Wednesday, 14 May 2025
NEWS FEED

‘ชาวเน็ต’ ถล่ม!! ช่องยูทูบล้านซับหลอกใช้แรงงาน นศ.ฝึกงาน ‘ทำงาน 7 วัน - เลิกงานตี 3 - ไม่จ่ายค่าแรง’ ล่าสุดแถลงชี้แจงแล้ว

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่องยูทูบ ‘บ้านกูเอง’ ที่มีผู้ติดตาม 1 ล้านกว่าคน โดยทางช่องมักจะลงคอนเทนต์วิพากษ์วิจารณ์สังคมได้อย่างดุเดือด ส่งผลให้มีผู้ติดตามขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ

โดยล่าสุด ช่องดังกล่าวได้โพสต์วิดีโอ ‘แฉ! YouTuber หลายล้านซับหลอกใช้แรงงานนักศึกษาฟรี 30+ ชีวิต /ทำงาน 7 วัน เลิกงานตี 3 /ใช้ทำงานนอกช่อง’

ทั้งนี้ ภายในคลิปจะปรากฏอดีตนักศึกษาฝึกงานที่เคยฝึกกับยูทูบเบอร์ชื่อดัง มาพูดเปิดใจภายในคลิป ความว่า ต้องทำงานมากถึง 7 วัน แม้จะเป็นวันหยุด ที่สำคัญพนักงานประจำรวมตัวผู้บริหารบริษัทแล้วมี 8 คน โดยแต่ละคนก็มีช่องยูทูบเป็นของตัวเอง ซึ่งมีเพียง 5 คนที่ทำงานเบื้องหลัง (ตัดต่อ) อีก 3 คนออกกล้อง แต่รับนักศึกษาฝึกงานมาทำงานมากถึง 30 กว่าคน รวมถึงการทำงานที่ล่าช้า เจ้านายไม่ยอมตรวจ

อดีตเด็กฝึกงานกล่าวอีกว่า การสอนงานเป็นไปแบบเด็กฝึกงานสอนกันเอง ค่าตอบแทนไม่มี แต่มีน้ำเปล่าให้แค่นั้น

โดยองค์กรนี้จะถ่ายคลิปเยอะ เนื่องจากแต่ละคนก็มีช่องเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งธรรมชาติของแต่ละช่องก็จะแตกต่างกัน รวม ๆ แล้วใน 1 สัปดาห์ เด็กฝึกงานต้องทำคอนเทนต์ประมาณ 10 เรื่อง

ส่วนเรื่องการเข้างาน ถ้าหากเข้างานสาย 1 นาทีจะถูกเช็กขาด แต่ถ้าอยู่เกินเวลาทำงานหลังสองทุ่มไม่มีอะไรให้เช่นกัน แต่ต้องอยู่ยาวยันตี 3-4 และดูเหมือนการทำงานแบบนี้เหมือนใช้แรงงานมากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย

โดยตำแหน่งงานต่าง ๆ ที่รับสมัครเข้าไปคือ ครีเอทีฟ ตัดต่อ เออี และตำแหน่งอื่น ๆ จนแทบเป็นหนึ่งบริษัทได้เลย โดยเน้นปริมาณการทำงาน เอาไม่เอาค่อยเลือกทีหลัง อีกทั้งในองค์กรก็มีช่องแยกออกไปอีก ทำให้นักศึกษาเข้าไปทำงานช่องอื่นที่เป็นของพนักงานตัวเอง

อย่างไรก็ตาม มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีนี้มากมาย อาทิ

-ใช้แรงงานน่ากลัวมาก ตอนดึกควรจะได้นอนพักผ่อนแต่ต้องมาทำงานอีก
-ฟ้องกรมแรงงานได้นะ ถ้าจะเอาจริงๆ และแน่ๆ ถ้าน้องเขาแฉ

-นักศึกษาฝึกงานน่าจะมีตลอดทุกปี หลอกใช้ฟรีแบบนี้ ลดต้นทุนสุดๆ หัวหมอมาก
-นักศึกษาฝึกสอนไม่ได้เงินเลยอะ มีแต่คนบอกว่าคุณขอมาทำเอง โรงเรียนให้ทำก็ดีแค่ไหนแล้ว เอาตรงปะนี่ทำได้ดีมากเลยนะพานักเรียนไปแข่งตลอด ได้ดีตลอด อยากจะcrazy

