Saturday, 4 May 2024
POLITICS

'ก้าวไกล' โดดเดี่ยว พรรคการเมืองแห่ประกาศไม่แก้ 112 จับตา 'เพื่อไทย' หนุนหรือค้าน?

จากกรณีพรรคก้าวไกล เปิดนโยบายหาเสียงเลือกตั้งชุดแรก โดยหนึ่งในนั้นคือนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นการเปิดหน้าชัดเจน และยังเป็นการโยนความกดดันให้กับพรรคพันธมิตรอย่างพรรคเพื่อไทยว่าจะตัดสินใจอย่างไร หากวันข้างหน้าต้องเจรจาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพื่อไทยจะสนับสนุนนโยบายนี้หรือไม่ เพราะหากเพื่อไทยยอมรับนโยบายนี้ก็เท่ากับสนับสนุนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่หากไม่สนับสนุน ก้าวไกลก็อาจไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตามจะมีวันนั้นหรือไม่ถึง เรามาสำรวจจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นๆต่อกฎหมายมาตราดังกล่าว ซึ่งชัดเจนว่าส่วนใหญ่ต่างประกาศไม่แก้ไขมาตรา 112

เริ่มที่ พรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้พูดในหลายครั้งว่า พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจนคือ ปกป้องชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายและไม่มีความคิดเรื่องแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งไม่เข้าใจว่าคนที่เสนอแก้ไขเดือดร้อนอะไรกับมาตรา 112 พร้อมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่ากฎหมายมาตรา 112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะทำผิดกฎหมาย จึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมายให้สิ่งที่ตนจะทำเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะขัดขวางการแก้ไขถึงที่สุด รวมทั้งจะไม่ร่วมมือหรือร่วมทำงานกับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่มการเมืองที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ทุกระดับ รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหรืออีกกี่ครั้งก็ตาม

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำจุดยืนของพรรประชาธิปัตย์ว่า พรรคยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่มีประเทศใดในโลก ที่ไม่มีกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ ไม่ว่าจะปกครองในระบอบใด

ส่วนนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ตำหนิพรรคก้าวไกลว่า นโยบายหาเสียงไม่สร้างสรรค์ เป็นการสร้างความแตกแยก นอกจากนี้พรรคไทยภักดีได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต .เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนโยบายของพรรคก้าวไกล ว่าการเสนอนโยบายให้มีการแก้ไขกฎหมาย ม.112 และ ม.116 ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Top Talk ทางท็อปนิวส์ ออกอากาศเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ว่า มาตรา 112 ต่างจากกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทประชาชนทั่วไปอย่างไร ถ้าเราไม่ทำผิดเราก็ไม่ถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งถามว่ากฎหมายในลักษณะเดียวกับ 112 สหรัฐอเมริกามีหรือไม่ ทำไมไม่ไปเลิกที่สรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศแม่บท ทำไมต้องเลิกที่ประเทศไทย

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า จุดยืนของพรรคพรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่ไปยุ่งอะไรกับมาตรา 112 เพราะตั้งแต่ตนเกิดมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่เห็นคนทั่วไปมีปัญหา อีกทั้งปัจจุบันขนาดบุคคลธรรมดายังมีคดีหมิ่นประมาทอยู่ในศาลตั้งหลายร้อยหลายพันคดี มาตรา 112 ไม่ใช่มาตราที่หาเรื่องใคร แต่ใช้เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รัก หากมีใครอุตริไปหาเรื่องเราจะต้องมีอุปกรณ์หรือกฎหมายปกป้องสถาบันได้ ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดก็ต้องมีมาตรา 112 รอให้ดินกลบหน้า ตนไม่ยอมแก้มาตรา 112 แน่นอน

ขณะที่นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า จุดยืนของพรรคเราชัดเจนคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งก็เป็นมาแบบนี้โดยตลอด และไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 เพราะสถาบันไม่ได้ทำอะไรให้ และตนก็ไม่เข้าใจพรรคก้าวไกลว่าทำไมจึงเสนอนโยบายแบบนั้น และหากพรรคก้าวไกลเสนอเรื่องดังกล่าวเข้ามาในสภาฯ ทางพรรคพลังท้องถิ่นไทก็จะคัดค้านอย่างแน่นอน

ด้านพรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค แสดงความเห็นเรื่องนี้โดยไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลคิดอะไร แต่ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้าชัดเจนว่าจะไม่นำเรื่องนี้ และเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันมาเป็นนโยบายหาเสียง ตอนนี้ใกล้จะเลือกตั้ง ตนไม่อยากให้หยิบยกเรื่องมาตรา 112 มาเป็นประเด็น อย่าทำทุกอย่างไปสู่ความขัดแย้ง

ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรครวมพลัง หรือพรรครวมพลังประชาชาติไทยเดิม เคยกล่าวถึงจุดยืนต่อมาตรา 112 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ว่า เนื้อหาสาระของกฎหมายคือการห้ามไม่ให้ไปดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แล้วที่ต้องมีกฎหมายนี้เพราะเป็นการถวายพระเกียรติยศ ถวายความเคารพสักการะในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นประมุขของประเทศ เหมือนกับประชาชนในประเทศอื่นทั้งหลายที่เขาให้ความเคารพยกย่องประมุขของประเทศเขา ตนยืนอยู่ข้างกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขมาตร112 เพราะตนเองเห็นว่าที่บัญญัติไว้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้วหรับประเทศไทย

ส่วนท่าทีของพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ขอวิจารณ์นโยบายแก้มาตรา112ของพรรคก้าวไกล อยู่ที่ประชาชนจะพิจารณาแล้วตัดสินใจ โดยอ้างว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ เรื่องเศรษฐกิจปากท้องประชาชน

'อ.ไชยันต์' ชี้ สื่ออังกฤษยังแนะปชช.พกวิทยุทรานซิสเตอร์ สะท้อน 'บิ๊กตู่' เป็น 'กัปตัน' ที่สามารถรักษาความปลอดภัยได้

(22 ต.ค.65) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า...

แม้ผมจะขอให้ ลุงตู่ วางมือทางการเมือง

(ซึ่งผมก็ยังเห็นเช่นนั้นอยู่)

แต่ผมยอมรับว่า ท่านไม่ได้เป็นแค่เพียง “รปภ”

แต่เป็นทั้ง “กัปตันที่สามารถรักษาความปลอดภัย” ได้ในเวลาเดียวกัน ครับ

เรื่องวิทยุทรานซิสเตอร์

“The public would be advised to use car radios or battery-powered receivers to listen to emergency broadcasts on FM and long-wave frequencies usually reserved for Radio 2 and Radio 4.”

จาก หนังสือพิมพ์ the Guardian วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565

ทั้งนี้ อ.ไชยันต์ ได้ให้มุมมองดังกล่าว โดยสะท้อนจากประเด็น เมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 ที่สำนักข่าว The Guardian อ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าว BBC โดยรายงานว่า สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมง ซึ่งถ้าหากรัสเซียปิดท่อแก๊สทั้งหมดที่ส่งมายังยุโรป โรงไฟฟ้าในสหราชอาณาจักรอาจต้องงดจ่ายกระแสไฟฟ้าวันละ 3 ชั่วโมง ระหว่าง 16.00 - 19.00 น. โดยเฉพาะในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อากาศหนาวมาก แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีกระแสลมมากพอในการสร้างกระแสไฟฟ้าจากกังหันลม

ยิ่งไปกว่านั้น วิกฤตขาดแคลนพลังงาน อาจส่งผลกระทบให้สหราชอาณาจักรต้องประสบปัญหาไฟดับนานมากถึง 36-48 ชั่วโมง กว่าจะสามารถกู้ระบบพลังงานกระแสไฟฟ้าให้กลับมาใช้งานได้ปกติ ซึ่งวิกฤตไฟฟ้าดับจะเกิดขึ้นเกือบทั่วประเทศ ทั้งในอังกฤษ, สกอตแลนด์ และเวลส์ ยกเว้นไอร์แลนด์เหนือที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงาน เนื่องจากไอร์แลนด์เหนือ ได้รับพลังงานไฟฟ้าจากประเทศไอร์แลนด์

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว BBC ได้เตรียมร่างหนังสือสำหรับออกอากาศแจ้งเตือนไปยังประชาชนในสหราชอาณาจักร ให้เตรียมรับมือกับวิกฤตไฟฟ้าดับ ซึ่งจะทำให้ระบบต่างๆ ใช้งานไม่ได้ เช่น เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเตอร์เน็ต ระบบการเงินธนาคาร สัญญาณไฟจราจร และระบบบริการสาธารณะต่างๆ อีกมากมาย ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

>> พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนในสหราชอาณาจักร เตรียมจัดหาวิทยุทรานซิสเตอร์ (battery-powered receivers) สำหรับรับฟังข้อมูลข่าวสารในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือจะใช้วิทยุภายในรถยนต์ในการรับฟังข้อมูลข่าวสารก็ได้เช่นกัน โดยสถานนีวิทยุ Radio 2 และ Radio 4 ของ BBC จะแจ้งข้อมูลข่าวสารผ่านระบบสัญญาณวิทยุ FM

