Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

'ดร.อานนท์' รีวิว '๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ' ประวัติศาสตร์อันซับซ้อนที่สื่อสารออกมาได้อย่างสนุก

(14 มี.ค.67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์บทวิจารณ์ 'แอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ' (2475 dawn of revolution) สิ่งที่ชาวสามกีบไม่ควรพลาด ว่า...

ผมเพิ่งได้รับชม ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติจบไป

ขอชมเชยคณะผู้จัดทำที่เล่าเรื่องราวและข้อเท็จจริงอันแสนจะยุ่งยากซับซ้อนให้เข้าใจได้โดยง่าย มีความแม่นยำทางประวัติศาสตร์ และทำให้ติดตามชมได้อย่างเพลิดเพลินในเวลาอันสั้น สนุกมาก แม้จะยาวสักหน่อยแต่ก็สะกดให้ติดตามจนจบไม่อาจจะลุกออกไปไหนได้แม้แต่วินาทีเดียว

แอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัตินี้ เปรียบเสมือนบุปผามาลาสรรของเอกสารชั้นต้นทางประวัติศาสตร์ที่นำมาเรียบเรียงอย่างสวยงามน่าติดตาม และในตอนจบของเรื่องก็ได้ให้แหล่งอ้างอิงสำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาต่อไปด้วยตนเองได้ด้วย

ในแง่เนื้อหา แอนิเมชัน ๒๔๗๕ หาใช่งานวิจัยที่นำเสนอองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับ ๒๔๗๕ ก็หาไม่ และไม่แม้แต่จะเป็นการตีความใหม่ แต่เป็นการนำเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันซับซ้อนได้อย่างสนุกสนานในเวลาอันสั้นที่สุดจัดว่าเป็นศิลปะในการเล่าเรื่องชั้นสูงที่ทำให้ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินในเวลาเดียวกัน

หากจะอธิบายอย่างสั้นที่สุด แอนิเมชัน ๒๔๗๕ ได้ทำให้สิ่งที่อานนท์ต้องศึกษาค้นคว้าและอ่านหนังสือหลายสิบหลายร้อยเล่มและใช้เวลาอ่านสะสมนับหลายปี โดยที่ต้องวิพากษ์หลักฐาน ทั้งการวิพากษ์ภายนอกและการวิพากษ์ภายใน แม้กระทั่งการตรวจสอบสามเส้าทางประวัติศาสตร์ (Historical triangulation) สั้นลงเหลือเพียงสองชั่วโมงเศษ ซึ่งเหมาะสมกับยุคสมัยนี้ที่คนเราไม่ได้มีความพยายามพอที่จะอ่านมากมายและกลั่นกรองหลักฐานตลอดจนเอกสารชั้นต้นทางประวัติศาสตร์มากมายขนาดนั้น

จุดเด่นมากที่สุดคือ แอนิเมชัน ๒๔๗๕ ได้เลือกให้เกิดการปะทะอภิปรายระหว่างทุกฝ่าย และผู้เขียนบทได้เลือกใช้เอกสารชั้นต้นที่หลากหลายมุมมองเกิดดุลยภาพของมุมมอง (Balanced view) โดยได้กลั่นกรองเอกสารที่เป็นข้อเท็จจริง (Facts) กับข้อคาดเดา (Conjectures) และความคิดเห็น (Opinions) ออกจากกันอย่างชัดเจน

การให้เด็กได้เสนอมุมมองของตนปะทะอภิปรายกับลุงในห้องสมุด อย่างค่อยเป็นค่อยไป รับฟังซึ่งกันและหักล้างโต้เถียงกันด้วยหลักฐานและเหตุผลนั้นเป็นวิธีที่ย้อนกลับสู่วิธีโบราณในการสอนที่เรียกว่าวิภาษวิธี (Dialectical method) ซึ่งหากดำเนินการด้วยจิตวิทยาที่เข้าใจ ยอมรับความเห็นต่างก็เกิดสุนทรียสนทนาระหว่างสองฝ่ายที่คิดเห็นต่างกันได้ และเป็นวิถีทางที่สำคัญยิ่งสำหรับระบอบประชาธิปไตย

บทภาพยนตร์เรื่องนี้ ลงตัว และไม่ hard sale กระแทกหรือยัดเยียดความคิดให้คนดูมากจนเกินไป แต่พยายามให้คนดูได้เห็นหลักฐานจากทั้งสองด้านและคิดได้เอง โดยไม่ตัดสิน นับว่าเป็นข้อดีของแอนิเมชันเรื่องนี้ ที่ไม่ถึงทำให้สามกีบต้องขาดใจตาย ชักดิ้นชักงอ น้ำลายฟูมปากหากต้องมาชมแอนิเมชันเรื่องนี้

การเล่าเรื่องของ ๒๔๗๕ ใช้วิธีการเล่าเรื่องทางประวัติศาสตร์แบบกาลานุกรม (Chronological) อย่างเคร่งครัด คือเล่าเหตุการณ์เรียงเป็นเส้นตรงตามลำดับเวลา วิธีการนี้เป็นวิธีการที่คนทำหนังอาจจะเห็นว่าเป็นวิธีการที่ไม่น่าตื่นเต้น ไม่สวยงามในแง่ศิลปะภาพยนตร์ แต่เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงอย่าง ๒๔๗๕ ได้อย่างเหมาะสมลงตัว การเล่าเรื่องทางประวัติศาสตร์แบบเรียงไปตามลำดับเวลาแบบเส้นตรงนี้ ทำให้เห็นปมขอความขัดแย้ง พัฒนาการ และการคลี่คลาย ทำให้เข้าใจเหตุและผล ตลอดจนปัจจัยหนุนเนื่องของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงร้อยเรียงต่อกันในประวัติศาสตร์ได้อย่างดีที่สุด น่าเสียดายที่วิธีการเล่าเรื่องแบบโบราณเช่นนี้ หายไปจากวงการภาพยนตร์ที่ชอบเล่าเรื่องย้อนไปย้อนมาจนคนดูสับสน และการเล่าเรื่องในวงวิชาการประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่สนใจเป็นประเด็นเฉพาะ (Issue-based) ค่อนข้างแพร่หลายจนทำให้นักเรียนประวัติศาสตร์ไม่แม่นยำในลำดับเหตุการณ์และไม่แม่นยำตลอดจนไม่เข้าใจลำดับเหตุผลเบื้องหลังเหตุการณ์ ตลอดจนไม่เข้าใจปัจจัยหนุนเนื่อง