-มีเยอะมากครับบริษัทแนวนี้ ที่จะหาช่องทางในการลดค่าจ้างจากการใช้เด็กฝึกงานเป็นพนักงาน รู้สึกแปลก แต่ไม่ได้แปลกใจครับ เพราะว่าอาจารย์เคยเล่าให้ฟัง 555 ถ้าเจอบริษัทที่ดีก็จะพอบริหารและเข้าใจได้เนื่องจากอาจจะเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กเลยต้องการคนเข้าไปช่วยสักจำนวนนึง แต่ถ้ามีลักษณะแบบนี้แล้วเป็นบริษัทใหญ่ด้วย ก็จ้องจะเอาเปรียบแน่นอนครับ

-เข้ามาฟังคลิปนี้ เพื่อเรียนรู้เป็นบทเรียน เราจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นแบบนี้ แต่ยอมรับเลย ฟังไม่ถึง 5 นาที รู้สึกรังเกียจวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทนี้

หลังจากเผยแพร่คลิปวิดีโอออกไปแล้ว กระแสวิพากย์วิจารณ์ค่อยข้างแรง จนล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก The Snack ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นนักศึกษาฝึกงาน โดยระบุว่า 

“เรียนทุกท่าน

บริษัท The Snack ได้รับทราบถึงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับการรับนักศึกษาฝึกงานมาทำงานหนักเกินไป ทางบริษัทขอแสดงความเสียใจต่อความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น และขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

นโยบายการรับนักศึกษาฝึกงาน

บริษัท The Snack มีนโยบายในการรับนักศึกษาฝึกงาน เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจริง โดยทางบริษัทพิจารณาให้นักศึกษาฝึกงาน ได้รับโอกาสและบทบาทความรับผิดชอบที่ท้าทาย สอดคล้องกับทักษะและความรู้ ส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และทักษะอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อให้มีศักยภาพพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต

ข้อตกลงก่อนการฝึกงาน

ก่อนที่จะรับนักศึกษาฝึกงานเข้ามา ทางบริษัทมีการพูดคุย และทำข้อตกลงกับนักศึกษาฝึกงานอย่างละเอียดเกี่ยวกับรายละเอียดของงาน ขอบเขตงาน ระยะเวลาฝึกงาน ข้อกำหนดเรื่องสวัสดิการ เงินตอบแทน และเป้าหมายการฝึกงานของตัวนักศึกษาฝึกงานเองอย่างชัดเจนก่อนเริ่มฝึกงาน

การดูแลนักศึกษาฝึกงาน

ทางบริษัทมีนโยบายในการดูแลนักศึกษาฝึกงานอย่างใกล้ชิด โดยมีพนักงานพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ สนับสนุน ติดตามผลงาน และให้คำปรึกษาอยู่เสมอ

การชี้แจงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์

จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนักศึกษาฝึกงานถูกใช้งานหนักเกินไป ทางบริษัทได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า :

ทางบริษัทไม่ได้บังคับให้นักศึกษาฝึกงานทำงานล่วงเวลา
ทางบริษัทมีกฎระเบียบและนโยบายที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อนรับสมัคร เพื่อมุ่งเน้นการผลิตนักศึกษาที่มีคุณภาพและทัศนคติที่ดี ออกสู่โลกการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทตระหนักดีว่ายังมีบางจุดที่ต้องปรับปรุง ทางบริษัทจึงได้ดำเนินการดังต่อไปนี้

ทบทวนนโยบายการรับนักศึกษาฝึกงาน

กำหนดขอบเขตงานของนักศึกษาฝึกงานให้ชัดเจน
เพิ่มจำนวนพนักงานพี่เลี้ยง
จัดกิจกรรมอบรมให้กับพนักงานพี่เลี้ยง

บทสรุป

บริษัท The Snack ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และการเรียนรู้ของนักศึกษาฝึกงานอย่างแท้จริง เราขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของประเด็นนี้ และขออภัยอย่างจริงใจสำหรับความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบที่ตามมา

หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด เราได้ดำเนินการทบทวน และปรับปรุงนโยบายการรับนักศึกษาฝึกงานโดยมีการปรึกษาจากองค์กรภายนอก เพื่อรับประกันความเป็นธรรม และความชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราจะเพิ่มการฝึกอบรมสำหรับพนักงานพี่เลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขารู้วิธีการสนับสนุนและช่วยเหลือนักศึกษาฝึกงานได้อย่างเต็มที่

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การเติบโต และการพัฒนาส่วนบุคคล และเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างดียิ่งขึ้น

ขอบคุณที่มอบโอกาสให้เราแสดงความมุ่งมั่นในการปรับปรุง และเรียนรู้จากสถานการณ์นี้

ขอแสดงความนับถือ

บริษัท The Snack World

24 มีนาคม 2567

'อิตาเลียนไทย' ยอมจ่ายเงินเดือนให้พนักงานแล้ว 6,626 คน  คาดว่าจะจ่ายครบทุกคนภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ 

(25 มี.ค. 67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยความคืบหน้าในการช่วยเหลือลูกจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกค้างจ่ายค่าจ้าง ล่าสุดทยอยจ่ายไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท ลูกจ้างได้เงินแล้ว 6,626 คน ด้านนายจ้างเร่งแก้ปัญหา คาดจ่ายค่าจ้างครบ 100% ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้

โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานตรวจแรงงาน ได้เชิญผู้แทนบริษัทฯ มาพบที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 เพื่อให้ข้อเท็จจริงและหารือร่วมกันถึงปัญหาการค้างจ่ายค่าจ้าง

ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้แทนบริษัทให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทฯ มีลูกจ้างทั้งหมด 20,188 คน และมีโครงการก่อสร้างกระจายอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศไทย รวม 115 โครงการ กรณีปัญหาที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ยอมรับว่าเกิดจากการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหาโดยการขอสินเชื่อหรือขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนภายในบริษัทฯ

โดยในปัจจุบันมีสถาบันทางการเงินเข้ามาสนับสนุนโครงการของบริษัทฯ แล้ว จำนวน 79 โครงการ ทำให้สามารถจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างได้ตามปกติ

สำหรับ 36 โครงการที่เหลือรวมถึงสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัทฯ อยู่ระหว่างติดต่อประสานกับสถาบันการเงินเข้ามาสนับสนุน ซึ่งผู้แทนบริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างได้ตามปกติประมาณเดือนเมษายน 2567

และจากการที่ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบไซต์ก่อสร้างในเครือบริษัทอิตาเลียนไทย พบว่า ในหลายโครงการหลายจังหวัดเริ่มทยอยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย โดยลูกจ้างได้รับค่าจ้างตามปกติแล้ว เป็นลูกจ้างที่มีทั้งสัญชาติไทยและแรงงานข้ามชาติ จำนวน 6,626 คน ได้แก่ ลูกจ้างในจังหวัดระยอง ปทุมธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา และเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 และพื้นที่ 3 เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท

‘แสนชัย’ จัดหนัก!! ‘นักมวยพม่า’ หลังแลบลิ้นยั่วใส่บนเวทีไทยไฟต์ ประเคน ‘หมัด-เท้า-เข่า-ศอก’ พร้อมเตะก้านคอจนน็อกไปยกแรก

(25 มี.ค.67) เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในศึก ไทยไฟต์ ปลวกแดง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยในคู่ที่ 9 เป็นการชกของโคตรมวยสารคาม แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม อีกหนึ่งยอดมวยไทย วัย 43 ปี พบกับ มาน เย จอ ซัว นักมวยชาวเมียนมา ตัวตึงแห่งมัณฑะเลย์ วัย 28 ปี โดยชกในน้ำหนัก 68 กิโลกกรัม

ปรากฎว่าการชกจบลงเพียงยกแรก โดยทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้น ทั้งคู่ต่างเปิดฉากแลกอาวุธกันอย่างดุเดือด โดยที่ช่วงหนึ่ง มาน เย จอ ซัว ได้แลบลิ้นยั่ว แสนชัย

