Wednesday, 7 May 2025
POLITICS NEWS

ทบ.bยกระดับมาตรการป้องโควิดช่วงสงกรานต์ สนับสนุนรบ. ดูแลปชช. 

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในห้วงเดือนที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อแพร่กระจายไปทั่วเป็นจำนวนมากจากกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับหลายกลุ่มคนและสถานที่หลายแห่ง รัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จึงได้ปรับมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในช่วงเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งต้องมีการเดินทางสัญจรของผู้คนเป็นจำนวนมาก พร้อมกับมีการเฉลิมฉลองสังสรรค์ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค

พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวอีกว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก จึงได้ปรับมาตรการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยได้กำหนด “มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกำลังพลหน่วยทหารและค่ายทหาร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์” ซึ่งเน้นย้ำกำลังพลและหน่วยทหารให้ปฏิบัติตามวินัยทหารต้านโควิด-19 อย่างเคร่งครัด อาทิ การบันทึกไทม์ไลน์สถานที่เดินทาง, หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่แออัด, การแสกนแอปพลิเคชันไทยชนะ / หมอชนะ ในทุกสถานที่ ที่ได้เดินทางไปตลอดห้วงเทศกาลหรือช่วงลาพักกลับภูมิลำเนา จนกระทั่งกลับเข้าทำงานตามปกติ กรณีเป็นผู้ที่พักอาศัยบ้านพักของทางราชการ จะต้องแจ้งข้อมูลการเดินทางให้หัวหน้าที่พักอาศัยทราบ รวมถึงเมื่อกลับจากการเดินทางแล้ว จะต้องตรวจคัดกรองโรคก่อนกลับเข้าพักอาศัย นอกจากนี้ได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด อาทิ เว้นระยะห่างทางสังคม, สวมหน้ากากอนามัย, หมั่นล้างมือ และใช้เจลแอลกอฮอล์ 

สำหรับหน่วยทหาร ให้งดจัดกิจกรรมสงกรานต์ เว้นการสรงน้ำพระ และเมื่อเปิดทำการหลังเทศกาล จะต้องตรวจคัดกรองกำลังพลทุกนายก่อนกลับเข้าปฏิบัติงาน โดยกองรักษาการณ์ของทุกหน่วยทหารจะต้องทำหน้าที่เฝ้าระวัง บันทึกข้อมูลการเข้า-ออก พร้อมคัดกรองโรคอย่างเคร่งครัด ในส่วนของการจัดตั้งจุดบริการและอำนวยความสะดวกประชาชนห้วงเทศกาลสงกรานต์ ให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกนายปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเข้มงวดตลอดการปฏิบัติงาน

“การยกระดับมาตรการช่วงสงกรานต์นี้ เป็นการพิทักษ์กำลังพลและครอบครัวให้ปลอดภัยจากโควิด พร้อมปฏิบัติงานและสนับสนุนรัฐบาลในการอำนวยความสะดวก ดูแลช่วยเหลือ และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างเข้มแข็งต่อไป” พล.ท.สันติพงศ์ กล่าว 

ก.แรงงาน มอบรถยนต์ ให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแผ่นดินเสมอ

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ พล...นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เยี่ยมชมกิจกรรมในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแผ่นดินเสมอ พร้อมมอบรถยนต์ของสำนักงานประกันสังคม จังหวัดกระบี่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในหน่วยงานของรัฐ ให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแผ่นดินเสมอ ตำบลตลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อมเหนือ จังหวัดกระบี่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

พล...นันทชาติ กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ที่ได้นำเรื่องที่ได้รับมอบหมายไปดำเนินการ ทั้งนี้ ผมอยากให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้

สามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อสังคมโดยรวมและภาคแรงงาน อันเกิดจากการร่วมมือกันปฏิบัติงานในระบบทีมที่ดี และมีประสิทธิภาพของทุกๆ ท่าน ซึ่งผมพร้อมจะสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ และให้ข้อแนะนำต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาและดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

“บิ๊กตู่” สั่งเหล่าทัพ เตรียมความพร้อม รพ.สนามกว่า 3,000 เตียง รองรับสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพ อยู่ระหว่างเร่งจัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม ตามสั่งการของ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยปัจจุบัน ได้จัดเตรียมพื้นที่หน่วยทหารจำนวน 10 แห่ง พร้อมบุคลากรแพทย์ทหาร สนับสนุนจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม จำนวนกว่า 3,000 เตียง ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล  ทั้งนี้ ทุกเหล่าทัพอยู่ระหว่างทำการสำรวจเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาหน่วยทหารให้เป็นพื้นที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่อาจรุนแรงและขยายตัวเป็นวงกว้างขึ้นต่อไป

