Thursday, 15 May 2025
POLITICS NEWS

‘บิ๊กตู่’ ผวา! ปิดหัวลำโพงบานปลาย สั่งเปิดเวทีรับฟังความเห็นทุกฝ่าย

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ห่วงใยปชช. ได้รับผลกระทบปิดหัวลำโพง สั่งการให้เร่งเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนเพื่อการดำเนินการอย่างรอบคอบ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน

29 พ.ย. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สั่งการให้หารือถึงผลกระทบจากการปิดสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อพัฒนาพื้นที่ และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณาการดำเนินการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งผลกระทบถึงประชาชนน้อยที่สุด โดยให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนนั้น ทางกระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เร่งดำเนินการเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและหาข้อสรุปการใช้งานและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้สามารถตอบโจทย์การดำเนินงานในทุกมิติได้อย่างแท้จริง และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน

ทั้งนี้ การพัฒนาพื้นที่จะไม่มีการทุบหรือรื้อทิ้งสิ่งปลูกสร้างสถานีรถไฟหัวลำโพง และจากการประเมินรายได้ในอนาคตในระยะเวลา 30 ปี พบว่าจะมีรายได้เข้ามารวม 800,000 ล้านบาท โดยในปีแรกจะอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท และปีที่ 5 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาภาระหนี้ของรถไฟที่ขาดทุนสะสมต่อเนื่อง

'บิ๊กตู่' แนะ ปชช.เที่ยวรับหนาว แบบนิวนอมอล ดูแลสุขภาพ นอนอุทยานฯ ระวังตัวไรอ่อน ทำป่วย โรคไข้รากสาดใหญ่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพอใจภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศ กระแสของคนไทยที่เที่ยวในประเทศก็มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง 

ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 962,968 คน ผู้ประกอบการ 8,920 คน ยอดการจองโรงแรมที่พักสะสม 1.5 ล้านห้อง ทำมูลค่าสะสมรวมทั้งสิ้น 5,996 ล้านบาท และในส่วนของโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐบาลจะสนับสนุนค่าแพ็คเกจท่องเที่ยว 40% ไม่เกิน 5,000 บาทต่อสิทธิ จำนวน 1 ล้านสิทธิ ล่าสุดมีบริษัททัวร์สมัครลงทะเบียนเพิ่มขึ้นจำนวนกว่า 759 คน และบริษัทนำเที่ยวที่เปิดถุงเงินแล้วจำนวน 1,816 คน ยอดรวมมูลค่าการเดินทางและค่าใช้จ่ายการสะสม 18.4 ล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 26 พ.ย.2564 โดยประชาชนสามารถจองแพ็คเกจทัวร์ผ่านผู้ประกอบการนำเที่ยวโดยตรง และใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการได้ถึง 31 มกราคม 2565

ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว อุณหภูมิเริ่มลดลง หลายพื้นที่อากาศเย็น มีลมหนาว ประกอบกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิดให้บริการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ 136 แห่ง เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมีมาตรการการจองเข้าอุทยานฯ ผ่าน แอปพลิเคชั่น QueQ พร้อมแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ไม่ต่ำกว่า 14 วัน หรือต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK จากสถานพยาบาล สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ออกเดินทางท่องเที่ยวตามป่าเขาและกางเต็นท์นอนเพื่อสัมผัสอากาศหนาว

ทำให้มีความเสี่ยงที่จะถูกตัวไรอ่อนที่อาศัยอยู่ในป่ากัด อาจติดเชื้อและป่วยเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับไทฟัส เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง  ซึ่งมีตัวไรอ่อนเป็นพาหะ โดยไรอ่อนจะอาศัยอยู่ตามใบไม้ ใบหญ้า ใกล้กับพื้นดิน ไรอ่อนจะกระโดดเกาะตามเสื้อผ้าของคนและกัดผิวหนังที่สัมผัสกับเสื้อผ้า กรมควบคุมโรคได้แนะนำให้ประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวตั้งแคมป์ กางเต็นท์นอนในป่า ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด เช่น เสื้อที่ปิดคอ เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว ส่วนที่อยู่นอกร่มผ้าให้ทาโลชั่นกันยุงที่มีส่วนผสมของสาร DEET หรือใช้สมุนไพรทากันยุงซึ่งจะสามารถป้องกันตัวไรอ่อนกัดได้เช่นกัน

