Monday, 12 May 2025
POLITICS NEWS

เสียงสะท้อนถึงภาครัฐ 'ถูกจุด - ล้มเหลว' หลังขึ้นภาษีไม่ช่วยคนไทยจากภัยบุหรี่

กลายเป็นข้อถกเถียงใหญ่ในสังคม ภายหลังนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คลัง ออกมาประกาศขึ้นภาษีบุหรี่ โดยมีเป้าหมายในการดูแลสุขภาพประชาชน หวังลดการบริโภคบุหรี่ลงได้ 2-3% ขณะที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เลือกออกมาหนุนให้ปลดล็อกผลิตภัณฑ์ทางเลือก เช่น ไอคอส (IQOS)

เพราะประเด็นนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงกันในสังคม ที่มีทั้งเสียงสนับสนุนและการคัดค้านจากหลายฝ่าย... 

เริ่มตั้งแต่ ส.ส. คนดังอย่าง นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ หมอเอก ส.ส. พรรคก้าวไกล จังหวัดเชียงราย ที่โพสต์ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "การขึ้นภาษีอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบของการควบคุมบุหรี่"  

ส่วน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร หรือ ส.ส.เท่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ซึ่งโพสต์แคปชัน “ความพยายามอันสิ้นหวังรีดภาษีบุหรี่” วอนรัฐหยุดใช้ข้ออ้างสุขภาพมาหารายได้จากการเก็บภาษีแต่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด 

นายวรภพ วิริยะโรจน์ อีกหนึ่ง ส.ส. พรรคก้าวไกล ก็เสนอทบทวนการแบนบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมท้าให้มาดูที่รัฐสภาและทำเนียบที่มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก 

ทางด้าน แอดมิน เพจดัง Drama-Addict ก็ได้โพสต์แสดงความเห็นขยี้ประเด็น รัฐปรับเพดานภาษี คนสูบบุหรี่เท่าเดิม ชี้คนเดือดร้อนตัวจริงคือประชาชนและเกษตรกร  

ขณะที่ นพ. หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ได้ออกมาย้ำถึงความกังวลเรื่องความอันตรายของผลิตภัณฑ์ทางเลือก จน รมว.ดิจิทัล ต้องออกมาชี้แจงเพิ่มเติม โดยแนะให้ปรับมุมมองใหม่ต่อบุหรี่ไฟฟ้า ยกกรณี อย.สหรัฐฯ อนุญาตให้ผู้ขายได้สื่อสารกับผู้บริโภคในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบลดความเสี่ยงได้แล้ว

>> นาทีนี้ การขึ้นภาษีอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ... 

นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ หมอเอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล เขต 1 เชียงราย ได้โพสต์แสดงความเห็นผ่านหน้าเฟซบุ๊กเพจ ชี้ว่า "การขึ้นภาษีอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบของการควบคุมบุหรี่ และบางทีมุขเดิมๆ วิธีเดิมๆ ที่ใช้ในการควบคุมบุหรี่อาจไม่ได้ผล"   

ในโพสต์ดังกล่าว นายแพทย์เอกภพ แสดงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข อ้างอิงการขึ้นภาษีส่งผลให้ยอดขายบุหรี่ของโรงงานยาสูบลดลง แต่จำนวนผู้สูบบุหรี่กลับลดลงเพียงเล็กน้อย แค่ 2% (อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทย ในช่วงปี 2560-2564)

ตรงนี้ สะท้อน ความล้มเหลวของภาครัฐ ในการบริหารจัดการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และอยากให้เปลี่ยนมุม โดยเสนอมุมมองใหม่ เช่น การปลดล็อกบุหรี่ไฟฟ้า ให้เป็นสินค้าถูกกฎหมาย 

