Monday, 12 May 2025
POLITICS NEWS

“ราเมศ”เผยขณะนี้ปชป.ยังไม่มีมติส่งใครลงสมัครส.ส. ยันพรรคมีขั้นตอนส่งผู้สมัครชัดเจน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าพรรคมีมติที่จะส่งหรือไม่ส่งใครลงสมัคร ส.ส. ของพรรคไปแล้ว ว่า ขณะนี้ทุกเขตเลือกตั้ง พรรคยังไม่ได้มีมติใดๆทั้งสิ้น โดยหลักการคัดเลือกตัวผู้สมัครของพรรคเป็นไปตามข้อบังคับ เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งก็จะมีกระบวนการในการรับสมัคร และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ที่มีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธาน หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติก็จะส่งรายชื่อผู้สมัครไปสอบถามความเห็นในพื้นที่ ซึ่งก็คือตัวแทนพรรคหรือสาขาพรรคแล้วแต่กรณี จากนั้นเมื่อในพื้นที่ได้ส่งความเห็นกลับมายังคณะกรรมการสรรหาแล้ว คณะกรรมการสรรหาจะส่งต่อให้คณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)พิจารณาต่อไปตามขั้นตอน ซึ่งพรรคในฐานะสถาบันทางการเมืองมีขั้นตอนที่กำหนดเคร่งครัด

“ขณะนี้หลายเขตในทางยุทธศาสตร์ การประกาศตัวผู้สมัครก็เพื่อให้ทราบว่าใครทำงานในพื้นที่ในนามพรรคและอาสามาทำงานโดยมีเป้าหมายเพื่อลง สมัคร ส.ส. ในเขตเลือกตั้งนั้นๆ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการในการคัดเลือกตัวผู้สมัครตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป”นายราเมศ กล่าว
 

 “บิ๊กตู่”ห่วงประชาชน ถูกหลอกลวงจาก  SMS ไลน์ เฟซบุ๊ก แอปเงินกู้ โทรศัพท์ “แนะ”ตรวจสอบให้ดีก่อน กำชับ สตช.ดีอีฯ  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงประชาชนตกเป็นเหยื่อ SMS ไลน์ เฟสบุ๊ก แอปเงินกู้ และโทรศัพท์ หลอกลวง ปัจจุบันมิจฉาชีพใช้เทคนิคการชวนเชื่อผ่าน ข้อความ “ได้รับเงินฟรี หรือ กู้ง่าย”  แอบแฝงหลอกลวง หลอกดูดเงิน-ข้อมูล ประชาชน โดยอ้างเป็นผู้ให้บริการแหล่งเงินกู้ของรัฐ และแอบแฝงตัวมากับการจ่ายเงินเงินเยียวยาประกันสังคมให้กับผู้ประกันตน เพื่อหลอกรับเงินเยียวยา ม.33 ทำให้ประชาชนที่ไม่ทันตรวจสอบข้อเท็จจริงหลงเชื่อ ทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก

ซึ่งลักษณะกลโกงที่มิจฉาชีพใช้มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ กลโกลทางโทรศัพท์ กลโกงบัตรต่างๆ เช่น ATM บัตรเครดิต กลโกงธนาคารออนไลน์ กลโกงออนไลน์ ซึ่งปัจจุบัน สามารถทำได้อย่างง่ายขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีการสื่อสารที่เปลี่ยนไป ฝากประชาชนขอให้ตรวจสอบที่มาของ SMS/APP/Web ผู้ให้บริการเหล่านั้นต้องได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย โดยตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์หน่วยงาน กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น หรือ โทร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213  และหากพบเบาะแสการกระทำความผิด ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“สงคราม”ชี้ “บิ๊กตู่”ก่อหนี้แบบนี้ไม่พ้นกู้ไอเอ็มเอฟมาล้างหนี้ อัดรัฐดันกฎหมายขายชาติเปิดทางต่างชาติสร้างเขตอิทธิพลบนแผ่นดินไทย 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเปิดโอกาสให้ ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้อย่างอิสระ  เป็นจุดเริ่มต้นหายนะประเทศไทย หากกฏหมายนี้ผ่านประเทศไทยจะกลายเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติในที่สุด 

