Saturday, 10 May 2025
POLITICS NEWS

‘ภูมิธรรม’ ชี้ตั้ง ‘ครม.’ เสร็จภายในเดือนนี้ เผย!! ส่งชื่อเกินเกือบทุกพรรค คาด!! พร้อมลุยงานเดือนหน้า ยังกั๊กตอบ ‘ปชป.’ ได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่

(25 ส.ค. 67)  ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีและในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแพทองธาร 1 ที่มีกระแสข่าวว่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ วันที่ 26 ส.ค.นี้ ว่า ยังไม่ได้ระบุถึงขั้นนั้น อยู่ที่ความพร้อมทั้งหมด แต่กำลังเร่งเพราะต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งได้ทำงานเต็มที่ ขออย่ากังวลเพราะเราทำหน้าที่ เสมือนรัฐบาลจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ จึงจะพ้นจากหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับ แต่ก็อยากให้ทุกอย่างเสร็จภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ส่วนจะมีการโปรดเกล้าฯเมื่อใดอยู่ที่กระบวนการขั้นตอนการตรวจสอบ

เมื่อถามถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภานายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้มีการเตรียมคู่ขนานไว้แล้ว ทันทีที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งก็จะสามารถเรียกประชุมได้ คาดว่าภายในต้นเดือนก.ย. หรือไม่เกินกลางเดือนก.ย. รัฐบาลชุดใหม่จะสามารถทำหน้าที่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่จำนวนคนเกินกว่าตำแหน่งรัฐมนตรี ได้มีการเคลียร์เรื่องนี้หรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เกินเกือบทุกพรรคเพราะไม่รู้ตามดุลยพินิจใหม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความ คำว่าจริยธรรมไว้กว้างมาก จึงต้องระมัดระวัง

เมื่อถามถึงพรรคพลังประชารัฐมีข้อสรุปที่ชัดแล้วหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวส่งชื่อมา 2 บัญชี นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องขออนุญาตเพราะตามมารยาทไม่ควรพูดถึงพรรคอื่น แต่เชื่อว่าแต่ละพรรครู้ดีอยู่แล้ว ต้องรีบดำเนินการให้ทันกับสถานการณ์ของประเทศ เพราะภัยพิบัติต่างๆรออยู่ ไม่อยากให้ช้าถึงขั้นกระทบต่อภัยพิบัติที่ประชาชนได้รับ ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ

เมื่อถามถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ จะนับรวมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลมันพูดชัดเจนไม่ได้ จนกว่าสุดท้ายจะตกลงและมีชื่อยื่น และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯลงมา เพราะในกระบวนการต่างๆเราไม่รู้ว่าใครจะมีปัญหาหรือไม่ หรือแต่ละพรรคจะได้ตามโควตาที่เป็นอยู่หรือไม่ หรือเกิดปัญหาภายในพรรคที่จัดการไม่ได้หรือไม่ เราไม่รู้ข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า การเชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลจะต้องมีการเทียบเชิญหรือไม่ หรือสามารถส่งชื่อเข้ามาได้เลย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้เราไม่ควรดำเนินการแบบนี้ เพราะจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจหรือไม่มั่นคงในพรรคร่วมรัฐบาล เป็นไปตามขั้นตอนหรือ step by step ถ้าเกิดปัญหาตรงไหนค่อยคลี่คลายไปตามสภาพ เพราะวันนี้เราได้ร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลและทุกคนได้เสนอตัวมาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่ารายละเอียดจะลงตัวอย่างไร

เมื่อถามอีกว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมจะต้องแจ้งให้พรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาลทราบใช่หรือไม่นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ขอคิดในขั้นตอนปัจจุบัน และขอคิดเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนก่อน

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่าส่วนตัว ยังไม่ได้ยื่นใบกรอกประวัติ และยังไม่ได้รับแจ้ง ว่าจะดำรงตำแหน่งกระทรวงใด

‘เทพไท’ อ้าง!! ถาม ‘คนสงขลา’ แล้ว ไม่เห็นด้วย ประชาธิปัตย์ ร่วมรัฐบาล ชี้!! เป็นการละทิ้ง ‘อุดมการณ์-จุดยืน’ ทำให้พรรคตกต่ำลง

(25 ส.ค. 67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘เทพไท – คุยการเมือง’ ระบุว่า ‘ถามคนสงขลาแล้ว ไม่เห็นด้วย ปชป.ร่วมรัฐบาล’

