Monday, 20 May 2024
นอร์ทไทม์

ลำปาง - ศคพ.ลป.จับมือหลายหน่วยงานเมืองล้อมแรด เยี่ยมยามถามไถ่และดูแล ผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 รอบ 3

นาย ณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดลำปางกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ภาคีเครือข่ายหลายหน่วยงานในพื้นที่เทศบาลเมืองล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปางลงพื้นที่เยี่ยมยามถามไถ่ใส่ดูแล กลุ่มคนเปาะบางผู้ได้รับคนตกงานผลกระทบโควิด-19 รอบ 3 จำนวน 13 ราย

โดย นายชยพล ชมภูรัตน์ นายกเทศมนตรีเมืองล้อมแรด พร้อมคณะ ผู้บริหาร สมาชิกสภาฯโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเด่นแก้ว สสอ.อสม.อพม.ท้องถิ่นท้องที่ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ประสบปัญหาทางสังคมในเขตตำบลล้อมแรด และตำบลเถินบุรีโดยดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย จำนวน 16 ราย พร้อมเงินทุนประกอบอาชีพผู้ติดเชื้อเอดส์ จำนวน 1 ราย รายละ 5,000 บาท เงินสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อเอดส์และครอบครัว จำนวน 2 ราย รายละ 2,000 บาท


ภาพ/ข่าว  ปฏิญญา เรือนงาม รายงาน

เชียงใหม่ - อบจ.เชียงใหม่ มอบถุงยังชีพประชาชน 25 อำเภอ ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่และ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้นำชุมชนในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนชาวเชียงใหม่ ณ วัดนันทาราม ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า อบจ.เชียงใหม่ มีความตั้งใจที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำในขณะนี้ โดยได้จัดสรรงบประมาณและมอบหมายให้ส่วนงานที่รับผิดชอบ จัดทำถุงยังชีพ จำพวกข้าวสารอาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง ประมาณ 40,000 ชุด เพื่อกระจายไปช่วยเหลือประชาชน 25 อำเภอทั่วจังหวัดเชียงใหม่ ตามสัดส่วนครัวเรือนที่ร้องขอมา จากการสำรวจความต้องการของ อปท.ในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน

นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยวันนี้ ได้ส่งมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,380 ชุด ให้แก่ผู้นำชุมชน 97 ชุมชน ทั้ง 4 แขวง ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากCOVID-19

นอกจากนี้ยังได้ส่งมอบถุงยังชีพอีกประมาณกว่า 35,000 ชุดผ่าน สจ.เขตทุกเขตเพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชน 25 อำเภอ ทั่วจังหวัดเชียงใหม่อย่างทั่วถึงต่อไปด้วย

ซึ่งหวังว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้บ้าง อย่างไรก็ตามทางอบจ. จะได้หาแนวทางช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมเป็นระยะ ๆ ต่อไป


ภาพ/ข่าว  วิภาดา / เชียงใหม่

เชียงราย - ศบภ.มทบ.37 ซักซ้อมการตรวจความพร้อมกองร้อยช่วยเหลือประชาชน เพื่อเตรียมกำลัง และยุทโธปกรณ์ ให้พร้อมรองรับสถานการณ์ภัยพิบัติ ในการช่วยเหลือประชาชน

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 64, 1400 พล.ต. ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผอ.ศบภ.มทบ.37 มอบหมายให้ พ.อ. วีรพงศ์ ไชยวัง หน.ฝยก.ศบภ.มทบ.37 นำกำลังพลดำเนินการซักซ้อมการตรวจความพร้อมกองร้อยช่วยเหลือประชาชน เพื่อเตรียมกำลัง และยุทโธปกรณ์ ให้พร้อมรองรับสถานการณ์ภัยพิบัติ ในการช่วยเหลือประชาชน ให้ได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ รวมถึงเกิดความเข้าใจและแนวทางการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ณ สนามฝึก หน้า ร้อย.มทบ.37 ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จว.เชียงราย มีกำลังพล พร้อมเครื่องมือพิเศษ เข้ารับการซักซ้อมการตรวจความพร้อมฯ จำนวน 118 นาย และยานพาหนะ จำนวน 15 คัน การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ลำพูน - ร่วมส่งและให้กำลังใจ "นักรบชุดขาว" จังหวัดลำพูน ชุดที่ 4  เพื่อเดินทางไปร่วมปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เมืองทองธานี