‘กรณ์’ ลงใต้ เปิดตัวผู้สมัครจังหวัดชุมพรทุกเขต เชื่อปักธงพรรคกล้าได้ เศรษฐกิจใต้เปลี่ยนแน่นอน

วันนี้ 26 พ.ย. 64 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วย นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค และ ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรค พร้อมทีมงานพรรค เดินทางไปยังจังหวัดชุมพร เพื่อเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง โดยเปิดตัวแทนเขตผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 3 เขต ได้แก่ เขต 1 พ.ต.อ. ทศพล โชติคุตร์, เขต 2 ทนายลิขิต ศรีชาติ, เขต 3 ว่าที่ร.ต. เดชะวิชญ์ สิทธิจันทร์ 

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคกล้าได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส. ไว้ครบทุกเขตก่อนจังหวัดอื่น เนื่องจากมั่นใจว่าเป็นจังหวัดที่พรรคจะสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองในภาคใต้ได้ และว่าที่ผู้สมัครทุกคนก็ทำงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เขต 1 หาก กกต. ประกาศให้มีการเลือกตั้งซ่อม แทนตำแหน่งที่ว่างลง เราก็พร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงชิงชัยในทันที 

'บิ๊กตู่' ไฟเขียว!! สอบ 'แอมเนสตี้' ถ้าผิดต้องยกเลิก ลั่น!! ไม่ยอมให้ใครมาใส่ร้ายประเทศ

26 พ.ย. 64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีกลุ่มคนรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ขับไล่องค์การนิรโทษกรรมสากล (แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย) ว่า กำลังให้มีการดำเนินการและให้ตรวจสอบทางกฎหมายดูอยู่ว่ามีความผิดอะไรหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย ที่มีการจดทะเบียนไว้หรือไม่อย่างไร ซึ่งถ้าผิดก็ต้องยกเลิก ยอมรับว่าเป็นแรงกดดันพอสมควร ซึ่งตนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ในการที่จะมาให้ร้ายกับประเทศของเรา

‘ปณิธาน’ แฉ!! เวทีประชาธิปไตย แค่เกมการเมืองสหรัฐฯ ฟากความมั่นคงชี้!! ไทยหลุดโผ สะท้อนไม่ใช่ลิ่วล้อมะกัน

สำนักข่าวอิศรา ได้เผยถึงกรณีที่ไทยถูกเมินและไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมเวทีการประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ผ่านมุมมอง รศ.ดร. ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์พิเศษประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า…

การไม่มีชื่อไทยเข้าร่วมประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตยที่สหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อประเทศไทยเลย แต่อาจถูกด้อยค่าบ้างจากการเมืองภายในประเทศเท่านั้น

สำหรับการประชุมดังกล่าวนี้มีหัวข้อสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.) นิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือและอิหร่าน 2.) ปัญหา Climate Chang (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และ 3.) ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมตะวันตก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ประกาศไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งก่อนเข้าดำรงตำแหน่ง

โดยเฉพาะประชาธิปไตยเสรีนิยมแบบตะวันตก ถือว่ามีความตกต่ำอย่างมากในระยะหลัง มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระบุว่า ระบบการปกครองแบบนี้กำลังจะตาย เพราะแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำหรือสีผิวไม่ได้ จนถึงขั้นมีม็อบบุกอาคารรัฐสภาของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันการบริหารงานของโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้าโจ ไบเดน ก็ส่งผลต่อประชาธิปไตยอย่างมากเช่นกัน

'ส.ส. กรณิศ' แจงดราม่าจัดงานวันเกิด ยันแขกทุกคนตรวจ ATK - ฉีดวัคซีนครบ

‘ส.ส.กรณิศ’ แจงดราม่าจัดงานวันเกิด ปัดการ์ดตกช่วงโควิด-19 ระบุ เปิดแมสก์แค่ถ่ายรูปมอบของขวัญและรับประทานอาหาร ระบุส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พปชร. ที่ฉีดวัคซีนครบ-ตรวจ ATK ต่อเนื่อง ย้ำส่วนตัวลงพื้นที่ดูแลประชาชนชาวคลองเตย เคร่งครัดมาตรการ สธ. อยู่แล้ว

