Friday, 9 May 2025
POLITICS NEWS

นัดถกวิป 4 ฝ่าย 6 ก.ค.นี้ ทบทวนเดินหน้าประชุมสภาฯ ต่อหรือไม่ หากจำเป็นต้องเดินหน้าต่อ ต้องมีความปลอดภัยจากโควิด หวั่นรัฐสภากลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ขณะที่ ส.ว.นัดประชุมจันทร์ที่ 5 ก.ค.วันเดียว เร่งพิจารณากฎหมายต่อจาก ส.ส.

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง นัดประชุมวิป 4 ฝ่าย ในวันที่ 6 ก.ค. เวลา 10.00 น. ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล วุฒิสภา และตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อหารือและตัดสินใจว่าจะเดินหน้าประชุมสภาฯต่อหรือไม่ ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพื่อไม่ให้รัฐสภากลายเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และหากยังจำเป็นต้องดำเนินการประชุมก็จะต้องมีความปลอดภัย

ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้ตรวจเช็คความพร้อมของห้องประชุมพระจันทรา (ห้องประชุม ส.ว.) เพื่อเตรียมพร้อมการประชุมวุฒิสภาในวันที่ 5 ก.ค.นี้เพียงวันเดียว เนื่องจากมีร่างกฎหมายที่จะต้องพิจารณาหลังสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแล้ว เช่น  ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจร ,ประมวลรัษฎากร และร่างพ.ร.บ.หอการค้า ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงินที่วุฒิสภาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์หน้า ที่ประชุมยังค้างการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติด่วนที่ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาฯพิจารณาหามาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาและผลกระทบจาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจากการบริหารจัดการของ ศบค. รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ อย่างเร่งด่วน ซึ่งเบื้องต้นยังจะต้องรอการพิจารณาจากการประชุมวิป 4 ฝ่ายก่อน ว่าจะเดินหน้าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อระดมข้อเสนอแนะจาก ส.ส. เพื่อเสนอแนวทางต่อรัฐบาลต่อหรือไม่

นอกจากนั้น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังได้ชี้แจงกรณีที่มี ส.ส.ตั้งข้อสังเกต ที่รัฐสภายังปล่อยให้แรงงานก่อสร้างต่างชาติ เข้าพื้นที่ทำงานภายในรัฐสภา ทั้งที่มีคำสั่งห้ามจาก ศบค. ว่าปัจจุบันบริษัทผู้รับจ้างในสัญญาต่าง ๆ ได้หยุดการก่อสร้างแล้วทั้งหมด แต่ยังมีส่วนของบริษัทคู่สัญญา ที่ต้องเข้ามาดำเนินการบำรุงรักษาตามสัญญา ทั้งงานปรับปรุงภูมิทัศน์ งานระบบสาธารณูปโภค แอร์ ลิฟท์ ไฟฟ้า และประปา ซึ่งเป็นแรงงานที่มีสัญชาติไทย ไม่ได้อาศัยในแคมป์คนงาน ซึ่งทางสภาฯ มีข้อกำหนดเพื่อป้องกันกาแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มข้น

“ธรรมนัส” ย้ำ ความขัดแย้ง “วิรัช-ปารีณา” เรื่องส่วนตัวจ่อถก “บิ๊กป้อม” หาทางสงบศึก โว นำพปชร. เจาะอีสานได้ หวังชนะใจคนรากหญ้า พร้อมชี้ ส.ส.ทำสภาล่ม ไม่ใช่แท็กติกอย่างที่ “วิรัช” บอก ยัน ไม่มีคาดโทษ เชื่อไม่มีใครคิดโดดสภา

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. ว่า มันเป็นเรื่องส่วนตัว โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. พยายามให้ตนเคลียร์ทั้งสองฝ่าย และตนพยายามจะคุยกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องแยกคุยเป็นรายคนไปก่อน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ น.ส.ปารีณา ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่ถูกนายวิรัชดีดออกจากกลุ่มไลน์พรรค เหมาะสมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบละเอียด โดยจะหารือกับหัวหน้าพรรคในวันเดียวกันนี้ (2 ก.ค.) ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อถามว่า จะเรียกนายวิรัช และ น.ส.ปารีณา คุยเมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้วจะต้องให้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้นั่งคุย เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวน่าจะคุยกันได้ ไม่มีปัญหา ต่อข้อถามว่า แต่เรื่องส่วนตัวมันกระทบกับพรรคด้วย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สิ่งที่ตนพยายามเน้นย้ำมาตลอดคือ ตนและหัวหน้าพรรคต้องการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพรรค พปชร. ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีปัญหาลักษณะนี้ในพรรค แต่มันไม่มีปัญหาแล้วเมื่อเราหันหน้าคุยกัน ส่วนกรณีของนายวิรัชและ น.ส.ปารีณาเป็นเรื่องส่วนตัว เดี๋ยวจะได้คุยกัน

