Thursday, 24 April 2025
NEWS

กฟผ. – มูลนิธินายช่างไทยฯ เตรียมนำทีมวิศวกรลงพื้นที่ ตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

(1 เม.ย. 68) กฟผ. จับมือ มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา จัดอบรมความพร้อมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. ก่อนเริ่มลงพื้นที่ 4 – 5 เมษายน 2568 นี้ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. ที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น 130 โรงเรียนในพื้นที่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และสมุทรสงคราม หวังฟื้นฟูอาคารเรียนที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ศูนย์กลางประเทศเมียนมา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนในหลายพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งโรงเรียนภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กฟผ. จึงร่วมกับมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เตรียมนำทีมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. กว่า 200 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรียนของ สพฐ. เบื้องต้น จำนวน 130 โรงเรียน ใน 7 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม ระหว่างวันที่ 4 - 5 เมษายน 2568 นี้ หวังฟื้นฟูเพื่อให้ครู นักเรียนกลับเข้าเรียนและสอบได้โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ กฟผ. และมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เตรียมจัดอบรม “แนวทางการตรวจสอบอาคาร หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพื่อเตรียมพร้อมก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบโรงรียนในสังกัด สพฐ.” ให้กับทีมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และนายวสวัตติ์ กฤษศิริธีรภาคย์ เลขาธิการมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา และอดีตนายกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร เพื่อให้วิศวกรและช่างอาสา กฟผ. ทุกคน ได้รับความรู้ ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบสภาพอาคารที่ผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้อย่างถูกต้อง ในวันพุธที่ 2 เมษายน 2568 ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 3 อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 

“กฟผ. ขอขอบคุณ วิศวกร และช่างอาสา ทุกท่านที่ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. ในครั้งนี้ และ กฟผ. ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ เคียงข้างคนไทยทุกวิกฤต” นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว

“พล.ต.อ.กรไชยฯ” ตรวจสอบอาคารที่ทำการ สตม. และ บช.สอท. รวมทั้ง อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สตม. สร้างความเชื่อมั่นให้กับตำรวจและผู้ติดต่อราชการ

(1 เม.ย. 68) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้ร่วมสำรวจความเสียหายของอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ (อาคาร 30 ชั้น) ที่ทำการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี และอาคารที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ จากกรณีเเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. , พล.ต.ต.สมิทธิ สุวรรณสุขโรจน์ ผู้บังคับการกอง
โยธาธิการ และคณะผู้เชี่ยวชาญ ร่วมตรวจสอบ

นอกจากนี้ วานนี้ (31 มีนาคม 2568) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กรไชยฯ พร้อมคณะ ได้ร่วมตรวจสอบอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคาร 32 ชั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ต.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง , ผู้บังคับการกองโยธาธิการ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบ

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่สำรวจอาคารที่ทำการและที่พักอาศัย หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ผู้ที่พักอาศัยในอาคาร และประชาชนที่ติดต่อราชการต่อไป

เอกอัครราชทูตจีนแสดงความเสียใจ พร้อมหนุนไทยหาสาเหตุอาคารถล่ม

(1 เม.ย. 68) นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าทางการจีนจะร่วมมือกับไทยในการสืบหาสาเหตุ เนื่องจากมีบริษัทจีนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารนี้ โดยรัฐบาลจีนได้สั่งให้บริษัทผู้ก่อสร้างให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งให้ความเชื่อมั่นว่าการสอบสวนของทางการไทยจะเป็นไปอย่างยุติธรรม

ขณะที่ นายอนุทินกล่าวขอบคุณทางการจีนที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือประเทศไทยเมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดที่อาคาร สตง. แห่งใหม่ที่พังถล่ม 

ส่วนอาคารอื่น ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น ๆ ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยและยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทางการไทยจึงเร่งสืบหาสาเหตุของการถล่ม เนื่องจากอาคารดังกล่าวเพิ่งสร้างเสร็จและถูกออกแบบให้ทนต่อแผ่นดินไหว กระทรวงมหาดไทยจึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยให้รายงานผลภายใน 7 วัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ ไม่ทอดทิ้งตำรวจเสียสละอุทิศตนเลือกประชาชนจนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือตำรวจฮีโร่ที่บาดเจ็บจากการเข้าระงับเหตุที่เทอร์มินอล 21 และตำรวจอีโอดีที่บาดเจ็บจากเหตุระเบิดใน จ.ยะลา

