Saturday, 10 May 2025
POLITICS

'แรมโบ้' จวก 'ฝ่ายค้าน' ตั้งใจทำสภาล่ม ขอ ประชาชนลงโทษ สมัยหน้าอย่าเลือกเข้าสภา เหตุ ทำตัวสกปรก รกรุงรัง น่าอับอายที่สุด เสียดายเงินเดือน ส.ส.ที่มาจากภาษี

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ระบุสภาฯล่ม เป็นการบ่งบอกถึงความไม่พร้อมของรัฐบาล และฝ่ายค้านไม่ได้เล่นเกม ไม่ใช่ต้นเหตุสภาฯล่ม ว่า พรรคฝ่ายค้านควรตั้งสติและลองทบทวนดูว่าในที่ประชุมมีฝ่ายค้านเข้าร่วมประชุมกี่คน และฝ่ายรัฐบาลเข้าร่วมประชุมกี่คน จากการตรวจสอบพบว่า ฝ่ายรัฐบาลมีส.ส. 268 คน ออกเสียง 219 คน แต่ส.ส.ฝ่ายค้าน มี 208 คน มาออกเสียงเพียง 14 คนเท่านั้น  ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ควรที่จะออกมาโทษ ส.ส.จากฝั่งรัฐบาลเพียงอย่างเดียว

ขณะเดียวกันหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังออกมายอมรับแล้วว่าปัญหาสภาล่มหากมีการมองว่าเป็นเกมการเมือง ก็ไม่เถียง แต่เป็นการเล่นเกมการเมืองแบบโปร่งใส รัฐบาลมีหน้าที่เป็นฝ่ายรักษาองค์ประชุมในฐานะเสียงข้างมาก ซึ่งฝ่ายค้านจะให้บทเรียนรัฐบาลแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะปรับตัวเอง หรือจนกว่าจะยุบสภา  ซึ่งตนเองมองว่าการออกมาพูดแบบนี้เป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ และเป็นการแถไปเรื่อย ให้ตัวเองดูดี แต่ประชาชนเขารู้ทันอยู่แล้ว

เป็นถึง ส.ส. ผู้ทรงเกียรติในสภาฯแต่กลับไม่มีสมองคิด ทำผิดต้องยอมรับผิด ทำตัวไม่มีความน่าเชื่อถือ จะเป็นฝ่ายค้าน หรือ รัฐบาล ก็ถือว่าเป็น ส.ส. เช่นเดียวกัน มีหน้าที่ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน และเข้าประชุมสภาฯ แต่จะมาบอกว่าตนเองเป็นฝ่ายค้าน จึงไม่ต้องเข้าประชุม หากสภาฯล่มก็ถือเป็นความผิดของฝ่ายรัฐบาล แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง 

ขอให้เลิกนิสัยเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นได้แล้ว และอย่าคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ว่าพรรคฝ่ายค้านจะทำอะไร เป็น ส.ส. มีหน้าที่ลงพื้นที่และประชุมสภาฯ ยังทำไม่ได้ แบบนี้จะดูแลประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไร เสียดายเงินเดือน ส.ส.ที่มาจากภาษีของประชาชน 

"แสนยากรณ์" ชี้ ก่อนแก้ปัญหาอภัยโทษคดีทุจริต พรรคการเมืองใน ครม. ควรขอโทษสังคมก่อน เหตุออกมติ ครม. ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ 

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า  กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การลดโทษให้นักโทษคดีทุจริตจำนำข้าวว่า การลดโทษเนื่องในโอกาสสำคัญปีนี้เกิดขึ้น 2 ครั้ง ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบโดย ครม. ก่อนจะออกมาเป็นพระราชกฤษฎีกา แต่เมื่อเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ก็ค่อยออกมาแก้กันทีหลัง ทำให้รู้ว่าการพิจารณาเรื่องนี้ ไม่ได้คำนึงถึงหลักความเหมาะสมตั้งแต่แรก 

"ตอนเห็นชอบเป็นมติ ครม. รัฐมนตรีจากพรรคตัวเองก็อยู่ในที่ประชุม ไม่มีใครทัก ไม่มีใครห้ามกันบ้าง พอเกิดปัญหา พรรคการเมืองบางพรรคก็จะเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ส่วนรัฐบาลก็ตั้งกรรมการอิสระขึ้นมาดู ทั้งที่ต้นเหตุมาจากที่ประชุม ครม. แท้ๆ แบบนี้ควรจะขอโทษให้สังคมสบายใจก่อนครับ แล้วค่อยไปแก้ปัญหา" นายแสนยากรณ์ กล่าว 

