Wednesday, 7 May 2025
POLITICS NEWS

DSI ลงพื้นที่บุกอายัดที่ดิน เครือข่ายอดีตผู้บริหารสหกรณ์สโมสรรถไฟ กับพวก ในพื้นที่ กรุงเทพฯ นนทบุรี อำเภอเมืองเพชรบุรี และ อำเภอแก่นกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา ได้สอบสวนขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการพิสูจน์การได้มาของทรัพย์สิน (ที่ดิน) โดยการเชื่อมโยงเส้นทางทางการเงินกับทรัพย์สิน ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเครือข่ายอดีตผู้บริหาร สหกรณ์สโมสรรถไฟ ที่ได้นำเงินจากการทุจริตออกจากบัญชีสหกรณ์สโมสรรถไฟ และนำเงินที่ได้จากการทุจริตไปเปลี่ยนสภาพแห่งตัวทรัพย์ เพื่อซุกซ่อน ปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินหรือกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา หรือได้มา ครอบครองหรือใช้ทรัพย์สินโดยรู้ในขณะที่ได้มา อันเป็นเหตุในการเข้าทำการตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินข้างต้น

วันที่ 9 เมษายน 2564 พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พันตำรวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรองอธิบดีที่กำกับดูแล พันตำรวจโท จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา นายธวัชชัย รัตนปรีชาชัย รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา และนายพงษ์ธวัช อ่วมสำอางค์ ผู้อำนวยการส่วนคดีการฟอกเงินทางอาญา 3 พร้อมคณะ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรี (สาขาท่ายาง) และนายประกอบ เผ่าพงศ์ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ร่วมกันอายัดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างหลายพื้นที่ ประกอบด้วย

(1) ที่ดินเขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จำนวน 6 แปลง

(2) อาคารชุดฮอลส์มาร์ค แจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จำนวน 7 ห้อง

(3) ที่ดินโครงการพฤกษ์พิมาน 3 ตำบลนาวุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 23 แปลง

(4) พื้นที่อำเภอแก่นกระจาน จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 49 แปลง

รวมทรัพย์สินที่ทำการอายัด 85 แปลง มูลค่าประมาณ 85,601,690 บาท โดยในการอายัดครั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของกลุ่มบุคคล จึงมีเหตุให้เชื่อได้ว่านำเงินที่ได้จากสหกรณ์ฯ ไปซื้อที่ดิน ตามที่ได้อายัดไว้ข้างต้น 

การดำเนินการครั้งนี้ เพื่อเป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งเน้นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสามารถนำเงินชดใช้คืนสหกรณ์สโมสรรถไฟ และสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการในทุกมิติ โดยร่วมกับสำนักงาน ปปง. เพื่อทำการการยึด/อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด 

เพื่อขอให้พนักงานอัยการมีคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดคืน หรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย ตลอดจนสมาชิกสหกรณ์จำนวนกว่า 6,000 ราย และสหกรณ์พันธมิตรอีก 15 แห่ง โดยจะดำเนินการเชิงบูรณาการร่วมกับ สำนักงาน ปปง. ควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ส่งผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 อย่างเด็ดขาด ต่อไป

โฆษกกองทอ. เผยเตรียมพร้อมโรงเรียนการบิน กำแพงแสน เป็นโรงพยาบาลสนาม ประมาณ 100 เตียง หนุนรัฐบาลรับมือสถานการณ์โควิดฯระบาดเพิ่ม ขณะที่ “บิ๊กแอร์บูล” เตือนกำลังพลห้ามไปพื้นที่เสี่ยง แต่ไม่ห้ามกลับภูมิลำเนา/ช่วงสงกรานต์ พร้อมเปิด10 รพ.สนามในเขต กทม.และปริมณฑล

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหมสั่งการให้ทุกเหล่าทัพเตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนามและเตียงสนาม เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดเพิ่มเติมต่อเนื่องว่า กองทัพอากาศได้เตรียมความพร้อมโรงเรียนการบิน กำแพงแสน จ.นครปฐม ไว้เป็นโรงพยาบาลสนาม โดยมีการเตรียมเตียงสนามไว้ประมาณ 100 เตียง  ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเคยใช้เป็นพื้นที่กักตัว หรือ state quarantine ที่ทางรัฐบาลจัดไว้ เพื่อกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