วันนี้ (26 พ.ย.) นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีดราม่าจัดงานวันเกิด โดยยืนยัน ว่า ไม่ได้การ์ดตก และคนที่มาในงานได้สวมแมสก์กันมาทุกคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ที่ฉีดวัคซีนกันครบ และผ่านการตรวจ ATK กันอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเข้าร่วมประชุมกันในสภาอยู่แล้ว โดยภายในงาน เป็นการจัดในวงแคบ ๆ ไม่ได้ใหญ่มาก และยิ่งสถานการณ์โควิด-19 เราได้ตรวจสอบคนที่มาร่วมงานอยู่แล้ว มีการเตรียมพร้อมมาตรการดูแลด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ทั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ และสเปรย์แอลกอฮอล์

เมื่อถามถึง กรณีภาพที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยนั้น นางกรณิศ ระบุว่า เป็นช่วงการถ่ายรูปมอบของขวัญ และนั่งรับประทานอาหารเท่านั้น เพราะเราคงใส่หน้ากากอนามัยรับประทานอาหารไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าคนที่นำเพียงบางภาพไปเป็นประเด็นดราม่า ว่ามีจุดประสงค์อะไร เพราะตนระมัดระวังระวังตัวเองอยู่แล้ว

“หากใครได้ติดตามในเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็จะเห็นดิฉันดูแลพี่น้องชาวคลองเตย มีมาตรการ และลงตรวจ ATK ให้กับประชาชน ยืนยันได้ว่าเข้มงวดกับเรื่องนี้อยู่แล้ว” นางกรณิศ กล่าว

“แรมโบ้” ยืนยันนายกฯและรัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติด ซัด “ณัฐวุฒิ” อย่าใช้โอกาสนี้กล่าวหา โจมตีรัฐบาล  ไม่มีใครอยากให้ใช้ประเทศเป็นทางผ่านขนส่งยาเสพติด

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ตั้งกระทู้ออนไลน์ ถึงนายกรัฐมนตรีจะกู้ภาพลักษณ์ไทยยังไงหลังกลายเป็นชาติส่งออกยาเสพติดระดับโลก โดยยืนยันว่าที่ผ่ามานายกฯและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และวาระแห่งชาติ ซึ่งสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่ตุลาคม 63-มิถุนายน 64 จับกุมยาเสพติดที่เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ รวม 84 คดี รวมถึงยังได้ทำงานเชิงรุกเรื่องการขยายผลต่อ ดังนั้นทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้

นอกจากนี้นายกฯแสดงความกังวลในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยได้สั่งการหน่วยงานด้านความมั่นคง ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ติดตามเรื่องนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะต้องมีการตรวจสอบสิ่งของที่จะต้องส่งออกให้ถี่ถ้วนมากขึ้น พร้อมขอให้ประชาชนหากรู้เบาะแสการกระทำความผิดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ โดยจะได้รับความคุ้มครอง 

'โฆษกรัฐบาลฯ' ชี้ รัฐบาลทำราคาปาล์มสูงสุดในรอบหลายปี  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบข้อกังวลจากกลุ่มชาวสวนปาล์มที่หวั่นว่า การปรับสูตรให้เหลือน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเหลือเพียง บี7 และขอความร่วมมือกำหนดค่าการตลาดที่ลิตรละ 1.40 บาท ในเดือนธ.ค.64 –มี.ค.65 จากมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ล่าสุด ซึ่งต้องขอความเข้าใจจากพี่น้องเกษตรชาวสวนปาล์ม รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาราคาพลังงานทั้งระบบ และพยายามอย่างที่สุดจะให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างน้อยที่สุด  

อย่างไรก็ตามปัญหาทุกอย่าง เกี่ยวเนื่องเป็นวงจรห่วงโซ่ มีหลายกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องต้องอาศัยความเข้าใจซึ่งกันและกันในการแก้ปัญหา รัฐบาลได้ความสำคัญกับการแก้ปัญหากับเกษตรกรทุกพืช เพราะเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศและมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ

“บิ๊กตู่” ยอมรับปัญหาแอมเนสตี้เคลื่อนไหว “ลั่น” จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายประเทศอย่างแน่นอน “สั่ง “ สตช.มท. ดูข้อกฎหมาย

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีกลุ่มคนรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ขับไล่ องค์การนิรโทษกรรมสากล (แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย) ว่ากำลังให้มีการดำเนินการและให้ตรวจสอบทางกฏหมายดูอยู่ว่ามีความผิดอะไรหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย ที่มีการจดทะเบียนไว้หรือไม่อย่างไร ซึ่งถ้าผิดก็ต้องยกเลิก ยอมรับว่าเป็นแรงกดดันพอสมควรซึ่งตนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ในการที่จะมาให้ร้ายกับประเทศของเรา

"เพื่อไทย" อัด รบ.ไม่จัดการระบบสธ.ให้ดี หลังผู้ป่วยเส้นเลือดสมองแตกหาเตียงกว่า 6 ชม.จนเสียชีวิต ชี้ ส่งสัญญาณระบบสธ.ใกล้ล่มสลาย ขู่ ยื่นฟ้อง "ประยุทธ์" ถ้าไม่แก้ปัญหา

ที่รัฐสภา นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวกรณีผู้ป่วยวิกฤตเส้นเลือดสมองแตก หลังถูกโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาและต้องส่งตัวไกล 156 กม. จนเสียชีวิต โดยนพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า หลังผู้ป่วยหมดสติที่บ้าน ญาติพาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแต่ถูกปฏิเสธว่าเตียงเต็มและส่งต่อไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใช้สิทธิบัตรทองของผู้ป่วยแต่ก็ได้รับแจ้งว่าเตียงเต็มเช่นกัน ญาติจึงประสานโรงพยาบาลต่างๆ อีก 5-6 แห่ง ทั้งในเชียงใหม่และลำพูน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธว่าเตียงเต็ม สุดท้ายก็ได้โรงพยาบาลที่รับรักษา

โดยเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกลถึง 150 กม. ทั้งนี้ ญาติผู้ป่วยเสียเวลาในการติดต่อประสานและเดินทางรวม 6 ชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ทำการตรวจและระบุว่าเป็นเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดออกไปกดทับส่วนต่างๆ ของสมอง ทำให้อาการรุนแรงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าการจัดระบบสาธารณสุขของไทยในปัจจุบันล้มเหลว ทั้งเรื่องโครงการผู้ป่วยฉุกเฉินรักษาใกล้บ้านที่สามารถรักษาที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ รวมถึงเรื่องบัตรทองที่โรงพยาบาลที่ใช้สิทธิบัตรทองปฏิเสธผู้ป่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ถ้ารัฐบาลบริหารจัดการตามบริการสาธารณสุขได้ดีกว่านี้ ผู้ป่วยรายนี้อาจจะไม่เสียชีวิต

ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเคยแถลงข่าวว่าสถานการณ์ด้านสาธารณสุขในเชียงใหม่เริ่มแตกเต็มที ซึ่งในรอบเดือนที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยโควิดในเชียงใหม่อยู่ที่ลำดับ 2 แม้ขณะนี้ลำดับจะลดลง แต่จำนวนผู้ป่วยไม่ได้ลดลง ซึ่งสถานการณ์ความพร้อมด้านสาธารณสุขก็เริ่มมีปัญหา เราเคยเตือนรัฐบาลแล้วแต่ก็ไม่มีการแก้ไข สัญญาณที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นสัญญาณแรกของการล่มสลายของระบบสาธารณสุข และจะมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ หากรัฐบาลยังไม่ทำอะไร พวกตนก็ต้องหากลไกทางสภาฯ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) เข้าไปแก้ไข โดยจะยื่นเรื่องให้กมธ.สาธารณสุข เพื่อดำเนินการหาว่าจุดบกพร่องอยู่ที่ไหน ทำไมสิ่งที่เราเคยทำมาดีๆ วันนี้ถึงใกล้ล่มสลาย เราต้องหาคำตอบเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top