Wednesday, 14 May 2025
POLITICS NEWS

“รองโฆษกปชป.” หวังสภาฯวางหลักให้ ส.ส. อภิปรายตรงตามประเด็น เพื่อเพิ่มเวลาคุณภาพในการพิจารณากม.-ญัตติที่ค้างอยู่ ยันประชาธิปัตย์ มีปชช.เป็น “นาย”กำหนดทิศทางการทำงาน

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 3-5 พ.ย.นี้ว่า ในวันที่ 1 ตค.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญตัวแทนของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และวิปฝ่ายค้าน เพื่อหารือถึงแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะการใช้เวลาของสภาฯให้คุ้มค่าและพิจารณาร่างกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว เพราะต้องยอมรับว่า ขณะนี้ยังมีร่างกฎหมายที่จะต้องพิจารณาเป็นจำนวนมาก อาทิร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่มีสาระสำคัญในการคุ้มครองงานที่มีลิขสิทธิ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีอย่างรวดเร็ว และสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ตและเจ้าของลิขสิทธิ์ในการแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ร่างพ.ร.บ. คุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นการแก้ไขเพื่อเพิ่มมาตรการพิเศษและขยายระยะเวลาในการคุ้มครองพยานและบุคคลผู้ใกล้ชิดในคดีสำคัญๆ

เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย ร่าง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่มีเนื้อหาในการเพิ่มการคุ้มครองเยียวยาผู้เสียหายในความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงาน ในด้านร่างกาย ชีวิต เสรีภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมากยิ่งขึ้น เป็นต้น

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า รวมทั้งยังมีญัตติที่ขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาเป็นการเฉพาะกว่า 200 ญัตติ ดังนั้นตนจึงหวังว่า การประชุมร่วมกันในระหว่างผู้เกี่ยวข้อง น่าจะได้มีการวางหลักการและกติกาเพื่อควบคุมให้บรรดา ส.ส. ได้อภิปรายตรงตามประเด็น เพื่อเป็นการเพิ่มเวลาคุณภาพในการพิจารณากฎหมายและญัตติต่างๆ ที่คั่งค้างอยู่อย่างรอบคอบและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด 

'บิ๊กตู่' มอบหมาย 'อนุทิน-ศักดิ์สยาม-ตรีนุช' ลงพื้นที่ดูความพร้อมสนามบิน สถานประกอบการและโรงเรียนเปิดเรียนในวันที่  1 พ.ย. นี้  พร้อมกำชับผู้ว่าราชการ  17  จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว คุมเข้ม ร้านค้า ผู้ประกอบการ ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า ในวันที่ 1 พฤศจิกายน  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ดูความเรียบร้อยของสถานที่ และเส้นทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภาพรวม    

มอบหมายให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบความพร้อมมาตรการรองรับและติดตามการเข้า-ออก ของผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนสนามบินอื่นๆที่เปิดให้มีการบินเข้าจากต่างประเทศเข้ามา นอกจากนี้ยัง สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สอดส่องดูแลทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม ของศบค. เท่านั้น  ซึ่งขณะนี้ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดยังคงไม่อนุญาตให้มีการดี่ม/จำหน่ายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไป ในส่วนกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของ ททท. และไม่เกินเวลา 21.00 น. เท่านั้น

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว  จัดทีมงานช่วยตรวจตราสถานประกอบการ ร้านค้า  ตลาด ชุมชน  ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting   เพราะแม้จะมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำแบบไม่กักตัวหรือจำกัดพี้นที่เพิ่มเติม 63ประเทศและพื้นที่ แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญสูงสุดในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ เช่นเดียวกับประชาชนยังยึดหลักอนามัยส่วนบุคคลและดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล Universal Prevention

‘บิ๊กตู่’ ขาอ่อน เดินสะดุดโพเดียมหน้าคะมำ โหมงานจนอ่อนแรง ประชุมอาเซียน 3 วันติด

'บิ๊กตู่' เดินสะดุดโพเดียมหน้าคะมำ ก่อนแถลง ศบค. บอกไม่ค่อยมีแรง หลังประชุมอาเซียน 3 วันติด วอนผู้ชุมนุมหยุดป่วน หวั่นเปิดประเทศแล้วต่างชาติไม่มา

