Thursday, 25 April 2024
POLITICS

ทางรอดเศรษฐกิจ!! 'อุ๊งอิ๊ง' ยก ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power’ ทางออกศก.ไทย แต่จะทำได้ชี้ ต้องมีรัฐบาลที่แข็งแรง ทำตั้งแต่ต้นจนจบ

‘แพทองธาร’ ยัน ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power’ หนึ่งในทางออกเศรษฐกิจไทย ชี้นโยบายจะสำเร็จได้ ต้องมีรัฐบาลที่แข็งแรง ทำตั้งแต่ต้นจนจบ

เมื่อ 12 ต.ค.65 พรรคเพื่อไทย จัดงานเสวนา ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power ทางออกเศรษฐกิจไทยนับจากทศวรรษนี้’ ภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  เพื่อแลกเปลี่ยน เสนอแนะ และบอกเล่าประสบการณ์การนำเอาความสามารถด้านต่างๆ สร้างรายได้  สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power ของพรรคเพื่อไทย เป็นนโยบายที่ต้องการเฟ้นหาคนที่มีศักยภาพ มีความสามารถ และพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่มาสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่พูดคุยกับพี่น้องประชาชนหลากหลายอาชีพพบว่า หลายคนมีความฝัน แต่ไม่กล้าฝัน เพราะลำพังแค่หารายได้มาจับจ่ายเลี้ยงดูคนในครอบครัวก็ยากลำบาก และต้องยอมรับว่าด้วยข้อจำกัดต่างๆ ของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน บางครอบครัวมีศักยภาพในการสนับสนุนเด็กและเยาวชนในการพัฒนาความสามารถของตัวเอง แต่หลายครอบครัวตรงกันข้าม  ซึ่งการเข้าคอร์สเรียนเพิ่มในด้านต่างๆ มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก  

พรรคเพื่อไทย จึงต้องการเพิ่มโอกาสและเวทีให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมให้การเรียนรู้และดึงศักยภาพอย่างครบวงจร หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะจัดตั้ง The Thai Creative Content Agency : THACCA หน่วยงานจะเข้าไปดูแลพัฒนาคัดเลือก แบ่งกลุ่ม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพ Solf power อย่างถูกจุด โดยรัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

“แนวคิดนี้จะสำเร็จได้ ต้องมีรัฐบาลที่แข็งแรง ที่จะต้องดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการเพื่อความต่อเนื่อง เราจะระดมบุคลากรที่มีความรู้ในด้านต่างๆ มาร่วมกันสร้างแพลตฟอร์ม ระดมคน ระดมทุน มีเครื่องมือเพื่อเป็นทุนในการหาความรู้ให้กับคนไทยทุกคน สิ่งที่เราจะทำ รัฐบาลต้องสนับสนุน ทำงานร่วมกับเอกชนด้วย” นางสาวแพทองธาร กล่าว

นายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และประธานกรรมการบริหารสำนักงานตลาด กทม. กล่าวว่า การส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟพาวเวอร์ สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือ...

1.นโยบายรัฐบาลต้องชัดเจน มีความสม่ำเสมอของนโยบาย มีองค์กรที่ส่งเสริมงานด้านนี้โดยตรง แต่ปัจจุบันสถานะขององค์กรแต่ละแห่งทำงานแตกต่างกันมาก หากดูตัวอย่างในเกาหลีใต้ มีหน่วยงานส่งเสริมงานด้านซอฟพาวเวอร์ ซึ่งมีคณะกรรมการบริหารดำเนินการโดยตรง อินโดนีเซียมีหน่วยงานส่งเสริมสตาร์ทอัพ สถานะเทียบเท่าระดับกระทรวง มีความชัดเจนในการสั่งการ จนทำให้มีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นสองราย

2.รัฐบาลต้องส่งเสริมงบประมาณให้กับหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟพาวเวอร์ โดยในอดีตสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เคยได้รับงบประมาณต่อปี 300 ล้านบาท ในขณะที่เกาหลีใต้จัดสรรงบประมาณปี 2565 ที่  62,400 ล้านบาท ให้กับหน่วยงานด้านซอฟต์พาวเวอร์ สร้างผลตอบแทนทางธุรกิจหลายสิบเท่า คิดเป็นเงิน 2.5 แสนล้านล้านบาท ทั้งยังได้ภาษีกลับคืนมามากกว่างบประมาณที่ลงทุน ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอีก

3 แบ่งภารกิจงานให้ชัดเจน รัฐบาลต้องรู้ว่าสิ่งใดที่ประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญหรือเก่ง และต่างประเทศเข้าใจว่าประเทศไทยเก่งในด้านนั้น และส่งเสริมด้านนั้น

4 ควรมีกองทุนและแพลตฟอร์มรองรับการเริ่มต้นการเริ่มลงทุนใหม่ เช่น สิงคโปร์ หากประชาชนในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจ รัฐบาลจะสนับสนุนเงินทุนตั้งต้นให้ 75% เมื่อทำเงินได้ รัฐบาลจะถอนเงินออก

ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความฝันและพรสวรรค์  ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะต้องจับมือร่วมกันระหว่างพ่อแม่และครู ต้องปลูกฝังบ่มเพาะตั้งแต่ระดับประถมศึกษา หากเด็กและเยาวชนมีพรสวรรค์และถนัดในเรื่องใด ต้องเก็บบันทึก เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่ค้นพบและพรสวรรค์นั้น อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ประเทศไทยกำลังค้นหา จึงเป็นที่มาของนโยบายด้านการศึกษาของพรรคเพื่อไทย ‘มีรายได้ เรียนรู้ได้ ตลอดชีวิต (Lifelong Learning, Lifelong Earning)’ เป็นการสร้างแพลตฟอร์มจับคู่สมรรถนะของคนเข้ากับงานที่ใช่ เพื่อช่วยให้มีงานทำเร็วที่สุด ตรงกับสมรรถนะของตนเองมากที่สุด เพื่อให้รู้ว่าคนๆ นั้นอยู่ตรงไหน อยู่จังหวัดใด นำมาเชื่อมกับความต้องการของประเทศ นำพาประเทศไปสู่เป้าหมายพัฒนาต่อไป ซึ่งสอดรับกับแนวคิด “ธนาคารหน่วยกิตเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต” (Academic Credit Bank : ACB)  ธนาคารเพื่อฝากความรู้ของคนไทยด้วยระบบคราวด์ (Cloud) เก็บเนื้อหาการเรียนและความรู้ในด้านต่างๆ เรียนรู้ได้ตลอดเวลา  นอกจากนี้ ควรมีการเปลี่ยนโรงเรียนขนาดเล็กให้เป็นศูนย์บ่มเพาะขั้นพื้นฐาน  ซึ่งมีอยู่ 1,500-2,000 โรงเรียนให้เป็นศูนย์บ่มเพาะอาชีพ เป็น co-working space ของผู้ใหญ่และเด็กในการบ่มเพาะความรู้ร่วมกัน 

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะฟื้นโครงการ ‘คนพันธุ์อา (ชีวะ) คืนค่านิยมใหม่ว่าผู้ที่เรียนอาชีวะคือผู้ที่สร้างรายได้จริง พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนแปลงศูนย์บ่มเพาะ มาเป็น ‘ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการ’ โดยจะมีการสอนการเขียนแผนธุรกิจ สร้างธุรกิจ สร้างรายได้ใหม่ๆ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสถาบันอาชีวะทั่วประเทศ  800 แห่ง แต่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพียง 420 แห่ง ส่วนของเอกชน 400 แห่ง จะมีการเข้าไปดูแลให้มีศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการเช่นกัน

‘อนุทิน’ เบรกอย่าโยงกัญชากับยาเสพติด ขออย่าไปผูกกัน เป็นคนละเรื่องกัน

'อนุทิน' บอกคนละเรื่อง ขออย่าผูกโยงการแก้ปัญหายาเสพติดกับกฎหมายกัญชา ยัน สธ.มีความพร้อมเรื่องบำบัดผู้ติดยาทั้งร่างกายและจิตใจ

(12 ต.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อเสนอการแก้ไขปัญหายาเสพติด ก่อนเข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืนที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวง สธ.จะนำเสนอเรื่องการคัดกรองผู้ป่วย ส่วนรองอธิบดีกรมสุขภาพจิตจะรายงานเรื่องการเยียวยารักษาด้านสุขภาพจิต 

ส่วนที่จะนำผู้ติดยาเข้าบำบัดนั้น สธ.เป็นฝ่ายสนับสนุนโดยกรมการแพทย์ ก็มีสถาบันธัญญารักษ์ เป็นแม่ข่ายในการบำบัดและรักษาผู้ป่วยยาเสพติด รวมถึงโรงพยาบาลในทุกจังหวัด ก็พร้อมให้การรักษาหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองส่งตัวผู้ป่วยมา ทั้งนี้หากผู้ติดยาเสพติดมีอาการมากก็จะมีการส่งไปตามสถานพยาบาลที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบำบัด

เมื่อถามว่าการรับมือผู้บำบัดจากนี้จะให้ผู้นำชุมชนเข้าไปค้นหาอย่างไร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า อาการผู้ติดยาหากเบาก็จะใช้การบำบัดรักษาและใช้วิธีการทำความเข้าใจให้ความรู้ แต่ถ้าอาการหนักก็จะให้การรักษาทางการแพทย์ตามขั้นตอน

‘ชัชชาติ’ ชมนิทรรศการ ‘ฝัน ปัง ดัง รวย : 1 ครอบครัว 1 Soft Power’พรรคเพื่อไทย ‘แพทองธาร’ พาชมบูธ อธิบายแนวคิด ทางออกเศรษฐกิจไทย เปลี่ยนชีวิตคนไทยครั้งใหญ่ สร้างรายได้อย่างก้าวกระโดด 

นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เยี่ยมชมบูธนิทรรศการ ‘ฝัน ปัง ดัง รวย : 1 ครอบครัว 1 Soft Power’ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจัดเต็มพื้นที่ 3 บูธเพื่อสื่อสารนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power ชูหลักคิดทางออกเศรษฐกิจไทยที่จะเปลี่ยนชีวิตประชาชนครั้งใหญ่อย่างก้าวกระโดด ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ Book Expo Thailand 2022 ที่บูธ I40 Exhibition Hall 6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์   