ภาพลายเส้นของแอนิเมชัน ทำได้ดี มีความผสมผสานระหว่างแอนิเมะของญี่ปุ่นบางเรื่อง โดยเฉพาะการ์ตูนนักสืบของญี่ปุ่นบางเล่มที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานความเป็นไทยและมีอัตลักษณ์ของความเป็นไทยเข้าไปอย่างชัดเจน ในขณะที่ศิลปะและสถาปัตยกรรมนั้นในยุคสมัยนั้นได้รับอิทธิพลจาก Art Deco ค่อนข้างมากก็ปรากฏในภาพลายเส้นของแอนิเมชันเรื่องนี้เช่นกัน

การกำหนดโทนสีของแอนิเมชัน ให้ใช้โทนสีมืดและร้อนสำหรับคณะผู้ก่อการ ๒๔๗๕ และใช้สีโทนสีทองและสีอ่อนสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ อาจจะเป็นสิ่งที่ชี้เห็นทัศนคติของศิลปินผู้วาดภาพแอนิเมชันเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ยัดเยียดให้คนดูมากจนเกินไป สำหรับตัวผมมีความรู้สึกว่าถูกยัดเยียดความไม่ชอบคณะผู้ก่อการหรือคณะราษฎรของศิลปินผู้วาดภาพลายเส้นอยู่บ้างเมื่อเห็นหนวดปลาหมึกมากเหลือเกินหากมีการปรากฏของคณะราษฎร แต่ก็อยู่ในระดับที่พอยอมรับได้ แต่ถ้าตัดออกไปได้ก็จะดีมาก

แอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ นี้เป็นแอนิเมชัน ต้นทุนต่ำที่สุด ที่ทำได้ดีมาก มากกว่าที่คาดหวังไว้มาก ยิ่งเมื่อเห็นเงินบริจาคที่ใช้ในการผลิตแล้วก็ยอมรับว่าตกใจมาก เงินแค่นี้ทำงานเช่นนี้ได้ แสดงว่าเป็นการรวมน้ำใจของจิตอาสาที่มาช่วยกันทำงานอันทรงคุณค่ายิ่ง

การพากย์เสียง ทำได้ดีและลงตัวมาก สำหรับเสียงพากย์ที่ส่วนตัวชอบมากที่สุดคือเสียงพากย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพี่นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช ที่พากย์ได้อย่างดีที่สุดและสำแดงอารมณ์ความรู้สึกในพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้อย่างเข้าถึงโดยไม่ต้องพยายามใดๆ ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าพี่นกจะพากย์เสียงและลงเสียงได้ดีขนาดนี้มาก่อนเลย ขอชมเชยจากใจ

แอนิเมชันเรื่องนี้ สำหรับชาวสามกีบที่ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้ท่านจะมองว่าทีมผู้จัดทำเป็นชาวสลิ่ม ก็ยิ่งต้องชมแอนิเมชันเรื่องนี้ ไม่ได้ชมเพื่อจะเปลี่ยนความคิด แต่ชมเพื่อให้มองงานนี้เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ในการเล่าเรื่องราวอันซับซ้อนและเต็มไปด้วยความขัดแย้งได้อย่างลงตัวและไม่ยัดเยียดจนเกินไป

ขอเชิญชาวสามกีบมารับชมกันครับ

"เสริมศักดิ์" บูรณาการ 33 หน่วยงาน กำหนดแนวทางจัดงานมหาสงกรานต์ พุทธศักราช 2567 ภายใต้แนวคิด “มหาสงกรานต์เย็นทั่วหล้าทั่วไทย สู่ความภูมิใจระดับโลก” เน้นย้ำเผยแพร่คุณค่าสาระอัตลักษณ์สงกรานต์ไทย มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการกำหนดแนวทางการจัดงานสงกรานต์ พุทธศักราช 2567 
โดยมี ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมบูรณาการ ณ ศูนย์ประชุมชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting

นายเสริมศักดิ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบูรณาการเพื่อกำหนดแนวทางการจัดงานสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ว่า ในโอกาสที่ “ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย” ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ณ เมืองคาซาเน สาธารณรัฐบอตสวานา นั้น  ถือเป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เกิดความสนใจ เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศงานประเพณีในประเทศไทย ซึ่งเป็น Soft power (Festival) เป็นเทศกาลยอดนิยมเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จะนำมาซึ่งรายได้มหาศาลที่เกิดจากนักท่องเที่ยว ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนมีรายได้เพิ่มขึ้น  การประชุมบูรณาการในครั้งนี้ จึงเป็นการกำหนดแนวทางเพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเนื่องในประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ในภาพรวมของประเทศ ให้ดำเนินการจัดกิจกรรมสงกรานต์เป็นไปอย่างเรียบร้อยและสร้างสรรค์ เน้นเผยแพร่คุณค่าสาระ ความงามของประเพณีให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มีส่วนร่วม อย่างถูกต้องและเหมาะสม มีความสุขร่วมกันตลอดเทศกาล

รมว.วธ. เปิดเผยต่อว่า เพื่อให้กิจกรรมประเพณีสงกรานต์หมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นไปด้วยความงดงามและเหมาะสม รวมถึงป้องกันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาล กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จึงได้การประชุมคณะกรรมการบูรณาการเพื่อกำหนดแนวทางการจัดงานสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร  คณะกรรมการการอาชีวศึกษา  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กองบังคับการตำรวจจราจร  กรมการขนส่งทางบก   กรมการศาสนา  กรมศิลปากร  สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย  กรมการท่องเที่ยว  กรมควบคุมโรค  กรมทรัพยากรน้ำ  กรมประชาสัมพันธ์  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  กรมการปกครอง  กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น  กรมอุตุนิยมวิทยา  กรมสารนิเทศ  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ การประปานครหลวง  การประปาส่วนภูมิภาค  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  จังหวัดเชียงใหม่  จังหวัดขอนแก่น  จังหวัดชลบุรี  จังหวัดนครศรีธรรมราช  จังหวัดสมุทรปราการ  สภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร มูลนิธิเมาไม่ขับ  กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม รวม 33 หน่วยงาน 

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุป แนวทางในการจัดงานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2567 โดยให้สอดคล้องกับแนวคิดกับการจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567” ของรัฐบาล ประกอบด้วย 10 แนวทางสำคัญ ดังนี้

1. จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ที่เป็นการสร้างการรับรู้ ต่อประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย ได้รับการประกาศจาก UNESCO ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ 
2. จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์โดยเน้นเผยแพร่คุณค่าและสาระ ที่ถูกต้องของวัฒนธรรม ประเพณี คำนึงถึงความเหมาะสม บริบทของแต่ละท้องถิ่นที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การเปิดกว้างทางความคิดและเปิดรับความหลากหลายทางอัตลักษณ์ 
3. ส่งเสริมให้จังหวัดต่าง ๆ ใช้พื้นที่จัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมในประเพณี สงกรานต์ เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีที่ดีงาม เหมาะสม 
4. รณรงค์ให้ประชาชนสืบสานคุณค่าสาระและสิ่งที่ควรทำของประเพณีสงกรานต์ เช่น การทำความสะอาดบ้านเรือน วัด ศาสนสถานที่นับถือ สถานที่สาธารณะ ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ สรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ และใช้ทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูแล้งอย่างประหยัด รู้คุณค่า 
5. รณรงค์ให้ประชาชนสร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยในการเข้าร่วมกิจกรรมประเพณี สงกรานต์ เช่น แต่งกายด้วยชุดสุภาพผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น ชุดไทยย้อนยุค เสื้อลายดอก หรือเสื้อผ้าที่เป็น Soft Power ของท้องถิ่น (เช่น กางเกงลายช้าง กางเกงลายแมวโคราช เป็นต้น) เพื่อสร้างภาพลักษณ์และเพื่อสร้างการรับรู้ อัตลักษณ์ความเป็นไทยในประเพณีสงกรานต์ต่อชาวต่างชาติ 
6. ขอความร่วมมือหน่วยงานต่าง ๆ สนับสนุนศิลปินพื้นบ้านในการจัดกิจกรรม การละเล่น และการแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น เพื่อเป็นการถ่ายทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และให้เด็ก เยาวชน ประชาชนทั่วไปได้ร่วมกันสืบสานประเพณี โดยคำนึงถึงวัฒนธรรมที่ถูกต้องเหมาะสม และร่วมกันเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม 
7. รณรงค์ให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีสงกรานต์โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน เช่น การไม่คุกคามทางเพศ การเคารพและให้เกียรติผู้ที่ไม่ประสงค์จะเล่นสาดน้ำสงกรานต์ การไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่สร้างความวุ่นวายในที่สาธารณะ
8. ขอความร่วมมือประชาชนที่ขับขี่ยานพาหนะและใช้ถนนหนทาง ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงช่วยสอดส่อง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ในกรณีพบเห็นผู้ที่ปฏิบัติตนไม่เหมาะสม 
9. การดำเนินการจัดงานตามคำแนะนำในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด โรคติดเชื้อของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำโรค ขณะเดียวกัน ก็คำนึงถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงประเพณีสงกรานต์และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการรักษาความปลอดภัยในด้านอื่น ๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
10. ส่งเสริมกิจกรรมที่มีความสร้างสรรค์ที่สามารถพัฒนาต่อยอดจากคุณค่าสาระ ของประเพณีสงกรานต์เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของชุมชนและของประเทศ โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ ในชุมชน และยังคงอัตลักษณ์ของความเป็นท้องถิ่น 

นายเสริมศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า ทาง ยูเนสโกยังได้อนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ UNESCO และตราสัญลักษณ์ของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ควบคู่กับตราสัญลักษณ์ของหน่วยงาน ในการจัดงานส่งเสริมและรักษาประเพณีสงกรานต์ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2567 ทั้งนี้ หน่วยงานใดประสงค์จะใช้ตราสัญลักษณ์ดังกล่าว ให้ส่งคำร้องขอใช้ตราสัญลักษณ์ UNESCO ไปยังกลุ่มมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศ สถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ที่อีเมล [email protected]

นายเสริมศักดิ์ ยังได้กล่าวเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมสงกรานต์ ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะจัดขึ้นในปีนี้ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค อาทิ -งานรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ เนื่องในประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2567 ณ อาคารเอนกประสงค์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันที่ 10 เมษายน 67  -การจัดงานนิทรรศการ สงกรานต์ไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ระหว่าง 10–12 เมษายน 67 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ลานกลางแจ้ง หน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร (BACC)  -การจัดงานสืบสานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2567 ระหว่าง 12- 15 เมษายน 2567 (พิธีเปิด 13 เม.ย.) ณ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร  -กิจกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม ในงานใต้ร่มพระบารมี 242 กรุงรัตนโกสินทร์ ประกอบด้วย การแสดงแสงสีเสียงตำนานนางสงกรานต์ โดย แอนโทเนีย  โพซิ้ว นางสงกรานต์ประจำปีพุทธศักราช 2567 และ การแสดงบทเพลง “รำวงเริงสงกรานต์” ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ โดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ และเพลง “สงกรานต์” แต่งใหม่ ดนตรีโดยวงดนตรีเฉลิมราชย์ เป็นต้น ในวันที่ 13 เมษายน 2567 ณ เวทีการแสดง สังคีตศาลา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ทั้งนี้ ในส่วนภูมิภาคกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ร่วมมือกับจังหวัดและสนับสนุนเครือข่ายวัฒนธรรม ในการจัดกิจกรรมเพื่อสืบสานคุณค่าสาระประเพณีของแต่ละท้องถิ่น เผยแพร่อัตลักษณ์วัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาค เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดภูเก็ต ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถติดตามความเคลื่อนไหวรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ดาวโหลดเพลงสงกรานต์ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ได้ทางเว็บไซต์ www.culture.go.th แฟนเพจกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และสายด่วนวัฒนธรรม 1765

เจนกิจ นัดไธสง  

📌มูลนิธิช้างฯ ผนึกภาคเอกชน จัดงานเสวนา ‘ช้างป่า ช้างไทย เราอยู่ได้ร่วมกัน’

เมื่อวานนี้ (13 มี.ค. 67) ในโอกาสวันช้างไทย มูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และเครือข่ายองค์กรประชาคมที่ทำงานเกี่ยวกับช้าง ได้จัดเวทีเสวนา เรื่อง ‘ช้างป่า ช้างไทย เราอยู่ได้ร่วมกัน’ โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ปรึกษามูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย เป็นผู้กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยมีดร.สรจักร เกษมสุวรรณ ประธานมูลนิธิช้างไทย กล่าวเปิด ที่ลานกิจกรรมเวทีสาธารณะ อาคารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร

ผู้สนใจชมคลิปการเสวนาเวทีย้อนหลัง สามารถชมได้ทาง: https://fb.watch/qMOymMshCA/

'ผบช.ทท.' สร้างมิติใหม่บูรณาการ ความร่วมมือ กับ สตม.ปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่น ฮึ่ม..!!ชาวต่างชาติหากเข้าข่ายทำผิด ถูกเพิกถอนวีซ่า เข้าพบกงสุลประเทศต่างๆประจำภูเก็ต เพื่อหารือวางมาตราการ ยกระดับสร้างความมั่นใจ พร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

เมื่อวานนี้ 13 มี.ค.67 เวลา 15.00 น. ที่ ตม.จว.ภูเก็ต พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ในการดูแลความปลอดภัย นักท่องเที่ยวและดำเนินการกับชาวต่างชาติทำผิดกฏหมาย 

ตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. ประชุมหารือและปล่อยแถวบูรณาการสร้างความเชื่อมั่น และ กวดขันชาวต่างชาติที่ทำผิดกฎหมาย อันเข้าหลักเกณฑ์เป็นเหตุเพิกถอนวีซ่า เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง  
            
โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.ยุทธภูมิ ปั้นลายนาค รอง ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3 พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม. จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.พัดธงทิว ดามาพงศ์ ผกก.ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต และ กำลังพล ในสังกัด บช.ทท.,สตม. ในพื้นที่ จว.ภูเก็ต

โดยคณะดังกล่าวได้เข้าพบ คุณ หลี่ เฉิงหลง กงสุลและหัวหน้าสำนักงานกงสุลจีน ประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการประสานงานการ ยกระดับดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ร่วมกับกงสุลประเทศต่างๆประจำ จว.ภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ออกตรวจสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวบริเวณเมืองเก่าภูเก็ต รณรงค์แจกแผ่นประชาสัมพันธ์  สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155  ซึ่งมีล่ามแปลภาษา พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ”ผบช.ทท.กล่าว“

นครพนม -หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ตรวจยึดพืชกัญชา ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร จำนวน 2 กระสอบ น้ำหนัก รวม 75 กก./แท่ง ริมตลิ่งแม่น้ำโขง ในพื้นที่อำเภอบ้านแพง

กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดยร้อยโท วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 ได้รับทราบจากแหล่งข่าวจากประชาชนในพื้นที่ ว่ามีการลักลอบทำผิดกฏหมาย โดยการนำเข้าสิ่งของผิดกฏหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในเขตพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย หน่วยจึง ทำการเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และ พ.ร.บ.ศุลกากร พื้นที่จุดเสี่ยง จุดเพ่งเล็ง ตามภาพข่าว บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง บ้านดอนแพง หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ตรวจการณ์พบเรือหาปลาต้องสงสัย จำนวน 1 ลำ ล่องเรือมาจากฝั่ง สปป.ลาว มายังฝั่งไทย ขับวนเลียบตลิ่งไปมามีกระสอบสิ่งของต้องสงสัยอยู่บนเรือและมีรถยนต์ขับมาจอดบนถนนเลียบแม่น้ำโขงตรงจุดท่าน้ำ พื้นที่ ใกล้กับจุดที่ กำลังพลของหน่วยทำการเฝ้าตรวจจากนั้นเรือลำดังกล่าว ได้ขับเข้ามาจอดเทียบท่าน้ำ และทำการยกสิ่งของขึ้นมาบนฝั่ง และรีบขับเรือกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาว กำลังพลของหน่วยจึงเฝ้าสังเกตุการณ์ 

จากนั้นได้มีราษฎรชาย 4 คน เดินลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ เดินมุ่งหน้าไปยังสิ่งของต้องสงสัยที่วางอยู่ เพื่อจะมาหยิบเอาสิ่งของดังกล่าว กำลังพลของหน่วยที่เฝ้าตรวจอยู่จึงแสดงตนขอตรวจสอบ เมื่อราษฎรชายกลุ่มดังกล่าว พบเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ละทิ้งสิ่งของ แล้วทำการวิ่งไปขึ้นรถที่จอดรออยู่และขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว กำลังพลของหน่วยจึงเข้าทำการตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัย พบเป็นพืชกัญชาแห้งแบบอัดแท่ง จำนวน 2 กระสอบ ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร จึงได้ดำเนินการขนย้ายมายัง กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21เพื่อทำการตรวจสอบ และตรวจนับของกลาง พืชกัญชาแห้ง แบบอัดแท่ง จำนวน 2 กระสอบ น้ำหนัก รวม 75 กก./แท่ง หน่วยได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมบันทึกภาพผลการตรวจยึดของกลางทั้งหมด และได้นำส่ง สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ศาลยกฟ้องกรณีผู้ประกอบการรีสอร์ทม่อนแจ่มฟ้องอดีต ผอ.สจป1เชียงใหม่

จากกรณีนายทุนผู้ประกอบการม่อนแจ่มฟ้อง ผอ.กมล นวลใย อดีต ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 กรณีกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติตาม มติ ครม. 11 พ.ค. 2542 และมติครม. 30 มิ.ย. 2540 ในการดำเนินคดีระงับยับยั้งมิให้นายทุน หรือผู้ประกอบการนำที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเป็นพื้นที่ต้นน้ำชั้น 1Aนำไปทำรีสอร์ท บนพื้นที่ป่าที่มีความลาดชันสูง โดยเปิดกิจการในรูปบริษัทซึ่งบางรายเช่น บริษัทม่อนวิวงาม จำกัด มีอาคารรีสอร์ทนับร้อยหลัง บางรายมีการบุกรุกพื้นที่เกินกว่าที่ถือครองทำกินที่มีการรังวัดไวเแล้วตามมติครม.30 มิย.41 

โดยคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ได้ยกฟ้องไปแล้ว แต่ผู้ประกอบการทั้ง 22 ราย ยังไม่สะใจที่จะเล่นงานกล่าวหา จนท.ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในการระงับยับยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารเพื่อสร้างรีสอร์ท ...อย่างไรก็ตามคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิจารแล้วเห็นว่าจำเลย (นายกมล นวลใย อดีตผอ.สจป.1 (ชม.)) ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตาม ระเบียบกฎหมาย โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาและฟ้องดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติเป็นความผิดและเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ของจำเลยตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ จึงมิใช่เป็นการจับกุมโจทก์ทั้งยี่สอบสองเพื่อดำเนินคดีโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นคนละกรณีกันกับการจะพิสูจน์สิทธิ์ของโจทก์ทั้งยี่สิบสองว่าเป็นผู้มีสิทธิอยู่อาศัยในที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดินตามที่กฎหมายให้ความคุ้มครองได้โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การกระทำของจำเลยเป็นการดำเนินการในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานตามที่กฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้ในการดูแลและรักษาทรัพยากรป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติ อันเป็นการกล่าวหาว่าโจทก์ทั้งยี่สิบสองว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ โจทก์ทั้ง 22 ราบก็ย่อมมีสิทธิให้การปฏิเสธต่อสู้คดีโดยนำพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ของตนในชั้นพิจารณาคดีของศาลได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ทั้งยี่สิบสองฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมานั้น จึงต้องด้วยความเห็นของศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งยี่สิบสองฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน อนึ่งมีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในรูปคณะทำงานแต่โจทย์ฟ้องจำเลยในนามส่วนตัว เสมือนหนึ่งกลั่นแกล้ง บั่นทอนขวัญกำลังใจ จนท.เป็นการเฉพาะราย และฟ้องให้ดูเป็นตัวอย่างเพื่อมิให้จนท.คนอื่น ๆ หาญกล้าในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่  ด้วยกลัวจะโดนฟ้องเฉกเช่นกรณีนี้

เรื่องนี้นายกมล นวลใย ได้กล่าวว่าการดำเนินการระงับยับยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าม่อนแจ่ม จนท.ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามตัวบทกฎหมายทุกประการ ไม่เคยมีเจตนาแอบแฝงใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีรายละเอียดตามคำพิพากษาศาลไว้ครบถ้วนแล้ว..  ความจริงย่อมเป็นความจริงเสมอครับ...ขอให้จนท.สจป.1 (ชม.) กรมป่าไม้ ดำเนินการตรวจสอบการครอบครองพื้นที่เพื่อสร้างรีสอร์ทบนพื้นที่ต้นน้ำตามอำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาต่อไปครับ
 

กรมป่าไม้ จัดงาน “วันป่าไม้สากล ประจำปี 2567” 

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวการจัดกิจกรรมเนื่องในวันป่าไม้สากล ประจำปี พ.ศ. 2567 ว่า กรมป่าไม้ จะจัดงาน “วันป่าไม้สากล ประจำปี 2567 (International Day of Forests 2024)” ในวันที่ 21 มี.ค. 2567 ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.00 น. ณ เขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันป่าไม้สากล ซึ่งตรงกับวันที่ 21 มี.ค. ของทุกปี ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล็งเห็นความสำคัญของป่าไม้ภายในประเทศและของโลก ซึ่งกำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่า ไฟป่าและการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่า ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศโลกเกิดปรากฏการณ์แปรปรวน เช่น สภาวะโลกร้อนและความเสี่ยงในการสูญเสียสายพันธุ์พืชและสัตว์ป่า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกหน่วยงานต้องดำเนินการเพื่อปกป้องและอนุรักษ์ทรัพยากรอันมีค่าเหล่านี้ ด้วยการร่วมกันสร้างความมั่นใจ ว่าป่าไม้จะยังคงทรัพยากรและอำนวยประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม

นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเนื่องในวันป่าไม้สากล กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้และการสร้างความตระหนักรู้ด้านการป่าไม้ โดยในปีนี้สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติกำหนดให้มีการรณรงค์ภายใต้ประเด็นหลัก “Forests and Innovation” หรือ “ป่าไม้และนวัตกรรม” และมีประเด็นเสริม “New solutions for a better world” หรือ “ทางเลือกใหม่ เพื่อโลกที่ดีขึ้น” เป็นวาระสำคัญ โดยมี พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิด และมีปลัด ทส. ผู้อำนวยการ Asian Forest Cooperation Organization (AFoCO) และผู้แทนสถานทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย เข้าร่วมงาน ภายในงานจะมีการปาฐกถาพิเศษโดยหน่วยงานร่วมจัดนิทรรศการ “Forests and Innovation:New solutions for a better world” “ป่าไม้และนวัตกรรม:ทางเลือกใหม่ เพื่อโลกที่ดีขึ้น” รวมทั้งการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ป่าไม้และนวัตกรรม:ทางเลือกใหม่ เพื่อโลกที่ดีขึ้น” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ กิจกรรมอาบป่าโดยกรมป่าไม้ การจัดการสวนป่าอย่างยั่งยืนโดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ การดำเนินงานด้านนวัตกรรมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นต้น

นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า การจัดงานวันป่าไม้สากล จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชน เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าและประโยชน์ของทรัพยากรป่าไม้ที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของป่าทุกประเภท รวมทั้งต้นไม้ที่อยู่นอกป่า เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคตที่ประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมกันสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับป่าและต้นไม้ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ เช่น การรณรงค์ปลูกต้นไม้ การจัดนิทรรศการ การประชุมสัมมนา เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการดำเนินการเพื่อปกป้องและอนุรักษ์ป่าไม้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

กมธ.ปปง.เล็งเจาะขุมทอง คดีบิ๊กโจ๊ก แนะ ปปง.ใช้กฏหมายฟอกเงินกับผู้ค้าทองคำ

กมธ.ปปง. เชิญ ตำรวจ - ปปง. ถกคดีพนักออนไลน์ ”มินนี่“ กลายเป็นไฟลามทุ่ง แนะ ปปง. เดินหน้าใช้กฏหมายฟอกเงินตรวจสอบผู้ค้าทองหากไม่ได้รายงานธุรกรรมทางการเงินตามทางกฏหมายซื้อขายทองกับ ”บิ๊กโจ๊ก“

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ห้องประชุมกรรมาธิการ N 407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟกเงินและยาเสพติด (กมธ.ปปง.) สภาผู้แทนราษฎร นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ รอง ป.กมธ.ปปง. พร้อมคณะ กมธ.ปปง. ที่ปรึกษาและเลขานุการฯประชุมพิจารณาติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ของ น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือ น.ส.สุชานันท์ กุลวัฒนโยธิน หรือ มินนี่ กับพวก ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นคดีดังที่ประชาชนให้ความสนใจ