29 ต.ค. 64 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 17/2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือเป็นการส่วนตัวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ประมาณ 10 นาที

ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กรรมการบริหารพรรค นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ได้ยืนพูดคุยกันที่บริเวณห้องโถง ตึกสันติไมตรี ประมาณ 5 นาที ก่อนที่นายพีระพันธุ์ จะเดินเข้าไป ที่ห้องสีเหลือง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.อนุพงษ์ พูดคุยกันอยู่

จากนั้นเวลา 13.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินไปที่โพเดียมเพื่อแถลงข่าว แต่ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ได้สะดุดพื้นเวทีที่ยกระดับขึ้น และเซถึงสองครั้ง ก่อนยืนตั้งหลักได้และมีสีหน้าเสียเล็กน้อย ก่อนกล่าวกับสื่อมวลชนแก้เขินว่า “เห็นไหมว่าเวลาอยู่ต่อหน้าสื่อรู้สึกจะกดดันมากไปหน่อย พอดีว่าไม่ค่อยมีแรง ประชุมมา 3 วันติด ๆ เดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้ใครเอารูปฉันหกล้มไปเมื่อกี้ล่ะก็ มีเรื่องนะ เอาเรื่องที่เป็นสาระ”

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้แถลงผลการประชุมศบค. โดยระบุว่า ตามที่ประกาศให้วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันเปิดประเทศ ต้อนรับชาวต่างชาติ 46 ประเทศ เข้ามาทางอากาศโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งความร่วมมือที่อยากจะได้จากประชาชนทุกคน ประกอบด้วย 

1.) ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันระมัดระวังใช้มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเต็มที่ ข้อสำคัญต้องมีวินัยในตัวเอง ไม่เป็นผู้แพร่เชื้อ 

2.) มาตรการเดินทางเข้าประเทศเส้นทางอื่น ทางบก ทางน้ำต้องกักตัวเหมือนเดิม

“ส่วนการค้าขายชายแดน ผมให้นโยบายไปยังกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดให้ทยอยเปิดจุดผ่านแดนซื้อขายสินค้า แต่ต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย มีมาตรการส่งสินค้าระหว่างกัน เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ 

3.) บุคลากรทางการแพทย์ เราต้องมีแผนเผชิญเหตุ เตรียมโรงพยาบาลสนามและพื้นที่กักตัว ต้องมีความพร้อมเช่นเดิม เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจรุนแรง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนยา ได้สั่งจองยาโมลนูพิราเวียร์ไปแล้ว รวมทั้งเร่งรัดสกัดยาจากสมุนไพรไทยชนิดอื่น ๆ นอกจากยาฟ้าทะลายโจร 

4.) เมื่อประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยว คงไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทันที เพราะแต่ละประเทศต้องประเมินวางแผนให้คนของเขาออกมานอกประเทศเหมือนกัน แต่การประกาศล่วงหน้าของเรามีประโยชน์ จะทำให้นักท่องเที่ยวและประเทศต่าง ๆ ได้วางแผน เตรียมการ จึงทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่เขาจะพิจารณาเดินทางในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของเรา

‘รุ้ง ปนัสยา’ นำทีมยื่นฟ้องนากยฯ - ผบ.ทสส. พร้อมขอเลิกพรก.ฉุกเฉิน - ให้คุ้มครองม็อบ 31 ต.ค.

วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นางสาว ปนัสยา สิทธิจิราวัฒนกุล หรือ ‘รุ้ง’ และ นายเสกสิทธิ์ แย้มสงวน พร้อมทนาย ได้เข้ายื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กรณีออกข้อกำหนดและประกาศจำกัดสิทธิเสรีภาพการชุมนุม พร้อมทั้งยื่นขอไต่สวนฉุกเฉิน ขอคุ้มครองชั่วคราว ‘ม็อบ 31 ตุลาคม’ 

โดย นางสาว ปนัสยา กล่าวว่า วันนี้มาขอให้ศาลรับคำร้องและขออนุญาตให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อออกคำสั่งคุ้มครอง ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่จะมีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ วันนี้มาฟ้องพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา และพลเอกเฉลิมพงษ์ เพราะเราต้องการจะรับฟังเหตุผลของเราในฐานะประชาชนที่จะออกมาใช้สิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออกทางการเมือง แต่ว่าตลอดมานั้น เราประกาศจะชุมนุม อย่างสงบสันติ ในทุก ๆ ครั้งจะมีการขัดขวางอยู่เสมอ 