'ก้าวไกล' ผิดหวัง 'กสทช.' แค่รับทราบควบรวม 'ทรู-ดีแทค' จ่อยื่นป.ป.ช.เอาผิด ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

(21 ต.ค. 65) ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติ 3 ต่อ 2 เสียงรับทราบการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือทรู และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แบบมีเงื่อนไข โดยมีการกำหนดมาตรการเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้น ว่า เป็นไปตามที่คาดเดา แต่ยังคงผิดหวัง เพราะเราคาดหวังไว้ว่า กสทช.จะใช้อำนาจตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งหากสังเกตมติครั้งนี้ไม่ใช่การอนุญาตให้ควบรวมแต่เป็นการรับทราบ มีการโหวต 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการลงมติว่าสรุปแล้วกสทช.มีอำนาจให้ควบรวมหรือไม่ สิ่งที่ลงมติออกมาเป็น 2 ต่อ 2 เสียง ซึ่งก็เป็นประเด็นว่าในการลงมติเรื่องนี้จำเป็นจะต้องได้เสียงข้างมากของคณะกรรมการทั้งหมด คืออย่างน้อยต้องได้ 3 เสียงแต่กรณีนี้เป็นการที่คะแนนเท่ากัน จึงต้องให้ประธานชี้ขาด ซึ่งจะใช้ในกรณีที่เป็นกรณีพิเศษไม่ใช่ในกรณีนี้ ตามข้อบังคับการประชุมของกสทช.

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า เมื่อมาดูมติเสียงข้างมากบอกว่าตัวเองไม่มีอำนาจที่จะอนุญาตและใช้วิธีเพียงแค่การรับทราบผลการขอควบรวมธุรกิจ แสดงว่ากสทช.ตีความว่า ทรูและดีแทคไม่ได้อยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกัน ซึ่งค้านสายตาคนทั้งประเทศ และการที่ออกมาตรการหรือเงื่อนไขภายหลังแบบนี้ ตนคิดว่าสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีสำหรับกฎหมายกำกับดูแลในประเทศนี้ ถ้าต่อไปเอไอเอสต้องการจะควบรวมกับ 3BB เขาจำเป็นต้องขออนุญาตหรือไม่ และในกรณีนี้จะนับว่าเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันอีกหรือไม่ ฉะนั้น ตนคิดว่ามีปัญหาตั้งแต่กระบวนการโหวตและการตีความกฎหมายทั้งคู่ ผลที่ออกมาในส่วนที่เป็นเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะในหลายเรื่องทั้งในเรื่องเชิงโครงสร้างและในเชิงพฤติกรรม ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกพอใจแล้วว่ามาตรการที่จะช่วยควบคุมราคา แต่ขอบอกว่าไม่มีการตัดสินของการอนุญาตควบรวมใด ๆ ในโลกนี้ที่ให้รัฐเป็นผู้ควบคุมราคา เพราะทราบกันดีว่าในความเป็นจริงทำได้ยากมาก

“ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นจะต้องมีที่สุดคือมาตรการในเชิงโครงสร้างไม่ว่าจะเป็นการขายลูกค้าให้กับเจ้าอื่น หรือขายคลื่นหรือคืนคลื่นออกมาในส่วนที่มีถือครองคลื่นเกินจำนวนที่กสทช.กำหนดไว้ หรือการใช้เสาสัญญาณร่วมในราคาที่เป็นธรรม ที่สำคัญที่สุดคือทำให้เกิดผู้เล่นรายใหม่ขึ้นเป็นเจ้าที่ 3 ซึ่งในกรณีนี้ต้องมีการกันคลื่นไว้ส่วนหนึ่งเพื่อที่จะนำไปประมูลสัมปทานให้กับรายใหม่ได้ และอาจจำเป็นต้องให้แต้มต่อกับรายใหม่ให้ได้ราคาที่ถูกเป็นพิเศษด้วยซ้ำ เพื่อดึงดูดให้มีรายที่ 3 เข้ามา จึงคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเงื่อนไขและมาตรการที่ไม่เพียงพอที่จะกู้คืนสภาพการแข่งขันที่เคยมีอยู่ 3 เจ้าได้เลย จึงเป็นที่มาของการคัดค้านการตัดสินใจของ กสทช. ในครั้งนี้ต่อไป เนื่องจาก กสทช.ไม่ได้ใช้อำนาจของตัวเองอย่างที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

'ก้าวไกล' ซัดรัฐแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ครอบคลุม ปล่อยให้ประชาชนหนี้สินท่วมหัวพร้อมกับน้ำ

'ก้าวไกล' ซัดรัฐบาลไม่รู้ร้อนรู้หนาว จี้เร่งเยียวยาน้ำท่วมรวดเร็ว-ครอบคลุม-ทั่วถึง อย่าปล่อยให้ประชาชนหนี้สินท่วมหัวพร้อมกับน้ำ

