณะเดียวกันเอกชนก็ไปฟ้อง ป.ป.ช. ว่าถูก อบจ.สงขลา กลั่นแกล้ง รวมถึงฟ้องศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้ อบจ.จ่ายเงิน แต่เมื่อมีการยื่นฟ้องคดีอาญาว่าฮั้ว ศาลปกครองสูงสุดจึงให้พิจารณาใหม่ และก็อยู่ระหว่างพิจารณาคดี
 


 

ทส. มอบรางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบ “เมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน” ระดับประเทศ ปี 2564 จำนวน 47 แห่ง จากทั่วประเทศ

วันนี้ (1 กันยายน 2565) เวลา 14.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ นายเฉลิมชัย ปาปะทา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหาร ทส. ให้การต้อนรับ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานในพิธีเปิดและมอบรางวัลเชิดชูเกียรติเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นโดย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ เผยแพร่ผลงานและนวัตกรรมการพัฒนาเมืองของเทศบาลที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเมืองและเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อเป็นแนวทางในการยกระดับศักยภาพการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ อาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และผ่านระบบ Video Conference

โดย นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้การสนับสนุนและพัฒนาท้องถิ่นของตนเองให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการพัฒนาเมืองแบบองค์รวม ที่ต้องมีความสมดุลในทุกมิติ มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และต้องได้รับความร่วมมือของภาคีทุกภาคส่วน เพื่อทำให้ชุมชนกับท้องถิ่นเป็นหนึ่งเดียวกัน อันเป็นรากฐานสำคัญให้เกิดภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง พร้อมรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเท่าทันในอนาคต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top