Monday, 20 May 2024
ภาคกลางไทม์

นครนายก - รถพ่วง 22 ล้อเฉี่ยวชนรถ จยย.ล้มทับร่างเละเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ล้ม ทับร่างแหลกเละเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ร.ต.ท.หญิงวีรวัลย์ พุทธศิริ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก ได้รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย บริเวณถนนแยกบายพาสศูนย์พระเทพฯ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก จึงไปยังที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร และกู้ภัยสว่างอริยะนครนายก พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงินทะเบียน กจว นครนายก 531 ถูกรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนล้มพังเสียหายข้างรถจักรยานยนต์พบศพนายอำนวย เนียมไทย อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/21 ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายกนอนเสียชีวิต ถูกล้อรถบรรทุกพ่วงหลังข้างซ้ายทับร่างเละตั้งแต่บริเวณช่วงเอวขึ้นไปถึงศรีษะแหลกเหลว เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรร่วมชันสูจน์พลิกศพถัดมา 100 เมตรพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อสีขาวตัวแม่ทะเบียน 80-9683 กำแพงเพชรและลูกพ่วงทะเบียน 82-7593 มีนายสวิตต์ บัวธรรม อายุ 50 ปีเป็นคนขับรถบรรทุกพ่วงยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการบอกเล่าของ นายสวัตต์ บัวธรรม คนขับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ เล่าว่าตนได้ขับรถบรรทุกหินมาจากโรงงานที่สระบุรีเพื่อจะนำหินไปส่งที่แพลนงานที่ปราจีนบุรี เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเป็นแยกสัญญาณไฟแดงตนได้หยุดรถพอสัญญาณไฟเขียวตนได้ขับรถออกมาโดยไม่รู้ว่ามีรถจักรยานยนต์ขับตามหลังมาติด ๆ จึงได้เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ล้มลงและทับทั้งรถและคนเสียชีวิตดังกล่าว

จากการบอกเล่าของนายปรมัตถ์ วงศ์คล้าย เป็นลูกเลี้ยงของนายอำนวย เนียมไทย ผู้เสียชีวิตเล่า พ่อเลี้ยงเป็นคนชอบส่องพระเครื่องและชอบเล่นพระเครื่อง ในวันเกิดเหตุได้ขับรถออกจากบ้านมาเพื่อจะไปหาเพื่อนที่ชอบเล่นพระเครื่องด้วยกันแถวหมู่บ้านไร่วิลเลจ ตำบลศรีนาวา และทางญาติ ๆ ก็เตือนว่าอย่าออกจากบ้านไปเลยฝนก็ตกหนักตลอดทั้งวัน จนมารับทราบข่าวจากกู้ภัยสว่างอริยะนครนายก โทรมาบอก ว่าพ่อเลี้ยงตนได้ถูกรถบรรทุกพ่วงชนเสียชีวิตแล้ว

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมถ่ายภาพเก็บข้อมูลหลักฐาน และได้เชิญตัวนายสวัตต์ บัวธรรม คนขับรถบรรทุกพ่วง ไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป


ภาพ/ข่าว  สมบัติ เนินใหม่ / รัชชานนท์ เนินใหม่  ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

สุโขทัย - ตาลโตนดสุโขทัย ของอร่อยจากธรรมชาติ ภูมิปัญญาท้องถิ่น สืบสานทำกินคนถิ่นคีรีมาศ

“ตาลโตนด” เป็นพืชที่ขึ้นได้ในดินทุกชนิด มีความทนต่อฤดูแล้ง ทนน้ำท่วมขัง แต่ไม่ชอบดินที่เป็นกรดจัด สามารถปลูกแซมตามคันนาได้ หรือในแปลงพื้นที่การเกษตร เนื่องจากรากของตาลโตนดจะหยั่งลงลึก ทำให้ไม่แย่งอาหารกับนาข้าว และรักษาพื้นดินได้อย่างดี เป็นทั้งร่มเงายามหลบแสงแดดร้อน มักพบเห็นตามคันนามาตั้งแต่อดีตเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันก็เริ่มหายลดลง จากการเพิ่มพื้นที่และปรับเปลี่ยนที่ดินมาเป็นรูปแบบธุรกิจ ตามยุคสมัย