(21 ต.ค. 65) กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมกับพงษ์เดช เดชกล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เขต 9 จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนใน อ.ยางชุมน้อย และ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เพื่อรวบรวมข้อมูลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม แล้วนำไปประมวลเป็นรายละเอียดเพื่อเสนอต่อรัฐบาลในการออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป

โดยในหลายพื้นที่มีน้ำท่วมไร่นาทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน 100% ทำให้ชาวบ้านไม่มีข้าวสำหรับบริโภคภายในครัวเรือนและไม่มีรายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรเนื่องจากไร่นาเสียหายถูกน้ำท่วม เมื่อไม่มีรายได้ก็กระทบต่อวงจรการชำระหนี้ ทำให้มีหนี้สินพอกพูนขึ้นไปอีก

ส่วนบ้านเรือนก็ถูกท่วมมิดหลังคา จนต้องย้ายออกมาอยู่ศูนย์อพยพที่ทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจัดหาไว้ให้ เบื้องต้นประเมินว่ามีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต้องซ่อมแซมบ้านทั้งหลังเนื่องจากจมน้ำมิดหลังคา บางรายอาจต้องใช้เงินซ่อมกว่า 100,000 บาท แต่เมื่อย้ายออกมาแล้ว ก็ประกอบอาชีพลำบาก หุงหาอาหารทุลักทุเล แม้จะพอได้รับความช่วยเหลืออยู่บ้างแต่ก็มีต้นทุนชีวิตที่สูงกว่าปกติ

‘ก้าวไกล’ ก้าวไม่หยุด เดินหน้าต่อแก้ 112 ทำตามนโยบายหาเสียงที่ให้ไว้ต่อประชาชน

(21 ต.ค. 65) นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่หลายพรรคการเมืองแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายที่พรรคก้าวไกลประกาศออกมาว่า อันที่จริงแล้วเรายื่นขอให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับความผิดฐานหมิ่นประมาทที่รวมถึงมาตรา 112 ไปเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ท้ายที่สุดทางเจ้าหน้าที่ของสภายังไม่ได้นำเข้าสู่ระบบ ซึ่งเท่ากับว่าจะไม่สามารถบรรจุวาระได้ เราเสียดายโอกาสตรงนี้เป็นอย่างยิ่งเพราะคิดว่า หากมีการเข้ากระบวนการตามปกติ ก็จะนำไปสู่การพูดคุยกันในสภา ว่ากฎหมายนี้ควรจะต้องมีการแก้ไขหรือไม่ รวมไปถึงคนที่ไม่เห็นด้วยก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้เช่นกัน แต่นั้นก็คือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว แต่เราเชื่อว่าอีกไม่กี่เดือนที่เหลือ ก็คงไม่ทันที่จะบรรจุวาระแน่นอน 

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่มีหลายพรรคแสดงความคิดเห็นออกมานั้น ตนมองว่ามันปนกันอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือ แต่ละพรรคค่อนข้างเห็นด้วยว่าสมควรที่จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ความจริงบางพรรคเสนอว่าเห็นควรที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ โดยสภาผู้แทนราษฎรโดยการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งหากกล่าวเช่นนี้ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องพิจารณาทุกหมวดตั้งแต่หมวดที่หนึ่ง หมวดที่สอง หรือหมวดอื่น ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถือว่าเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ก็มีบางพรรคการเมืองให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้รวมถึงการไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

'เพื่อไทย' ชี้!! ปัญหากดขี่-เอาเปรียบในกองทัพยังอยู่ จี้!! 'ประยุทธ์' จัดการปัญหา ให้สม 'ผู้นำชายชาติทหาร'

(21 ต.ค. 65) ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวกระบวนการหักหัวคิวเงินกู้ซื้อบ้านพักสวัสดิการทหาร โดยมีอดีตนายทหารชั้นผู้น้อยและบริษัทผู้ประกอบการสร้างบ้านเข้าให้ข้อมูลกับสื่อจนถูกข่มขู่ซ้ำอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกซุกไว้ใต้พรม แม้จะถูกเปิดโปงภายหลังเหตุโศกนาฏกรรมที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 แต่วงจรอุบาทว์นี้ยังคงวนเวียนกัดกร่อนสังคมไทยไม่ถูกแก้ไขมาจนทุกวันนี้จนเกิดการร้องเรียนขึ้นอีก 

