Tuesday, 14 January 2025
POLITICS NEWS

ชินวรณ์ นำทีมแกนนำครูเข้าพบ ปธ.กฤษฎีกา เสนอ 5 แนวคิด ร่าง พรบ.การศึกษาแห่งชาติ 

นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ นำแกนนำครูและเครือข่ายเดินทางไปสำนักงานคณะกรรมกฤษฎีกาเพื่อเสนอความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ โดยมีท่านมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะชุดใหญ่ในกฤษฏีกาเป็นประธาน

ทั้งนี้ได้มีการเสนอใน 5 ประเด็นหลัก 
1.) กระจายอำนาจการบริหารศึกษา 
2.) คุณภาพการศึกษาของเยาวชน
3.) ขวัญกำลังใจครู
4.) เทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล เพื่อการศึกษาในอนาคต 
5.) กองทุนครูแห่งแผ่นดินและกองทุนเทคโลยีนวัตกรรมทางการศึกษา

ขอขอบพระคุณท่านมีชัย ฤชุพันธ์ และคณะกรรมการที่จะนำความคิดเห็นไปปรับปรุงเพื่อเสนอเข้าสู่ ครม.ต่อไป

‘ปิยบุตร’ เดินสาย 8 เวทีทั่ว ‘ร้อยเอ็ด’ อ้อนขอกำลังใจแบบจับต้องได้ให้เดินหน้าสู้กับ ‘ยักษ์ตนใหญ่’ ศัตรูประชาธิปไตยต่อ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินสายขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ลงสมัครในนามคณะก้าวหน้า ซึ่งประกอบด้วย นายพลเสฏฐ์ พงศ์ฤทธิบาล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีกู่กาสิงห์, นายชาตรี กุลสุวรรณ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีโพนเมือง, นายเดชา แก้วภูมิแห่ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีโคกกกม่วง, นายร่วมภูมิศักดิ์ พลเยี่ยม ผู้สมัครนายกเทศมนตรีโพนทอง, นายสมใจ สุระ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีท่าม่วง, นายทวีสิทธิ์ มนตรีชน ผู้สมัครนายกเทศมนตรีดงสิงห์ นายประมวล สุวลักษณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีผักแว่น และนายเทพพร จำปานวน ผู้สมัครนายกเทศมนตรีอาจสามารถ

โดยในวันที่ 24 มีนาคม 2564 เป็นการปราศรัย 3 เวที และในวันที่ 25 มีนาคม 2564 เป็นการปราศรัยหาเสียงอีก 5 เวทีรวด รวม 2 วันเป็นจำนวน 8 เวทีท่ามกลางประชาชนในพื้นที่ ที่มารอฟังและรอให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก

นายปิยบุตร กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจุดเริ่มต้นทางการเมืองในภาคอีสานของตนเอง เพราะเมื่อครั้งที่เป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ได้ตระเวนขึ้นเวทีปราศรัย ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง ก็ได้มาปราศรัยครั้งแรกที่จังหวัดร้อยเอ็ดแห่งนี้ จึงรู้สึกผูกพันกับร้อยเอ็ดเป็นอย่างมาก และต่อมาก็ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวร้อยเอ็ดจำนวนเกือบ 9 หมื่นเสียง เมื่อรวมกันกับพี่น้องทั่วประเทศ พรรคอนาคตใหม่ได้รับคะแนนเสียงทั้งสิ้น 6 ล้าน 3 แสนเสียง ส่งผลให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตนเองและเพื่อนๆ ได้เป็น ส.ส.ทั้งสิ้น 80 คน กลายเป็นพรรคอันดับ 3 ของประเทศ 

แม้ว่าต่อมาหัวหน้าพรรคอันดับ 3 จะอยู่ในสภาได้แค่เพียงสิบนาทีก็ตาม จะพูดสักคำในสภา เขาก็ยังไม่ให้โอกาสได้พูด และตนเองโชคดีกว่านิดหน่อยที่ได้อยู่ 10 เดือน 28 วัน เพราะผู้มีอำนาจตกใจที่เห็นพวกเราทำงานการเมืองแบบใหม่ ไม่เคยมีประสบการณ์เป็นนักการเมืองมาก่อน แต่สามารถได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนอย่างถล่มทลาย ดังนั้นคมดาบ คดีความต่างๆ จึงมาเต็มไปหมด ไม่หยุดหย่อนเพราะพวกเขาต้องการขจัดพวกเรา เตะออกไปจากการเมืองให้ได้ แต่พวกเขาจะไม่มีวันทำสำเร็จ เหมือนเป็นการปล่อยเสือออกจากกรงให้เข้าป่า พวกเราแม้จะไม่ได้อยู่ในสภา แต่ก็จะเดินทางไปพูดให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศฟังถึงหน้าบ้าน ไปช่วยผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าหาเสียงทั้ง อบจ. เทศบาล และ อบต.