(31 มี.ค. 68) เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ระดับ ตร./ประธานที่ปรึกษาโครงการครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) , คุณสมฤทัย บุญสม ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล ,
พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผู้บังคับการกองสารนิเทศ/รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (รอง ผบก.สปพ.) , ว่าที่ พ.ต.อ.อาทิตย์ วงษ์จันนา ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. ,พ.ต.ท.เชษฐพร บัวจันทร์ รอง ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. , พ.ต.อ.มนัส รุ่งนาค หัวหน้าสำนักงานสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคณะแม่บ้านตำรวจฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ "จ.ส.ต.กฤษดา  การุญ" ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจฮีโร่ที่บาดเจ็บสาหัสจากการถูกคนร้ายยิงเข้าที่ศีรษะ ขณะเข้าระงับเหตุที่ห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 ณ บ้านพักอิสระกองบินตำรวจ โดย พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ และ คุณนภัสนันท์ฯ เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ มอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือให้แก่ จ.ส.ต.กฤษดา การุญ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และยกย่องในความกล้าหาญ ถือเป็นแบบอย่างของการปฏิบัติหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างแท้จริง จากนั้นคณะได้เยี่ยมชมและอุดหนุนสินค้าจากร้านของครอบครัว จ.ส.ต.กฤษดาฯ ที่เปิดขายบริเวณหน้าบ้านพัก เพื่อหารายได้พิเศษด้วย 

จากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ฯ , คุณจิดาภา ปุระธนานนท์ รักษาการประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 , พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 , พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี , พ.ต.อ.มนัส รุ่งนาค หัวหน้าสำนักงานสมาคมแม่บ้านตำรวจ , คณะข้าราชการตำรวจ และคณะแม่บ้านตำรวจฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ร.ต.ท.ยุทธนา เทพสถิต รอง สว.กก.ตชด 14 เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ค่ายพระมงกุฎ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิดที่ ต.กาตอง ต.บาโร๊ะ จ.ยะลา เมื่อปี 2560 ปัจจุบันพักรักษาตัวที่บ้านพักใน จ.สุพรรณบุรี โดย พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ และ คุณนภัสนันท์ฯ เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ มอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือให้แก่ ร.ต.ท.ยุทธนาฯ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ตามโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” 

‘สุริยะ’ ชงครม. เปิด ‘มอเตอร์เวย์ฟรี’ 7 วัน รับสงกรานต์ 68 ช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทางให้ประชาชน

(31 มี.ค. 68) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 1 เม.ย.นี้ กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอที่ประชุมเห็นชอบการยกเว้นค่าผ่านทาง หรือ ทางด่วนฟรี บนทางหลวงพิเศษ หรือ มอเตอร์เวย์ฟรีหมายเลข 7 และหมายเลข 9 รวมระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 11 เม.ย.68 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 17 เม.ย.68

“กระทรวงคมนาคม จะเสนอการเว้นค่าทางด่วนช่วงสงกรานต์ ปีนี้ เข้ามาให้ครม. อนุมัติ โดยจะมีระยะเวลา 7 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้ประชาชน” นายสุริยะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประกาศให้ขึ้นทางด่วนฟรี ที่ผ่านมากรมทางหลวง ได้จัดทำกำหนดยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษดังต่อไปนี้ 1. ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง ตอนกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางวัว) ทางแยกเข้าชลบุรี ทางแยกเข้า ท่าเรือแหลมฉบัง ทางแยกเข้าพัทยา และตอนบ้านหนองปรือ - บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3 (บ้านอำเภอ) ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง พ.ศ. 2564

2.ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9  (ก) ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับบางขุนเทียน ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม การใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับ บางขุนเทียน พ.ศ.2555 (ข) ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน - บางพลี ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน - บางพลี พ.ศ.2558

ส่วนการยกเว้นค่าผ่านทางของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย นั้น รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ขณะนี้ยังรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ฟิออร่าคลินิก สาขาที่ 5 ปักหมุดย่านบางนา ตอบโจทย์ทุกความงามระดับพรีเมียม

(31 มี.ค. 68) ฟิออร่า คลินิกเสริมความงามชั้นนำที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการความงามมากกว่า 9 ปี เปิดตัวสาขาที่ 5 ที่โครงการเดอะลิตเติลวอร์คบางนา ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความงามและผิวพรรณ ด้วยทีมแพทย์ผู้มากประสบการณ์ตลอดจนเทคโนโลยีความงามที่ทันสมัย ได้มาตรฐานจากบริษัทชั้นนำและการดูแลความงามเฉพาะบุคคล ตอบโจทย์ทุกความงามระดับพรีเมียม พร้อมกิจกรรมพิเศษและโปรโมชั่นสุดพิเศษในช่วงเปิดตัวมากมาย 