ชี้! รมว.สุชาติฯ มอบ 3 นโยบายเร่งด่วน เดินหน้าภารกิจกรมการจัดหางาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมกรมการจัดหางาน ครั้งที่ 3/2564 มอบ 3 นโยบาย บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวเร่งตรวจโควิด-19 ส่งเสริมการจัดหางานให้คนไทยมีงานทำ และส่งเสริมแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ตลอดจนคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานขอเน้นย้ำนโยบายในการปฏิบัติราชการครึ่งปีหลังของกรมการจัดหางานที่จะต้องปฎิบัติอย่างเร่งด่วน 3 ด้าน ได้แก่

1.) ด้านการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว

2.) ด้านการส่งเสริมการจัดหางานให้คนไทยมีงานทำ

3.) ด้านการส่งเสริมแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ แก่รักษาราชการอธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารระดับสูง และข้าราชการกรมการจัดหางาน โดยเน้นการบริหารจัดการการแพร่ระบาดโควิด-19 ในแรงงงานต่างด้าวโดยการเร่งตรวจคัดกรองโควิด-19 การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในพื้นที่เพื่อส่งเสริมการมีงานทำสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ และเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน และการหาแนวทางเพิ่มการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน รับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หลังได้รับฟังการรายงาน และติดตามผลการปฎิบัติงานตามภารกิจด้านต่างๆจากจัดหางานจังหวัดและผู้อำนวยการสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดเร่งสำรวจ ตรวจสอบ ข้อมูลแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เพื่อประสานกับสาธารณสุขจังหวัด เข้าตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 และทำประกันสุขภาพให้แล้วเสร็จภายใน 16 มิถุนายน 64  

ในส่วนการส่งเสริมการมีงานทำให้คนไทย ให้ดำเนินการเชิงรุก สร้างความเข้าใจแก่นายจ้าง / สถานประกอบการ / สถานศึกษา ถึงผลดีและการปรับเปลี่ยน เงื่อนไขต่าง ๆ ของโครงการที่ขณะนี้มีความพร้อมในการรองรองรับผู้เข้าร่วมโครงการ และในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ ให้เร่งปรับปรุง กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการจัดส่งแรงงานไทย เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งอาจมีการเจรจาเพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ

ศบค. แถลง ไทยติดเชื้อพุ่ง 405 ราย สธ. ยัน! ไม่ปรับสีพื้นที่ ยึดตามเดิม ชงปิดสถานบันเทิง 41 จังหวัด นายกฯ สั่งเตรียมแนวทางเวิร์ค ฟอร์ โฮม หมอทวีศิลป์ ระบุ ยังหาที่มาสายพันธุ์อังกฤษเข้ากลางกรุงไม่ได้ แต่ ลั่น สธ. จะหาให้เจอ - ดูจากรหัสพันธุกรรม

วันที่ 8 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 405 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 391 ราย มาจากการระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 197 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 194 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 14 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 30,310 ราย หายป่วยสะสม 28,101 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2,114 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 95 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 133,688,126 ราย เสียชีวิตสะสม 2,901,038 ราย 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่ กทม. มี 95 ราย มาจากการระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 48 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 47 ราย อย่างไรก็ตาม หากดูกราฟแสดงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำแนกตามความเสี่ยง จะเห็นว่าการติดเชื้อในสถานบันเทิงในพื้นที่ กทม.ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เคยมีมาแล้วในช่วงต้นปี 64 ที่ผ่านมา ในสถานบันเทิงย่านปิ่นเกล้า ครั้งนี้มาอีกกลุ่มย่านทองหล่อ เหตุที่ยอดพุ่งสูงเพราะพื้นที่เหล่านั้นเป็นพื้นที่ปิด มิดชิด อับ ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และข้อมูลจากสำนักอนามัย กทม. ระหว่างวันที่ 22 มี.ค.จนถึงปัจจุบันที่มีการปิดสถานบันเทิงต่างๆ ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าไปเกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 21 แห่งใน 8 เขต ประกอบด้วย เขตวัฒนา 9 แห่ง บางแค 1 แห่ง ภาษีเจริญ 1 แห่ง ลาดพร้าว 2 แห่ง ห้วยขวาง 4 แห่ง ดินแดง 1 แห่ง วังทองหลาง 2 แห่ง บางกะปิ 1 แห่ง โดยข้อสังเกตของการระบาดรอบนี้ส่วนใหญ่เป็นสถานบริการในรูปแบบเลานจ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนที่หรูดูดี เน้นลูกค้าที่มีระดับ ราคาแพง และลูกค้าเมมเบอร์เป็นหลัก มีเด็กนั่งดริ๊งค์ และย่านที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนมีร้านประเภทเดียวกันตั้งอยู่ติดกัน    