ทำให้ ยอดมวยสารคาม ประเคนอาวุธแบบจัดหนัก ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ใส่นักมวยเมียนมา ก่อนที่จะได้จังหวะเตะซ้ายก้านคอ เอาชนะน็อกนักมวยเมียนมา ไปได้ในยกที่ 1

‘ตร.ขอนแก่น’ หวังดีช่วยเหลือชาวบ้านน้ำมันหมด แต่ดันเติมผิดประเภท พร้อมยืดอกรับผิด ขอรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการ

(25 มี.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับกรณี ตำรวจ สภ.ขอนแก่น ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่น้ำมันรถยนต์หมด จึงได้นำน้ำมันไปเติมให้กับรถยนต์คันดังกล่าวของประชาชน ซึ่งต่อมามีชาวเน็ตเข้ามาทักท้วงว่า เติมน้ำมันผิดชนิดหรือไม่นั้น

ล่าสุด เพจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ยอมรับกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะรับผิดชอบกับค่าเสียหายทั้งหมด

พร้อมระบุข้อความว่า รายงานเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือรถประชาชนน้ำมันหมด สภ.เมืองขอนแก่น ขอรายงานเหตุการณ์ วันนี้ (24 มี.ค.67) เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.วรทรรศน์ กัสนุกา รอง สว.(ป.)ฯ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรประจำการ (20-1) พร้อมด้วย จ.ส.ต.ฉัตรชัย เมืองทอง ระหว่างออกตรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนคร แจ้งว่าประชาชนรถยนต์น้ำมันหมดขอความช่วยเหลือ โดยได้ไปซื้อน้ำมัน จำนวน 300 บาท ตามที่เจ้าของรถแจ้งมาและนำไปเติมให้เรียบร้อย จากนั้นได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียลเฟซบุ๊ก ได้มีคอมเมนต์แจ้งว่าได้เติมน้ำมันผิดประเภท

ต่อมาเวลา 20.00 น. จึงได้ทำการตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมัน พบว่าได้ซื้อน้ำมันผิดจริง (ดีเซล B7) ซึ่งเกิดจากการสื่อสารกันคลาดเคลื่อน โดย สภ.เมืองขอนแก่น จะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการและกราบขออภัยเจ้าของรถที่เกิดเหตุการณ์นี้

“เราดูแลคุณ เพื่อให้คุณไปดูแลประชาชน”

ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง

วันที่ 25 มีนาคม 2567 เวลา 08.00 น. นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ ศาลพ่อปู่ชินพรหมมา และสักการะพระพุทธรูปในห้องทำงานผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ชั้น 8 อาคารกระทรวงแรงงาน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน โดยมี ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ร่วมพิธี ณ บริเวณกระทรวงแรงงาน

สำหรับ นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท รัฐประศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรที่สำคัญ ได้แก่ นักบริหารประกันสังคม รุ่นที่ 14 นักบริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข รุ่นที่ 1 นักบริหารระดับสูง (ส.นบส.) รุ่นที่ 13 การพัฒนาผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ระดับสูงภาครัฐ รุ่นที่ 30 ผู้ตรวจราชการระดับกรม ประจำปี 2565

เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ได้แก่ หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี สาขาศรีราชา ประกันสังคมจังหวัดพังงา ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต ประกันสังคมจังหวัดสุราษฎรธานี ผู้อำนวยการสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้อำนวยการสำนักสิทธิประโยชน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานในปัจจุบัน

ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
 

เฉลย!! 'สุนัข' ในตุรเคีย 'จ้องมอง-แบ่งอาหาร' ในท่อระบายน้ำ เพราะลูกแมวตัวเล็กอาศัยอยู่ โดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

(25 มี.ค.67) คุณประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้โพสต์เรื่องราวน่าประทับใจผ่านเฟซบุ๊ก 'Prapas Cholsaranon' ระบุว่า...

