Sunday, 6 July 2025
POLITICS NEWS

'บิ๊กตู่'ฮึ่มกลุ่มเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย ถามคนไทยรับได้หรือไม่ ขอใช้มาตรการสังคมตักเตือน ลั่นคำว่าสถาบันฯต้องอยู่คู่กับไทยตลอดไป เผย จัดซื้อวัคซีนปีหน้า 60 ล.โดสแล้ว พร้อมขอให้รอดูสถานการณ์หลังมีการวิจัยพัฒนาวัคซีนใหม่ออกมาอีก

ที่โรงแรมโซฟิเทลกระบี่ โภคีธรา แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีมีการเดินหน้าเปิดประเทศและเป็นไปด้วยดี ห่วงหรือไม่ว่าการเคลื่อนไหวชุมนุมจะทำให้เสียบรรยากาศ ว่า ให้สังคมช่วยกันพิจารณา เพราะนายกฯ มีอย่างเดียวคือการบังคับใช้กฎหมายอย่างระมัดระวัง เป็นไปตามขั้นตอนและเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ ดังนั้นต้องไปดูวัตถุประสงค์การสร้างความวุ่นวายนั้นเพื่ออะไร แล้วคนไทยยอมรับได้หรือไม่ ถ้ายอมรับไม่ได้มาตรการสังคมต้องตักเตือนกัน อย่าให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว

"ผมเน้นย้ำคำว่าสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต้องคงอยู่คู่กับไทยตลอดไป"นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีการโหนเรื่อยๆ กังวลว่าจะบานปลายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่กังวล แต่เป็นความห่วงใยมากกว่า อย่าเรียกว่ากังวล เพราะถ้ากังวลคงกังวลหลายเรื่องที่ทุกอย่างประดังประเดถมเถเข้ามาในสถานการณ์วันนี้ ทั้งราคาน้ำมัน หนี้ครัวเรือน เกษตรกรให้มีรายได้ที่ดีขึ้น รวมถึงปัญหาอะไรต่างๆ

 

‘กรณ์’ ตอกชาวเน็ตกล่าวหา ‘ไม่กล้าเรื่องความจริง’ ย้ำชัด ปัญหาปากท้อง คือ ‘ความจริง’ ที่ต้องแก้

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Premtip Panthong ซึ่งได้เข้ามาคอมเมนต์ในเพจ กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij ว่า “พรรคนี้พรรคกล้า กล้าทุกเรื่องยกเว้นเรื่องความจริง”

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้เข้าไปตอบคอมเมนต์ดังกล่าว ว่า พวกผมที่พรรคกล้าเชื่อว่าปัญหาเรื่องปากท้อง หนี้สิน การศึกษา การเกษตร สิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้คือ ‘ความจริง’ ครับ และล้วนเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ เราเชื่อว่าการอยู่ดีกินดีคือพื้นฐานของสังคมที่เป็นสุข และการมีโอกาสคือปัจจัยสำคัญของสังคมที่มีความก้าวหน้า

'ราเมศ' เผย 'ชินวรณ์-สาทิตย์' นำทีมอภิปราย แก้ รธน. ฉบับ ปชช 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรที่ภาคประชาชนเสนอต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า

ที่ประชุม ส.ส.ของพรรค ได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง รายละเอียดของหลักการและเหตุผล รวมถึงสาระสำคัญของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หลักสำคัญคือสนับสนุนหลักการขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ให้ประชาชนสามารถเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ ถือได้ว่าเป็นสิทธิที่สำคัญของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

การประชุมเพื่อพิจารณาในวาระที่หนึ่งนั้น พรรคจะรับฟังเหตุและผลของผู้เสนอที่จะได้มีการชี้แจงต่อรัฐสภา พร้อมทั้งจะมีการอภิปรายของ ส.ส.ในส่วนของพรรคด้วยเหตุและผลเช่นกัน อาจจะมีการตั้งคำถามเพื่อสอบถามในหลายประเด็นเพื่อให้ผู้เสนอได้ชี้แจง 

'ดร.นิว' ซัด 'ปิยบุตร' บิดเบือนให้ร้ายสถาบันฯ ปั้นวาทกรรม 'สมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลง' 

