Monday, 12 May 2025
POLITICS

‘แรงงานสมุทรสงคราม’ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด   อาสาสมัครแรงงาน 'ปลูกต้นไม้' ถวายเป็นพระราชกุศล 

ที่บริเวณสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรสงคราม ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม นางรภัสสา พานิกุล แรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 และวันดินโลก ปี 2564 โดยมีนางรภัสสา พานิกุล แรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม นางอัจฉรา  เราจุติธรรม  จัดหางานจังหวัดสมุทรสงคราม นายพูลโชค  โตประเสิรฐ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรสงคราม นางระพีพรรณ รัตนบริหาร สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม และนายวิชัย  จันทร์บุญ  ประกันสังคมจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

นางรภัสสา กล่าวว่า เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 และเนื่องในวันรู้รักสามัคคี 4 ธันวาคม 2564 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือให้แต่ละหน่วยงานจัด กิจกรรมจิตอาสา “รู้รักสามัคคี รักษ์สิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิต” เช่น การปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่เหมาะสมและสามารถบำรุงรักษาได้ต่อเนื่อง เป็นต้น ประกอบกับ องค์การสหประชาชาติ ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ประกาศรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันดินโลก และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสงครามเป็นส่วนราชการที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยนำศาสตร์พระราชาด้านการพัฒนาที่ดินรวมทั้ง วันดินโลก เผยแพร่ให้เป็นที่รับทราบ และเกิดการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในโอกาสต่าง ๆ เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวทางการจัดการดินที่ได้ทรงพระราชทานไว้ไปสู่การปฏิบัติสร้างประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ 

“ในวันนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ขึ้น ซึ่งต้องขอขอบคุณสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรสงคราม ที่ให้การสนับสนุนพื้นที่และช่วยดูแลรักษาต้นไม้ให้เจริญเติบโต รวมทั้งขอบคุณกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้การสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้ ได้แก่ ต้นรวงผึ้ง มะฮอกกานี ราชพฤกษ์ และนนทรี 

"วิโรจน์" ซัด "กลาโหม"  งดรับนักท่องเที่ยวคุมโอมิครอน แต่ยังให้ รด. ฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ถาม กองทัพเตรียมมาตรการป้องกันไว้หรือยัง ฉะ "ประยุทธ์" ถ้าเกิดคลัสเตอร์ใหม่ต้องรับผิดชอบ 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน ว่า ปัจจุบันรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขต่างก็ตระหนักและกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นอย่างดี เพราะเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้อย่างรวด ทั้งในสหรัฐ อังกฤษ และอีกหลายประเทศใน EU ที่กำลังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยที่อังกฤษ สายพันธุ์โอมิครอนใช้เวลาเพียงแค่ 14-21 วัน หลังจากที่พบการติดเชื้อภายในประเทศ ก็ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในการแพร่ระบาด

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นรายแรกแล้ว เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนเสริมภูมิเข็มที่ 3 ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสกัดการแพร่ระบาดของโอมิครอนยังฉีดไปได้เพียง 7.98% เท่านั้น (ข้อมูลจากระบบหมอพร้อม เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64) และเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศบค. เพิ่งมีมติให้ระงับการลงทะเบียนขอเข้าประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์และ Test&Go ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยเริ่มตั้งแต่ 21 ธ.ค. 64 - 4 ม.ค. 65 สะท้อนว่า รัฐบาลตระหนักดีถึงอัตราการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ที่ยังอยู่ในอัตราที่ต่ำมากและไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ตนได้ทราบจากพ่อแม่ผู้ปกครองและนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) ว่ากระทรวงกลาโหมโดยกองทัพบก ยังมีแนวคิดที่จะจัดการฝึกภาคสนามให้แก่นักศึกษาวิชาทหารที่เขาชนไก่ ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ตลอดจน รด. มีข้อสงสัยว่า กองทัพบกยังคงยืนยันที่จัดการฝึกภาคสนามอยู่หรือไม่ และกรณีที่ทางกองทัพบกยืนยันที่จะจัดการฝึก ก็ต้องตั้งข้อสงสัยต่อว่ากองทัพบกได้เตรียมมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่างๆ ไว้อย่างรัดกุมแล้วหรือไม่ เช่น การตรวจคัดกรอง รด. ก่อนเข้ารับการฝึกภาคสนาม การปรับรูปแบบการฝึกให้มีการรักษาระยะห่างระหว่างกัน การเตรียมแพทย์สนามไว้ดูแลนักศึกษาที่เจ็บป่วยและต้องสงสัยว่าอาจเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างการฝึก ตลอดจนการดูแลเรื่องสุขอนามัยต่างๆ ภายในสถานที่ฝึก นอกจากนี้ ต้องตั้งคำถามเพิ่มเติมด้วยว่า หากมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ กองทัพบกได้เตรียมมาตรการในการรับผิดชอบต่อสังคมเอาไว้อย่างไร ซึ่งในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ศูนย์การนักศึกษาวิชาทหารจะมีการจัดประชุมเรื่องการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ประจำปีการศึกษา 64 ห้วงเดือนม.ค.-มี.ค. 65 เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก และไม่ได้เกี่ยวข้องกับแค่พ่อแม่ผู้ปกครองและรด.เท่านั้น เพราะหากมีการแพร่ระบาดของโอมิครอนในวงกว้าง ก็จะกระทบกับชีวิต และปากท้องของประชาชนทุกคนในประเทศ