ผู้คนที่มาท่องเที่ยวที่ถนนเฟทิเย่ต์ เมืองอิซมิท ประเทศตุรเคีย เริ่มสงสัยเจ้าแอนนี่สุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่เอาแต่จ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวัน

มันทำอย่างนั้นไปทำไม

ยิ่งมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเจ้าแอนนี่นั่งเฝ้านั่งมองท่อระบายน้ำมาลงโซเชียลมีเดีย ผู้คนก็ยิ่งช่วยกันตั้งข้อสงสัย

คนกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่าหรืออาจเป็นเพราะกลิ่นจากท่อระบายน้ำที่ดึงดูดสุนัข

อีกกลุ่มหนึ่งคิดว่าหรือมันมีสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวได้ 

อีกกลุ่มก็ค้านว่ามันอาจเป็นแค่แสงวับ ๆ แวมๆที่สะท้อนลงไปผิวน้ำ

พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นหลายคนพยายามก้มมองลงไปในท่อระบายน้ำ แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด

บางคนก็พยายามเงี่ยหูฟังว่ามันจะมีเสียงอะไรให้ได้ยินบ้าง แต่ก็ไม่มีใครได้ยินอะไร

ในที่สุดก็มีคนไปตามตำรวจดับเพลิงมาช่วยเปิดตะแกรงเหล็กฝาท่อระบายน้ำที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากออกดู 

เปิดแล้วเอาไฟฉายส่องลงไปก็ไม่เห็นอะไร

พอเอาฝาท่อมาปิด เจ้าแอนนี่ก็ยังคงนั่งมองท่อระบายน้ำต่อไป

อีกมุมหนึ่งของถนน โซฟีสาวน้อยใจบุญคนหนึ่งที่ชอบเอาอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัด เธอเห็นรูปของเจ้าแอนนี่ในโซเชียลมีเดีย เธอจำมันได้ว่ามันเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ชอบมากินอาหารที่เธอนำมาให้

คราวนี้เธอจึงเพิ่งสังเกตว่า เจ้าแอนนี่ไม่ได้กินอาหารที่เธอให้จนหมดเหมือนสุนัขตัวอื่น เมื่อเธอให้ชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งแก่เจ้าแอนนี่ไป เธอจึงได้เห็นว่าเจ้าแอนนี่คาบเอาอาหารเดินหนีออกไปอีกทางหนึ่ง เธอรีบเดินตามเจ้าแอนนี่ไป แน่นอนมันไปที่ท่อระบายน้ำปริศนานั้น

เธอเห็นกับตาว่าเจ้าแอนนี่มันกัดเนื้อที่เธอให้ออกเป็นชิ้น ๆ แล้วทิ้งลงไปในท่อระบายน้ำนั้น

โซฟีรีบโทรหาตำรวจดับเพลิง เธอคิดว่าในท่อระบายน้ำน่าจะมีสัตว์อะไรบางอย่างอยู่แน่ ๆ 

ตำรวจดับเพลิงกลับมาที่บริเวณท่อระบายน้ำอีกครั้ง แล้วก็เปิดฝาท่อระบายน้ำ คราวนี้พวกเขาใช้อุปกรณ์ก้านยาว ๆ ราวสามสี่เมตรผูกกับสมาร์ตโฟนแล้วก็แหย่ลงไปแล้วบิดเข้าในทางขวางของท่อระบายน้ำที่ตามองเข้าไปไม่ถึง แล้วก็ถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ตโฟนไปตลอดเวลาของการแหย่ไม้ลงไป

ในที่สุดทุกคนก็ได้รู้แล้วว่าเจ้าแอนนี่มันจ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวันด้วยเหตุผลอะไร เมื่อตำรวจดับเพลิงนำวิดีโอนั้นมาเปิดดู

ลูกแมวตัวเล็ก ๆ ห้าตัวอาศัยอยู่ในนั้นโดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

ตำรวจรื้อท่อระบายน้ำแล้วนำลูกแมวผอมโซที่หวาดกลัวผู้คนทั้งหมดออกได้

และตอนจบของพฤติกรรมอันน่าสงสัยของเจ้าแอนนี่ครั้งนี้ก็คือ ชาวบ้านและตำรวจต่างช่วยกันแบ่งลูกแมวไปเลี้ยงดู 