“หลายคนอาจคิดว่า เคยเป็นอดีตแกนนำพรรค ใส่สูทผูกเนกไทพูดอภิปรายในสภา ทำไมต้องมาช่วยหาเสียงในระดับท้องถิ่น เป็นการลดเกรด ลดชั้นหรือไม่ แต่สำหรับพวกเรากลับคิดในทางตรงกันข้าม เพราะพวกเราคิดว่า การเลือกตั้งในทุกระดับมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ จะมีประชาชนจำนวนเท่าใด เป็นการเลือกตั้ง ส.ส. หรือเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะประชาชนทุกคนคือเจ้านายของพวกเรา และพวกเราเชื่อว่า นี่เป็นโอกาสให้ได้มาเจอพี่น้องประชาชนทั่วประเทศไทย มาเจอพี่น้องประชาชนตัวเป็นๆ มาถ่ายรูปกัน มาให้กำลังใจกัน อีกทั้งการที่มีอดีตแกนนำพรรคการเมือง เคยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เคยเป็น ส.ส.อยู่ในสภา มาช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ระดับเทศบาลทั่วประเทศแบบนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย”

เลขาธิการคณะก้าวหน้า ยังได้กล่าวเชิญชวนให้เลือกการเมืองแบบใหม่เข้าไปรับใช้ประชาชน ขอโอกาสครั้งนี้ให้ได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย หยุดการเมืองแบบเก่าเปลี่ยนเป็นการเมืองแบบใหม่ที่แข่งกันด้วยนโยบาย แข่งขันกันที่ใครจะมีนโยบายที่ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น เป็นการแข่งขันที่ใครไปนั่งอยู่ในหัวจิตหัวใจของประชาชนมากกว่ากัน ซึ่งผู้สมัครของคณะก้าวหน้าทุกคนที่เราคัดสรร มีความตั้งใจทำงาน มีหัวใจประชาธิปไตย 100% ตั้งใจคิดนโยบายและทำงานเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

“ถ้ารักธนาธร รักผม และต้องการส่งกำลังใจ อย่างเป็นรูปธรรม ให้พวกเราทำการเมืองแบบใหม่ ในการต่อสู้กับศัตรูประชาธิปไตยที่เป็นยักษ์ตนใหญ่ที่มีทั้งอำนาจรัฐและเงินทองมากมาย พวกเรามีเพียงสมอง กำลังใจและสองมือ รวมทั้งการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน และเพื่อส่งเสียงเป็นกำลังใจบอกพวกเราว่าแนวทางที่กำลังทำอยู่นี้มาถูกทางแล้ว แนวทางการเมืองแบบใหม่ ก้าวหน้า ก้าวไกล เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตใหม่ของคนไทยทั้งประเทศ ต่อสู้กับเผด็จการสืบทอดอำนาจ คือการออกไปช่วยกันกาเลือกผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคมนี้ เพราะการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเริ่มต้นที่บ้านของพวกเรา เปลี่ยนแปลงบ้านเราให้ก้าวหน้า เปลี่ยนให้เทศบาลก้าวหน้า มาช่วยกันครับ” นายปิยบุตร กล่าวทิ้งท้าย

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งของการปราศรัยเมื่อ นายปิยบุตร กล่าวว่า ในอนาคตอยากจะพูดปราศรัยเป็นภาษาอีสานทั้งหมด แม้ว่าตอนนี้ก็พอพูดได้บ้างบางคำแล้ว แต่สำนวนการออกเสียงก็ยังแปลก ๆ อยู่ ดังนั้นอาจต้องมาเป็นเขยอีสานแล้ว จะได้พูดภาษาอีสานได้เก่ง ๆ แต่ตอนนี้เป็นไม่ได้เพราะแต่งเมียแล้ว ได้สร้างเสียงฮือฮา ปรบมือชอบใจจากประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ได้มีประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยได้ตะโกนให้กำลังใจเชิงหยอกล้อว่า คนอีสานยินดีต้อนรับ ถึงแม้จะไม่ได้มาเป็นเขยแต่ก็จะอยู่ในใจพวกเราเสมอ และหลังจากนั้นยังได้เข้ามาขอถ่ายรูปและให้กำลังใจพร้อมยืนยันว่าจะกาเลือกผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าด้วย