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน (8 เม.ย.) ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี) กระทรวงสาธารณสุข ได้พิจารณาเรื่องการปรับระดับพื้นที่ หรือปรับสีพื้นที่ โดยได้ข้อสรุปและจะเสนอ ศบค.ชุดเล็กว่า จะไม่มีการปรับระดับพื้นที่ หรือปรับสีพื้นที่ เพราะจะกระทบต่อการวางแผนการเดินทางของประชาชนและผู้ประกอบการที่ไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเรื่องสถานบันเทิงเท่านั้น ดังนั้น มาตรการในช่วงสงกรานต์จึงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยข้อมูลจนถึงวันที่ 7 เม.ย. มีผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องสถานบันเทิงเพียง 20 จังหวัด และ 504 ราย เท่านั้น ถ้าเราจะออกมาตรการไปกระทบต่อคนเรือนล้านคงไม่แฟร์และไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ การใช้ยาแรงกวาดไปทั้งหมดจึงไม่เหมาะสม ผอ.ศบค.จึงมอบหมายให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พูดคุยกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสนอแนวทางการให้ยาเฉพาะจุดที่มีปัญหา จะเฉพาะเจาะจงลงไป โดยให้กระทรวงสาธารณสุขทำเสนอขึ้นมา ซึ่งในวันเดียวกันนี้ (8 เม.ย.) กระทรวงสาธารณสุข

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า และในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ทางอีโอซีกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแนวทางผ่านไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. ให้ปิดสถานบริการ สถานประกอบการ ที่มีลักษณะคล้ายสถานที่บริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด อย่างน้อยเป็นเวลา 14 วัน หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กอีกครั้งในวันที่ 9 เม.ย. เพื่อพิจารณาและเสนอ ผอ.ศบค.ลงนาม โดยมาตรการดังกล่าวจะใช้กับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อในสถานบันเทิงและจังหวัดใหญ่ที่เป็นทางผ่านและมีสถานบันเทิงจำนวนมาก รวมทั้งสิ้น 41 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา นราธิวาส นครราชสีมา ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี บุรีรัมย์ เลย เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย ตาก และเพชรบูรณ์ ทั้งนี้ ข้อเสนอที่กล่าวมาเป็นการพิจารณาในเบื้องต้นและจะมีการอนุมัติในภายหลัง แต่ที่เอามาพูดก่อนเพื่อให้ผู้ประกอบการใน 41 จังหวัดได้เตรียมการล่วงหน้า พร้อมกันนี้ ผอ.ศบค.ยังให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยกำหนดแนวทางเวิร์ค ฟอร์ โฮม ตามความเหมาะสมในแต่ละกรณี รวมถึงขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชนให้พิจารณาแนวทางดังกล่าวด้วยเพื่อลดปริมาณผู้ปฏิบัติงานและลดการเดินทาง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราขอความร่วมมือสถานประกอบการอื่นที่ยังไม่ได้รับคำสั่งให้หยุดการดำเนินงานให้เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการป้องกันโควิด-19 หรืออาจจะพิจารณาหยุดดำเนินการด้วยความสมัครใจ และขอให้ประชาชนร่วมมือต่อการป้องกันโควิด-19 สำหรับแนวทางในการจัดกิจกรรมช่วงสงกรานต์ การจัดพิธีสรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ การเดินทางข้ามจังหวัดยังสามารถไปได้ทุกที่ แต่มีข้อห่วงใยให้ทุกคนยึดถือมาตรการป้องกันโควิด-19 บุคคลที่เคยไปในพื้นที่เสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการพบปะผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมในพื้นที่แคบ และย้ำว่าปีนี้งดการสาดน้ำสงกรานต์ คอนเสิร์ต ปาร์ตี้โฟม ประแป้ง ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
 
