Thursday, 24 April 2025
NEWS

‘ก.พลังงาน’ แจง ฝายธงน้อย ไม่ใช่สาเหตุน้ำท่วมน่าน พร้อมเดินหน้าบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้งอย่างยั่งยืน

พพ.ชี้แจงข้อเท็จจริง ฝายธงน้อยไม่ใช่สาเหตุของน้ำท่วมจังหวัดน่าน พร้อมเดินหน้ามาตรการบริหารจัดการน้ำ แก้น้ำท่วมช่วยภัยแล้งอย่างยั่งยืน

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดี พพ., นายชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน,นายทรงยศ รามสูต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน,นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน,นายมังกร ศรีเจริญกุล สมาชิกวุฒิสภา, ผู้นำส่วนปกครองท้องถิ่น, หอการค้าจังหวัดน่าน, กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาฝายธงน้อย จังหวัดน่าน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบของโครงการต่อสถานการณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ณ ห้องประชุมบุญรอด-นิธิพัฒน์ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

ดร.หิมาลัย เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอผลการศึกษาทางอุทกวิทยา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฝายธงน้อย ไม่มีผลกระทบต่อการเกิดน้ำท่วม โดยผลการจำลองสถานการณ์เปรียบเทียบระดับน้ำระหว่างกรณีที่มีฝายธงน้อยและไม่มีฝายธงน้อย พบว่าระดับน้ำแตกต่างกันเพียง 1-2 เซนติเมตร ซึ่งเป็นค่าที่ไม่มีนัยสำคัญต่อการเกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่าน ถึงแม้ว่าผลการศึกษาจะยืนยันว่าฝายธงน้อยไม่มีผลกระทบต่อสถานการณ์น้ำท่วม แต่เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พพ.มีแผนดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำและสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำธงน้อยเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตพลังงานสะอาด รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการรองรับกรณีเกิดอุทกภัยในอนาคต

และจากการประชุมหารือร่วมกัน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปว่า โครงการฝายธงน้อยมีความสำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำและพลังงานของจังหวัดน่านและประเทศ และไม่มีผลกระทบต่อสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดน่าน พพ.จะดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ โดยจะทำการก่อสร้างประตูระบายน้ำและสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำธงน้อย ซึ่งการก่อสร้างประตูระบายน้ำเพิ่มเติม จะช่วยเพิ่มความสามารถในการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ในช่วงฤดูฝน ลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมและสามารถ กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง เพื่อสนับสนุนภาคการเกษตรและการอุปโภคบริโภคของประชาชนในจังหวัดน่าน และนอกจากบทบาท  ในการบริหารจัดการน้ำ โครงการดังกล่าวนี้จะช่วยในการพัฒนาพลังงานทดแทนของประเทศ โดยสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาดได้ถึง 11.10 ล้านหน่วยต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 6,438 ตัน CO2 ต่อปี และลดการใช้น้ำมันดีเซลเพื่อผลิตไฟฟ้าถึง 3.59 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นมูลค่าประหยัดพลังงานกว่า 98.75 ล้านบาทต่อปี 

ดร.หิมาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่า "วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน และหาข้อสรุปร่วมกันได้อย่างเป็นเอกฉันท์ กระทรวงพลังงาน โดย พพ. พร้อมทำงานอย่างเต็มกำลังเพื่อให้โครงการฝายธงน้อยเป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหาน้ำท่วมและช่วยลดภัยแล้งอย่างยั่งยืนต่อไป และพร้อมเข้าช่วยเหลือทันทีหากเกิดน้ำท่วมซ้ำระหว่างก่อสร้างประตูระบายน้ำเพิ่มเติม เราไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ”

'รัฐวิชญ์-บุณยนุช' ผงาดแชมป์ 'ช้าง โอเพ่น 2025' พร้อมตีตั๋วลุยศึก Yonex Junior Golf Championship ที่ญี่ปุ่น

(10 มี.ค. 68) 'น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง' โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ เดอะ เจ็นซ์ จัดการแข่งขัน 'ช้าง โอเพ่น 2025' ซึ่งเป็นรายการกอล์ฟแรกของฤดูกาลนี้ โดยการแข่งขันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ สนามพานอราม่า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ จังหวัดนครราชสีมา

โดยการแข่งขันครั้งนี้ มีการคัดเลือกเยาวชนจากรุ่น Junior GENZ (ชาย) และ (หญิง) เพื่อมอบโอกาสให้กับผู้ชนะในการแข่งขันได้เข้าร่วมแข่งขันรายการ Yonex Junior Golf Championship 2025 ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาเยาวชนกอล์ฟไทยให้เติบโตในระดับนานาชาติ

ผลปรากฏว่าในรุ่น Junior GENZ (ชาย) รัฐวิชญ์ รัฐชัยอนันต์ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในรอบสุดท้ายทำคะแนนได้ถึง 5 อันเดอร์พาร์ จบสกอร์รวมสองวันที่ 4 อันเดอร์พาร์ 140 คว้าแชมป์ไปครอง 

ส่วนในรุ่น Junior GENZ (หญิง) บุณยนุช ศุภกิจบุญชู คว้าแชมป์ด้วยสกอร์ 2 โอเวอร์พาร์ 146 หลังจบการแข่งขันสองวัน

งานนี้ได้รับเกียรติจาก นายดาว์ปกรณ์ รัตนสุวรรณ ประธานจัดการแข่งขัน 'ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์' ที่เข้ามามอบรางวัลและร่วมแสดงความยินดีกับผู้ชนะในทั้งสองรุ่น พร้อมทั้งกล่าวถึงความสำคัญของการสนับสนุนเยาวชนไทยในการแข่งขันกอล์ฟระดับนานาชาติ

ทั้งนี้ รายการถัดไปคือ 'บางจาก แชมเปี้ยนชิพ 2025' ซึ่งเป็นการแข่งขันที่สำคัญในการเก็บคะแนนสะสมสำหรับ World Amateur Ranking และ Junior Golf Scoreboard โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2568 ที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ จังหวัดปราจีนบุรี

สำหรับผู้ปกครองและนักกอล์ฟที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Official Line : @genzgolf หรือโทร. 065 696 2229