“เรื่องนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่กระทรวงกลาโหม จะต้องชี้แจงให้กับสาธารณชนได้รับทราบอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่า การจัดฝึกภาคสนามให้แก่นักศึกษาวิชาทหารที่จะเกิดขึ้น กองทัพบกได้มีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไว้อย่างรอบคอบแล้ว และหากการฝึกภาคสนามดังกล่าวกลายเป็นคลัสเตอร์แพร่ระบาดโควิด-19 ไปสู่สังคมในวงกว้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เตรียมแผนในการจำกัดวงในการแพร่ระบาดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับประชาชน” นายวิโรจน์ กล่าว 

“บิ๊กตู่” ฟุ้ง ปีเศษดันกันชง กัญชา เป็นพืชเศรษฐกิจสำเร็จ “ย้ำ”คนไทยต้องมีสติใช้ขีวิตอยู่กับโควิดให้ปลอดภัย

ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน  กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดงานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 18 ว่า วันนี้ยินดีกับความสำเร็จในการที่รัฐบาล สนับสนุนเรื่องการปลูกพืช ที่เพิ่มมูลค่าได้ อย่างกันชงและกัญชาเป็นเรื่องที่น่ายินดีจากนโยบายของรัฐบาล โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ผลักดันเรื่องนี้มา ซึ่งเป็นมติให้เรารับผิดชอบร่วมกัน สิ่งสำคัญที่สุดมีทั้งคุณและโทษมีประโยชน์แต่ก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้นในการใช้ เพราะขณะนี้ทุกประเทศในโลกให้ความนิยม และให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ ประเด็นสำคัญทำอย่างไรให้ฐานรากเศรษฐกิจของเราดีขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการเพาะปลูกพืชเหล่านี้ แต่ไม่ใช่แค่เฉพาะกันชงและกัญชา ยังมีพืชสมุนไพรอีกหลายอย่างที่มีศักยภาพ เราจะต้องหารายได้จากความหลากหลาย ทางชีวภาพของประเทศไทย 

“ถือเป็นอีกเมนูหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาความยากจน รายครัวเรือนซึ่งจะเห็นว่าทุกอย่างดีขึ้นเยอะมาก ภายในระยะเวลาปีเศษๆ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการพูดบนเวที ในวันเดียวกันนี้นายกรัฐมนตรีย้ำหลายครั้งในเรื่องของการมีสติ ต้องการสื่อความหมายอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ อยากให้ระมัดระวังในเรื่องของโควิดและเรื่องต่างๆ เป็นการเตือนสติในการรับรู้รับทราบ โดยเฉพาะในมาตรการต่างๆเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาด เราต้องเดินไปด้วยกันเราต้องเราต้องอยู่กับเขาอย่างมีสติ เข้าใจหรือไม่ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในประเทศไทยถ้าเราเตรียมความพร้อมไว้ให้พร้อม และเราต้องเชื่อมั่นในระบบของเรา ถ้าเกิดขึ้นเราก็รักษาพยาบาล ต้องแก้ไขให้ได้เพราะมันพันกันไปหลายส่วนด้วยกัน เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกัน เพราะอีกฝ่ายต้องการเรื่องรายได้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก เราต้องดูทั้งสองทาง แต่สุขภาพสำคัญที่สุด”

