Friday, 4 July 2025
POLITICS NEWS

"ศรีสุวรรณ" ยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบ​ "วีรศักดิ์-ยลดา" ปม หนี้หาย 1.1.หมื่นล้าน​ แถมรวยขึ้นในเวลาแค่ 2 ปี

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยพบว่าในส่วนของนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา(นายก อบจ.) คู่สมรสของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม แจ้งบัญชีทรัพย์และหนี้สินในการเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 มีความผิดปกติ ในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้สินของนายวีรศักดิ์และภรรยา ที่เคยมีรวมกันทั้งสิ้น 11,138,404,713 บาท 

เมื่อเทียบกับการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายวีรศักดิ์ ที่ยื่นไว้ต่อ ป.ป.ช. เมื่อ 22 ส.ค.62 ซึ่งระยะเวลาผ่านไปเพียงประมาณ 2 ปี หลังจากนายวีรศักดิ์ ดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ หนี้สินประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทหายไปเกือบทั้งหมด​ เหลืออยู่เพียงประมาณ 35.5 ล้านบาทที่เป็นเงินเบิกเกินบัญชี ขณะที่นางยลดา มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 150,147,276 บาท ส่วนนายวีรศักดิ์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 211,469,361 บาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 361,616,637 บาท เป็นไปได้อย่างไร ดังนั้นทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องที่ผิดปกติดังกล่าว โดยจะไปยื่นในวันพฤหัสบดีที่ 22 เม.ย.64 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นนทบุรี

"พีระศักดิ์" เผย เห็นด้วยกับการแก้ม.272-กลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ชี้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมาหาข้อยุติในสภา

เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2564 ที่รัฐสภา นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว. กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของ ส.ว. ว่า เนื่องจาก ส.ว. ค่อนข้างเป็นอิสระ เพราะไม่ได้เป็นพรรคการเมือง จึงไม่ได้มีการหารือกันเป็นกิจลักษณะ หรือเป็นมติของวิปคงทำไม่ได้ จึงเป็นเรื่องความคิดเห็นของแต่ละกลุ่มว่าจะคิดเห็นกันเช่นไร

เมื่อถามว่ามีส.ว.บางท่านเห็นด้วยกับการแก้มาตรา 272 ส่วนตัวเห็นด้วยหรือไม่ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของพรรคการเมืองเพราะเป็นคนเสนอนโยบายต่อประชาชนในตอนเลือกตั้ง ว่ามีนโยบายอย่างไรหรือเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเห็นด้วยกับการแก้ประเด็นนี้มานานแล้ว แต่ว่าในการเลือกตั้งครั้งแรกตนเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาเลือกพล.อ.ประยุทธ์ แต่หลังจากนี้ให้กำหนดในรัฐธรรมนูญเลยก็ได้ว่าให้เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร 

เมื่อถามว่ามองว่าหลังจากนี้เสียงโหวตของส.ว.ในการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับตนโหวตเห็นควรให้แก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น แต่เมื่อโหวตครั้งที่ 2 เกิดปัญหาข้อกฎหมายว่าแก้ได้หรือไม่ ตนจึงงดออกเสียง แต่หลักการแล้วเมื่อพรรคฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาลและภาคประชาชนเสนอแก้ฉะนั้นต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 

เมื่อถามว่าคิดเห็นอย่างไรที่พรรคฝ่ายค้านเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งที่เปลี่ยนจากบัตรเลือกตั้ง 1 ใบเป็นบัตรเลือกตั้งแบบ 2 ใบ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีข้อยุติ ตรงนี้เป็นในส่วนของรายละเอียด สำหรับตนเคยเสนอแก้ไขเปลี่ยนเป็นบัตร 2 ใบเหมือนเดิม เพราะเป็นการรอนสิทธิ์ของประชนชนจากเดิมที่สามารถใช้สิทธิ์เลือกได้ทั้งพรรคและตัวบุคคล ประเด็นใดที่เปิดโอกาสให้ประชาชนก็ควรจะทำ 

เมื่อถามว่าการแก้ไขรายมาตรามีโอกาสจะสำเร็จมากกว่าการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างใหม่ใช่หรือไม่ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เดินไปในทางการแก้ไขรายมาตราอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามต้องใช้เสียง 1 ใน 3 ของส.ว. ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของส.ว.แต่ละท่าน ขณะเดียวกันก็มีเสียงเรียกร้องต้องการให้ยกร่างใหม่มากกว่า ซึ่งเป็นความเห็นของแต่ละกลุ่ม แต่ละฝ่าย อย่างไรก็ตามต้องมาหาข้อยุติสุดท้ายในสภา ว่าทั้งส.ส.และส.ว.จะเห็นด้วยอย่างไรกับกติการัฐธรรมนูญฉบับปี 60 นี้ 