ตาลโตนดเป็นพืชที่สร้างอาหารได้หลากหลาย มีประโยชน์จากความหวานของธรรมชาติ เป็นทั้งขนม ของหวาน ผลไม้ และของคาว ในต้นเดียวกัน จุดเด่นของน้ำตาลโตนด จัดเป็นน้ำตาลเพื่อสุขภาพ ยอดนิยมของฝากในท้องถิ่นและคนทั่วไป น้ำตาลโตนด ถือเป็นน้ำตาลที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง เนื่องจากเป็นน้ำตาลที่มี ค่า Glycemic Index(GI) ต่ำ ค่า GI เป็นค่าที่บอกผลกระทบของอาหารที่บริโภคต่อน้ำตาลในกระแสเลือด ซึ่งหากสูง หมายถึงอาหารที่บริโภค ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูง ซึ่งไม่ดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน หรือแม้แต่คนปกติ อีกทั้งยังมี วิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น วิตามิน บี โดยเฉพาะ B12 ในปริมาณสูง แร่ธาตุ เช่น เหล็ก โพแตสเซียม แมกนีเซียม และธาตุอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว น้ำตาลโตนด ก็ยังมีรสชาติอร่อย เพิ่มรสชาติของอาหาร เครื่องดื่ม ทั้งชา กาแฟ หรือขนมต่าง ๆ ให้อร่อย หอมหวานกลมกล่อมมากขึ้นอีก

สนใจเรียนรู้หรือเข้าชมการทำน้ำตาลโตนด ซื้อเป็นของฝากจากสุโขทัย ภูมิปัญญาของชาวอำเภอคีรีมาศ ได้ที่ หมู่ 1 บ้านนากาหลง ตำบลนาเชิงคีรี อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย (ตรงข้ามโรงเรียนบ้านนากาหลง) คุณเบียร์ (เจ้าของผลิตภัณฑ์) สอบถามข้อมูลและสั่งจองได้ที่ 092-1964627


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา จ.สุโขทัย

กรุงเทพฯ - สภากาชาดไทยร่วมกับสำนักอนามัย จัดทีมแพทย์ พยาบาลเสริมทัพฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้มีความเสี่ยงเขตคลองเตย

อนาคตเตรียมเปิดรับสมัครอาสาสมัครแพทย์ พยาบาล และมอบชุดธารน้ำใจโควิด ฯ สำหรับผู้กักตัว 14 วัน

วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ทีมแพทย์ พยาบาลของสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ที่ปฏิบัติงานร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร นำทีมโดย แพทย์หญิงกานดา ลิมิตเลาหพันธุ์ หัวหน้าฝ่ายบริการทางการแพทย์ สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ ปฏิบัติงานฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19  ให้แก่ผู้ที่มีความเสี่ยงในพื้นที่ชุมชนแออัดเขตคลองเตย โดยสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครตั้งเป้าในการฉีดวัคซีนประมาณวันละ 1,500 ราย ณ โลตัส พระรามสี่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อช่วยควบคุมโรคระบาดในพื้นที่คลองเตย กรุงเทพมหานคร

​ด้านนายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ กล่าวว่า “วันนี้สภากาชาดไทยมาร่วมสนับสนุนกทม.ในการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ ที่มีการแพร่ระบาดหนักสุดในตอนนี้ ซึ่งก็คือพื้นที่คลองเตย มีทั้งทีมแพทย์และพยาบาลที่มาปฏิบัติงาน นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้เราจะระดมอาสาสมัครของสภากาชาดไทย ที่เป็นแพทย์หรือพยาบาลที่มีจิตอาสา มาช่วยภาครัฐในการระดมฉีดวัคซีนในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีก และสภากาชาดไทยได้เตรียมเปิดสิทธิ์ให้กับอสส. (อาสาสมัครสาธารณสุข)ในการคีย์ข้อมูลเข้าในระบบแอปพลิเคชั่นพ้นภัย สำหรับผู้ที่ อสส.ประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยง จำเป็นต้องกักตัวเอง 14 วัน เพื่อที่เมื่อข้อมูลเข้าระบบแล้ว สภากาชาดไทยจะได้จัดส่งชุดธารน้ำใจฝ่าวิกฤติ      โควิด-19 ไปสนับสนุน โดยอาศัยสนง.เขตต่าง ๆ เป็นตัวกลางในการประสานต่อไป ซึ่งชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤติโควิด-19 นี้ สภากาชาดไทยได้ดำเนินการในส่วนภูมิภาคมาเป็นระยะเวลา 1 ปีเศษแล้ว โดยมีอสม.(อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) เป็นผู้คีย์ข้อมูลผ่านเข้าระบบแอปพลิเคชั่นพ้นภัยเข้ามา ซึ่งสภากาชาดไทยได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้กักตัวเอง 14 วัน ด้วยชุดธารน้ำใจฯ ดังกล่าวไปแล้วกว่า 1 แสนชุด”