'บิ๊กตู่' ย้ำ ไทยระงับ เทสแอนด์โก ชั่วคราว เน้นความปลอดภัยของคนไทยสูงสุด สั่ง ผวจ. ตำรวจ ทหาร คุมเข้มปีใหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งมีแนวโน้มการระบาดที่สูงขึ้นในหลายประเทศ ถึงแม้ว่าไทย จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่า 3,000 ราย เป็นวันที่ 4 โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันนี้ (22 ธันวาคม 2564) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2,532 ราย

แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,484 ราย ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 48 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 31 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 38,202 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 3,191 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 จำนวน 2,170,198 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมจำนวน 2,111,962 ราย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับหน่วยงานสาธารณสุขเร่งฉีดวัคซีนและวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น โดยให้เพิ่มจุดให้บริการฉีด ที่ สถานีขนส่ง ท่าเรือ หรือท่าอากาศยานในจังหวัดที่มีผู้เดินทางเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดนครราชสีมา และเชียงใหม่ เป็นต้น เพื่อลดการแพร่เชื้อจากเมืองสู่ภูมิภาคด้วย

นายธนกร กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศ โดยได้ระงับการลงทะเบียนชั่วคราวประเภท Test and Go และ Sandbox ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขอยืนยันว่าผู้ที่ได้อนุมัติในระบบ Test and Go ไว้ก่อนแล้ว ประมาณ 200,000 คน ยังคงสามารถทยอยเดินทางเข้าประเทศตามแผนการเดินทางได้จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2565 ภายใต้มาตรการคัดกรองที่เข้มข้น ทั้งตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT- PCR เป็นจำนวน 2 ครั้ง คือ วันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 7 โดยในการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย สำหรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร แบบ Test and Go เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา โดยอนุญาตให้ผู้เดินทางมาจาก 63 ประเทศ/พื้นที่ ทางอากาศเข้าไทยแบบไม่กักตัว โดยจะต้องเลือกจองโรงแรมที่เป็นสถานกักกันทางเลือก (AQ) /SHA+ 1 วัน เพื่อรอผลตรวจ RT-PCR ต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส 

รัฐวางกรอบเป้าหมายบริหารการคลัง 4 ปี จีดีพีโตสูงสุดแค่ 4.2%

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง ปีงบประมาณ 66 – 69 โดยรัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวผ่านการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน และมีผลต่อเนื่องถึงภาคการคลัง ทำให้เกิดภาระที่สะสมต่อภาคการคลังของไทยได้ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมารุนแรงได้อีก จนอาจส่งผลกระทบให้ภาครัฐจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบเพิ่มเติมอีกในอนาคต 

นอกจากนี้ในการกำหนดเป้าหมายและนโยบายการคลัง ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก หรือเมกะเทรนด์ ที่จะส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ทั้ง การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัย ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งการจัดเก็บรายได้และการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐ

ทั้งนี้ตามแผนฯ กระทรวงการคลังได้กำหนดสถานะและประมาณการเศรษฐกิจในปี 66 คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวอยู่ในช่วง 3.2 – 4.2% ส่วนในปี 67 คาดว่า จีดีพี จะขยายตัวอยู่ในช่วง 2.9 – 3.9% ขณะที่ในปี 68 - 69 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 2.8 – 3.8% ส่วนสถานะและประมาณการการคลัง มีการประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณ 66 อยู่ที่ 2.49 ล้านล้านบาท, ปี 67 อยู่ที่ 2.56 ล้านล้านบาท, ปี 68 อยู่ที่ 2.64 ล้านล้านบาท และปี 69 อยู่ที่ 2.72 ล้านล้านบาท

ศบค. สั่งเบรก Test & Go เข้าประเทศ หวังสกัดโอมิครอน มีผลทันที แต่ปีใหม่ยังจัดได้

‘บิ๊กตู่’ ถกศบค. ลั่น งดรับนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่มตั้งแต่วันนี้ หลัง 4 ม.ค. มาว่ากันใหม่ สั่งติดตามเข้มนักท่องเที่ยวสองแสนรายสกัดโอมิครอน หวั่นลุกลาม แต่ยังไม่งดกิจกรรมปีใหม่ในประเทศ