ช่อลุยอีสาน! ปลุกคนขอนแก่น-อุดร อย่าคิดขายอนาคตตัวเอง! หาเสียงใสใส เน้นผู้นำมีวิสัยทัศน์ ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา

ที่จังหวัดขอนแก่น เทศบาลตำบลบ้านเป็ด นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า พร้อมนายศุภศักดิ์ วงษ์อินทร์จันทร์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบ้านเป็ด เบอร์ 3 ขึ้นรถแห่โดยรอบตลาดสดเทศบาลบ้านเป็ดเพื่อประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่พี่น้อง ประชาชนออกไปเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกเทศบาล ในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคมนี้ 

นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของคนเทศบาลตำบลบ้านเป็ด วันนี้ตนได้พาผู้สมัครนายกเทศมนตรีและ (สท.) ในนามคณะก้าวหน้ามาแนะนำตัวแก่พี่น้อง พวกเรานำคนคุณภาพจที่มีความตั้งใจจะเข้ามาทำการเมืองใหม่ที่ประชาชนตรวจสอบได้ ขั้นตอนการทำงานจะต้องโปร่งใส เรามามือเปล่าไม่มีเงินมาซื้อเสียง เรามีแต่ความมุ่งมั่นและจริงใจ หาเสียงไปซื่อ ๆ ตรง ๆ กับพ่อแม่พี่น้อง เราขอเป็นส่วนนึงที่จะเข้ามาพัฒนาบ้านเป็ดไปด้วยกัน 

ด้านนายศุภศักดิ์ ผู้สมัครเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านเป็ดกล่าวว่า บ้านเป็ดเรามีศักยภาพเพียงพอ มีงบประมาณกว่า 300 ล้านบาทต่อปี ทำไมเราจะสร้างโรงเรียนคุณภาพดีในบ้านเกิดให้ลูกหลานเราไม่ได้ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เราสร้างและพัฒนาโดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เราจะพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อให้เยาวชนเราได้มีพื้นที่ทำกิจกรรม ศูนย์การเรียนรู้ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย

จากนั้นช่วงบ่ายนางสาวพรรณิการ์ได้เดินทางต่อมาที่จ.อุดรธานี อ.น้ำโสม ต.นางัว เพื่อช่วยนายแดนชัย โมครัตน์ เบอร์3 หาเสียงที่ตลาดสดนางัว มีประชาชนให้ความสนใจเข้าทักทายและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเย็นนางสาวพรรณิการ์ ได้เดินมาขึ้นเวทีปราศรัยที่ตำบลกลางใหญ่ อำเภอบ้านผือ พร้อมนายศุภมัฏฐ์  ปราบพาลทัพพ์ ผู้สมัครเทศมนตรีเทศบาลตำบลกลางใหญ่ และผู้สมัคร(สท.)

นางสาวพรรณิการ์ ระบุว่า “คณะก้าวหน้ามาถึงตำบลบ้านกลางใหญ่ อนาคตใหม่อนาคตที่สดใสมาถึงหน้าบ้านท่านแล้วท่านทราบหรือไม่ ตำบลบ้านกลางใหญ่ มีงบประมาณบริหารครบวาระ 4 ปี 240 ล้านบาท หากท่านใดคิดรับเงินจากการซื้อเสียง ด้วยเงิน 300 บาท ที่เขาแจก นั่นหมายความว่า ใน 1 วาระของเขา ซึ่งก็คือ 4 ปี หรือ 1,460 วัน ประชาชนจะได้รับเงิน คือ 300 (บาท) หารด้วย 1,460 (วัน) เท่ากับ 0.20 สตางค์ ตกอยู่ที่ไม่ถึงวันละถึง 1 สลึงเลยด้วยซ้ำ หรือต่อให้ได้ 1,500 บาท เฉลี่ยต่อวันในหนึ่งวาระคำนวนแล้วจะตกอยู่ คือ 1,500 (บาท) หาร 1,460 (วัน)  เท่ากับ 1.03 บาท แบบนี้ใครคุ้ม? เขาจ่าย300บาท เพื่อเข้าไปถือเงิน240ล้านบาท! เราจะขายอนาคตของตัวเอง ขายอนาคตของลูกหลานให้กับเงินจำนวนนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่” หรือจะเลือกคนมีวิสัยทัศน์อย่างพี่ศุภมัฏฐ์ ที่มีนโยบายพาบ้านกลางใหญ่ก้าวหน้าด้วยการปรับปรุงถนนหนทาง พัฒนาศูนย์กีฬา แก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคมนี้ ท่านคือผู้กำหนดอนาคตของท่านเอง