การพิจารณาได้เชิญ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งได้ส่งผู้แทนมาจำนวน 4 คน อาทิ นายสุวิจักขณ์ ธรรชัยพจน์ ผอ.กองคดี 1 นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฏหมาย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งผู้แทนมา 3 คน อาทิ  พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เข้าชี้แจงความคืบหน้าในคดี เกี่ยวข้องในเรื่องความผิดมูลฐาน ที่กำลังทำการสอบสวนติดตามดำเนินคดี ทั้งนี้ผู้ชี้แจงได้อธิบายถึงความเชื่อมโยง เส้นทางการเงิน รวมไปถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในการดำเนินคดีทั้งหมดที่ยังจะเดินหน้าเอาผิดตามกฏหมายเพราะคดีนี้ ปปง. ระบุว่า ไม่มีอายุความและสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ได้ตลอดเมื่อมีหลักฐานปรากฏชัด

นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฏหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า คดีนี้ “ปปง.” ได้สั่งการให้ดำเนินการสอบสวนให้ถึงที่สุด กรณีนี้หลังจาก ปปง. ได้รับทราบเรื่องจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ มีการประสานเพื่อรายงานเรื่องความผิดมูลฐาน มีการรายงานมายัง ปปง. ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2566 แนวทางการสืบสวนสอบสวนทางคดี “ปปง.” มีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อรายงานว่าเป็นมูลฐานความผิดหรือไม่ ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 คณะกรรมการธุรกรรมมีการมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการยึดและอายัดทรัพย์สิน ทันที เบื้องต้นที่เป็นความผิดมีจำนวน 255 รายการ ผู้ถูกกล่าวหา มีทั้ง พลเรือนและข้าราชการ เมื่อยึดอายัดทรัพย์สิน เรียบร้อย ปปง. ได้ยื่นเรื่องไปยังพนักงานอัยการยึดทรัพย์เพื่อตกของแผ่นดิน จำนวน 41 ล้านบาท วงแรกดำเนินการไป และจะมี วงสอง วงสาม จะทำการยึดไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางการเงินเพราะคดีนี้ไม่มีอายุความ อีกทั้งกรณีนี้ผู้กระทำความผิด เป็นข้าราชการมีการวางแผนเป็นระบบที่เรียกว่า แผนประทุษกรรม เป็นบุคคลที่มีความรู้ จึงเป็นเรื่องยากในการยึดทรัพย์ จึงต้องสอบสวนเพื่อให้มีความเชื่อมโยง

พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กล่าวว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหาบางส่วนคดีเก่ากรณี ”มินนี่“ พนักงานอัยการ ได้มีคำสั่งฟ้องไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจทั้ง 8 นายรวมถึงนายตำรวจใหญ่ ปปช.ได้รับเรื่องไว้พิจารณาเอง

“การดำเนินคดีใหม่ พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในส่วนการใช้ประโยชน์จากเงิน เพราะเงินที่ได้มาผิดกฏหมาย รวมถึงเป็นเงินประโยชน์ส่วนตัว เงินรักษาพยาบาล เงินงานศพ โดยเส้นทางเงินมีการโอนออกจากบัญชีม้า 5-6 บัญชี ขณะนี้ได้นำหลักฐานทั้งหมดไปส่งศาล  และศาลเห็นหลักฐานทั้งหมดพบว่ามีเส้นเงินจำนวนมาก ศาลมีมติ ไม่เอกฉันท์ แต่ให้ออกหมายจับและหมายเรียกรวม 5 คน ที่รวมไปถึง นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งยืนยันว่าศาลไม่ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า น่าเชื่อว่ามีเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน จึงให้ออกหมายจับ ผู้ต้องหาที่ 2-5 ที่มีตำรวจ 3 พลเรือน 1 ส่วนผู้ต้องหาที่ 1 เป็นนายตำรวจใหญ่ศาลให้ออกหมายเรียก”

ด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาประธาน กมธ.ปปง. กล่าวว่า สิ่งที่ต้องให้ข้อสังเกต ต่อ  ปปง. ตามระเบียบที่ได้รับการรายงานธุรกรรมมีการยึดอายัดทรัพย์ไปแล้ว มองว่า การสืบสวนทางการเงินได้พบความผิดปกติมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ไปถึงใครหรือไม่ หรือมีการประสานส่งข้อมูลแผนผังให้กับพนักงานสอบสวนหรือไม่ รวมถึงข้อสังเกต ต่อพนักงานสอบสวน “ตำรวจ” ได้รับข้อมูลจาก ปปง.หรือไม่ ถ้าได้รับข้อมูล ปปง.ได้ทำการสืบสวนต่อหรือไม่

“ในประเด็นเมื่อมีการพูดคุยตามข่าวเรื่องของทองในกรณีนี้ต้อง ฝาก ปปง. ในเรื่องของทอง ผู้ประกอบการค้าทองตามระเบียบทั่วไป ผู้ค้าทองจะต้องมีการรายงานธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากเป็นการซื้อทองมากกว่าสองล้านบาท เพราะเชื่อว่าผู้ค้าทอง จะต้องมีการส่งรายงานทางการเงิน ดังนั้นของให้ ปปง.ได้ใช้กฏหมายฟองเงินเข้าไปขอคำชี้แจง ว่า ผู้ค้าทองมีการรายงานหรือไม่ เพราะเป็นเหตุอันสงสัย ประเด็นสำคัญมีกรณีศึกษา เกี่ยวกับการซื้อทองมีสองวิธี ในอดีตตนเคยทำคดีลักษณะนี้มี ข้าราชการผู้ใหญ่ มีการซื้อทองไปสองร้อยกิโล จนมีคดีขึ้นศาลและศาลตัดสินจำคุก เพราะสอบสวนพบว่า การซื้อทองจะมาในรูปแบบซื้อทองเป็นตั๋วฝากไว้ที่เป็นหลักฐานสำคัญ ดังนั้นต้องการให้ ปปง. ได้มีการสอบลึกหรือไม่ ว่าได้ใช้กฏหมายฟองเงินทำการสืบสวนถึงกรณีนี้หรือไม่ แล้วถ้าผู้ค้าไม่ได้รายงาน ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ค้าทองหรือไม่” พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวในที่สุด