เมื่อเวลา 14.37 น. วันที่ 21 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุม ศบค. ว่า การพิจารณามาตรการต่างๆ ตนในฐานะประธานก็ต้องพิจารณาไปในรายละเอียด แต่แนวทางการปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติมีอยู่แล้ว สรุปง่ายๆ ขณะนี้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยแล้วจำนวน 1.1 แสนคน จากที่ขออนุมัติเข้ามาประมาณ 2 แสนราย ที่เข้ามาทั้งช่องทางแซนด์บอกซ์ และเทสต์ แอนด์ โก  

"โอฬาร" อดีตนักกีฬาทีมชาติ ขอรัฐบาลเร่งส่งร่างแก้ พ.ร.บ.สารต้องห้ามทางการกีฬา ให้สภาฯ เลื่อนขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ย้ำเป็นเรื่องสำคัญ เป็นความภูมิใจของคนทั้งชาติ ส.ส.ต้องทำหน้าที่ อย่าปล่อยสภาล่ม กระทบส่วนรวม 

นายโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชัยนาท พรรคกล้า ในฐานะอดีตนักกีฬาบีชเทนนิสทีมชาติ กล่าวถึงกรณีนักกีฬาไทยแชมป์โลกแบดมินตัน ไม่ได้เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา เนื่องจากองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency : WADA) แบนห้ามใช้ธงชาติไทย เพราะยังไม่แก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาว่า เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าร่างแก้ไขกฎหมายเสร็จแล้ว ก็ขอให้เร่งส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และขอให้มติสมาชิกเลื่อนร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาพิจารณาเป็นลำดับแรกๆ อย่างเร็วภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า เพราะเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน หากยังปล่อยให้เป็นปัญหาธงไทยไม่ได้ขึ้นสู่ยอดเสาต่อไป ไม่ใช่กระทบศักดิ์ศรีของนักกีฬาตัวแทนประเทศไทย แต่ยังกระทบต่อความภูมิใจของคนทั้งชาติ 

"ทุกครั้งที่ผมสวมใส่เสื้อที่มีธงไตรรงค์บนหน้าอก นอกจากความภาคภูมิใจในฐานะนักกีฬาแล้ว ยังพ่วงมากับหน้าที่ของตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้ร่วมลงแข่งขันกีฬาระดับโลก หน้าที่ในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย แต่วันนี้เมื่อธงไม่ได้ขึ้น นอกจากจะทำให้ความภาคภูมิใจของนักกีฬานั้นลดลงแล้วยังทำให้เกียรติภูมิของคนไทยทั้งชาติหายไปด้วย หลังจากนี้ยังมีกีฬาฟุตบอลชิงแชมป์เอเซีย เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัฟ ที่ทีมชาติไทยได้เข้าไปตัดเชือกกับทีมชาติเวียดนาม และมีโอกาศไม่น้อยที่มีชาติไทยจะทวงคืนแชมป์ในรายการนี้ มันจะน่าเสียใจไม่น้อยที่คนไทยทั้งชาติ จะไม่ได้เห็นธงชาติไทยถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมกับเพลงชาติไทย" นายโอฬาร กล่าว 

“ครม.” เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฯ ปรับให้ทุนสาขาขาดแคลน แทนกู้ยืม มอบเป็นของนร.นศ.ทั่วประเทศ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยสาระสำคัญ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยกำหนดให้คณะกรรมการ กยศ. อาจให้ทุนการศึกษาแทนการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ในกรณีสาขาวิชาขาดแคลน หรือสาขาวิชาที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ กยศ. ตลอดจนแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และการชำระเงินคืน กยศ. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ (สคก.) โดยจะขยายโอกาสในการเข้าถึงเงินกู้ยืม เพื่อการศึกษาให้แก่นักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีความคล่องตัวยิ่งขึ้น รวมทั้งยังจะมีกลไกให้ผู้กู้ยืมสามารถชำนะเงินคืนกองทุนได้มากขึ้น 