ซึ่งก็ได้มีการปรับพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนาม ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดทางกองทัพอากาศก็ได้เตรียมเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ไว้คอยสนับสนุนทุกจังหวัด หากมีการประสานงานร้องขอมา เราก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ขณะที่ในพื้นที่ส่วนกลางมีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช สังกัดกรมแพทย์ทหารอากาศ ยังคงดำเนินการรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และพร้อมให้การรักษาอยู่ ซึ่งจากการประสานกับเจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศล่าสุดทราบว่าโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชยังไม่ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำยาตรวจเชื้อโควิด-19 


พล.อ.ท.ฐานัตถ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้มีคำสั่งแจ้งเตือนกำลังพลทุกนายไม่ให้เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงหากไม่จำเป็น รวมทั้งให้ผู้บังคับบัญชากำชับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองต้องปฏิบัติตัวและดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และขอความร่วมมืออย่าเพิ่งเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงนี้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามกำลังพลกลับภูมิลำเนาไปเยี่ยมครอบครัว ซึ่งเน้นย้ำว่าต้องบันทึกไทม์ไลน์ของตนเองอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของกระทรวงโหม จากการสนับสนุนของเหล่าทัพ เพื่อรองรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลโดยรอบ (ระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตรจากกรุงเทพ) ได้เตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่

1.) ปตอ.1 กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (แจ้งวัฒนะ)  จังหวัดกรุงเทพฯ  จำนวน 200 เตียง
2.) สนามมวยค่ายบุรฉัตร กองพลทหารช่าง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จำนวน 100 เตียง
3.) สนามกีฬากลาง กรมการทหารช่าง  อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จำนวน 400 เตียง
4.) โรงพลศึกษา ศูนย์พัฒนาการกีฬา กรมการทหารช่าง  อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จำนวน 120 เตียง
5.) โรงรถ กองพันทหารช่าง กรมการทหารช่าง  อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จำนวน 120 เตียง
6.) ศูนย์ฯ 8 (วัฒนาแฟคทอรี 2) จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 1,000 เตียง
7.) ศูนย์ฯ 9 (บ.วิท วอเตอร์ฯ) จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 485 เตียง
8.) ศูนย์ฯ 10 (สภาอุตสาหกรรม) จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 500 เตียง
9.) ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 150 เตียง
10.) รร.การบิน อาคารแผนกฝึก (ทอ.) อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จำนวน 120 เตียง

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 เวลา 11.30 น. สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ

???? วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 ???? เวลา 11.30 น.
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ
???? ผู้ป่วยรายใหม่ 559 ราย
???? ผู้ป่วยยืนยันสะสม 30,869 ราย
???? หายป่วยแล้ว 28,128 ราย
???? เสียชีวิตสะสม 96 ราย

“เทพไท” อัดรัฐบาล ล้มเหลวตรวจหาเชื้อโควิด หลัง รพ.เอกชน ปิดให้บริการ แนะ ทุ่มเงินซื้ออุปกรณ์ตรวจฟรี ทั่วประเทศ ดีกว่าเอาเงินไปแจกเพื่อหวังคะแนนเสียง

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เห็นข่าวโรงพยาบาลเอกชน 10 แห่ง ปิดรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 รู้สึกตกใจมาก ที่เห็นผู้คนตื่นตระหนกและตื่นตัวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลควรจะมีมาตรการสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนให้เพียงพอ การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นมาตรการค้นหาผู้ติดเชื้อในเบื้องต้น 

ซึ่งรัฐบาลควรจะจัดงบประมาณเพื่อตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นการรักษาพยาบาลเบื้องต้น หากสามารถรู้ได้ว่ามีประชาชนคนใดติดเชื้อไวรัส โควิด-19 บ้าง ก็สามารถรักษาหรือแก้ปัญหาได้ตรงจุด ป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลควรให้ความสำคัญการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าการระดมงบประมาณไปจัดซื้อวัคซีน เพื่อฉีดป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เสียอีก 