​สำหรับประชาชนที่มีจิตศรัทธาจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับสภากาชาดไทย ที่จะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน สามารถบริจาคได้ในโครงการ “พลังใจ 99 บาท ก้าวผ่านวิกฤต COVID-19” เพื่อมอบชุดธารน้ำใจช่วยเหลือประชาชนที่ต้องกักกันตน ผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้และไร้ที่พึ่ง เพื่อลดความเสี่ยง ป้องกัน และเยียวยาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการสแกน QR CODE ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารใน ระบบ E-DONATION หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ" ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 001-1-34567-0 หรือธนาคารกรุงไทย สาขาสุรวงศ์ ชื่อบัญชี "สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย" ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 023-6-06799-0 ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1664

สุโขทัย - ชาวบ้านเลือกซื้อขิง กระชาย รับประทานต้านโควิด-19

เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 5 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งพบผู้ป่วยต่อเนื่อง ล่าสุดข้อมูลจากสสจ.สุโขทัย รายงานสถานการณ์จังหวัดสุโขทัย ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 96 ราย รักษาหาย 46 ราย กำลังรักษา 48 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ทำให้ชาวบ้านต่างต้องหาวิธีป้องกันทุกวิธี เช่นเดียวกับการรับประทานน้ำขิง และกระชายสด

ซึ่งมีการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ว่าขิง และกระชาย มีสรรพคุณช่วยให้ร่างการแข็งแรงและเสริมภูมิคุ้มกันทำให้มีชาวบ้านออกมาหาซื้อขิงสด และกระชาย นำไปรับประทานเป็นจำนวนมาก จากการสอบถามนายรพีพัฒน์ ทรงอยู่ อายุ 51 ปี หรือลุงต๊ะ เจ้าของแผงผักในตลาดสดสวรรคโลก เล่าว่าช่วงนี้จะมีลูกค้ามาเลือกซื้อขิง และกระชาย เป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปรับประทานซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต้านไวรัสโควิด-19 ได้ ซึ่งวันหนึ่งจะมีลูกค้ามาซื้อขิงวันละประมาณ 20  กิโล ราคากิโลละ 40 บาท ส่วนกระชายวันหนึ่งประมาณ 30 กิโล ราคากิโลละ 50 บาท ซึ่งลูกค้าคนหนึ่งจะซื้อครั้งละครึ่ง ถึง 1กิโล 


ภาพ/ข่าว  พงศ์เทพ สาคร

กรุงเทพฯ - “มาดามแป้ง” ส่ง “กล่องน้ำใจ” ถึงชาวคลองเตย กักตัวเกินร้อย

มาดามแป้ง ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. ส่งกล่องน้ำใจมูลนิธิมาดามแป้ง บรรเทาความเดือดร้อนช่วงกักตัวของชาวคลองเตยเกินร้อยชีวิต ทั้ง 43 ชุมชน พร้อมตั้งครัวมาดามทุกวัน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่เขตคลองเตยทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง หลังพบผู้ป่วยเพิ่มสูงจากการเป็นชุมชนแออัด ส่งผลให้มีผู้เสี่ยงสูงต้องกักตัวเพิ่มขึ้นทุกวัน “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เดินหน้าให้ความช่วยเหลือชาวคลองเตยต่อเนื่อง หลังตั้งครัวมาดามแจกข้าวกล่องแก่ 43 ชุมชน พร้อมจัดกล่องน้ำใจจัดส่งไปยังผู้ที่ต้องกักตัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงขาดรายได้  โดยในกล่องน้ำใจนั้นประกอบด้วย เครื่องอุปโภค บริโภคทั้งสดและแห้ง พร้อมของใช้จำเป็นอื่นๆ และจัดทีมอาสาสมัครลงพื้นที่ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกวัน

โดย มาดามแป้ง CEO เมืองไทยประกันภัย , ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “ต้องขอบคุณกลุ่มอาสากล้าใหม่ ผู้นำชุมชน ที่ส่งต่อความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ ไปยังพี่น้องที่ลำบาก ทั้งการตั้งครัวมาดามตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเป็นต้นมา รวมถึงการส่งต่อกล่องน้ำใจที่เต็มไปด้วยความตั้งใจไปถึงมือผู้ที่กักตัวทั้ง 43 ชุมชน มันเป็นช่วงเวลาที่คนตัวใหญ่ต้องหันมาช่วยคนตัวเล็ก โดยเฉพาะแฟนบอลท่าเรือที่คลองเตย เราทิ้งไม่ได้ อยากให้ทุกคนอดทนสู้เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปด้วยกัน”

ทั้งนี้ นอกจากการช่วยเหลือพี่น้องชาวคลองเตยทั้ง 43 ชุมชนแล้ว มูลนิธิมาดามแป้ง ยังได้ส่งต่อกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฎิบัติงานในโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลสนามทั่วประเทศรวม 26 แห่งนานเกือบหนึ่งเดือนแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือพี่น้องชาวคลองเตยและคนไทยทั่วประเทศ สามารถร่วมบริจาคได้ที่ บัญชี 092-2-61340-0 ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้

 

ลพบุรี – ทหารกองพันจู่โจม บริจาคโลหิตเพื่อชาติในวันฉัตรมงคล

กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ ค่ายเอราวัณ นำกำลังพลจิตอาสา กว่า 100 นาย บริจาคโลหิต ตามโครงการ “ กองทัพบก บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ ” เพื่อเป็นโลหิตสำรอง ซึ่งอยู่ใน ภาวะขาดแคลนโลหิต เนื่องในวัน “ ฉัตรมงคล ” ประจำปี 2564

พันโท มงคล ปุริสา ผู้บังคับกองพันจู่โจมรักษาพระองค์  กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ นำกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน “ เราทำความดี ด้วยหัวใจ ” และกำลังพลของหน่วย ซึ่งได้ผ่านคัดกรองจากหน่วยแล้วว่าเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างการแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เป็นผู้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด-19 จำนวน 103 นาย เข้าร่วมบริจาคโลหิต ตามโครงการ  “ กองทัพบก บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ ” ณ อาคารเอนกประสงค์ประภูชะเนย์ กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ ค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี  เพื่อส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัย ตามมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้กับสภากาชาดไทย สำหรับใช้เป็นโลหิตสำรองให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งอยู่ใน ภาวะขาดแคลนโลหิต ตลอดจน เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความรู้รักสามัคคี และความเสียสละ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย เนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2564

โดยมี ทีมแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี มาคอยอำนวยความสะดวกในการตรวจคักกรอง และให้บริการรับบริจาคโลหิตจากกำลังพล โดยมีการตรวจคัดกรองซักประวัติผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิต มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกำหนดการเว้นระยะห่างระหว่างกำลังพลที่มารอบริจาคโลหิต “Social Distancing” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริจาคโลหิตทุกคน และเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยที่ต้องรับโลหิตจากการรักษาพยาบาล       

ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมแก้ปัญหาภาวะโลหิตขาดแคลน จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID -19 ระลอกใหม่ ตามนโยบายของกองทัพบก โดยมีโลหิตที่ได้ จำนวน 91 ยูนิต รวม 36,400 ซีซี โดยโลหิตที่ได้จะถูกนำไปใช้เป็นโลหิตสำรองให้กับธนาคารเลือด สำหรับใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียงในโอกาสต่อไป


ภาพ/ข่าว  กฤษณ์  สนใจ

นนทบุรี – กรมพลาธิการทหารบก ส่งมอบโรงพยาบาลสนามให้แก่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 2 อาคาร 200 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว

วันนี้ ( 5 พ.ค.64)เวลา 10.00 น. ที่ กองยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบก อำเภอเมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พลโท กิตติชัย วงศ์หาญ  เจ้ากรมพลาธิการทหารบก พร้อมคณะนายทหาร ส่งมอบมอบโรงพยาบาลสนามให้แก่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจำนวน 2 อาคาร 200 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว โดยมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ พร้อมคณะแพทย์และพยาบาลร่วมรับมอบโรงพยาบาลสนามดังกล่าว 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา กองทัพบกได้ตระหนักถึงความสำคัญและเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการเตรียมพื้นที่ในการช่วยเหลือประชาชนสนับสนุนหน่วยงานราชการต่าง ๆ และกระทรวงสาธารณสุข จึงมอบหมายให้กรมพลาธิการทหารบก จัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 (COVID -19) กรณีเกินขีดความสามารถในการรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลหลัก และได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารกองคลังยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบกเป็น โรงพยาบาลสนาม ประกอบด้วยอาคาร 2 อาคาร การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 200 เตียง ณ กองยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบก ในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและ รองรับผู้ป่วยกรณีโรงพยาบาลหลักเกินขีดความสามารถที่จะดูแลผู้ป่วยได้ทั้งหมด โดยรับผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาและสังเกตอาการจากโรงพยาบาล กรณีอาการไม่รุนแรง(กลุ่มสีเขียว) ให้มาพักรักษาและติดตามอาการต่อเนื่อง จนกว่าผลตรวจจะเป็นลบหรือไม่พบเชื้อแล้ว แต่หากพบว่ามีอาการหนักขึ้น ก็จะถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลหลักทันที

นอกจากนี้ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สนับสนุนนำเทคโนโลยี 5G และนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าไปสนับสนุนการทำงาน การเว้นระยะห่างของการทำงานของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ฯ ( Social distancing ) เพื่อช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับให้การทำงานของทีมแพทย์ และบุคลากรต่าง ๆ ไร้อุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ด้วย

สระบุรี – ชาวบ้านตำบลไผ่ขวาง แห่เก็บแมงเม่าทำอาหารรสเด็ด 1 ปีจะมีแค่ครั้งเดียว

วันที่ 3 พ.ค. 64 ชาวบ้าน หมู่ 4 ตำบลไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี  แห่ออกหาแมลงเม่า บริเวณศาลาพักผู้โดยสาร และข้างถนนโพธิ์พระยา- ท่าเรือ ซึ่งมีแมลงเม่าเป็นจำนวนมากเกาะอยู่ตามพื้นศาลาพักผู้โดยสาร และเกาะอยู่ริมถนน แมลงเม่าลักษณะจะมีปีกและจะออกมาเล่นแสงไฟตามบ้านเรือนประชาชน ตลอดจนไฟส่องสว่างตามถนน ซึ่งส่วนใหญ่แมลงเม่าจะมีออกมาให้เห็นช่วงฤดูฝนเท่านั้น ปีนึ่งจะมีให้เห็นเพียงครั้งเดียว เป็นที่ต้องการของนักเปิบอาหารแปลกรสชาติอร่อย นำไปแช่น้ำเพื่อให้ปีกของแมลงเม่าหลุดออก แล้วนำตัวไปใส่กระทะคั่ว ใส่น้ำปลาเล็กน้อย อร่อยอย่าบอกใคร

ด้านนายพงศักดิ์  โพธิ์ทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่4 ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี วันนี้ตนได้มากับแม่เพื่อออกหาเก็บแมลงเม่า ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในวันนี้ได้พบแมลงเม่าเป็นจำนวนมากที่บริเวณศาลาพักผู้โดยสารริมทาง เล่าว่าปีนึ่งจะมีแมลงเม่าสักครั้ง มีเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น  แมลงเม่าที่ได้ไปจะนำไปคั่วใส่น้ำปลานิดหน่อย รสชาติจะออกมันๆ กินเล่นก็ได้หรือกินกับข้าวสวยร้อนก็อร่อย วันนี้ตนได้แมลงเม่าจำนวนมากหนักประมาณ 3 กิโลกรัมได้  ซึ่งแมลงเม่าจะหาได้ยากมากและเป็นที่ต้องการของชาวบ้านตำบลไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ 

(สัมภาษณ์ นายพงศักดิ์  โพธิ์ทอง)