วันนี้( 4 ก.ค. 64 ) ที่บริเวณสนามหน้าเสาธง โรงพยาบาลลำพูน เลขที่ 177 ถนนจามเทวี ตำบลต้นธง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน  เป็นประธานในพิธีส่งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข (นักรบชุดขาว) ชุดที่ 4  เพื่อไปปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยจะปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 5 ถึง 18 กรกฎาคม 2564  ณ โรงพยาบาลสนามสนามบุษราคัม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี  โดยมีนางปนัดดา เนาวรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน , บุคลากรทางการแพทย์ , เจ้าหน้าที่ฯ และประชาชน ร่วมให้กำลังใจส่งทีมนักรบชุดขาวหรือทีมบุคลากรทางการแพทย์ของจังหวัดลำพูนในครั้งนี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน, นายแพทย์สาธารณสุข, หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด, ผู้บริหารบุคลากรทางการแพทย์ ยังได้มอบกระเป๋าสัมภาระให้แก่คณะบุคลากรการแพทย์ (นักรบชุดขาว ชุดที่ 4) และพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลลำพูน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมมอบดอกไม้ และของใช้ที่จำเป็น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่คณะฯอีกด้วย    

 สำหรับผู้ที่เดินทางไปยังโรงพยาบาลสนามบุษราคัมฯ ประกอบด้วย 
1. นายแพทย์วรวุฒิ วรวุฒิวิทยา นายแพทย์ชำนาญการ (หัวหน้าทีม) โรงพยาบาลลำพูน 
2. แพทย์หญิงกิ่งกาญจน์ ชมพูกลาง นายแพทย์ปฏิบัติการ โรงพยาบาลลำพูน
 3. นางสายสวาท พัฒนการุณย์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลลำพูน    
4. นางสาวปิยาภนณ์ ปินตาศรี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลลำพูน   
5. นางสาวจุฑามาศ คำพฤกษ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลลำพูน 
6. นางสาวอังศนันท์ คุณจินระรุ่งเรือง พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลลำพูน  
7. นางสาวสุปรียา ปัญญาวงค์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลลำพูน
8. นางสาวณัฐพร วงค์อานา เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลลี้ 
9. นางการเกต รังรองธานินทร์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลแม่ทา   
10.นางสาวเกวลิน ปัญโญนันท์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) บ้านห้วยหละ  
11.นางสาวรจนา พวงรัตน์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ป่าเลา  
12.นางจินตนา เรืองอินทร์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ตะเคียนปม    
13.นางสาวบุษยา ธิฉลาดสืบ พยาบาลวิชาชีพปฏิติการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) บ้านห้วยอ้อ

กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน

ลำปาง - ททท.สำนักงานลำปาง ร่วมกับ ชมรมสนามกอล์ฟลำพูน แถลงเปิดตัว กิจกรรม"เล่นกอล์ฟ ผ่อนคลาย ที่ลำพูน Green Season"

เมื่อวันพฤหัสบดีที่  1 กรกฏาคม 2564 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ชมรมสนามกอล์ฟลำพูน จัดแถลงข่าว กิจกรรม“เล่นกอล์ฟ ผ่อนคลาย ที่ลำพูน Green Season” (Playing Golf at Lamphun in Green Season) โดยมีนางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคเหนือ ททท.นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลำปาง และนายสุพชฌาย์ เสวตไอยาราม ประธานชมรมสนามกอล์ฟลำพูน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดสนามกอล์ฟและรีสอร์ทในเครือกัชชัน ร่วมแถลงข่าว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดลำพูนภายใต้มาตรฐาน SHA ณ ห้องฟ้าประทาน คลับเฮาส์ กัซซัน เลกาซี่ กอล์ฟ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยภูมิภาคภาคเหนือ และ ททท. สำนักงานลำปาง ร่วมกับชมรมสนามกอล์ฟลำพูน และ 6 สนามในจังหวัดลำพูน (สนามกอล์ฟอัลไพน์ กอล์ฟ รีสอร์ท เชียงใหม่ (ลำพูน), สนามกอล์ฟอาทิตยา เชียงใหม่ กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท (ลำพูน), สนามกอล์ฟกัซซัน ขุนตาน กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท, สนามกอล์ฟกัซซัน พาโนราม่า กอล์ฟ คลับ, สนามกอล์ฟกัซซันเลกาซี่ กอล์ฟ คลับ และสนามกอล์ฟหริภุญชัย กอล์ฟ คลับ) จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Lover) ในช่วง Green Season “เล่นกอล์ฟ ผ่อนคลาย ที่ลำพูน Green Season” หรือ Playing Golf at Lamphun in Green Season ระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2564