'บิ๊กตู่' ย้ำ ใช้ ATK ตรวจช่วงปีใหม่ - ศบค. เปิดให้ดื่มสุราในร้านอาหาร แค่คืนส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค. เท่านั้น - ขอให้ทุกคนเฉลิมฉลองอย่างมีสติ ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันวันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3,370 ราย  ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวัง  2,974 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 35 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ ที่ต้องขัง 93 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 30 ราย  ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 28 ราย  มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 จำนวน 2,159,766 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมจำนวน 2,096,543 ราย

ทั้งนี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการใช้ชุดตรวจ ATK ด้วยตัวเอง เพื่อทดสอบผลการติดเชื้อก่อนเข้าร่วมกิจกรรม โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีการจัดงานปีใหม่  ที่มีการรวมตัวมากกว่า 1 พันคน จะต้องดำเนินการจัดงานอย่างปลอดภัยภายใต้มาตรการทางสาธารณสุข โควิดฟรีเซ็ตติ้ง โดยผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานต้องฉีดวัคซีนครบโดส และต้องมีผลตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเข้าร่วมงาน เพื่อเฝ้าระวังอย่างสูงสุด

ส่วนการจัดงานที่ต่ำกว่า 1 พันคน ผู้จัดงานจะต้องฉีดวัคซีนครบและมีผลตรวจ ATK สำหรับผู้เข้าร่วมงานต้องฉีดวัคซีนครบและแสดงผลฉีดวัคซีนก่อนเข้าร่วมงาน ที่สำคัญ ขอให้ประชาชนให้ความสำคัญกับเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งจะต้องมีการแสดงในรับรองการฉีดวัคซีนมากขึ้นเพื่อการเข้ารับบริการ หรือเพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกรณีที่มีผู้แอบอ้างว่าสามารถออกใบรับรองวัคซีนโควิด-19 ได้โดยไม่ต้องฉีดวัคซีน ซึ่งทั้งผู้ออกใบรับรองและผู้ใช้ใบรับรองวัคซีนปลอม จะมีโทษทั้งคู่ เพราะอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้

รัฐบาลตั้งเป้า ปี 65 ลดการใช้พลาสติก ตั้งเป้า ลด-เลิกใช้กล่องโฟม แก้วพลาสติกบาง หลอดพลาสติก 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นความสำคัญและตระหนักถึงปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะพลาสติก สั่งเดินหน้าแก้ปัญหาขยะพลาสติกที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยอย่างจริงจัง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 64 ซึ่งเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2565) ภายใต้ โร้ดแม็ปการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานกับทุกภาคส่วน มุ่งจัดการขยะพลาสติกที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม 

ที่ผ่านมา  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้ โร้ดแม็ป การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 - 2573 

ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการดำเนินการแบบสมัครใจ ดังนี้ 1) การเลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม (Cap Seal) 2) การเลิกใช้ไมโครบีดส์จากพลาสติก 3) การเลิกใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดบาง ร่วมกับภาคีเครือข่ายห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ 

4) การลด เลิกใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติกแบบบาง และหลอดพลาสติก ภายในปี 2565 โดยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน 5) การสร้างความรู้ความเข้าใจ สร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก รณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติกผ่านช่องทางต่าง ๆ 

6) การจัดทำฐานข้อมูล Material Flow of Plastic ของประเทศไทย 7) การจัดตั้งพื้นที่นำร่อง เพื่อเป็นชุมชนตัวอย่างด้านการจัดการขยะพลาสติก 8) การพัฒนาแนวทางการใช้ประโยชน์จากขยะพลาสติก 9) การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานจังหวัด ร้านขายของชำและตลาดสด เพื่อขยายผลการดำเนินมาตรการงดให้ถุงพลาสติก 

'บิ๊กตู่' ก.ทส. เร่งแก้ปัญหาชาวบ้าน ไทยสามัคคี-วังน้ำเขียว ปม ที่ดินทับซ้อนพื้นที่อุทยานฯทับลาน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งแก้ปัญหาชาวบ้านตำบลไทยสามัคคีและตำบลวังน้ำเขียว รวมกว่า 400 ราย ถูกฟ้องเป็นจำเลย กรณีบุกรุกเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน จากปัญหาข้อพิพาทที่ดินทับซ้อนพื้นที่ทำกินของชาวบ้านที่ยังไม่ได้ข้อยุติ

ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมารับทราบคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินและมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะกรณีปัญหาการถือครองที่ดินของราษฎรบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้มีความคืบหน้าและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น