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เชิญนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เยี่ยมชมห้องนิทรรศการทั้ง 3 บูธ พร้อมอธิบายหลักคิดของนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power ว่าในชีวิตทุกคนล้วนมีความฝัน มีจินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของมนุษย์ โดยเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ห้องน้ำจึงเป็นพื้นที่ที่ทุกคนเคยใช้ฟุ้งฝัน แต่ก็เป็นที่ที่เราทิ้งความฝันนี้ลงไปเพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้ในโลกความจริง แต่พรรคเพื่อไทยมองเห็นว่า ความคิด ความฝัน ถ้าได้รับความเข้าใจและสนับสนุนอย่างถูกต้องให้มั่นใจในคุณค่าแล้ว จะเกิดเป็นความกล้าในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ทำฝันนั้นให้เป็นจริงได้ แต่ในทางปฏิบัติ จะทำอย่างไรให้ฝันของลูกหลานหรือของประชาชนเป็นจริงได้ เพราะทุกความฝันล้วนมีต้นทุน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสเข้าถึงความฝันที่มีค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว 

แพทองธาร กล่าวต่อว่า นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power เห็นความสำคัญที่ไม่ต้องการให้ฝันของใครต้องตกหล่น เราจึงออกแบบให้มีการตั้งศูนย์เรียนรู้ บ่มเพาะ ศูนย์เทรนนิ่ง ให้ประชาชนที่สนใจเข้าต่อยอดความรู้ ประสบการณ์อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อให้คนเข้าถึงตั้งแต่ระดับ ตำบล อำเภอ ระดับประเทศจนถึงต่างประเทศ โดยจะประสานความร่วมมือกับโรงเรียน มหาวิทยาลัย จัดจ้างบุคลากร จัดฝึกอบรมเพิ่มพูนทักษะ และถ้าใครมีทักษะศักยภาพที่ดีอยู่ก็จะสนับสนุนให้ไปหาประสบการณ์ต่อในต่างประเทศ ดังนั้น  นโยบาย1ครอบครัว 1 Soft Power  จึงเป็นนโยบายที่จะเพิ่มโอกาสและขยายศักยภาพสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน

'เพื่อไทย' ลงพื้นที่ดูระดับน้ำหลัง กทม. ประกาศเตือนปชช.นอกคันกั้นน้ำยกของสูง พร้อมเปิดช่องทางให้ ปชช.ติดต่อ หากต้องการแรงคนช่วยขนย้ายข้าวของ

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กทม. แถลงเตือนประชาชนนอกคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยกของขึ้นที่สูง ตรวจสอบปลั๊กไฟ และติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ โดย นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตธนบุรี-คลองสาน ระบุว่า ขณะนี้ ในพื้นที่เขตคลองสาน พบปัญหารอยรั่วของเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนหลายจุด เมื่อฝนตกหนัก มักเกิดปัญหาน้ำท่วมซึ่งเป็นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลซึมเข้ามาท่วมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน รวมถึงน้ำฝนยังระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ช้า ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนหลายจุด ตนได้ลงพื้นที่พบปะ เเละเข้ามารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในหลายๆ จุดที่ประสบปัญหาน้ำท่วม พบว่า เมื่อเกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณถนน และเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณบ้านเรือน ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา ได้รับความลำบาก ตลอดจนน้ำเข้าท่วมภายในบ้านทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งของต่าง ๆ ภายในบ้านเกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยตนขอให้พี่น้องประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง และติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที

ด้าน นายรัฐพงศ์ ระหงษ์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางซื่อ-ดุสิต  พบปะพูดคุยกับพี่น้องในเขตดุสิต-บางซื่อที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเข้าให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำสถานีสูบน้ำคลองบางซื่อที่ทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยการระบายน้ำอย่างเร่งด่วน

ขณะที่นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตพระนคร-ป่อมปราบ-สัมพันธวงศ์ ได้ลงแรงช่วยประชาชนบรรจุกระสอบทราย เพื่อเพิ่มระดับแนวกั้นน้ำ บริเวณสวนสันติไชยปราการ เขตพระนครเนื่องจากระดับน้ำขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตนได้ตรวจเยี่ยม แนวกั้นน้ำตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา มีการจัดกระสอบทรายเสริมระดับตลอดแนวประตูน้ำเทเวศร์ ซึ่งบริเวณนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงพื้นที่ตรวจเมื่อช่วงดึกของวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วย และตนได้เข้าเยี่ยมประชาชนแนวริมแม่น้ำย่านทรงวาด ท่าน้ำราชวงศ์ ท่าน้ำจักวรรดิ์ มีน้ำท่วม ช่วงน้ำหนุน แต่ น้ำลดลงไว แต่บริเวณนี้มีผู้รุกแนวแม่น้ำจำนวนมากไม่สามารถทำเขื่อนกั้นได้ ขณะนี้ได้มาประสานงานกับ กทม. เพื่อจัดสรรงบประมาณมาแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้แล้ว

'ชัยวุฒิ' ลงพื้นที่ตามติดน้ำท่วม จ.นครสวรรค์ เผย การจัดการน้ำ - ช่วยเหลือประชาชน เป็นไปด้วยดี

วันนี้ (12 ตุลาคม 2565) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีนายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รวมถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานในพื้นที่ประสบอุทกภัยร่วมประชุมรับฟังนโยบายผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วย ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ 

โดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุป ว่า จากปริมาณน้ำในพื้นที่แม้จะถึงระดับสูงสุด แต่จากการคาดการณ์ปริมาณฝน ซึ่งไม่มีการตกเพิ่มเติม ในระยะ 2-3 วัน จะส่งผลให้น้ำลดระดับได้ และปริมาณน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งระบบป้องกันน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทั้งจังหวัดนครสวรรค์เอง และจังหวัดใกล้เคียง ถือว่ามีการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร ที่ปลูกพืชในบริเวณพื้นที่รับน้ำให้มีความเข้าใจ และกำหนดรอบในการปลูกพืช เพื่อใช้พื้นที่ในการรองรับน้ำ หรือ ชะลอน้ำที่ผ่านทางจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อลดผลกระทบให้กับพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ

หลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย ชุมชนบางปราง ทางรถไฟ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง / วัดจอมคีรีนาคพรต ตำบลนครสวรรค์นอก อำเภอเมือง / อบต.บางเคียน อำเภอชุมแสง / วัดสระเศรษฐี และวัดสำโรง ตำบลน้ำทรง อำเภอพยุหะคีรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ 

'โรม' ทิ้งบอมบ์!! เสนอปฏิรูป 'ตำรวจ-ทหาร' หยุดอาชญากรรมที่มีต้นตอมาจากองค์กรมีสีซ้ำซาก

รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวสืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจของคนไทยทั้งประเทศ 

อยากเรียนต่อพี่น้องสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนว่า เหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธในลักษณะแบบนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก 8 ก.พ. 63 จ่าสิบเอกนายหนึ่งเกิดเหตุที่นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 30 คน ต่อมา 14 ก.ย. 65 เกิดเหตุที่กองทัพบก กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน และล่าสุด 6 ต.ค. 65 ก็มีเหตุเกิดอีกครั้งหนึ่ง และล่าสุด 6 ต.ค. 65 ก็เกิดเหตุครั้งล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 คน เป็นเด็กเล็ก 22 คน เหตุการณ์ทั้งหมดผู้กระทำล้วนแต่เป็นทหาร-ตำรวจชั้นผู้น้อย

รังสิมันต์กล่าวว่า ตนทราบดีว่าเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เราไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่สิ่งที่สังคมเราอยากที่จะเห็น และจริงจังคือการป้องกันให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำและลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นต่อไป ย้อนกลับไปนับแต่การกราดยิงที่โคราช เราแทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงขององค์กรตำรวจทหารเลยแม้แต่น้อย ตลอดที่เวลาที่ตนทำงานศึกษาติดตามเรื่องนี้พบว่าภายในองค์กรเหล่านี้ยังมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ดีของเจ้าหน้าที่ของรัฐและเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชันซึ่งหลายครั้งส่งผลเสียต่อเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย บางครั้งหนักถึงขนาดที่อาหารการกินของชั้นผู้น้อยก็มีการแบ่งแยก

“ปัญหาสุดคลาสสิกที่อยู่กับสังคมมานานคือ การใช้เส้นสายฝากคนของตัวเองเข้าทำงาน ระบบตั๋วต่างๆ รวมถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด บ่อนการพนัน สถานบันเทิงผิดกฎหมาย ไปจนถึงการค้ามนุษย์ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ล้วนต้องอาศัยการสมคบของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งสิ้น คนทั้งสังคมรู้ว่านี่คือสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงขององค์กรตำรวจและทหาร” รังสิมันต์กล่าว

‘วิโรจน์’ งานเข้า!! ฟากอดีตคนอนาคตใหม่ แฉ!! พรรคอนาคตใหม่ตั้งวอร์รูมถล่มคนเห็นต่าง

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาทันที หลังจาก ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส.อนาคตใหม่และก้าวไกล เรียกเสียงฮือฮา ด้วยการทวีตภาพอุปกรณ์สมาร์ตโฟนหลายเครื่อง ที่กำลังเปิดช่อง TikTok ของตน อวดในทวิตเตอร์ พร้อมข้อความว่า...

“Wiroj 77 @wirojlak
ผมเข้าสู่โลก Tiktok มาได้สักพักแล้วนะครับ
ท่านใดสนใจคอนเท้นต์ Tiktok ของผม ก็
สามารถติดตามได้ที่ tiktok.com /@wirojlak
ได้เลยครับ ( ^____^ )/”

แต่ชาวทวีตดันตาไว ไปเห็น กระดาษโน้ต ใบเล็กๆ ของ เจ้าแม่เพชรออนไลน์ รายหนึ่ง ด้านล่าง ซึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า...

“คอมเมนท์
1. ขอบคุณค่ะ
2. ความรู้ใหม่ๆ ขอบคุณ
3. ชอบคลิปนี้
4. เพิ่งรู้เลย
5. กดติดตามแล้ว
6. FC จ้า
7. แชร์ให้แล้ว
8. ขอแชร์”

ทำให้ ชาวทวิตเตอร์ พากันเข้ามาถามว่า นี่มันคือการปั่นคอมเมนท์ ทำไอโอใช่หรือไม่ โดยที่ ชาวทวิตเตอร์ บางส่วน เริ่มสงสัย ว่า ดร.วิโรจน์ ไปเกี่ยวข้องอะไรกับ มาดาม*** ของ *********** หรือมาใช้บริการปั้นช่อง TikTok กับทีมงานที่ปั้นช่องของมาดาม*** 

โป๊กแตก!! หนนี้ จึงทำให้ ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ต้องรีบลบภาพออกไป ก่อน ทวีตข้อความพร้อมรูปใหม่ว่า... 