เมื่อถามว่า จะสามารถเคลียร์ได้หรือไม่ เพราะ น.ส.ปารีณาเป็นตัวของตัวเองสูง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วทุกคนสามารถหันหน้าคุยกันได้ เมื่อถามว่า เรื่องการฟ้องร้องของทั้งสองคน จะสามารถเคลียร์ได้หรือไม่เพื่อไม่ให้คนในพรรคฟ้องร้องกันเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เดี๋ยวขอหารือกับหัวหน้าพรรคก่อน 

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการวางยุทธศาสตร์พรรค พปชร. เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง ว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคมาได้เรียกแต่ละฝ่ายมาคุยอยู่แล้ว โดยยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดคือ เราจะนำนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ไปสู่ภาคปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และคิดเรื่องใหม่สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเรามีทีมต่าง  ไม่ว่าจะเป็นทีมด้านการศึกษา กีฬา เศรษฐกิจ และการเมือง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะเลขาธิการพรรค มั่นใจหรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชนะเลือกตั้งจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน อย่างการเลือกตั้งเมื่อปี 62 เราได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต 101 เขต และมี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีก 20 คน โดยมี ส.ส.อยู่ในมือ 121 คน ฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าเราต้องได้มากกว่านี้ 

เมื่อถามว่า ส่วนตัวเป็นห่วงภาคไหนเป็นพิเศษหรือไม่ โดยเฉพาะภาคอีสานจะเจาะได้หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ยังชื่นชม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่มาตลอดเกือบ 3 ปี มีความมั่นใจว่าตนชนะใจคนรากหญ้าได้ และมั่นใจว่าจะเจาะภาคอีสานได้ สังเกตจากการเลือกตั้งซ่อมหลาย ๆ ครั้งเราก็ได้เข้ามาหมด เมื่อถามว่า สำหรับพื้นที่ภาคใต้จะกวาดได้สักประมาณกี่ที่นั่ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะทำให้ดีที่สุด ตอนนี้เรามี ส.ส. 14 คน จะทำให้ได้มากที่สุด 

เมื่อถามว่า ที่เคยระบุว่าจะทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองจะทำได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทำได้ และต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อถามว่า การเดินหน้าขณะที่ในพรรคยังมีปัญหาอยู่ จะทำให้สะดุดหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปัญหาที่เห็นเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า ไม่เกี่ยวกับนโยบายของพรรค หรือไม่ใช่เรื่องของผู้บริหารพรรคทะเลาะกัน

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.พรรค พปชร. ไม่เข้าร่วมประชุมหลายคนจนทำให้สภาล่ม ว่า ความจริงถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของโควิด-19 ที่ในสภามีผู้ติดเชื้อ จึงทำให้ ส.ส.หลายคนเป็นห่วง โดยเฉพาะหลายคนเดินทางกลับต่างจังหวัด บางจังหวัดมีเครื่องบินไฟต์เดียวไม่สามารถเดินทางกลับมาร่วมประชุมได้ทัน ที่ผ่านมาพยายามขอร้องกันอยู่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงปัญหาครั้งนี้เกิดจากการเดินทางมาไม่ทันของ ส.ส. หรือเป็นเรื่องของแท็กติกทางกฎหมายอย่างที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาลบอกกันแน่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแท็กติก ตนพยายามประสานกับ ส.ส.ให้มาประชุม หลายคนกลับมาทัน แต่ส่วนใหญ่มาไม่ทัน เพราะ ส.ส.อยู่ไกล 

เมื่อถามว่า มันจะย้อนแย้งหรือไม่ เพราะจากข้อมูลมีจำนวนสมาชิกมากพอจนสามารถเปิดประชุมสภาได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างที่เห็นว่ามันไม่ครบองค์ประชุม หลายคนพยายามเดินทางมา แต่มาไม่ทัน ทั้งนี้ โดยจิตสำนึกของคนเป็น ส.ส.ของประชาชน ไม่มีใครที่คิดอยากจะโดดประชุมสภาหรอก 

เมื่อถามว่า แบบนี้ถือการทำหน้าที่ของประธานวิปรัฐบาลบกพร่องหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ เพราะนายวิรัชทำหน้าที่ได้ดีมาโดยตลอด และไม่เกี่ยวกับข่าวที่ออกมาว่ากฎหมายฉบับนี้ยังไม่เคลียร์ยังตกลงกันไม่ได้ แต่น่าจะเป็นเรื่องของโควิด-19 มากกว่า เมื่อถามว่า จะมีการคาดโทษ ส.ส.ในพรรคหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ เพราะเรื่องนี้เราเข้าใจกัน ต่อข้อถามว่า แสดงว่าขึ้นอยู่กับจิตสำนึก ส.ส.ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าส่วนใหญ่เขาพยายามมาให้ทัน อย่างเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ก็มาครบหมด 

เมื่อถามว่า ต้องถึงขั้นให้ ส.ส.แสตนบายด์อยู่ใน กทม.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปกติทุกวันอังคารจะมีการประชุมพรรคกัน แต่ครั้งนี้ไม่มีประชุมเลยทำให้เกิดปัญหา