นายธนากร กล่าวว่า พร้อมให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งรัดการดำเนินการสำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนที่อยู่อาศัยหรือทำกินในอุทยานแห่งชาติให้แล้วเสร็จครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน รวมทั้งเร่งรัดการจัดทำกฎหมายลำดับรอง เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่อยู่อาศัยหรือทำกินในอุทยานแห่งชาติ ตามนัยมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ให้แล้วเสร็จ และให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งกำกับติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการดูแลที่ดินของรัฐแต่ละประเภทตรวจสอบเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐให้ถูกต้อง ตรงกัน และเป็นที่ยุติ แล้วดำเนินการต่อไป

จับตาครม.! เตรียมเคาะของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน - เผย สัปดาห์หน้า บิ๊กตู่ เตรียม มอบนโยบาย4หน่วยงานหลัก จัดทำงบฯ ปี 66 พร้อมย้ำ อย่าหลงเชื่อ ซื้อใบรับรองฉีดวัคซีน ทั้งที่ไม่ได้ฉีดจริง เผย วิธีตรวจสอบของจริง-ของปลอม

น.ส. ไตรศุลี ไตรสรณกุล ลองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง โดยทีมนารีสโมสร ว่า สำหรับวาระงานในช่วงสัปดาห์หน้าที่น่าสนใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนครั้งที่ 5 และจะเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 โดยมีการประชุม 4 หน่วยงานคือกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงบประมาณ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าในวันอังคารที่ 21 ธันวาคม ที่น่าจับตามองขณะนี้คือเรื่อง ของขวัญที่รัฐบาลจะมอบให้กับประชาชน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกๆกระทรวงไปจัดเตรียมให้กับประชาชน ซึ่งจะทยอยออกมา ที่เปิดเผยออกมาบ้างแล้ว เช่น กระทรวงการคลัง มีมาตรการผ่อนดีมีคืน ของธนาคารรัฐได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนเรื่อง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดการระบาดโรคโควิด-19 นั้น ล่าสุด ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณ ที่ได้ดูแลประชาชนคนไทยมาเป็นอย่างดีและจะได้มอบขวัญและกำลังใจ เล็กน้อยต่อไปอีก 6 เดือนๆละ 500 บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยนายกรัฐมนตรีจะอนุมัติงบกลาง จำนวน 3,510 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดต่างๆนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เพื่อขอใช้งบกลางดังกล่าว หากมีมติคณะรัฐมนตรีออกมาอย่างไรทีมโฆษกรัฐบาลจะได้นำรายละเอียดมาบอกกล่าวทันที

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการประชาสัมพันธ์เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อะเมซซิ่งไทยแลนด์เคานต์ดาวน์ นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มาประชาสัมพันธ์การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรมจะมาประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี

'สิงห์สยามโพล' เผยเสป๊กคนกรุงฯ อยากได้ ผู้ว่า กทม. ไม่สังกัดพรรค ร้อยละ84.1 มีความรู้และความสามารถ แก้ปัญหาจราจรอันดับแรก ด้าน สนาม ส.ก. ยังไม่ตัดสินใจ ร้อยหลัง 51.1

ที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “สิงห์สยามโพล”  คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาญชัย จิตรเหล่าอาพร คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยสาขารัฐศาสตร์ แถลงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร เรื่อง การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) โดยทำการสำรวจข้อมูลระหว่าง วันที่ 1 - 10 ธันวาคม 2564 ด้วยแบบสอบถามออนไลน์จากประชาชนในเขตกรุงเทพที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,642 ตัวอย่าง  โดยใช้การสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบหลายขั้นตอน (Multi Stage Random Sampling) เพื่อเลือกพื้นที่ในการเก็บข้อมูลในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และเขตภาคกลางดำเนินการเก็บข้อมูลโดยการสุ่มแบบบังเอิญ (Accidental Sampling) เพื่อเก็บข้อมูลจากประชาชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป 

โดยผลสำรวจระบุว่า ผู้ว่าฯ กทม. ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง โดยด้านคุณลักษณะของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีเห็นว่า คุณลักษณะของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ควรมีความรู้ความสามารถ มากที่สุดถึงร้อยละ 31.1 มากกว่า คุณลักษณะด้านภาวะผู้นำและซื่อสัตย์สุจริต คิดเป็นร้อยละ 15.6 หรือประเด็นอื่นๆ เช่น การเป็นนักประสานผลประโยชน์ระดับชาติและพื้นที่ คิดเป็นร้อยละ 11.1 และโดยเฉพาะการมีคุณธรรม จริยธรรม และอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 8.9 และการมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และ ยึดมั่นในกฎระเบียบ คิดเป็นร้อยละ 4.4 ขณะที่ด้านการสังกัดพรรคการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้ง พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง คิดเป็นร้อยละ 84.1 แต่หากจำเป็นต้องเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมือง พบว่า