“ผมเคยแสดงความเห็นในเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นว่า รัฐบาลควรจะจัดงบประมาณก้อนใหญ่ เพื่อระดมซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์การตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด-19 เพื่อบริการประชาชนทั่วประเทศโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ดีกว่านำเงินงบประมาณก้อนใหญ่ไปแจกให้กับประชาชนในโครงการต่าง ๆ เพื่อหวังคะแนนนิยม เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเสพติดนโยบายประชานิยม ซึ่งรัฐบาลควรตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของประชาชน สำคัญกว่าปัญหาสิ่งอื่นใด” นายเทพไท กล่าว

“สุชาติ” รมว.แรงงาน กำชับประกันสังคม ดูแล ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ เจ็บป่วยฉุกเฉิน มีสิทธิเข้ารักษา รพ. ทุกแห่ง ไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้ม! ผู้ประกันตน การ์ดอย่าตกช่วงโควิด-19 รอบใหม่

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชน ในการเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ กำชับ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งหน่วยงานในกำกับสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ให้บริการรวมถึงอำนวยความสะดวก พร้อมประชาสัมพันธ์เรื่องกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน แก่ ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ในการเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาล เตือนลูกจ้าง ผู้ประกันตน การ์ดอย่าตก ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ ย้ำ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค พร้อมดูแลสุขภาพตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัย ปราศจากโรคแน่นอน

ด้าน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการดูแลลูกจ้าง ผู้ประกันตน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 ว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใย ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อตั้งแต่วันที่ 10 – 15 เมษายน 2564 นี้ ซึ่งตนได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ ให้บริการรวมถึงอำนวยความสะดวก พร้อมประชาสัมพันธ์ แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ให้ระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะเดินทาง พร้อมแนะนำให้พกบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไว้ หากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือได้รับอุบัติเหตุ หรือมีอาการเจ็บป่วยกะทันหัน ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สามารถเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทันที 

โดยสำนักงานประกันสังคมจะพิจารณาจ่ายประโยชน์ทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ให้ภายใน 72 ชั่วโมง ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด ทั้งนี้ ให้ผู้ประกันตน หรือโรงพยาบาลที่ให้การรักษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง แจ้งโรงพยาบาลตามสิทธิให้ทราบโดยเร็ว ตั้งแต่เข้ารับการรักษา เพื่อให้โรงพยาบาลรับผิดชอบให้บริการ ทางการแพทย์ให้กับผู้ประกันตนต่อไป

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้ย้ำเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ โดยเตือนลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ หรือเดินทางออกนอกบ้านควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่มของคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ดูแลสุขภาพตัวเอง อย่าประมาท สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยของท่านสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง

กทพ. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 2 สายทางเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา - ชลบุรี) และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 เวลา 00.01 น. ถึงวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 เวลา 24.00 น. รวม 8 วัน เช่นเดียวกับกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางพิเศษโปรดปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธรณสุขอย่างเคร่งครัด รวมถึงขอเชิญชวนให้ดาวน์โหลด Application “หมอชนะ” เพื่อเป็นเครื่องมือในการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้วย

ทั้งนี้ ผู้ใช้ทางสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง สภาพการจราจร และขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ EXAT Call Center โทร 1543 และผู้ใช้ทางพิเศษสามารถดาวน์โหลด Application "EXAT Portal" เพื่อตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและการใช้บัตร Easy Pass รับข่าวสารโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ และสามารถเรียกใช้งาน Application อื่น ๆ ของ กทพ. อาทิ EXAT Traffic อีกทั้งยังสามารถขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS) ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

"ทิพานัน" วอน "หมอชลน่าน" ใช้สติ เลิกอคติ ไล่รัฐบาล ย้ำรัฐบาลไม่เคยผูกขาดวัคซีน

เมื่อวันที่ 9 เมษายน นาวสาวทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย วิจารณ์รัฐบาลไม่สนับสนุนภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีน และให้ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยว ประสิทธิภาพวัคซีนโควิด 19 ว่า ขอให้ น.พ.ชลน่าน เลิกใช้อคติ จนออกมาไล่รัฐบาลไล่อย่างไร้สติ เพราะรัฐบาล ทีมแพทย์ พยาบาล อสม.ตั้งใจควบคุมการแพร่ระบาด ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยืนหยัดเป็นหนึ่งในการได้รับคำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกและนานาประเทศ น.พ. ชลน่าน ไม่ควรตัดตอนคำพูดของนายกรัฐมนตรี แค่คำว่าอะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด และตีความว่าหมดปัญญาในการจัดการ 