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ประเทศประชาธิปไตยอันดับ 1 ของโลกอย่างประเทศนอร์เวย์ นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีจะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานการทำงาน และรับฟังคำปรึกษาแนะนำจากองค์พระมหากษัตริย์ โดยมีองค์รัชทายาทเป็นผู้สังเกตการณ์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำในทุกวันศุกร์ เวลา 11.00 น. ณ พระบรมมหาราชวัง 

'วิษณุ' ร่าย ที่มา ครม.สวมเสื้อผ้าปาเต๊ะลายพิเศษ รวมสัญลักษณ์ขึ้นชื่อ เมืองกระบี่ - แนะ ชาวคลองท่อม ฟื้นปลูกต้นกระท่อม หลังถูกกฎหมายแล้ว โปรโมตอีกหนึ่งของดี“น้ำพุร้อนน้ำเค็ม” แห่งที่ 2 ของโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่  บรรดาคณะรัฐมนตรีสวมเสื้อที่ตัดเย็บด้วยผ้าปาเต๊ะพื้นสีเหลือง ลายสีแดง ขณะที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่ต้องเข้าร่วมประชุมดังกล่าวสวมเสื้อที่ตัดเย็บด้วยผ้าปาเต๊ะพื้นสีฟ้า ลายสีเขียว ซึ่งทั้งหมดเป็นผ้าที่ทางจังหวัดกระบี่มอบให้

ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้อธิบายถึงลายผ้าที่สวมใส่ครั้งนี้ ว่า ผ้าบาติกนี้มีลวดลายผ้าพิเศษเรียกว่าลมหายใจแห่งกระบี่ ซึ่งประกอบด้วยสัญลักษณ์ของหอยชักตีนที่เป็นสัตว์ทะเลขึ้นชื่อของ จ.กระบี่ หรือสุสานหอย 75 ล้านปี และยังมีสัญลักษณ์เรือหัวโทงซึ่งมีข้อมูลว่าเรือหัวโทงนี้สร้างครั้งแรกที่จ.กระบี่ อีกทั้งมีสัญลักษณ์ของทางปาล์มรวมอยู่ด้วย 

นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ที่ชุมชนบ้านมั่นคง ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยเล่าถึงที่มาของชื่อคลองท่อม ว่า  ในอดีตมีต้นกระท่อมจำนวนมาก แต่วันนี้ไม่มีแล้ว กระจายไปที่อื่นหมดแล้ว ตนจึงบอกกับผู้ใหญ่ในพื้นที่นี้ว่าวันนี้กระท่อมเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายแล้ว สามารถฟื้นกลับมาปลูกในพื้นที่คลองท่อมได้แล้ว อาจจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ก็ได้ ซึ่งพื้นที่คลองท่อมยังมีอีกจุดที่น่าสนใจคือน้ำพุร้อน ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนแห่งที่ 2 ของโลก โดยเป็นน้ำพุจากน้ำเค็ม จากปกติที่เป็นน้ำพุน้ำจืด

 

“สงคราม” ชี้! หากประชาชนลุกฮือรัฐบาลพร้อมส่งกองทัพปราบปราม เชื่อ “บิ๊กตู่” สั่งส.ว.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนหวั่นสูญเสียอำนาจ 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  กรณีที่ภาคประชาชนเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งเสนอโดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1.35 แสนรายชื่อ ก่อนที่รัฐสภาจะพิจารณา ว่าจะรับหลักการหรือไม่  อยากให้ทุกฝ่ายควรศึกษาและรับฟังการอภิปรายก่อนไม่ควรรีบปฏิเสธความต้องการของประชาชน

กรณีที่ประชาชนเสนอร่างรัฐธรรมนูนญฉบับแก้ไข เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าไม่ติดกับดักรัฐธรรมนูญฉบับคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช.ที่วางกับดักการเดินหน้าของประเทศและผูกกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถเดินหน้าไปแก้ปัญหาประเทศได้

นายสงคราม  กล่าวด้วยว่า กรณีที่สมาชิกวุฒิสภาทั้ง นายวันชัย สอนศิริ  นายเสรี สุวรรณ ภานนท์ และอีกหลายคนที่ออกมาประกาศคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน อยากบอกส.ว.ว่าไม่ควรยึดติดอำนาจ และควรที่จะฟังเสียงประชาชนบ้าง แม้ส.ว.ชุดนี้ไม่ได้มาจากประชาชนแต่ควรที่จะรับฟังเสียงประชาชนบ้าง