นพ.ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ ผู้ก่อตั้ง ฟิออร่าคลินิก เปิดเผยถึงความตั้งใจในการเปิดฟิออร่า คลินิกว่า ด้วยความที่เป็นหมอประจำในพื้นที่ จ. สมุทรสาคร มาก่อน และมองเห็นโอกาสในอุตสาหกรรมความงาม จึงเริ่มก่อตั้ง ฟิออร่า คลินิกขึ้นใน มหาชัยเป็นที่แรกในปี 2558 ประกอบกับเทรนด์การให้ความสำคัญกับสุขภาพ รูปลักษณ์และเสริมบุคลิกภาพมากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง โดยไม่จำกัดเฉพาะเพียงแค่ผู้หญิง แต่ขยายไปถึงผู้ชายและเพศทางเลือกในทุกช่วงวัยเพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ สร้างบุคลิกภาพที่ดีขึ้นและมีการเปิดเผยมากยิ่งขึ้น ด้วยจุดเด่นด้านการดูแลความงามให้เหมาะสมรายบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด จนทำให้ ฟิออร่า คลินิก มหาชัย ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้บริการทั้งในพื้นที่ และ จังหวัดใกล้เคียง ต่อมาจึงร่วมมือกับ นพ.กริชชากร จุรีมาศ แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน ผิวหนังเวชศาสตร์ความงาม ร่วมก่อตั้ง ฟิออร่าคลินิก สาขาอรัญประเทศ และขยายสู่สาขาอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง  นำมาสู่การเปิดตัว ฟิออร่า คลินิกสาขาที่ 5 ณ โครงการลิตเติ้ลวอล์ค บางนา อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มี.ค.2568  

ทั้งนี้จากการมองเห็นโอกาสในการเติบโต จากอุตสาหกรรมความงามในไทย ปี 2568 มีมูลค่าประมาณ 76,500 ล้านบาท และเติบโตเฉลี่ย 2.8% ต่อปี  ( ข้อมูลจาก www.kasikornresearch.com ) ตลาดเสริมความงามในไทยถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้คลินิกเสริมความงามขยายตัวมากขึ้น พร้อมความมุ่งมั่นของหมอเพชร ที่อยากให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการความงามที่ได้มาตรฐาน  และผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด ในราคาที่จับต้องได้ สำหรับหัตถการแบบไม่ผ่าตัดที่ได้รับความนิยม อันดับ 1 คือ โบท็อกซ์ รองลงมาคือ ฟิลเลอร์, ไฮฟู, เทอร์มาจ และการฉีดฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน และปลอดภัย  ซึ่งฟิออร่าคลินิกสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างครอบคลุม ด้วยปัจจัยเสริมเหล่านี้ทางคลินิกตั้งเป้ารายได้ เติบโต 30% ในปี 2568 

นพ.กริชชากร จุรีมาศ แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน ผิวหนังเวชศาสตร์ความงาม ผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวเสริมว่า  จากความสำเร็จในการขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอย่างมหาชัย  อรัญประเทศ และจันทบุรีแล้ว มองเห็นโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ ตลาดเสริมความงามในไทย ทั้งนี้ เล็งเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่บางนา ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางไปยังภาคตะวันออกที่สะดวกสบาย ตัดสินใจเปิดสาขาที่ 5 โดยมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าในพื้นที่ดังกล่าว และสร้างฟิออร่า คลินิกให้เป็นคลินิกความงามประจำจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในกรุงเทพมหานครเท่านั้น

ฟิออร่าคลินิก สาขาที่ 5 ตั้งอยู่ ณ โครงการลิตเติ้ล วอล์ค บางนา ทำเลศักยภาพสูงใจกลางแหล่งธุรกิจและไลฟ์สไตล์ มุ่งมั่นมอบประสบการณ์ความงามระดับพรีเมียมด้วยแพทย์ผู้ชำนาญการ ประสบการณ์มากกว่า 9 ปี เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์มาตรฐานสากล พร้อมการดูแลรายบุคคลและติดตามผลหลังทำอย่างใกล้ชิด ภายใต้บรรยากาศคลินิกที่สะอาด และสะดวกสบาย รองรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS และทางด่วน พร้อมเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง พร้อมขยายฐานลูกค้าด้วยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อมอบผลลัพธ์ความงามที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนให้กับทุกคน