“เลขาฯ สมช.”คาด ติดเชื้อแตะหมื่น วอน รัฐ-เอกชน-ปชช. จับมือฝ่าวิกฤต อุบตอบ “พิธา” เสนอยุบ ศบค. ยัน ทำงานเต็มที่ตามผู้บังคับบัญชา แจง เข็มสามต้องรอก่อนเพราะวัคซีนไม่พอ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า ต้องรอฟังจากกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุม ศปก.ศบค. อีกครั้ง ซึ่งเราประเมินว่าตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจจะสูงขึ้น และพยายามเร่งรัดเรื่องฉีดวัคซีนให้เร็วและมากขึ้นไม่ได้ฉีดไปเรื่อย ๆ ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ไปอีกสักระยะ ต้องขอความร่วมมือประชาชนทำตามมาตรการส่วนบุคคล โดยเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัยมากขึ้น เพราะหลังจากที่ปิดแคมป์คนงานและแรงงานต่างด้าวก็อยู่นิ่งกับที่ แต่จำนวนตัวเลขที่มากขึ้นอาจจะเกิดจากการเคลื่อนไหวของบุคคลทั่วไปในสังคมแล้ว ที่ระบุเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะตัวเลขสูงขึ้นแล้วโทษประชาชนแต่เป็นการขอความร่วมมือ 

เมื่อถามว่าถ้าตัวเลขยังพุ่งสูงขึ้น มาตรการป้องกันจะเข้มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงไม่เข้มกว่านี้ เพราะตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และศบค.ห่วงความเดือดร้อนของประชาชน และคิดว่ามาตรการที่ใช้อยู่น่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่งภาครัฐอาจจะต้องลงรายละเอียดมากขึ้น รวมถึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชนมากขึ้น ถ้าทั้ง 3 ส่วนให้ความร่วมมือ เช่น ภาครัฐจริงจัง จากเดิมที่จริงจังอยู่แล้วก็ต้องมาดูในรายละเอียดกันมากขึ้น เพราะบุคลากรทางการแพทย์ ทุ่มเท และเหนื่อยล้า จึงต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการ และประชาชน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่เชื้อ 

เมื่อถามว่ามีแนวโน้มที่จะให้ผู้ป่วยที่รอเตียง กระจายไปรักษานอก กทม. หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในทางระบบยังไม่ถึงขนาดนั้น โดยกระทรวงสาธารณสุข และกทม. พยายามเพิ่มจำนวนเตียงอยู่ โดยวันนี้ มณฑลทหารบก ที่ 11 ได้เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยสีแดง และสีเหลือง ได้เปิดทำการแล้ว ในส่วนที่ไม่สามารถหาเตียงได้ ก็เดินทางกลับไปรักษาในภูมิลำเนา ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ นอกจากนั้นจะพิจารณาแนวทางรักษาตัวที่บ้าน แต่ต้องมีระบบรองรับก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ติดเชื้ออยู่บ้านเฉย ๆ และที่ยังไม่เริ่มการแยกกักที่บ้านเพราะกระทรวงสาธารณสุข และศบค. เป็นห่วงว่าอาจทำให้เสี่ยงอาการรุนแรงขึ้น จึงต้องมีระบบรองรับ เช่น การติดตาม การตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย 

เมื่อถามว่า หากจำนวนติดเชื้อไปถึงหลักหมื่น ทุกอย่างพร้อมรองรับหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เราคิดไว้ทุกอย่าง ทั้งเพิ่มจำนวนเตียง และจะเพิ่มเรื่อย ๆ นับแต่วันนี้ รวมถึงการแยกกักตัวที่บ้าน คาดว่าถ้าภาครัฐทุ่มเท สถานประกอบการภาคเอกชน และประชาชนร่วมมือมาตรการส่วนบุคคล คิดว่าน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ โดยในเดือนก.ค. นี้ วัคซีนจะเข้ามา 10 ล้านโดส ซึ่งจะทยอยเข้ามา เมื่อฉีดวัคซีนแล้ว อาจจะป้องกันอาการรุนแรงได้มากขึ้น โดยอาจารย์ทางการแพทย์ชี้แจงว่า สายพันธุ์เดลตาจะติดได้ไวและเพิ่มจำนวนรวดเร็ว แต่จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะไม่มากจนน่ากังวล 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เสนอให้ยุบ ศบค. เพราะทำงานล้มเหลว พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขอไม่ตอบในเรื่องนี้ ทั้งนี้ เราพยายามทำงานเต็มที่ ให้ดีที่สุด โดยขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา จะพิจารณาตามความเหมาะสม เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่าการทำงานของศบค. ที่ผ่านมา สามารถตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า มั่นใจ การทำงานของศบค. ไม่ได้ทำงานเฉพาะหน่วยงาน แต่ทำงานร่วมกันทุกส่วน โดยลำดับแรกเราจะฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก เสนอมาอย่างไรจะไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าสามารถบังคับใช้ตามที่เสนอได้หรือไม่ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษาธิการ และในศบค. ยังมีส่วนราชการร่วมอีกกว่า 30 หน่วยงาน 

“เราทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ตัดสินใจแค่ ศบค. ที่อยู่ในทำเนียบฯ ที่เดียว เชื่อว่าสามารถแก้ปัญหาได้ เพียงแต่สถานการณ์ระบาดเปลี่ยนแปลงเร็ว ครั้งแรกมาจากต่างประเทศ ครั้งที่สองมาจากผู้ทำงานในสถานบันเทิงที่ท่าขี้เหล็ก ครั้งที่สามจากแรงงานต่างด้าว ครั้งที่สี่จากสถานบันเทิงในประเทศ และครั้งนี้พบจากแรงงานในไซต์ก่อสร้าง และขยายไปถึงบุคคลทั่วไปในสังคม และเชื้อสายพันธุ์ต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไป ศบค. จึงต้องปรับวิธีรองรับกับเชื้อสายพันธุ์ต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ อยากขอให้ช่วยให้กำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่หน้างาน และเจ้าหน้าที่ที่มาทำงานในศบค.” พล.อ.ณัฐพล กล่าว 

เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของบุคลากรด่านหน้าที่ที่ระบุว่า วัคซีนสองเข็มไม่เพียงพอ ต้องมีเข็มที่สาม พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทางศบค. ได้หารือกับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องนี้อยู่แต่ต้องเรียนว่าวัคซีนมีจำกัด คนที่ยังไม่ได้รับเข็มแรกยังมีอยู่ ต้องว่าไปตามลำดับ ดูแลให้ฉีดเข็มแรกให้มีภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงไปที่เข็มที่สอง เราต้องฉีดให้ประชาชนให้ครบก่อน

สห.มทบ.11 ได้ฉีดวัคซีนแล้ว โดยนทพ. ให้บริการวัคซีนโควิด-19 ครั้งที่ 18 ด้วยการลงทะเบียนและเข้ารับวัคซีนในช่องทาง "นัดหมายผ่านองค์กร"

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผบ.ทสส. และหน.ศปม.) สั่งการให้ พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ โดยนำวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งวัคซีนที่ได้รับตามแผนการแจกจ่ายและกระจายวัคซีนของกระทรวงกลาโหม มาบริการฉีดให้กับกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย, บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ กทม. ในช่องทาง "นัดหมายผ่านองค์กร" ณ จุดให้บริการฉีดวัคซีน อาคารอเนกประสงค์ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) 

ซึ่งเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนที่ ผบ.นทพ. ได้สั่งการให้สำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สสน.นทพ.) จัดบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของหน่วยใน นทพ. เป็นผู้ดำเนินการ โดยได้เปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในวันนี้เป็นการให้บริการฉีด ครั้งที่ 18 ดำเนินการฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 1 ให้แก่ กำลังพลของกรมการสื่อสารทหาร (สส.ทหาร), โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (รร.ชท.สปท.) และมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ที่ปฏิบัติงานสนับสนุน EOC กทม. ในการดูแลควบคุมแคมป์คนงานก่อสร้าง รวมจำนวนวัคซีนที่ฉีดแล้วทั้งสิ้น 7,403 โดส

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการกระจายวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็น "วาระแห่งชาติ" เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทยของเรา

“วิรัช” เมินแจง เขี่ย “เอ๋-ปารีณา” ออกจากไลน์พปชร. ระบุ แค่กลุ่มประสานงานวิป ไม่เกี่ยวไลน์พรรค

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และประธานวิปรัฐบาล กล่าวกรณีที่มีข่าวตนลบแอคเคาท์ของ น.ส.ปารีณา ออกจากไลน์กลุ่ม ส.ส.พรรคพปชร. โดยไม่ขอพูดถึงเหตุผล และไม่ขยายต่อเรื่องนี้ ระบุเพียงว่าไลน์ดังกล่าว เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประสานงานวิปพรรค ระหว่างการประชุมสภา ส่วนไลน์ของพรรคพปชร. เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง 

เมื่อถามว่ามีคนมองเป็นความขัดแย้งภายใน นายวิรัช กล่าวว่า "ขอตอบแค่นั้น" เมื่อถามว่ามีผู้ใหญ่พรรคมาพูดคุยถึงเรื่องนี้หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า “ไม่มีใครมาคุยหรอก เพราะถือว่ามาทำหน้าที่ตรงนี้แทนผู้ใหญ่ ดูแลในส่วนนี้อยู่แล้ว"

“สงคราม” อัด “บิ๊กตู่” โง่ซ้ำซากทำประชาชนลำบาก ชี้หวังแค่เกาะเก้าอี้หวังอำนาจมากกว่าแก้ปัญหาประชาชน 