โดย ททท. มอบสิทธิประโยชน์ คูปองชุดอาหาร จำนวน 700 คูปองต่อสนามกอล์ฟ ทั้งนี้ทุกสนามกอล์ฟดำเนินกิจกรรมภายใต้ มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Safety & Health Administration (SHA) และยึดหลัก D-M-H-T-T นักกอล์ฟสามารถมาออกรอบท่ามกลางความเขียวขจีของ Fairway และ Putting Green ในบรรยากาศสดชื่นสวยงามมีเอกลักษณ์ของแต่ละสนามกอล์ฟ

นางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ กล่าวเพิ่มเติมถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ว่า เป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองที่มีศักยภาพโดยใช้อัตลักษณ์สนามกอล์ฟที่มีมาตรฐานการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้เป็นที่รู้จักและสามารถขยายผลในการกระจายรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นใกล้เคียงได้ ททท.สำนักงานลำปาง และชมรมสนามกอล์ฟลำพูน  

จึงขอเชิญชวนผู้รักกีฬากอล์ฟมาร่วมกิจกรรม “เล่นกอล์ฟ   ผ่อนคลาย ที่ลำพูน Green Season” เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดลำพูนอย่างปลอดภัยผ่านทางกีฬากอล์ฟ ซึ่งเชื่อมโยงไปสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับสนามกอล์ฟในหลายภาคส่วนอีกด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก สนามกอล์ฟอัลไพน์ กอล์ฟ รีสอร์ท เชียงใหม่ (ลำพูน) โทร. 053 880 888 สนามกอล์ฟอาทิตยา เชียงใหม่ กอล์ฟ แอนด์  รีสอร์ท (ลำพูน) โทร. 053 096 333  สนามกอล์ฟกัซซัน ขุนตาน กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท โทร. 053 507 006 สนามกอล์ฟกัซซัน พาโนราม่า กอล์ฟ คลับ โทร. 053-921-815  สนามกอล์ฟกัซซันเลกาซี่ กอล์ฟ คลับ โทร. 053 921 846 และ สนามกอล์ฟหริภุญชัย กอล์ฟ คลับ โทร. 053 096 222


ภาพ/ข่าว  วิภาดา / เชียงใหม่

ลำพูน – อธิบดีกรมสุขภาพจิต ติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหา ‘การฆ่าตัวตาย’ ภายใต้กิจกรรม 4 Plilar

แพทย์หญิง พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิตพร้อมคณะฯ ติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย ภายใต้กิจกรรม 4 Plilar ณ ห้องประชุมจามเทวี ศาลากลางจังหวัดลำพูน ถนนอินทยงยศ ตำในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน และประชุมติดตามผลการดำเนินงานสุขภาพจิตชุมชนในโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย (4 pillar) จังหวัดลำพูน ในวันนี้ (30 มิ.ย. 64) เมื่อเวลา 09:30 น.

นอกจากนี้ ยังได้มีการอภิปรายหัวข้อการป้องกันแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายประเด็น

1. นโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายของจังหวัดลำพูน โดย นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน

2. สถานการณ์การฆ่าตัวตายของประเทศไทย และแนวทางแก้ไขปัญหา โดย แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต

3. บทบาทของพระสงฆ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย โดย พระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน

4. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายโดยใช้ลำพูนโมเดล (4 pillar) โดย นายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน

ดำเนินรายการ โดย นายแพทย์ กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง และ นางบุษบา อนุศักดิ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน

จากนั้น อธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมคณะฯ เดินทางไปยังเทศบาลตำบลทากาศเหนือ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เพื่อติดตามผลการดำเนินงานสุขภาพจิตชุมชน และ มอบทุนประกอบชีพให้กับผู้เปราะบาง โดย แพทย์หญิงพรรณพิมลฯ ก่อนเดินทางกลับ