‘สุวินัย’ มั่นใจ ไร้เงื่อนไขจุดไฟสงครามปชช. จับตาปฏิบัติการเช็กบิล ‘ขบวนการล้มล้างฯ’

ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อมีสถานภาพเป็น "ขบวนการล้มล้างการปกครองฯ" ไปแล้ว ต่อไปผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะถูกดำเนินคดีในข้อหากบฏทั้งสิ้น

นี่คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอันเนื่องมาจากข้อวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

อีกฝ่ายพยายามสร้างวาทกรรมสงครามประชาชนขึ้นมาต่อสู้ ต่อต้านศาลรัฐธรรมนูญ

"ปิยบุตร" โพสต์จับตา ส.ส. โหวตร่าง รธน.ฉบับปชช. เหน็บ ส.ว. ขอให้จิตสำนึกอยู่เหนือฝักฝ่าย พร้อมถามหาโอกาสใช้อำนาจที่แท้จริงของประชาชน

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 

ความหวังถึงรัฐสภา : ขอให้จิตสำนึกอยู่เหนือฝักฝ่าย ทำเพื่อชาติและประชาชนจริง ๆ สักครั้ง

ส.ว. มักทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองตลอด เวลาจะมีการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นสำคัญ ๆ ที่ลดทอนอำนาจของตนเอง แต่กลับไปสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่เกี่ยวกับวุฒิสภา เช่น ระบบเลือกตั้ง ส่วนอะไรก็ตามที่นำไปสู่การทำให้ตนเองเสียประโยชน์ หรือกระทั่งนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ส.ว. ก็ไม่เคยเอาด้วย

คำถามก็คือตกลงแล้วรัฐธรรมนูญ 2560 จะอยู่ชั่วฟ้าดินสลายไปอย่างนั้นหรือ โดยที่เราเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรไม่ได้เลย? หรือเราจะได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขเฉพาะเรื่องประเด็นเล็กน้อยเท่านั้น? นี่คืออุปสรรคใหญ่ จนนำมาซึ่งวิกฤติการเมืองที่เป็นอยู่ตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งเสียงเรียกร้องของเยาวชนคนรุ่นใหม่ เสียงเรียกร้องจากพี่น้องประชาชน

อุปสรรคการแก้รัฐธรรมนูญมีเยอะพอสมควร ขั้นแรกต้องมี ส.ว. เห็นด้วยจำนวน 1 ใน 3 แล้วต่อให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เราผ่านด่านนี้ไปได้ เมื่อไปถึงการลงมติวาระที่สาม ก็ยังต้องมี ส.ว. และเสียงของฝ่ายค้านด้วย สุดท้ายด้วยความที่เราแก้ไขหลายประเด็น ก็จะต้องประชามติอีก ยังไม่นับรวมว่าจะมีมือดีร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญแน่ ๆ

การแก้รัฐธรรมนูญของประเทศนี้ต้องผ่านผู้ออกใบอนุญาตไม่รู้กี่ด่าน ปัญหาก็คือแล้วประชาชนอยู่ตรงไหนของสมการแบบนี้? ประชาชนซึ่งถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่เป็นเจ้าของอำนาจ แต่ถึงเวลาพอประชาชนจะใช้อำนาจจริงกลับถูกสกัดขัดขวางตลอดเวลา

ครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่า “ระบบผู้แทน” จะสนองต่อความต้องการของประชาชนมากน้อยแค่ไหน? เปิดให้ประชาชนมีสิทธิในการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย เข้าชื่อเสนอแก้รัฐธรรมนูญได้ ประชาชนก็ทำตามกระบวนการทั้งหมด แต่แล้วแต่ถึงเวลา ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมีอำนาจที่จะขัดขวางได้ตลอด

‘อัษฎางค์’ เบิกเนตร! กลุ่มป่วนบ้านเมือง ลืมวิชาพื้นฐาน จนถูกแหกตา ทำหมดอนาคต

15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” มีเนื้อหาดังนี้...