‘กรุงเทพคริสเตียน’ ทำถึง!! ออกบัตรนักเรียนใหม่ไฉไลกว่าเดิม รวมเทคโนโลยีการเงิน+การศึกษา ทำได้ยันวิเคราะห์ข้อมูลเส้นทางอาชีพ

รองผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยเผยโฉมบัตรนักเรียน VISA ที่ผสานเทคโนโลยีทางการเงินและการศึกษา เสมือนมีกุญแจดิจิทัลเป็นของตัวเอง สามารถทำธุรกรรมภายในโรงเรียนได้ครบวงจร พร้อมติดตามการใช้จ่าย วิเคราะห์พฤติกรรมการกินและเชื่อมโยงข้อมูลกิจกรรม และความสนใจของนักเรียน ช่วยค้นหาเส้นทางอาชีพที่เหมาะสม

เมื่อวันที่ (9 มี.ค. 68) บนโซเชียลมีเดีย มีการแชร์โพสต์จากเฟซบุ๊ก Wichai Neung ของนายวิชัย สีสุด รองผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (BCC) โพสต์ข้อความระบุว่า "โรงเรียนกำลังสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะโรงเรียนแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดตัวบัตรนักเรียนที่มีสัญลักษณ์ VISA ซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลก

จะเกิดอะไรขึ้น หากบัตรนักเรียนทำได้มากกว่าการเป็นแค่บัตรประจำตัว? เข้าสู่โลกนวัตกรรมใหม่แห่งการบริหารการศึกษาที่นักเรียนกรุงเทพคริสเตียนทุกคนมีกุญแจดิจิทัลเป็นของตัวเอง

บัตรนักเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยใบนี้ไม่ใช่แค่บัตรประจำตัว แต่คือนวัตกรรม ที่เกิดจากการผสานเทคโนโลยีทางการเงินและการศึกษา โดยได้รับความร่วมมือจากศิษย์เก่าของเราเอง - 'โอ๊ต 162' ผู้เชื่อมั่นในศักยภาพของการเรียนรู้ยุคใหม่ และจับมือร่วมกับ VISA เพื่อนำพาการศึกษาไทยก้าวสู่อนาคต

บัตรนี้ไม่ใช่แค่บัตรนักเรียนทั่วไป แต่เป็นผู้ช่วยส่วนบุคคล ที่สามารถติดตามการใช้จ่าย และช่วยเสริมสร้างความฉลาดรู้ทางการเงิน (Financial Literacy), วิเคราะห์พฤติกรรมการกิน และให้คำแนะนำด้านโภชนาการ และเชื่อมโยงข้อมูลกิจกรรม และความสนใจของนักเรียน เพื่อช่วยค้นหาเส้นทางอาชีพที่เหมาะสม โดยเก็บข้อมูลตั้งแต่ระดับประถม

บัตรนักเรียน BCC คือการปฏิวัติวงการการศึกษาไทยที่ผสานเทคโนโลยี Generative AI และ Data Analytics พร้อมยกระดับงานวิชาการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยสู่แนวคิด 'การเรียนรู้แบบไร้รอยต่อ' (BCC SEAMLESS EDUCATION) ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

โปรเจกต์นี้ได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่านการวิจัยและพัฒนาของงานนโยบายและงานนวัตกรรมการศึกษามากว่า 3 ปี ทำให้นักเรียนตั้งแต่ระดับประถม 1-มัธยม 6 สามารถใช้บัตรนี้ทำธุรกรรมภายในโรงเรียนได้ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น แตะจ่ายค่าอาหารในโรงอาหาร แตะยืมหนังสือจากห้องสมุด แตะเช็กอินเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร และยังไม่หยุดแค่นั้น...

อาหารทุกมื้อ ขนมทุกชิ้น เครื่องดื่ม ที่ซื้อในโรงอาหาร จะถูกบันทึกและนำมาวิเคราะห์ควบคู่กับข้อมูลสุขภาพของนักเรียน โดยใช้เทคโนโลยี BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) ซึ่งช่วยให้เข้าใจแนวโน้มด้านพัฒนาการร่างกาย โภชนาการ และพฤติกรรมการบริโภค หนังสือที่ยืม ชมรมที่เข้าร่วม และกิจกรรมที่นักเรียนมีส่วนร่วมตั้งแต่ระดับประถมจะถูกบันทึกและประมวลผลเพื่อสร้างแผนการพัฒนานักเรียนรายบุคคล ผ่านโครงการ BCC Self Discovery Program ช่วยให้นักเรียนมัธยมต้นค้นพบเส้นทางอาชีพของตนเองอย่างแม่นยำ ก้าวไปไกลกว่าการวิเคราะห์ตามลายนิ้วมือที่ใช้ในปัจจุบัน

มากกว่าการใช้จ่าย คือการสร้างอิสรภาพทางการเงิน เมื่อบัตรนักเรียน BCC มาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงแบบไบโอเมตริกซ์ ซึ่งใช้มาตรฐานเดียวกับบัตร VISA ทั่วโลก ป้องกันการโจรกรรมและการใช้บัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต หากทำบัตรหาย โรงเรียนสามารถปิดใช้งานได้ทันที สามารถตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดได้อย่างปลอดภัย ผู้ปกครองควบคุมการเติมเงิน กำหนดวงเงิน และติดตามการใช้จ่ายแบบเรียลไทม์ แม้นักเรียนจะใช้จ่ายผ่าน MRT หรือซื้อของจาก 7-Eleven ก็สามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังสามารถแปลงค่าเงินบาทเป็นสกุลเงินต่างประเทศเพื่อใช้จ่ายได้ทั่วโลก

เงินสดอาจหายไป แต่ความฉลาดรู้ทางการเงินต้องเพิ่มขึ้น เพราะบัตรนักเรียน BCC ไม่เพียงแต่สร้างความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยให้นักเรียนมีความฉลาดรู้ทางการเงินในโลกยุคดิจิทัล เมื่อวันนี้โลกก้าวไปไกลกว่าเงินสด และมูลค่าของเงินลดน้อยลง นักเรียนจึงต้องไม่ใช่แค่ปรับตัว แต่ต้องเป็นผู้นำ ที่เข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของเงินในเศรษฐกิจดิจิทัล