นางพรรณพิมล อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า "จากสถานการณ์การฆ่าตัวตายประเทศไทย ในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา พบมีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จต่อแสนประชากรสูงอยู่ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง , 2540 โดยในปี 2540-2542 พบร้อยละ 6.92-8.12 และสูงสุดในปี 2542 ร้อยละ 8.59 ส่วนในปี 2563 อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ ต่อแสนประชากร อยู่ที่ร้อยละ 7.37 และจากการรวบรวมข้อมูลตามเขตสุขภาพ ในช่วงเดือน ตุลาคม 2563 ถึง พฤษภาคม 2564 พบเขตสุขภาพที่ 18 จังหวัดภาคเหนือตอนบน) มีอัตราการฆ่าตัวตายสําเร็จต่อแสนประชากร ร้อยละ 10.01 และ สูงสุดในจังหวัดลำพูน ถึงร้อยละ 14.22"

สำหรับ การป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายและการลดอัตราการฆ่าตัวตายจะสำเร็จได้นั้น เกิดจากแรงขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วน โดยมีคณะกรรมการระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ภาคส่วนต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันช่วยเหลือ ค้นหา ผู้ที่มีความเสี่ยงการฆ่าตัวตายในกลุ่มนายจ้าง ลูกจ้าง และแรงงานในชุมชน ด้วยการใช้เครื่องมือ Mental Health Check-In เพื่อตรวจเช็คสุขภาพใจ สำรวจผู้ที่มีภาวะเครียด ซึมเศร้า ภาวะหมดไฟ เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย โดยข้อมูลที่ได้จะส่งต่อทีมสุขภาพจิตให้คำปรึกษา จะลดผลกระทบดังกล่าวได้ หรืออีกหนึ่งช่องทางการติต่อเพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต สามารถติดต่อสายตรง 1323 หรือปรึกษาช่องทางออนไลน์ผ่านแฟนเพจ  Facebook  สายด่วนสุขภาพจิต 1323

ทั้งนี้ การใช้วัคซีนใจในชุมชน 4 สร้าง 2 ใช้ คือ สร้างชุมชนปลอดภัย สร้างชุมชนให้สงบ สร้างชุมชน ให้มีความหวัง สร้างชุมชนที่เข้าใจและให้โอกาส ใช้ศักยภาพชุมชน และใช้สายสัมพันธ์ในชุมชน รวมถึงการสอดส่อง มองหา ใส่ใจรับฟัง และส่งต่อเชื่อมโยง ในหลัก 3 ส. จะช่วยส่งเสริมป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายได้อย่างยั่งยืน อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยในที่สุด


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน

ตราด - พบคลัสเตอร์ใหม่ ในพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ เป็นคนขนส่งผลไม้ไปประเทศกัมพูชา ผลตรวจติดเชื้อ 6 รายแล้ว เจ้าหน้าที่ระดมฆ่าเชื้อ ตรวจโควิดกลุ่มเสี่ยงสูง

นายชูเกียรติ แซ่เอี้ย สาธารณสุขอำเภอคลองใหญ่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อบต.คลองใหญ่ เจ้าหน้าที่ อสม.อ.คลองใหญ่ ลงพื้นที่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ตามสถานที่สาธารณะ ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร และพื้นที่สุ่มเสี่ยงในชุมชนบริเวณ ม.8 บ้านคลองจาก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ หลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อที่บ้านคลองจาก ม.8 ต.คลองใหญ่ จำนวน 5 ราย อยู่ในครอบครัวเดียวกัน เมื่อวันที่ผ่านมา ขณะนี้นำตัวส่งรักษาที่ รพ.คลองใหญ่แล้ว ส่วนในวันนี้ผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้รวม 6 รายด้วยกัน

โดยวันนี้เป็นการระดมเจ้าหน้าที่ออกฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่ต่าง ๆ ที่ผู้ป่วยไปสัมผัสมา ทั้งปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ร้านค้า และบ้านเพื่อน เพื่อป้องกันเชื้อแพร่ระบาดไปสู่ชุมชน อาจทำให้เพิ่มยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก ขณะเดียวกันสาธารณสุขอำเภอคลองใหญ่ ยังนำกลุ่มผู้ขับรถขนส่งผลไม้ไปประเทศกัมพูชา พร้อมครอบครัว จำนวน 125 คน มาทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ตึกแรงงานโรงพยาบาลคลองใหญ่ โดยจะต้องรอผลการตรวจในวันพรุ่งนี้ต่อไป