“ผบ.ทสส.” หนุนฝึกร่วมเหล่าทัพ เผยยิง "ฮาร์พูน" กลางอันดามันแม่นยำ เสริมความมั่นใจกำลังพล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร. )พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ. )พล.ต.อ สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร. ) พล.อ.ชูชาติ  บัวขาว รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. ธีรวัฒน์  บุณยะวัฒน์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งจอดลอยลำอยู่ในพื้นที่ทะเลอันดามัน บริเวณจังหวัดภูเก็ต เพื่อชมการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นแบบ HARPOON BLOCK 1C  โดยเรือหลวงตากสิน  และการฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพอากาศ  (LINK – E) 

จากนั้นคณะได้ออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังบริเวณยังเขาลำปี ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อชมการยิงอาวุธทางยุทธวิธี และยิงเป้าอากาศยาน ของ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.)และ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) นอกจากนั้น ยังมีการปฏิบัติร่วมกับเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพ้น
ของกองทัพอากาศ โดยการฝึกสถานการณ์สมมุติภายใต้แผน “ศรีวิชัย2” ของกองทัพเรือ กับแผน “เฉลิมอากาศ” ของกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมระดับเหล่าทัพสนับสนุนแผนป้องกันประเทศของกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นไปตามยุทธศาสตร์ในการดูแลรักษาประโยชน์ของชาติทางทะเล และทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านอันดามันและอ่าวไทย โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งทางด้านยุทธศาสตร์รวมถึงท่าเรือน้ำลึกต่างๆที่ตั้งอยู่ด้วย

หลังเสร็จสิ้นการฝึก พล.อ.เฉลิมพล ได้ยกนิ้วโป้งให้กำลังพล พอใจการฝึกในครั้งนี้ เพราะเป็นการฝึกประจำปีในหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นเรื่องของการปฏิบัติการป้องกันอธิปไตยบนฝั่งในกรณีมีภัยคุกคามทางทะเลเข้ามา ซึ่งเป็นการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกองทัพเรือ กับ กองทัพอากาศ ที่รับผิดชอบอธิปไตยในน่านฟ้า ในการปฏิบัติภารกิจตามขีดความสามารถของตัวเอง จะทำหน้าที่แจ้งเตือนหากไม่สามารถต้านทานอากาศยานได้บางส่วน ก็จะส่งต่อเป้าหมายมายังกองทัพเรือภาค 3 ที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว ถือว่าเป็นการประสานงานที่สอดคล้อง และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการฝึก ซึ่งการฝึกของทหารเพื่อให้มีความพร้อมปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และมั่นใจในอาวุธยุทโธปกรณ์  ถือว่าเป็นการฝึกที่ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อกำลังที่จะต้องหมุนเวียนกันในการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นการฝึกจึงมีความจำเป็น

ผบ.ทสส. กล่าวอีกว่า การยิงอาวุธปล่อยนำวิถีฮาร์พูน ถือว่ามีความแม่นยำมาก โดยเป็นการบินในระยะ 55 ไมล์ทะเลหรือ 110 กิโลเมตร นับเป็นการยิงครั้งแรกของกองทัพเรือหลังจากได้รับเรือหลวงตากสินมา ทั้งนี้อาวุธปล่อยนำวิถีฮาร์พูนมีอายุ 35 ปี โดยมีการปฏิบัติบำรุงตามวงรอบ ซึ่งถือว่าเป็นการยิงด้วยกระสุนจริงจากที่ผ่านมาเป็นการยิงด้วยกระสุนฝึกเท่านั้น จึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้หน่วยในการปฏิบัติภารกิจได้เป็นอย่างดี

“แม้จะเป็นการฝึกประจำปีของกองทัพเรือ แต่ในภาพรวมก็เป็นการประสานงานร่วมกันกับกองทัพอากาศด้วย โดยเฉพาะในส่วนที่เชื่อมต่อกับการปฏิบัติ และบางส่วนก็เชื่อมต่อกับกองทัพบก ซึ่งในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ที่จะทำการฝึกภาคสนามที่บ้านจันทเขลม จ.จันทบุรี กองทัพบกจะส่งยานเกราะเข้าร่วมการฝึกด้วย”พล.อ.เฉลิมพล กล่าว