ประชาชนคนไทยรู้สึกผิดหวังละอายใจที่ต้องรับฟัง ‘ชุดคำตอบ’ เดิม ๆ จากผู้รับผิดชอบว่า ‘เป็นการกระทำส่วนบุคคล’ ทั้งที่สาเหตุหลักของการเหตุสลดต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีที่มาจาก ‘ระบอบอำนาจนิยมภายในกองทัพ’ ที่ทหารชั้นผู้น้อยถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งในมิติของอำนาจ ค่าจ้าง และความเป็นมนุษย์ ใช่หรือไม่ การกดขี่ทางชนชั้นของกองทัพเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในสังคมไทย สะท้อนผ่านหลายกรณี เช่น ทหารรับใช้แรงงานฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย กำลังพลล่องหนใน กอ.รมน. หรือคลิปการใช้อำนาจของผู้นำหน่วยขณะสั่งสอนทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งในยุคสมัยนี้ไม่ควรต้องมีใครถูกกดทับด้วยอำนาจภายใต้เงินภาษีของประชาชนอีกแล้ว

'นริศ' ย้ำ!! 'สร้างอนาคตไทย' ยังไม่มีดีลรวมกับพรรคไหนทั้งสิ้น

วันที่ (21 ต.ค. 2565) ที่พรรคสร้างอนาคตไทย นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรคและโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการรวมพรรคสร้างอนาคตไทยกับพรรคอื่น ๆ ว่า พรรคสร้างอนาคตไทยยืนยันว่าพรรคไม่มีแนวคิดเช่นนั้นแต่อย่างใดตามที่ผู้บริหารพรรคสร้างอนาคตไทยได้เคยชี้แจงไปแล้ว หากพรรคจะร่วมมือกับใคร จะต้องให้เกิดพลังทางการเมืองเพื่อประโยชน์ในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง และหากจะมีการรวมกันก็จำเป็นต้องเห็นตรงกันในอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน รวมถึงแนวทางการทำงาน ขอเรียนยืนยันว่าขณะนี้พรรคยังไม่มีข้อตกลงที่จะรวมพรรคกับพรรคใด ๆ ทั้งสิ้น 

นายนริศ กล่าวย้ำว่า ขณะนี้พรรคกำลังทำงานในการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม และนำพาประเทศออกจากวิกฤติทางเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่นี้ไปให้ได้

‘ทิพานัน’ ยก ‘บิ๊กตู่’ สร้างแต่ความเจริญ ซัด ‘หนี้โกงจำนำข้าว’ ต่างหากคือมรดกบาป

‘ทิพานัน’ ยกผลงาน ‘พล.อ.ประยุทธ์’ มีแต่ ‘มรดกแห่งความเจริญ’ ตอกเพื่อไทย ‘มรดกบาป’ คือหนี้โกงจำนำข้าวและอดีตนายกฯคอร์รัปชันสร้างตำนานถุงขนม 2 ล้าน ทำลายกระบวนการยุติธรรม 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยออกมาแสดงความกังวล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะออกพระราชกำหนดกู้เงินอีก 1 ล้านล้านบาทเพื่อการเมือง ไม่เกิดประโยชน์และทิ้งมรดกบาปให้กับประชาชนว่า พรรคเพื่อไทยอาจเข้าใจผิด เพราะสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์สร้างไว้ มีแต่ ‘มรดกแห่งความเจริญรุ่งเรือง’ ให้กับประเทศไทยและเกิดประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ เห็นได้ชัดโครงการรถไฟฟ้าหลายสายที่กำลังทยอยเปิดใช้บริการ โครงการรถไฟความเร็วสูง-ทางคู่ การยกระดับคมนาคมทางถนน-ทางราง ยกระดับสนามบินภูมิภาค และปรับปรุงคมนาคมทางน้ำ จนเกิดเป็นศูนย์กลางการเชื่อมการเดินทางแบบไร้รอยต่อของภูมิภาค 

มีการขยายการลงทุนเดินหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยกระดับสวัสดิการสังคมด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างยั่งยืนทำให้สหภาพยุโรปปลดล็อกใบเหลือง IUU ประมงไทย รวมทั้งแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ปรับภูมิทัศน์ริมคลองเน่าหลายสายและสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน นอกจากนี้ในเวทีระดับนานาชาติ ประเทศไทยยังได้รับการยอมรับติดอันดับโลกในหลายด้านหลากมิติ ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index - HDI) ของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน

“ที่สำคัญคือสามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือหลายด้าน เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ และเพิ่มรายได้ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวอย่างมรดกความเจริญที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงมือทำไว้” น.ส.ทิพานัน กล่าว

'เพื่อไทย' จับตา!! 'ประยุทธ์' กู้เงินช่วงใกล้หมดวาระฯ หวั่น!! ใช้เงินเล่นเกมการเมือง มากกว่าทำเพื่อปชช.

