วันที่ 19 มกราคม 2565 นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้จัดกิจกรรมพบสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวที่ห้องประชุมโรงแรมมีพรสวรรค์ ซึ่งจัดขึ้นโดย นางสาวอัชณัฐ ปราถนารักษ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร รวมถึงมีผู้สื่อข่าว-นักจัดรายการวิทยุ-เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์รวมแล้วกว่า 50 คน ที่เข้าร่วมรับฟังผู้ว่าฯพิจิตร , ดร.ปัญญา หาแก้ว ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร , ดร.มานิตย์ นาคเมือง ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 , นายจันทบูรณ์ เขตการ ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 ที่ร่วมกันแถลงข่าวในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องสำคัญคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด โดยผู้ว่าฯพิจิตร แจ้งว่า วันนี้พิจิตรพบผู้ป่วยรายใหม่เพียงแค่ 2 ราย และต่อจากนี้ก็จะเร่งเชิญชวนให้ชาวพิจิตรฉีดวัคซีนเข็ม 2 และ เข็ม 3 ให้ได้ครบ 100% โดยมีแผนให้ อสม. และหมออนามัยเดินเคาะประตูบ้านไปฉีดวัคซีนให้ถึงบ้าน นอกจากนี้ก็จะจัดหาวัคซีนให้บุคลากรครูของจังหวัดพิจิตรใน 12 อำเภอ ประมาณ 2 หมื่นคนเศษ ให้ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 รวมทั้งนักเรียนที่อายุเกิน 12 ปี ด้วยเช่นกัน ส่วนเด็กนักเรียนที่อายุ 5 ปีขึ้นไป เร็วๆนี้ก็จะมีวัคซีนฉีดให้อีกด้วย
โดย ดร.มานิตย์ นาคเมือง ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต1 แถลงว่ามีโรงเรียนในความดูแล 131 แห่ง ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแบบ On Site จำนวน 129 แห่ง หรือ 97 % ส่วนครูฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3
นายจันทบูรณ์ เขตการ ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 แถลงว่ามีโรงเรียนในความดูแล 122 แห่ง ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแบบ On Site จำนวน 101 แห่ง หรือ 82 % ส่วนครูฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3 ด้วยเช่นกัน
ดร.ปัญญา หาแก้ว ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร แถลงว่าระดับมัธยมมีโรงเรียน 30 แห่ง ครู 1,300 คนเศษ เด็กนักเรียนรวม 17,662 คน ครูฉีดวัคซีนแล้ว 99 % ส่วน 1% ที่ขาดไปคือมีปัญหาด้านสุขภาพจึงไม่ขอรับการฉีดวัคซีนแต่ขอใช้วิธีดูแลตนเองด้วยมาตรการเข้มข้น ส่วนเด็กนักเรียนระดับมัธยมฉีดวัคซีนแล้ว 96% แต่จาก 12 อำเภอยังมีไม่ขอฉีดวัคซีนประมาณ 600 คน เนื่องจาก ผู้ปกครองไม่ยินยอมด้วยเหตุผลส่วนตัวต่าง ๆ แต่ก็มาโรงเรียนต้องถูกตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ
รวมถึงการจัดการเรียนการสอนห้องหนึ่งก็ให้นั่งเรียนได้ไม่เกิน 25 คน โดยสรุปผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 3 ท่านแถลงว่าเด็กส่วนใหญ่อยากมาโรงเรียน ส่วนเด็กเล็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ไม่น่าห่วงเพราะเด็กเล็กไม่ได้เที่ยวไกลและอยู่ในสายตาของพ่อแม่- ครู –ผู้ปกครอง ที่น่าห่วงคือเด็กระดับมัธยมและอาชีวะเพราะเป็นวัยรุ่นรัศมีการท่องเที่ยวและการพบเพื่อนมากกว่าเด็กเล็ก แต่ก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อีกทั้งสถิติของผู้ติดเชื้อโควิดในพิจิตรส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านหรือผู้ที่เดินทางมาจากเมืองใหญ่แล้วเอาเชื้อโควิดมาแพร่กระจายให้กับคนในครอบครัวเสียมากกว่า ส่วนการแพร่ระบาดภายในโรงเรียนมีสถิติพบน้อยมากจึงไม่น่าห่วง