“ติดตาม Tiktok ของผมได้ที่ลิ้งค์นี้นะครับ http://tiktok.com/@wirojlak ผมลองทำลองเรียนรู้ มาได้สักพักแล้ว
ขอลงภาพใหม่ เนื่องจากภาพเดิมไปพาดพิงคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องครับ”

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ถูกชาวเน็ตไล่ขุด และจับโป๊ะที่มาของยอดไลก์ ยอดวิว และนิยามของคำว่า ไอโอ กันข้ามวันข้ามคืน

แต่ที่หนักสุด คือ เรื่องนี้เจอแรงแฉจาก ‘ดร.โจ’ อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่ประกาศลาออกจากพรรคไปก่อนหน้านี้ ได้มาโพสต์ข้อความเผยความจริงว่า…“พรรคนายกโซเชียล มีการจ้างบริษัทเอเจนซี่ ตั้งวอร์รูมทำงาน 7:00-24:00 คอยจับตาตามเพจ ทวิตเตอร์ โซเชียลมีเดียต่างๆ แล้วสร้างไอดีผี ซอมบี้ส้ม เข้าไปรุมด่า รุมถล่มคนที่มาวิจารณ์พรรค (รวมถึงปั่นโหวต อิอิ)”

โดย เพจ ดร.โจ ชาญวิทย์ ใจสว่าง ได้คอมเมนต์ตอบกลับผู้ที่แสดงความห่วงใยว่าจะถูกซอมบี้มาถล่ม เพราะ ดร.โจ วิจารณ์พรรคอนาคตใหม่ ไว้ด้วยดังนี้...

‘เฟส ที่ไม่มีตัวตน ถูกสร้างมาจาก บริษัท ดูแลเว็บไซต์ครับ เราตรวจสอบจนพบ มีการใช้ทีมเฝ้าหน้าจอ ที่วิจารณ์พรรค เขาสร้างไว้เป็นร้อยๆ เฟส นับไม่ทัน แล้วจะถล่ม พร้อมกัน ก๊อปภาษา แต่งคำต่างนิดหน่อย แล้วถล่มเรียงกันเลย เขาติดตามทุกคน ที่วิจารณ์พรรค ที่ตั้งแยกไปอยู่อีกสถานที่หนึ่ง (ไม่เปิดเผยออกสื่อนะครับ) ทำงาน 7.00-24.00 เต็มกำลัง รอคิดภาษาสำนวนด่าคน เพื่อให้คนที่ไม่รู้เรื่องราว พลอยเกลียดชังไปด้วยคำเหล่านี้ เฟสเหล่านี้ จะไปถล่ม พร้อมกับเพื่อนการเมืองของผมครับ ดังนั้น ฝ่ายไอทีของผม ตรวจสอบ เฟสผี แล้วสกัด ไม่ให้เข้ามา ด่าทอ อย่างไร้เหตุผล สกรีนตัวตนเฟสก่อน ผมยอมรับความแตกต่าง พูดคุย สอบถามกันนะครับ ว่า จริงเท็จอย่างไร คุยกัน แต่ผม ไม่พร้อมตอบโต้ กับคน ไม่ถามหาข้อมูลแลกเปลี่ยนใดๆ โดยเฉพาะเฟสผี ใช้คนปลอม เข้ามา เพื่อประณาม หยาบๆ อย่างเดียว ขอบคุณครับ คุณริสา รวมถึง ขอบคุณทุกคน ที่ อ่านข้อความนี้ด้วยครับ

'สุวัจน์ - กรณ์' เปิดอนุสรณ์สถานรำลึก 'น้าชาติ-ป้ายพรรคฯ' ส่งสัญญาณลุยเลือกตั้ง ดันทีมศก. ลุยแก้ปัญหาปากท้อง

'สุวัจน์ - กรณ์' ทำพิธีเปิดอนุสรณ์สถานรำลึก 'น้าชาติ' พร้อมเปิดป้ายพรรคชาติพัฒนากล้า ย้ำ!! ความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับชาวโคราช พร้อมเดินหน้าเลือกตั้งเดินเครื่องทีมเศรษฐกิจ ลุยแก้ปัญหาปากท้อง

(12 ต.ค. 65) พรรคชาติพัฒนากล้า จัดงานพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมพิธีเปิดป้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า ที่ จ.นครราชสีมา โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค เป็นประธานในพิธี และคณะกรรมการบริหาร อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค, นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรค, นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค, ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรค ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวโคราชเข้าร่วมในพิธี เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของ พล.อ.ชาติชาย อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาคนแรก

นายสุวัจน์ กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวโคราช ที่มาร่วมงานพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งย้ายมาจากสำนักงานพรรคชาติพัฒนาเดิม จ.กรุงเทพมหานคร มาไว้สำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า จ.นครราชสีมา พร้อมกล่าวรำลึกถึง พล.อ.ชาติชาย ทั้งในฐานะนักการทูต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่นโยบายต่างประเทศ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การพัฒนาเขตอีสเทิร์นซีบอร์ด จนทำให้ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 10 ต่อ GDP ได้รับขนานนามว่าเป็นเสือตัวที่ 5 แห่งเอเชียในยุคนั้น เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ ปราศจากความขัดแย้งทางการเมือง พร้อมย้ำถึงความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับชาวโคราช ผ่านโครงการ เขตอุตสาหกรรมสุรนารี, สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า, โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, สวนสัตว์นครราชสีมา