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดในประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้น ล่าสุดผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,000 คน แต่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รัฐบาลเลือกโยนความผิดให้ประชาชน ว่าไม่ป้องกันตัวเอง ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลเป็นผู้กระทำให้เกิดการระบาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยปละละเลยให้มีการนำเข้าแรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมายและการแก้ปัญหาที่ผิดซ้ำซาก  

การปิดแคมป์คนงานก่อสร้างและปิดธุรกิจร้านอาหาร เป็นมาตรการที่ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนหนักมาก เพราะคนงานส่วนใหญ่กลับพื้นที่ส่งผลให้เกิดการระบาดเพิ่มมากขึ้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มเป็นทวีคูณ ปัญหาดังกล่าวเกิดมาจากมาตรการที่ผิดพลาดของรัฐบาล นอกจากนี้การปิดร้านอาหารเป็นการทำลายระบบธุรกิจและทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อยที่เป็นเช่นนี้เพราะไม่เคยทำธุรกิจเลยไม่รู้ว่าผู้ประกอบการเหล่านี้เดือดร้อนแค่ไหน 

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มองไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน และไม่คิดแก้ปัญหาให้ตรงจุด ทั้งการจัดหาวัคซีน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะมีเดือนละ 10 ล้านโดส วันนี้อยู่ไหน ในความเป็นจริงเป้าหมายของพลเอกประยุทธ์ทุกวันนี้ หวังเพียงอยู่ในอำนาจเกาะเก้าอี้ให้แน่นเท่านั้น ให้นานที่สุดเท่านั้นไม่ได้คิดเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ หวังใช้อำนาจเป็นเกราะปกป้องตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น ไม่ใส่ใจว่าประชาชนจะเดือดร้อนแค่ไหน ทุกวันนี้มีแต่คนประจบสอพลอ ไปไหนก็มีแต่ผักชีโรยหน้า 

“ไม่ทราบว่าพลเอกประยุทธ์ไม่รู้จริงๆว่าประชาชนเดือดร้อนหรือพลเอกประยุทธ์แกล้งโง่ การยกขบวนไปเกิดการท่องเที่ยวภายใต้โครงการการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ท่ามกลางการระบาดไวรัสที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ หากมีการติดเชื้อเพิ่มพลเอกประยุทธ์ จะรับผิดชอบอย่างไร เชื่อว่าคนอย่างพลเอกประยุทธ์คงไม่รับผิดชอบ ดีที่สุดคือการจ่ายเศษเงินเยียวยาให้ผู้ประกอบการเท่านั้น คิดได้แค่นี้ก็ไม่ควรจะเป็นผู้นำประเทศอีกต่อไป คนเก่งกว่าพลเอกประยุทธ์มีอีกมาก หลับตาเลือกยังไงก็ได้คนที่เก่งกว่าพลเอกประยุทธ์แน่ ๆ”นายสงครามกล่าว

"บิ๊กตู่" เปิด"ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" นำร่องโมเดลท่องเที่ยว หากสำเร็จ พร้อมสานต่อทั่วปท.ชี้ ต้อง landscape ประเทศ แก้โควิด-19โยงแก้ศก.ขอเผชิญหน้ากันด้วยความรัก อย่าหลบมาตราการ ศบค.”งง”เจอคำถามผู้เสียชีวิตนิวไฮ แต่ผู้บริหารมารวมตัวที่ภูเก็ต บอกอยู่ที่ไหนก็ทำง

ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่า จากการรับฟังข้อมูลที่ผ่านมา ตนถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และเป็นกำลังใจให้กับชาวจังหวัดภูเก็ต และมีการรายงานว่ามีเที่ยวบินเริ่มทยอยเข้ามาแล้วโดยเที่ยวแรกมาจากอาบูดาบี และจะมีมาต่อเนื่อง ซึ่ง 14 วันข้างหน้าและไตรมาสต่อไปจะมีเข้ามาเพิ่มเรื่อย ๆ ถ้าเราทำตรงนี้สำเร็จ และไม่ใช่สำเร็จโดยใครแต่เป็นคนไทยทุกคน ทุกคนคือคนไทย สื่อก็คือคนไทย ถ้าทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ก็จะสามารถขยายไปที่อื่นได้ จะนำไปใช้ในทุกสถานที่ท่องเที่ยว โดยจะต้องทำทีละขั้น ทุกอย่างต้องเริ่มต้นนับหนึ่งเสมอ แต่ถ้าทำพร้อมกันจะมีปัญหา วันนี้จำเป็นต้องเร่งรัด ทำพื้นที่ภูเก็ต เพราะมีศักยภาพและเป็นพื้นที่เล็กที่ควบคุมได้ การสัญจรทางบก เรือ อากาศสามารถควบคุมได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ที่อาจจะมีความเดือดร้อนจากการคัดกรอง แต่ท่านต้องรักพื้นที่ รักจังหวัดของท่าน ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไปไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจกว่า 90% เป็นเรื่องของการท่องเที่ยวและบริการ 