ด้าน นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ป.กมธ.ปปง. กล่าวขอบคุณตัวแทน ตำรวจ - ปปง ขอให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะภาพลักษณ์ขององค์กร ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เงินสีเทา ไม่ดีไปอยู่ไหนก็ไม่ได้ ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ การติดตามคงจะมีเรื่องการขายทองปริศนา ที่จะต้องตรวจสอบต่อไปในการประชุมครั้งต่อไป

“พัชรวาท” เปิดงาน “วันช้างไทย” ชู “ขุนพลแห่งนักรบประจำชาติ”

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่จังหวัดลำปาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางไปเป็นประธานพิธีวันช้างไทย ประจำปี 2567 จัดขึ้นโดยสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  นายสุกิจ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุนการจัดงานวันช้างไทยให้การต้อนรับ 

โดย พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ช้างไทย เป็นสัตว์มงคลที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเกี่ยวข้องกับสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ วิถีชีวิตแห่งช้างไทย ยังผูกพันกับคนไทยอย่างแนบแน่น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งในยามศึกสงครามและยามสงบสุข ปัจจุบันช้างไทย ประสบกับสภาวะวิกฤตต่าง ๆ มากมาย ปัญหาช้างล้นป่า เนื่องจากพื้นที่ป่าในประเทศลดลง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง หรือโรคอุบัติใหม่ในช้าง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขและการช่วยเหลือเพื่ออนุรักษ์ช้างให้อยู่ร่วมกับคนได้อย่างมีความสุข 

 “ขอขอบคุณ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จังหวัดลำปาง และหน่วยงานต่างๆ  ที่สนับสนุน  และเข้าร่วมงานวันช้างไทยในปีนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุญคุณและเชิดชูขุนพลแห่งนักรบหรือช้างไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของช้างไทย และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ช้างให้คงอยู่ อีกทั้งยังเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ในการอนุรักษ์และบริบาลช้างทุกท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตความเป็นอยู่ของช้างไทย จะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด”พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว 

จากนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ลั่นฆ้องชัยเพื่อเป็นการเปิดงานและมอบรางวัลการจัดประกวดซุ้มอาหารช้าง และรางวัลควาญช้างดีเด่น ประจำปี 2567 พร้อมทั้งร่วมเลี้ยงอาหารช้างบนสะโตกใหญ่ โดยมีช้างเข้าร่วมพิธีมากกว่า 100 เชือก ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมที่เล็งเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของช้างไทย เช่น การบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฮ้องขวัญช้าง ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับช้างที่ล้มไปแล้วและตักบาตรร่วมกับช้าง ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท ยังได้ไปเยี่ยมและถ่ายภาพกับพลายศักดิ์สุรินทร์ที่รักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งพบว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ  

'อาจารย์เอ' เคลื่อนไหว!! ชี้แจงปมดรามา คลิปคนหมอบกราบ เป็นแรงศรัทธา ด้านลูกศิษย์ ยก!! เป็นผู้ที่มีแต่ให้ มีแต่พลังบวก ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง

กลายเป็นคลิปไวรัลที่โลกโซเชียลกำลังพูดถึงชายรายหนึ่งในชุดสีฟ้า นั่งรถหรูหรา มีคนประกบดูแลใกล้ชิดคอยถือร่มไม่ห่าง ทั้งยังมีพรมปูรอรับจากรถ ท่ามกลางผู้คนที่นั่งพนมมือไหว้ต้อนรับ บางรายมีพวงมาลัยพร้อม ขณะเดียวกัน เพจอีซ้อขยี้ข่าว แชร์คลิปนี้ พร้อมตั้งคำถาม ทำไมต้องหมอบกราบ? เค้าคือใคร…อยู่วรรณะไหน?

ภายหลังจากคลิปดังกล่าวนี้ ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำเอาใส่หลายคนสงสัยและอยากรู้ถึงประวัติความเป็นมาของคนดังกล่าวนี้ว่าเป็นใครเหตุใดจึงมีผู้คนมารอกราบไหว้จำนวนมาก

ล่าสุด (13 มี.ค.67) อาจารย์เอ จักรพรรดิ ชายในคลิป เปิดสำนักเทวาลัย ให้สื่อมวลชนได้ซักถามข้อเท็จจริง และได้มีการทำความรู้จักกับอาจารย์ รวมไปถึงชี้แจงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น โดย 'อาจารย์เอ จักรพรรดิ' เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตนเป็นอาจารย์และเป็นคน ๆ นึง ที่เกิดมาเหมือนคนทั่วไป เกิดจากครอบครัวชาวนา พ่อของอาจารย์มีตาข้างเดียวแล้วก็เลี้ยงอาจารย์มาอย่างดี ให้การศึกษามาโดยตลอด อาจารย์เกิดมาไม่ได้มีโอกาสในชีวิตมากมาย จึงพยายามที่จะทำงานทุกอย่างที่สามารถทำได้ ต่อสู้ชีวิตมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นพนักงานร้านเช่า VCD ตั้งโต๊ะขายโทรศัพท์ ขายเสื้อผ้า ร้านเสริมสวยต่าง ๆ แต่ที่คนรู้จักอาจารย์มากที่สุดน่าจะเป็นช่วงที่ขายสบู่นีออน

สำหรับประเด็นดราม่า อาจารย์เอจักรพรรดิได้กล่าวชี้แจงคลิปจากภาพที่มีการกราบไหว้ "อย่างแรกอาจารย์ขออธิบายว่าอาจารย์ไม่เคยมีกฎระเบียบว่าทุกคนมาถึงแล้วต้องกราบไหว้อาจารย์ ต้องนั่งกับพื้น ต้องหมอบ หรือต้องคลาน ลูกศิษย์ที่นี่จะทราบกันดี เคยมีคนบอกว่าไม่เหมาะสม อาจารย์ก็ระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมา อาจารย์ไลฟ์สดแจ้งลูกศิษย์ว่า หากมาหาอาจารย์ยืนได้ตามปกติ ทุกคนที่มาถ่ายรูปกับอาจารย์ก็จะทราบดีว่าอาจารย์บอกเสมอว่าให้ยืนได้ แต่ท้ายสุดแล้วมันคือความรักความศรัทธาที่ลูกศิษย์มีต่ออาจารย์ อาจารย์เป็นคนๆ นึงที่มีครูบาอาจารย์เช่นเดียวกัน และเวลาอาจารย์เข้าหาครูบาอาจารย์ อาจารย์ก็หมอบก็กราบ เป็นการให้ความเคารพและความรักมันไม่มีเหตุผล และไม่มีกฎกติกาใด"