นักเรียนในโพสต์นี้เป็นนักเรียนคนแรกที่เปิดซองบัตรให้กรรมการตรวจรับด้วยมือเขาเองตามมาตรฐานที่เข้มงวดของ VISA แม้นักเรียนจบการศึกษาไปแล้ว และในช่วงปิดเทอม หลายคนเลือกที่จะไว้ผมยาว ทำสีผม หรือทำเล็บตามกระแส GELBOY ในความเห็นส่วนตัวของผม สิ่งนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้บุคลากรทางการศึกษาทุกคนต้องเข้าใจว่า นอกโรงเรียน นักเรียนมีเสรีภาพในการคิดและแสดงออก ที่กรุงเทพคริสเตียน เราไม่เพียงแค่ให้ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังให้เด็กๆ มีมารยาทที่ดี เคารพผู้อื่น และมีน้ำใจ โดยรักษาสมดุลระหว่าง อิสรภาพและความรับผิดชอบ

โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ผู้บริหาร และครูทุกคน ไม่ได้แค่เตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับอนาคต แต่เรากำลังสร้างอนาคตนั้นให้พวกเขา"

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ เตือน ปชช. ระวัง!! มิจฉาชีพ แอบอ้างเป็น Facebook หรือ Meta เพื่อขโมยบัญชี 

(9 มี.ค. 68) รูปแบบการหลอกลวง !!

มิจฉาชีพส่งอีเมลปลอม หรือข้อความปลอม อ้างว่า “เฟซของคุณจะถูกลบถาวรเนื่องจากละเมิดสิทธิ์เครื่องหมายการค้า กรุณายื่นอุทธรณ์ที่ลิงก์นี้” หรือ “บัญชีของคุณมีพฤติกรรมผิดปกติ คลิกที่นี่เพื่อยืนยันตัวตน”

จากนั้นจะมีลิงก์ปลอมให้กด
หากคุณใส่ Username และ Password ข้อมูลจะถูกขโมย และบัญชีของคุณอาจถูกยึด

วิธีป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์

1. อย่าคลิกลิงก์จากอีเมลหรือข้อความที่ไม่น่าเชื่อถือ
หากได้รับข้อความแปลกๆ ให้เข้าเว็บ Facebook หรือ Meta โดยตรง

2. ตรวจสอบ URL ก่อนกรอกข้อมูล
Facebook จริง URL ต้องเป็น: .com เท่านั้น
URL ปลอมมักมีลักษณะแปลกๆ เช่น: การสะกดผิด และ Domain เป็น .xyz

3. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสผ่าน
Facebook ไม่มีนโยบาย ขอรหัสผ่านหรือข้อมูลสำคัญผ่านอีเมลหรือข้อความ

4. เปิดใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA)
ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บัญชี แม้ว่ารหัสผ่านของคุณจะรั่วไหล

5. แพลตฟอร์มจะไม่ขอข้อมูลส่วนตัว
หรือขอให้ผู้ใช้ทำตามขั้นตอนใดๆ ผ่านอินบ็อกซ์ และไม่ควรกดลิงก์ใดๆ หากพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย

‘แยม ฐปณีย์’ โพสต์เฟซ!! ชวนกิน ‘ขนมจีนแกงใต้’ อุดหนุนได้ ในงาน ‘แจ๋ว แซบเฟอร์’ เซ็นทรัลเวสต์เกท

(9 มี.ค. 68) ‘แยม ฐปณีย์ เอียดศรีไชย’ ผู้สื่อข่าวภาคสนามชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ...

ข่าวก็ต้องทำใน The Reporters

ขนมจีนแกงใต้ก็ขาย บ้านพี่แยม Baan P'Yam

มาพบกันที่งาน #แจ๋วแซบเฟอร์ เซ็นทรัลเวสต์เกทค่ะ

#ขายขนมจีนหาเงินไปทำข่าว  

‘โรงพยาบาลสุไหงโกลก’ ขาดแคลนเลือด!! เปิดรับบริจาค คนไข้บาดเจ็บหนัก ต้องการด่วน!!

(9 มี.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Arnond Sakworawich’
โพสต์ข้อความ ระบุว่า ...

โรงพยาบาลสุไหงโกลกขาดแคลนเลือดครับ คนไข้ที่บาดเจ็บหนักกำลังถูกลำเลียงขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งต่อ
ทางโรงพยาบาลต้องการเลือดมาช่วยชีวิตครับ

ทหารในพื้นที่แจ้งข่าวมาที่อานนท์

ด่วน!!!ธนาคารเลือดโรงพยาบาลสุไหงโกลกเปิดรับบริจาคเลือด วันนี้ตั้งแต่เวลา 9:00 น เป็นต้นไป

ขอให้ทุกคนปลอดภัย

อัสลามมูอาลัยกุ้ม

สันติภาพเกาะกุมปลายด้ามขวาน

ขอสันติสุขจงมีแด่พี่น้องร่วมแผ่นดินทุกท่านครับ

Harley-Davidson® สร้างปรากฎการณ์ ในงานโมโตจีพีไทยแลนด์ 2025 เปิดตัว Pan America® 1250 ST ใหม่ ในราคา 874,000 บาท

(2 มี.ค. 68) Harley-Davidson กลับมาอีกครั้งที่งานโมโตจีพี ไทยแลนด์ 2025 พร้อมสานต่อตำนาน ในวงการมอเตอร์สปอร์ต 

● โดยเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สายแอดเวนเจอร์สปอร์ต Pan America® 1250 ST รุ่นใหม่ ปี 2025 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเปิดตัวในราคา 874,000 บาท พร้อมให้จองแล้ววันนี้

● โดยรถมอเตอร์ไซค์ Pan America 1250 ST ออกแบบเบาะที่นั่งให้ผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งที่พร้อม ควบคุมตัวรถได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบาย มาพร้อมกับสมรรถนะรอบด้านจากเครื่องยนต์ Revolution® Max 1250 แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ล้อหน้า 17 นิ้วพร้อมยางสตรีทแบรนด์ชั้นนำ ช่วงล่างและระบบเบรกระดับพรีเมียม ปรับช่วงล่างและตำแหน่งเบาะนั่งใหม่ต่ำลง พร้อมด้วยระบบ ท่อไอเสียน้ำหนักเบาและควิกชิฟเตอร์ 

● นอกจากนี้ ในงานโมโตจีพีไทยแลนด์ 2025 Harley-Davidson ได้นำสุดยอดคอลเลกชัน รถมอเตอร์ไซค์มาจัดแสดง ประกอบด้วยรุ่น Sportster™ S, Pan America Rimba Raid, R2M 2024 Bagger Racing, Street Bob ซึ่งเป็นรุ่นที่ชนะการแข่งขัน Missile Drag 2025, Low Rider™ ST และ Street Glide™

● พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากรถรุ่น CVO™ Road Glide™ หมายเลข 43 ของ James Rispoli และรุ่น Road Glide™ หมายเลข 33 ของ Kyle Wyman ซึ่งแสดงถึงจิตวิญญาณเจ้าแห่งความเร็วในรายการแข่ง King of the Baggers™ และเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด

มาพบกับความสนุกแบบนี้ได้ ที่บูธ Harley-Davidson!!