ทั้งนี้เนื่องจากผู้ติดเชื้อทั้ง 5 คนในชุมชนบ้านคลองจาก สองสามีภรรยาขับรถส่งผลไม้เข้าไปในกัมพูชา และเจ้าหน้าที่กัมพูชาตรวจพบว่าติดเชื้อ ทั้ง ๆ ฝั่งไทยก็มีการตรวจตรงด่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก แต่ไม่พบเชื้อ เจ้าหน้าที่กัมพูชาจึงส่งตัวกลับมาฝั่งไทย

นอกจากนี้ยังมีคนขับรถขนผลไม้ไปกัมพูชา ติดเชื้ออีก 1 รายเป็นชาวตำบลเนินทราย อ.เมือง จ.ตราด  รอส่งตัวกลับมาอำเภอเมืองตราด วันนี้สาธารณสุขอำเภอคลองใหญ่ และ อบต.คลองใหญ่ จึงเร่งทำความสะอาดและตรวจหาเชื้อจากกลุ่มเสี่ยงสูงและประชาชนที่ไกล้ชิดดังกล่าวต่อไป


ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าว จ.ตราด

นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

เชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับการเปิดให้บริการ เชิญชมสมาชิกใหม่ พร้อมประกวดตั้งชื่อ “ลูกเลียงผา" (Serows) หนึ่งในสัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2564 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับการเปิดให้บริการอีกครั้ง ด้วยสมาชิกใหม่ “ลูกเลียงผา" (Serows) เป็นสัตว์ 1 ใน 15 สัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย จำนวน 1 ตัว พร้อมเชิญชวนร่วมประกวดตั้งชื่อ ลุ้นรับรางวัลจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

นายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า หลังจากที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้วนั้น วันนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังได้สมาชิกใหม่ “ลูกเลียงผา" (Serows) แห่งโซนซาวันน่า ซาฟารี  จำนวน 1 ตัว ยังไม่ทราบเพศ เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เกิดจาก “พ่อตองหก" และ “แม่ปริฉัตร" ขณะนี้ลูกเลียงผามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และได้รับการเลี้ยงดูแบบธรรมชาติจากแม่ปริฉัตร โดยอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ ในส่วนจัดแสดงซาวันน่า ซาฟารี ซึ่งปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีเลียงผาทั้งหมด 7 ตัว และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความน่ารักของ “ลูกเลียงผา" ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 13.00 – 20.00 น.

นอกจากนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขอเชิญชวนร่วมประกวดตั้งชื่อให้ “ลูกเลียงผา” (Serows) ลุ้นรับรางวัลบัตรเข้าชม จำนวน 1 รางวัล (2 ใบ) และเสื้อยืด ลาย Limited จากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสามารถร่วมตั้งชื่อได้ที่ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari ตั้งแต่บัดนี้ - วันที่ 30 มิถุนายน 2564 และประกาศผลวันที่ 1 กรกฎาคม 2564

สำหรับ “เลียงผา" (Serows) เป็น 1 ใน 15 ชนิด ของสัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย เป็นสัตว์ที่มีประสาทหู ตา และรับกลิ่นได้ดี เมื่อโตเต็มที่มีความสูงที่ไหล่ประมาณ 1 เมตร ขายาวและแข็งแรง ใบหูยาวคล้ายใบหูลา ขนตามลำตัวค่อนข้างยาว หยาบและมีสีดำ ด้านท้องขนสีจางกว่า มีขนเป็นแผงยาวบนสันคอและสันหลัง มีเขาทั้งในตัวผู้และตัวเมีย เขามีลักษณะตอนโคนกลม หยักเป็นวงแหวนโดยรอบค่อยๆ เรียวไปทางปลายเขาโค้ง ไปทางด้านหลังเล็กน้อย เลียงผากินพืชต่างๆ ทุกชนิด และผสมพันธุ์ในช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยใช้เวลาตั้งท้องราว 7 เดือน

ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด - 19 ที่มีการเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด - 19 นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง พร้อมตรวจคัดกรองผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดชนิดตรวจวัดอุณหภูมิความร้อน และนักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนจองคิวนั่งรถชมสัตว์ก่อนเข้าใช้บริการในช่องทางออนไลน์เท่านั้น โดยทำการจองได้ที่ www.chiangmainightsafari.com และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari หรือ Line OA : nightsafari หรือ IG และ Tiktok : chiangmainightsafari หรือ โทร. 053 - 999000