(21 ต.ค. 65) ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าเหลือเวลาอีกไม่นาน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็จะหมดวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ แต่สิ่งที่นายกฯ จะทำต่อจากนี้คือการออกพระราชกำหนดเงินกู้อีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้จ่าย โดยมีสาเหตุมาจากรัฐบาลเองบริหารเศรษฐกิจล่มสลาย เก็บภาษีไม่ได้ตามเป้าหมาย เลยทำให้ตลอด 8 ปีของตำแหน่งนายกฯ ต้องกู้เงินมาใช้โดยตลอด

ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์ จะเล่นการเมืองหรือไม่ต่อไป แต่สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ทิ้งไว้ คือหนี้ก้อนโตมหาศาล เป็นมรดกหนี้บาปให้ประชาชน ทิ้งไว้ชั่วลูกชั่วหลานให้ใช้หนี้แทนไม่สิ้นสุด ที่สำคัญคือ หนี้ที่กู้มาแล้วใช้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจได้ หวั่นใจว่าเงินกู้ที่จะกู้มาเพื่อให้พรรคพวกของพลเอกประยุทธ์ได้ประโยชน์จากเงินกู้ประชาชน

ปชป. จ่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เมืองคอนทั้ง 9 เขต ‘ชินวรณ์’ ยกปชป.เป็นยางพารา พรรคอื่นแค่บอนสี

‘จุรินทร์-เฉลิมชัย’ จ่อ...เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เมืองคอนทั้ง 9 เขต ‘ชินวรณ์’ ส่งลูกสาวลงชิงเขต 6 ลั่นกวาดยกจังหวัดเปรียบ ‘ปชป.’ เหมือนยางพารา มีขึ้นมีลง พรรคอื่นเป็นแค่บอนสี

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเตรียมผู้สมัคร ส.ส.ในจังหวัดนครศรีธรรมธรรมราช ทั้ง 9 เขต ว่า ขณะนี้ได้ผู้สมัครครบทั้ง 9 เขต แล้ว โดยจะมีการเปิดตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พ.ย. 65 มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็นผู้ไปเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 9 เขต

นายชินวรณ์ เปิดเผยว่า มีบุตรสาวของตนลงสมัครในเขต 6 ด้วย คือ น.ส.ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถประสานกับคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ในพรรคได้ มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราชจะขานรับพรรค ปชป. จึงเชื่อว่าเราสามารถทำได้ทั้ง 9 เขต เนื่องจากเราได้คนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่าประสานเป็นเนื้อเดียวกัน พรรค ปชป.มีกระแสที่ดีขึ้นในภาคใต้ และการเลือกตั้งในระบบบัตร 2 ใบ จะทำให้ประชาชนตัดสินใจ ‘เลือกคนที่เรารัก เลือกพรรคที่เราชอบ’ เหมือนที่ประชาชน เคยตัดสินในมาแล้ว

“วันนี้ พรรค ปชป. ที่ประชาชนพูด เขาบอกว่า พรรคปชป.ก็เหมือนกับยางพารา มีขึ้นมีลง แต่เป็นพืชเศรษฐกิจ แต่พรรคอื่นเป็นบอนสี ดังชั่วคราวเท่านั้นเอง” นายชินวรณ์ กล่าว


เรื่อง : นายหัวไทร

‘ทิพานัน’ ยกยอดใช้จ่ายคนละครึ่ง3.4หมื่นล้าน ตอก ‘เพื่อไทย’ หลังขวางไม่เกิดประโยชน์ต่อศก.

‘ทิพานัน’ ยกยอดใช้จ่ายคนละครึ่ง3.4หมื่นล้าน ตอกเพื่อไทยขวางคนละครึ่ง ชี้ไม่เห็นแก่ประโยชน์ประชาชนกว่า25ล้านคน แต่กลับมีพฤติกรรมคล้ายหนุนนโยบายพานักโทษหนีคดีเพียง 2 คนกลับบ้าน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยแสดงความคิดเห็นคัดค้านโครงการคนละครึ่งว่า ไม่ได้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจว่า โครงการคนละครึ่งที่เฉพาะเฟส 5 ที่กำลังดำเนินการอยู่นี้มีประชาชนกว่า 26.5 ล้านคนและร้านค้ารายย่อยเกือบ 1 ล้านรายได้ประโยชน์ และผลประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งไม่ได้เป็นผลประโยชน์ของนักการเมือง แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนโดยตรง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เมื่อเอาตัวเลขข้อมูลมาพิจารณา พบว่าตัวเลขผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วม 9.67 แสนราย เป็นผู้ประกอบการรายใหม่เฟส 5 ถึง 2.28 หมื่นราย แสดงถึงร้านค้ารายย่อยเป็นผู้รับประโยชน์โดยตรง และมีจากข้อมูลล่าสุดคนละครึ่งเฟส 5 ที่มียอดใช้จ่ายสะสมถึง 34,310.23 ล้านบาท (ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16 ต.ค. 65) 