ส.ส.เพื่อไทย ห่วงน้ำเหนือล้นเจ้าพระยาท่วมชุมชน ไล่จี้รัฐบาล 'ตั้งใจบริหาร - จัดการให้ทันท่วงที'

นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลท่วมในบ้าน โดยระดับน้ำสูง เกือบเท่าปี 2554 (เหลืออีก 30 เซนติเมตรจะเท่าปี 2554) เนื่องจากพบว่าในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณมากกว่าที่ทางการแจ้งมา ทำให้พี่น้องประชาชนในบางพื้นที่ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำถูกน้ำท่วมล้นเข้ามาในบ้าน เช่น ที่ชุมชนสะพานพระราม 5 ใต้สะพานพระราม 5 ชุมชนประชาราษฎร์ ย่านถนนพิบูลสงคราม จึงมีความเป็นห่วงว่าน้ำทะเลหนุนที่จะเข้ามาในช่วงนี้ และหากน้ำเหนือ ที่จะไหลลงมาเติมในแม่น้ำพระยา ไหลเข้ามาสมทบแม่น้ำเจ้าพระยา อาจจะทำให้น้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชนได้ จึงได้ประสานความร่วมมือไปยังเทศบาลนครนนทบุรีในการเตรียมความพร้อมนำกระสอบทรายและเครื่องสูบน้ำประจำการในหลายพื้นที่แล้ว บางจุดสามารถเสริมกระสอบทรายได้ทันที แต่บางจุดไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากต้องบริหารทรัพยากรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่

กมธ.แรงงาน รับเรื่องคนไทยถูกหลอกไปทำงานเก็บเบอร์รี่ เร่งประสานความช่วยเหลือฉุกเฉินรายละ 30,000

กมธ.แรงงาน รับหนังสือคนไทยถูกหลอกไปทำงานเก็บเบอร์รี่ ปธ.กมธ.ยันเร่งประสานความช่วยเหลือฉุกเฉินรายละ 30,000 ย้ำ!! กระทรวงแรงงานตรวจสอบบริษัทหางานให้รัดกุม

(12 ต.ค. 65) สภาผู้แทนราษฎรกลุ่มคนงานเก็บเบอร์รี่ป่าฟินแลนด์ ปี 2556 ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ สุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร 

ธีรศักดิ์ ภักดีนพรัตน์ ตัวแทนกลุ่มเปิดเผยว่าตนและเพื่อนคนไทยรวม 50 ชีวิต ได้เดินทางไปเก็บเบอร์รี่ที่ประเทศฟินแลนด์ให้กับบริษัท Ber-Ex ในปี 2556 เมื่อไปถึงกลับต้องเผชิญกับสภาพการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม กฎหมายแรงงานไม่ให้ความคุ้มครอง จึงเรียกร้องให้ทางรัฐบาลฟินแลนด์รับทราบปัญหาและขอความช่วยเหลือในระหว่างที่อยู่ในประเทศฟินแลนด์และมีการดำเนินการส่งตัวกลับประเทศไทยนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2556 

จากนั้นได้ดำเนินการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2557 แต่กลับถูกเพิกเฉยมาตลอด 9 ปี จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาลไทย ทั้งที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนงาน 50 ชีวิต สร้างความทุกข์และความเดือดร้อนให้พวกเขาและครอบครัว แรงงานบางรายต้องขายบ้านขายที่ดินเพื่อหาทุนเดินทางไป บางคนหมดเนื้อหมดตัวดิ้นรนเพื่อหาเงินมาชดใช้หนี้ 

ซึ่งการเข้ายื่นหนังสือต่อกรรมาธิการแรงงานในวันนี้หวังว่าจะสามารถเปิดโปงขบวนการค้าแรงงานทาสมาทำงานที่ฟินแลนด์ซึ่งขบวนการนี้มีอิทธิพลสูงและมีการจ่ายรับสินบนเพื่อให้การขนแรงงานไปทำงานที่ประเทศฟินแลนด์อย่างราบรื่นไม่ถูกสกัดกั้น

'ทักษิณ' ได้ทีซัดรัฐบาลไม่ปราบยาเสพติด หากินกับตำรวจ กรรมตกอยู่กับประชาชน สร้างวาทะกรรมฆ่าตัดตอนเพราะจะรัฐประหารตนเอง ตั้งกก.สอบแล้วไม่พบสักราย ตาย 80 คน เพราะต่อสู้กับตำรวจ

(12 ต.ค.65) เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ CareTalk x CareClubHouse หัวข้อ ปราบยาบ้า - คุมอาวุธ คืนความสุขที่แท้จริงให้คนไทย โดยระบุว่า

“...เคยเห็นรัฐบาลทำลายยาเสพติดไหม ไม่รู้เวียนเทียนกลับมาหรือเปล่า ผมไม่ด่าตำรวจนะ แต่ผมด่ารัฐบาลที่หาแดกกับตำรวจมากกว่า...”