ปฏิรูป ไม่เท่ากับ ล้มล้าง

กบฏ คือ ผู้ที่พยายามล้มล้างการปกครอง

แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะถูกจับได้เสียก่อน

นักเรียนนิสิตนักศึกษาของไทยที่ผ่านการศึกษา แต่ทำตัวเหมือนคนไร้การศึกษา เพราะฉะนั้นกลับมาศึกษาเรื่องที่ศึกษากันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาอีกครั้ง

ปฏิวัติ (Revolution)

หมายถึงการยึดอำนาจโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้ความรุนแรงทางการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมีวัตถุประสงค์อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครอง อุดมการณ์ทางการเมือง วัฒนธรรม วิถีชีวิต ระบบเศรษฐกิจ ความเชื่อทางศาสนา และระบบสังคมโดยรวม

รัฐประหาร (coup d’état)

หมายถึง การยึดอำนาจโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันด่วน

โดยมีวัตถุประสงค์อยู่ที่ “การเปลี่ยนตัวหัวหน้ารัฐบาล หรือผู้ปกครองประเทศ” แล้วจัดตั้งคณะรัฐบาล ชุดใหม่ที่อยู่ภายใต้ผู้ก่อการรัฐประหารขึ้นมา “โดยที่รูปแบบการปกครองไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด” มีแต่ตัวผู้นำและคณะผู้นำเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป

คณะรัฐประหารไม่ใช่เข้ามาเป็นผู้ปกครอง หรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพียงแต่เข้ามาทำงานในหน้าที่ผู้บริหารไม่ใช่เข้ามาเป็นผู้ปกครอง เป็นผู้บริหารบ้านเมืองในช่วงหนึ่งเพียงชั่วคราว ถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นรัฐบาลชั่วคราว หรือรัฐบาลเฉพาะกาล ในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

กบฏหรือขบถ (Rebellion)

หมายถึง การที่กลุ่มคนพยายามทำการปฏิวัติ หรือ รัฐประหาร หรือกลุ่มบุคคลที่พยายามล้มล้างการปกครอง แต่กระทำไปไม่สำเร็จ จึงได้ชื่อว่าเป็นกบฏ

ความผิดฐานเป็นกบฏ ได้แก่

• 1.) ความผิดทางอาญาฐานกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร

• 2.) โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย

• 3.) เพื่อล้มล้าง หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หรือล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติอำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ

• 4.) หรือแบ่งแยกราชอาณาจักร

• 5.) หรือยึดอำนาจปกครองในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร

“รัฏฐาธิปัตย์”

หมายถึงผู้มีอำนาจสูงสุดในการปกครองแผ่นดิน จากฐานะที่เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน อำนาจของรัฏฐาธิปัตย์นั้นต้องมีลักษณะสมบูรณ์ (absolute) มีอำนาจนั้นอยู่ในตนเอง เพราะรัฏฐาธิปัตย์คือผู้ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว

รัฏฐาธิปัตย์จะทำการสิ่งใดไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมหรืออาศัยอ้างอิงว่าได้รับมอบอำนาจมาจากผู้ใดอีก ความสัมบูรณ์ของอำนาจนี้ส่งผลให้รัฏฐาธิปัตย์ออกคำสั่งใด ๆ เพื่อบังคับใช้แก่ไพร่ฟ้าในอาณาจักรของตนในโอกาสใดและเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ย่อมได้

คณะยึดอำนาจ ไม่ว่าคณะปฏิวัติหรือคณะรัฐประหาร จะสถาปนาตัวเองเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" เพื่อแต่งตั้งผู้บริหารราชการแผ่นดิน

นอกจากนี้ รัฏฐาธิปัตย์ ยังหมายถึง อำนาจอธิปไตย ที่เป็นอำนาจปกครองสูงสุดของรัฐ
.
และ รัฏฐาธิปัตย์ ยังหมายถึง รัฐธรรมนูญ หรือ กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ซึ่งผู้ใดไม่อาจจะละเมิดได้ และกฎหมายอื่นไม่อาจจะขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้

ส่งผลให้คำสั่งของรัฏฐาธิปัตย์ไม่ว่าจะใช้ชื่อใดย่อมมีผลเป็น “กฎหมาย” แต่ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ”

ซึ่งมีผู้เข้าใจผิดว่า องค์รัฏฐาธิปัตย์คือพระมหากษัตริย์

โดยยกตัวอย่างว่าทุกครั้งที่มีการทำรัฐประหาร จะมีการขอเข้าเฝ้าเพื่อถวายรายงานพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเท่ากับการยอมรับในความเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ของพระมหากษัตริย์ยังคงมีอยู่ไม่ขาดตอน องค์รัฏฐาธิปัตย์ไม่ใช่คณะรัฐประหาร ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

พระมหากษัตริย์คือผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน ผ่านทางรัฐสภา รัฐบาล และศาล

