Monday, 12 May 2025
POLITICS NEWS

'แอมมี่' เผยข้อความ โทรศัพท์สายสุดท้าย พร้อมแซะ 'พรรคการเมือง' ที่เคยสนับสนุน สุดท้ายเททิ้งผู้ชุมนุมไม่เป็นท่า

นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ the bottom blues ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีรายละเอียด ระบุว่า... 

“ขอโทษหว่ะพี่” สายสุดท้ายก่อนเข้าเรือนจำ

ไดโน๊ะ ซาโตะ ทะลุฟ้า 

มันก็น่าน้อยใจนะสหาย พวกเราสู้ และถูกจับเข้าเรือนจำ ไปทีละคนสองคนราวกับว่า เป็นเรื่องธรรมดาชินตาไปเสียแล้ว ประยุทธ์ ยังอยู่ดี ทุกคนก็ดูเต็มที่กับการหาเสียง สังคมไทยเพียงขอแค่กูอยู่รอดไปวันๆ และ นิ่งเฉย กับความอยุติธรรมที่รายล้อม ทอดทิ้งคนที่พวกเค้าเคยเอ่ยว่า “ขอบคุณนะที่ออกมาสู้แทน” ไปแล้วจริงๆ หรือ?”

หลังจากนั้น ได้มีคนที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมของสามนิ้ว เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะโพสต์ในเชิงเหน็บแนม กลุ่มนักการเมือง บางคนยังมองว่าเป็น ยุทธศาสตร์ โดยมีรายละเอียดว่า... 

“มันเป็นที่ยุทธศาสตร์ของกลุ่มที่ต่อสู้เหมือนกันแหละ เพราะเหล็กร้อนไม่ยอมตีแต่กลับไปถอยไฟออกเสีย พอมาปีนี้เขาก็ได้ใจไล่บี้ไล่จับเด้อ คือ เราตอนแรกจุดติด แต่เราไปไม่สุด มวลชนเลยฝ่อ (หรือไม่ไว้ใจเราแล้ว) มันเลยออกมาในแบบที่เห็นนี้แหละ และอีกอย่างเด็กๆ ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์แนะนำเขา ก็ยากที่จะเชื่อและหาว่ายังอย่างโน่นอย่างนี้บ้างเลยเสียคะแนนไปเยอะมากๆ”

“เป็นผู้แทน ได้เงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่เสือกไม่เห็นหัวประชาชน ไม่ฟังเสียงประชาชน”

“เข้าใจอารมณ์ครับ มันหดหู่จริงๆ คนที่มีอำนาจจะสู้ก็นิ่งเฉย ฟันเฟืองเล็กๆ ค่อยๆ ลดหาย”

ราเมศ ไม่ให้ราคา ณัฐวุฒิ ย้อนเจ็บ ถ้าคิดว่า ท้วง4กรม เป็นเรื่องฮา เราก็อย่าถือสาคนบ้าแล้วกัน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊กเรื่องการท้วงติงการรวบ 4 กรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมองว่าเป็นเรื่องตลกคั่นเวลา ดูเอาฮากันไปนั้นว่า ปัจจุบันไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่ให้ราคานายณัฐวุฒิแล้ว เพราะเห็นว่าความพยายามทำตัวออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องเพ้อเจ้อ อยู่เป็นประจำ 

“ประวิตร” เรียกประชุมคณะกรรมการไซเบอร์แห่งชาติ ย้ำต้องเร่งเตรียมพร้อมรับมือภัยไซเบอร์ให้เร็วที่สุด 

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี  ได้เรียกประชุมคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ( กมช.) ครั้งที่ 2/64 ณ ห้องประชุม 301 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนความพร้อมของการบังคับใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2562

โดยที่ประชุมรับทราบ การปฏิบัติภารกิจป้องกันรับมือและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ปฎิบัติการตอบสนองและรับมือกับภัยคุกคาม. ปฎิบัติการตรวจสอบและให้คำแนะนำเพื่อแก้ปัญหา ปฎิบัติการตรวจสอบช่องโหว่ และการแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์  

