Tuesday, 13 May 2025
POLITICS NEWS

‘วิโรจน์’ แนะ 6 ข้อ เปิดประเทศแบบมีหวัง หลัง 14 ตุลา ครบ 120 วัน สัญญานายกฯ

(11 ต.ค. 64) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมพร้อมที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

วิโรจน์ กล่าวว่า หากนับจากวันที่ 16 มิ.ย. 64 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้คำมั่นกับประชาชนเอาไว้ว่าจะเปิดประเทศใน 120 วัน ซึ่งจะครบกำหนด 120 วัน ในวันที่ 14 ต.ค. 64 ที่จะถึงนี้ ตนและ ฐณฐ จินดานนท์ ในฐานะกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบเงินกู้ 5 แสนล้าน ในสัดส่วนพรรคก้าวไกล ได้ให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า…

สำหรับการเปิดประเทศ เพื่อให้การค้าการขาย การหารายได้ และการทำมาหากินของประชาชน สามารถดำเนินไปได้ตามปกติ เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลจะเปิดประเทศได้ หรือทำ Travel Bubble กับประเทศต่างๆ เพื่อเปิดให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ และมีดัชนีในการพิจารณา และตรวจติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ชัดเจน โปร่งใส 

โดยที่ประชาชนสามารถร่วมติดตามสถานการณ์ไปด้วยได้ หากรัฐบาลมีแต่แผนการเปิดประเทศ เพียงแค่แบ่งเป็นกลุ่มจังหวัด และมีประมาณการคร่าวๆ ประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการต่างๆ จะไม่สามารถวางแผน และเตรียมการล่วงหน้าอย่างเหมาะสมได้เลย และไม่มีความมั่นใจว่า แผนการเปิดประเทศดังกล่าว จะเปิดได้จริงหรือไม่ เปิดแล้วจะปิดอีกเมื่อไหร่ 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 10,000 รายเศษ และมีผู้เสียชีวิตประมาณวันละ 60-80 ราย ที่สำคัญหากพิจารณาจากผลตรวจจากชุดตรวจ ATK ก็ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ และการระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นการระบาดที่แพร่กระจายไปยังส่วนภูมิภาค หลายจังหวัดยังมีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

วิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า การที่จะเปิดประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมได้ รัฐบาลจำเป็นต้องทำให้การระบาดของโรคโควิด-19 เป็น “การเจ็บป่วยในภาวะปกติวิสัย (Normality)” ที่ระบบสาธารณสุขปกติ สามารถควบคุมการระบาด และดูแลรักษาผู้ป่วยได้ โดยต้องมั่นใจว่า ไม่เกินขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข หรือมีแผนสำรองในการเพิ่มขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขได้โดยทันที อย่างไม่ตระหนกตกตื่น ในกรณีจำเป็น

“ถ้า Normality ไม่เกิดขึ้น การเปิดประเทศ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็จะเป็นเครื่องยนต์ที่กระตุก ติดๆ ดับๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และประชาชนได้”

วิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดประเทศไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ คิดจะเปิดก็เปิด คิดจะปิดก็ปิด พอไม่กล้าปิด ก็ฝืนเปิด แล้วก็มาปิดแบบกะทันหัน จนสร้างความสูญเสียให้กับประชาชน พรรคก้าวไกล จึงเสนอแนวทางในการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ นำไปดำเนินการ 6 ข้อ ดังต่อไปนี้

'คณะก้าวหน้า' มั่นใจ สนามเลือกตั้ง อบต. เชื่อ 'ภาคตะวันออก-อีสาน' ไม่หลุดมือ

เมื่อวานนี้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เปิดเผยถึงความพร้อมในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ โดยระบุว่าคณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครลงครบทุกภาค กว่า 200 ทีม ตั้งแต่ภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ และจังหวัดชายแดนภาคใต้