คุณปาย สิตางค์ ปุณณภพ นักแสดงสาวผู้ซึ่งให้ฟิออร่า คลินิกดูแลด้านความงามและผิวพรรณมาอย่างยาวนาน กว่า 6 ปี กล่าวด้วยความมั่นใจว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จากคนที่ไม่เคยดูแลตัวเอง แต่อยากสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง จึงมองหาผู้ชำนาญการในการดูแล จนมารู้จัก ฟิออร่าคลินิก ซึ่งเริ่มตั้งแต่ได้รับการดูแลครั้งแรกจนปัจจุบันมากวว่า 4ปี  ฟิออร่าไม่เคยทำให้ผิดหวัง ด้วยแพทย์ที่หมั่นฝึกฝนหาความรู้ แก้ปัญหาให้ปายตรงจุดและการดูแลติดตามอย่างใกล้ชิดหลังการดูแล ทำให้ปายมั่นใจและไว้วางใจให้ฟิออร่า ดูแลมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลใบหน้า ผิวพรรณ การปรับรูปหน้า หรือการทำทรีตเมนต์ต่างๆ ฟิออร่าคลินิกตอบโจทย์ความต้องการของปายได้ครบทุกด้านค่ะ

เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวสาขาใหม่ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ ขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์ความงาม พร้อมรับคำปรึกษาได้แล้ววันนี้ ที่คลินิกเปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 10.00– 20.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร :081 662 5594  Facebook : FioraClinic ฟิออร่าคลินิก และ Line: @Fioraclinic 

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/Surgery-IAO119-FB-2025-02-25.aspx?utm_source

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท เอ้าท์เพอร์ฟอร์ม สแตรทิจีส์ จำกัด (ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์)
ปางสมาธิ์ สุขสมัย(ปาง) 099-1914626

กองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดงานเลี้ยงรับรองกำลังพลหมู่เรือฝึกผสม Blue Strike 2025 บนเรือรบจีน

(31 มี.ค. 68) บนเรือรบจีน บริเวณท่าเทียบเรือ Maxie เมืองจ้านเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน กองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดงานเลี้ยงรับรองกำลังพลหมู่เรือฝึกผสม Blue Strike 2025 บนเรือรบจีน ในโอกาสที่เดินทางเข้าร่วมการฝึกผสม Blue Strike 2025  

โดยมี พลเรือโท กรวิทย์ ฉายะรถี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนกองทัพเรือ และพลเรือตรี วีระชัย หลีค้า รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ผู้แทน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลหมู่เรือฝึกผสม Blue Strike 2025 รวมทั้งนักเรียนนายเรือ ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองบนเรือรบจีน บริเวณท่าเทียบเรือ Maxie เมืองจ้านเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรี เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และพัฒนาความร่วมมือในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

‘หมอเหรียญทอง’ แชร์เคสผู้ป่วยเข้าโครงการ 3,000 ผ่าตัดทุกโรค ตอบโจทย์ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่พร้อมจ่ายบางส่วนไม่ต้องรอคิว

(31 มี.ค. 68) พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ จีรนันท์ ประยงค์อุทัย ได้โพสต์ถึงผม เมื่อ 29 มี.ค.68 เวลา 13.59 น. ความว่า

"คุณหมอคะวันนี้หนูตัดสินใจพาแฟนไปรักษาไส้เลื่อนที่มงกุฎวัฒนะโดยใช้โครงการ 3000 ผ่าตัดทุกโรค 
พอไปถึงกรอกข้อมูลที่เวชระเบียนพยาบาลให้ขึ้นไปพบหมอที่ชั้น 5 คุณหมอซักประวัติแล้วนัดมาตรวจปอดตรวจหัวใจวันอังคารเลยค่ะ 

หมอบอกว่าถ้าไม่มีอะไรจะนัดผ่าในวันที่ 4 เลย แฟนหนูดีใจมากเขาบอกว่าไม่ต้องทนเจ็บไม่ต้องเดินขาถ่างอีกแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้หนูกับแฟนไปคลินิก - รพ.รัฐ เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ต้องหยุดทำงาน หยุดขายของ เทียวไปเทียวมาไม่รู้กี่รอบ สุดท้าย รพ.รัฐ เลื่อนผ่าไปอีก 2-3 ปี เพราะคิวเต็ม 