“ผลจากการขึ้นภาษีเมื่อปี 2560 ทำให้ยอดขายบุหรี่ลดลง วัดจากตัวเลขกำไรของโรงงานยาสูบ ที่ลดลง โดยโรงงานยาสูบที่เคยมีกำไรสุทธิถึง 9,343 ล้านบาทในปี 2560 เหลือกำไรเพียง 513 ล้านบาทในปี 2562 ถึงกระนั้นถ้ากำไรลดลง เพราะยอดขายที่ลดลง จากคนสูบบุหรี่ที่ลดลงก็คงไม่ว่ากัน แต่ในความเป็นจริงอัตราคนสูบบุหรี่แทบไม่ขยับลดลงเลยในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขอัตราการสูบบุหรี่เทียบจากปี 60 มาถึง 64 ดูเหมือนจะลดไปประมาณ 2% และตัวเลขนี้เป็นตัวเลขเฉพาะผู้สูบบุหรี่ ไม่ได้นับผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาด้วย” นายแพทย์เอกภพ ระบุในเพจ www.facebook.com/DoctorEkkapob

>> ความพยายามอันสิ้นหวังในการรีดภาษีบุหรี่

ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร หรือ ส.ส.เท่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ได้ตั้งข้อสังเกตผ่านเฟซบุ๊กเพจ www.facebook.com/Taopiphop ไว้ว่า การขึ้นภาษีบุหรี่เป็นเพียงการใช้ข้ออ้างสุขภาพ รัฐหารายได้จากประชาชนเท่านั้น เป็น “ความพยายามอันสิ้นหวังรีดภาษีบุหรี่” แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจริง เพราะนอกจากจะเปิดช่องให้บุหรี่แบรนด์จากต่างประเทศนำบุหรี่ราคาต่ำมาขาย ยังกระทบต่อเกษตรกรยาสูบไทยรายได้ลดลงจากยอดขายยาสูบลดลงเป็นผลพวงจากการผูกขาดของรัฐในการผลิตยาสูบในประเทศ และมีการลักลอบขายบุหรี่เถื่อนรายได้ภาษีที่รัฐคาดหวังจะเก็บได้ก็ไม่ได้ แต่เปิดทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนสุขภาพประชาชนโดยรวมก็ไม่ดีขึ้น

“ข้ออ้างเรื่องสุขภาพของประชาชน เป็นแนวคิดเก่าโบราณของรัฐที่พยายามบอกกับประชาชนว่าควรจะทำหรือไม่ทำอะไร แบบพ่อปกครองลูก (Nanny State) จากสถิติพบว่าการเพิ่มราคาบุหรี่แม้จะมีผลในการลดจำนวนผู้สูบลดลงด้วยปัจจัยราคา แต่ก็ยังมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อน แสดงว่าก็คงไม่ได้ผลอย่างที่คาดไว้” นายเท่าพิภพ หรือ ส.ส.เท่า พรรคก้าวไกล ระบุ พร้อมทั้งให้ข้อเสนอทางออกให้กับประเทศด้วยการสนับสนุนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในนโยบายควบคุมยาสูบ แบบ ลดสารอันตราย (Harm Reduction) เพื่อการแก้ปัญหาแบบรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและด้านสุขภาพ โดยเน้นผลประโยชน์ต่อประชาชนว่า  

“หลายประเทศที่พัฒนาแล้วพยายามแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพไปในอีกทิศทางหนึ่งที่ต่างกัน ด้วยวิธีการลดอันตรายที่เกิดจากสิ่งนั้นๆ (Harm Reduction) เช่น นิวซีแลนด์ ได้ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผลวิจัยจากหลายสถาบันก็บ่งบอกว่าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่แบบธรรมดา เพราะไม่มีการเผาไหม้และไม่เกิดน้ำมันอันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ในบางประเทศอย่างอังกฤษ หากต้องการเลิกสูบบุหรี่ คุณหมอในโรงพยาบาลก็สามารถสั่งบุหรี่ไฟฟ้าให้กับผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ได้ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยก็มีผู้นิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดแย้งกันในเรื่องของผลประโยชน์ก็เป็นได้” 