นางสาวพรรณิการ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเราประกาศรับผู้สมัครลงเลือกตั้ง อบต. ในนามคณะก้าวหน้า มีผู้สมัครมากว่า 500 ทีม แต่เราคัดเลือกเฉพาะผู้ที่มีอุดมการณ์ และแนวทางการทำงานการเมืองตรงกับเรา 3 ข้อหลักที่เป็นกฎเหล็กคือไม่ซื้อเสียง ไม่ฝักใฝ่ระบอบเผด็จการ และไม่แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองหรือพวกพ้อง หากยอมรับ 3 ข้อนี้จึงจะร่วมงานกับเราได้ และในตอนนี้ได้ผู้สมัครแล้วกว่า 210 ทีม โดยจังหวัดที่คึกคักที่สุดคือ ร้อยเอ็ด และอุดรธานี มีผู้ลงสมัครในนามก้าวหน้าเกือบ 20 ทีม ทั้งสองจังหวัด

น.ส.พรรณิการ์ ยืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ผู้สมัครของคณะก้าวหน้าชนะใจประชาชน คือผลงานที่สำเร็จเป็นรูปธรรมแล้วของนายกเทศมนตรีที่ร่วมงานกับคณะก้าวหน้า หลังจบการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายก และทีมได้เข้าไปทำงานเพียง 5 เดือนก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน เช่น 

ที่อาจสามารถ แก้ปัญหาน้ำประปาที่ขุ่น ไหลอ่อน มีกลิ่น จนกลายเป็นน้ำประปาใสสะอาดได้มาตรฐาน ลงทุนเพียงหลักแสน กับเวลาเพียง 5 เดือน ก็สามารถปลดล็อกปัญหาที่เรื้อรังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประชาชนมาหลายสิบปีได้

'หมอวรงค์' เปิดกลยุทธ์เขย่าแก๊ง 3 นิ้ว ย้ำ ยินดีชี้ทางสว่าง หลังถูกหลอกใช้มานาน

11 ต.ค. 64 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า #เอากบออกจากกะลา 

หลังจากที่ผม #มาคุยกันไหม มีพี่น้องห่วงใย และอยากรู้ความคิดผม ผมบอกตรงๆ เลยว่า การต่อสู้ของเราต้องมีกลยุทธ์ ในการดึงเขาให้ออกมาเล่นในสนามของเรา 

ที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้ มีแต่อ้างปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ หลอกลูกหลาน เยาวชน นักศึกษาให้ออกมาเป็นหัวหอก จ้องให้ร้ายสถาบันเบื้องสูง ผมไม่เคยเชื่อคนพวกนี้ 

“องอาจ” แนะ ศบค. เร่งรณรงค์การ์ดอย่าตกอย่างจริงจัง หลังพบคลัสเตอร์งานศพ งานสังสรรค์ จัดปาร์ตี้มั่วสุมมากขึ้น

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ว่า จากรายงานของ ศบค. พบว่า สถานการณ์โควิด-19 ของไทย อยู่ในสภาวะทรงตัวคือมีผู้ติดเชื้อประมาณ 10,000 ราย ซึ่งอยู่ในสภาวะที่ ศบค. คาดว่าจะควบคุมให้ทรงตัว หรือลดลงได้เรื่อยๆ จึงตัดสินใจคลายล็อคข้อจำกัดต่างๆ ให้สามารถใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติเพื่อพยุงให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

แต่หลังจากคลายล็อคได้ไม่นาน มีประชาชนบางส่วนเริ่มการ์ดตกมาขึ้น อาจเป็นเพราะมั่นใจว่าได้ฉีดวัคซีนแล้ว และเชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง จึงพบว่าเริ่มมีการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์จากงานศพ คลัสเตอร์จากงานสังสรรค์ คลัสเตอร์จากการจัดงานตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีคนมารวมตัวกันจำนวนมาก

ขณะเดียวกันก็พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ทำผิดกฎหมายจัดปาร์ตี้มั่วสุมตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่คนเข้าร่วมปาร์ตี้มั่วสุมจากหลักสิบ พุ่งขึ้นเป็นหลักหลายร้อยคน และอาจจะมีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมลักษณะนี้อีกมาก แต่รอดพ้นการจับกุมของตำรวจ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่นำไปสู่การแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งจากยอดผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK เชิงรุกในรอบ 10 วันที่ผ่านมา ก็เพิ่มจากหลักพันคนเป็นหลักหมื่นคน ถึงแม้ผู้ตรวจ ATK พบว่าติดเชื้อจะไม่ได้หมายความว่าจะติดเชื้อทุกคนจนกว่าจะตรวจ PCR อีกครั้งก็ตาม

วันแรกรับสมัครเลือกตั้ง อบต. "ธวัชชัย" กกต. ย้ำผู้ติดเชื้อหรืออยู่ระหว่างการกักตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 จะสมัครรับเลือกตั้งให้เป็นอำนาจ ศบค.อนุญาต หากรู้ตัวแอบมาสมัครจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย  ขณะที่ กกต.คนอื่นลงพื้นที่ตามแผน 7 ดาวกระจาย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ที่เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 11-15 ต.ค. และจะลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 28 พ.ย. 2564 

โดยวันนี้ นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กรรมการการเลือกตั้ง พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการสมัครรับเลือกตั้ง  และการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางตะไนย์  อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี   โดยมีนายสุจินต์  ไชยชุมศักดิ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี  และ ผอ.ประจำองค์การบริหารส่วนตำบลบางตะไนย์ ให้การต้อนรับและร่วมตรวจการรับสมัคร 

นายธวัชชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้จะสมัครรับเลือกตั้งต้องสมัครด้วยตัวเองตามกฎหมายกำหนด  และได้ประสานยังกรมควบคุมโรค  และ ศบค.ที่จะพิจารณาอนุญาต สำหรับคนที่จะสมัครรับเลือกตั้ง อบต. แต่อยู่ในพื้นที่กักตัวหรืออยู่ระหว่างการรักษาโควิด-19  หากยังไม่ควรที่จะออกมาสมัครก็จะไม่อนุญาตให้ออก   ส่วนผู้ที่มาสมัครทั่วไปก็จะมีมาตราการด้านสาธารณสุขในพื้นที่รับสมัครอย่างเข้มงวด สวมหน้ากาก ล้างมือ วัดอุณหภูมิร่างกาย เพราะ กกต.ไม่ทราบได้ว่าใครติดโควิด-16 หรือไม่ 
หากพบภายหลังว่า มีผู้ที่รู้ตัวเองอยู่ว่าติดโควิด-16  แต่ยังมาสมัครก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย  และดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคแจ้งบุคคลที่มีความเสี่ยง

“แต่เชื่อว่าผู้ที่จะสมัครจะต้องรู้ตัวเอง  หากจะมาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น ต้องมีความรับผิดชอบในตัวเอง   หากรู้ว่าติดโควิด-16  แต่มาสมัครจะไปเป็นผู้บริหารท้องถิ่นได้อย่างไร”นายธวัชชัย กล่าว

นายธวัชชัย กล่าวว่า สำนักงาน กกต.  อบต. และจังหวัด  เตรียมความพร้อม เรียบร้อยไม่มีปัญหาใด   พร้อมเชิญชวนผู้ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งสมัคร  แต่ย้ำเตือนเรื่องเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน และคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพราะตามกฎหมายใหม่  หากรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติแต่รับสมัครจะมีโทษตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ จากการสังเกตการณ์ นายธวัชชัย  กล่าวว่าได้เห็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รู้สึกสบายใจและเป็นไปตามมาตรการที่กำหนดไว้ในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19    ส่วนการหาเสียงเลือกตั้งได้แจ้งทราบแก่เจ้าหน้าที่และผู้สมัครให้รับทราบ   ทั้งนี้ได้กำชับ กกต.จังหวัด  ผู้ตรวจการเลือกตั้ง และผู้ว่าราชการจังหวัด เครือข่ายอาสาสมัคร  ดูเรื่องการเข้มงวดกวดขัน  ปราบปรามการทุจริตเลือกตั้ง  และการกระทำที่ผิดกฎหมาย