เมื่อถามว่าการแก้รายมาตราหรือการยกร่างจะช่วยลดอุณหภูมิทางการเมืองหรือไม่ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของส.ส.และส.ว. อยู่แล้วในฐานะที่เป็นผู้แทนประชาชนที่จะต้องฟังกระแสสังคม และทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ในระยะยาวกับประชาชน ขอให้ประชาชนสื่อสารกันมาเยอะๆ เพราะหลักประชาธิปไตยคือต้องเปิดพื้นที่ในการแสดงความเห็น อย่าจำกัดสิทธิ์ประชาชนมาก อย่างไรก็ตามสุดท้ายก็ต้องใช้กติกาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

ก.แรงงาน ขานรับข้อห่วงใยนายก เร่งเยียวยาผู้ประกันตนที่ทำงานกลางคืนจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขานรับข้อห่วงใยนายกรัฐมนตรี กรณีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 และนายจ้างต้องหยุดประกอบกิจการเนื่องจากทางราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ให้ลูกจ้างมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน รวมกันไม่เกิน 90 วัน 

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ช่วยดูแลพี่น้องแรงงานที่ทำงานกลางคืนให้เหมือนคนในครอบครัว 

ภายใต้กรอบของกฎหมาย เนื่องจากคนทำงานภาคกลางคืน เช่น ผับ บาร์ สถานบันเทิง ภัตตาคาร ร้านอาหาร สถานบริการ เป็นต้น ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 ซึ่งเป็นผู้ประกันตนให้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยากรณีนายจ้างต้องหยุดประกอบกิจการเนื่องจากทางราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ให้ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยโควิด-19 

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กรณีเหตุสุดวิสัยโควิด -19 กระทรวงแรงงาน ได้ออกกฎกระทรวงได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไปให้ความคุ้มครองกรณีผู้ประกันตนไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากต้องกักตัวเฝ้าระวังการระบาดของโรค 

นายจ้างต้องหยุดประกอบกิจกรรมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนเนื่องจากทางราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ และลูกจ้างไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น ให้ลูกจ้างมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน รวมกันไม่เกิน 90 วัน 
ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป และสำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้นายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนโดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.sso.go.th

เทพไท แจงเหตุผลตัดงบ สัมมนาดูงาน ก่อสร้าง ซื้ออาวุธ ได้เงิน 4 แสนล้าน สู้โควิด

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว มีข้อความว่า จากกรณีที่ผมได้เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี ให้พิจารณาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565  โดยขอเสนอให้ตัดงบประมาณใน 4 ส่วน ด้วยเหตุผลดังนี้ คือ

1.งบประมาณการจัดสัมมนาซึ่งเห็นว่างบประมาณส่วนนี้ไม่ควรที่จะดำเนินการในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะการสัมมนาเป็นการรวมตัวของคนหมู่มาก สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

2.งบประมาณด้านการศึกษาดูงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ควรมีงบประมาณส่วนนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะการศึกษาดูงานเป็นเพียงการเปิดวิสัยทัศน์และเพิ่มประสบการณ์ให้กับข้าราชการในการทำงาน ไม่ใช่ความจำเป็นเร่งด่วนในสถานการณ์เช่นนี้ และยังไม่มีประเทศใดเปิดรับชาวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศในสถานการณ์โรคไวรัสโควิดกำลังระบาดอยู่

3.งบประมาณด้านการก่อสร้างที่เป็นโครงการใหม่ ทั้งการก่อสร้างถนน และอาคาร ซึ่งยังไม่มีความจำเป็น และไม่ใช่สิ่งจำเป็นเร่งด่วน สามารถชะลอโครงการก่อสร้างออกไปได้หนึ่งปี จะไม่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง

4.งบประมาณด้านการทหารในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และการก่อสร้างอาคาร ค่ายทหาร ซึ่งไม่มีความจำเป็นสำหรับการสู้รบในโลกปัจจุบัน ที่มีการสงครามทางโลกไซเบอร์มากกว่า และการก่อสร้างในค่ายทหารก็ได้รับงบประมาณในช่วงรัฐบาล คสช. มากกว่าทุกรัฐบาล

 ถ้าหากรัฐบาลดำเนินการตัดงบประมาณทั้ง 4 ส่วนดังกล่าวนี้ จะมีเม็ดเงินงบประมาณไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณที่เกี่ยวกับการป้องกันและเยียวยา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ครบวงจร โดยนำเม็ดเงินงบประมาณทั้งหมดไปจัดทำงบประมาณโครงการดังนี้ คือ