ส่วนแอดมิน เพจดัง Drama-Addict ก็ไม่พลาดที่จะร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ โดยได้บอกว่า แม้รัฐปรับเพดานภาษีกี่ครั้ง แต่จำนวนคนสูบบุหรี่ไม่ลดลง ทางออกที่ดีน่าจะเป็นของการปรับตัวนำบุหรี่ไฟฟ้า หรือ Vape และ IQOS มาใช้ร่วมแก้ปัญหา

ข้อความโพสต์โดยแอดมิน เพจ  Drama-Addict  เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ตอนหนึ่งระบุว่า “ถ้าเพื่อให้คนลดบุหรี่ลง และ โรงยาสูบกับเกษตรกรไม่เจ๊ง คิดว่า น่าจะให้ทางโรงงานยาสูบเริ่มพัฒนาพวก Vape / IQOS มาแทนที่บุหรี่แบบเดิมๆ ซึ่งอันนี้ก็จะแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากคนที่หันไปหาของนำเข้าหรือไปใช้พวก IQOS / Vape ที่นำเข้าจาก ตปท. ได้บ้าง จะได้มีเวลาให้เกษตรกรที่ปลูกยาสูบปรับตัวลดการปลูกยาสูบไปปลูกอย่างอื่น เช่น กัญชง/กัญชา อะไรก็ว่ากันไป แล้วดูแลควบคุมพวกนี้ให้เข้มงวด ไม่ให้เด็กรุ่นใหม่หันไปลองใช้พวกนี้ แล้วให้พวกรุ่นเก่าๆ ที่ยังสูบบุหรี่ ปรับตัวมาใช้พวกนี้แทนแล้วค่อยๆ พาไปเลิกบุหรี่ให้หมด น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่านะ”

กกต.ยันเตรียมพร้อมเลือกตั้งอบต. 100% แล้ว จัดคูหาพิเศษให้คนอุณหภูมิสูงเลือกตั้ง กำชับการแจกบัตรลต.ไม่ให้มีปัญหา พร้อมลุยพื้นที่ตรวจรับสมัคร 11 ต.ค. นี้ 


การเมือง/กกต./6 ต.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการการ เลือกตั้ง (กกต.) นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งนายก และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ภายใต้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโค วิด -19 ว่า การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากเรามีประสบการณ์ จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) องค์การ บริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาล เราจึงได้นำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มาปรับปรุงและมาใช้ในการเลือกตั้งอบต.ในครั้งนี้  จะเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีมาตรการ พิเศษคือมีฉากกั้น เฟซชิลด์ ด้วยมาตรการของศบค. ที่ได้แนะนำเราว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้จัดในสถานการณ์ การแพร่ระบาดโควิด -19 กกต.ก็ต้องเตรียมการเลือกตั้งอย่างระมัดระวัง

นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำเรื่องการแจกบัตรเลือกตั้ง ซึ่งมีข้อแนะนำคนที่มีสิทธิเลือกทั้งนายก และสมาชิกอบต. ซึ่งส่วนใหญ่ทุกคนจะมีสิทธิเลือกตั้งนายกอบต. และบางคนไม่สามารถเลือกตั้งสมาชิกได้ก็ได้เน้นย้ำว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิเลือกเฉพาะนายกอบต. การแจกบัตรให้พึงระมัดระวัง อย่าให้เกิดปัญหา ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ของเรามีความพร้อม และการเลือกตั้งที่จะถึงนี้กกต.มีความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งไม่ให้เกิดปัญหา โดยวันที่ 11 ต.ค.นี้ กกต.ทั้ง 7 คนจะลงพื้นที่ไปตรวจการรับสมัคร จากนั้นก็จะนำผลการตรวจพื้นที่มาหารือกัน โดยครั้งนี้เรามีความมั่นใจอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เราได้มีการให้ผู้ตรวจการ เลือกตั้ง ไปปฏิบัติหน้าที่ ทั่วประเทศในการเลือกตั้งอบต. ซึ่งจะเป็นหัวใจหลักที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ ยุติธรรม