นายธนกร กล่าวว่า การแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560  เพิ่มนิยาม นักเรียน นักศึกษาและสถานศึกษา รองรับการศึกษาในรูปแบบที่แตกต่าง รวมทั้งเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ให้ คณะกรรมการ กยศ. อาจให้ทุนการศึกษาแทนการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาได้ รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติคณะกรรมการ กยศ. เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจให้คณะอนุกรรมการ ฯ กำหนดลักษณะของนักเรียนหรือนักศึกษา ซึ่งขาดแคลนทุนทรัพย์โดยให้คำนึงถึงรายได้ และรายจ่ายของครอบครัวว่าเพียงพอต่อการให้การศึกษาแก่นักเรียนหรือนักศึกษามากน้อยเพียงใด 

นอกจากนั้นแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการชำระเงินคืนกยศ. โดยวิธีการผ่อนชำระและระยะเวลาการผ่อนชำระเงินคืนกองทุนให้ยืดหยุ่นขึ้น ผู้กู้ยืมเงินมีสิทธิเลือกชำระเงินกู้ยืมคืนทั้งจำนวนหรือผ่อนชำระได้  รวมทั้งให้คณะกรรมการ กยศ. สามารถกำหนดมาตรการจูงใจเพื่อให้ผู้กู้ยืมเงินไม่ผิดนัดชำระหนี้หรือชำระหนี้ครบถ้วนรวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ วิธืการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้เงินกู้ยืมและการชำระเงินคืนกองทุน  เช่น ผู้กู้ยืมสามารถกู้ยืมเงินโคยไม่ต้องมี ผู้ค้ำประกัน  (ผู้ค้ำประกันเฉพาะที่จำเป็น) ลำดับการตัดชำระเงิน โดยเรียงจาก เงินต้น ดอกเบี้ย และเงินเพิ่ม ปรับรูปแบบการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น อาจเป็นรายเดือน รายไตรมาส รายปี เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมและสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้มากยิ่งขึ้น 

ครม.ไฟเขียว ลดค่าจดทะเบียนโอน-จำนอง เหลือร้อยละ  0.01 ลดภาระช่วงโควิด-19 หนุน คนไทยมีบ้าน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.ว่า ครม.เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย รวม 2 ฉบับ มีสาระสำคัญ เป็นการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ จากเดิม ร้อยละ 2 และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ในคราวเดียวกัน จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้อาคารที่อยู่อาศัย ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคาร หรือ ห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท 

“อนุทิน”เผย ศบค.ให้ระงับเข้าประเทศไทยชั่วคราว ขอประเมิน สถานการณ์ถึง 4 ม.ค.65 ระบุ คนไทยลงทะเบียนล่วงหน้า ไม่ต้องกังวล ให้เข้าประเทศได้ ลั่น ป้องกันไทยให้ปลอดภัยที่สุด 

ที่ทำเนียบรัฐบาลนายอนุทินชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและสาธารณสุขให้สัมภาษณ์หลังประชุมศบค.ถึงมาตรการควบคุมและเฝ้าระวังโควิด-19ในช่วงปีใหม่ ว่า ที่ประชุมให้ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด จะเป็นผู้ออกมาตรการตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่โดยมาตรการทุกอย่างยังเป็นไปเหมือนเดิม ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กำชับในที่ประชุมเรื่องฉีดวัคซีนเข็ม3 ให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน และกำชับเรื่องความปลอดภัยการจัดกิจกรรมของแต่ละจังหวัดในช่วงปีใหม่ อย่าให้เกิดเหตุแบบงานช้าง จ.สุรินทร์ 

นายอนุทิน กล่าวว่า ในที่ประชุมศบค.หารือกรณีผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และมีข้อสรุปให้ปิดรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศไว้ชั่วคราว เพื่อดูสถานการณ์ไปจนถึงวันที่4 ม.ค.2565 และจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหลังปีใหม่ ส่วนคนที่ลงทะเบียนขอเข้าประเทศ มีตัวเลขจนถึงวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประมาณ 2 แสนคน ได้รับอนุมัติแล้วกว่า 110,000 คน รอการอนุมัติกว่า 90,000 คน โดยมีข้อสรุปว่าผู้ที่ลงทะเบียน จองตั๋วและที่พัก แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติเข้าประเทศ ในกรณีที่เป็นคนไทยจะอนุญาตให้เข้ามาได้ในระบบเทส แอนด์ โก  ได้กำหนดต้องตรวจด้วยวิธีRT-PCR วันแรกที่มาถึงและวันที่7 รวม2 ครั้ง และให้มารายงานตัว และระบบแซนด์บ็อก 