‘มาดามน้ำชา’ เผย!! พระองค์ท่าน ทรงเป็นกลาง ทางการเมือง ลั่น!! อย่าดึง ‘สถาบันเบื้องสูง’ ลงมาทำเป็น ‘คอนเทนต์’ 

(9 มี.ค. 68) มาดามน้ำชา TikToker ชื่อดัง โพสต์คลิป ย้ำ!! ‘ในหลวง’ ไม่เคยแบ่งแยกสี ไม่เคยแบ่งแยกคนในชาติ ทรงรักพสกนิกร เท่ากันทุกคน โดยระบุว่า ...

ฝากอินฟลูเบอร์ใหญ่ ... อย่า!! 

อย่านําลุงตู่ อย่าเอ่ยถึงในหลวง ว่ามาเกี่ยวโยงอะไรกับการเมือง ยุทธศาสตร์ชาติ รัฐธรรมนูญไม่เกี่ยวค่ะนะคะ 

ในหลวงพระองค์ท่านเป็นกลางทางการเมือง
อยู่นอกอยู่เหนือหลุดพ้นแล้ว ซึ่งการเมือง
ลุงตู่ท่านเป็นผู้นํา เราก็จริงนะคะก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ท่านเป็นองคมนตรี แล้ว
ท่านเป็นผู้ชายที่นั่งอยู่ในดวงใจของพวกเรา ภาคภูมิใจในตัวลุงตู่
อย่านํามาสร้างเป็นคอนเทนต์นะคะ

มันไม่ถูกนะคะสังคมมันจะแตกแยก
การเมืองก็คือการเมืองนะคะ 

สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเมืองเลย

พระองค์ท่านไม่รู้ด้วยซ้ําว่าลูกในชาติสีไหน
พระองค์ท่านรักลูกในชาติเท่ากันหมดทุกคน
ลูกในชาติเนี่ย แหละที่จําแนกสีกันเอง 

เพราะบางสีเช่นสีส้มเนี่ย
คุกคามกฎหมายที่คุ้มกันพระองค์ท่าน
เราก็เลยไม่ชอบสีส้ม 

ลูกทั้งชาติเนี่ย ทุกคนเค้าก็รักในหลวง เพราะฉะนั้นเราอย่านําในหลวงมายึดโยงกับการเมืองนะคะ 

อย่าทําแบบนั้นเลยเชื่อพี่เถอะมันไม่ดี
หนูเก่งหนูก็ไปสร้างคอนเทนต์อย่างอื่น
หนูไปเผยแพร่ยุทธศาสตร์ชาติที่มันถูก

แต่อย่านําสถาบันพระมหากษัตริย์ มาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ
มาเกี่ยวกับว่ารัฐธรรมนูญ

อย่าดึง ‘ในหลวง’ มาเกี่ยวกับการเมืองค่ะ 

‘สถาบันพระมหากษัตริย์’ เป็นของคนไทย ดวงใจทั้งประเทศ

‘นายกฯ แพทองธาร’ ปลื้ม!! ‘เมืองเก่าน่าน - เชียงคาน’ แหล่งท่องเที่ยวไทย!! คว้า 2 รางวัลใหญ่ ระดับโลก

เมื่อวันที่ (6 มี.ค.68) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 งานมหกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก

ในโอกาสนี้ นายกฯ ได้เยี่ยมชมคูหาประเทศไทย และบูธนิทรรศการขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. พร้อมแสดงความยินดีที่ อพท. เป็นตัวแทนแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษ เข้ารับรางวัลแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก 2 รางวัล จาก Green Destinations ได้แก่ 'เมืองเก่าน่าน' รางวัล Green Destinations Award ระดับเหรียญทองซึ่งนับเป็นแห่งเดียวของเอเชียและแห่งแรกของอาเซียน และ 'เชียงคาน' รางวัล Green Destinations Top100 Story Awards อันดับที่ 2 ของโลก ตอกย้ำผลสำเร็จตามนโยบายรัฐบาลให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในระดับสากล

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ประธานกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกล่าวว่า นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญของประเทศไทย ในการสร้างภาพลักษณ์ ยกระดับแหล่งท่องเที่ยวไทยสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในระดับสากล รางวัลเหรียญทอง Green Destinations ที่เมืองเก่าน่าน (เมืองเก่าที่มีชีวิต) ได้รับในครั้งนี้นับเป็นรางวัลที่มีมาตรฐานเข้มข้น ที่สะท้อนถึงความสำเร็จในการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง อพท. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล ชูความโดดเด่นด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยว (Destination Management) เพราะปัจจุบันมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลเพียง 160 แหล่งจากทั่วโลก รวมถึง“เชียงคาน” ที่ปีนี้ได้รับรางวัล Green Destinations Top100 Story Awards อันดับที่ 2 ของโลก ในหมวด Thriving Communities ประเด็น เมื่อคูปองอาหารเช้ากลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชียงคาน ซึ่งเป็นเรื่องราวเล็ก แต่สามารถช่วยให้เกิดการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวของเมืองเชียงคานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นผลสำเร็จที่ทำให้ได้รับรางวัลในครั้งนี้