หากวันเลือกตั้ง อบต. 28 พ.ย.นี้ มีบางพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติ หรือ เกิดการแพร่ระบาดโควิด -19 ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง   นายธวัชชัย  กล่าวว่า กกต.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง กกต.อบต.ทุกพื้นที่ 5,300 แห่ง ว่าหากเกิดกรณีดังกล่าวจะต้องปฏิบัติอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องโควิด-19  ที่มีมาตรฐานทางสาธารณสุข ของกรมควบคุมโรค และ ศบค.กำหนดไว้   จะดำเนินการโดยเคร่งครัด  หรือจะเลื่อนวันลงคะแนนสามารถเลื่อนได้ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องเกิดเหตุในวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 28 พ.ย.ซึ่งจะพิจารณาเป็นพื้นที่ๆไป 

“ประวิตร”สั่ง ผลักดัน"มวยไทยสู่โอลิมปิก"โชว์ศิลปะต่อสู้คนไทย ไปทั่วโลก

ที่ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7รอบ พระชนมพรรษา กกท.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วม

โดยที่ประชุมรับทราบกรณีที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล(ไอโอซี)รับรองมวยไทย และสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ(IFMA)ให้เป็นสมาชิกแบบถาวร และมีคำสั่งคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ 5/2564 วันที่ 23 มิ.ย.64 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการ มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นประธานและคณะอนุกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ซึ่งมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็นประธาน และรับทราบการจัดตั้งศูนย์อำนวยการประสานงานและประชาสัมพันธ์การขับเคลื่อน กีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก และรับทราบแผนการดำเนินงานตามโรดแมป ประจำปี 2564 เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ให้สามารถดำเนินการได้ อย่างเป็นรูปธรรมและมีทิศทางเดียวกัน

“ราเมศ”เผย แม้ปชป.ไม่ส่งผู้สมัค อบต.ยันปฏิบัติตาม กม.เคร่งคัด  ย้ำส.ส.- ข้าราชการการเมือง ห้ามช่วยหาเสียง 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น ในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ที่มีการเปิดรับสมัครวันนี้เป็นวันแรกว่า พรรคเป็นกำลังใจให้ผู้สมัครสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นทุกคน แม้พรรคฯไม่ได้ส่งผู้สมัครลงในนามพรรคก็ตาม แต่การปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสำคัญต่อประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก พรรคฯให้ความสำคัญนับแต่วันที่ได้ก่อตั้งพรรค เพราะถือได้ว่าเป็นองค์กรที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน รับรู้ถึงปัญหาต่างๆของแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี เป็นรากฐานและเป็นจุดเริ่มต้น ในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พรรคส่งเสริมการกระจายอำนาจ กระจายโอกาส กระจายงบประมาณ กระจายรายได้ ลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน เป็นสิ่งสำคัญของการกระจายอำนาจ ที่สำคัญประชาชนจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง และขอให้การหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
         

“บิ๊กเฒ่า” แต่งตั้งทีมโฆษกกองทัพเรือชุดใหม่ มอบหมายแถลงเจตนารมณ์และนโยบายประจำปี 2565 ยัน “เรือดำน้ำ” ยังมีตามยุทธศาสตร์ชาติ ยินดีปฏิบัติตามรบ.สั่งการ คำนึงถึงปชช.เป็นหลัก หลังโควิด-19 พ่นพิษ

ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งทีมโฆษกกองทัพเรือชุดใหม่ โดยมอบหมายให้พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นโฆษกกองทัพเรือ พล.ร.ต.อนุวัต ดาผิวดี เลขานุการกองทัพเรือ เป็นรองโฆษกกองทัพเรือ  พล.ร.ต.อภิชาติ วรภมร ฝ่ายเสนาธิการประจำกองบัญชาการกองทัพเรือ เป็นรองโฆษกกองทัพเรือ น.อ.ปารัช รัตนไชยพันธ์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ เป็นผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ และแพทย์จีน ปรียาดา บัวสมบุญ เป็น ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ   