นพ.ทวีศิลป์ ตอบข้อซักถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้เตรียมการตั้งรพ.สนาม มีความคืบหน้าอย่างไร ว่า การประชุมศูนย์เฉพาะกิจที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ โดยหารือร่วมกับโรงพยาบาลหน่วยงานในสังกัดของมหาวิทยาลัย คณบดีหลายคนเข้าร่วมประชุม และได้บอกด้วยว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่ผ่านมานี้สร้างความแออัดเกิดขึ้นแล้วในโรงพยาบาล ทั้งการขอรับการตรวจเชื้อ เมื่อพบจำนวนเคสที่มากขึ้น ก็ใช้เตียงมากขึ้นด้วยทั้งในภาครัฐและเอกชน ดังนั้นจึงต้องมีการหารือถึงแผนร่วมกันได้แก่

1.) ถ้าเตียงไม่พอขอขยายเตียงในแต่ละโรงพยาบาลให้เพิ่มมากขึ้นทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน

2.) ถ้ายังไม่พอขอให้เปิดมาตรการการใช้สถานที่กักตัวโดยใช้โรงแรมต่าง ๆ ที่เข้ามาอยู่ในระบบ แล้วให้โรงพยาบาลเข้าประกบ เหมือนที่ผ่านมาที่คนที่มีอาการไม่มากก็สามารถไปนอนที่โรงแรมที่สามารถให้บริการ ในลักษณะทางการแพทย์ได้

3.) เตรียมการไว้ว่าหากเกิดโรงพยาบาลสนามขึ้นจริง เหมือนที่เราคุ้นเคยเมื่อครั้งที่เกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ทางจังหวัดต่างๆที่เตรียมการและสั่งการโดยทางกระทรวงสาธารณสุขขอให้เริ่มมีการจัดเตรียมความพร้อมเอาไว้ ซึ่งขณะนี้มีหลายจังหวัดที่มีการแพร่กระจายเชื้อโรคถึงแม้ว่าจำนวนไม่มากแต่ก็ได้มีการสั่งการให้เตรียมความพร้อม

ผู้สื่อข่าวถามว่า สายพันธุ์ โควิด-19 จากอังกฤษเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไร และจะต้องมีการปรับเรื่องการกักตัวหรือไม่ โฆษกศบค.กล่าวว่า ในการพูดคุยหารือทางอาจารย์โรงเรียนแพทย์ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวว่าสายพันธุ์อังกฤษนั้นสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว จึงมีความกังวลว่าอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิมในการดูแลซึ่งเดิมดูแลกัน 10 วัน ต้องขยายเป็น 14 วัน ในการดูแลรักษาพยาบาล ทั้งนี้เพื่อป้องกัน อย่างเต็มที่เนื่องจากเคยมีกรณีเช่นนี้มาก่อนว่าอยู่ในสถานกักตัวแล้วเมื่อครบ 14 วันออกมาแล้วยังพบว่ามีการติดเชื้อซ้ำได้ ดังนั้นการดูแลรักษาหากเป็นสายพันธุ์อังกฤษต้องมีการบำบัดรักษาดูแลอย่างใกล้ชิด

ส่วนกรณีที่มีความสงสัยกันว่าสายพันธุ์อังกฤษนี้มาจากไหนนั้นยังไม่มีคำตอบ ช่วงเวลาขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนโรคของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขจะต้องลงไปหาเหตุให้ได้ ซึ่งจากเดิมในระบบระบุว่าหากมาจากต่างประเทศก็ต้องมีการกักตัว แต่ในครั้งนี้เป็นการเข้ามาถึงในใจกลางเมือง เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ที่ประชุมได้หารือพูดคุยกันแล้วว่าจะต้องหาคำตอบให้ได้ ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรคได้เน้นในเรื่องดังกล่าวว่าจะต้องสอบสวนโรคเพื่อหาให้ได้รหัสพันธุกรรม ให้ได้จำนวนมากขึ้นแล้วใช้หลักการวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ เพื่อให้บอกได้ว่าตัวนี้มาได้อย่างไร ขอให้ทางกรมควบคุมโรคเป็นผู้ให้ แต่ ณ เวลานี้ยังไม่ทราบ