โดยการขัดขวางไม่ได้ถูกรับรองโดยทางกฎหมาย เช่น การใช้ลวดหนาม การใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ไม่มีการบัญญัติไว้ในสิ่งของที่ใช้ได้ในพรก.ฉุกเฉิน ในเมื่ออีก 3 วันจะมีการเปิดประเทศแล้วทำไมถึงยังมีการห้ามการชุมนุม เพราะการเปิดประเทศแล้วจะมีการรวมตัวกันทั้งประเทศ โดยที่คนทั่วไปออกมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติ เราจึงคิดว่าพรก.ฉุกเฉินไม่มีเหตุจำเป็นอีกต่อไป วันนี้เราคาดหวังจริง ๆ ว่ากระบวนการยุติธรรม จะเป็นการยุติธรรมกับประชาชนจริง ๆ

'พรรคกล้า' เดินหน้าตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด  “อรรถวิชช์” ยัน จ.ขอนแก่น ไม่ได้เป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง ประกาศหาผู้สมัครส่งครบ 11 เขต เดินหน้าปักหมุดภาคอีสาน ตั้งธงส่งผู้สมัครครบ 400 เขตทั่วประเทศ 

ที่จ.ขอนแก่น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงการลงพื้นที่ จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดอีก 2 เขต คือเขต 1 อ.เมือง และเขต 2 อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ว่า ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น และจังหวัดขอนแก่นไม่ได้เป็นพื้นที่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แม้พรรคกล้าเป็นพรรคน้องใหม่ แต่ตัดสินใจเดินทางมาขอนแก่นครั้งนี้ ได้จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดได้หลายเขตแล้ว ยืนยันว่าพรรคกล้าจะส่งผู้สมัครให้ครบทั้ง 11 เขตในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งขณะนี้ได้ผู้สมัครหลายเขตแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน หากท่านใดมีความสนใจก็อยากเชิญชวนให้สมัครสมาชิก โดยพรรคกำลังคัดสรรคนที่มีความชำนาญเฉพาะด้านในพื้นที่ อย่างภาคการเกษตร การปลูกข้าว การจัดการน้ำ ส่วนพื้นที่ อ.เมืองเขต 1 ก็มีผู้เสนอตัวมา แต่จะมีการเลือกอีกครั้ง โดยจะมีการทำไพรมารี่ขึ้นมาแข่งขันกัน เพราะเป็นพื้นที่สำคัญที่มีมหาวิทยาลัย เป็นเมืองศูนย์กลางอินโดจีน ซึ่งอีก 3 สัปดาห์ พรรคก็จะกลับมาทำกิจกรรมในพื้นที่อีกครั้ง

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวต่อว่า ส่วนภาพรวมความพร้อมในพื้นที่ภาคอีสานนั้น  พรรคกล้ามีเป้าหมายส่งผู้สมัครให้ครบในภาคอีสาน และครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ไม่ว่าระบบเลือกตั้งจะเป็นแบบไหนพรรคกล้าพร้อมสู้เสมอ และเชื่อว่าหลักความเป็นพรรคเศรษฐกิจ การทำประเทศให้ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เข้าใจประสบการณ์ รวบรวมคนที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านมาอยู่ด้วยกัน ไม่ผูกขาดไปที่นักการเมือง แต่ใช้บุคคลจากประสบการณ์สาขาอีกชีพ มีความหมายกับพรรคมากในการทำประเทศให้ทันสมัยขึ้น

'ไชยันต์' ย้อนปมปริศนาเอนทรานซ์ปี 47 เปิดคะแนน 'อุ๊งอิ๊ง' พุ่งสูงมหัศจรรย์

'ไชยันต์' ย้อนปมปริศนาข้อสอบเอนทรานซ์ปี 47 รั่ว เปิดคะแนนสูงมหัศจรรย์ลูกสาวอดีตนายกฯ สร้างรอยด่างวงการศึกษาไทยครั้งใหญ่

ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า…

ปมปริศนาความไม่เสมอภาคและความอยุติธรรมทางการศึกษาในปี พ.ศ. 2547 กรณีข้อสอบ Entrance ปี 47 รั่ว

แพทองธาร คะแนนสูงมหัศจรรย์ เมื่อคะแนน Ent ครั้งนั้นออก ผลการสอบของลูกสาวนายกฯ เทียบกับครั้งแรกตะลึง ภาษาไทย จาก 52 เพิ่มเป็น 72, สังคม จาก 41.25 เพิ่มเป็น 67.5, ภาษาอังกฤษจาก 64 เพิ่มเป็น 84, คณิตศาสตร์ 2 จาก 27 เพิ่มเป็น 63

ศ.ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เปิดซองต้นฉบับการ์ดข้อสอบ วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษา ก่อนส่งให้คณะอนุกรรมการพิมพ์ข้อสอบ

ผลสรุปเอ็นทรานซ์รั่ว “ทักษิณ-อดิศัย” ต้องรับผิดชอบ (14 มิ.ย. 47) กรณีข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยเอ็นทรานซ์รั่วที่ปรากฏขึ้นในรัฐบาลชุดนั้นถือเป็นรอยด่างให้กับวงการศึกษาไทยครั้งใหญ่ ทำให้ความเชื่อมั่นศรัทธาต่อระบบการสอบเอ็นทรานซ์ที่เคยได้รับความเชื่อถือศรัทธามานานนับสิบปีต้องสั่นคลอนอย่างหนัก ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่างยืนยันว่า “ข้อสอบไม่รั่ว” รวมทั้งแสดงพฤติกรรมปกป้องคนผิดมาตลอด

เมื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุด นายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประธาน มีข้อสรุปว่า “ข้อสอบรั่ว” ศูนย์วิจัยฯ พรรคประชาธิปัตย์ ขณะนั้น เห็นว่าเมื่อผลสรุปออกมาแบบนี้ ทั้งนายกฯ ทักษิณ และ รมต.อดิศัย ต้องแสดงรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลสรุปคณะกรรมการสอบสวนฯ ตบหน้า “ทักษิณ-อดิศัย”

ก่อนหน้านี้เมื่อเกิดเหตุการณ์อื้อฉาว สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว เพราะมีการเปิดเผยพฤติกรรมของข้าราชการระดับสูงบางคน โดยเฉพาะ ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (ก.อ.) ว่าไม่โปร่งใส มีการเปิดดูข้อสอบหรือนำข้อสอบไปเก็บไว้ในห้องทำงาน ในครั้งนั้นบรรดานักเรียน ผู้ปกครองรวมทั้งประชาชนทั่วไปเกิดความสงสัยและเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาโดยเร็ว

แต่ปรากฏว่า ได้รับการขัดขวางทุกวิถีทางทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะนายกฯ ทักษิณ และรมต.อดิศัยต่างออกมาปฏิเสธ และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด อีกทั้งในบางครั้งยังออกมาพูดในทำนองว่าเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองหรือมีบางกลุ่มต้องการสร้างกระแสเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อกระแสสังคมเริ่มกดดันขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รัฐบาลทนฝืนกระแสต่อไปไม่ไหว ก็มีการย้าย ร.ต.อ.วรเดช ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา แทนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้คลายความสงสัยกับสังคม หรือยังมีการตกรางวัลความดีความชอบตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพิ่มให้อีก 2 ขั้น

ที่สุดแล้วเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงต้องยอมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีข้อสรุปในเวลาต่อมาว่า “ข้อสอบรั่ว” รวมทั้งยังระบุว่า การกระทำของ ร.ต.อ.วรเดช เป็นการไม่ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 ข้อ 30 เพราะในรายงานการสอบสวนยังชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนอีกว่า ร.ต.อ.วรเดช เป็นผู้เปิดดูซองข้อสอบและเปลี่ยนแปลงสถานที่เก็บข้อสอบถึงสองครั้ง

พฤติกรรมดังกล่าวของ ร.ต.อ.วรเดช ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงยังระบุว่า มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย ฐานปฏิบัติราชการไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการและมติคณะรัฐมนตรี ไม่ปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมของทางราชการตามมาตรา 85 และมาตรา 91 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ดังนั้น เมื่อรายงานผลการสอบสวนออกมาตรงกันข้ามกับท่าทีและคำยืนยันของผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล สังคมจึงต้องการรู้ว่า ทั้งสองคนดังกล่าวจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง

“อดิศัยท้าทายสังคม ‘ตัดตอน’ ผลสอบเอ็นทรานซ์รั่ว” หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อะไรคือสาเหตุจูงใจให้ ร.ต.อ.วรเดช และ รมต.อดิศัย ถึงกล้าแสดงพฤติกรรมที่ท้าทายสังคมมาตลอด อย่างไรก็ดี ถ้าหากมองย้อนไปในอดีตแล้วก็สามารถเชื่อมโยงได้ทันทีจากคำพูดของนายกฯ ทักษิณ ที่เคยกล่าวว่า จะให้นายอดิศัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไปจนครบ 4 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการประกันเก้าอี้กันไว้ล่วงหน้า ทำให้หลายฝ่ายเข้าใจนี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ รมต.อดิศัย ไม่สนใจต่อสังคมมากนัก

ประกอบกับเวลานี้สิ่งที่สังคมยังตั้งข้อสงสัยและไม่พอใจคือ ความพยายามในการบิดเบือนข้อสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจาก นายอดิศัย โพธารามิก ที่เคยออกมาแถลงรายงานผลการสอบสวนเพียงบางส่วนโดยสรุปเหลือเพียง 2 หน้า จากจำนวนทั้งหมด 15 หน้า

‘พิพัฒน์’ รับผิด ปมชวดดึง ‘ลิซ่า’ มาเคาท์ดาวน์ ยอมรับสื่อสารผิดพลาด รีบพูดก่อนดีลจบ

"พิพัฒน์" ยืดอกรับผิดปมชวดดึง "ลิซ่า" มาเคาท์ดาวน์ในไทย ยอมรับสื่อสารผิดพลาด รีบพูดก่อน พร้อมนำมาเป็นบทเรียน เดินหน้าชวนคนดังระดับโลกมาร่วมงาน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกรณีที่ "ลิซ่า แบล็คพิงก์" หรือ ลลิษา มโนบาล ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ประเทศไทยได้ มีสาเหตุเป็นเพราะฝ่ายไทยต้องการจ้างเพียงคนเดียว แต่ทางต้นสังกัดต้องการให้มาทั้งวง ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และไม่ใช่ข้อเท็จจริง รวมถึงกระแสข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงทุกเรื่อง อย่างกรณี เชอรี่ โคลว์ และลิซ่า เรื่องแยกแพ็กเกจหรือไม่แยกนั้นไม่มีความจริง ถ้าแยกแล้วไม่มา แต่ถ้าไม่แยกแล้วไม่มา สิ่งเหล่านี้เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มีการสื่อสารออกไปในเบื้องต้น ขณะที่เรายังไม่เห็นรายละเอียดในสัญญาทั้งหมด อย่างที่ตนเคยพูดไปแล้วว่าในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เราจะได้เห็นสัญญา และสุดท้ายก็เกิดความสับสน

"ผมคิดว่าบริษัทเขาคำนึงถึงชื่อเสียง และประกอบกับสำคัญที่ว่าเขาติดคิว ไม่สามารถยกเลิกคิวเพื่อเอามาให้ประเทศไทยได้ สิ่งเหล่านี้ผมขอเรียนอย่างตรงไปตรงมา ส่วนอีกคนนึง คือแอนเดรีย โบเชลลี นักร้องชาวอิตาเลียน ผมก็ยังไม่ขอพูดว่าความชัดเจนคืออะไรในช่วงนี้ เพราะจากความผิดพลาดที่ผ่านมา เราได้รับบทเรียนว่าสิ่งไหนที่ยังไม่จบ อย่าเพิ่งพูดก่อน ซึ่งตัวผมยอมรับว่าได้ให้สัมภาษณ์ในเบื้องต้นไป หลังจากนี้เราคงต้องทำอะไรให้รอบคอบมากกว่าเดิม แต่ก็คงยังมีศิลปินชื่อดังระดับโลกเข้ามาแน่ ๆ แต่จะเป็นใคร อย่างไรนั้น ต้องขอให้มีการลงตัวเรียบร้อยเสียก่อน จึงจะนำเสนอต่อไป" นายพิพัฒน์ กล่าว