"วันนี้จึงอยากจะย้ำว่าการเปิดภูเก็ตไม่ใช่เรื่องของจังหวัดภูเก็ตแต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ที่ทุกจังหวัดจะต้องเริ่มมีการนำร่อง ดูความเหมาสม ให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าใน 120 วัน ตรงไหนเปิดได้ก็ต้องทำ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ต่างประเทศ ว่าทั้งในยุโรปและประเทศเล็กและใหญ่ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นไทยเราจะประมาทไม่ได้ต้องรอบคอบ ทำอะไรก็ตามต้องนึกถึงชีวิตประชาชนเสมอ ต้องเดินอย่างระมัดระวัง ผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องมีมาตรการคือกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายโลกก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นจากสถิติที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั่วโลกจึงมีมาตรการควบคุมโรคคือเปิดแล้วปิด เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นความเสี่ยง แต่เพื่อให้คนไทยได้ทำมาหากิน คือเราพร้อมสิ่งสำคัญคือเราพร้อมหรือไม่ ถ้าทำได้ก็ทำต่อไปให้เป็นขั้นตอน 

"ผมอยากให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางไปถึงเป้าหมายใหญ่ของเรา ขอให้ชาวภูเก็ตช่วยกันทำกติกาอย่างเคร่งครัดไม่มีการฝ่าฝืนนำคนเข้าออกจากพื้นที่ โดยไม่ถูกขั้นตอน ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประเทศ ทุกอย่างที่เกิดในภูเก็ตมีผลต่อทั้งประเทศ ขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนภูมิใจ เพราะเป็นการทำภารกิจเพื่อชาติ ภูเก็ตกำลังทำหน้าที่เพื่อชาติเพื่อประเทศในการเป็นผู้นำเปิดแซนด์บ็อกซ์ จังหวัดอื่นๆก็ต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต" นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายประเทศไม่เคยมีเที่ยวบินมาประเทศไทย แต่วันนี้เริ่มมาแล้ว แสดงให้เห็นว่ามาตรการภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์ เป็นสิ่งที่รับได้ และยอมปฏิบัติตามกติกากัน ยืนยันว่ารัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนเสมอ โดยเฉพาะตนได้ฝากความห่วงใยผ่านศบค.ผ่านกระทรวงสาธารณสุขและคณะรัฐมนตรี ตนไม่เคยทิ้งประชาชน ไม่เคยทิ้งให้ใครอยู่ข้างหลัง แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆแก้ปัญหา วันนี้ไม่ได้แก้ปัญหาโควิด-19 อย่างเดียว แต่ต้อง landscape ประเทศไทยใหม่ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเราต้องช่วยกันพัฒนาตนเอง ต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ แบ่งปันเผื่อแผ่ ไม่สนับสนุนให้มีการทุจริตในทุกเรื่อง นี่เป็นมาตรฐานที่ตนต้องการในอนาคต และขอฝากความหวังที่นี่ และทุกคนที่อื่นต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต อย่าไปแปลเจตนาผิด เวลาตนพูดอะไรก็ไปแปลเจตนากันผิดยอมรับว่าตนคิดเยอะ เพราะมีหลายเรื่องให้คิด อย่าทำให้มีอะไรมาดึงขารั้งขา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นไม่ได้มันช้าไปหมด 

"วันนี้ผมมาภูเก็ตอารมณ์ดี มาตลอดนั่งบนเครื่องก็ถ่ายรูปมาตลอด เมฆ ฟ้า ทะเลสวย ลงพื้นที่ได้รับการต้อนรับดียิ้มแย้มแจ่มใสผมก็มีความสุข" นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเราเผชิญหน้ากันด้วยความรักความเห็นใจซึ่งกันและกัน  ก็จะเป็นพลังสำคัญ แต่ถ้าทุกคนจะคอยแต่หลบเลี่ยงมาตรการ ก็ไม่มีทางสำเร็จ โดยเฉพาะสถานประกอบการ เห็นอยู่แล้วว่ามีการแพร่ระบาดก็จำเป็นต้องปิด หลายอย่างรัฐบาล และกระทรวงแรงงานดูแลอยู่แล้ว คนที่อยู่นอกระบบประกันสังคม รัฐบาลก็ยังต้องดูแล ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นรัฐบาลและเชื่อหมออย่าเชื่อคนอื่น เพราะทุกคนทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนปรบมือเพื่อให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมระบุว่า “การโจมตีซึ่งกันและกันไม่เกิดประโยชน์กับใคร และไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ก็ติดอยู่ที่เดิมขอฝากทุกคนด้วย”

ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ฝากถึงชาวภูเก็ต ให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศ เปิดไฟ มีแสงสีไม่ให้เงียบเหงา เรื่องอื่นๆรัฐบาลจะดูแล และขอบคุณชาวภูเก็ตที่รัก และฝากขอบคุณทุกจังหวัดที่ร่วมมือกัน ในการปฏิบัติตามมาตรการของศบค.ตนเป็นหัวหน้าในการแก้ปัญหา พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกระดับ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองยังไงว่าผู้บริหารมารวมกันอยู่ที่นี่ ขณะที่กรุงเทพฯมีผู้เสียชีวิตจำนวนเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมหันหลังเดินออกไป ก่อนกล่าวเพียงสั้นๆว่า" อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้"