ขอให้ประชาชนได้ติดตามการแถลงข่าวจากทางกระทรวงสาธารณสุขทุกวันในเวลา 15.00 น. ซึ่งจะมีรายละเอียดจำนวนมากโดยเฉพาะเรื่องไทม์ไลน์ของแต่ละคน เช่นกรณีของชาวญี่ปุ่นที่ทองหล่อ กรณีครัสเตอร์จังหวัดสระแก้ว ที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง รวมไปถึงบุคคลสำคัญต่างๆที่สื่อมวลชนต้องการทราบ ขอให้ติดตามได้จากการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุข

และในช่วงท้ายนี้ขอฝากด้วยความห่วงใย จากผู้อำนวยการศบค. และที่ประชุมศบค. ที่ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ท่านห่วงใย และยังได้ย้ำว่ามาตรการไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาและมีความเข้มข้นขนาดไหน เมื่อทำทุกอย่างทั้งหมดแล้วไม่มีมาตรการใดที่ดีที่สุดทุกอย่างล้วนแต่โยงไปกับบางกิจการกิจกรรมขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และห้วงระยะเวลา เพราะปีที่แล้วเรามีมาตรการเข้มอย่างมากและสามารถกดตัวเลขผู้ติดเชื้อลงได้เป็นศูนย์ แต่ผลกระทบมีมาก จากนั้นเราผ่อนคลายมาจนกระทั่ง มาเกิดเหตุขึ้นอีก ดังนั้นที่สุดแล้วเราต้องการความร่วมมือจากประชาชนทุกมาตรการ ดังนั้นไม่ว่ามาตรการใดออกมาหากไม่ปฏิบัติตามก็จะเกิดผลเสีย ดังนั้นขอให้ทุกคนมีมาตรการส่วนตัว ใส่ใจอยู่เสมอว่าทุกคนมีส่วนสำคัญในการควบคุมป้องกันโรค โควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ขอให้ทุกคนทำเพื่อส่วนตัวและครอบครัว รวมถึงกิจการและกิจกรรมของทุกคน เราจะไปด้วยกันและเราต้องชนะให้ได้

อย่างไรก็ตามการแถลงข่าวของศบค. ยังคงเป็น วันจันทร์-พุธ-ศุกร์ เช่นเดิม ห่าง ๆ เจอกันครั้งหนึ่ง จะได้มีความสุขดังนั้น ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองและครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

ทบ. แจ้งยังคงตรวจเลือกทหารตามปกติ ส่วนหน่วยตรวจเลือกที่พบผู้ติดเชื้อทั้งสองแห่ง ได้เปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ และแจ้งผู้เกี่ยวข้องป้องกันตนเองแล้ว

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ที่กองบัญชาการกองทับกบ (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหาร สถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ คือ นายธิติ มหาโยธารักษ์ หรือแบงค์ ฮอร์โมน ซึ่งเข้ารับการตรวจเลือกในวันที่ 5 เมษายน 64 ที่หน่วยตรวจเลือกทหารฯ มณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น และผู้เข้ารับการตรวจเลือกที่หน่วยตรวจเลือกทหาร มณฑลทหารบกที่ 14 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งทั้งสองท่านภายหลังถูกตรวจพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด และปัจจุบันได้เข้าสู่กระบวนรักษาและสอบสวนโรคแล้วนั้น

คณะกรรมการตรวจเลือกทหารทั้งสองพื้นที่ได้รับทราบ และได้รีบดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรค การทำความสะอาดสถานที่ตรวจเลือก และกองทัพภาคที่ 1 และ 2 ได้ทำการเปลี่ยนคณะกรรมการตรวจเลือกชุดใหม่ ให้ไปปฏิบัติหน้าที่แทนชุดเดิม ที่อาจมีการสัมผัสเชื้อ โดยได้ส่งคณะกรรมการชุดเดิมไปทำการตรวจคัดกรองเชื้อและกักตัวเพื่อสังเกตอาการ เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทางคณะกรรมการตรวจเลือก ได้ประสานแจ้งฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชน ให้ทราบว่ามีผู้ติดเชื้อมาเข้ารับการตรวจเลือก ขณะนี้หน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยทหาร และเจ้าหน้าที่สัสดีได้ร่วมกันสอบสวนและตรวจสอบค้นหาบุคคลที่อาจสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในช่วงเวลาที่เข้ารับการตรวจเลือก เพื่อแจ้งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะประชาชนที่เข้ารับการตรวจเลือกในวันดังกล่าวได้รับทราบ สำหรับในส่วนของสำนักงานสาธารณสุขศรีราชาได้แจ้งให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณสถานที่ตรวจเลือก อ.ศรีราชา ไปเข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อที่โรงพยาบาลแหลมฉบังเรียบร้อยแล้ว 