"เราเตรียมการแล้ว 100 % และกกต.ท้องถิ่นเขาก็มีความพร้อม เรื่องการจัดอุปกรณ์ เพราะเราได้มีหนังสือสั่งการไปแล้ว และตอนนี้เขาก็ดำเนินการตามหนังสือสั่งการเสร็จสิ้นเป็นไปที่เรียบร้อยแล้ว" นายฐิติเชฏฐ์ กล่าว

“สุทิน” ตอบ “วิษณุ” แจงเหตุเปิดประเด็นอายุ “ประยุทธ์” หวังป้องกันวิกฤติการเมือง ชี้เขียน กม.กันคนอื่น ก็ต้องรับกรรมไป

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ข้องใจว่าฝ่ายค้านเปิดประเด็นการเำรงตำแหน่งนายกฯ ตาม ม.158 ขึ้นมาตอนนี้ทำไม ทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาว่า ตนเองและฝ่ายค้านเปิดประเด็นเรื่องนี้ ตอนนี้ด้วยเหตุผลดังนี้ คือ 1.บอกให้ประชาชนที่กำลังทนทุกข์กับการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ได้ทราบ ว่าเขาจะต้องทนทุกข์อีกนานเท่าใด จะพ้นทุกข์เมื่อไหร่ และอาจถูกใช้เทคนิคกฎหมายต่ออายุความทุกข์ให้กับเขาต่อไปอีก เพื่อประชาชนจะได้วางแผนชีวิตได้ 2.เราเห็นว่าขณะนี้ในพรรครัฐบาลกำลังมีปัญหากันอย่างมาก การชิงรักหักเหลี่ยมกันกำลังไปสู่คำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะถูกเท หรือจะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกหรือไม่ ฝ่ายค้านจึงหยิบยก ม.158 ให้ทุกฝ่ายที่กำลังสัปยุทธ์กันอยู่ นำไปเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนทางยุทธศาสตร์

ราเมศ ถาม จนท.รัฐ ปัญหาที่ดินทำกินชาวบ้าน ป่าเลา-นางั่ว เพชรบูรณ์ จะแก้ปัญหา หรือ ให้ชาวบ้านติดคุก ทั้งหมู่บ้าน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่ ตำบลป่าเลา-ตำบลนางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ว่า

ประชาชนถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก แต่หลักฐานกลับสวนทางกับความเป็นจริง ที่สาธารณประโยชน์ป่าโคกตาดเนื้อที่ 10,000 ไร่ และตำแหน่งที่ดิน นสล.ที่ พช.159 เนื้อที่ 1,977 ไร่ มีข้อพิพาทจนดำเนินคดีราษฎร 26 ราย หลายรายอยู่ระหว่างถูกบังคับคดีจนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และมีชาวบ้านที่จะถูกดำเนินคดีอีกหลายราย แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหารปี 2535 ชี้ให้เห็นว่าที่ดิน นสล.ที่พช.159 ที่ใช้ดำเนินคดีกับราษฎรเป็นคนละแปลงกับที่ดินที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ ชาวบ้านขอให้มีการพิสูจน์รังวัดที่ดิน นสล.ที่พช.159 อย่างตรงไปตรงมาให้ถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการเพื่อประโยชน์ เพื่อมุ่งคุ้มครองสิทธิชาวบ้าน

ถ้ามีนโยบายดำเนินคดีกับชาวบ้านแบบเอาจริงเอาจังก็ควรที่ให้ผู้มีอำนาจประกาศเป็นนโยบายไปเลยว่าจุดมุ่งหมายแห่งความสำเร็จคือจับกุมราษฎรให้หมดทั้งตำบลขาวบ้านขอแค่ให้มีการพิสูจน์กันแบบตรงไปตรงมา หากสุดท้ายที่ดินเป็นที่สาธารณะก็พร้อมติดคุก เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ควรที่จะต้องเร่งแก้ปัญหา หรือจะให้ชาวบ้านติดคุกกันทั้งหมู่บ้าน