เมื่อวาน (24 ส.ค.67) ผมได้เดินทางไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพของคุณแม่ใจ สามารถ มารดาของคุณสาโรจน์ สามารถ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. พัทลุง ที่วัดหาดใหญ่ใน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้พบปะกับพี่น้องประชาชนในหลากหลายอาชีพ จากสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่สนามบินหาดใหญ่  ตลาดหาดใหญ่ จากหลายอำเภอในจังหวัดพัทลุง และบางส่วนมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช 

ผมได้ถือโอกาสสอบถามความคิดเห็น เรื่องการที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ที่มีคุณอุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่มีแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาบอกว่า ให้สอบถามความเห็นของคนสงขลาว่า เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณหรือไม่ 

ผมได้สอบถามความเห็นจากพี่น้องประชาชนหลายกลุ่ม หลายอาชีพ รวมถึงความเห็นของพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ผลปรากฏว่าจากการที่ได้สอบถามและพูดคุยกัน ทุกคนไม่เห็นด้วยและคัดค้านการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น เพราะเป็นการละทิ้งอุดมการณ์และจุดยืนของพรรค ที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณมายาวนาน ซึ่งพี่น้องประชาชนคนภาคใต้ส่วนใหญ่ ได้เข้าร่วมเดินขบวนขับไล่ระบอบทักษิณมาก่อนทั้งนั้น 

การเข้าร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติยศ และอุดมการณ์ของพรรค ในการต่อสู้กับเผด็จการทุกรูปแบบมายาวนาน มีประชาชนหลายคนตำหนิคณะกรรมการบริหารพรรค และสส. รุ่นใหม่ที่ไม่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค เห็นแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า และประโยชน์ส่วนตัว จึงพร้อมใจกันสนับสนุนการเข้าร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณ  โดยไม่ฟังเสียงของสมาชิกพรรค และประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำไปมากกว่านี้อีก

พี่น้องประชาชนหลายคนแสดงความเห็นใจ และสงสารนายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลของพรรค ที่ต้องออกมาแสดงท่าทีและจุดยืนส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ได้ฝากให้กำลังใจท่านชวนมากับผมด้วย มีประชาชนหลายคนเตรียมทำใจ และเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสถาบันทางการเมือง มีระบบพรรคที่เข้มแข็ง มีผู้อาวุโสไม่กี่คน ลงมติโหวตกันก็ไม่ชนะ เพราะมีคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.รุ่นใหม่จำนวนมากกว่า เหมือน ‘น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ’

พี่น้องประชาชนชาวสงขลาในหลากหลายพื้นที่ ได้ฝากให้นำความเห็นไปบอกกล่าวกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ว่า ได้มาสอบถามความเห็นจากชาวสงขลาแล้ว เขาไม่เห็นด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณเลย

'โด่ง-อรรถชัย' ลั่น!! เห็นข่าวนํ้าท่วมตอนนี้ คิดถึงได้แค่เรื่องเดียว ข่าว 'วิสุทธิ์ ไชยณรุณ' ร่ำไห้!! ถูกบางพรรคตัดงบฯ ฝายแกนซีเมนต์

(24 ส.ค. 67) ‘โด่ง อรรถชัย’ โพสต์คลิป โดยมีเนื้อหา ดังนี้ …

เมื่อประมาณต้นปีตอนที่เราผ่านงบประมาณ 2567 กัน มีภาพนี้เกิดขึ้นในสภาคือ ภาพของ ‘นายวิโรจน์’ ที่เต้นแร้งเต้นกา เยาะเย้ยฝ่ายรัฐบาล

เพราะว่าเค้าล้มงบประมาณโครงการหนึ่งไปได้ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลเสนอและเป็นโครงการที่พรรคเพื่อไทยยืนยันอย่างยิ่งนะครับว่า เป็นโครงการที่สําคัญนั่นก็คือเขื่อน โครงการเขื่อนซีเมนต์

เขื่อน แกนดิน ซีเมนต์ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดเล็กนะซึ่งสามารถอนุมัติงบประมาณทําให้อบจ. อบต. หน่วยงานการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถนําไปสร้างกันได้ง่ายง่ายกันได้เร็ว ใช้งบประมาณไม่เยอะ แต่มันจะเกิดฝ่ายทดน้ำ จํานวนมากเมื่อเกิดน้ำาท่วมขึ้นมาเนี่ยฝายเหล่านี้เนี่ยก็จะไปช่วยชะลอ กําลังน้ำ ที่ไหลมาตามแม่น้ำ ทําให้น้ำไม่สามารถจะไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่ต่างต่างได้อย่างรวดเร็ว

เพราะรักเวลาน้ำท่วมแบบนี้ ผมเห็นสภาพทางภาคเหนือ แล้วผมนึกถึงภาพนี้ทุกที นึกถึงบรรยากาศวันนั้นที่พวกเขาหัวเราะเยาะพรรคเพื่อไทยเขาดีใจที่ล้ม