“เลขาฯพลังชล” เผย จับรมต.ใหม่ พิสูจน์ผลงาน โดยเฉพาะระบบการศึกษา

นายสุระ เตชะทัต เลขาธิการพรรคพลังชล กล่าวถึงโฉมหน้าครม.ชุดใหม่ว่า การปรับครม.ชุดใหม่ อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์บ้างถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่หลังจากนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลและรัฐมนตรีใหม่จะต้องพิสูจน์ฝีมือในการทำงาน โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ ที่ถูกจับตามองว่าจะทำให้ระบบการศึกษาเป็นอย่างไร เกิดการปฏิรูป ทำให้เกิดความเท่าเทียมทางการศึกษาได้จริงหรือไม่ 

ขณะนี้รัฐบาลมีปัญหาด้านความเชื่อมั่นหลายเรื่อง ทั้งการบริหารราชการ การปฏิรูปการศึกษา ปัญหาโควิด ปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญ ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มผู้เห็นต่าง ที่หลายฝ่ายต่างจับตามอง ล้วนกระทบภาพลักษณ์รัฐบาลทั้งสิ้น ดังนั้นขึ้นอยู่ที่ว่าจะบริหารจัดการให้เกิดความเชื่อมั่นอย่างไร

“ธนาธร” ลุยโค้งสุดท้าย สู้ศึกเลือกตั้ง “เทศบาล” ชูนโยบาย “จัดการขยะ - ขนส่ง -พื้นที่สาธารณะ” เปลี่ยน “นครเจ้าพระยาสุรศักดิ์”

ที่วัดจุกกะเฌอ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางพบปะผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ พร้อมร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับ นายกุลธวัช ชัยปิยังกูร ผู้สมัครนายกเทศมนตรี ในนามคณะก้าวหน้า เบอร์ 3 โดยเริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่อยู่ในวัด จากนั้นตั้งเวทีพูดคุยเรื่องนโยบายสำหรับการพัฒนาเทศบาล ก่อนที่จะขึ้นรถแห่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม นี้

นายกุลธวัช กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนมีความมั่นใจ มีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ โดยมีนโยบายสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1. การจัดการขยะ เพื่อให้บ้านเมืองของเราสะอาดปลอดขยะตกค้าง 2. นโยบายขนส่งสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันประชาชนอาศัยรถสองแถวซึ่งรอนาน และก็มีแค่ 2 สาย ซึ่งถ้าเทียบกับ 108,000 คน ยังไม่รวมประชากรแฝง ถือว่าไม่เพียงพอ ทำให้คนหันไปใช้รถส่วนตัว ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาแออัดในเมือง รถติด ไม่มีที่จอด  ดังนั้น เล็งเพิ่ม ให้เป็น 4 สาย ใช้รถบัส 20 ที่นั่ง มีแอพลิเคชั่นและจีพีเอสติดตามรถ ให้ประชาชนสามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวกขึ้น  และ 3. เพิ่มพื้นที่สวนสาธารณะ ให้กระจายครอบคลุมทุกชุมชน เพื่อประชาชน เข้าถึงง่าย

ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า จากที่ได้ฟังนโยบายแล้ว เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะใน 3 เรื่องสำคัญที่นำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนส่งสาธารณะ ที่ให้คนเดินทางได้โดยไม่ต้องใช้รถ ซึ่งหัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือการลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ประชาชนไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมเงินมาซื้อรถเพื่อให้ตัวเองเดินทางได้ ส่วนเรื่องการจัดการขยะ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเทศบาลส่วนใหญ่ไม่มีการจัดการขยะอย่างถูกวิธี บ่อขยะถูกทิ้งแบบเปิด กองพะเนิน ฝนตกลงมาก็ชะล้างไหลลงแม่น้ำลำคลองที่เราใช้น้ำอุปโภคบริโภค ดังนั้น จำเป็นต้องมีการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง ก่อนมาสู่โรงคัดแยกซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะทำด้วย เพราะวันนี้ ถ้ายังจัดการขยะอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เราจะไม่มีที่ทิ้งขยะ เพราะจะล้น เพราะไม่มีใครอยากให้มีบ่อขยะที่บ้านตัวเอง