ทั้งนี้พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า นโยบายผู้บัญชาการทหารเรือในปีนี้ เป็นการสานงานต่อเนื่องจากนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ผ่านมา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ตลอดจนรวมพลังขับเคลื่อนกองทัพเรือตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือระยะ 20 ปี ไปสู่การเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเล ที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการบริหารจัดการ และการส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคม และเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจด้วยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ  มีความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น นำพากองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้า โดยเน้น ความสามัคคีปรองดองเป็นพี่เป็นน้อง ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ พร้อมย้ำผู้บังคับหน่วยต้องดูแลหน่วยและดูแลสวัสดิการกำลังพลชั้นผู้น้อย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ "รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา" 

พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายเร่งด่วนและสำคัญที่สุดที่ผบ.ทร.ได้กำชับให้กับหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือได้แก่ 1.การพิทักษ์รักษา ปกป้องและเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มขีดความสามารถ ตลอดจนการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานในการดำเนินโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” 2.การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ การพัฒนาประเทศ การบรรเทาภัยพิบัติและการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุทกภัยที่กำลังจะเกิดในขณะนี้ และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  3.การดูแลขวัญกำลังใจของกำลังพลกองทัพเรือ โดยเฉพาะกำลังพลชั้นผู้น้อย ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การปรับปรุงที่พักอาศัย การสวัสดิการ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นผบ.ทร.ได้มอบเจตนารมณ์ของผบ.ทร. จำนวน 10 ข้อ ได้แก่ 1.พิทักษ์รักษา ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยให้ความสำคัญเร่งด่วนในการป้องกันและสนับสนุนการปราบปรามการกระทำที่ล่วงละเมิดต่อสาบันพระมหากษัตริย์ทุกรูปแบบ พร้อมน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการและพระบรมราโชบาย มาเป็นหลักสำคัญในการปฎิบัติงาน ตลอดจนการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ในโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

2.ดำรงความพร้อมของกองทัพเรือดำเนินการทั้งการเตรียมองค์บุคคล องค์วัตถุ และยุทธวิธีให้พร้อมและเหมาะสมกับสถานการณ์ในการดูแล รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลปฎิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น และสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างถูกต้อง

3.ดำรงความต่อเนื่องในความร่วมมือและความสัมพันธ์กับกองทัพเรือมิตรประเทศ นานาชาติ  รวมถึงองค์การระหว่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี อย่างสมดุล ภายใต้แนวคิด 
“ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” สร้างความสงบสันติ พัฒนาไปได้ โดยไม่หวาดระแวงกัน

4.สนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ตั้งแต่ในภาวะปกติ จนถึงภาวะวิกฤติ รวมถึงการบูรณากับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม องค์กรต่าง ๆและภาคประชาชน

5.ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู กำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

6.ปลูกฝังกำลังพลกองทัพเรือ ให้มีสุขภาพแข็งแรง มีระเบียบวินัย และมีขวัญกำลังใจที่ดี ต้องส่งเสริมคนดีให้มีความเจริญก้าวหน้า ปลูกฝังอุดมการณ์ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และมีความภูมิใจในการเป็นทหารเรือ สำหรับผู้กระทำความผิด ต้องได้รับการลงโทษโดยไม่มีการละเว้น

7.ดำรงความต่อเนื่องเรื่องสวัสดิการบ้านพักข้าราชการกองทัพเรือ ให้มีความเพียงพอกับความต้องการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

8.การจัดทำความต้องการและงบประมาณ การวางแผนงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณต้องมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ เงินทุกบาททุกสตางค์ ได้มาจากภาษีของประชาชน ต้องใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์ต่อกองทัพเรือ ประเทศชาติและประชาชนให้ได้มากที่สุด

9.ดำเนินการเชิงรุกในการสร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ กำลังพลกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนได้รับรู้ เข้าใจ และก้าวไปด้วยกัน