1.) จัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลประจำอำเภอ ทั่วประเทศ เพื่อให้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเชิงรุก เป็นการป้องกันโรคในเบื้องต้น

2.) จัดซื้อวัคซีนเพื่อใช้ฉีดป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนทั้งประเทศ ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงครบทุกคน เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของประชาชนในประเทศ

3.) จัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ด้านการพยาบาลให้กับ อสม.และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ที่ขาดแคลนเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ในการบริการประชาชนในชนบท

4.) จัดเป็นงบประมาณส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจรายย่อยหรือ SME เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก

5.) จัดเป็นงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้กับประชาชนทุกสาขาอาชีพ 

ถ้ารัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อเสนอแล้ว ก็สามารถจะแก้ปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และความเดือดร้อนของประชาชนได้ โดยไม่จำเป็นต้องมาปรับลดงบประมาณ หรือจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณกลางปีขึ้นมาใหม่ เหมือนที่ผ่านมา และเป็นการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ4หรือรอบ5 ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ 

สำหรับปีนี้ ผมไม่มีโอกาสได้อภิปรายแสดงความเห็นในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงขอใช้สิทธิ์ผู้แทนนอกสภา เสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2565 ผ่านสื่อมวลชนไปถึงรัฐบาลด้วยความจริงใจ

ก.แรงงาน ชวนทำดี จัดกิจกรรม “ปรับ-ปลูก-ปัน วันแรงงานสร้างสุข ปลุกพลังจิตอาสา”

ก.แรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เชิญชวนสถานประกอบกิจการ นายจ้าง และเครือข่ายพี่น้องแรงงาน จัดกิจกรรม “ปรับ-ปลูก-ปัน วันแรงงานสร้างสุข ปลุกพลังจิตอาสา” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนจิตอาสาพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อความสุขของแรงงานและประชาชน เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2564

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันแรงงานแห่งชาติตามปกติจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงถึงพลังของแรงงานในการร่วมพัฒนาประเทศ ตลอดจนรับทราบปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างขวัญกำลังใจแก่พี่น้องแรงงาน แต่ปีนี้เนื่องจากสถานการณ์ของ โรคโควิด-19 เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ จึงมีความจำเป็นต้องงดการจัดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2564 อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มีนโยบายการบริหารงานภายใต้วิสัยทัศน์ “แรงงานมีศักยภาพสูง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี” โดยให้ความสำคัญกับการน้อมนำพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา หวังให้ประชาชนมีความสุข ประเทศชาติมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน จึงได้มอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดกิจกรรม “ปรับ-ปลูก-ปัน วันแรงงานสร้างสุข ปลุกพลังจิตอาสา” เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการ นายจ้าง และลูกจ้าง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีส่วนร่วมในกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวม ตลอดจนก่อให้เกิดความสามัคคีและความเข้มแข็งของเครือข่ายพี่น้องแรงงานผู้ที่ทำประโยชน์แก่เศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

ด้าน นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมดังกล่าว กรมได้มอบหมายให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน 76 จังหวัด ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานประกอบกิจการและเครือข่ายแรงงาน จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานและประชาชนให้มีความสุข ได้แก่ การมีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดสถานประกอบกิจการ พื้นที่ในชุมชน เช่น วัด และโรงเรียน หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันในการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาติไทย พร้อมทั้งกิจกรรมยกระดับสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของพี่น้องแรงงาน ให้มีความรู้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในการดูแลตนเองและครอบครัว

โดยร่วมแบ่งปันหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์เพื่อป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้กรมตั้งเป้าจัดกิจกรรมมุ่งสร้างความสำคัญของแรงงานในวันแรงงานแห่งชาติ อาทิ การให้คำปรึกษาแนะนำ ตรวจเยี่ยม และติดตามป้องกันเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านแรงงาน อันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของนายจ้างและลูกจ้างในการก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจและผ่านพ้นวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน

“ธนกร” โต้แทน “บิ๊กตู่” แจง ”บิ๊กแสนสิริ” ยันรัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนไทม์ไลน์ชัดเจน ซัด ฝ่ายค้านอย่าติงทุกเรื่อง