พล.ท.สันติพงษ์ กล่าวว่า ต่อกรณีที่มีความเข้าใจผิดว่า จะมีการยกเลิกการตรวจเลือกทหารที่ จ.ขอนแก่น นั้น ขอเรียนยืนยันว่าการตรวจเลือกทหารกองประจำการในภาพรวมของกองทัพบก ยังคงดำเนินการต่อไปตามกำหนดการในทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ในระหว่าง 1 - 20 เมษายน 64 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด เข้มงวดในกระบวนการตรวจเลือกทหารตามแนวทางที่กองทัพบกได้กำหนดไว้ คือ การจำกัดจำนวนผู้เข้ารับการตรวจเลือกไม่เกิน 500 คน/วัน/สถานที่ ลดความแออัด รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือเจลแอลกอฮอล์ วัดอุณหภูมิ แสกนไทยชนะ และทำความสะอาดสถานที่ทุกวันหลังจบการตรวจเลือก จึงขอแจ้งยืนยันให้ผู้ที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ได้เข้ารับการตรวจเลือกตามหมายเรียก ส่วนผู้ที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัยหรือผู้ที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ขอให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรอง หรือแจ้งให้คณะกรรมการตรวจเลือกทราบในวันตรวจเลือกโดยทันที เพื่อร่วมกันแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวม และเป็นการรักษาสิทธิ์ของตนเอง 

โฆษก ภท.แจงผลตรวจโควิด ส.ส. - จนท. ทั้งหมด ที่ร่วมงานครบรอบ 13 ปี ก่อตั้งพรรคเป็นลบ ไม่พบเชื้อโควิด-19 นัดตรวจซ้ำ 7 - 10 วันข้างหน้า ปัดตอบ ส.ส. ฉะเชิงเทรา อาจติดเชื้อหลังไข้สูง

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของ ส.ส.พรรค และเจ้าหน้าที่พรรค ที่ไปร่วมงานวันเกิดครบรอบ 13 ปี พรรคภูมิใจไทย ที่มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ร่วมงานด้วย ก่อนตรวจพบติดโควิด-19 ล่าสุด ส.ส. และเจ้าหน้าที่ของพรรค ที่เข้าตรวจในสถาบันบำราศนราดูรวานนี้ (7 เม.ย.) ทั้งหมด ไม่พบเชื้อ และจะนัดหมายเพื่อไปตรวจอีกครั้งใน 7-10 วันข้างหน้า ซึ่งระหว่างนี้ทุกท่านก็กักตัวอยู่บ้าน เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนกรณีข่าวลือว่า นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคภูมิใจไทย อาจติดโควิด-19 เพราะไข้ขึ้นสูง นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เจอกับเจ้าตัวที่ สถาบันบำราศนราดูร

‘บิ๊กป้อม’ ป้อง ‘ศักดิ์สยาม’ เชื่อติดโควิด จากลูกน้อง ย้อนถามโซเชียลฯออกมาแฉ เชื่อถือได้หรือไม่ มั่นใจเจ้าตัวไม่โกหกปกปิด ‘ไทม์ไลน์’ เผยกระทรวงกลาโหม พร้อมตั้งโรงพยาบาลสนาม ในกรุงเทพฯ

เมื่อเวลา 09.45น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่รัฐมนตรีติดเชื้อโควิด-19 แล้วไม่เปิดไทม์ไลน์ทั้งหมด จะกระทบรัฐบาลหรือไม่ว่า ไม่มีผลกระทบ เพราะนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ก็บอกมาว่าติดจากลูกน้อง เขาติดจากหน้าห้องจะต้องถามไทม์ไลน์อะไร เพราะท่านก็ไม่ได้ไปไหนแค่ไปประชุมเท่านั้น การติดก็ติดมาจากหน้าห้อง ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด

เมื่อถามว่าสังคมต้องการให้เปิดเผยไทม์ไลน์และการใช้แอปฯ ‘ไทยชนะ’ นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไทม์ไลน์เขาก็เปิดแล้วว่าไปประชุมที่ไหน ตนอ่านดูแล้วเขาก็มีความจริงใจอยู่แล้วที่จะเปิดเผย ขอย้ำว่าเขาไม่ได้ติดจากใคร แต่มาจากหน้าห้อง