ตัดงบประมาณเขื่อนแกนดินซีเมนต์ตัวนี้ไปได้ซึ่งรายการรู้ทันเอารายละเอียดของเรื่องนี้มาว่ากันแล้วพูดไปแล้วโครงการนี้เป็นโครงการที่ผมบอกว่าดีมากๆนะครับ

ดีมากๆ วันนั้นท่านวิสุทธิ์ไชยณรุณเนี่ยถึงกับหลั่งน้ำตาเลยนะ ครับคุณคิดว่าคุณทําลายเพื่อไทยหรอคุณคิดว่าคุณสกัดงบเพื่อไทยเสนอไปได้โดยไปบอกว่าในระดับเพื่อไทยก็จะเอาไปแล้วไปแบ่งเงินกินกับผู้รับเหมา

ระดับทั้งๆที่เรื่องเหล่านี้มันไม่มีมูลเลยแม้แต่นิดเดียวกล่าวหานะครับแล้วก็ล้มโครงการนี้ลง

วันนั้น คุณวิสุทธิ์ ร้องไห้เลยนะจําได้ไหมแล้วก็ที่เขาร้องไห้เขาเจ็บปวดแทนชาวบ้านเขารู้

แล้วเดี๋ยวหน้าฝนกําลังจะมานะครับ น้ำท่วมกําลังจะมา

ภัยพิบัติกําลังใจแล้วไม่ใช่แค่นี้นะนะครับเดี๋ยวจะมีอีกพายุจะมาอีกหลายลูกแล้วเวลาน้ำท่วมทีไร ท่านให้คิดเถอะว่าพรรคไหนนะครับเป็นพรรคที่สกัด

วันนี้ก็ผมเห็นอยู่ตามหน้าจอนะครับ มาเรียกร้องให้แก้ไข 
ให้รัฐบาลไปช่วยกันแก้ไขหาเรื่อง รัฐบาลทั้งๆที่เขาอยู่ในลักษณะรักษาการนะครับแต่ว่าอํานาจในการดูแลตรงนี้มีข้าราชการ

แต่ว่าประเด็นก็คือว่า เขาทํางานอยู่

ไม่ได้นิ่งนอนใจครับแต่เชื่อไหมครับว่าการแก้ไขเนี่ย  ยังไงก็ตามมันไม่ดีเท่าการป้องกันหรอก

วันที่เขาจะป้องกันสร้างเขื่อนแกนดินซีเมนต์เนี่ย

ของบประมาณพวกคุณขัดขวางพวกคุณตัดงบนี้ทิ้ง

ลไม่ให้มีแนวป้องกันให้กับประชาชน

วันนี้พอน้ำท่วมคุณก็หันมาด่ารัฐบาล ว่าทําไมไม่เร่งรีบแก้ไข พรรคนี้ครับ ‘ผมบอกว่า ผมจะไม่สนับสนุนตลอดกาล’

สื่อจีนตีข่าวไทยส่ง 'โทนี่ เตียว' อาชญากรโกงคริปโตฯ 4 แสนล้านกลับไปให้จีนดำเนินคดี ด้าน ปปง.จ่อยึดทรัพย์อาณาจักรหมื่นล้าน 'ด่านนอก' นักการเมืองบางคนจ้องตาเป็นมัน

กรณีที่ไทยส่งตัวนายโทนี่ เตียว หรือที่ใช้ชื่อนายจาง อาชญากรฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัลไปยังประเทศจีน

โดยสื่อจากประเทศจีนรายงานข่าวว่า ทางการไทยได้มีการส่งตัวนายจาง มูมู (Zhang Moumou) ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท MBI อันโด่งดังไปยังประเทศจีน หลังจากที่มีการตามล่าตัวนายจางในระดับระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน

สื่อจีนชื่อว่า The Paper รายงานว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดนครั้งนี้เป็นคดีแรกที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจภายใต้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนจีน-ไทย ซึ่งลงนามในปี 2542 สำหรับพฤติการณ์ของนายจางเริ่มขึ้นในปี 2555 เกี่ยวข้องกับโครงการปิรามิดออนไลน์ที่อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงผ่านสกุลเงินดิจิทัลเสมือนจริง

ตามรายงาน โครงการ MBI กําหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการต้องชําระค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 700 ถึง 245,000 หยวน (3,328 ถึง 1,165,995 บาท) เพื่อเข้าร่วม รายได้นี้เชื่อมโยงกับการสรรหาสมาชิกใหม่และระดับของเงินทุนที่ลงทุน มีรายงานว่ามีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการมากกว่า 10 ล้านคน โดยมีเงินทุนรวมเกิน 1 แสนล้านหยวน (475,916,337,000 บาท) บทบาทของนายจางในปฏิบัติการนี้ทําให้เขาเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่ต้องการตัวมากที่สุดของจีน