พรรคเพื่อไทย คิดเป็นร้อยละ 11.1 พรรคก้าวไกล คิดเป็นร้อยละ 8.9 พรรคอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 6.72 พรรคประชาธิปัตย์ คิดเป็นร้อยละ 6.7 และสุดท้ายพรรคพลังประชารัฐ และพรรคกล้า คิดเป็นร้อยละ 2.2 ซึ่งต่างมีความนิยมใกล้เคียงกัน แต่พบข้อสังเกตว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์นั้นถือเป็นคู่แข่งสำคัญในสนามการเลือกตั้งครั้งนี้ เมื่อมองถึงคาดหวังต่อนโยบายของกรุงเทพมหานครจากผู้ว่า กทม. คนใหม่นั้น พบว่า สภาพปัญหาที่ประชาชนในกรุงเทพมหานครรู้สึกอึดอัดและต้องการการแก้ไขปัญหามากที่สุดยังคงเป็นเรื่องของปัญหาการจราจร (ร้อยละ 26.7) และปัญหาเรื่องของวิถีการใช้ชีวิตปกติ (ร้อยละ 20.0) ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19

โดยมีปัญหาเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม และการฉีดวัคซีนเป็นปัญหาที่มีความสำคัญตามมา ทั้งนี้ย่อมพบว่า วัคซีนที่ทางกรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรจากทางรัฐบาลนั้น ยังไม่สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในกรุงเทพมหานคร ดังเห็นได้ว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมีความต้องการ Pfizer, Moderna และ Johnson & Johnson รวมเกินกว่าร้อยละ 70

เมื่อพิจารณาเรื่องภูมิหลังด้านการประกอบอาชีพของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่ามาจากอาชีพอื่นๆ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80.0 รองลงมาคือ นักการเมือง คิดเป็นร้อยละ 11.1 และสุดท้ายคืออาจารย์ และทหาร คิดเป็นร้อยละ 4.4) ตามลำดับ ย่อมอธิบายได้ว่า ประชาชนในกรุงเทพมหานครนั้นไม่ให้ความสำคัญกับภูมิหลังในการประกอบอาชีพของผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมากนัก ซึ่งเป็นผลเกิดจากความต้องการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ และเข้าใจปัญหาในรูปแบบ “การแก้ไขแบบสหวิถี (Multi-Application Solution) ที่ต้องบูรณาการทั้งองค์ความรู้ เทคนิค และวิธีการ ที่สอดคล้องกับสภาพหรือบริบทปัญหาที่แตกต่างกัน บนพื้นฐานความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง

ประสบการณ์การทำงานที่เชี่ยวชาญเพียงด้านใดด้านหนึ่งจึงอาจไม่เพียงพอในการตอบโจทย์ของปัญหาที่มีความสลับซับซ้อนในมหานครของกรุงเทพมหานคร
ส่วนแนวโน้มเลือกสมาชิกสภากรุงเทพมหานครตามพรรคหรือกลุ่มที่สังกัดของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่แน่ใจหรือลังเลใจ คิดเป็นร้อยละ 51.1 และรองลงมาคือ เลือกตามพรรคหรือกลุ่มที่สังกัด คิดเป็นร้อยละ 28.9 ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่าผู้สมัครควรเป็นผู้สมัครอิสระ คิดเป็นร้อยละ 51.1 

กรมชลฯ เปิดแผนจัดสรรน้ำรับฤดูแล้ง ยันเขื่อนหลักมีน้ำเพียงพอ

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ภาพรวมสถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 58,692 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 77% ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 34,760 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 14,586 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 59% ของความจุอ่างฯ เป็นน้ำใช้การได้ 7,890 ล้าน ลบ.ม. 

ทั้งนี้กรมชลประทาน ได้วางแผนจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2564/65 (วันที่ 1 พ.ย.2564 – 30 เม.ย.2565) จากปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พ.ย. 2564 จำนวน 37,857 ล้าน ลบ.ม. โดยมีแผนจัดสรรน้ำในฤดูแล้งทั้งประเทศจำนวน 22,280 ล้าน ลบ.ม. ตามลำดับความสำคัญดังนี้ เพื่อการเกษตรฤดูแล้ง 11,785 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการอุปโภค-บริโภค 2,535 ล้าน ลบ.ม. อุตสาหกรรม 518 ล้าน ลบ.ม. รักษาระบบนิเวศและอื่นๆ 7,442 ล้าน ลบ.ม. และสำรองน้ำไว้ต้นฤดูฝนปี 65 อีก 15,577 ล้าน ลบ.ม. 