สำหรับพรมแดงที่ปรากฏอยู่ในคลิป และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปูพรมแดงรอต้อนรับนั้น แท้จริงแล้วเป็นพรมเช็ดเท้า ส่วนพรมสีน้ำเงินนั้นปูไว้สำหรับให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาที่เทวาลัยแห่งนี้ รู้สึกเดินสบายเท้าไม่ร้อนร่มรื่น ส่วนจะไปกำชับลูกศิษย์หรือไม่นั้น อาจารย์คงไม่ไปกำชับเพราะมันเป็นการแสดงออกถึงความรัก

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของการมาเป็น อาจารย์เอ จักรพรรดิ อยู่ในช่วงที่อาจารย์เคยล้มละลายมาก่อน ผิดพลาดทางธุรกิจ ซึ่งอาจารย์ได้ไปบนบานศาลกล่าวกับครูบาอาจารย์ว่าหากสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ และได้ทุกอย่างกลับคืนมา จะดำรงตนในสายนี้ เป็นตัวแทนของเทพไท้เทวาครูบาอาจารย์ในการสื่อสารเรื่องศรัทธาต่างๆ เหล่านี้ให้กับผู้คนได้รู้จัก ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่อาจารย์ได้ไปที่ศาลล้มละลายกลาง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้อาจารย์ได้ทุกอย่างกลับคืนมา

ดังนั้นการก่อตั้งเทวาลัยแห่งนี้ จึงเกิดขึ้นจากความเชื่อที่อาจารย์เคยบนบานศาลกล่าวเอาไว้ ที่ว่าวันหนึ่งหากมีบุญมากพอ ขออนุญาตสร้างเทวาลัยขึ้นมาเพื่อให้คนได้มาสักการะและได้มีที่พึ่งทางใจ

ส่วนกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่เทวาลัยแห่งนี้ อาจารย์เอ เผยว่า "อาจารย์เป็นชาวพุทธ แต่เราได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากพราหมณ์ฮินดูมาแต่โบราณ ดังนั้นการทำพิธีกรรมต่างๆ มันก็ย่อมมีอยู่บ้าง เช่น มีทำพิธีพระลักษณ์หน้าทอง คเณศชยันตี พิธีคเณศจตุรถี ที่ทำให้ใครรู้จักอาจารย์มากขึ้น โดยที่ไม่เรียกเก็บค่าครู หรือค่าทำพิธีการ กับลูกศิษย์ลูกหา"

ส่วนประเด็นที่สังคมมองว่า อาจารย์เอ จักรพรรดิ จากพ่อค้าออนไลน์ แล้วผันตัวมาเป็นบุคคลที่คนกราบไหว้ ตรงนี้ อาจารย์ยอมรับว่า "เคยเป็นพ่อค้าออนไลน์ แล้วเคยเป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้า เคยติดหนี้รายวัน เคยเป็นพนักงานประจำ เคยมาหลายอย่างมาก แต่ทั้งหมดถือเป็นประสบการณ์ในชีวิต ซึ่งมันเป็นอดีตและเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ เพื่อค้นหาความสุขให้กับตนเองค้นหาสิ่งที่เรารัก แน่นอนในประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมามันอาจจะมีสิ่งที่เราทำดีบ้าง ทำร้ายบ้าง ที่เราภาคภูมิใจบ้างหรือเสียใจในตัวเองบ้าง แต่ไม่ว่าเหตุการณ์ไหนที่มันเกิดขึ้นในอดีตก็ตาม ตนเชื่อว่าทุกคนขับเคลื่อนและพยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนเป็นคนๆนึงที่เคยผิดพลาดมาหลายเรื่อง สำเร็จมาหลายเรื่อง แต่วันนี้อยากเป็นคนที่ดีขึ้นเท่านั้นเอง แค่ให้โอกาสตัวเองได้ลุกขึ้นมาดีขึ้นเท่านั้นเอง"

ขณะเดียวกันในวันนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถามกับลูกศิษย์ลูกหาประชาชนที่เดินทางมาไหว้สักการะองค์เทพต่างๆ ถึงพลังศรัทธาที่มีต่อตัวอาจารย์เอ จักรพรรดิ โดยคุณดา และคุณแพท เดินทางมาจากสมุทรปราการและใจกลางเมืองกรุง บอกกับทีมข่าวว่า อาจารย์เอ จักรพรรดิ เป็นอาจารย์ที่ดีที่สุดไม่เคยเรียกร้อง ลูกศิษย์ทุกคนจะทราบกันดี ลูกศิษย์ให้กันด้วยความเต็มใจ ต้องคนที่สัมผัสเท่านั้นจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ส่วนตัวไม่ได้โกรธกับสังคมที่ดราม่าต่ออาจารย์ เพราะเข้าใจได้ว่าคนเราไม่ได้คิดเหมือนกันหมด แต่หากคุณได้มาสัมผัสอาจารย์ด้วยตนเองแล้วคุณจะรู้ว่าอาจารย์เป็นคนแบบไหน เป็นคนที่น่ารักมีแต่ให้ มีหลักการในดำเนินชีวิต ให้กำลังใจ ให้อาชีพ มีแต่พลังบวก

ทั้งคุณดาและคุณแพท ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ต่างเล่าประสบการณ์ชีวิตที่ก่อนหน้านี้เคยดำดิ่งมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่หลังจากได้มาพบกับอาจารย์เอ จักรพรรดิแล้วชีวิตดีขึ้น ให้คำสอนให้ความช่วยเหลือ ทุกคนและพร้อมที่จะถวายชีวิตให้กับอาจารย์ด้วย ส่วนประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นก็อยากจะฝากบอกสังคมว่าใครก็ตามที่ไม่รู้จักอาจารย์เราที่แท้จริงก็อย่ามาพูดแบบนี้ อย่ามาทำให้อาจารย์เราเสียหายอยากให้เข้ามาสัมผัส ก่อนว่าอาจารย์เราเป็นคนแบบไหน ไม่ใช่อยากจะพูด หรืออยากจะเขียนอะไรไปเพราะคำพูดหรือคำเขียนของพวกคุณทำร้ายคนได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top