นางสาวทิพานัน กล่าวว่า น.พ.ชลน่าน กล่าวหาว่า รัฐบาลจัดหาโดยมุ่งวัคซีนยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งและวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะรัฐมนตรีที่ฉีดวัคซีนแล้วยังติดเชื้อได้นั้น เป็นข้อมูลที่กล่าวหาบิดเบือน ให้ข้อมูลไม่สมกับที่เป็นแพทย์ เพราะรัฐบาล ศบค. และทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้องได้ให้ความรู้จนประชาชนทั่วไปเข้าใจดีว่า วัคซีนโควิดทุกยี่ห้อไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ แต่ประสิทธิภาพของวัคซีนคือ ลดอัตราการเกิดโรค และลดความรุนแรง - อัตราการเสียชีวิตจากโรค ผู้ที่ได้รับวัคซีนทุกยี่ห้อยังสามารถติดเชื้อได้แต่จะมีภูมิคุ้มกันโรคที่จะช่วยลดอาการความรุนแรงของโรค 

ทั้งนี้การจัดหาวัคซีนของประเทศไทยยังไม่ประสบปัญหาดังกล่าว แผนการจัดหาวัคซีนและการฉีดวัคซีนจัดได้ว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ไม่เคยผูกขาดการจัดซื้อวัคซีนเพียงบางบริษัท ไม่เคยปิดกั้น และไม่ขัดข้องหากเอกชนสามารถจัดหานำเข้าวัคซีนมาฉีด เพียงแต่ภาคเอกชนจะต้องขอรับใบอนุญาตนำเข้าและขออนุญาตขึ้นทะเบียนวัคซีนก่อนการใช้และรับผิดชอบการจำหน่ายวัคซีนในประเทศอย่างถูกต้องเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนตามมาตรฐานสากลและป้องกันการนำเข้าวัคซีนปลอม วัคซีนด้อยคุณภาพ

ปลัดสำนักนายกฯ แจ้ง หน่วยงาน ให้ เวิร์กฟอร์มโฮม - ทำให้ได้ 80%

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ปนร. ) ได้เวียนหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง การปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ถึงผู้บริหารและบุคลากร และเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทุกส่วนงาน เพื่อให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด
    
โดยระบุว่า ปัจจุบันได้พบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงขอให้เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 8 - วันพุธที่ 21 เมษายน 2564 (จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ) โดยให้พิจารณาดำเนินการดังนี้

1.) ให้ผู้อำนวยการ สำนัก กอง ศูนย์ วางแผนการปฎิบัติงาน ตรวจสอบ ติดตามและสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในที่พักอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้ง รายงานผลการปฏิบัติงานให้กองการเจ้าหน้าที่ (กจท.) ทราบทุกวัน เพื่อประมวลผลรายงาน ปนร. ทราบตามแนวทางที่ได้ปฏิบัติมา 

2.) งานการให้บริการประชาชนและการประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานตามกฎหมาย ขอให้พิจารณาแนวทางการดำเนินการตามความเหมาะสมและอย่าให้เกิดความเสียหายต่อราชการ

3.) ติดตามสถานการณ์โควิด-19 และข่าวสารที่เกี่ยวข้องจาก ศบค. ทุกวัน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับคนในครอบครัวและญาติมิตร อย่างต่อเนื่อง

4.) ปฏิบัติตามประกาศ สปน. ลงวันที่ 8 มกราคม 2564 

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยมีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด มีประวัติเคยติดต่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ รวมทั้งผู้ที่มีอาการน่าสงสัย ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลในพื้นที่ทันทีและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