‘อนุทิน’ ยินดี ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่งที่ปรึกษา ‘เพื่อไทย’ ชี้ ไม่ใช่คู่แข่ง ‘ภูมิใจไทย’ ในพื้นที่อีสาน

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 เวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว อุ๊งอิ๊ง หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย (พท.) คิดว่าจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดมิติใหม่ขึ้นหรือไม่ ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกอย่างต้องมีพลวัต ต้องมีคลื่นลูกใหม่มาทดแทนคลื่นลูกเก่า ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะที่พรรคพท.ปรับเปลี่ยนมาแต่ละคนนั้น ต่างก็มีคุณสมบัติที่ดี มีการศึกษาที่ดีจะได้มาทำงานช่วยกันเพื่อบ้านเมือง ตนไม่มีปัญหาเพราะมองเป็นบวก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าเป็นคู่แข่งของพรรคภูมิใจไทยในการเจาะพื้นที่ต่าง ๆ หรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า ของภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีถึง 6 คนอยู่แล้ว ไม่แข่งกับใครเราก็อยู่ของเราอย่างนี้

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย จะต้องปรับยุทธศาสตร์ในภาคอีสานอย่างไรเมื่อพรรคเพื่อไทยปรับโครงสร้างเช่นนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดคือ พรรคจะต้องมีนโยบายที่จะทำให้ประชาชนเชื่อว่าเราเข้าไปดูแลปากท้องเขาได้ ดูแล สารทุกข์สุกดิบของเขาได้และผู้สมัครเองก็ต้องขยัน เข้าถึงใจประชาชนให้ได้ การเมืองก็อยู่ตรงนี้ คือต้องทำงานให้กับประชาชน ให้ประชาชนมั่นใจ และไม่ว่าอะไรก็ตามก็จบตรงนี้ เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนหรือเปล่า เพราะนั่นคือคำตอบ

“บิ๊กตู่” นำถก ศบค. จ่อผ่อนคลายพื้นที่แดงเข้มเหลือ 7 จังหวัด พร้อมเตรียมแผนรองรับเปิดประเทศ1พ.ย.นี้

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ชุดใหญ่) โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยระหว่างทางเดินเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี นายกฯ ได้ทักทายสื่อมวลชนที่มารอต้อนรับและกล่าวสั้นๆเพียงว่า "สวัสดีจ้ะ"

'อนุทิน' สั่งเร่ง คุมระบาดเชียงใหม่ จ่อลงตรวจพื้นที่เอง เชื่อ จว.มีความพร้อมรับมือ ยังไม่ถึงขั้นตั้งศบค.ส่วนหน้า 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (สสจ.) ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่อย่างไรบ้าง หลังเพื่อติดเชื้อจำนวนมาก และจำนวนเตียงรองรับคนไข้ไม่พอ ว่า ในจังหวัดเชียงใหม่ ยังมีความพร้อมทางด้านการแพทย์อยู่ มากกว่าหลายๆ จังหวัด และได้เร่งให้เข้าไปแก้ปัญหาให้มากที่สุด เรื่องของวัคซีนก็รีบนำเข้าไปแก้ปัญหาการระบาดให้มากที่สุด เหมือนที่เราได้จัดการในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศ

เมื่อถามว่า จำเป็นที่จะต้องตั้งศบค.ส่วนหน้าในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มเติมเพื่อคุมการระบาดใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้รอดูสถานการณ์สักพักหนึ่ง อย่างน้อยเรื่องการเตรียมพร้อม เรื่องการดูแลผู้ป่วยก็มีความพร้อมอยู่ ในสัปดาห์หน้าตนคงจะไปดูสถานการณ์ แต่ทราบว่าส่วนใหญ่ติดมาจากคนที่เข้ามาค้าขายในเมือง และกลับออกไปในพื้นที่ก็นำเชื้อไปติด ซึ่งต้องเร่งแก้ไข แต่ในจังหวัดเชียงใหม่มีสถานพยาบาลค่อนข้างที่จะครบถ้วนสมบูรณ์ และโรงบาลสนามก็มีความพร้อมอยู่เรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขรับทราบแล้ว กำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top