“เรื่องของสวนสาธารณะก็เป็นเรื่องสำคัญ การเพิ่มพื้นที่สาธารณะของเทศบาลจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหมายถึง 1.) เราต้องการอากาศสะอาดที่หายใจ 2.) เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ให้พ่อแม่ได้พาเด็กมาวิ่งเล่นซึ่งจะหมายถึงการพัฒนาร่างกาย การพัฒนาสมอง ทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ และ 3.) เป็นพื้นที่ให้คนได้มาออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยในเรื่องลดการเจ็บป่วย ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศด้วย” นายธนาธร กล่าว 

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายธนาธรเดินทางไปช่วยหาเสียงต่อให้กับ นายอภิวัฒน์ ชอบขาย ผู้สมัคร นายกเทศมนตรีตำบลเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ เบอร์ 2 โดยเดินตลาดพบปะประชาชน พ่อค้าแม่ขาย ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สุชาติ” ห่วงแรงงาน กำชับ บอร์ดอุทธรณ์ พิจารณาแนวทางรักษาสถานะภาพผู้ประกันตน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงใยผู้ประกันตนมาตรา 39 กรณีขาดส่งเงินสมทบและสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนให้สามารถมีสถานะผู้ประกันตนต่อไปได้ กำชับบอร์ดอุทธรณ์ประกันสังคม เร่งหารือพิจารณากำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนและให้เจ้าหน้าที่มีแนวปฏิบัติในทางเดียวกัน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร/จังหวัด/สาขา หลายแห่งทั่วประเทศได้มีหนังสือถึงคณะกรรมการอุทธรณ์ให้พิจารณากรณีที่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 39 ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนแล้วและต่อมาบางรายประสบปัญหาสิ้นสุดสภาพการเป็นผู้ประกันตนเนื่องจากขาดส่งเงินสมทบ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ระบุว่า ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขาดส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน จะถือว่าได้สิ้นสุดสภาพการเป็นผู้ประกันตนตั้งแต่เดือนแรกที่ขาดส่ง หรือกรณีที่ผู้ประกันตนให้หักเงินสมทบผ่านบัญชีธนาคาร แต่ยอดเงินในบัญชีมีไม่เพียงพอ ทำให้สิ้นสภาพความเป็นผู้ประกันตนได้เช่นเดียวกัน ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งและสำนักงานประกันสังคมแต่ละแห่งไม่สามารถวินิจฉัยเองได้ จึงได้ส่งเรื่องมายังคณะกรรมการอุทธรณ์พิจารณาหาข้อยุติ 

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีนโยบายชัดเจนที่จะช่วยเหลือผู้ประกันตนในกรณีดังกล่าวเพื่อมิให้ต้องสิ้นสุดสภาพการเป็นผู้ประกันตน จึงได้กำชับให้ คณะกรรมการอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งมี นายอาทิตย์ อิสโม เป็นประธาน เร่งพิจารณาถึงเรื่องนี้ เพื่อเสนอแนะไปยังสำนักงานประกันสังคมดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และระเบียบของ พ.ร.บ. ประกันสังคมฯ ซึ่งคณะกรรมการอุทธรณ์ที่รัฐมนตรีแต่งตั้งประกอบด้วย ประธานกรรมการ กรรมการซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมาย ผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์ ผู้ทรงคุณวุฒิทางระบบงานประกันสังคม ผู้ทรงคุณวุฒิทางการแรงงาน ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง จะให้ความเห็นต่อสำนักงานประกันสังคม

สำหรับขั้นตอนการยื่นคำร้องเพื่อขอขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาโดยแสดงเหตุแห่งความจำเป็นนั้น จะขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาออกไปก็ได้ ทั้งนี้ ต้องยื่นคำร้องภายใน 15 วันนับแต่เหตุจำเป็นนั้นสิ้นสุดลง เพื่อไม่ให้ผู้ประกันตนต้องพ้นสภาพจากสถานะความเป็นผู้ประกันตน โดยนายจ้าง ผู้ประกันตน หรือบุคคลอื่นใด ที่ไม่พอใจในคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งดังกล่าว จากนั้นคณะกรรมการอุทธรณ์จะพิจารณาวินิจฉัยแล้วแจ้งคำวินิจฉัยเป็นหนังสือให้ผู้อุทธรณ์ทราบ แต่หากผู้อุทธรณ์ไม่พอใจให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลแรงงานภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัย แต่ถ้าไม่นำคดีไปสู่ศาลแรงงานภายในระยะเวลาดังกล่าวให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์เป็นที่สุด