รมว.แรงงาน ขานรับนโยบายรัฐบาล จัดทำโครงการขยายโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ เตรียมพร้อมรองรับสังคมสูงวัย ปีงบ 64 ตั้งเป้าขยายโอกาสฯผู้สูงอายุ 17,615 คน คืบหน้าแล้ว 10,514 คน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานโดยการกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงประชากรไทย สู่สังคมสูงวัย ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการส่งเสริมและพัฒนาผู้สูงอายุ ซึ่งมีมาตรการส่งเสริมการทำงานและการหารายได้ ส่งเสริมการฝึกอาชีพและจัดหางานให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถ 

“ปัจจุบันมีกรมการจัดหางานรับผิดชอบภารกิจดังกล่าว โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตั้งแต่เดือน(ตุลาคม 2563 ถึง เดือนมีนาคม 2564) มีผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพและส่งเสริมการจ้างงานแล้ว 10,514 คน จากเป้าหมาย 17,615 คน คาดว่าภายในเดือนกันยายน 2564 จะสามารถดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จแน่นอน และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จะมีการเพิ่มเป้าหมายการให้บริการผู้สูงอายุมากกว่า 18,000 คน พร้อมเพิ่มกิจกรรมพัฒนาต่อยอดสู่ตลาดออนไลน์ด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวถึงโครงการขยายโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีเป้าหมายรวม 17,615 คน ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ผู้สูงอายุ เป้าหมาย 2,580 คน และส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุในอาชีพที่เหมาะสมกับวัย และประสบการณ์ เป้าหมาย 15,035 คน โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระให้แก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีทักษะด้านอาชีพอิสระ ได้ฝึกปฏิบัติในอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ จนสามารถประกอบอาชีพหรือรวมกลุ่มได้ กิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุสู่การเป็นวิทยากรถ่ายทอดภูมิปัญญา โดยการพัฒนาความสามารถด้านการถ่ายทอดภูมิปัญญาให้แก่ผู้สูงอายุ เพื่อทำหน้าที่เป็นวิทยากรอุทิศภูมิปัญญาสืบทอดไว้ให้ชุมชุน กิจกรรมสานพลังประชารัฐ จัดหางานให้ผู้สูงอายุ 

โดยการสำรวจข้อมูลผู้สูงอายุที่ต้องการประกอบอาชีพ รวมทั้งการสร้างการรับรู้ให้นายจ้าง สถานประกอบการ เรื่องการจ้างงานผู้สูงอายุ และการบริการลงทะเบียนผู้สูงอายุที่ต้องการสมัครงานและบรรจุงาน กิจกรรม 1 อำเภอ 1 ภูมิปัญญา โดยการจ้างผู้สูงอายุเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ จำนวน 115 คน (1 คน : 1 อำเภอ) และกิจกรรมสร้างโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบรรจุงาน โดยการจ้างงานจากหน่วยงานภาครัฐ

“สำหรับผลการดำเนินงานตามโครงการฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงเดือนมีนาคม 2564 มีผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพและส่งเสริมการจ้างงานแล้ว 10,514 คน แบ่งเป็นผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพ 1,113 คน สร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุ 185,850 บาท ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการจ้างงาน 9,401 คน ผู้สูงอายุใช้บริการจัดหางาน 888 คน และได้รับการบรรจุงาน 739 คน โดยเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำแหน่งที่ผู้สูงอายุได้รับการบรรจุงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. แรงงานด้านการผลิตต่าง ๆ , แรงงานทั่วไป 2. พนักงานดูแลความปลอดภัย 3. พนักงานบริการลูกค้า 4. แม่บ้าน 5. ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการสอนในด้านอื่นๆ “ นายไพโรจน์ฯ กล่าว

สำหรับผู้สูงอายุที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10  ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job center) อาคาร 3 ชั้น ด้านหน้ากระทรวงแรงงาน หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

"แรมโบ้" ป้อง “บิ๊กตู่” ทำหน้าที่แก้โควิดได้ดีไม่ต้องเปลี่ยนตัว อย่างที่หมอชลน่านแนะย้ำการบริหารจัดการโควิด ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อัดกลับเลิกตีกินทางการเมืองในช่วงที่ประเทศเกิดปัญหา 