เห็นได้ชัดว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จจริงในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบและยั่งยืนได้ จึงไม่ใช่โครงการที่เป็นการเสียเงินไปฟรี ๆ ตามที่นายพิชัยแสดงความเห็นแบบไร้ข้อมูล

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การที่นายพิชัยเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาหนี้สินมากกว่าโครงการคนละครึ่งนั้น ต้องถามว่า นายพิชัยไปอยู่ดูไบมาหรืออย่างไร ถึงไม่รู้ว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้าเจาะรายบุคคล และประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลังและเจ้าหนี้ 65 ราย ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาล จัดกิจกรรม 'มหกรรมร่วมใจแก้หนี้' ขึ้น เปิดให้ลงทะเบียนทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. 65 เพื่อให้ลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้จากผลกระทบวิกฤติโควิด-19 ปัญหาค่าครองชีพ สามารถแก้ไขหนี้และเริ่มต้นใหม่ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีโครงการสัญจรด้วย ซึ่งทางธนาคารของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน / ธ.อ.ส. / ธ.ก.ส. และธนาคารกรุงไทย จะจัด 'มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร' ใน 5 อีกจังหวัด  

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนในกรณีลูกหนี้ไม่สามารถเข้าร่วมมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ได้ ก็ยังมีช่องทางในการแก้ไขปัญหาหนี้ เช่นกรณีหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน สามารถเข้าร่วมโครงการ 'คลินิกแก้หนี้' และมีโครงการ 'ทางด่วนแก้หนี้' เป็นช่องทางเสริมเพื่อขอรับความช่วยเหลือด้านการชำระหนี้ ในขณะที่ลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจสามรถขอรับคำปรึกษาแก้ไขหนี้ผ่านทางโครงการ ‘หมอหนี้เพื่อประชาชนได้’

‘เทพมนตรี’ บอก “สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม” พรรคก้าวไกล อาจถูกยุบ ก.พ. 2566

(20 ต.ค. 65) นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ ว่า... 

พรรคก้าวไกล อาจถูกยุบ เดือนกุมภาพันธ์ 2566 สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมครับ 

แม้จะไม่ได้มีการระบุสาเหตุ แต่ก็คาดว่าคำพูดดังกล่าว อาจเป็นความต่อเนื่องจากกรณี ‘พรรคไทยภักดี’ ยื่น กกต.ชงยุบพรรค ‘ก้าวไกล’ ปมเสนอนโยบายแก้ ม.112 รวมถึงให้พระสงฆ์มีสิทธิเลือกตั้ง โดยชี้ว่า เป็นการเข้าข่ายขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมืองฯ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญบอกแล้วว่า การแก้ไข ม.112 หรือ ยกเลิก เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=8288907684484619&id=100000964084010 

‘บิ๊กป้อม’ กร้าว!! ยกกรณีคุณหมอกระต่าย เพิ่มโทษพวก ‘ผิดซ้ำ-เมาขับ-แข่งรถทางหลวง’

พล.อ.ประวิตร มอบ นโยบาย ปก./ลดอุบัติเหตุทางถนน เน้นสร้างการรับรู้ ควบคู่บังคับใช้กม.เข้มข้น ถอดบทเรียน กรณี ‘คุณหมอกระต่าย’ เพิ่มโทษ ผิดซ้ำ/เมาแล้วขับ/แข่งรถในทาง ย้ำ!! สวมหมวกกันน็อก 100% มุ่งรักษาชีวิต ปชช.ทุกคน ให้ปลอดภัย

(20 ต.ค. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน แห่งชาติ ครั้งที่2/2565 ร่วมกับ ผวจ.ทั่วประเทศ ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้รับทราบ ความคืบหน้าการแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 เพื่อปรับปรุงมาตรการทางกฎหมาย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การใช้รถใช้ถนน รวมทั้งกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่ เช่น การกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก, การเพิ่มโทษผู้ทำผิดซ้ำ, การขับรถขณะเมาสุรา, การป้องกันการแข่งรถ เป็นต้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 5 ก.ย. 65 รวมทั้งระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 9 ม.ค.66 และรับทราบมติที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กำหนดให้วันที่ 21 มกราคมของทุกปี เป็น ‘วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน’ เพื่อย้ำเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะ จะต้องระมัดระวังความปลอดภัย ต่อผู้ใช้รถใช้ถนน อย่างยิ่งยวด สืบเนื่องจากเหตุการณ์ วันที่ ‘หมอกระต่าย’ หรือ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ถูกรถจักรยานยนต์ชนบนทางม้าลาย เมื่อ 21 ม.ค.65 ที่ผ่านมาแล้ว