ดร. ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการ อพท. รักษาการแทนผู้อำนวยการ อพท. กล่าวเพิ่มเติมว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ นอกเหนือจากการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนและชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่แล้ว ในระดับนโยบาย หน่วยงานภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการและต่อยอดขยายผลเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันโดยมี อพท.เป็นหน่วยงานต้นน้ำในการบูรณาการการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสู่มาตรฐานสากล กรมการท่องเที่ยวเป็นหน่วยงานกลางน้ำในการรับรองมาตรฐานทางการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประไทยเป็นหน่วยงานปลายน้ำที่มีบทบาทสำคัญในการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวไปยังกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เพื่อยกระดับพื้นที่เมืองเก่าน่าน จังหวัดน่าน เชียงคาน จังหวัดเลย และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับมาตรฐานและรางวัลในระดับสากล นำเสนอพื้นที่พิเศษซึ่งเป็นเมืองน่าเที่ยว ให้เป็นที่รู้จักและเกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยว และการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวไปยังชุมชนท้องถิ่น สร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล 

สำหรับบูธนิทรรศการครั้งนี้ อพท. ได้นำเสนอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพที่ผ่านกระบวนการพัฒนาของ อพท.โดยใช้เกณฑ์ของสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก (GSTC) และนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ พร้อมนำเสนอกิจกรรม Creative Tourism โดยสาธิตและให้ผู้ร่วมงานได้ระบายสี Art Toy หัวเรือแข่งพญานาคเมืองน่านจำลอง ออกแบบและผลิตโดยกลุ่มนักออกแบบชาวน่าน นับเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ตอบรับกระแสความนิยมบนฐานอัตลักษณ์เมืองน่านที่มีความสวยงามและมีเรื่องราวของประเพณีการแข่งเรือของชาวน่าน และได้ร่วมประชุมหารือความร่วมมือกับหน่วยงานพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ ได้แก่ สมาคมท่องเที่ยวเชิงนิเวศเอเชีย (AEN) และองค์กร Green Destinations เป็นต้น

ตำรวจภูธรภาค 2 ผนึก สจล. – อมตะ พัฒนาเทคโนโลยี 4 ด้าน เสริมแกร่งงานตำรวจ สร้าง 'พนักงานสอบสวน AI' รับแจ้งความฉับไว

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ( ผบช.ภ.2 ) เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ ( MOU ) ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพงานตำรวจ ลดภาระงานเอกสาร เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการประชาชน ส่งเสริมความปลอดภัยในพื้นที่เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ผลักดันตำรวจไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI โดยมีพิธีลงนามเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา 

ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเดินหน้า 4 ด้าน คือ 1. สร้างหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสนับสนุนการทำงานของพนักงานสอบสวนและลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากร โดยมีศักยภาพในการพัฒนาให้สามารถเข้ามาทดแทนพนักงานสอบสวนในอนาคต 2. พัฒนาโซลูชันด้านความปลอดภัย และการเฝ้าระวังอาชญากรรมในพื้นที่อุตสาหกรรม ใช้ระบบ AI วิเคราะห์พฤติกรรมต้องสงสัย กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ (Smart CCTV) ที่สามารถแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 
3. การวิจัยด้านการรวบรวมหลักฐาน หรือ Forensic Technology และความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cyber Security ซึ่งทาง สจล. จะศึกษาและพัฒนาระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data และ AI เพื่อสนับสนุนงานสืบสวน และ 4. ส่งเสริมการฝึกอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีให้ตำรวจ โดยตำรวจภูธรภาค 2 จะได้รับการฝึกอบรมจาก สจล. ให้สามารถใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า เราจะร่วมดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและงานตำรวจในระยะยาว โดยอาศัยองค์ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีดิจิทัลจาก สจล. ควบคู่กับประสบการณ์ภาคสนามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการสนับสนุนทรัพยากรจากภาคเอกชน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ที่จะช่วยกันพัฒนานวัตกรรมเพื่อความปลอดภัย และยกระดับระบบงานสอบสวนของประเทศไทยให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และเร็ว ๆ นี้จะได้เห็นการพัฒนาพนักงานสอบสวน AI นำมาใช้ในตำรวจภูธรภาค 2

‘DAD NIDA’ หลักสูตรการเรียน ที่เข้มข้น!! สำหรับ ‘ผู้บริหารรุ่นใหม่’ รุ่นที่ 10 สร้างคอนเนคชัน!! อัปเกรดความรู้ เทรนด์ใหม่ เพื่อ ‘โลกดิจิทัล’ แห่งอนาคต

หลักสูตรที่ รวมเครือข่าย ‘ผู้นำยุคใหม่’ จากทุกวงการ

หลักสูตรที่ มีกิจกรรมเสริม ‘สร้างมิตรภาพ กระชับความสัมพันธ์’

หลักสูตรที่ เปิดโอกาสให้ ‘ลงมือปฏิบัติจริง’

นี่คือ ‘หลักสูตร DAD NIDA’

หลักสูตร DAD เป็นหลักสูตรสำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ มุมมองใหม่ ทักษะและความสามารถเชิงพฤติกรรมผ่านการถ่ายทอดจากกูรูชั้นนำระดับประเทศจากทุกวงการ 

เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารและพัฒนาองค์กรในยุค Digital Transformation อีกทั้งยังพัฒนาทักษะที่สำคัญในยุค Digital ผ่านการร่วมกิจกรรม Design Think Workshop ที่ช่วยให้เข้าใจถึงแนวทางพื้นฐานในการแก้ปัญหาในองค์กร และกิจกรรม Bootcamp ที่ผู้เข้าอบรมจะได้นำความรู้จากกลุ่มวิชาต่าง ๆ มาลงมือปฏิบัติงานจริง ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างเครือข่ายผู้เข้าอบรมต่อไปในอนาคต

โลกธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โลกแห่งเทคโนโลยี ต้องอัปเดตสกิลอยู่เสมอ

‘ผู้นำยุคดิจิทัลต้องไม่เดินลำพัง’

‘DAD NIDA’ ให้คุณเรียนรู้ เติบโต พร้อมสร้างเครือข่ายคุณภาพ ที่จะพาคุณไปไกลกว่าที่เคย

สร้างมิตรภาพ คอนเนคชัน ‘ระดับผู้นำ’

อัปเกรดความรู้ เทรนด์ใหม่ Soft Skills ‘เพื่ออนาคต’

ถ้าคุณอยากจะเป็น ‘ผู้นำที่โดดเด่น’ ในยุคดิจิทัล

นี่คือหลักสูตรที่จะพาคุณไปสู่ ‘ความสำเร็จ’