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาบอกว่ารัฐบาลล้มเหลวในการจัดการโควิด และหากนายกฯแก้ไม่ได้ ก็ควรลาออกให้คนอื่นมาทำ โดยกล่าวยืนยัน ว่า ขณะนี้ไม่มีใครเหมาะสมที่จะทำงานแก้ปัญหาเพื่อบ้านเมืองได้เท่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯแล้ว เพราะที่ผ่านมาทำงานแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด 19 เป็นที่ยอมรับทั้งคนในประเทศและต่างประเทศว่าสามารถทำได้เป็นอย่างดี การแก้ไขปัญหาโควิดนั้นต่อให้รัฐบาลทำได้ดีแค่ไหน หากไม่ได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน รวมทั้ง ส.ส. ฝ่ายค้านด้วยซึ่งหมอชลน่านเป็นหมอน่าจะรู้เรื่องนี้ดี 

นายเสกสกล กล่าวว่า ส่วนเรื่องวัคซีนนั้นนายกฯ ได้พยายามที่จะให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนให้โดยเร็วที่สุด และรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นภาคเอกชนจัดหาวัคซีนเองได้ ซึ่งเรื่องนี้ อย.ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าสามารถนำเข้าได้ เพื่อบริการฉีดให้กับประชาชน แต่ต้องอยู่ภายใต้การใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉะนั้นจะต้องมีการควบคุม มีการลงทะเบียนผู้รับวัคซีน ติดตามเรื่องความปลอดภัย ผลข้างเคียงต่าง ๆ และขณะนี้ก็มีมาขอขึ้นทะเบียนแล้ว 14 บริษัท

"หมอชลน่านอย่ามัวแต่จะตีกินทางการเมือง จนไม่สนใจข้อเท็จจริงอะไรเลย ขอให้เปิดใจดูบ้างว่านายกฯและรัฐบาลทำงานในการแก้ไขโควิดได้ดีมากน้อยแค่ไหน หลายครั้งที่มีการระบาดและไม่นานจำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลงนั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯ รัฐบาลทำได้ ประชาชนให้ความร่วมมือ”นายเสกสกล กล่าว

นายเสกสกล กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจจะเดินหน้าได้ช้าบ้าง นายกฯ ก็พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะทำให้ประชาชนได้บรรเทาความเดือดร้อนไปได้ ในภาวะวิกฤตโควิดแพร่ระบาดเศรษฐกิจทรุดลงตกต่ำไปทุกประเทศไม่ใช่ล่าช้าเฉพาะประเทศไทย ถ้าเปรียบเทียบกับหลาย ๆ ประเทศอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในบ้านเรายังดีกว่าประเทศอื่น ขณะเดียวกันรัฐบาลก็พยายามทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดและยังได้จัดหาวัคซีนให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนกันครบทุกคนและเร็วที่สุดแต่ทุกอย่างก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่มีอยู่ ไม่มีนายกฯหรือรัฐบาลใดอยากให้ประชาชนในประเทศติดโควิด และได้รับความเดือดร้อนจากโควิด อย่างแน่นอน ดังนั้นตนเองก็ขอให้หมอชลน่าน หยุดพูดเรื่องการเมืองไว้ก่อน และหันหน้ามาช่วยกันไม่ต้องช่วยนายกฯ ก็ได้แต่ขอให้ช่วยประชาชนเป็นหลัก

"ในภาวะเกิดการแพร่กระจายของเชื้อเพิ่มขึ้นอาจส่งผลติดต่อไปยังประชาชนมากขึ้น หมอชลน่านและคนในพรรคเพื่อไทยควรออกมาช่วยกันห้ามปรามหรือชี้แนะประชาชนให้ช่วยกันให้ความร่วมมือตามที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและศบค. แนะนำ ไม่ใช่อะไรก็จะโทษแต่นายกฯ ตีกินการเมืองรายวัน ถามว่าการใช้น้ำลายในปากพ่นรายวัน ได้ประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไรบ้างควรเอาประเทศชาติประชาชนเป็นหลัก รู้จักปล่อยวางการเมืองลงสักนิด จะได้เป็นนักการเมืองที่ดีในสายตาประชาชน" นายเสกสกล กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top