นายอนุทิน กล่าวว่า ถือว่าเราได้เตรียมรับสถานการณ์และตอบสนองได้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ถ้าเราช่วยกันควบคุมสถานการณ์ได้ ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนมาตรการที่ออกไปได้ และการที่เราปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงถือเป็นสิ่งดี เพราะจะได้ไม่ต้องเกิดความกังวลว่าจะต้องหยุดกิจการอะไรอีก ส่วนเรื่องล็อกดาวน์จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะพิจารณา ขอย้ำว่าเราจะป้องกันให้มากที่สุด และต้องทำให้ประเทศไทยปลอดภัยแต่จะไปป้องกันทั้งหมดเป็นไปไม่ได้

'บิ๊กป้อม' เผยร่างแก้กม.ปลดแบน 'วาด้า' เสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ ก่อนส่งให้สภาฯ เคาะ

21 ธ.ค. 64 - พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีการแก้ไขกฎหมายสารต้องห้ามกีฬา เพื่อยื่นเรื่องให้ วาด้า ปลดแบนประเทศไทย ว่า ตอนนี้มีการร่างกฎหมายเสร็จแล้วอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามที่วาด้าต้องการ

“ปชป.” ปลื้ม “เอ้” สุชัชวีร์ กระแสดี ฟิตปั๋ง ตั้งใจทำงานเพื่อชาว กทม. พร้อมลุยลงพื้นที่ต่อเนื่อง 

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย เลขาคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสคนกรุงเทพฯ ที่มีต่อ “เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ว่า จากการลงพื้นที่ครั้งแรกวานนี้ที่เขตบางรัก “เอ้” สุชัชวีร์ ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก และจดจำ “เอ้” สุชัชวีร์ ได้ทันทีที่พบเห็น 

จากผลโพลหลายสำนัก ที่ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.  ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า “เอ้” สุชัชวีร์ มีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดตัวเป็นผู้สมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ไปได้เพียงสัปดาห์เดียว ดังนั้นจึงเชื่อว่า กว่าจะถึงการประกาศ พ.ร.บ.กฤษฎีกาเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. “เอ้” สุชัชวีร์ จะได้เร่งลงพื้นที่พร้อมนำเสนอแนวความคิดเพื่อแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ จะเปิดโอกาสและให้การตอบรับ “เอ้” สุชัชวีร์ มากขึ้น

โดยในวันพรุ่งนี้ (22 ธ.ค.) “เอ้” สุชัชวีร์ จะได้ลงพื้นที่ร่วมกับ ผู้สมัคร ส.ก. เขตดินแดง นายสิทธิวัฒน์ ชีรวินิจ เพื่อทำกิจกรรมกับผู้สูงอายุ พร้อมมอบเตียง วีลแชร์ให้ผู้ป่วย และยังร่วมกิจกรรมที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงอีกด้วย 

 

‘ศรีสุวรรณ’ จ่อร้อง ป.ป.ช.เอาผิด ‘บิ๊กป้อม’ กรณีไร้ธงชาติไทย บนเวทีแบดฯ ชิงแชมป์โลก

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า กรณีที่ ‘บาส-เดชาพล’ และ ‘ปอป้อ-ทรัพย์สิรี’ คว้าแชมป์โลกแบดมินตันคู่ผสม จนสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคู่แรกที่ได้แชมป์โลกแบดมินตันได้สำเร็จ ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลก เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจและเป็นเกียรติภูมิของชาติเป็นอย่างยิ่ง แต่ทว่าในการทำพิธีมอบรางวัลและเชิญธงชาติผู้ชนะ กลับไม่มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาแต่อย่างใด กลับต้องใช้ธงที่เขียนว่า BAT (Badminton Association of Thailand) ของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ขึ้นสู่ยอดเสาแทนนั้น