สมัครได้แล้ววันนี้ – 30 เมษายน 2568 

ลงทะเบียน คลิก https://forms.gle/roAqiV7U1p4oCdSa

รายละเอียดเพิ่มเติม www.dadnida.com หรือ โทร 092-728-6722 | Line: @dadnida 

‘กรังด์ปรีซ์ฯ’ ผนึกพันธมิตร 54 แบรนด์ดัง ปลุก!! อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ให้คึกคัก ไฮไลต์!! พื้นที่โซนใหม่ จัดแสดงอะไหล่รถ ‘อีวี-สันดาป’ ในงาน ‘บางกอกมอเตอร์โชว์’

(8 มี.ค. 68) บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 54 แบรนด์ดัง จัดงาน ‘บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์’ ครั้งที่ 46 ภายใต้ธีม ‘The Talk of Sensuous Automotive’ หรือ ‘สนทนาภาษายานยนต์’ ชูไฮไลต์พื้นที่โซนใหม่จัดแสดงอะไหล่รถอีวีและสันดาป หลังปิดดีลเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายจากประเทศจีน โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน พ.ศ.2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน ‘บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์’ ครั้งที่ 46 กล่าวว่า สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม ‘The Talk of Sensuous Automotive’ หรือ ‘สนทนาภาษายานยนต์’ สื่อถึงปรัชญาแนวทางการออกแบบในโลกยานยนต์ที่สื่อสารเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง ความปรารถนา แรงบันดาลใจ สื่อสารเป็นภาษาของยานยนต์ เพื่อสะท้อนแนวคิด การสร้างสรรค์พัฒนา และประสบการณ์สุนทรียภาพทางอารมณ์อย่างมีคุณค่า

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานกล่าวว่างานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้มีผู้ประกอบการยานยนต์จากยุโรปและเอเชียตอบรับเข้าร่วมออกบูธภายในงานฯ แล้ว 54 ราย แยกเป็นรถยนต์ 41 บริษัท และจักรยานยนต์ 13 ถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมออกงานอย่างเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับการเข้าร่วมออกงานฯของกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ ZEEKR, OMODA&JAECOO, CHERY, KINGGEN, JUNEYAO , RIDDARA และ GEELY รวมถึงเทคโนโลยีระบบนำทางภายในรถยนต์ HUAWEI อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า YADEA ที่มาเปิดตัวครั้งแรกภายในงานฯ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 14 ราย

ส่วนในไฮไลต์ของการจัดงานฯ ปีนี้ นอกจากมีการเปิดตัวรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถสันดาปและรถอีวีของผู้ประกอบการยานยนต์แล้ว บริษัทฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ตกแต่งรถโดยเฉพาะ โดยในปีนี้ได้ขยายฐานผู้ออกบูธแสดงสินค้าสู่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถอีวีและสันดาปที่ต้องการขยายตลาดในประเทศไทย เนื่องจากเห็นโอกาสและศักยภาพของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่เป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดับสากล

“จึงได้รับความร่วมมือจาก บริษัท หนานจิง ฉ่วงฉี เอ็กซิบิชั่น จากประเทศจีน ได้นำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่สนใจเป็นร่วมตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย นับได้ว่า เป็นครั้งแรกของการจัดงานแสดงรถยนต์เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์โดยตรง เป็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตรภายในฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ระหว่างวันที่ 24 – 30 มีนาคม 2568 มั่นใจได้ว่า จะได้สินค้าที่ตรงตามคุณภาพ ราคาจากผู้ประกอบการโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธจัดแสดง USED CAR หรือรถมือสองระดับลักชัวรี่ รวมถึง สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้ามูเตลู การแข่งขันชิงรางวัล พร้อมกิจกรรมสนุกๆอีกมากมาย ภายในฮอลล์อีกด้วย” นายจาตุรนต์กล่าว

และอีก 1 งานที่แต่งเติมสีสันให้ล้อกันไปกับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ คือ MU-NIVERSE “เปิดจักรวาลมูเตลูไทย สู่คนรุ่นใหม่” เป็นอีเวนต์ที่รวบรวม เรื่องราวมูเตลูของเมืองไทยในแบบที่เข้าถึงง่าย เชื่อมโยง ความเชื่อม ศิลปะ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ระหว่าง วันที่ 2-6 เมษายน 2568 ที่บริเวณฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พบปะกับอ.ลักษณ์ โหราธิบดี และแขกรับเชิญสายมูชื่อดังมากมาย พร้อมกิจกรรมดูดวง ปรึกษาฤกษ์ออกรถ ป้ายทะเบียนมงคล สินค้าเครื่องรางวัตถุมงคล กิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลของดีของสะสมสายมู พร้อมรับสติ๊กเกอร์เสริมดวงรุ่นพิเศษเฉพาะงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เท่านั้น

นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับกิจกรรมในปีนี้ นอกจากกิจกรรม E-Racing ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งขันรถยนต์เสมือนจริงผ่านเครื่องเล่น Simulator แล้ว ทางผู้จัดยังได้รับความร่วมมือจาก R.C.S. (Runbike Championship Series) ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมการแข่งขันจักรยานทรงตัวรายการ “Grandprix Runbike Championship With R.C.S.” ขึ้นภายในงาน โดยเป็นการจัด Pre-Event จำนวน 2 สนาม ซึ่งการจัดการแข่งขันดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันวงการกีฬาสำหรับเยาวชนในประเทศไทย รวมถึงบูธแสดงสินค้าเกี่ยวกับเด็ก กีฬา และไลฟ์สไตล์ ตลอดจนโซนกิจกรรมสำหรับครอบครัวอีกด้วย”

นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดงาน ได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชมงานได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี digital transformation เข้ามาอำนวยความสะดวกในการเข้าชมงาน”

“เราได้พัฒนาบัญชี LINE Official Account หรือ Line OA ขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกใช้ในการลงทะเบียน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างบริษัทฯ กับผู้บริโภคในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Auto และ กลุ่ม Lifestyle ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นมา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ”

“นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำโปรแกรม Fullloop ที่สามารถเก็บข้อมูลฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมได้ในรูปแบบที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผู้เข้าชมสามารถกรอกแบบสอบถามสั้นๆ เพื่อประเมินการจัดงาน ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถรวบรวมข้อมูลได้ทันทีและวิเคราะห์ผลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเก็บฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมในงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดงานสามารถปรับปรุงการจัดงานในหลายๆ ด้าน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าชมได้ดียิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดงานฯ ปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนและเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อรถใหม่และรถมือสอง

สำหรับบัตรเข้าชมงานฯ มีจำหน่ายบริเวณด้านหน้างาน และ ทางออนไลน์ ผ่านไลน์แอปพลิเคชั่น ทั้งนี้นอกจากสิทธิประโยชน์จากการร่วมลุ้นรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์แล้ว สามารถนำบัตรเข้าชมงานแบบซื้อที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว มาร่วมกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลต่างๆมากมายได้ที่ บูธกิจกรรมพิเศษ ภายในอาคารฟอรั่ม ฮอลล์4 และ สำหรับการจัดงานฯ ครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ ได้จัดเตรียมรถshuttle ไว้อำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู สามารถลงที่สถานีศรีรัช แล้วต่อรถ shuttle ที่ผู้จัดงานฯได้เตรียมไว้ เพื่อเข้าสู่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เส้นทางศรีรัช - ACTIVE HALL 4 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ประการใด

งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เริ่มวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ อันดับ 1 ของเมืองไทย

‘ตั้ง อาชีวะ’ งง!! GUไปเกี่ยวอะไร กับการปล้น ‘กรุสมบัติเก่าของอยุธยา’ อายุกว่า 500 ปี ก่อนรับคำขอโทษ!! จาก ‘บาส Go Went Go’ กรณีมี ‘หมายจับ 112’ ไปโผล่ ในรายการ

(8 มี.ค. 68) จากกรณีที่ช่อง Go Went Go ได้นำภาพหมายจับคดี112 ของ ‘ตั้ง อาชีวะ’ (ที่ยังมีอายุความ) ไปใช้ในรายการตอนที่มีชื่อว่า ‘ตามรอยตำนานลี้ลับ 6 วัดร้างสุดเฮี้ยนในอยุธยา’ ซึ่งมีช่วงนาทีที่ 9.43 โดยได้มีการบรรยายพร้อมภาพประกอบเล่าเรื่องราวของการปล้นกรุเก่าอายุ 500 ปี แล้วดันไปมีภาพหมายจับของ ‘ตั้ง อาชีวะ’ ขึ้นไปอยู่ในนั้น ซึ่งทำให้คนดูเข้าใจผิดว่า คนในภาพหมายจับ คือคนไปปล้นสมบัติ

ล่าสุด ‘ตั้ง อาชีวะ’ ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า ...

สวัสดีครับทุกคน จากประเด็นของช่อง Go Went Go นะครับที่ทางทีมงานได้นำภาพหมายจับคดี112 ของผม (ที่ยังมีอายุความ) ไปใช้ในรายการตอนที่มีชื่อว่า 'ตามรอยตำนานลี้ลับ 6 วัดร้างสุดเฮี้ยนในอยุธยา' ซึ่งมีช่วงนาทีที่9.43 ได้มีการบรรยายพร้อมภาพประกอบเล่าเรื่องราวของการปล้นกรุเก่าอายุ 500 ปี แล้วดันไปมีภาพหมายจับของผมขึ้นไปอยู่ในนั้น ซึ่งคนดูอาจจะสามารถเข้าใจผิดได้ในกรณีนี้เช่น คนในภาพหมายจับคือคนไปปล้นสมบัติ,ตั้งอาชีวะไปปล้นสมบัติของอยุธยา หรือตั้งอาชีวะผู้ที่เกิดในปี2534นั่งเครื่องย้อนเวลาไปปล้นสมบัติเก่าของอยุธยา เป็นต้น 

คือตอนแรกผมก็ไม่ทราบนะครับว่ามีภาพผมไปปรากฏอยู่ในรายการนี้ จนกระทั่งพี่คนสนิทของผมที่ไทยได้รับชมรายการดังกล่าวแล้วส่งมา ต้องยอมรับตรงๆนะครับผมก็เคืองอยู่นั่นแหละ โมโหเลยโพสต์ไป1โพส (เคืองดิ พวกจากไทยโทรมา ว้าย ไอตั้งโจรปล้นสมบัติอยุธยา) ผมก็เลยส่งข้อความไปหาทางเพจ และได้โทรข้ามประเทศไปเพื่อจะขอคุย แต่ไม่มีใครรับสายในตอนแรก

หลังจากที่ผมโพสต์ไปไม่นาน คุณบาส Panupat Sukanlayaruk ก็รีบติดต่อกลับมา พร้อมแก้ไขสถานการณ์โดยทันที เช่นการล็อกคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นส่วนตัวเพื่อแก้ไขบางช่วงบางตอน และได้โพสต์ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านเพจของคุณบาส 

ต้องบอกก่อนนะครับว่า เราได้พูดคุยกัน และคุณบาสก็แสดงความขอโทษอย่างจริงใจ และทีมงาน-ทีมตัดต่อก็ได้ส่งข้อความมาขอโทษผมด้วยเช่นกัน กรณีนี้ถ้าพูดกันตามตรงก็คือเป็นความผิดพลาดของทางทีมงานจริงๆนะครับ ซึ่งคุณบาสเองก็ติดภารกิจอยู่ที่ประเทศอื่นๆ เลยไม่ได้มีเวลาเช็กงานดังกล่าว ก็ถือว่าความผิดพลาดครั้งนี้ของทีมงานให้เป็นบทเรียนไปนะครับ น้องที่ทำตัดต่ออาจจะไม่ได้เช็กข้อมูลจริงๆ ซึ่งผมเองก็ได้บอกกับคุณบาสตอนสนทนากันว่า "โอเคครับ ผมน้อมรับคำขอโทษจากคุณแล้วนะ ทางทีมงานเขาอาจจะพลาดจริงๆ ไม่ต้องไปว่าพวกเขาแรงนะ ห้ามไล่น้องเขาออกนะ"

สุดท้ายนี้นะครับ ก็ต้อขอบคุณคุณบาส และทีมงาน ที่จัดการทุกอย่างได้รวดเร็วมากๆ และผมรู้สึกได้ว่าเป็นการขอโทษที่แสดงออกมาด้วยความจริงใจ