เรื่องยาเสพติด วันนี้เนี่ยค้ายากันเยอะมาก จับยากันแต่เคยเห็นรัฐบาลทำลายยาเสพติดไหม ตอนสมัยผมอยู่ จับได้ทีเป็น 20-30 ตัน แล้วผมสั่งให้เผาทีเดียว ขอเตาที่นวนครเผาเกลี้ยงหมดไม่ให้เหลือ แล้วตำรวจที่จับยาได้แล้วนำส่งของกลาง ผมให้เม็ดละ 50 สตางค์เป็นรางวัลนำจับแล้วเผาทำลาย

ไม่รู้วันนี้เวียนเทียนกลับมาหรือเปล่า ผมไม่ด่าตำรวจนะ แต่ผมด่ารัฐบาลที่หาแดกกับตำรวจ หากินกับการเลื่อนตำแหน่งของตำรวจ บาปกรรมมาก เพราะกรรมนี้มันมาตกอยู่กับประชาชน

“เขาสร้างวาทกรรมฆ่าตัดตอนเพราะจะรัฐประหารผม แต่พอตั้งกรรมการสอบกลับไม่พบว่าผมสั่งฆ่าตัดตอนแม้แต่รายเดียว”

‘ธนกร’ จวก ‘ธนาธร’ เสนอนิรโทษกรรม ม.112 ซัด แค่หาทางลงให้ตนเอง อย่าอ้างคนส่วนใหญ่

‘ธนกร’ จวก ‘ธนาธร’ เสนอนิรโทษกรรมคดี ม.112 อย่าเอาความต้องการของตัวเองมาอ้างว่าเป็นความเห็นคนส่วนใหญ่ ลั่นคนติดคุกเพราะจงใจจาบจ้วงสถาบัน อัดถ้าไม่อยากอยู่ก็ออกไป ไม่ใช่ชักศึกเข้าบ้าน ชี้นิสัยคนไทย กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ไม่ใช่กล้าทำแล้วค่อยหนีไปต่างประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เสนอนิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 พร้อมทั้งระบุว่า การพูดถึงประเด็นปฏิรูปสถาบันเป็นเสรีภาพที่ทำได้ ไม่ใช่อาชญากรรมว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่จำเป็นต้องนิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 เพราะไม่มีใครต้องมาติดคุกเพราะจาบจ้วงสถาบัน แต่ปัจจุบันที่มีก็เพราะคนบางกลุ่มมักไปปลุกปั่นเยาวชนด้วยชุดข้อมูลผิด ๆ ดังนั้น การที่มีคนติดคุกตามมาตรา 112 อยู่ในขณะนี้ เป็นเพราะคนเหล่านั้นจงใจจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปเลย แยกแยะให้ออก

'ส.ส.เพื่อไทย' ชี้!! อุบลฯ จมน้ำ แต่ส.ส. ทำได้แค่มอง โวย!! กฎเหล็กกกต.ขวาง ทำให้ช่วยได้ไม่เต็มกำลัง

นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น้ำท่วมใน อ.วาริณชำราบ จ.อุบลราชธานี ระดับยังคงท่วมสูงเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนจมมิดหลังคา พื้นที่เศรษฐกิจ ที่ดินทำกินของเกษตรกรถูกน้ำท่วมเสียหาย 100%  ถนนที่ใช้สัญจรเข้าออกภายใน อ.วาริณชำราบ จากที่มี 4 เส้นทาง เหลือเพียง 1 เส้นทาง หากมีมวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ และฝายจากศรีสะเกษ เข้ามาเพิ่ม จะทำให้ประชาชนต้องใช้เรือสัญจรแทนรถยนต์ 

ทั้งนี้สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาจากระดับน้ำจากลำน้ำชีและลำน้ำมูล ไหลมารวมที่ อ.วาริณชำราบ โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูงมาก เกือบเท่าปี 2521 โดยระดับแม่น้ำมูล ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2565 อยู่ที่ 116.47 เมตร เมื่อเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง 

ขณะที่ในปี 2521 ระดับน้ำในแม่น้ำมูลอยู่ที่ 117.76 เมตร ตำบลที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมก็ท่วมเต็มพื้นที่ ตั้งแต่มีน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวเคยถูกน้ำท่วมแค่ในปี 2521 และ 2562 เท่านั้น พี่น้องประชาชนกว่า 1,500 ครอบครัวต้องอพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ตอนนี้น้ำท่วมกระจายไปอำเภออื่น ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้กระจายกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือแต่ก็ยังไม่เพียงพอและเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะกระแสน้ำมาแรงมาก มีความอันตรายและมีความเสี่ยงเช่นกัน