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและผู้จัดการใหญ่บริษัทแสนสิริจำกัด(มหาชน) เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ว่า นายเศรษฐา ออกมาให้ความเห็นบ่อยในช่วงหลังซึ่งเป็นไปอย่างสุภาพ ส่วนจะหวังผลการเมืองหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ดีกว่าฝ่ายการเมือง ขอยืนยันกับนายเศรษฐา ว่ารัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และมีแผนการฉีดวัคซีนที่ชัดเจน ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่าขณะนี้ไทยมีวัคซีนป้องกันโควิดเข้ามาจำนวน 2,117,000 โดส และในวันที่ 24 เม.ย. วัคซีนซิโนแวคจะเข้ามาอีก 5 แสนโดส และเดือนพ.ค.วัคซีนซิโนแวคเข้ามา 1 ล้านโดส 

ส่วนวัคซีนแอสตราเซนเนกา ที่ผลิตในไทยจะเริ่มทยอยส่งเดือนมิ.ย. 4-6 ล้านโดส และจะเพิ่มจำนวนตั้งแต่เดือนก.ค.จนถึงสิ้นปี64 จะครบ 61 ล้านโดส และมีวัคซีนทางเลือกที่ให้ภาคเอกชนอีก 5-10 ล้านโดส ที่น่าจะเพียงพอ และเตรียมยาฟาวิพิราเวียร์ไว้แล้ว ในเดือนเม.ย.-พ.ค.จัดหาเพิ่ม 2 ล้านเม็ด เดือนพ.ค-มิ.ย.1 ล้านเม็ด และมิ.ย.-ก.ค.อีก 5 แสนเม็ด และจะสั่งซื้อให้มีสำรองในสต็อก 3.5 ล้านเม็ด 

“ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาล ทุ่มเททำงานช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ที่หวังดีและเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่เหมือนกับฝ่ายค้านที่โจมตีโดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ส่วนฝ่ายค้านให้ลดการตำหนิรัฐบาลลง และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์จะดีกว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาของการเมือง แต่เป็นเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมแรงร่วมใจทำงานช่วยเหลือประชาชน” นายธนกร กล่าว

ครม. ยุบเลิกเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนากฎหมาย ชี้ ให้ชำระบัญชี นำเงินคืนคลัง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบ ให้ยุบเลิกเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนากฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และไม่ควรจัดตั้งกองทุนความปลอดภัยในการออกกำลังกาย นันทนาการ และกีฬา ของกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) และกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน กระทรวงแรงงาน และให้นำเงินคงเหลือส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนากฎหมายแล้ว  และไม่เห็นควรจัดตั้งกองทุนความปลอดภัยในการออกกำลังกาย นันทนาการ และกีฬา ของกรมพลศึกษา เนื่องจากเป็นงานซ้ำซ้อนกับภารกิจปกติของหน่วยงานและซ้ำซ้อนกับทุนหมุนเวียนอื่นในการสนับสนุนเงินเยียวยาค่ารักษาแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งผู้ให้บริการสถานที่ออกกำลังกายควรเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในการใช้สถานที่ รวมทั้งไม่เห็นควรจัดตั้งกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ ของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเป็นภารกิจปกติของกระทรวงแรงงานและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้การขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนต้องเป็นไปตามพ.ร.บ.การบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558  ที่บัญญัติให้ทุนหมุนเวียนที่หน่วยงานของรัฐขอจัดตั้งจะต้องไม่มีการดำเนินการในลักษณะเดียวกับภารกิจปกติของหน่วยงานรัฐและต้องไม่ซ้ำซ้อนกับหน้าที่ของหน่วยงานรัฐอื่น หรือทุนหมุนเวียนที่ดำเนินการอยู่แล้วด้วย

"บิ๊กตู่" สั่ง ปรับโฉม มอบรมต.คุมพื้นที่ ยึด จว.ฐานเสียง

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่  85  /2564 เรื่อง มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด เพื่อให้การดำเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภายใต้แนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับ พื้นที่จังหวัด เป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้

นายอนุชา นาคาศัย  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลพื้นที่ จังหวัดชัยนาท สมุทรปราการ ลพบุรี , พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ดูแลพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา , นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดูแลพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี อุดรธานี ศรีสะเกษ , นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดูแลพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิจิตร

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดูแลพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่  , นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดูแลพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ยโสธร พัทลุง , นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดูแลพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มหาสารคาม , นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ดูแลพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร พังงา

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลพื้นที่จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช ภูเก็ต , นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี และ เลย , นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลพื้นที่จังหวัดอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ , นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น ชัยภูมิ , นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลพื้นที่จังหวัดสกลนครมุกดาหาร , นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดูแลพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี
 
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแลพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดนครปฐม , นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดูแลพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด , พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดูแลพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน
 