ต่อจากนั้นได้ให้ความเห็นชอบ แต่งตั้ง รองเลขาธิการและผู้ช่วยเลขาธิการ รวม 3 ตำแหน่ง และได้ร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กมช. เรื่อง ลักษณะภัยคุกคาม มาตรการป้องกัน รับมือ ประเมิน ปราบปรามและระงับภัยคุกคามทางไซเบอร์แต่ละระดับ พ.ศ…  และ (ร่าง) ระเบียบต่างๆประกอบ พ.ร.บ. เพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามกฎหมาย

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความสำคัญยิ่ง ที่ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญตื่นตัวและสร้างความตระหนักรู้ร่วมกันเป็นพิเศษ ทั่วโลกมีการโจมตีทางไซเบอร์กันอย่างต่อเนื่องทุกวัน สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะประเทศไทย ได้ปรากฎการโจมตีขึ้นแล้วทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  จึงไม่สามารถรอช้าได้ ต้องเตรียมพร้อม ประเมินความเสี่ยงและนำสู่การปฏิบัติร่วมกันอย่างเป็นระบบให้เร็วกว่าที่เป็นอยู่  

ปชป. เตือนความจำ “ณัฐวุฒิ” ตอนเป็น รมช.พาณิชย์ ถือว่าฮาสุดแล้ว เพราะตอบคำถามสื่อมวลชนไม่ได้ ไปไม่เป็น

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวตอบโต้นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ กรณีออกมากล่าวพาดพิงพรรคที่ได้ให้ความเห็นประเด็นที่นายกรัฐมนตรีมอบให้รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ เข้ามาดูแล 4 กรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งการดูแลงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามหลักบริหารราชการแผ่นดินชัดเจนตามสายงาน 

โดยนายณัฐวุฒิ ได้กล่าวถึงพรรคว่าออกมาโวยวายถือเป็นเรื่องตลกคั่นเวลา ดูเอาฮากันไปนั้น ในส่วนของพรรคไม่ถือเป็นเรื่องตลกอย่างที่นายณัฐวุฒิพูดถึง เพราะการทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ทุกฝ่ายควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีปัญหาอะไรก็ต้องพูดคุยกัน การที่พรรคออกมาทวงถามถือเป็นเรื่องปกติ ในกรณีที่มีความสงสัย หรือมีความเห็นที่ไม่เห็นสอดคล้องกันถือเป็นมารยาททางการเมือง

นางดรุณวรรณ กล่าวต่อว่าครั้งหนึ่งนายณัฐวุฒิเคยมีโอกาสเป็นเสนาบดี จากการเป็นแกนนำม็อบที่เชิญชวนคนออกมาทำร้ายบ้านเมืองก็ถือเป็นเรื่องตลกร้ายอยู่แล้ว แต่พอได้ดีเป็นเสนาบดีก็ยังแอบลุ้นว่าจะทำงานได้หรือไม่ ในที่สุดก็พบว่าฮากว่า และเชื่อว่านายณัฐวุฒิคงยังจำได้ดี เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ไม่สามารถตอบคำถามสื่อมวลชนได้กรณีที่ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว จนท้ายที่สุดต้องยิ้มหน้าเจื่อนเพราะขำไม่ออกที่ไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้ 

โฆษกรัฐยัน ”บิ๊กตู่” ยังอยู่ พปชร.ตามที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกฯ ย้ำ ”บิ๊กป้อม”พูดชัด นายกฯ ยังไม่คิดยุบสภาฯ - ปรับครม. ขอเอาเวลาไปคิดแก้ปัญหาโควิด-19และน้ำท่วมก่อน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)  ตามที่พรรคได้เสนอชื่อจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายกฯ ยังไม่มีแนวคิดเรื่องการจะไปสังกัดพรรคการเมืองไหนทั้งสิ้น เพราะตอนนี้นายกฯ ยังไม่อยากคิดเรื่องการเมืองใดๆ นอกจากการคิดที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะปัญหาโควิด-19 รวมถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย การเยียวยาฟื้นฟูเร่งฟื้นเศรษฐกิจและการพลิกโฉมประเทศเท่านั้น ดังนั้น ไม่อยากให้มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาขยายผล วิพากษ์วิจารณ์ หรือสร้างความสับสนให้กับประชาชน 