สํานักความมั่นคงสาธารณะเทศบาลฉงชิ่งตั้งข้อหานายจางอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2563 ต่อมาในเดือนมีนาคม 2564 สํานักงานตํารวจสากล สาขาประเทศจีน ได้ออกหมายแดงสำหรับนายจาง และตํารวจไทยได้จับกุมนายจางเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 

อย่างไรก็ตาม กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นซับซ้อน เพราะเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางกฎหมายหลายขั้นตอน ทางการจีนขอให้ส่งนายจางในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการภายใต้สนธิสัญญาทวิภาคี ซึ่งนําไปสู่คําตัดสินของศาลอุทธรณ์ไทยเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน รัฐบาลไทยยืนยันการตัดสินใจเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ2567 และนายจางถูกส่งตัวกลับไปยังจีนหลังจากนั้นไม่นาน

กรณีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน สถานทูตจีนในประเทศไทย และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทย ปฏิบัติการร่วมนี้ดําเนินการภายใต้ "ปฏิบัติการล่าสุนัขจิ้งจอก" ของจีน ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

กล่าวสำหรับอาณาจักรโทนี่เตียว หรือ"เตียว วุย ฮวด" หรือ "โทนี่ เตียว" เป็นคนมาเลเซียเชื้อสายจีน ชื่อทางการในภาษามาเลเซียจึงออกสำเนียงจีนที่เขียนด้วยอักษรไทยได้ว่า “เตียว วุย ฮวด” ชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการคือ “เสี่ยวจาง” แต่มีคนจำนวนหนึ่งพานเรียกว่า “เสี่ยจาง” ซึ่งได้ความหมายเช่นกัน ส่วนชื่อเรียกที่ออกไปทางสากลแบบถูกลิ้นฝรั่งและโดยเฉพาะคนไทยด้วยคือ “โทนี่ เตียว” แต่สำหรับคนจีนแผ่นดินใหญ่และจีนโพ้นทะเลอื่นๆ จะผิดแผกไปนิดเรียกขานเขาว่า “เทดี้ เตียว”

“เตียว วุย ฮวด” มีหมายจับเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงและฟอกเงินในมาเลเซีย รวมถึงในสาธารณรัฐประชาชนจีน “เทดี้ เตียว” มีหมายจับเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงเช่นกัน เป็นหมายแดงขององค์การตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.2563 อายุความตามหมาย 15 ปี หรือกว่าจะหมดอายุความก็ต้องปี 2578 จากคดีฉ้อโกงที่เกิดจาก MBI International Holdings ได้ออกแพลตฟอร์มชื่อ NSC แล้วชักชวนให้คนจีนร่วมลงทุนในลักษณะเดียวกับ “แชร์ลูกโซ่” แบ่งสมาชิกออกเป็น 8 ระดับ โดยใช้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรเป็นตัวล่อ แล้วจัดทัวร์พาผู้ร่วมทุนจากจีนไปท่องเที่ยวในอาณาจักรของเครือบริษัทในประเทศต่างๆ แต่ภายหลังทางการมาเลเซียสั่งอายัดทรัพย์ ทำให้ไม่มีเงินไปต่อเงิน จึงเกิดการฟ้องร้องขึ้นนำมาสู่การออกหมายจับแดงดังกล่าว

การทำธุรกิจในนาม MBI International Holdings ในมาเลเซียและจีน หรือบริษัท เอ็มบีไอ กรุ๊ป ในประเทศไทย ล้วนตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน คือ เน้นการเรียกเชิญชวนให้ผู้คนให้มาร่วมลงทุนด้วยจากการสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่แบบครบวงจร ซึ่งต้องใช้ที่ดินนับร้อยนับพันไร่ ภายในโครงการจะประกอบไปด้วยบ้านจัดสรร บ้านพักตากอากาศ โรงแรม รีสอร์ต สวนผลไม้นานาชนิด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สนามกีฬา ห้องประชุมและสันทนาการ ลานจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ แล้วยังเพิ่มเติมด้วยการสร้างสิ่งดึงดูดใจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หรือจุดเช็กอินมากมาย ตามแต่ว่าคนในประเทศที่โครงการตั้งอยู่ชื่นชอบสไตล์ไหน