“โรม” เปิดหลักฐาน 2 ตำรวจสันติบาลข่มขู่ถึงคอนโด เผยรู้ชื่อ เชื่อเกี่ยวปมอภิปรายตั๋วช้าง

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงความคืบหน้ากรณีที่มีบุคคลไม่ทราบชื่อติดตามคุกคามตนและภรรยามาถึงที่พัก ว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเข้ามาคุกคามคือหน่วยงานสันติบาล ตนคิดว่าหน่วยงานของรัฐไม่สามารถทำภารกิจแบบนี้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในข้อกฎหมายยังไม่ชัด ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ทั้งนี้การที่อยู่ๆ มีสันติบาลมาอ้างว่าเป็นเพื่อนของภรรยาของตน จะขอขึ้นไปบนห้อง นั่นไม่ใช่เรื่องปกติ ตนขอสร้างมาตรฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรู้ว่าไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ซึ่งเป็นตำแหน่งทางราชการมาข่มขู่ประชาชนได้ 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค ที่ผ่านมา โดยรูปจากกล้องวงจรปิดของอาคารที่พักอาศัยของตนปรากฏเป็นชาย 2 คน สวมหน้ากากอนามัยไม่ปรากฏใบหน้าชัดเจน ซึ่งเมื่อตนได้แจ้งความที่สภ.รัตนาธิเบศร์ มีประชาชนให้เบาะแสทางเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัวว่าชาย 2 คนที่เข้ามาเป็นใคร ขณะที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ก็มีหนังสือมาให้หนึ่งฉบับระบุว่า เป็นสันติบาลจริงๆ นอกจากนี้ยังมีพลเมืองดีได้ระบุว่าสันติบาลที่เข้ามานั้น หนึ่งในนั้น คือ รองสารวัตรกองกำกับการสันติบาล 1    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสิมันต์ได้ชี้จุดข้อสังเกตของตำรวจคนดังกล่าว ทั้งการแต่งกายและรองเท้า นาฬิกาที่ตรงกัน เงาในแว่นตาที่สะท้อนรถยนต์ของตำรวจรายดังกล่าว เทียบกับภาพถ่ายของนายตำรวจคนนี้ด้วย

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำอีกว่า ตนไม่เคยมีความโกรธแค้นและไม่ได้รู้จักกับตำรวจนายนี้มาก่อน จึงเป็นไปได้ว่าการมาของตำรวจนายนี้เป็นการมาโดยได้รับคำสั่ง คำถามคือคำสั่งนั้นมาจากใคร เหตุใดตำรวจสันติบาล 2 คนบุกเข้ามาที่คอนโดเพื่อหวังจะเจอภรรยาของตน ภรรยาของตนก็ไม่เคยทำความผิดใด ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การข่มขู่คุกคามแล้วจะเรียกว่าอะไร จากข้อมูลเชิงลึกที่ตนทราบมีความเป็นไปได้ว่ากระทำดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นจากอภิปรายไม่ไว้วางใจตั๋วช้าง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้มีอำนาจจำนวนมากเสียผลประโยชน์ 

เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความผิดปกติในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ความจริงแล้วควรจะปกติ เพราะมีการเลือกตั้งและมีสภาฯ แต่สิ่งที่เห็นมาโดยตลอดคือมีการข่มขู่คุกคามแต่จับมือใครดมไม่ได้ แต่รอบนี้ตนทราบชื่อของตำรวจที่เข้ามาคุกคาม ตนจึงหวังว่าในรอบนี้จะเป็นมาตรฐานว่าจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการไปข่มขู่คุกคามใครไม่ได้ แม้ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าจะทำเช่นไรต่อไป แต่ตนอยากเห็นการสร้างมาตรฐานและก็หวังว่าเราจะไม่เห็นสันติบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือใครก็ตามไปข่มขู่คุกคามประชาชนอีก

“วิษณุ” ชี้ สภาฯล่มไม่ตื่นเต้น แค่ครั้งแรกในสมัยนี้ ระบุโควิดอาจเป็นเหตุหรือแค่เทคนิคทางกฎหมาย ห่วงประชุมร่วมรัฐสภา ล่ม อาจกระทบเรื่องสำคัญ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เหตุสภาล่มในช่วงพิจารณาร่างพ.ร.บ.วัตถุอันตราย (ฉบับที่) พ.ศ. … ว่า ไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่สภาฯล่มเพราะปัญหาส.ส.กลัวโควิด หรือไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากมีหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรา 6 ของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จึงดึงกันไปมา 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าหากกฎหมายดังกล่าวผ่านการพิจารณา เกรงว่าสารเคมีอันตราย 3 ชนิดที่ถูกห้ามใช้จะกลับมาใช้ได้ นายวิษณุ กล่าวว่า “นี่ไงคือปัญหาที่ทำให้สภาล่ม ว่าเป็นเพราะโควิด-19 หรือเพราะตัวร่างกฎหมายดังกล่าว” 