เมื่อถามว่าโซเชียลฯระบุว่าอาจติดมาจากการไปเที่ยวสถานบันเทิง ย่านทองหล่อ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า โซเชียลจะเชื่อได้หรือไม่ แล้วใครเป็นคนเขียน เมื่อถามกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ระบุว่าคริสตัลคลับเป็นสถานที่คุยงานของรัฐมนตรีเปรียบเหมือนไทยคู่ฟ้า 2 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมไม่รู้ ผมก็เชื่อจากที่รัฐมนตรีท่านพูดอย่างงั้น

เมื่อถามถึงความพร้อมในการตั้งโรงพยาบาลสนามในกทม. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นายกฯสั่งการแล้ว ส่วนเรื่องพื้นที่ทางกระทรวงกลาโหมจะไปดูเพราะเป็นผู้รับดำเนินการในเรื่องนี้ ไม่ต้องห่วงเขาเตรียมการไว้แล้ว

ส่วนกรณีการแจกขันน้ำของพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ไม่มีอะไร และเรื่องนี้พรรคเป็นคนดำเนินการ

เมื่อถามว่าการจัดแจกขันน้ำพลาสติกดังกล่าวจะนำไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่ เมื่อถามว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาระบุว่าเหมือนการแจกขันให้ประชาชนไปอยู่ตามสะพานลอย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แล้วเราจะให้อย่างงั้นหรือเปล่า และในอดีตเคยมีใครทำ เพราะฉะนั้นก็เป็นอย่างนั้นไปแล้วกัน

พล.อ.ประวิตร ห่วงใยชุมชนคนริมคลอง ประชุมคกก. ขับเคลื่อนโครงการเร่งด่วน คลองลาดพร้าว-คลองเปรมฯ-คลองแสนแสบ มุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัย ภูมิทัศน์ การสัญจร การระบายน้ำและคุณภาพน้ำ เน้นสร้างความเข้าใจ รัฐบาลจริงใจแก้ปัญหา มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต

เมื่อ 8 เม.ย.64  พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง.นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ครั้งที่ 1/2564 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มท. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม  301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบ ความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนและพัฒนา ที่อยู่อาศัยริมคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ได้แก่ กทม.,สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน พม.,กรมธนารักษ์ และทภ.1 ได้ดำเนินโครงการ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเจรจา/สร้างความเข้าใจ ,การส่งมอบพื้นที่ ,การตอกเสาเข็มเขื่อน ,การรื้อถอน/การขนย้าย และการก่อสร้างบ้าน เป็นต้น โครงการก่อสร้าง เขื่อนริมคลองลาดพร้าว มีความก้าวหน้า คิดเป็นร้อยละ 48.50 มีบ้านที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 3,062 ครัวเรือน สำหรับคลองเปรมประชากรได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนไปแล้ว จำนวน 900 เมตร (ร้อยละ 95 ของพื้นที่ส่งมอบ) มีบ้านที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 193 ครัวเรือน

สำหรับการพัฒนาคลองแสนแสบ และคลองสาขา รัฐบาลได้เห็นชอบแผน ปฏิบัติการพัฒนาฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้การสัญจร ,การปรับปรุงภูมิทัศน์ ,การป้องกันการบุกรุก และการรักษาคุณภาพน้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้เร่งรัดโครงการ โดยจะต้องให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา ทั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่คลองลาดพร้าว,คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ เพื่อกำกับ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินงาน พร้อมทั้งให้มีการรายงานผลให้คณะกรรมการฯ ทราบ ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับให้ สตช.ใช้มาตรการทางกฎหมาย อย่างเคร่งครัด และเป็นธรรม ต่อผู้บุกรุกพื้นที่ ควบคู่กับการเจรจา สร้างความเข้าใจกับประชาชน  ให้ ทบ.ร่วมเจรจาสร้างการรับรู้ และให้การสนับสนุนการรื้อถอน/การขนย้ายสิ่งของ เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ประชาชน รวมทั้งให้ กรมประชาสัมพันธ์ เร่งสร้างการรับรู้/ความเข้าใจ ถึงประโยชน์ที่ประชาชนในพื้นที่จะได้รับ และให้ความร่วมมือ สอดคล้องตามนโยบาย ของรัฐบาลที่มีความจริงใจ ที่จะให้ความช่วยเหลือ ชุมชนคนริมคลองทั้ง 3 แห่ง ต่อไป ภายใต้แนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top