สหรัฐฯ กันท่าบริษัทที่รัฐหนุนงบห้ามลงทุนในจีน 10 ปี ฟากจีนชูสถาบันรัฐ เร่งพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าต่อกร
การแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนนั้นเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดผู้นำจีนสั่งรวมทุกองคาพยพในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงให้ได้ ขณะที่สหรัฐฯ ออกกฎใหม่ห้ามบริษัทที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลสหรัฐฯ ลงทุนในจีนเป็นเวลา 10 ปี
รัฐบาลสหรัฐฯ ออกกฎระเบียบใหม่กำหนดว่า บริษัทด้านเทคโนโลยีที่รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะไม่สามารถสร้างโรงงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีอันก้าวหน้าในจีนได้เป็นเวลา 10 ปี โดยมีเป้าหมายในการสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ และมีขึ้นหลังภาคธุรกิจได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนภาคเอกชนมากกว่านี้ เพื่อลดการพึ่งพาจีน
‘จีนา ไรมอนโด’ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ อธิบายเนื้อหาของกฎหมาย US Chips and Science Act ว่า รัฐบาลจะบังคับใช้มาตรการเหล่านี้ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับทุนด้านชิปจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เงินไปลงทุนในจีน พวกเขาจะไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยในจีนได้เป็นเวลา 10 ปี แต่บริษัทที่รับเงินช่วยเหลือนั้นจะสามารถขยายโรงงานในจีนได้ก็ต่อเมื่อ เพื่อรองรับตลาดจีนเท่านั้น
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามกฎหมายทุ่มงบวิจัยมูลค่า 2.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10 ล้านล้านบาท ในอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง ท่ามกลางความกังวลว่าสหรัฐฯ กำลังจะสูญเสียเทคโนโลยีล้ำสมัยให้แก่จีน ซึ่งงบประมาณดังกล่าวครอบคลุมการลดภาษีให้บริษัทต่างๆ ที่สร้างโรงงานผลิตชิปคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯด้วย
ปัจจุบันสหรัฐฯ ผลิตชิปราว 10% ของอุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก ลดลงจากที่เคยผลิตได้สัดส่วนถึงเกือบ 40% ในปี 1990
ในฝั่งของจีน มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้เรียกร้องให้จีนยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญต่อความมั่นคงของชาติ ในระหว่างการประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านนโยบายเข้าร่วม