'เพลงดุจดั่งสายฟ้า' ยอด Like พุ่ง!! แซง Unlike หลังสามนิ้วแห่แบน 'ตูน-เพลง'

เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น พี่ตูน เฮลั่น “เพลงดุจดั่งสายฟ้า” ยอดไลก์พุ่งกระฉูดในคืนเดียว หลังสามนิ้วแห่แบน!! 

โดยระบุว่า หลังเจอทัวร์ม็อบสามนิ้วลงชุดใหญ่ แล้วฮีโร่กู้ภัย อย่าง “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ออกมาเคลื่อนไหวผ่าน เฟซบุ๊ก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และได้โพสต์ข้อความว่า

“ตอนนี้ มีคนไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กำลังปั่นรุมถล่มกด unlike เพลง “ดุจดั่งสายฟ้า” จนยอด unlike เยอะกว่ายอด like เยอะมาก จึงขออนุญาต ขอพลัง “คนรักในแผ่นดินไทย ในสถาบัน อันเป็นที่รักของเรา” เข้าไปกดเพิ่มยอดไลก์ (กดนิ้วโป้ง) สู้หน่อยครับ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อผืนแผ่นดินไทยที่บรรพบุรุษได้รักษามา เพื่อลูกหลานคนไทยครับ"

“อลงกรณ์” ชี้ ปชป.เสนอ "จุรินทร์” เป็นแคนดิเดทนายกฯ ไม่มีนัยยะทางการเมือง ไม่ใช่การปลั๊ฟบิ๊กตู่ พร้อมแนะนายกฯ 3ข้อ คลี่คลายปัญหา 4 กรม เปิดใจไม่ถือสา "สิระ”แต่ขอให้สุภาพและรู้จักสัมมาคารวะ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์วันนี้ว่า กรณีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้นไม่มีนัยยะใดๆทางการเมืองที่เกี่ยวโยงกับปัญหาการกำกับดูแล4กรมของกระทรวงเกษตรแต่อย่างใด

เป็นเพียงการพูดถึงแนวทางหลักการของพรรคประชาธิปัตย์ยุคปัจจุบันและคุณสมบัติของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่ามีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะเป็นนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ทันสมัยก้าวหน้าทำงานไวมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนโดยเฉพาะความสามารถในการสร้างรายได้ให้กับประเทศจากการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่องแม้ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์โควิด19 ไม่ใช่การบลั๊ฟนายกรัฐมนตรี

ต่อคำถามที่ว่าปัญหาเรื่อง4กรมของกระทรวงเกษตรฯ จะสร้างรอยร้าวถึงขั้นถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้นนายอลงกรณ์ตอบว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น กรณีดังกล่าวไม่ใช่ความขัดแย้งในเชิงนโยบายแต่เป็นปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินในการมอบหมายงานของนายกรัฐมนตรี
ซึ่งเดิมรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ.แต่มาแก้ไขคำสั่งให้รองนายกรัฐมนตรีอีกท่านมากำกับดูแล 4 กรมแยกออกไปทำให้เกิดความสับสนและทับซ้อนการบริหารของรัฐมนตรีว่าการกับรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวง ซึ่งไม่เคยมีการมอบหมายงานแบบแยกส่วนเช่นนี้มาก่อน และขอย้ำว่าไม่ใช่เรื่องประชาธิปัตย์ทวงคืน4กรมแต่เป็นประเด็นการบริหารกระทรวงและปัญหาการไม่ปรึกษาหารือกันก่อนมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง

“บิ๊กตู่” สั่งจับตาสถานการณ์น้ำมันอย่างใกล้ชิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแนวโน้มสถานการณ์การใช้และราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สาเหตุมาจากความต้องการใช้พลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่กลุ่มโอเปกควบคุมปริมาณการผลิต กระทรวงพลังงานจึงได้เตรียมพร้อมมาตรการรับมือ โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันรักษาเสถียรภาพหากกรณีราคาน้ำมันดีเซลพื้นฐาน (บี10) สูงเกิน 30 บาท/ลิตร เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้บริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ 