นายอาทิตย์ อิสโม ประธานกรรมการคณะกรรมการอุทธรณ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นคณะกรรมการอุทธรณ์ได้ให้อนุกรรมการวิชาการไปพิจารณาศึกษารายละเอียดถึงแนวทางเพื่อไม่ให้ผู้ประกันตนต้องสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนกรณีขาดส่งเงินสมทบ ซึ่งความเห็นของคณะกรรมการอุทธรณ์ในครั้งนี้จะเป็นที่มาและข้อเสนอแนะยังสำนักงานประกันสังคมในการกำหนดแนวปฏิบัติที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์แก่ผู้ประกันตนต่อไป

“ผบ.ทสส.” หวัง 'โควิด' ซา เดินหน้าฝึก 'คอบร้าโกลด์' หวังกระชับมิตรทางทหารประเทศ-กระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่เขาลำปี หาดท้ายเหมือง จ.พังงา พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวถึง การฝึก 'คอบร้าโกลด์ 2021' ประจำปี 2564 ว่า ขณะนี้ยังเป็นการวางแผน ต้องรอดูสถานการณ์การแพร่บาดโควิด-19 ในขณะนั้นว่าจะสามารถ ทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่ปัจจุบันเราได้เตรียมการรวมถึงรูปแบบในการปฏิบัติ เราคาดหวังว่าจะสามารถฝึกได้ตามห้วงเวลาที่กำหนดที่ได้เลื่อนไปจากเดิมเป็นเดือนสิงหาคม  เพราะจะสร้างประโยชน์ร่วมกันหลายเรื่อง ทั้งการปฏิบัติร่วมกันของมิตรประเทศและเศรษฐกิจประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึก 'คอบร้าโกลด์ 2021' ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทย และกองกำลังสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโด - แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทย ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของประจำทุกปี  แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้การฝึกดังกล่าวเลื่อนไปเป็นเดือนสิงหาคม 2564

โดยการฝึกคอบร้าโกลด์ มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึก ประยุกต์ใช้กำลังรบในสถานการณ์วิกฤติต่างๆ รวมทั้งการฝึกใช้ระเบียบปฏิบัติประจำกองกำลังผสมนานาชาติ เพื่อให้ทุกชาติมีความเข้าใจตรงกันและพร้อมปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเกิดสถานการณ์จริง

สำหรับปีนี้มี 7 ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกหลักคือ ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี และมาเลเซีย ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน 2 ประเทศ คือ จีน และอินเดีย ส่วนอีก 20 ประเทศ จะเข้าร่วมสังเกตการณ์ และร่วมฝึกโครงการเสนาธิการผสมนานาชาติ รวม 29 ประเทศ

‘เสรีพิศุทธ์’ เหน็บแรง ‘ปารีณา’ พังเพราะความไม่รู้ ซัด นั่ง กมธ.ป.ป.ช.แต่ไม่ทำงาน มากินของฟรี - เซ็นรับเบี้ยประชุมแล้วก็ไป ได้ทีแขวะพรรคการเมือง ควรเลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถ มาทำหน้าที่กมธ. ไม่ใช่ส่งใครมาก็ได้

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีการับคำร้องคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน จ.ราชบุรี โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไว้ก่อน

ซึ่ง น.ส.ปารีณา เป็นหนึ่งในกมธ.ด้วย ว่า เป็นดุลยพินิจของศาลที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ถือว่าพ้นจากตำแหน่งส.ส. ซึ่งเมื่อหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ก็ไม่อาจมาปฏิบัติหน้าที่กมธ.ได้ จนกว่าศาลจะวินิจฉัย หากไม่ผิดก็สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่หากผิดก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรเพราะพล.ต.อ.เสรีศุทธิ์ ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับน.ส.ปารีณามาโดยตลอด พล.ต.อ.เสรีศุทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ น.ส.ปารีณา อย่าคิดว่าส.ส. ต้องรู้กฎหมาย ส.ส. จำนวนมากเลือกตั้งเก่ง ซื้อเสียงกันมา ทางราชบุรีก็เหมือนกัน เป็นตั้งแต่รุ่นพ่อ มีหัวคะแนนต่างๆ สืบทอดมาถึงรุ่นลูก เมื่อมาเป็นส.ส. ซึ่งไม่เคยบริหารราชการมาก่อนจึงขาดความรู้และประสบการณ์ ที่ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นเรื่องของตนเองแท้ ๆ แต่ไม่รู้ว่าที่ดินเหล่านี้เป็นที่ดินที่ผิดกฎหมาย ก็ตายเพราะความไม่รู้