“แรมโบ้” ซัด “เลขา ครป.” ฟังไม่ครบแล้วจับมากระเดียด! นายกพูดถึงนักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้น ปชช. มีรายได้ ชี้ เป็นถึงเลขาครป.น่าจะมีสมองเข้าใจเจตนานายกฯ ขออย่าเปรียบเจ้าสัว และหากว่างมากเอาเวลาไปทำประโยชน์มากกว่ามาโจมตีนายกฯ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ ที่กล่าวกับประชาชน จ.ยะลา แนะนำให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว ไม่เข้าใจปัญหาเกษตร เลี้ยงไก่เป็นร้อยตัวไม่มีวันรวย เพราะเจ้าสัวผูกขาดการเกษตร โดยนายเสกสกล กล่าวว่า การที่นายกฯส่งเสริมให้เลี้ยงไก่นั้นเป็นเจตนาที่ดีนายกฯต้องการให้ประชาชนยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางพ่อหลวงรัชกาลที่9 นายกฯมองการณ์ไกลอยากเห็นประชาชนรู้จักหารายได้ทำการเกษตรอย่างพอเพียงให้มีมูลค่าในแปลงเกษตรของตนเองให้มีรายได้สูงขึ้นและลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

นายกเน้นการปลูกพืชผักสวนครัวเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ในพื้นที่จำกัดที่มี และพูดถึงการเลี้ยงไก่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้บ้าง ลดรายจ่ายในครอบครัว  ซึ่งนายเมธาเป็นถึงเลขา ครป.มีความรู้ มีสมองก็น่าที่จะเข้าใจนายกฯ และก็ไม่ควรเอาเรื่องนี้ไปเปรียบเทียบกับเจ้าสัว เพราะคนละเรื่องกัน มีแต่คนไร้สมองเท่านั้นที่เอาไปผูกโยงกับนายทุนหรือเจ้าสัวได้

ส่วนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและชาวนา รวมถึงประชาชนทุกกลุ่มอาชีพนั้น นายกฯและรัฐบาลมีนโยบายให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว  เพราะนายกฯให้ความสำคัญ และทราบดีถึงความเดือดร้อนของประชาชน

จับสัญญาณ ‘อุตตม’ พบปะ ‘สนธิรัตน์’ หลังยกความหวังอนาคตไทยมาถก

(17 ธ.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ภาพขณะนั่งจิบกาแฟแบบสบาย ๆ พูดคุยกับนายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมโพสต์ข้อความว่า “คุยกันหลายเรื่องครับ มุมมองของเราทั้ง 2 ยังคงเป็นเรื่องอนาคตประเทศไทย แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อ ๆ ไปนะครับ” #สนธิรัตน์

ต่อมา กลางดึกของวันที่ 16 ธ.ค. นายอุตตม ได้โพสต์ภาพอีกมุมหนึ่งที่มีการพูดคุยกับนายสนธิรัตน์ในวันนั้น พร้อมโพสต์ข้อความว่า “มาจิบกาแฟกันครับ... ก็ได้พูดคุยเรื่องอนาคตของประเทศ ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยคงคิดถึงเรื่องนี้กันมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ใกล้จะหมดปีแล้ว คิดว่าคนไทยต้องการเห็นโอกาสใหม่ ๆ ต้องการมีความหวัง และเมื่อมีความหวัง ทุกคนก็จะสามารถร่วมกันสร้างความหวังนั้นให้เป็นความจริง ผมคงมีเรื่องมาแลกเปลี่ยนกันหลังปีใหม่อย่างแน่นอนครับ”

'ไทยรักษา'​ ชี้!! โซเชียลไทยแขวะรถไฟมือสองญี่ปุ่นถี่ แต่อวยรถไฟลาว เพราะหวังแค่ดูถูกประเทศตัวเอง

เฟซบุ๊กเพจ​ ไทยรักษา​ ได้โพสต์ข้อความ​ ระบุว่า... 

เราจะอวยรถไฟลาว เพื่อมาดูถูกประเทศตัวเองไปเพื่ออะไร ?

ขอถามคนไทยทุกคนว่า ถ้าวันนี้!! ไทยไม่รับบริจาครถไฟมือสองของญี่ปุ่น แล้วเรามีรถไฟเหมือนที่ลาวใช้ คนไทยจะโอเคมั้ย .... 