‘วอลโว่พระนคร’ จัดมหกรรมสุดพิเศษ!! ‘Volvo Phranakorn Fest’ 8-9 มี.ค.นี้ เปิดรถผู้บริหารป้ายแดง!! ให้เลือกเป็นเจ้าของ พร้อมส่วนลด 1.5 ล้านบาท

(8 มี.ค. 68) นายเกษม มูลทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการบริหาร บริษัท พระนคร สวีดิช คาร์ จำกัด กล่าวว่า มหกรรมสุดพิเศษ Volvo Phranakorn Fest 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 6 ที่ลานกิจกรรม วอลโว่ พระนคร สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต เยื้องวัดเสมียนนารี ในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม ถึงวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568

ในงานยังมีกิจกรรมมากมาย ทั้งโซนอาหาร โซนเด็กเล่น รับของที่ระลึก สามารถพาครอบครัวมาสัมผัสกิจกรรมได้ตลอดทั้ง 2 วัน

นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์เด็ดกับรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ Volvo EX90 Premium SUV 7 ที่นั่ง ที่สามารถเดินทางไกลได้ถึง 745 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

สำหรับแคมเปญพิเศษในงาน Volvo Phranakorn Fest ครั้งที่ 6

สิทธิพิเศษและของแถมสูงสุดถึง 1,500,000 บาท รถยนต์ในกลุ่ม Plug-in Hybrid/Volvo XC90, XC60, XC40, V60, S90, S60 สำหรับลูกค้าจองในงาน

ทุก ๆ การสั่งซื้อ จะได้รับ Privilege Card เป็นบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท ให้กับลูกค้าที่ได้รับมอบรถยนต์ภายในเดือนมีนาคม

วอลโว่ พระนคร หนึ่งในผู้แทนจำหน่ายรถยนต์วอลโว่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ให้บริการครอบคลุม ทั้งงานขาย, งานบริการหลังการขาย และศูนย์บริการซ่อมสี-ตัวถังมาตรฐานครบวงจรแบบ One Stop Service

‘การบินไทย – แอร์เอเชีย’ ประกาศกฎเหล็กใหม่ ห้ามใช้หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน

(7 มี.ค.68) ‘การบินไทย - แอร์เอเชีย’ ประกาศห้ามใช้หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน ขณะที่หลายสายการบินทั่วโลกทยอยออกมาตรการ หลังเหตุไฟไหม้บนห้องโดยสารเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกประกาศถึงผู้โดยสารเรื่องเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร โดยขอแจ้งให้ทราบว่าผู้โดยสารไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้หรือชาร์จพาวเวอร์แบงก์ (แบตเตอรี่สำรอง) ตลอดระยะเวลาการเดินทาง ทั้งนี้ กฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี ผู้โดยสารยังคงสามารถนำ พาวเวอร์แบงก์ ขึ้นเครื่องได้ ตามความจุตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำหนด

โดยหลักเกณฑ์การนำแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank ขึ้นเครื่องบินตามระเบียบที่ กพท.กำหนดนั้นแบตเตอรี่สำรองหรือ Power Bank ไม่สามารถนำไปในรูปแบบสัมภาระลงทะเบียนเพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ (Checked Baggage) เนื่องจากในระหว่างการเดินทาง แบตเตอรี่สำรอง ซึ่งมีส่วนประกอบจากลิเธียม(Lithium) อาจเกิดความร้อนสะสมจนก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดได้

ขณะที่ผู้โดยสารจะต้องนำแบตเตอรี่สำรองไปในรูปแบบสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง (Carry On) โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) ได้กำหนดขนาดความจุของแบตเตอรี่สำรองที่นำติดตัวขึ้นเครื่องได้ คือ

- หากแบตเตอรี่สำรองมีขนาดความจุ ไม่เกิน 100 Wh (Watt-Hour) หรือ 20,000 mAh (milli ampere-hour) ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 20 ชิ้น

- หากขนาดความจุเกิน 100 Wh (Watt-Hour) หรือ 20,000 mAh แต่ไม่เกิน 160 Wh (Watt-Hour) หรือ 32,000 ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น

- แต่ถ้าขนาดความจุเกิน 160 Wh (Watt-Hour) หรือ 32,000 mAh จะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ในทุกกรณี

ทั้งนี้ กพท.และสายการบินของไทย ยังใช้หลักเกณฑ์ตามมาตรฐานและคำแนะนำของ ICAO พร้อมขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบขนาดความจุของแบตเตอรี่สำรอง และสภาพของแบตเตอรี่สำรองให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อนการเดินทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดสายการบินแอร์เอเชีย ได้ออกมาตรการแจ้งถึงผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัยต่อส่วนรวม สายการบินแอร์เอเชียขอความร่วมมือทุกท่านงดใช้แบตเตอรี่สำรองเพื่อชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในระหว่างเที่ยวบิน 

สำหรับการพกแบตเตอรี่สำรองกับแอร์เอเชีย มีข้อกำหนดประกอบด้วย

1. สำหรับแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power bank นั้นต้องพกติดตัวขึ้นเครื่องบิน เท่านั้น!

2. ต้องมีฉลากระบุกำลังไฟชัดเจน

3. อุปกรณ์ต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ชำรุด

4. มาเช็กความจุไฟฟ้าแบตเตอรี่สำรองตามมาตรฐานความปลอดภัยของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) กำหนด

อย่างไรก็ตาม สายการบินต่างชาติหลายสายการบิน ได้ออกประกาศห้ามใช้พาวแบงก์บนเครื่องบินก่อนหน้านี้ โดยเริ่มจาก Air Busan ประเทศเกาหลีใต้ ที่ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารเก็บ พาวเวอร์แบงก์ (แบตเตอรี่สำรอง) ไว้ในช่องเก็บสัมภาระ โดยให้พกติดตัว และไม่อนุญาตให้ชาร์จขณะโดยสารบนเครื่อง

โดยมาตรการดังกล่าวคาดว่า ป้องกันการเกิดปัญหา พาวเวอร์แบงก์ (แบตเตอรี่สำรอง) ลุกไหม้บนเครื่องบินนั่นเอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top