"สำหรับ น.ส.ปารีณามีเรื่องในกมธ.มากมาย ผมมอบงานให้ก็ไม่ทำ มาถึงก็มานั่งทาน ทานเสร็จแล้วก็ไป บางครั้งก็มาเซ็นชื่อแล้วก็ไป ไม่ได้ทำงาน แต่ก็รับเบี้ยประชุม ย้อนแย้งผมอยู่ตลอดเวลา ผมก็ปล่อยไปไม่เอาเรื่องเอาราว" พล.ต.อ.เสรีศุทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าหากท้ายที่สุดแล้ว น.ส.ปารีณา ไม่มีความผิด ยังมีความเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่ในกมธ.อยู่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ถ้าส่วนตัวก็คือไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้มีความรู้และไม่ได้มีความสนใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้กมธ.มีมติไม่มอบหมายให้ น.ส.ปารีณา มานานแล้ว แต่กมธ.เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะส่งมาตามโควตา ตนกล่าวเพียงว่าจะเลือกส.ส.มาอยู่กมธ.คณะไหน ก็ขอให้คัดเลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถตรงตามอำนาจหน้าที่ของกมธ.นั้นๆ ไม่ใช่ส่งใครมาก็ได้ และมาเป็นที่หนักใจของกมธ.


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

“ผบ.ตร.” ยันฝึกควบคุมฝูงชนตามวงรอบ ยึดมาตรฐานยูเอ็น โยนนครบาลเคลียร์คืนพื้นที่ม็อบข้างทำเนียบฯ

เมื่อวันที่ 25 มีนาคาม ที่หาดท้ายเหมือง จ.พังงา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีออกคำสั่งฝึกทบทวนข้าราชการตำรวจ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลการชุมนุมสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ว่า มีวงรอบอยู่แล้วที่ตนสั่งการไปล่าสุดและเน้นย้ำไปคือให้ยึดตามมาตรฐานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)เป็นตัวตั้ง ซึ่งจริง ๆ แล้วเราฝึกมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาฝึก แต่มีหลากหลายรูปแบบ แต่เราจะเน้นอันนี้เป็นตัวหลัก โดยให้หน่วยเขารับทราบ เพราะเวลามาปฏิบัติร่วมกันก็จะใช้มาตรฐานเดียวกันหมด 

เมื่อถามถึงการรับมือการชุมนุม หลังมีผู้ชุมนุมไปร่วมชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นจำนวนมาก พล.ต.อ.สุวัฒน์  กล่าวว่า เราดูแลเรื่องความสงบ เรื่องความเรียบร้อย ไม่ให้เขาละเมิดกฎหมาย ก็ยังคงใช้ตามเดิม ส่วนเรื่องจำนวนคนที่ชุมนุมก็สุดแล้วแต่ แต่เราก็มีมาตรการของเรา

เมื่อถามถึงกระแสข่าวเจ้าหน้าที่จะขอพื้นที่คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ชุมนุมอยู่บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องการปฎิบัติของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)เขาอาจจะต้องดูเวลาและความเหมาะสมในการบังคับใช้  ซึ่งตนขอชี้แจงว่าการชุมนุมในบริเวณดังกล่าวผิดกฎหมายอยู่แล้ว 

เมื่อถามต่อถึงภาพรวมการชุมนุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังมีการปรากฏภาพผู้สื่อข่าวได้รับบาดเจ็บ และภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ชุมนุมกดลงไปกับพื้น จนทำให้ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะกัน พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทุกครั้งเมื่อมีการปฏิบัติ เรามีการทบทวนบทเรียนเสมอ สิ่งใดที่ทำดีอยู่แล้ว เราก็รักษาต่อไป อะไรที่ต้องปรับปรุงเราก็ต้องทำ ส่วนการทบทวนนั้น มีการนำเข้าสนามฝึกและมีการทำความเข้าใจกับกำลังพลให้มีความแม่นยำในการปฎิบัติหน้าที่

เมื่อถามว่ามีการกล่าวถึงคำพูดที่ว่าทำตามคำสั่งนาย  มองคำว่าคำสั่งนายกับกฎหมายอย่างไร พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า คำสั่งผู้บังคับบัญชาก็สั่งตามกฏหมายไม่ได้ออกนอกกฏหมายอยู่แล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top