รถไฟความเร็วสูงอะไร ! วิ่งได้แค่ 160 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ซึ่งมาตรฐานของรถไฟความเร็วสูงจริง ๆ​ คือ ใช้ความเร็วได้ตั้งแต่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป 

ถ้ารถไฟความเร็วสูงของไทย วิ่งได้แค่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแค่นี้ วันนี้คนไทยจะว่ายังไง ?  

การมีรถไฟของลาว ทำให้ลาวต้องกู้เงินจากจีนมาลงทุน จีนถือหุ้นกว่า 70% ส่วนลาวที่เป็นเจ้าของประเทศ กลับถือหุ้นแค่ 30% แถมยังต้องเอาเหมืองทอง 5 แห่ง ที่เป็นสมบัติของชาติ ไปค้ำประกันจีนไว้ด้วย

 “ราเมศ”แจงปชป.เลือก “ดร.เอ้”ลงผู้ว่าฯกทม.เหมาะสมที่สุด ชี้ทุกฝ่ายควรคิดเพื่อบ้านเมือง หมดเวลาสร้างวาทะโจมตีกันแล้ว เชื่อคนกรุงอยากเห็นการต่อสู้ด้วยนโยบาย 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมากล่าวถึงการเปิดตัวนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ว่านโยบายดีแต่อยู่ผิดพรรค ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้ผู้สมัครในนามพรรคทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ยาวนานที่สุด ระยะเวลาและผลงานคือคำตอบที่ดีที่สุด ทุกครั้งพรรคจะเตรียมความพร้อมในทุกเรื่องอย่างเต็มที่ เริ่มต้นที่นโยบายที่คิดและทำเพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ การคัดเลือกผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถและเข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างลึกซึ้งแท้จริง คือสาระสำคัญที่สุด ดังนั้นการเมืองยุคนี้ควรหยุดวาทะที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ทางที่ดีที่สุดคือ ผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทำหน้าแทนประชาชนกรุงเทพฯ ควรแสดงให้เห็นถึงสาระของนโยบายว่าจะทำสิ่งใดให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

นายราเมศกล่าวต่อว่า การที่พรรคได้เลือก นายสุชัชวีร์ เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ เชื่อว่าปัจจุบันนี้ด้วยวิวัฒนาการทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยี การได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้กรุงเทพฯมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน ย่อมเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯอย่างแน่นอน และพรรคประชาธิปัตย์ก็คือคำตอบที่ทำให้ นายสุชัชวีร์ เลือกลงในนามพรรค และพี่น้องชาวกทม.จะเป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อได้รับทราบถึงแนวคิด นโยบาย ความรู้ความสามารถและสามารถมองเห็นความหวังได้ในวันข้างหน้าประชาชนจะเป็นคนตอบผ่านกระบวนการเลือกตั้ง

“ดร.พิสิฐ” ขอให้คลังจัดหมวดหมู่กองทุนหมุนเวียนให้รวมเฉพาะส่วนที่เป็นงานของราชการ เพื่อความโปร่งใสทางการคลัง

ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในวาระรับทราบรายงานผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562 ว่า กองทุนต่างๆ ที่มีอยู่ 115 กองทุนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบการคลัง และเป็นส่วนเสริมของระบบงบประมาณแผ่นดิน  ซึ่งมีวงเงินประมาณ 3 ล้านล้านบาทต่อปี แต่ยอดรวมกองทุนที่รวบรวมมานำเสนอนี้ มีตัวเลขที่สูงถึงกว่า4 ล้านล้านบาท ดูประหนึ่งว่าเงินในกองทุนเหล่านี้มีมากมายมหาศาล และเป็นที่เพ่งเล็งกันว่าน่าจะนำมาใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ทางการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่านี้ 