'วัชระ' ลั่นตำแหน่ง ส.ส. ไม่ใช่มรดกหรือทรัพย์สมบัติทางการเมืองของใคร ถึงเวลาแล้วที่การเมืองชัยนาทต้องเปลี่ยนโฉม

วันที่ (20 ต.ค. 65) ที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคกลาง พร้อมด้วยนายโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ ผู้ประสานงานพรรคสร้างอนาคตไทย จ.ชัยนาท นายประวิทย์ สุวรรณสัญญา ผู้ประสานงานพรรคสร้างอนาคตไทย จ.พระนครศรีอยุธยา และทีมงาน ลงพื้นที่พบปะพูดคุยแกนนำและกลุ่มชาวบ้าน จ.ชัยนาท โดยนายวัชระ กล่าวว่า จ.ชัยนาท ก็เป็นเหมือนหลายจังหวัดในภาคกลาง คือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งการท่องเที่ยวและภาคการเกษตร อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่กลับเป็นจังหวัดที่ไม่มีความเจริญมากเท่าที่ควร เพราะขาดการดูแลและขับเคลื่อนที่ไม่มากพอ ทำให้ไม่สามารถเจริญเติบโตได้เต็มตามศักยภาพอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งตนมองว่ามาจากสาเหตุหลักๆ 2 ประการคือขาดการดูแลเอาใจใส่จากภาคราชการอย่างเพียงพอ และอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือภาคการเมืองไม่ได้ดึงความเจริญหรืองบประมาณลงสู่พื้นที่มากพอและเหมาะสม ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะให้โอกาสคนใหม่และพรรคใหม่เป็นทางเลือกใหม่ได้เข้ามาช่วยพัฒนาพื้นที่ โดยตนอยากให้พี่น้องชาว จ.ชัยนาท ให้โอกาสนายโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ และพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งถึงแม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่เป็นพรรคที่ตนมั่นใจว่ามีทีมเศรษฐกิจเก่งเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ซึ่งการันตีได้จากการที่พรรคมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเป็นผู้นำ

'ภูมิใจไทย' ชูจุดยืนค้านแก้ ม.112 ปิดประตูร่วมจัดตั้งรบ.กับก้าวไกล

เมื่อ (19 ต.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นมา โดยมีอุดมการณ์ทางการเมือง ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ เป็นข้อแรก เป็นหัวใจในการทำงานของพรรค และเป็นอุดมการณ์ที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทุกคน ยึดถือเป็นหลักในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่มีนโยบาย ไม่มีความคิดเรื่องแก้ไข ม.112 และ ไม่เข้าใจว่าคนที่เสนอแก้ไข ม.112 เดือดร้อนอะไรกับกฎหมายอาญา ม.112

ถ้าเราไม่คิดทำผิดกฎหมาย ทำไมต้องกลัวรับโทษทางกฎหมาย ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้สึกว่ากฎหมายอาญา ม.112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ใช้ชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะท้าทาย คิดจะทำผิดกฎหมาย แต่ก็กลัวโทษตามกฎหมาย จึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมาย ให้สิ่งที่ตนจะทำ เป็นสิ่งไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องรับโทษ มีกฎหมายอีกหลายฉบับ ที่ควรจะแก้ไข เพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ควรจะไปแก้ไขกฎหมายเหล่านั้น ก่อน

“ผมมั่นใจว่าการแก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 ไม่มีทางได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ใครจะคิดอย่างไร ลงมติอย่างไร ก็เป็นสิทธิของเขา แต่พรรคภูมิใจไทย หัวหน้าพรรค พูดแทนสมาชิกทุกคนได้เลยว่า เราไม่แก้ไข และ จะคัดค้าน ขัดขวางถึงที่สุด รวมทั้งจะไม่ร่วมมือ ร่วมทำงาน กับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่มการเมืองที่เสนอแก้ไข ม.112 ทุกระดับ รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า หรืออีกกี่ครั้งก็ตาม”

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าพรรคภูมิใจไทย จะไม่จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไข ม.112 นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มีทางอย่างแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกล แต่พรรคภูมิใจไทย จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบาย มีแนวคิดแก้ไข ม.112 รวมอยู่ด้วยเพราะมีอุดมการณ์ขัดแย้งกันจนไม่สามารถทำงานร่วมกันได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top