ทั้งนี้ได้มีแนวทางในการใช้มาตรการช่วยเหลือจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพของระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศไม่ให้มีความผันผวนมากจนเกินไป ซึ่งหากเกิดกรณีที่ราคาน้ำมันดีเซลบี10 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่า 30 บาทต่อลิตร ก็จะเข้าไปดูแลราคา ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซล บี10 อยู่ที่ 28.29 บาทต่อลิตร ซึ่งมีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลบี7 ถึง 3 บาทต่อลิตร จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนผู้ใช้น้ำมันดีเซล บี7 หันมาเติมน้ำมันดีเซลบี 10 ด้วย

“ศรีสุวรรณ” เตรียมร้องป.ป.ช.4 ต.ค.นี้ สอบ “สมคิด” นั่งเป็นปธ.บริษัทเอกชน ภายใน 2 ปี ขัดกฎหมายหรือไม่

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ขอลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2563 ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายสมคิด สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2563 ตามความในม.170(2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 แต่เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ออกประกาศ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2563 เรื่อง กำหนดตำแหน่งซึ่งต้องห้ามมิให้ดำเนินการตาม ม.127 พ.ศ. 2563 โดยกำหนดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองห้ามมิให้ดำเนินการตาม ม.126 (4) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ภายใน2ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ในมาตรา126(4) ประกอบ ม.127 กำหนดว่า ห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมิให้ดำเนินการเข้าไปมีส่วนได้เสียในฐานะเป็นกรรมการที่ปรึกษาตัวแทนพนักงาน หรือลูกจ้างในธุรกิจของเอกชน ซึ่งอยู่ภายใต้การกํากับดูแลควบคุมหรือตรวจสอบของหน่วยงานของรัฐที่เจ้าพนักงานของรัฐผู้นั้นสังกัดอยู่หรือปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชน์ของธุรกิจของเอกชนนั้น อาจขัดหรือแย้งต่อประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์ทางราชการหรือกระทบต่อความมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานของรัฐผู้นั้น ภายใน2ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง 

“องอาจ” ฝากผู้ว่าฯ กทม. เร่งลอกท่อระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมขัง กำชับเจ้าหน้าที่ป้องกันน้ำท่วมเต็มที่ แอบแซะอย่าปล่อยให้ลืมกุญแจเปิดปิดประตูระบายน้ำ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานครว่า จากการเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคกลาง ทำให้ชาวบ้านใน กทม. เริ่มวิตกกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมใน กทม. หรือไม่ แต่ทางผู้ว่าฯ กทม. ได้ยืนยันว่า กทม. จะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 จึงทำให้คลายความวิตกกังวลลงไปได้บ้าง

แต่ขณะนี้ได้มีชาวบ้านจากหลายพื้นที่ได้ร้องเรียนผ่านตัวแทนของพรรค ทั้งอดีต ส.ส. กทม. และอดีต ส.ก. ผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่เขตต่างๆ ว่า เมื่อมีฝนตกติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะเกิดปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ทั้งถนนสายหลัก และตรอกซอกซอยต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้สัญจรไปมาและผู้พักอาศัยตามบ้านเรือนต่างๆ เป็นอย่างมาก 

ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำท่วมขังเป็นเวลานานเมื่อฝนตก นอกจากบางพื้นที่จะมีสภาพเป็นแอ่งกระทะที่น้ำท่วมขังง่ายเป็นกรณีพิเศษแล้ว ยังพบว่าหลายปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลอกท่อระบายน้ำเท่าที่ควร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เพราะน้ำไหลไม่สะดวก จึงขอฝากผู้ว่าฯ กทม. ช่วยเร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำเป็นการเร่งด่วน ทำให้การระบายน้ำรวดเร็วขึ้น เพื่อทำให้ความเดือดร้อนของชาวบ้านลดน้อยลง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top