ภาพ/ข่าว  นภาพร/เชียงใหม่

เชียงราย - กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. โครงการการสานเสวนาส่งเสริมการมีส่วนร่วม และปรึกษาหารือ กิจกรรมการเสริมสร้างเครือข่ายผู้นำชุมชนประชาธิปไตย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงราย

เมื่อ 21 มิ.ย. 64 เวลา 08.30 น. กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. โดย พ.อ.กิตติพล ไพรหิรัญ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ช.ร. (ท.) เป็นประธานเปิดการอบรม โครงการการสานเสวนาส่งเสริมการมีส่วนร่วม และปรึกษาหารือ กิจกรรมการเสริมสร้างเครือข่ายผู้นำชุมชนประชาธิปไตย  พร้อมด้วยกำลังพล กอ.รมน.จังหวัด ช.ร.ร่วมกับ ผู้นำชุมชนในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย จำนวน 65 คน  ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย 

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้นำชุมชน มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ ความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้กับประชาชน รวมทั้งสื่อสารข้อมูลของภาครัฐให้กับประชาชนรับรู้ถึงการดำเนินงานและรับทราบข่าวสารของประชาชน โดยผ่านการมีส่วนร่วมและปรึกษาหารือในชุมชน และเพื่อรับทราบปัญหา และบูรณาการ การแก้ไขปัญหาร่วมกันของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาในแต่ละพื้นที่ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เด่นศักดิ์ สุริยะ ประธานคณะกรรมการศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้าจังหวัดเชียงราย เป็นวิทยากร ทั้งนี้จัดให้มีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันเชื้อไวรัสไวรัสโคโรนา 2019 ให้กับผู้เข้ารับการอบรม

แม่ฮ่องสอน - ททท.แม่ฮ่องสอน จัดส่วนลดโรงแรม 7 อำเภอ เพิ่มกิจกรรม ‘เดินป่าหน้าฝน’ เตรียมพร้อมการท่องเที่ยว” สามหมอก...หยอกฝน”

นายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ททท.แม่ฮ่องสอน ได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ไว้แล้ว โดยเป็นแผนเตรียมพร้อมหลังจากเปิดจังหวัด ซึ่งในเรื่องนี้ทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสิธิชัย จินดหาหลวง  ได้มีการเตรียมนโนบายและแนวทางในการดำเนินการไว้เบื้องต้นแล้ว ทาง ททท.จึงได้เตรียมแผนรองรับและส่งเสริมการท่องเที่ยว ในไตรมาส 4 ที่อยู่ในระหว่างฤดูฝน หรือกรีนซีซั่น

ในฤดูท่องเที่ยวกรีนซีซั่นของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีเสน่ห์เป็นอย่างมาก หากนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในระยะนี้ จะพบเจอกับบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความงาม จากหุบเขาสีเขียวทั้งจังหวัด รวมถึงความของแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ  ซึ่งนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนเดินทางมาท่องเที่ยวภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะพบว่าการท่องเที่ยวที่นี่ มีจุดเด่นคือไม่แออัด คนไม่พลุกพล่าน ส่วนผู้ประกอบการเริ่มทยอยเปิดกิจการร้านค้า ปฏิบัติตามมาตรการภายใต้สถานการณ์โควิด อย่างไรก็ตาม ทาง ททท. ได้วางแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบค่อยเป็นค่อยไป และเน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังตนเอง สำหรับแผนในระยะสั้น ได้วางแผนร่วมกับผู้ประกอบการโรงแรมทั้ง 7 อำเภอ จัดโปรโมชั่น มอบส่วนลด โดยใช้ชื่อว่า แฮปปี้ เรนนี่ ซีซั่น (HAPPY RAINNIE SEASON) และอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับสายลุย คือการ “เดินป่าหน้าฝน” โดยจะจัดนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ท่องเที่ยวชมป่า

ทั้งนี้ ททท.คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวในภาคเหนือในระยะอันใกล้นี้ มีความสำคัญมาก เนื่องจากข้อมูลสถิติที่เก็บในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 40 เดินทางมาจากภาคเหนือด้วยกัน จึงได้วางแผนประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยเจาะกลุ่มภาคเหนือก่อน ถือเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวในระยะใกล้ อาจร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ เสนอขายทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม ที่สำคัญต้องเน้นย้ำมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดในการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / รุจิรา


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top