10.ส่งเสริมระบบงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมทางการทหารของกองทัพเรือ และรัฐวิสาหกิจในกำกับให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งไปสู่การพึ่งพาตนเอง และต่อยอดสู่สายการผลิตได้

โฆษกทร. แจงเหตุเครื่องผลักดันน้ำกองทัพเรือจมที่สมุทรปราการ เผยเครื่องพ่นน้ำรั่วระหว่างเดินเครื่องผลักดันน้ำ ส่งผลให้น้ำไหลเข้าเรือเร็วและระบายไม่ทัน  เร่งกู้วันนี้ คาดไร้อุปสรรคโฆษกทร. แจงเหตุเครื่องผลักดันน้ำกองทัพเรือจมที่สมุทรปราการ เผยเครื่องพ่นน้ำรั่

ที่หอประชุมกองทัพเรือ พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ  ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดเหตุการณ์เครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรือจมบริเวณคลองสำโรง ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ขณะกำลังดำเนินการผลักดันน้ำในคลองสู่ทะเล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดจากเครื่องพ่นน้ำรั่วระหว่างเดินเครื่องผลักดันน้ำ  ส่งผลให้น้ำไหลเข้าเรือเร็วและระบายไม่ทัน ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลประจำพื้นที่ได้รีบนำ เครื่องสูบน้ำฉุกเฉิน ออกมาเร่งดำเนินการแก้ไข แต่เนื่องจากบริเวณที่ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเป็นจุดที่เข้าถึงยาก ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที  ซึ่งลักษณะการติดตั้งเรือจะผูกติดกันไว้เป็นคู่ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจปลดตัวยึดล็อค ของเครื่องผลักดันน้ำอีกลำหนึ่งแต่ไม่ทันการณ์ ทำให้เครื่องผลักดันน้ำเครื่องที่สอง ถูกเครื่องแรกที่มีปัญหาดึงจมลงไปด้วย   ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าสาเหตุการทำให้เรือจมเนื่องจาก มีเศษไม้ที่เป็นขยะแข็งเข้าไปทำให้ Water jet ขัดตัวเกิดการชำรุดแตกเสียหายน้ำเข้าเรือ ส่วนลำที่ 2 สาเหตุ เกิดจากการ การผูกยึดกับลำที่ 1 ดึงจมลง

พลเรือโท ปกครอง กล่าวต่อว่า ในส่วนของการกู้เครื่องผลักดันน้ำขึ้นมานั้น ทางชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำจะเร่งดำเนินการในวันนี้ ซึ่งการดำเนินการคาดว่าไม่มีอุปสรรคข้อขัดข้อง เนื่องจากระดับน้ำในคลองมีความลึกไม่เกิน 3 เมตร กระแสน้ำไม่ไหลเชี่ยว อีกทั้งเครื่องผลักดันน้ำมีน้ำหนักเพียง 4 ตัน สามารถใช้เครนยกขึ้นมาได้ จากนั้นจะนำไปดำเนินการซ่อมทำที่กรมอู่ทหารเรือซึ่งเป็นหน่วย วิทยาการในการซ่อมทำอยู่แล้ว นอกจากนั้น ระบบของเครื่องผลักดันน้ำ ไม่ใช่ระบบอิเล็กทรอนิกส์จึงสามารถดำเนินการซ่อมได้ไม่ยาก ทั้งนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จะเคลื่อนย้ายเครื่องผลักดันน้ำ 2 ลำไปทดแทน เพื่อให้คงประสิทธิภาพในการเร่งระบายน้ำเช่นเดิม  

'อดีตหัวหน้าการ์ดเสื้อแดง' ทำตัวเป็น หมอเดา! อ้างรอยกระสุนที่หัวคฝ.น่าจะเป็นกระสุนยางลั่น

8 ต.ค. 64 - นายสมบัติ ทองย้อย อดีตหัวหน้าการด์เสื้อแดงและกลุ่มราษฏร โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ถูกยิงที่ศีรษะบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา โดยบุว่า...


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top