มาถึงวันนี้หนูรู้สึกเหมือนเทวดามาช่วยคนธรรมดาอย่างเรา หนูขอบพระคุณคุณหมอมากๆค่ะ"

โครงการ '3,000 บาท ผ่าตัด(หัตถการรักษา)ทุกโรค ไม่ต้องรอผ่าตัดนานข้ามปี เฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเท่านั้น ทุกเขต ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ไม่ต้องขอใบส่งตัว 

โทร. 02-574-5000 กด 0 แล้วแจ้งปัญหาการรอผ่าตัด หรือ หัตถการรักษา ...โอปะเรเตอร์จะโอนสายไปยังแผนกที่เกี่ยวข้อง หรือ สำนักงาน ผอ.รพ.

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. แก้ปัญหาให้แก่ผู้ป่วยบัตรทองที่รอคอยการผ่าตัดหรือการรักษานานข้ามปี
2. แก้ปัญหา รพ.รัฐ ที่มีผู้ป่วยบัตรทองจำนวนมากรอคอยการผ่าตัดหรือการรักษา
3. แก้ปัญหาความยากลำบากในการขอใบส่งตัวให้แก่ผู้ป่วยบัตรทอง

นี่คืออีกหนึ่งแคมเปญย่อยของโครงการบัตรทองแพลตตินั่ม รพ.มงกุฎวัฒนะ 'ผู้ป่วยบัตรทอง กัดฟันพึ่งตนเอง จ่ายค่ารักษาเองในราคา รพ.รัฐ หากต้องแอดมิตใช้สิทธิบัตรทอง สปสช.จ่ายให้ ผู้ป่วยบัตรทองจากทุกคลินิก ทุกเขต ทุกจังหวัด ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว'

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
30 มี.ค.68 เวลา 8.46 น.
หมายเหตุ ผมไม่ใช่เทวดานะครับ ผมเป็นแค่ 'คนทำมาหากินกับคนป่วย' เท่านั้น

‘นักวิชาการด้านเเผ่นดินไหว’ ชี้ ‘รอยเลื่อนสะกาย’ เป็นแผ่นดินไหวแบบซูเปอร์เชีย เคลื่อนตัวแนวระนาบส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือน - การพังทลายสูง

(31 มี.ค. 68) ดร.ไพบูลย์ นวลนิล นักวิชาการด้านแผ่นดินไหว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Namom Thoongpoh ว่า แผ่นดินไหวแบบซูเปอร์เชีย (supershear earthquake) คือแผ่นดินไหวที่ความเร็วของการพังทลาย (rupture propagation) เร็วกว่าความเร็วของคลื่นเอส มีการกระจายคลื่นแบบกรวย เหมือน คลื่นซูเปอร์โซนิค ทำให้เกิดการซ้อนคลื่นขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนสูงกว่าปกติ

แผ่นดินไหวแบบนี้จะเกิดในรอยเลื่อนแบบเคลื่อนตัวแนวระนาบ (strike slip fault) ซึ่งรอยเลื่อนสะกายเป็นรอยเลื่อนชนิดนี้

จากข้อมูลงานวิจัยที่ผ่านมา มีแผ่นดินไหวในลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายที่หลายที่ เช่น 

2023 Turkey–Syria earthquakes, Mw 7.8, Anatolian Fault
2020 Caribbean Sea earthquake, Mw 7.7, Oriente transform fault 
2018 Sulawesi earthquake, Mw 7.5, Palu-Koro Fault
2008 Sichuan earthquake, Mw 7.9,  Longmenshan Fault
2001 Kunlun earthquake, Mw 7.8 , Kunlun fault
เป็นต้น

ดังนั้นก่อนที่จะสรุปว่าเหตุใด กทม. จึงได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนมาก ต้องติดตามข้อมูลจากนักแผ่นดินไหววิทยากันต่อไป ไม่ใช่ดินอ่อนเพียงอย่างเดียว ดังที่เราเข้าใจ

สบส.จัดสัมมนาพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและสถาบันการศึกษาด้านการบริการเพื่อสุขภาพเสริมมาตรฐานการเรียนการสอน

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข จัดสัมมนาพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สถาบันการศึกษาภาครัฐและเอกชน เดินหน้าพัฒนา ควบคุม กำกับมาตรฐาน การจัดการเรียนการสอนด้านการบริการเพื่อสุขภาพ รวมถึงสร้างความรู้ ความเข้าใจในการเป็นแหล่งฝึกปฏิบัติทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติที่มีคุณภาพ พร้อมส่งบุคลากรด้านการบริการเพื่อสุขภาพสู่การทำงานจริง ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566-2570) หมุดหมายที่ 4 ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง

ซึ่งกรม สบส. มีนโยบายในการดำเนินงานเพื่อตอบรับกับแผนชาติ ด้วยการส่งเสริม พัฒนาควบคุม กำกับมาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ บุคลากร และมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ  ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ผ่านการอนุญาต 17,093 แห่ง แบ่งเป็น กิจการสปา 1,153 แห่ง กิจการนวดเพื่อสุขภาพ 14,673 แห่ง กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม 233 แห่งและกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง 1,034 แห่ง และมีสถาบันการศึกษาที่ผ่านการรับรองหลักสูตรฯ 

จากกรม สบส. 621 สถาบัน ได้แก่ หลักสูตรนวดสปา 419 แห่ง หลักสูตรผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง 202 แห่ง
และเพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนา ควบคุม กำกับมาตรฐานสถาบันการศึกษาและสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้มีมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 และยกระดับมาตรฐานการศึกษาและการฝึกปฏิบัติการทำงานจริงไปพร้อมกับการเรียนรู้ให้มีคุณภาพสูงขึ้น ตอบสนองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอย่างยั่งยืน จึงได้จัดสัมมนาพัฒนาศักยภาพสถาบันการศึกษา หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ที่จัดการเรียนการสอนด้านการบริการเพื่อสุขภาพ และสถานประกอบการเพื่อสุขภาพขึ้น

ทันตแพทย์อาคม รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า การสัมมนาครั้งนี้นับเป็นการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสุขภาพ สร้างกระบวนการพัฒนาบุคลากรและการให้บริการที่เป็นมาตรฐาน ตลอดจนถือเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ทำให้ผู้รับบริการในสถานประกอบการได้รับการบริการและการดูแลที่มีคุณภาพมาตรฐานจากบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อให้เศรษฐกิจสุขภาพเติบโตอย่างยั่งยืน

เจนกิจ นัดไธสง รายงาน

ชาวเน็ตชื่นชม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างซีคอนฯ อาสาพาลูกค้ากลับบ้าน หลังแผ่นดินไหวทำจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ

(30 มี.ค. 68) จากกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้านด้วยความยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความวุ่นวายยังมีเรื่องราวดีๆ ที่สร้างรอยยิ้มให้กับสังคม

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chaiyaporn Chinaprayoon ได้แชร์ภาพและข้อความชื่นชมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค ที่อาสานำมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวออกมาช่วยรับ-ส่งลูกค้าที่ติดอยู่ภายในห้างฯ และบริเวณใกล้เคียงจนถึงช่วงดึก เพื่อให้ทุกคนได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

“ลูกค้าไม่ท้อ รปภ. ไม่ทิ้ง” เฟซบุ๊กของ Chaiyaporn Chinaprayoon โพสต์ข้อความดังกล่าว สะท้อนถึงน้ำใจของเจ้าหน้าที่ที่อาสาขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งลูกค้าโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน นอกจากนี้ยังมีลูกค้าหลายคนที่ได้รับความช่วยเหลือเข้ามาเขียนข้อความขอบคุณทีมงานรักษาความปลอดภัยของห้างฯ ที่ทุ่มเทช่วยเหลือประชาชนในช่วงเวลาคับขัน

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวโซเชียลอย่างมาก โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่แสดงออกถึงความมีน้ำใจและจิตอาสา หลายคนมองว่านี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความมีน้ำใจของคนไทยที่ช่วยเหลือกันแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว แต่ยังแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่ดีงามของคนไทย ที่ไม่ทอดทิ้งกันแม้ในยามวิกฤติ

‘เอกนัฏ’ สั่งตรวจสอบมาตรฐานเหล็กเส้นในตึก สตง. ถล่มหลังแผ่นดินไหว หวั่นใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน เตรียมขยายผลไปยังโรงงานผลิตที่เกี่ยวข้อง

(30 มี.ค. 68) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหวที่ผ่านมา 

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ทีมงานพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปเก็บหลักฐานที่จุดเกิดเหตุบริเวณตึก สตง. ที่ถล่ม ซึ่งหากพบว่าผู้ก่อสร้างใช้เหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐาน จะดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงขยายผลไปยังโรงงานผลิตเหล็กที่เกี่ยวข้องด้วย