แต่ผู้มีอำนาจอธิปไตยตัวจริงคือประชาชน มิใช่พระมหากษัตริย์

ในขณะที่คณะรัฐประหารหรือคณะปฏิวัติคือ ผู้ที่ทำการสิ่งใดไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมหรืออาศัยอ้างอิงว่าได้รับมอบอำนาจมาจากผู้ใดอีกต่อไป เป็นความสัมบูรณ์ของอำนาจ ซึ่งหมายความว่า คณะรัฐประหารหรือคณะปฏิวัติ คือ รัฏฐาธิปัตย์ เป็นผู้ทรงสิทธิ์ในการประกาศใช้กฎหมาย ในการบังคับใช้ในรัฐนั้น ๆ อย่างสมบูรณ์แต่เพียงผู้เดียว

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะมีรัฐสภาหรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยหรือในการปฏิวัติและการรัฐประหาร พระมหากษัตริย์ไม่ใช่ผู้มีอำนาจที่แท้จริง

'ณัฐชา' ห่วง!! เหตุรุนแรง - ยิงกระสุนใส่ผู้ชุมนุม ส่ง กมธ.พัฒนาการเมือง หาความจริง

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การชุมนุมของประชาชนเมื่อวานนี้ (14 พ.ย. 64) ว่า…

การชุมนุม เป็นทั้งสิทธิเสรีภาพและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญไทยวินิจฉัยว่า การปราศรัย ‘ชุมนุม 10 สิงหา’ ที่เรียกร้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ‘เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยไม่สุจริต มีมูลเหตุจูงใจเพื่อล้มล้างการปกครอง’ นั้น จะนำไปสู่ปฏิบัติการที่รุนแรงมากขึ้นของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมฝูงชน ซึ่งที่ผ่านมาแนวทางปฏิบัติก็เลวร้ายมาตามลำดับ จากการส่งสัญญาณจากรัฐบาลในแต่ละครั้ง

“น่าเสียดายที่กลุ่มชนชั้นนำไม่เลือกที่จะรับฟังเสียงของประชาชนและปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย แต่กลับเลือกที่จะฉุดรั้งพัฒนาการของสังคมและการเมืองไว้ต่อไปผ่านกลไกต่างๆ รวมถึงการใช้อำนาจตุลาการเป็นอีกเครื่องมือหนึ่ง การชุมนุมที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็คือแรงสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของประชาที่มีต่อท่าทีเหล่านี้โดยตรงและคงจะยกระดับขึ้นอีกa

“ผมในฐานะผู้แทนราษฎรและประธานกมธ. ที่มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงอยากให้ผู้ที่มีอำนาจไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมคิดให้ดี ๆ เพราะเรามีบทเรียนที่เป็นความสูญเสียเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งและเราสามารถที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ประวัติศาสตร์หน้านี้ซ้ำรอยได้ด้วยการรับฟังและเปิดพื้นที่สำหรับความคิดความเห็นที่แตกต่าง”

อย่างไรก็ตาม ณัฐชา กล่าวว่า จากการติดตามอย่างใกล้ชิด ทำให้เห็นแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้นของสถานการณ์โดยเฉพาะฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่ได้มาด้วยความอดทนอดกลั้นหรือเพื่อระงับยับยั้งเหตุตามลำดับขั้นตอนที่มีแนวปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการขณะนี้ จะมาด้วยการบ่มเพาะความโกรธและเกลียดชังเหมือนกำลังมองผู้ชุมนุมเป็นอริราชศัตรู ซึ่งการหล่อเลี้ยงอารมณ์ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอย่างไร้วุฒิภาวะเช่นนี้ถือเป็นสิ่งที่อันตราย

“ด้วยความเป็นห่วงต่อสถานการณ์และตระหนักได้ถึงความไม่ปกติที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุด ชุดแรก คือคณะทำงานติดตามสถานการณ์การชุมนุม ที่มี อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เป็นประธาน เมื่อวานก็อยู่ในพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ด้วย พบว่า มีการใช้มาตรการรุนแรงต่อผู้ชุมนุมทันทีตั้งแต่เริ่มต้น ไม่มีการรับฟังหรือทำความเข้าใจเพื่อพยายามไม่ให้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากการยิงด้วยกระสุนที่ยังไม่ทราบชนิดว่าเป็นกระสุนยางหรือกระสุนจริง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top