ภาพ/ข่าว  ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ

สุโขทัย – ไม้กวาดทางมะพร้าว ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และรักษาสิ่งแวดล้อม

ไม้กวาดถือว่าเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทุกครัวเรือนจะต้องมีไว้ใช้ จะขาดไม่ได้ สำหรับไม้กวาดยังแบ่งออกเป็นหลายชนิดแตกต่างการใช้งานกันไป ที่สวรรคโลกคนรุ่นเก่าที่ยังรักอาชีพทำไม้กวาดขายจากภูมิปัญญา ไม้กวาดที่ทำจากทางมะพร้าว ไม้ไผ่ เพื่อใช้สำหรับกวาดพื้นทำความสะอาด ที่ยังมีให้พบเห็นกันอยู่บ้าง

นายจำลอง คัมภีรพจน์ อายุ 71 ปี หรือลุงแจ้ ผู้ประกอบอาชีพรายได้เสริมจากการทำไม้กวาดทางมะพร้าวชายส่งตามร้านต่าง ๆ และขายให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงในราคากันเอง โดยโรงงานที่ผลิตงานที่เขารักนั้นไม่ได้ลงทุนสร้างโรงงานใหญ่โตอะไร ใช้บ้านที่พักอาศัยที่ตั้งอยู่เลขที่ 25 ถนนพิชัยตัดใหม่ ชาวชุมชนเด่นพิชัย ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ตั้งเป็นโรงงานขนาดนิมิอยากทำตรงไหนนั่งตรงนั้น นอกจากจะทำไม้กวาดทางมะพร้าวจำหน่ายภายในชุมชนและร้านต่างๆแล้ว ยังเป็นผู้ที่ถ่ายทอดการทำไม้ทางมะพร้าวให้กับชาวบ้านในชุมชนหรือคนว่างงาน อยากมรอาชีพเสริม ก็ยินดีสอนให้กับคนที่สนใจ  ขั้นตอนในการทำนั้นไม้กวาดทางมะพร้าว1อัน จะประกอบด้วยตัวด้ามที่ทำจากไม้ไผ่ ก้านมะพร้าวที่เหลาเอาใบออก และเชือกสำหรับถักก้านมะพร้าวก่อนที่จะนำมาเข้ากับตัวด้าม 

ลุงแจ้เล้าให้ฟังว่าสมัยเด็กเวลาเดินไปโรงเรียนจะเห็นชาวบ้านนั่งทำไม้กวาดทางมะพร้าวไว้ใช้กวาดใบไม้หน้าบ้าน ด้วยความสนใจจึงได้ไปฝึกหัดทำจนได้สืบทอกการทำไม้กวาดทางมะพร้าวมาจนถึงทุกวันนี้ และยังมีโอกาสได้ถ่ายทอดการทำไม้กวาดทางมะพร้าวให้กับคนในชุมชนอีกด้วยเพื่อส่งขายเป็นรายได้เสริมให้กับกลุ่มชุมชน สำหรับราคาขายจะอยู่ที่ด้ามละ 35 บาท  3 ด้าน 100 บาทเท่านั้น

ประโยชน์ของไม้กวาดทางมะพร้าวนี้ ใช้ในการกวาดพื้น  ปัดหยากไย่  หรือใช้ในการทำความสะอาดครัวเรือน กวาดนำขังพื้น ข้อดีคือคนในชุมชนสามารถผลิตใช้กันเองได้ และจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว  มีความทนทาน ใช้งานได้ดี ขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน คุณภาพคงทน ใช้ได้นานไม่หลุดขณะกวาด ทำให้ไม่สิ้นเปลื้องเวลาและพลังงานในการใช้งาน การมีเอกลักษณ์ ลวดลายจากการมัด ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นชุมชนนั้น ๆ ก็มี เพราะจะขึ้นลายมัดเชือกเข้ากับตัวไม้กวาดจะเป็นไปในแบบเดียวกัน  สื่อถึงการเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม และคนในชุมชนนั้นได้ดี 

วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น ไม้ไผ่  เอาไว้สำหรับทำด้ามไม้กวาด  ส่วนใบจากมะพร้าว หรือทางมะพร้าวก็หาได้ตามแหล่งต่าง ๆ จากธรรมชาติ จากแหล่งปลูก จัดหาก้านใบย่อยของทางมะพร้าว โดยตัดก้านใบย่อยตรงโคนก้านออกจากทางมะพร้าว นาใบมะพร้าวมากรีดแยกแผ่นใบทั้งสองข้างออก ก่อนนาไปตากแดดให้แห้ง จากนั้น ตัดโคนก้านให้เสมอกัน ก่อนนามามัดติดเป็นแผงกับด้ามไม้ไผ่ 

หากรู้วิธีการใช้ให้ถูกต้อง ก็จะใช้งานไม้กวาดทางมะพร้าวได้ยาวนาน ลุงแจ้บอกวิธีการใช้ว่า ไม้กวาดทางมะพร้าวสาหรับกวาดบนปูนซีเมนต์ จะต้องใช้ก้านใบมะพร้าวที่มีลักษณะอ่อน โค้งตัวได้ดี ได้จากทางมะพร้าวที่ไม่แก่มาก แผ่นใบ และก้านใบยังมีสีเขียวสด ไม้กวาดทางมะพร้าวสำหรับกวาดบนพื้นดิน จะต้องใช้ก้านใบมะพร้าวที่มีลักษณะแข็ง ได้จากทางมะพร้าวที่แก่เต็มที่แล้ว แผ่นใบมีสีเขียวเข้มหรือสีเหลือง และก้านใบมีสีน้าตาล มีลักษณะแข็ง การเลือกใช้ด้ามไม้กวาด ด้ามไม้กวาดทางมะพร้าว ทำได้จากไม้หลายชนิด ได้แก่ ไม่ไผ่ ไม้ข่อย ไม้กระถิน เป็นต้น แต่ที่นิยมมาก คือ ด้ามไม้กวาดจากไม้ไผ่ตันนั้นเอง เพราะขนาดลาไม้เหมาะแก่การจับ มีน้าหนักเบา มีความแข็งแรง ทนทาน ซึ่งจะได้ด้ามไม้ไผ่ พร้อมมัดหรือตอกติดกับก้านใบมะพร้าวได้อย่างดีทำให้ไม่กวาดแข็งแรง ใช้งานได้นานนั้นเอง

สุโขทัย - Sukhothai Crafts and Folk Art “ลวดลายจากสังคโลกสู่ผืนผ้า”ที่ "บ้านปรีดาภิรมย์"

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ในเขตชุมชนเมืองเก่า จ.สุโขทัย มีบ้านไม้หลังหนึ่ง รอให้ทุกคนได้มาสร้างสรรค์ลวดลายสังคโลกลงบนผืนผ้าที่ “บ้านปรีดาภิรมย์” ที่นี่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบและความหมายของลวดลายสังคโลกซึ่งถือเป็นงานหัตถกรรมที่สำคัญของสุโขทัยมาช้านาน โดยปกติแล้วเรามักจะเห็นลวดลายสังคโลกอยู่บนเซรามิก

แต่เมื่อ คุณธารารัตน์ ปรีดาภิรมย์ หรือฝน และชาวบ้านชุมชนเมืองเก่าต้องการที่จะอนุรักษ์ สืบสานลวดลายบนเครื่องสังคโลกเอาไว้ไม่ ให้หายไปตามกาลเวลา จึงเกิดเป็นกิจกรรมเวิร์คช้อปดีๆ ให้นักท่องเที่ยว และบุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้ามามีส่วนร่วมในการหัดเขียนลวดลายสังคโลก

การลงมือวาดลวดลายต่าง ๆ ลงบนผืนผ้า เสื้อยืด กระเป๋าหรือโคมไฟ ไม่ว่าจะเป็น ลวดลายสัตว์ (ลายปลา ลายนกคุ้ม) ลวดลายพืชพรรณ (ลายดอกบัว ต้นไม้) และลวดลายเรขาคณิตแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กับวิถีชีวิต สังคม ความเชื่อและรูปแบบศิลปะเฉพาะของสุโขทัย จะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้เกิดความเข้าใจในคุณค่าของ “จิตวิญญาณของวัฒนธรรม” เมืองสุโขทัย และเข้าใจอัตลักษณ์ของความเป็นสุโขทัยมากขึ้น


ภาพ/ข่าว  เสนิศชนันต์ สุขกสิกร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top