"บิ๊กป้อม"สั่ง “ส.ส.พปชร.”ลุยน้ำท่วมช่วยชาวบ้าน ย้ำ ส.ส.กทม. ระวังนอกแนวเขื่อน-ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังวันที่ 5 ต.ค. นี้

พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค กำชับส.ส.ของพรรค ให้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย จากอิทธิพลพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ในทุกพื้นที่ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค และอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้มากที่สุดและกำชับส.ส.กทม.ที่ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำบริเวณจุดเสี่ยงนอกแนวเขื่อน ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา  หลังวันที่ 5 ต.ค.  2564 นี้ ที่จะมีมวลน้ำสมทบ จากการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยหัวหน้าพรรค

'บิ๊กตู่' เซ็นคืน 4 กรมในกระทรวงเกษตรฯ ให้ 'จุรินทร์' ดูแลเหมือนเดิม

(5 ต.ค. 64) หลังจากที่มีกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เคยอยู่ในการดูแลของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรฯ และทาง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี, รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปัดไม่ขอพูดอะไรถึงเรื่องนี้เพิ่มเติมนั้น

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 267/2564 เรื่อง ยกเลิกคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 254/2564 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2564 นั้น เพื่อให้การกำกับการบริหารราชการแผ่นดินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นไปอย่างบูรณาการสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน 

‘ทิพานัน’ ชวนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลงทะเบียนรับสิทธิลดค่าไฟ-ค่าน้ำอีก 1 ปี ชี้รัฐบาลเยียวยาครอบคลุมทุกกลุ่ม ส่งความช่วยเหลือตรงถึงมือ วอนฝ่ายค้านหยุดตีกินทางการเมือง หันมาร่วมมือให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ โดยขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 - เดือนกันยายน 2565   .
โดยรัฐบาลสนับสนุนช่วยเหลือค่าไฟประจำเดือน ตามที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้าแต่ไม่เกิน 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ค่าไฟฟ้าเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับสิทธิจากมาตรการนี้ และสนับสนุนค่าน้ำประปา วงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง กรณีใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาเองทั้งหมด 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า มีประชาชนหลายกลุ่มยังไม่ทราบถึงการลงทะเบียน จึงขอประชาสัมพันธ์อีกครั้งหนึ่ง สำหรับผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่เคยลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนรับสิทธิได้ โดยในส่วนของการไฟฟ้านครหลวง สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์

เพื่อไทยเตรียมขน ส.ส.ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมอยุธยา จี้!! รัฐบาลเร่งตรวจสอบระบบเตือนภัย ลดขั้นตอนราชการ เร่งช่วยประชาชน

(5 ต.ค. 64) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ทั่วทุกพื้นที่ 

สำหรับในวันที่ 6 ต.ค.นี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย คนรุ่นใหม่ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.จะลงพื้นที่น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบถุงยังชีพและของใช้จำเป็นให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.ผักไห่ บางบาล และท่าเรือ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำในสถานการณ์น้ำเหนือเพิ่มสูงขึ้น โดยในปีนี้มีประชาชนกว่า 20,000 ครัวเรือนกำลังรอความช่วยเหลือ

ครม.ต่ออายุทำคู่มืออาหารมิชลินไกด์ อีก 5 ปี วงเงิน 135 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่ออายุโครงการมิชลินไกด์ ไทยแลนด์ อีก 5 ปี โดยอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันปี 65-69 วงเงิน 8.2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 135.30 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเป็นรายปี ปีละประมาณ 27 ล้านบาท เพื่อจัดทำคู่มือแนะนำร้านอาหาร ซึ่งในระยะต่อไปนี้กำหนดพื้นที่ดำเนินการคือกรุงเทพฯ จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต พังงา พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งต้องมีการสำรวจร้านอาหารเพิ่มอย่างน้อย 3 จังหวัด โดยเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างน้อย 1 จังหวัดด้วย