กรณีดังกล่าว เป็นผลมาจากการทำผิดกฎขององค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก หรือ WADA ที่เคยมีคำเตือนมายังไทยถึงบทลงโทษตั้งแต่ปลายปี 2563 ที่ผ่านมาว่า หากไม่มีการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับกฎหรือ Code ของ WADA ไทยจะถูกแบนห้ามจัดการแข่งขันทุกชนิดกีฬาในระดับนานาชาติ ส่วนนักกีฬาแม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้แข่งขันในระดับภูมิภาค ระดับทวีป และระดับโลกได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถใช้ธงประจำชาติแข่งขันในรายการที่ IOC และ WADA เป็นผู้ดูแลจัดการแข่งขันได้

ทั้งนี้กฎใหม่ของ WADA มีการระบุเรื่อง "นิยามการระบุโทษ" โดยกล่าวว่า โค้ชคนไหนที่มีส่วนกับการโด๊ปในประเทศนั้น ต้องมีบทลงโทษทางกฎหมายด้วย และห้ามทำงานเกี่ยวข้องกับกีฬาโดยสิ้นเชิง แต่กฎหมายของไทยใน พรบ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา 2555 กลับไม่มีในจุดนี้ อีกทั้งองค์การต่อต้านสารกระตุ้นไทย (DCAT) ตามกฎหมายยังขึ้นตรงอยู่กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกท้วงติงด้วย เพราะในมุมของ WADA ต้องการให้ DCAT เป็นองค์กรเอกเทศ ไม่สังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวกับกีฬาของประเทศด้วย

“บิ๊กตู่”อวยพรคนไทยเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ขอให้มีความสุข บ้านเมืองสงบ ก้าวข้ามผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  เชิญชวนสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นปี 2565 อีกด้วย

ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมร่วมประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 (Amazing Thailand Countdown 2022 – Amazing New Chapters) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานถึงการจัดกิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่าใน 5 พื้นที่ท่องเที่ยว ประกอบไปด้วย จ.ภูเก็ต จ.เชียงใหม่ จ.ระยอง จ.นครราชสีมา และ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศ สร้างรายได้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามมาตรฐาน SHA ด้วย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ โดยขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีความสุข บ้านเมืองสงบ ขอให้ทุกคนก้าวข้ามผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปด้วยกัน 

จากนั้น นายกรัฐมนตรียังร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ที่กระทรวงวัฒนธรรมมอบให้แก่ประชาชน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะเด็กเยาวชน นักแสดงศิลปวัฒนธรรมเด็กเยาวชน แสดงโขนแด่นายกรัฐมนตรี พร้อมประชาสัมพันธ์กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ กิจกรรมเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ กิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม ส่งความสุขแบบไทย และกิจกรรมท่องเที่ยววัฒนธรรม ท่องเที่ยววิถีใหม่  โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถ ขอให้ร่วมกันรักษาวัฒนธรรมของประเทศไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ พร้อมยังเชิญชวนประชาชนทุกคนสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นปี 2565 อีกด้วย

“ปชป.” ปลื้ม “ดร.เอ้” กระแสดี หลังเปิดตัวเพียงอาทิตย์เดียว หวังชาวกรุงเปิดโอกาสให้ เผย 22 ธ.ค.ลุยพื้นที่ดินแดง

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย เลขาคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสคนกรุงเทพฯ ที่มีต่อนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือดรงเอ้ว่าที่ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ว่า จากการลงพื้นที่ครั้งแรกวานนี้ที่เขตบางรัก นายสุชัชวีร์ ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก และจดจำดร.เอ้ ได้ทันทีที่พบเห็น และจากผลโพลหลายสำนัก ที่ได้สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.  ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่านายสุชัชวีร์ มีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดตัวเป็นผู้สมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ไปได้เพียงสัปดาห์เดียว ดังนั้นจึงเชื่อว่า กว่าจะถึงการประกาศ พ.ร.บ.กฤษฎีกาเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายสุชัชวีร์ จะได้เร่งลงพื้นที่พร้อมนำเสนอแนวความคิดเพื่อแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ โดยหวังว่าจะทำให้พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ จะเปิดโอกาสและให้การตอบรับ นายสุชัชวีร์ มากขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top