สำหรับที่เมืองชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ 'ด่านนอก' อ.สะเดา จ.สงขลา บริษัท เอ็มบีไอ กรุ๊ป ได้ลงทุนไปแล้วนับหมื่นล้านบาท ตั้งแต่ทศวรรษที่ 2550 หรือเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา โดยกว้านซื้อที่ดินไว้หลายพันไร่ ภายในโครงการประกอบด้วย โรงแรม 6 แห่ง รีสอร์ต 2 แห่ง อพาร์ตเมนต์ 9 แห่ง สถานบันเทิง สวนสนุก ธุรกิจประเภทเฟอร์นิเจอร์ หมู่บ้านวัฒนธรรมอาเซียน มีการจำลองวัดร่องขุ่น พระพิฆเนศองค์ใหญ่ สวนไดโนเสาร์ เมืองคาวบอย ฟิวเจอร์ปาร์ค ฟาร์มม้า สวนแพนด้า กระทั่งศาลไคฟงก็ยังมี

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ารายงานไว้ว่า บริษัท เอ็มบีไอ กรุ๊ป สัญชาติมาเลย์เข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในไทยครั้งแรกปี 2545 แล้วในปี 2559 ขยับขยายบริษัทในเครือเพิ่มเป็น 15 บริษัท รวมทุนจดทะเบียนได้ 662.5 ล้านบาท แบ่งเป็นใน อ.สะเดา และ อ.นาทวี จ.สงขลา 14 บริษัท และที่กรุงเทพฯ 1 บริษัท เช่น บริษัท บิลเลี่ยนคอนโด จำกัด ทำธุรกิจโรงแรม จดทะเบียน 4 กันยายน 2545 ทุน 51.5 ล้าน นายเตียว วุย ฮวด ถือหุ้น 49% บริษัท เอ็มวัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด โรงแรม จดทะเบียน 18 มกราคม 2551 ทุน 100 ล้าน นายเตียว วุย ฮวด ถือหุ้น 30% บริษัท เค.เอ.ดับเบิลยู. จำกัด โรงแรม จดทะเบียน 30 กันยายน 2551 ทุน 125 ล้าน นายเตียว วุย ฮวด ถือหุ้น 60% บริษัท เอ็มบีไอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 30% และนายเตียว อี เม้ง 10% (มาเลเซีย) และบริษัท เซาท์เทิร์น เอเซีย จำกัด อสังหาริมทรัพย์ จดทะเบียน 3 ธันวาคม 2558 ทุน 300 ล้าน

ส่วนอาณาจักรของเสี่ยวจางจะเกี่ยวข้องกับใคร นักการเมืองคนไหนบ้าง ในวงการเมืองพอจะรับรู้กัน มีผู้มากบารมีในสงขลาเกี่ยวแน่นอน

ให้จับตาว่า เมื่อ ปปง.ซึ่งยึดทรัพย์เสึ่ยว จาง ไว้หมดแล้ว เมื่อเปิดประมูลขาย ใครจะเป็นคนเข้ายื่นประมูลบ้าง อาจจะมีนักการเมืองบางคนจ้องตาเป็นมันก็ได้

'เพชรมงคล' คนรุ่นใหม่ ปชป. ชี้!! พรรคเข้าร่วมรัฐบาลหวังทำงานเพื่อปชช. ยืนยัน!! ไม่ว่ามติพรรคจะออกมาอย่างไร สมาชิกพรรคควรเคารพ

(24 ส.ค. 67) นายเพชรมงคล วัสสุวรรณ เลขานุการ สส.สมบัติ ยะสินธุ์ และตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ นั้น ส่วนตัว ผมเคารพในมติพรรค สำหรับผมแล้ว การเคารพมติพรรคเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกันภายใต้พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย  

พรรคประชาธิปัตย์ เรายึดมั่นในหลักการนี้ การเคารพมติพรรค เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะเป็นหัวใจสำคัญที่แสดงถึงการทำงานร่วมกันอย่างมีระบบและความเป็นหนึ่งเดียวกันในองค์กร การที่สมาชิกพรรคทุกคนเคารพมติพรรค หมายถึงการยอมรับผลการตัดสินใจที่เกิดจากการปรึกษาหารือร่วมกัน ซึ่งเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง

เพราะประชาธิปไตยไม่ได้หมายถึงการมีอิสระที่จะทำตามใจตัวเอง แต่หมายถึงการทำงานร่วมกันภายใต้กฎเกณฑ์และมติเสียงส่วนใหญ่ การเคารพในเสียงส่วนใหญ่และการปฏิบัติตามมติพรรคเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบและความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองทำงานภายใต้อุดมการณ์ 10 ข้อที่เป็นหลักการที่สำคัญในการทำงานทางการเมืองของพรรค ดังนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ก็มิได้ขัดอุดมการณ์ของพรรคแต่อย่างไร การเข้าร่วมรัฐบาลก็คือส่วนหนึ่งในการดำเนินการเมืองโดยวิถีอันบริสุทธิ์ เพื่อทำงานให้พี่น้องประชาชน

สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจหรือไม่สามารถเคารพมติพรรคได้ ต้องลดทิฐิ และควรพิจารณาตัวเองว่ามีความเหมาะสมที่จะเรียกตนเองว่าเป็นนักประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การเคารพในกระบวนการและการตัดสินใจที่เกิดขึ้นร่วมกันในพรรค คือสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นและความสามัคคีในองค์กร ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญในการรื้อฟื้นความน่าเชื่อถือของพรรคในอนาคตได้ 

'อรรถวิชช์' เผย 'เอกนัฏ' ให้ปากคำปมคดี 112 ของ 'ทักษิณ' เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ตรงไปตรงมา ไม่เกี่ยวเรื่องตำแหน่ง

(24 ส.ค. 67 ) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ฝ่ายกฎหมายพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นผู้ให้ปากคำในคดี 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร และประเด็นคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีนั้น 

ประเด็นการให้ปากคำนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหมายเรียกนายเอกนัฏ ไปให้ปากคำ จึงเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องไปให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวนตามข้อเท็จจริง มิใช่เสนอตัวไปให้การเอง อีกทั้งการให้ปากคำดังกล่าวยังอยู่ในช่วงต้นปี ไม่ใช่ในช่วงเวลานี้ จึงไม่เกี่ยวข้องกับการต่อรองตำแหน่งใด ๆ ปัจจุบันอัยการสั่งฟ้องคดีไปแล้ว อยู่ในชั้นศาลที่จะตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป 

สำหรับประเด็นคุณสมบัติรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญนั้น ถ้าดูตามตัวอักษรในกฎหมาย วิ.อาญามาตรา 15 ประกอบ วิ.แพ่ง มาตรา 145 วรรค 1 ได้วางหลักว่า คำพิพากษาหรือคำสั่งให้ถือว่าผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลที่พิพากษาหรือมีคำสั่ง นับตั้งแต่วันที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่ง จนถึงวันที่คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับหรืองดเสีย ถ้าหากมี

ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมายกฟ้องนายเอกนัฏแล้ว เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายเบื้องต้นหมายความว่า หากยังไม่มีคำพิพากษาของศาลฎีกาเห็นเป็นอย่างอื่นออกมา นายเอกนัฏเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่เคยต้องคำพิพากษาจำคุกมาก่อน 

ดังนั้นประเด็นเรื่องคุณสมบัติของนายเอกนัฏจึงไม่มีปัญหาอย่างใด  นอกจากนี้ยังมีกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจำนวนมากอีก คาดว่าจะชัดเจนเร็วๆ นี้

“ข้อกฎหมายชัดเจนว่าคุณเอกนัฏเป็นรัฐมนตรีได้ ใจผมอยากให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าบริหารบ้านเมืองบ้าง” นายอรรถวิชช์ กล่าว

'ชาวเน็ต' แห่แชร์ #Saveลุงป้อม 'บูรพาพยัคฆ์ผู้ใจดี-ส่งเสริมให้โอกาสคน' แต่พอใครได้เป็นใหญ่ ก็พร้อมใจเนรคุณ เตือน!! อย่าปลุกเสือคำราม

(24 ส.ค. 67) กลายเป็นอีกหนึ่งเนื้อหา (เพลง) ที่ถูกแชร์ออกไปอย่างมากในเวลานี้ กับ คลิปไวรัล 'บูรพาพยัคฆ์ พิทักษ์ลุงป้อม' ซึ่งมีเนื้อหา ดังนี้...

"เกียรติศักดิ์ศรี นี้ไม่ให้ใครเหยียดหยาม
คือเสียงพยัคฆ์คำราม ก้องมาจากป่ารอยต่อ
ชายชาตินักรบ ป้องพื้นดินของพ่อ
วันนี้หมู่มารลวงล่อ ต้องการล้างผลาญทำลาย...

"ตำหน้าตำตา ต้องมาต่อกรราวี
ทําร้ายผู้ชายใจดีอบอุ่น ไม่มีพิษภัย
ทั้งที่เคยช่วยส่งเสริมพวกมึงมากมาย
เพียงเพราะลาภ เพราะยศ เป็นใหญ่
ทำให้ต้องเนรคุณ...

"แล้วมึงจะรู้ ว่าบูรพาพยัคฆ์ 
คือเสือที่คอยปกปัก พิทักษ์แผ่นดินสยาม
หากเป็นคนดีกูส่ง แต่มึงมันชั่วต่ำทราม
วันไหนที่เสือคำราม มึงก็แค่หมาตัวหนึ่ง"

หรือนี่จะคือสัญญาณครั้งใหญ่จาก 'บูรพาพยัคฆ์' ที่ถูกหยามหมิ่น!!