เมื่อถามย้ำว่าร่างเดิมของรัฐบาลกำหนดให้ 3 สารเคมีสามารถกลับมาใช้ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ถูก และได้ยินมาว่ากระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำงานกันอยู่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์สภาล่มจะกระทบภาพลักษณ์ต่อสายตาประชาชนอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ล่มบ่อย สมัยประชุมนี้เพิ่งล่มครั้งแรก เราต้องเข้าใจเพราะมีเหตุโควิด แม้สภาฯจะบอกไม่ต้องกลัวเพราะมีมาตรการ แต่ถ้าส.ส.เขากลัวก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร และขอย้ำว่าที่ล่มไม่รู้เป็นเพราะกลัวโควิดหรือเพราะขัดแย้งกันเรื่องกฎหมาย 

เมื่อถามว่าหากเป็นเหตุผลกลัวโควิดจะส่งผลกระทบต่อกฎหมายสำคัญของรัฐบาลหรือไม่รวมถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 65 นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องคอยดูกันต่อไป มีเหตุตรงไหนก็ป้องกันและแก้ไขตรงนั้น เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งไม่มีติดเชื้อเพิ่มคนจะได้วางใจ ส่วนกฎหมายงบประมาณ 65 ยังไม่ต้องกังวลเพราะอีกนาน แต่เราคงไม่รอให้ไปถึงครบ 105 วัน นอกจากนั้นยังมีกฎหมายที่สำคัญกว่านั้นเช่นกฎหมายที่ต้องประชุมร่วมรัฐสภา 

เมื่อถามว่าประธานวิปรัฐบาลอ้างว่าเหตุที่ล่มเป็นเพราะเทคนิคในการคัดค้านกฎหมาย นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เหมือนการประชุมสภาฯเวลาคนไม่เห็นด้วยก็ใช้วิธีวอล์กเอาท์ หรือใช้วิธีเดินออกกันแล้วนับองค์ประชุม เป็นเทคนิคของสภาที่มีเยอะมากมายเท่าที่เห็น อย่าเป็นเรื่องตื่นเต้นอะไร แต่ถ้าเป็นกฎหมายสำคัญแล้วเป็นแบบนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่กรณีนี้อาจจะไม่ใช่กรณีสำคัญมีการถกเถียงมาหลายครั้ง และตนยังนึกในใจว่าแม้จะไม่มีโควิด แต่ถ้ายอมหรือไม่ยอมกันขึ้นมาก็อาจมีการวอล์กเอาท์เกิดขึ้นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากฎหมายดังกล่าวถือเป็นกฎหมายการเงินถ้าลงมติแล้วไม่ผ่านกระทบรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะผ่านวาระหนึ่งมาแล้ว ถ้าจะกระทบคือตกไปตั้งแต่วาระหนึ่ง เรื่องนี้ไม่มีกฎหมายบังคับแต่เป็นมารยาทและธรรมเนียมที่ถือมา เหมือนกรณีถ้าสภาฯไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็ต้องหาทางออกเช่นลาออกหรือยุบสภา เหมือนที่ประเทศอังกฤษและประเทศไทยยึดถือ 

เมื่อถามถึงกรณี นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ ออกมาระบุใครอยากรู้รายชื่อส.ส.ไม่เข้าประชุมให้มาดูได้ที่สภาฯเพื่อตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งแต่ไป แบบนี้เห็นด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่อง

"นายกฯ ควงทีม สธ." บินภูเก็ต สร้างความมั่นใจเปิดโครงการ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ไม่หวั่นโควิดยังระบาดหนัก

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะ อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายดิตทัต โหรตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯสมช.เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต และโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยนายกฯ โดยสารเครื่องบินกองทัพอากาศ Air bus 320 หมายเลข 60205

โดยตามกำหนดการ เวลา 09.45 น.   นายกฯและคณะ ตรวจเยี่ยมการคัดกรองนักท่องเที่ยว เข้า – ออก จังหวัดภูเก็ต ณ ด่านตรวจภูเก็ต  ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จากนั้นเดินทางไปยังโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการลงพื้นที่ นายกฯโดยสารรถToyota Alphard ทะเบียน กษ 199 

จากนั้น เวลา 13.45 น.นายกฯเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว “HUG THAIS HUG PHUKET” จัดโดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต และหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต ตำบลวิชิต อำเภอเมือง

ก่อนจะเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตำบลสาคู อำเภอเมือง เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เยี่ยมชมการฟื้นคืนสภาพของชายหาดและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากนั้น เวลา 17.10 น. นายกฯต้อนรับนักท่องเที่ยว สายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพในเวลา 18.40น.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top