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ดูแลพื้นที่จังหวัดตรัง สตูล , นายทรงศักดิ์ ทองศรีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ดูแลพื้นที่จังหวัดนครพนม หนองคาย บึงกาฬ , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดูแลพื้นที่จังหวัดสุโขทัย กำแพงเพชร ตาก , นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ดูแลพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี ระนอง

นางนฤมล ภิญโญสินวัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ดูแลพื้นที่จังหวัดพะเยา เชียงราย น่าน , นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ดูแลพื้นที่จังหวัดชลบุรี ลำปาง ฉะเชิงเทรา , นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดูแลพื้นที่จังหวัดสระแก้ว นครสวรรค์ พิษณุโลก , คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดูแลพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดูแลพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี นครนายก , นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดูแลพื้นที่จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลพื้นที่จังหวัดแพร่ สระบุรี ราชบุรี ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป

“บิ๊กตู่” แจงครม. เร่งฉีดวัคซีนให้ปชช.สั่งมท. - สธ.รายงานทุกวัน แนะปชช.พบติดเชื้อ ให้รักษาในรพ. เท่านั้น ห้ามกักตัวที่บ้าน! หาพบเชื้อ ย้ำ เตียง-ยา-เวชภัณฑ์ พร้อมรองรับ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมแจ้งให้ที่ประชุมครม.รับทราบถึงมติของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพทยระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 )หรือศบค.ที่เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วประเทศและมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์เพื่อลดการแพร่เชื้อที่สัมพันธ์กับสถานบันเทิงการรวมกลุ่มสังสรรค์ต่างๆไม่ให้แพร่ระบาดไปในวงกว้างโดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบมีผลตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.นี้ และจะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง การที่รัฐบาลหลีกเลี่ยงมาตรการล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนมากเกินไป จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การควบคุมแพร่ระบาดในรอบนี้เกิดผลสำเร็จ

นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯได้เร่งการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนหลังกระจายไปแล้วทั่วประเทศและสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขรายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกวัน และให้ทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องการตั้งโรงพยาบาลสนามในจุดต่างๆ การตรวจเชื้อ การคัดกรอง ที่สำคัญหากประชาชนที่ตรวจพบติดเชื้อให้รักษาที่โรงพยาบาลเท่านั้น ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้

การจัดหาวัคซีนทางเลือกนายกได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเร่งดำเนินการนำเข้าวัคซีนเพิ่ม ขณะนี้มีวัคซีนที่เข้ามาแล้ว 2 ล้านโดส ในเดือนเม.ย.และพ.ค.คาดว่าจะมีวัคซีนของซิโนแวค เข้ามาเพิ่มเติม จากนั้นจะเป็นของแอสตราเซเนกา เข้ามาในช่วงเดือนมิ.ย.ประมาณ6-10 ล้านโดส ต่อเดือน จะทำให้การฉีดวัคซีนได้เร็วขึ้น โดยจะเปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันไลน์ หมอพร้อมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป

สำหรับการจัดหาเวชภัณฑ์และเตียงผู้ป่วย ในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศ ขณะนี้มีรองรับทั้งสิ้นมากกว่า 2.8หมื่นเตียง ทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน เตียงในฮอสพิเทล และโรงพยาบาลสนาม และจะเพิ่มมากขึ้นให้เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วย และมีเครื่องช่วยหายใจกว่า 1 กมื่นเครื่อง ที่พร้อมขยายตามสถานการณ์ ด้านอุปกรณ์ป้องกันตัวสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ มีหน้ากากN95กว่า1.6ล้านชิ้น และสั่งซื้อสำรองต่อเนื่อง ส่วนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ มีมากกว่า 94ล้านชิ้น และเตรียมการชุดพีพีอี มากกว่า 5.4 แสนชิ้น นอกจากนั้นได้กระจายยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อรักษาอาการติดเชื้อไปแล้วทั่วประเทศซึ่งมีพอเพียงและสั่งซื้อมาสต๊อกต่อเนื่องและจะนำเข้ามาไม่ต่ำกว่า 3.5 ล้านเม็ด ให้เพียงพอสำหรับผู้ป่วย ขณะที่ห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อ มีมากกว่า 270 แห่ง กำลังการตรวจได้กว่า 8 หมื่นตัวอย่างต่อวัน

ทั้งนี้นายกฯห่วงบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร พลเรือน ที่เป็นอาสาสมัคร เพราะเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ต้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้ออยู่ตลอดเวลาจึงให้กำลังใจทุกคนในการทำหน้าที่ พร้อมขอให้ประชาชนเข้าใจว่าทำงานหนักให้ร่วมเป็นกำลังใจให้บุคคลเหล่านี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top