'สส.เพื่อไทย' แฉ 'สส.บางพรรค' ต้นเหตุทำน้ำท่วมภาคเหนือ

(23 ส.ค.6) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล สส.พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า...

"ความสะใจของพวกคุณในวันนั้น คือความเดือดร้อนของประชาชนในวันนี้...

"ไม่ต้องถามว่านายกฯ จะลงพื้นที่น้ำท่วมเมื่อไร? เพราะหากบางพรรคไม่ได้ตัดงบฯ ฝายแกนซีเมนต์ของเพื่อไทยทิ้งทั้งหมดจาก พรบ.งบฯ '67 ก็คงสามารถป้องกันให้น้ำไม่ท่วมจนไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่...ใช่ไหมครับ? #น้ำท่วมภาคเหนือ"

‘อัครเดช’ ย้ำจุดยืน ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ แก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่แตะหมวด 1-2 พร้อมยึดหลักการปราบทุจริต-คอร์รัปชัน

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา ว่า 

“สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น จุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติยังเหมือนเดิม คือจะต้องไม่มีการแก้ไขในหมวด 1 และ หมวด 2 พร้อมทั้งต้องคงไว้ซึ่งหลักการการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด” นายอัครเดช กล่าว

'ชวน' กรีด!! ใครอยากร่วมรัฐบาล อย่าอ้างคนอื่น ส่วนตนเองย้ำชัด!! ไม่เห็นด้วยร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

(23 ส.ค.67) นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคฯ กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาล ว่า ยังไม่มีการแจ้งมาจากกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคตามระเบียบข้อบังคับพรรคฯ จะต้องขออนุมัติจากที่ประชุม สส.และ กก.บห. แต่ทราบว่า มีความพยายามของ กก.บห. และ สส.บางคน ที่อยากจะเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่ตอนแรก ซึ่งเห็นได้จากพฤติกรรมในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ครั้งแรก และตอนลงมติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณ จึงเห็นว่า ไม่ควรมาอ้างว่า ประชาชนอยากให้ร่วม หากอยากเป็นรัฐบาลก็ควรพูดตรง ๆ ว่าอยากเป็น

นายชวน กล่าวต่อว่า ส่วนตัวยังยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการร่วมรัฐบาล เนื่องจากเคยไปรณรงค์ให้ประชาชนในภาคใต้ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เพราะถูกเลือกปฏิบัติ ไม่พัฒนาภาคใต้ เนื่องจากคนใต้ไม่เลือก จึงไม่อยากทรยศ แต่หากเสียงส่วนใหญ่มีมติให้เข้าร่วมรัฐบาล ก็ต้องว่ากันไปตามมติของพรรค ไม่มีปัญหา เพราะตนไม่ใช่ตัวปัญหาของพรรค ตนอยู่กับพรรคฯ มาเกือบ 60 ปี มีส่วนร่วมล้มลุกคลุกคลาน ตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน ฟื้นฟูพรรคจนกระทั่งได้เป็นรัฐบาล

“หากอยากเป็นก็บอกตรง ๆ ว่า อยากเป็นรัฐบาล อย่าไปอ้างคนอื่น เราควรพูดเรื่องจริงว่า เพราะอยากเป็น เราก็ไม่ว่าอะไร และหากมติส่วนใหญ่ให้เป็นเราก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าไปหลอก ไปอ้างเหตุผลอะไรมาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงก็ทำให้คนที่ติดตามเราอยู่จะมีความรู้สึกในทางลบกับพรรคฯ” นายชวน กล่าว

ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลนายชวนจะลาออกนั้น นายชวนกล่าวว่า ตนไม่เคยพูด และตนเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดมาก ซึ่งตนเคยบอกว่า ใครชนะเลือกตั้งได้ที่ 1 เป็นรัฐบาล ตอนนั้นตนแพ้ไป 2 เสียง และรวมเสียงได้มากกว่าด้วยซ้ำ แต่ต้องรักษาคำพูด ตนเป็นนักการเมืองที่อยู่มาได้ เพราะประชาชนเลือก เพราะความเชื่อถือคำไหนคำนั้น อะไรทำได้ก็ทำ อะไรทำไม่ได้ก็บอกตรง ๆ ตนจึงไม่พูดว่าจะลาออกเพราะถ้าพูดต้องลาออก

