ที่คลองเปรมประชากร บริเวณหน้าวัดเปรมประชา ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมด้วยนายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี , นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี , พล.ต.ท.อดุลย์ รัตนภิรมย์ ที่ปรึกษาพิเศษนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , นายธนศักดิ์ แป้นมุข ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง อบจ.ปทุมธานีได้ตรวจสอบการดำเนินการโครงการกำจัดผักตบชวาวัชพืชสิ่งปฏิกูล และตกแต่งภูมิทัศน์ริมตลิ่ง 2 ฝั่งคลองเปรมประชากร ระยะทาง 15 กิโลเมตร และเทน้ำหมักชีวภาพช่วยบำบัดน้ำเสีย ร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินปทุมธานี โดยมีเรือโป๊ะรถแบคโฮจำนวน 2 เครื่องกำลังดำเนินการขุดลอกคูคลองและตัดต้นไม้ปรับภูมิทัศน์พร้อมประชาสมพันธ์ชาวบ้านให้รับทราบโครงการร่วมถึงการการตัดแต่งต้นไม้ที่กีดขวางบริเวณหน้าบ้านที่อาจจะเกี่ยวสายไฟฟ้าจนเป็นอันตรายเมื่อมีลมพายุพัดมักเกิดไฟฟ้าดับ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากคลองเปรมประชากรมีประวัติศาสตร์และเป็นโครงการพระราชดำริฯ ต่อมาพลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ เลขาธิการพระราชวัง ได้เรียกประชุมหลายภาคส่วน โดยตนเองได้ร่วมประชุมด้วย ซึ่งคลองแห่งนี้ มีมาตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ขุดขึ้น ตั้งแต่ตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านปทุมธานีไปถึงเขตดุสิตกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการย่นระยะทางเดินเรือในสมัยก่อนที่แม่น้ำเจ้าพระยามีสภาพคดเคี้ยว ซึ่งทางคุณขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ เคยดำเนินการที่จะลอกคลองเปรมประชากร ให้สวยงามเป็นประวัติศาสตร์ หลังจากที่ได้รับนโยบายของท่านพลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล มาแล้ว ทาง อบจ.ได้ลงพื้นที่มาสำรวจ พบว่าคลองเปรมประชากร แต่ละพื้นที่มีปัญหาไม่เหมือนกัน จึงได้เริ่มดำเนินการที่ตำบลบางพูน ย้อนขึ้นไปจนสุดเขตจังหวัดปทุมธานี ถึงตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้คลองทั้งสองฝั่งสะอาดเรียบร้อย จากนั้นจะดำเนินการต่อจากตำบลหลักหกบริเวณหลังเมืองเอก ไปจนถึงหลักสี่ กรุงเทพมหานคร อุปสรรคที่พบในการดำเนินการคือมีสะพานกว่า 100 สะพาน ทำให้ต้องเคลื่อนย้ายเรือโป๊ะรถแบคโฮจำนวน 2 เครื่อง ในการดำเนินการรวมระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร หากไม่มีอุปสรรคเพิ่มเติมคาดว่า 15 วันก็จะแล้วเสร็จ
หลังจากนั้นจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะว่าเราต้องดำเนินการช่วยกันหลายหน่วยงาน ไม่ใช้ อบจ.จะดำเนินการหน่วยงานเดียว ทุกภาคส่วนจะมีการร่วมมือกัน ซึ่งทาง อบจ. ได้น้ำหมักชีวภาพช่วยบำบัดน้ำเสียและปรับสภาพน้ำในคลองเปรมประชากร เนื่องจากมีบางจุดมีกลิ่นเหม็น โดยเราได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ผมคาดว่าภายใน 7 วันนี้สภาพน้ำในคลองจะสะอาดขึ้น ต่อไปจะมีการรณรงค์ให้ปลูกต้นไม้ทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้มีภูมิทัศน์สวยงาม โดยเราได้ดำเนินการทำไปเป็นช่วง ๆ เนื่องจากมีช่วงที่เรายังทำไม่ได้เพราะมีพี่น้องประชาชนบุกรุกเข้ามาอาศัยริมคลอง จึงต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมาช่วยกันให้เป็นรูปธรรม เพราะทาง อบจ.ปทุมธานีคงไปทำไม่ได้บางอย่างก็อยู่เหนือความรับผิดชอบของเรา เมื่อหลายฝ่ายช่วยกันแล้วผมเชื่อว่าภูมิทัศน์คลองของเราจะสวยงามกลับมา
ในส่วนของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขอให้อย่าพึ่งประมาท เนื่องจากทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ประการเพิ่มเติมว่ามีพื้นที่ 28 จังหวัดสีแดง มีจังหวัดปทุมธานีรวมอยู่ด้วย ซึ่งจังหวัดปทุมธานีเคยหลุดล้นจังหวัด 1 ใน 10 ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดมานานกว่า 6-7 เดือนแล้ว จนมีเชื้อโอไมครอนเข้ามา อยากให้พิจารณาว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดปริมณฑลเหมือนกันจังหวัดนนทบุรีซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อ 800 กว่าคน สมุทรปราการที่มียอดติดเชื้อ 900 กว่าคน กรุงเทพ 3,000-4,000 คน แต่ปทุมธานียังคงจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 300 – 400 คน ขอให้พิจารณาอย่าพึ่งถอดจังหวัดปทุมธานีออกจากจังหวัดสีฟ้า ผมเชื้อว่านโยบายที่เราทำมาจะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงให้ได้ จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 300 ให้ได้ ทาง อบจ.จะดำเนินการทำเต็มที่ ทั้งฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายในภายนอกอาคาร การตรวจ ATK การฉีดวัคซีน ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าประมาท เมื่อเจอเบาะแสใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงรีบแจ้งมาเรามีชุดเคลื่อนที่เข้าไปแก้ปัญหาไปตรวจให้เอาสมุนไพรไปแจก