ทั้งนี้การที่ภาครัฐปล่อยให้คนต่างชาติ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโดได้อย่างอิสระ สุดท้ายไทยจะโดนทุนต่างชาติฮุบ  แล้วคนไทยจากที่เคยเป็นเจ้าของประเทศเป็นผู้เช่า แทน ถ้ากฎหมายนี้ลุล่วงได้สำเร็จ คือการขายชาติให้นักลงทุนชาวต่างชาติรายใหญ่ มาซื้อหมู่บ้านเปิดใหม่แห่งหนึ่งไว้ทั้งหมดทุกหลัง จากนั้นก็ขายต่อบ้านแต่ละหลังให้คนชาติตัวเอง ก็อาจส่งผลให้หมู่บ้านนั้นใช้ภาษาอื่น มีวัฒนธรรมอื่น ทั้งๆที่อยู่บนแผ่นดินไทย 

นางสงคราม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  บริหารประเทศด้วยการก่อหนี้มหาศาล จนถึงวันนี้พลเอกประยุทธ์สร้างหนี้ให้กับประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 12 ล้านล้าน เป็นหนี้สูงสุดตั้งแต่มีประเทศไทย นอกจากนี้รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการให้เศรษฐกิจเดินหน้า อ้างกลัวโควิด แต่ไม่กลัวประเทศเป็นหนี้ ล่าสุด รัฐบาล มีแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 1.2 ล้านล้านบาท สะท้อนว่าพลเอกประยุทธ์ไร้วิสัยทัศน์อย่างแท้จริง

'นายกตู่' โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม พร้อมแนะนำ 4 แอปพลิเคชัน สำหรับการติดตามสถานการณ์ ให้คำแนะนำ และแจ้งเหตุ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha หลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ว่า 

เมื่อผมได้รับรายงานว่า จังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ผมจึงไม่รอช้าที่จะเดินทางลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิ รวมถึงมอบนโยบายให้ทางจังหวัดเร่งรัดแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ แม้ว่าผมจะใช้เวลาไม่นานนัก แต่ส่วนตัวก็มีความรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับมาที่ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแม่ของผม ผมจึงเดินทางมาด้วยความห่วงใย และได้มาเห็นปัญหาที่ยังมีอีกมากที่ต้องจะต้องเร่งแก้ไขให้สำเร็จ ทั้งเรื่องปัญหาน้ำท่วม รวมไปถึงการพัฒนาจังหวัดหลังจากน้ำท่วมคลี่คลายลงแล้วด้วย

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้จากทุกๆ ครั้งที่ลงพื้นที่ นั่นคือการได้เห็นพี่น้องคนไทยจำนวนมากที่ประสบภัย แต่สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ได้ ทุกคนยังมีรอยยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มของนักสู้ ที่สร้างกำลังใจให้แก่กัน ทั้งๆ ที่เจตนาแรกเริ่มของผมคือการเดินทางไปปลอบขวัญผู้ประสบภัยถึงพื้นที่ แต่ผมเองกลับได้รับกำลังใจกลับคืนมาทุกครั้ง ผมจึงขอส่งต่อกำลังใจและสิ่งดีๆ เหล่านั้น ไปสู่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และอาสาสมัครทุกคนในพื้นที่ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ถือว่าต้องแบกรับภาระเพิ่มเป็นสองเท่า ทั้งโควิด ทั้งน้ำท่วม

ใจจริงแล้ว ผมอยากจะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะผมทราบดีว่าทุกวินาทีคือความทุกข์ยากของพี่น้องร่วมชาติ แม้ว่าในบางพื้นที่ผมอาจจะยังไม่ได้ลงไป แต่ก็มีความห่วงใยอยู่เสมอ และได้ติดตามวิกฤตน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ผมได้สั่งการให้รายงานสถานการณ์มายังผมอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้สั่งการผ่านกลไกในระดับรัฐบาล ลงไปยังระดับท้องถิ่น สนับสนุนการแก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่ ให้ดูแลพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง จนกว่าน้ำจะลด แล้วเข้าสู่การเยียวยา และฟื้นฟูต่อไป

สำนักนายกฯ ทุ่ม 2 ล้าน จ้างที่ปรึกษาฯ ทำโพล ‘คนไทยรับรู้-เชื่อมั่น’ ต่อผลงาน/นโยบายรัฐบาล ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’? กำหนดระยะเวลา 3 เดือน ต.ค.- ธ.ค. 2564 

มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เผยแพร่ประกาศโครงการว่าจ้างที่ปรึกษาสำรวจการรับรู้ของประชาชนที่มีต่อนโยบายและผลงานรัฐบาลและความเชื่อมั่นที่มีต่อการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี

โครงการนี้ ดำเนินการโดย ‘สำนักโฆษก’ ตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและตามราคากลาง สำหรับว่าจ้างที่ปรึกษา วงเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคามาตรฐานตามที่สำนักงบประมาณ หรือหน่วยงานกลางจากสถาบันการศึกษาอื่นกำหนด

โครงการดังกล่าว กำหนดวงเงินเพื่อเป็น ‘ค่าตอบแทนบุคลากร’ จำนวน 1,203,880 บาท

‘ไพศาล’ เตือนรัฐบาลอย่าเก่งแต่กู้เงินมาแจก หวั่นซ้ำรอยปี 2474 ต้องตัดเงินข้าราชการ พยุงเศรษฐกิจ

29 ก.ย.2564 - นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อรายได้แผ่นดินไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทุกส่วนราชการก็ต้องถูกตัดวงเงินค่าใช้จ่ายลง ทุกส่วนคงทราบกันแล้วใช่ไหมว่าเหลือเงินใช้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ 

รองนายกฯ บุก ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ ติดตามสถานการณ์น้ำ ผลจากพายุ"เตี้ยนหมู่" สั่ง เร่งระบายน้ำ ลดกระทบ ปชช.โดยเร็ว-ให้เตรียมแผนเผชิญเหตุ รับพายุ ระลอกใหม่ 

ที่กรมชลประทาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ไปยัง"ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ" กรมชลประทาน(สามเสน) เพื่อตรวจ ติดตาม สถานการณ์น้ำ และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั่วทุกภาค ผ่านระบบ vdo conference ในการแก้ปัญหาน้ำ อันเนื่องมาจาก อิทธิพล พายุดีเปรสชั่น "เตี้ยนหมู่" ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ในหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในพื้นที่หลายจังหวัด

โดยพล.อ.ประวิตร ได้รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับ สถานการณ์ด้านอุตุนิยมวิทยา และติดตามพายุ "เตี้ยนหมู่" ที่มีผลกระทบในปัจจุบัน และแนวโน้มที่อาจเกิดพายุระลอกใหม่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และรับทราบสถานการณ์น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำในสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แบบเวลาจริง (Real Time) ในพื้นที่ จ.สุโขทัย และ จ.นครราชสีมา รวมถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้มีความห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งได้กำชับ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนโดยเร็ว นอกจากนั้น กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ ยังได้รายงานสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา และอาจเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ รวมทั้งได้รับทราบการเตรียมความพร้อมของ กทม.ในการรับมือ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กทม. และปริมณฑล กรณี มีน้ำทะเลหนุนสูงด้วย

‘ทิพานัน’ ยก รธน.แจง ‘ประยุทธ์’เป็นนายกฯ ตามรธน.60 สวน ฝ่ายค้านอย่าทำสังคมสับสน เหน็บ กลัวปชช.เลือกพรรค ชง ‘บิ๊กตู่’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในเลือกตั้งสมัยหน้า 

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่พรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้านอ้างมาตรา 158 วรรค 4 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ ห้ามนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี มาปลุกปั่นกระแสสังคมเพื่อลดทอนความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ฝ่ายค้านถนัดและดิ้นรนจะทำ เพราะไม่สามารถหาจุดบกพร่องในการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ได้ จึงต้องไปเอากฎหมายมาตีความกระท่อนกระแท่น เอามาบางส่วนในแต่ละมาตรามาโจมตีนายกฯ เพราะถ้าอ่านมาตรา 158 และมาตรา 264 ทั้งมาตราจะเข้าใจได้ว่า การนับอายุดำรงตำแหน่งนายกฯ เริ่มขึ้นเมื่อรัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้ เมื่อพล.อ. ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามมาตรา 158 วรรค 2 ที่บุคคลที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า บทบัญญัติของมาตรา 158 ทั้งมาตรา มี 4 วรรค คือ วรรคหนึ่ง พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกินสามสิบห้าคนประกอบกันเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน

วรรคสอง นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159 วรรคสาม ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และวรรคสี่ นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สิ่งที่ต้องพิจารณาคือมาตรา 158 วรรค 2 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159 และเมื่อประกอบมาตรา 272 แล้วต้องให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 และเป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ดังนั้นความมุ่งหมายของมาตรา 158 ทั้งมาตราเป็นการบัญญัติพระราชอำนาจในการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ซึ่งในการนับเวลา 8 ปีตามรัฐธรรมนูญนี้ ไม่ใช่ว่าจะนับตั้งแต่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญแต่ต้องเป็นตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้และเป็นนายกฯ ที่มาตามมาตรา 158 วรรค 2 ที่ต้องผ่านขั้นตอนการเสนอชื่อโดยกระบวนการตั้งแต่ประชาชนตามมาตรา 159 ซึ่งรัฐธรรมนูญปีไหนก็ยังไม่มี เมื่อจะใช้กฎหมายมาตรานี้ก็ต้องอ่านทั้งมาตรา จะเอาวรรค 4 วรรคเดียวมาอ้างแบบกระท่อนกระแท่นบางส่วนไม่ได้ การนับเวลา 8 ปีตามมาตรา 158 วรรค 4 ต้องนับจากนายกรัฐมนตรีที่มาตามมาตรา 158 วรรค 2 ด้วย

รัฐบาล เปิดยอดจ่ายเงินเยียวยานักเรียนใกล้ครบตามเป้า 11 ล้านคน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานความคืบหน้า การเยียวยานักเรียนทุกคน ทุกสังกัด คนละ 2,000 บาท โดยให้ผู้ปกครองรับเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ล่าสุดได้จ่ายเงินเยียวยาครอบคลุมเด็กนักเรียนทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วทั้งสิ้น 10,952,000 ล้านคน จากเป้าหมาย 11 ล้านคน คิดเป็น 87.80% โดยโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการได้รับทั้งหมด 97.75% ที่เหลือได้ทยอยดำเนินการส่งมอบต่อเนื่อง 

ส่วนของการฉีดวัคซีนก็คืบหน้าไปอย่างมากเช่นกัน โดย ศธ.ได้วางแผนการดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียน นักศึกษาในสังกัดทั้งของรัฐและเอกชน ที่มีอายุ 12-18 ปี โดยล่าสุด (27 ก.ย.) พบว่ามีผู้สมัครใจฉีดวัคซีนจำนวน 3.61 ล้านคน จากทั้งสิ้น 5,048,081 คนคิดเป็น 71.67% ทั้งนี้ ยังจะได้รวบรวมจำนวนเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองให้ความยินยอมแล้วเพิ่มเติม และจะจัดส่งให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรับการจัดสรรวัคซีน เพิ่มเติมต่อไป 

บิ๊กป้อม นั่งหัวโต๊ะ ถก กกท. ไฟเขียว 9 แผนงาน ปี65 เน้น สมาคมกีฬา ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนาศักยภาพ นักกีฬาไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยที่ประชุมเห็นชอบ แผนงานของผู้ว่ากกท. 9 แผนงานประจำปี65 สอดคล้องยุทธ์ศาสตร์ชาติ 20ปีได้แก่ 1.แผนยกระดับการให้บริการ 2.แผนยกระดับการบริหารจัดการองค์กรทั้งระบบ ตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ 3.แผนการพัฒนาข้อมูลดิจิทัลด้านการกีฬา 4.แผนยกระดับกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 5.แผนการจัดตั้งเมืองกีฬา (Sport City)  6.แผนการพัฒนานักกีฬาคนพิการ อย่างครบวงจร  7.จัดทำแผนธุรกิจ (Business plan) ของศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ แต่ละพื้นที่ 8.แผนงานศูนย์ความเป็นเลิศด้านเวชศาสตร์การกีฬา และ9.แผนส่งเสริมกิจกรรมกีฬา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่ประชุมรับทราบรายงานแผนปฏิบัติงานโครงการยกระดับการให้บริการของ กกท. Smart National Sports Park  ตามแผนงานนโยบายผู้ว่ากกท.ประจําปี64 และรายงานผลการแข่งขันกีฬา พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่16 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทัพนักกีฬาไทย ทำผลงานได้ 5 เหรียญทอง 5เหรียญเงิน และ 8 เหรียญทองแดง เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และให้ใช้เงินสะสมของ กกท. "กองทุนสงเคราะห์ฯเพื่อสวัสดิการพนักงาน ลูกจ้าง และครอบครัว" เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ 

นอกจากนี้พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยได้รับทราบรายงานผลการสนับสนุนเงินรางวัล มหกรรมกีฬา ให้กับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล ตามหลักเกณฑ์ทั้งจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 และพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 16 รวมทั้ง ได้เห็นชอบ หลักเกณฑ์ทุนการศึกษาของนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ประจำปี64 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาการศึกษา และแบ่งเบาภาระของครอบครัว 

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top