Monday, 7 July 2025
POLITICS NEWS

"สาธิต" รับ โอมิครอน มีโอกาสแพร่ในไทย  เล็งระดมฉีดบูทเข็ม 3 ด้าน  ชี้ ชิงลต.ซ่อมเป็นสิทธิ์แต่ละพรรค ระบุ พรรคใหญ่แข่งกัน ต้องประเมินผลได้-ผลเสีย-คุ้มค่าหรือไม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิตปิตุเตชะ รมช. สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ เกี่ยวกับมาตรการการท่องเที่ยว การทำโซนสีจังหวัด จากสีแดงมาเป็นสีส้ม ให้มากที่สุด และแผนการบริหารจัดการวัคซีนในปี 65 ซึ่งจะมีการบูทเข็ม 3 ให้เร็วขึ้น รวมถึงการจัดงานเทศกาลปีใหม่ ที่จะต้องมีการฉีดวัคซีน 2 เข็ม 

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุมเป็นห่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน ที่อาจจะรวมกับสายพันธุ์เดลต้าหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ไม่มีข้อมูล เรื่องการกลายพันธุ์ เพราะปัจจุบันเชื้อโอมิครอน ยังไม่สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง ยังสามารถควบคุมได้ เพราะเรามีมาตรการที่เข้มข้น แต่หากมีอาการรุนแรง หรือสัดส่วนคนติดเชื้อสูงก็เป็นสิ่งที่น่ากังวล ทั้งนี้เราต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เยอะที่สุด
 
เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงหรือสั่งการอะไรในที่ประชุมหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า นายกฯไม่ได้เป็นห่วงอะไร แต่ให้ระมัดระวังไม่ให้การ์ดตก

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ยอดติดเชื้อในประเทศไทยมีทั้งหมดกี่ราย นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้ยืนยันแล้วมีผู้ติดเชื้อโอมิครอน 8 ราย และอีก 3 ราย มีความเสี่ยงสูง ซึ่งหากตรวจกลุ่มนี้อย่างละเอียดแล้ว ผลยืนยันก็จะเป็นเชื้อโอมิครอน 

“ปชป.” เอกฉันท์ส่ง “อิสรพงษ์-สุภาพร” ลงลต.ช่อม ส.ส.ชุมพร-สงขลา ด้าน “เฉลิมชัย” ยัน “สุพัชรี-นริศ” ยังเหนียวแน่นกับพรรค 

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ว่า ที่ประชุมมติเอกฉันท์ให้นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต1 จังหวัดชุมพร และให้น.ส.สุภาพร กำเนิดผล เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต6 จังหวัดสงขลา 

เมื่อถามถึงตระกูลธรรมเพชรส่วนหนึ่งไปเปิดตัวสังกัดกับพรรคพลังประชารัฐ ยังยืนยันหรือไม่ว่าน.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีตส.ส.พัทลุง ยังจะสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  เป็นผู้ตอบคำถามว่า คนของพรรค ทั้งน.ส.สุพัชรี และนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด และยืนยันว่าพรรคส่งครบทุกเขต

“แรมโบ้” อัด “อรุณี -เพื่อไทย” สมัยยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ มีเรื่องทุจริตจำนำข้าวชาวนาผูกคอตาย วันๆคิดแต่ช่วยครอบครัวล้างมนทิล คนไล่เป็นล้าน มีความสุขหรือไม่ ขณะที่นายกฯประยุทธ์เข้ามาแก้ไขปัญหาให้

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงน.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์การทำงานนายกฯประยุทธ์ 9 ปีคนไทยค่าแรงเท่าเดิม แต่ค่าครองชีพพุ่ง 7 ปี ไม่ได้คืนความสุขให้ใครว่าในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ต้องยอมรับว่าทั่วโลกมีความลำบากเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้นางสาวอรุณี และพรรคเพื่อไทยน่าจะเข้าใจสถานการณ์ดี และที่ผ่านมานายกฯ มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ออกมาตรการผ่านโครงการต่างๆมากมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งประชาชนชื่นชอบ ให้การยอมรับ ขณะเดียวสั่งการให้เตรียมของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนแล้ว

นายเสกสกล ยังถามกลับว่าสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ คนไทย ชาวนา มีความสุข หรือลำบากหรือไม่ จากโครงการรับจำนำข้าวจนทำให้ชาวนาหลายคนผูกคอตาย ขณะนี้โครงการนี้ขาดทุน 5 แสนล้านบาท ปัจจุบันรัฐบาลยังมีภาระหนี้จากโครงการดังกล่าวที่ต้องชำระคืนให้กับธ.ก.สอีก  

นอกจากนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้แก้ไขปัญหา พัฒนาประเทศหรือไม่ เพราะเห็นทำแต่ในเรื่องของตนเอง ครอบครัวตนเอง ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยพี่ชาย จนคนไทยทั้งประเทศออกมาขับไล่ แบบนี้หรือคือความสุขของคนไทย แต่ในขณะที่นายกฯประยุทธ์ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาให้ พัฒนาประเทศหลายด้าน ออกมาตรการต่างๆช่วยประชาชนจนเป็นที่ชื่นชม   

"กมธ.พัฒนาการเมือง" จ่อเรียก "ธรรมนัส-แกนนำจะนะรักษ์ถิ่น" หาทางออกร่วมกันปมโครงการจะนะ

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล​ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในวันที่ 13 ธ.ค. ตนเตรียมหารือที่ประชุมกมธ.เพื่อเชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ เข้าชี้แจงต่ออนุกมธ.พิจารณาศึกษาติดตามกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน​จากการดำเนินการโครงการของรัฐ ในกมธ.พัฒนาการเมืองฯ ต่อกรณีโครงการ​ "จะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต" 

โดยพิจารณาแล้วว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในขณะที่ดำรงตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อเจรจา​ ยุติเกี่ยวกับแนวทางการแก้โขปัญหาโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ​ จ.สงขลา

 

"พนิต"ชี้ 4 ข้อ ทำคนกรุงฯ-พรรคการเมืองฝันสลาย อดชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ต้นปีหน้า เหตุพรรคแกนนำรบ. กลัวแพ้หวั่นลามเลือกตั้งสนามใหญ่ เหน็บแรงอย่าหวงก้าง เพราะ "ผู้ว่าฯกทม.ไม่ใช่มรดกคสช."

นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊คสวนตัวเรื่อง"ผู้ว่าฯกทม. ไม่ใช่มรดกคสช. " ว่า ช่วงนี้ หลายท่านคงได้เห็นพรรคการเมืองที่เริ่มโชว์ตัวผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กันบ้างแล้ว มีทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และในนามอิสระ พร้อมความคาดหมายจะเข้าโหมดเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในช่วงเดือนมกราคม และวันเลือกตั้งภายในเดือนมีนาคม 2565 แต่ในความเห็นผม ในฐานะที่เป็นชาวกรุงเทพฯ แต่กำเนิด  และ มีประสบการณ์ ทำงานในกรุงเทพฯ  ไม่ว่าจะเป็น  รองผู้ว่าฯกทม. และ ส.ส. กทม.  เชื่อว่าผู้มีอำนาจจะไม่ยอมจัดเลือกตั้งในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างแน่นอน 

นายพนิต ระบุว่า ด้วยเหตุผลดังนี้ คือ 1.รัฐบาลที่เคยชินกับการสืบทอดอำนาจ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯนั่งเป็นประธานครม. ยังไม่มีท่าทีจะปลดล็อคให้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พร้อมบอกเหตุผลซื้อเวลาต่อไปว่า"รอให้บ้านเมืองสงบก่อนจึง เลือกผู้ว่าฯกทม" ถือว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น  แถมนายกฯ ยังไม่ฟังเสียงความต้องการของคนกรุงฯ ที่ต้องการมีผู้ว่าฯกทม.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงตามวิถีประชาธิปไตย  2.ผู้มีอำนาจกลัวมาก ว่าฝ่ายตัวเองแพ้แบบหลุดลุ่ย หลังโพลทุกสำนักฟันธง ฝ่ายที่ยืนหนึ่งอยู่ตรงข้ามชนะแบบชนิดเรียกว่า ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น แถมฝั่งผู้มีอำนาจนอกจากคะแนนตามหลังแบบสุดกู่แล้ว เชื่อว่าคะแนนยังตัดกันเองอีกใช่หรือไม่ เพราะ สองพรรคใหญ่ในรัฐบาล  ก็ส่งคนของตัวเองเพื่อรักษาศักดิ์ศรี  ประเมินกระแสคนกรุงฯ