ดร.พิสิฐ ชี้ว่า ตัวเลขที่ได้รวบรวมมาเสนอต่อสภานี้ แม้ได้ทำไปตามกฎหมายกองทุน ที่จะต้องนำเสนอภาพรวมต่อครมและสภา แต่หากทำในลักษณะนี้จะทำให้เกิดความไขว้เขวว่าเรามีเงินเยอะ ความจริงแล้วในบรรดา 4 ล้านล้านบาทที่ปรากฎในรายงาน กว่าครึ่งหนึ่งเป็นของกองทุนประกันสังคม ซึ่งเงินกองทุนประกันสังคมก็เป็นเงินของลูกจ้างที่ได้จ่ายสะสมและนายจ้าง กับรัฐได้จ่ายสมทบให้ทำให้เงินกว่าครึ่งหนึ่งหรือสองล้านล้านบาทเราจะไปแตะต้องไม่ได้ และไม่ควรนำมารวมอยู่ในรูปของกองทุนณ ที่นี้ นอกจากนี้ยังเงิน กองทุน กบข. ก็เป็นเงินออมของข้าราชการที่สะสมเก็บเพื่อใช้ยามเกษียณ มียอดเกือบ1 ล้านล้านบาท ก็เป็นอีกก้อนหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า จากยอด 4 ล้านล้านบาทที่ได้รวบรวมมา มีถึง 3 ใน 4 ที่ไม่ใช่เงินของรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นเงินที่มีกฎหมายรองรับอยู่ว่าเป็นของผู้อื่น ยังมีเงินกองทุนที่มีจำนวนเงินไม่มาก ตัวอย่างเช่นกองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาเป็นต้นก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน

แม้กระทั่งเงินที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลต่างๆเช่น เงินกองทุนน้ำมัน ที่มีกว่า 4 หมื่นล้านบาท ที่ฝากไว้ที่กระทรวงการคลัง และกระทรวงการคลังเก็บเป็นส่วนหนึ่งของเงินคงคลัง ก็เป็นอีกก้อนหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ เพราะมีกฎหมายบังคับเฉพาะอยู่แล้วว่าไม่อาจใช้เพื่อการอื่นได้ แต่ใช้เพื่อพยุงราคาน้ำมันเท่านั้น 

ดังนั้น ดร.พิสิฐ จึงได้เน้นถึงเรื่องการแยะแยะเงินเหล่านี้ โดยจัดหมวดหมู่ของกองทุนต่างๆให้ชัดเจน 
แต่ที่คลังได้จัดหมวดหมู่มา 5-6 ประเภทในรายงานนั้น ไม่น่าจะเกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์ หรือประเมินภาพรวมเงินกองทุนตามเจตนารมย์ของกฎหมายกองทุนควรเลือกเฉพาะกองทุนที่มีลักษณะคล้ายกับงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินคือมีแหล่งรายได้หลักมาจากรัฐบาล หรือเป็นรายได้ที่รัฐบาลกำหนดให้ และเป็นงานที่มีลักษณะส่งเสริมสนับสนุนนโยบายส่วนกองทุนอย่าง กองทุนประกันสังคม กองทุน กบข. ที่มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว มีเจ้าของเงินชัดเจนก็จะต้องจัดไว้อีกหมวดหมู่หนึ่ง เพราะถือว่ามีลักษณะเชานเดียวกับรัฐวิสาหกิจที่มีเงินมาก แต่แยกตัวออกไปไม่ใช่กองทุน ซึ่งหากได้จะจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจนตามที่เสนอนี้ เราก็จะได้ประโยชน์ มีความชัดเจนโปร่งใส ได้ข้อมูลเงินนอกงบประมาณที่ช่วยนำมาใช้วิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายและหนี้สินทรัพย์สินในะบบการคลังได้

ทุกวันนี้มีปัญหาว่า จะมีความพยายามใช้เงินในระบบงบประมาณแผ่นดิน แต่เมื่อจ่ายไปแล้ว เงินอาจไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่อาจจะไปจมอยู่ในกองทุนต่างๆ และไม่ออกไปนอกระบบการคลังทำให้กองทุนเหล่านี้กลายเป็นบ่อพักของเงินงบประมาณแผ่นดิน และไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการใช้จ่ายของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน หากจะวิเคราะห์ลึกลงไป ก็พบว่ายังมีเงินอีกหลายประเภทที่มีลักษณะคล้ายเงินกองทุนดังกล่าว เช่น เงินทุนหมุนเวียนในหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมๆว่าเงินนอกงบประมาณ จะมีวิธีการใดหรือไม่ที่จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ให้มาแสดงภาพรวมด้วยกัน เพื่อจะได้เห็นว่าเงินแผ่นดินเหล่านั้นมีจำนวนเท่าใด  เช่น เงินที่เกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยต่างๆ โรงเรียนต่างๆ ของรัฐได้จากค่าเล่าเรียนที่เป็นเงินนอกงบประมาณ ซึ่งต้องถือว่าเป็นบัญชีเงินทุนหมุนเวียนเช่นกัน 

“ดร.พิสิฐ” ติง "สตง" ตรวจงบรายงานงบการเงิน กสทช. ล่าช้าถึง 3 ปี แนะให้องค์กรต้องโปร่งใส  หลังพบจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีตกลงราคาเป็นส่วนใหญ่

ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในวาระรับทราบการแจ้งผลการตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 และการตรวจสอบการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินสำหรับปี 2561 ของ สนง. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 

โดยระบุว่า ขอบคุณ สตง. ที่รับเป็นเจ้าภาพในการชี้แจง ซึ่งการมาชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ตนอยากให้ คกก. กสทช. ซึ่งควรเป็นผู้รับผิดชอบผลการดำเนินงานกสทชเป็นผู้มาชี้แจงมากกว่า เพราะงบการเงินนี้เป็นเรื่องของหน่วยงาน และ สตง. ทำหน้าที่เป็นผู้ประเมิน แต่งานเป็นของ คกก. กสทช. ทั้ง 7 ท่าน ดังนั้นในครั้งต่อไปขอเสนอให้มี คกก. กสทช. มาร่วมเป็นผู้ชี้แจงด้วย 

ในการทำหน้าที่ของ สตง. ตามมาตรา 69 นั้น ตนยอมรับว่า สตง. ทำหน้าที่เป็นนักบัญชี และตรวจการใช้เงินตามตัวหนังสือ แต่เจตนารมณ์ของผู้ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการให้วิเคราะห์ประสิทธิผล กสทช นั้น น่าจะมองมากไปกว่านั้น และควรต้องการให้ดูว่า เมื่อมีการตั้ง กสทช. ขึ้นแล้ว ได้ทำประโยชน์ให้ประเทศอย่างไรในเรื่องการเสริมสร้างให้มีเทคโนโลยี ดิจิทัลเกิดขึ้นในประเทศ โดยเฉพาะการดูแลตลาดให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง อีกด้านหนึ่งคือดูแลให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะในที่ห่างไกลสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ดังนั้นตนจึงอยากให้มีการประเมินว่า กสทช. ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์เหล่านี้หรือไม่ จะได้มีการทุ่มเทการทำงานให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้

ด้วยเหตุนี้ ดร.พิสิฐ จึงอยากเห็นเอกสารฉบับนี้รายงานถึงเทคโนโลยี ดิจิทัล ทางด้านสื่อสารว่า ประเทศไทยทุกวันนี้มีความก้าวหน้า หรือล้าหลังตรงไหนอย่างไรบ้าง อยากให้มีการประเมินว่า สิ่งที่ กสทช. ทำไปแล้วประชาชนได้ประโยชน์อย่างไรโดยตรง มีกี่หมู่บ้าน กี่ครัวเรือน ประชาชนกี่คนมีโอกาสได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต เข้าถึงระบบโทรคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียน และสถานศึกษา

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่กฎหมายฉบับนี้ตราขึ้นมา 10 ปีเศษ ได้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดโควิด ทำให้ต้องเวิร์คฟรอมโฮม หรือทำงานจากบ้าน และจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หรือการสื่อสารมาช่วย  จึงอยากให้มีรายงานในเรื่องดังกล่าว ในการเขียนรายงาน ขอให้ดูตัวอย่างรายงานของ สสส. เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน การใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีอย่างไร ซึ่งเป็นการทำรายงานที่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นไปตามเป้าหมายของกฎหมาย สสส

'ราเมศ' แจง 'ปชป' คิดดีทำดีเพื่อชาวกรุงเทพ ทุกฝ่ายควรคิดเพื่อบ้านเมือง หยุดสร้างวาทะนำขัดแย้ง 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึง กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้ออกมากล่าวถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้ผู้สมัครในนามพรรคทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานครยาวนานที่สุด ระยะเวลาและผลงานคือคำตอบที่ดีที่สุด ทุกครั้งพรรคจะเตรียมความพร้อมในทุกเรื่องอย่างเต็มที่ เรื่มต้นที่นโยบายที่คิดและทำเพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร การคัดเลือกผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถและเข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างลึกซึ้งแท้จริง คือสาระสำคัญที่สุด 

การเมืองยุคนี้ควรหยุดวาทะที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ทางที่ดีที่สุดคือ ผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทำหน้าแทนประชาชนกรุงเทพ ควรแสดงให้เห็นถึงสาระของนโยบายว่าจะทำสิ่งใดให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

นายราเมศกล่าวต่อว่า การที่พรรคได้เลือก ดร สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ เชื่อว่าปัจจุบันนี้ด้วยวิวัฒนาการทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยี การได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้กรุงเทพมหานครมีความเจริญรุ่งเรื่องในทุกด้าน ย่อมเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องชาวกรุงเทพอย่างแน่นอน และพรรคประชาธิปัตย์ก็คือคำตอบที่ทำให้ ดร สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เลือกลงในนามพรรค 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top