สำหรับกระบวนการดำเนินโครงการนั้น จะเริ่มจากการคัดเลือกและรวบรวมรายชื่อร้านอาหารที่อยู่ในระดับมาตรฐานของมิชลิน มีขั้นตอนตั้งแต่การลงพื้นที่สำรวจร้านอาหาร การตรวจสอบคุณภาพและรสชาติอาหารโดยผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกที่ผ่านการอบรมตามเกณฑ์ของมิชลิน โดยมิชลินเป็นผู้รับผิดชอบในการคัดเลือกทีมงาน และแต่งตั้งคณะผู้ตรวจสอบเพื่อดำเนินการคัดเลือกร้านอาหารและจัดอันดับร้านอาหารอย่างยุติธรรมตามระเบียบวิธีการของมิชลิน จากนั้นจะมีการพิมพ์หนังสือ มิชลินไกด์ ไทยแลนด์ ทุกปี เพื่อแนะนำร้านอาหารที่ผ่านกระบวนการประเมินผล

ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าวสร้างการรับรู้การจัดทำโครงการมิชลินไกด์ ไทยแลนด์ ประจำปี 2565-2569 รวมถึงจัดงานมอบรางวัลให้แก่ร้านอาหารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากมิชลิน พร้อมดำเนินการตรวจสอบคุณภาพร้านอาหารในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี นอกจากนี้ยังมอบสิทธิรางวัล Michelin Thailand Service Award By TAT ให้แก่ ททท. ซึ่งเป็นรางวัลใหม่ ที่เพิ่มขึ้นจากสิทธิประโยชน์เดิม โดยเป็นรางวัลสำหรับบุคลากรผู้ให้บริการยอดเยี่ยม

นักเขียนซีไรต์ เหน็บ 'กลุ่ม 3 นิ้ว' เหยียดคนอื่นได้ พอโดนด่ากลับ ทำเป็นดิ้น ชี้! น่าโดนสากตะบันหมาก

เห็นสามนิ้วแล้ว 'นักเขียนซีไรต์' คิดถึง 'ยาย' เขวี้ยงสากตะบันหมากทองเหลืองใส่โรงลิเก

5 ต.ค. 64 - วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กหัวข้อ "คิดถึงยาย" โดยระบุรายละเอียดว่า เห็นพวกสามนิ้วก่นด่าเหยียดหยามคนอื่นๆ สารพัด พอโดนด่าเข้าบ้างกลับว่าเขาเหยียดหยามความเป็นมนุษย์! แล้วก็ด่าเขาต่อ!

ผมนึกถึงวัยเด็ก... ไปดูลิเกงานวัดหน้าแล้ง "ตัวนังอิจฉา" ซึ่งเป็นเมียน้อยของพระเอกโคตรโง่ ก็หาเรื่องกลั่นแกล้งก่นด่าเหยียดหยามนางเอกผู้แสนดีจนน่าหมั่นไส้ไม่หยุดไม่หย่อน แล้วก็แถไปออดอ้อนฟ้องพระเอกว่าถูกนางเอกรังแก (กรูโกรธมึงมาก!)

"ผัวขา... ดูอีดอกนั่นสิคะ มันพูดจาหยาบคายกับเมีย!"

ยายคนหนึ่งซึ่งนั่งตะบันหมากอย่างเคร่งเครียดอยู่ข้างหน้าผมก็สุดจะทนต่อไป แกลุกขึ้นเขวี้ยงสากตะบันหมากทองเหลืองขึ้นไปบนเวที  "มึงนั่นแหละอีดอก! ตอแหลเห็นๆ กูดูอยู่!"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top