เมื่อถามว่า นายชวนจะเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่แน่นอน เพราะตนเป็นนักการเมืองตัวจริง ไม่ใช่นักฉวยโอกาส ไม่ใช่นักกินเมือง ไม่ใช่นักปล้นเมืองโกงเมือง ตนเป็นนักการเมืองรู้ในกติกา จึงไม่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล แต่จะใช้สิทธิ์โดยชอบธรรมที่มี เช่นกฎหมายที่ดีของรัฐบาลตนก็พร้อมที่จะสนับสนุน ยกเว้นบางเรื่องเช่นหากมีกรณีพฤติกรรมที่ทุจริต หากมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนก็ไม่ควรที่จะยกขบวนกันไปยอมรับสิ่งเหล่านี้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือจุดยืนของพรรคต้องมี ไม่ใช่ว่าอะไรก็ได้ ซึ่งตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลในสมัยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีการไปเจรจา ไม่ได้อยากเข้าไปเป็นรัฐบาลแล้วขอร่วมหน่อย แต่เป็นการร่วมโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้อง แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญและประกันรายได้เกษตรกร

“ผมไม่ได้มีปัญหาส่วนตัว หรือไปอาฆาตแค้นอะไร กับนายกรัฐมนตรีหรือคนในพรรคเพื่อไทย แต่ผมต้องการตอบแทนบุญคุณคนภาคใต้ โดยการทำหน้าที่แทนชาวบ้าน และที่เหนือไปกว่านั้นคือพรรคฯมีเกียรติยศมายาวนาน เราไม่เคยถูกประณามว่าเป็นพรรคอะไหล่ หรือ ถูกกล่าวหาว่า เป็นพรรคที่คอยเสียบ ผมก็รู้สึกเจ็บร้อนแทน และรู้สึกว่าไม่เห็นมีใครออกมาปกป้องพรรค อยากขอร้องว่าหากจะพูดถึง พฤติกรรมคอยเสียบ ขอให้เจาะจงไปที่ตัวบุคคล ที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น เพราะพรรคฯ ไม่ได้ประกอบด้วย สส.เพียง 25 คน แต่ยังมีสมาชิกซึ่งอยู่ข้างนอกอีกจำนวนมาก และคงไม่พอใจกับพฤติกรรมบางอย่างที่เกิดขึ้น แต่คงไม่สามารถทำอะไรได้ สังเกตว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ติดใจที่อยากได้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลสักเท่าไหร่ แต่ปัญหาคือคนของเราอยากร่วมรัฐบาลมากกว่า” นายชวน กล่าว

สำหรับกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะสูญพันธุ์นั้น นายชวน กล่าวยืนยันว่าไม่สูญ เพราะอย่างน้อยก็น่าจะเหลือตนอีกคน แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้รับเลือกเข้ามาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เห็นว่ากก.บห.พรรคชุดนี้ก็มาจากชุดที่แล้ว จึงน่าจะทราบว่า จุดอ่อนอยู่ตรงไหน และยังเชื่อว่า สส.บัญชีรายชื่อในสมัยหน้าน่าจะได้มากกว่าเดิม เพราะจากการลงพื้นที่ เห็นปฏิกิริยาชาวบ้านก็พอจะรู้ว่าหลายคนก็ยังอาลัยและเสียดายพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้ระบบการเลือกตั้งเปลี่ยนไปและคนก็เปลี่ยนไปมาก

นายชวน ยังกล่าวถึง นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรค ประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่ามีนักการเมือง มี 2 ประเภท มีพวกที่พูดเก่ง ชอบตำหนิ แต่ทำงานไม่เก่ง ว่า ตนอยู่สภาฯมากว่า 50 ปี ไม่เคยได้ยินว่าแบ่งกันเช่นนี้ และเห็นว่านายเดชอิศม์เป็นฝ่ายค้านมาเกือบ 1 ปีแทบไม่เคยพูดในสภาฯ เลย หรือจะพูดเพียง 1 ครั้ง ในขณะที่ลูกชายนายเดชอิศม์พูดเก่ง ซึ่งหากพูดอย่างนี้อยากย้อนถามว่าลูกชายทำงานไม่เก่งหรืออย่างไร เพราะลูกชายนายเดชอิศม์อภิปรายงบประมาณได้ดีมาก ตนอยู่สภาฯ มาเคยได้ยินแต่ว่านักการเมือง ที่โกงกับไม่โกง และคนที่เป็นคนอภิปรายได้ดีในสภาฯ เป็นเพราะเตรียมตัวมา ดังนั้นจึงไม่ควรพูดเช่นนี้

นายชวนกล่าวอีกว่า แม้มีความเห็นต่างในการที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็ไม่ทำให้พรรคแตก เพราะพรรคประชาธิปัตย์อยู่มายาวนาน ผ่านอะไรมาเยอะ แต่สิ่งสำคัญคือพรรคต้องมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top