นางสาวกิตติ์ธัญญา กล่าวอีกว่า ด้วยกฎเหล็ก 180 วันของ กกต. ทำให้ผู้แทนราษฎร ซึ่งพี่น้องประชาชนเลือกเข้ามาทำงาน หนักใจมาก เพราะอยากช่วยประชาชนมากแต่ต้องเคารพกติกา ที่ผ่านมาทั้งในสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2562 และการระบาดของโควิด-19 ส.ส.ยังสามารถให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เต็มที่ นำอาหาร ของใช้จำเป็น ยารักษาโรค รถยนต์ขนคนออกจากพื้นที่ ตอนนี้ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ เพราะไม่มีความชัดเจนมากพอว่าสามารถทำได้หรือไม่ จึงอยากให้ผู้มีอำนาจแคร์ประชาชนบ้าง ประชาชนคือเจ้านาย ส.ส. แต่ ณ วันหนึ่งเมื่อผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องหยุดช่วยเหลือเจ้านายตัวเอง ทำได้แค่ยืนมอง คนที่เสียประโยชน์คือพี่น้องประชาชน อยากร้องขอผู้มีอำนาจ ทุกภาคส่วน ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อไทยเท่านั้น ใครที่มีองคาพยพ มีของบรรเทาทุกข์ พวกท่านสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันที อยากให้ทุกคนมาช่วยกัน

'ก้าวไกล' ร้องป.ป.ช.เอาผิด 'จุติ ไกรฤกษ์' ปม บมจ.เคหะสุขประชา สูบงบฯ การเคหะ

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นสืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กรณีโครงการเคหะสุขประชา ที่ส่อมีการทุจริตฝ่าฝืนกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างพัสดุในการจัดจ้างถมดิน การจ้างช่วงและการเอื้อประโยชน์ให้บริษัท จัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด หรือ เซ็มโก้ (CEMCO) รวมถึงการตั้ง บมจ.เคหะสุขประชาที่หาประโยชน์จากสินทรัพย์ของการเคหะ

โดยวันนี้ณัฐชา นำหลักฐานประกอบจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนว่านายจุติ ไกรฤกษ์ มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่รวมถึงใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งอาจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 รวมถึงขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งประกอบด้วย...

นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย กรรมการการเคหะแห่งชาติ และ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ที่มีมูลความผิดอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจตัดสินใจในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเข้ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ตามมาตรา 152 และฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ตามมาตรา 157

'เพื่อไทย' ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวอยุธยา ชี้!! ถ้าได้เป็นรัฐบาลแก้ปัญหาน้ำท่วมได้แน่นอน

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่จ.พระนครศรีอยุธยา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคพเพื่อไทย เดินทางไปที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานผักไห่ เพื่อลงเรือเยี่ยมพี่น้องประชาชน บริเวณแม่น้ำน้อย องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลาดชิด อ.ผักไห่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย จากนั้น น.ส.แพทองธารพร้อมคณะเดินทางมาที่วัดลาดชิด เพื่อพบปะประชาชนเกือบ 100 คนที่ได้รับความเดือดร้อน 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยมาหาพี่น้องประชาชนเพื่อมาให้กำลังใจ ตนได้ลงเรือเห็นแล้วว่าระดับน้ำสูงมาก ขอให้กำลังใจทุกท่าน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เรามั่นใจว่าจะจัดการดูแลเรื่องน้ำให้ประชาชนดีกว่านี้แน่ ๆ ตนอยากจะดีดนิ้วให้น้ำมันหายไปให้หมด เพื่อให้พี่น้องอยู่กันสบาย ๆ แต่ไม่มีซูเปอร์พาวเวอร์ ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเพื่อมีแรง กำลังและอำนาจในการช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้กับพี่น้องให้ดีขึ้นกว่านี้ ตอนนี้ขอส่งกำลังใจด้วยความจริงใจจากพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยก็กระจายกำลังกันทำหน้าที่ อะไรที่เราทำได้ เราทำแน่ ขอให้พี่น้องสบายใจ แต่ตอนนี้ขอให้กำลังใจพี่น้องเต็ม ๆ ไปก่อน 

จากนั้น น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เห็นใจพี่น้องประชาชน เห็นว่ามีระดับน้ำเยอะ ทุกคนดูมีกำลังใจและมีพลังบวก เรามาหาชาวบ้านแต่ชาวบ้านกลับยิ้มแย้มแจ่มใส และให้กำลังใจประชาชน เก่งมาก ๆ ตนขอชื่นชมจากใจที่ชาวบ้านเจอปัญหานี้แล้วยังมีกำลังใจ มีน้ำใจให้กับพรรคเพื่อไทยและพวกเราทั้งหมด 

เมื่อถามว่าจะมีการสานต่อโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไป เราต้องกลับมามาดูแลเรื่องน้ำแน่นอน แต่ต้องดูรายละเอียดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านน้ำและพรรคเพื่อไทยด้วย แน่นอนว่านี่เป็นปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนและต้องนำมาแก้ไข

เมื่อถามต่อว่าโครงการดังกล่าวเคยมีเสียงวิจารณ์ แสดงว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาทบทวนใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เดิมเรามีแผนโครงการบริหารจัดการน้ำฯ ขณะนั้น เราได้บูรณาการแผนทั้งหมด ปรากฏว่าระหว่างนั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อน ทำให้แผนต้องหยุดชะงักลง ถ้ามีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล เราก็จะยึดแผนเดิมอยู่ ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงโครงการฯ ที่น.ส.แพทองธารพูด บางส่วนอาจมีความจำเป็น เพราะวันนั้นกับวันนี้มันต่างกันร่วม 10 ปีแล้ว ก็อาจจะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงการฯ

เมื่อถามว่าหากโครงการนี้ยังคงอยู่ปัญหาน้ำท่วมจะดีขึ้นกว่านี้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าดีขึ้น ถ้าโครงการยังอยู่และมีการปฏิบัติตาม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top