นายพงศ์พลกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบแบบแปลนโครงสร้างตึก สตง. ที่กำลังก่อสร้างมีความสูงถึง 30 ชั้น คาดว่าต้องใช้เหล็กเส้นข้ออ้อย (เหล็กเส้นกลมมีบั้ง) ขนาด DB16, DB20, DB25 ในการเสริมแรงโครงสร้างคอนกรีต โดยเฉพาะในส่วนของเสา คานพื้น และฐานราก เพื่อรองรับน้ำหนักและแรงอัด แรงดึง และแรงเฉือน ซึ่งหากมีการใช้เหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานไม่เป็นไปตามหลักทางวิศวกรรม จะทำให้โครงสร้างเปราะและแตกหักง่าย ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อโครงสร้างอาคารในกรณีที่มีแรงกระแทกหรือแผ่นดินไหว

การผลิตและจำหน่ายเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงและไม่สามารถปล่อยผ่านได้ เพราะอาจส่งผลเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้ รัฐมนตรีเอกนัฏได้ดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องนี้มาโดยตลอด

โดยก่อนหน้านี้ได้ดำเนินคดีกับผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กที่เป็นบริษัทร่วมจดทะเบียนและบริษัทต่างชาติไปแล้วถึง 7 ราย ล่าสุดได้สั่งปิดโรงงานผลิตเหล็กทุนข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย และพบเหล็กเส้นข้ออ้อย SD 40 และ SD 50 ที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน มอก. 24-2559 จากการทดสอบของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและอันตรายต่อประชาชน และเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยในทุกขั้นตอนของการก่อสร้างทั่วประเทศ

ผบ.ตร.สั่งย้ำทุกหน่วยคงเข้มเร่งช่วยเหลือประชาชนเหตุแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ระดมตำรวจดูแลมิติจราจร งานอาชญากรรมป้องกันมิจฉาชีพซ้ำเติมประชาชนทุกรูปแบบ พร้อมส่งชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมค้นหาผู้รอดชีวิต เปิดหน่วยนิติเวช ตรวจDNA เปรียบเทียบ 

(30 มี.ค. 568) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการดูแลพี่น้องประชาชนหลังเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว ว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการทุกหน่วยยังคงความเข้มในการดำเนินการบูรณาการร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกการจราจร ตลอดจนการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน หลังเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่ผ่านมา โดยให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) และศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อบริหารจัดการร่วมกับหน่วยต่างๆ  ดังนี้

1) การช่วยค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุตึกถล่ม และการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล : ได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ส่งกำลังพลชุดปฏิบัติการเข้าร่วมช่วยเหลือ ทั้งในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , ตำรวจภูธร รวมทั้งมีสุนัขตำรวจ และโดรนตรวจจับความร้อน ร่วมหน่วยเกี่ยวข้องสำรวจช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในภายในตึก ซึ่งขณะนี้ยังร่วมทำงานเข้มข้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ทำการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล พร้อมขอฝากประชาสัมพันธ์ญาติผู้ได้รับผลกระทบสูญหายจากเหตุอาคารถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหว ให้มาตรวจเก็บ DNA เพื่อตรวจเปรียบเทียบได้ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ  

2) การดูแลอำนวยการจราจร : ได้สั่งระดมตำรวจจราจรทุกพื้นที่ออกให้การจราจรดูแลพี่น้องประชาชน มีกองบังคับการตำรวจจราจรเป็นหน่วยงานในการบริหารจัดการจราจร  มีการจัดกำลังเป็นชุดปฏิบัติรถนำรถพยาบาล ขนย้ายผู้ป่วย ขนย้ายเครื่องมือ กำลังพล เพื่อให้สามารถช่วยเหลือเหตุได้อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ ขณะนี้ภาพรวมการจราจรเริ่มสู่สถานการณ์ปกติ เหลือเพียงจุดด่วนดินแดงที่ยังปิดให้บริการ ซึ่งได้ประสานงานกับเอกชน เพื่อให้สามารถเปิดการจราจรให้เร็วที่สุดและต้องปลอดภัยที่สุดด้วย 

3) การดูแลความปลอดภัย : ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจนครบาลที่มีการเปิดสวนสาธารณะ หรือสถานที่อื่นๆ ให้เป็นที่พักชั่วคราวของประชาชน ต้องจัดสายตรวจดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งการเพิ่มความเข้มป้องกันมิจฉาชีพที่จะฉวยโอกาสซ้ำเติมพี่น้องประชาชน โดยจะต้องเพิ่มวงรอบตรวจตรามากขึ้น รวมทั้งการปฏิบัติการทางสื่อโซเชียล ออนไลน์ โดยมอบหมายให้ตำรวจไซเบอร์เฝ้าระวังการส่ง SMS หรือกลลวงต่างๆ ที่จะไปหลอกหลวงประชาชน หากพบให้รีบดำเนินการจับกุม มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง 

นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำกับกำลังพลทุกภาคส่วน “ทุกวินาทีมีค่า” ตำรวจจะต้องทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องในห้วงนี้ ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งสนับสนุน ช่วยเหลือค้นหาผู้ประสบภัย รักษาชีวิต จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย รวมทั้งการปกป้องรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน การดูแลอำนวยความสะดวกการจราจรอย่างเต็มกำลัง รวมทั้งได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ลงไปตรวจสอบดูแลอาคาร ที่พัก ความปลอดภัยของข้าราชการตำรวจ ดูแลสวัสดิการความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชา และช่วยเหลือทุกด้าน

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการความเหลือสามารถติดต่อที่หมายเลข 191 หรือ 1599 หรือติดต่อสอบถามการจราจรที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจรกลาง 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ผบช.ภ.2 เยี่ยมให้กำลังใจ ทีมตำรวจ ภ.2 ร่วมภารกิจค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร กำชับทำเต็มที่ ทุกวินาทีมีค่า

(30 มี.ค. 68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ ภ.2 จำนวน 200 นาย ที่มาร่วมภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยอาคารถล่มจากแผ่นดินไหว ย่านจตุจักร กทม. โดยเดินทางมาถึงตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจจาก ภ.2 ได้รับภารกิจสนับสนุนด้านการจราจร ดังนั้นนอกจากนำอาหาร น้ำดื่มมาฝาก ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ยังได้กำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ช่วยเหลือสนับสนุนเจ้าหน้าที่หน่วยอื่น ๆ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้เจ้าหน้าที่ที่ร่วมภารกิจ ขณะเดียวกันต้องยิ้มแย้มแจ่มใส สื่อสารกับประชาชนอย่างเป็นมิตร โดยให้เข้าใจว่าภารกิจครั้งนี้ “ทุกวินาทีมีค่า” เป็นภารกิจที่แข่งขันกับเวลา และมีความตึงเครียด ทั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง และจะอยู่เคียงข้างประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

วันเดียวกัน พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2  ได้เดินทางไปยัง ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว (ศพข.) บช.ส. กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่มาปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ โดยได้ให้กำลังใจและแนะนำแนวทางการปฏิบัติงาน มอบเครื่องดื่มและผลไม้เพื่อสนับสนุนกำลังพล เพิ่มขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน 5 มุกมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสแผ่นดินไหว ซ้ำเติมประชาชน

(30 มี.ค. 68) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือนร้อนจากเหตุแผ่นดินไหว มาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงพี่น้องประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอเตือนให้พี่น้องประชาชนทราบถึง  5 มุกมิจฉาชีพ หลอกลวงประชาชน หลังเกิดแผ่นดินไหว ดังนี้

1. หลอกขโมยข้อมูลส่วนบุคคล - แอบอ้างเป็นหน่วยงานต่าง ๆ ให้ลงทะเบียนเพื่อขอรับการช่วยเหลือ หลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน บัตรเครดิต บัญชีธนาคาร

2. หลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน - ส่งลิงก์หลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อรับความช่วยเหลือ สุดท้ายเป็นแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องระยะไกล ดูดเงินจากบัญชีธนาคาร

3. หลอกรับบริจาค - อาศัยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของคนไทย หลอกเปิดรับบริจาคจากพี่น้องประชาชน

4. แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ หลอกเอาเงิน - อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ติดต่อมาว่าจะให้ความช่วยเหลือ แต่หลอกให้โอนเงินมาเป็นค่าดำเนินการ หรือยืนยันตัวตน ซึ่งไม่เป็นความจริง

5. ข่าวปลอม สร้างความตื่นตระหนก - เผยแพร่ข่าวปลอมหรือบิดเบือนเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหว โดยอาจมีการนำภาพเก่า ภาพจากเหตุการณ์อื่น มาประกอบกับข้อความเพื่อให้คนตื่นตกใจ

โดยขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังในการส่งต่อข้อมูลข่าวสาร และขอให้ตรวจสอบก่อนว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ก่อนที่จะส่งต่อ หรือกรอกข้อมูลส่วนบุคคล
 

หากพี่น้องประชาชนพบเห็น หรือได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงของมิจฉาชีพ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top