และที่สำคัญสุด ต่างก็ต้องการตำแหน่งผู้ว่ากทม. ด้วยเช่นกัน  3.สมมุติว่าฝ่ายผู้มีอำนาจแพ้แล้ว ความพ่ายแพ้จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ นอกจากเสียฟอร์มทางการเมือง เพราะถืออำนาจไม่ต่ำกว่า 7 ปี  อาจทำให้ส่งผลกระทบในการสนามเลือกตั้งใหญ่ด้วย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ที่จะมีพลังมหาศาล ปลุกคนไทยทั่วทั้งประเทศ ขับไล่ระบอบสืบทอดอำนาจ ที่ยาวนานนี้ออกไป ผ่านการเลือกตั้ง และ 4.ส่วนรายชื่อผู้สมัครของฝ่ายผู้มีอำนาจฝั่งพรรคแกนนำหลักรัฐบาล  ก็เป็นการเลี้ยงกระแสสังคมเท่านั้น อย่างเช่นที่ทำมาตลอดในช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมา สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามแต่ละสถานการณ์ 

“องอาจ” มั่นใจ กก.บห.เห็นชอบให้ “พี่เอ้” ชิงผู้ว่าฯ กทม. เชื่อทำให้กรุงเทพฯเปลี่ยนได้จริง พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร สก.50เขต 14 ธ.ค.นี้

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลกทม. กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) เพื่อพิจารณาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ว่า ในวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค.นี้ ตนจะเสนอชื่อ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้ที่ประชุม กก.บห. พิจารณาซึ่งเชื่อมั่นว่า กก.บห.จะให้การสนับสนุน นายสุชัชวีร์ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามประชาธิปัตย์ เพราะ นายสุชัชวีร์ เป็นผู้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานรับใช้คนกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน สะสมความรู้ความสามารถประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่องจนมั่นใจว่าพร้อมที่จะเสนอตัวให้ประชาชนพิจารณา ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของประชาชนจะให้โอกาส นายสุชัชวีร์ หรือไม่

“ในส่วนของพรรค เราพยายามสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุดมาให้คนกรุงเทพฯได้พิจารณา เราหวังว่าประชาชนจะสนับสนุนให้ นายสุชัชวีร์ ได้ทำงานในฐานะผู้ว่าฯ กทม.ในที่สุด”นายองอาจ กล่าว

'ราเมศ' เชื่อรักษาเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อม 'ชุมพร-สงขลา' ได้  ไม่กังวล พปชร. ลงสนามแข่ง ไม่ปฏิเสธข่าว ส่ง “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ในนามปชป. ขอรอชัดเจน 13 ธ.ค.นี้ 

ที่พรรคประชาธิปัตย์นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อมสงขลาเขต 6 และ ชุมพร เขต 1 ว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มีการประชุมคณะกรรมการสรรหารับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชํานิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธาน โดยผู้ที่ประสงค์จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมาสมัครได้ตั้งแต่ 10-11 ธ.ค.นี้

แต่วานนี้(9ธ.ค.64) มีสองบุคคลยื่นเจตจำนงค์แล้ว โดย จ.ชุมพรเขต 1 คือ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ส่วนสงขลา เขต 6 คือนางสาวสุภาพร กำเนิดผล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
ซึ่งคนที่สนใจลงสมัครยังสามารถมาสมัครได้ตามวันเวลาที่ระบุ

นายราเมศ กล่าวอีกว่า ผลงานของ อดีตส.ส.ทั้งสองเขตจะทำให้ประชาชนเลือกพรรคประธิปัตย์ ส่วนคู่แข่งทางการเมืองอย่างพรรคพลังประชารัฐที่มักจะเอาชนะในการเลือกตั้งซ่อมภาคใต้ จะสร้างความกังวลให้พรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้หรือไม่ นายราเมศ ระบุว่า ไม่กังวลไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็ลงแข่งขันได้ 

'โฆษกรัฐบาล' โว 'นายกฯ' พอใจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลจากการเปิดประเทศ ผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจ  และมาตรการรัฐ - เอกชนมั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 2565 ขยายตัวต่อเนื่อง  แม้พบการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมเศรษฐกิจไทยหลังเปิดประเทศดีขึ้นอย่างชัดเจน เป็นผลมาจากความสำเร็จของรัฐบาลในการผ่อนคลายกิจการทางเศรษฐกิจ โดยที่ยังสามารถควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในไทยต่ำลง ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการ ภาคเอกชน

โดยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 85.4 จากระดับ 82.1 ในเดือนตุลาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เป็นผลมาจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างค่อยเป็นค่อยไปให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง เช่น การปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยกเลิกมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) รวมถึงการอนุญาตให้สถานที่หรือกิจการบางประเภทสามารถเปิดดำเนินการได้ภายใต้ภายใต้มาตรการ Covid Free Setting

อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สถานเสริมความงาม สถานที่ออกกำลังกาย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งกำหนดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และภูเก็ต รองรับการเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน  2564  ทำให้ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น อุปสงค์ในประเทศก็ทยอยฟื้นตัวจากคำสั่งซื้อและยอดขายสินค้าอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องจักรกล กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและเครื่องใช้ในบ้าน

รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและยา การส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ จีน อาเซียน และอินเดีย เป็นต้น ทั้งนี้ มุมมองภาคเอกชน โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน  (กกร.) ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย

ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตดีขึ้นในปี 2565 แม้การระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวได้ในกรอบ 3 - 4.5% สอดคล้องกับ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ที่ได้ประเมินสถานการณ์หลังพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน ไม่กระทบต่อบรรยากาศเศรษฐกิจในระยะสั้นและยังมั่นใจ การส่งออกปี 65 คาดว่าขยายตัวได้ถึง 5-8 %

“บิ๊กตู่” ยินดีกรุงเทพฯ ถูกจัดลำดับเป็นเมืองที่เหมาะต่อการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก พร้อมขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันทำให้ประเทศมีชื่อเสียงระดับโลก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบเรื่องน่ายินดีที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก (The Best Cities for a Workation 2021) ตามมาด้วยอันดับ 2 กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย อันดับ 3 กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส อันดับ 4 เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน อันดับ 5 กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ร่วมกับกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา อันดับ 7 เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย อันดับ 8 กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี อันดับ 9 กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย และอันดับร่วมที่ 10 จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ ทั้งนี้ จากการจัดลำดับของ Holidu ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับการค้นหาสถานที่พักผ่อนของเยอรมนี 

“ โดยการจัดอันดับดังกล่าวระบุว่ากรุงเทพมหานครถือเป็นเมืองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเป็นพื้นที่ในการทำงาน และยังเป็นเมืองที่ค่าใช้จ่ายในการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และหากดูในแง่ของการเป็นสถานที่พักผ่อน กรุงเทพฯ เป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทุกระดับและทุกไลฟ์สไตล์สามารถสนุกเพลิดเพลินกับกิจกรรมท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ได้ไม่สิ้นสุด ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อาทิ วัดและพระราชวัง หรือสถานที่เลือกซื้อสิ่งของในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองไปจนถึงตลาดน้ำในท้องถิ่น”นายธนกรกล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า เหตุผลที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก มาจากการพิจารณาจากหลักเกณฑ์ในการจัดลำดับทั้งเรื่องความเร็วของสัญญาณ WiFi จำนวนพื้นที่สาธารณะในการทำงานหรือ Co-working space ค่าใช้จ่ายรายเดือนของที่พัก ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมไปถึงค่าเฉลี่ยจำนวนชั่วโมงที่แดดออกต่อวัน นอกจากนี้ Holidu ยังระบุว่า ในกรุงเทพฯ มีคนส่วนใหญ่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เป็นเมืองที่ดึงดูดนักลงทุนและบริษัทต่างชาติจำนวนมาก จึงทำให้เป็นเมืองที่สามารถหาสถานที่พักอาศัยสำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการได้อย่างสะดวกสบาย 

ปชป.  เดินหน้าส่งผู้ว่าฯ กทม. แน่นอน ไม่ก้าวล่วงพรรคอื่นจะส่งใครลงสมัคร

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคพลังประชารัฐจะส่งนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ว่า ไม่ขอก้าวล่วงพรรคการเมืองอื่นว่าจะส่งใครลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. เป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะพิจารณาบุคคลที่พรรคการเมืองนั้นๆ เห็นว่าเหมาะสม 

ถ้าผู้ว่าฯ ปทุมธานีตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็เป็นเรื่องดีที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะได้มีทางเลือกให้พิจารณาเพิ่มมากขึ้น 

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้คำนึงถึงว่าพรรคอื่นจะส่งใครลงสมัครหรือไม่ส่งใครลงสมัคร เรายังคงยืนยันเดินหน้าส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อย่างแน่นอนตามแนวทางของพรรคที่มีนโยบายส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้มแข็งเพื่อเป็นฐานรากของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top