‘เจี๊ยบ’ เหน็บ!! ‘ทักษิณ’ หลังย่องไปตัดผมที่สีลม ลั่น!! ไม่คิดจะนิ่งซัก 2-3 เดือน ไว้หน้าหมอที่รับรองให้เลย

(25 มี.ค. 67) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ อดีต สส.พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กภาพข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางมาตัดผมที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณตึกแถวย่านสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (สีลม) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมข้อความระบุว่า…

“ไม่คิดจะหักห้ามใจพักผ่อนนิ่ง ๆ ซัก 2-3 เดือนไว้หน้าหมอที่รับรองให้เลย”

‘เฒ่าวัย 67 ปี’ ใช้มีดแทงป้าดับสลด เพราะ ‘พัดลม’ ตัวเดียว หลังตนเปิดจ่อ แต่โดนหันหนี ก่อน ตร.ตามจับตัวได้ที่คอนโด

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.67) ร.ต.ท.พชร ปุ้มฤทธิ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับเเจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในร้านอาหารตามสั่ง ซอยเอกชัย 66 แขวงคลองบางพลาน เขตบางบอน กทม. ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่ง พบ ร่างน.ส.พรพิมล อายุ 64 ปี มีบาดเเผลถูกเเทงบริเวณหน้าอก 2 เเผล กู้ชีพปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลมะลิ เเต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเดียวทราบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ห้องพัก ชั้น 7 ของคอนโดแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังพังประตูเข้าควบคุมตัวไว้ได้

ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือนายวรพงษ์ อายุ 67 ปี จากการตรวจค้นพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบถามเบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การวกไปวนมา พยายามอ้างตัวว่าตัวเองเป็นตำรวจยศนายพล และบอกว่า “ผู้การจะต้องมารับผิดชอบในความปลอดภัยของตัวเองนะ” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ สน.บางขุนเทียน

จากการสอบถามแม่ค้าขายอาหารจุดเกิดเหตุเผยว่า นายวรพงษ์ ผู้ก่อเหตุ เดินมานั่งในร้านก่อนนั่งเฉย ๆ อยู่หน้าพัดลม ยังไม่ได้สั่งอาหารอะไรกิน จากนั้นน.ส.พรพิมล ผู้เสียชีวิต เดินเข้ามาในร้าน สั่งแกงจืดและไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะลุกไปหันพัดลมที่ผู้ก่อเหตุนั่งจ่ออยู่ ให้หันไปทางโต๊ะที่ผู้ตายนั่ง ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ลุกขึ้นพุ่งเข้าไปใช้มีดแทงทันที โดยที่ยังไม่ทันได้มีปากเสียงอะไรกันเลย

ทั้งนี้นายวรพงษ์ ชอบมานั่งเฉย ๆ บ่อยครั้งและไม่ได้สั่งอาหารกิน แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะรู้ว่าสภาพจิตดูไม่ค่อยปกติ และที่ผ่านมาก็มักจะเห็นพกมีดติดตัวไว้เป็นประจำ เท่าที่ทราบทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตทั้งสองคนจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป แต่ไม่เคยมีเหตุรุนแรงมาก่อน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเบื้องต้นก็พอพูดจารู้เรื่อง ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเคยมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตมาก่อน ก่อนเกิดเหตุไปซื้อข้าว ระหว่างนั่งรอ ทันใดนั้นคู่กรณีเดินมานั่งและแย่งพัดลมตรงจุดที่นั่งอยู่ ทำให้โมโหใช้มีดแทงไปที่หน้าอก 2 แผลจนเสียชีวิต

แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ กับพกพาอาวุธมีดฯ ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านบอกว่าผู้ชายคนนี้มีอาการป่วยทางจิตเวช ตำรวจจะติดต่อให้ญาตินำหลักฐานหรือเอกสารมายืนยันว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชจริงหรือไม่ และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้พบว่าเคยเป็นตำรวจหรือข้าราชการแต่อย่างใด คาดว่าที่ผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นตำรวจมาจากอาการทางจิตเวชก็เป็นได้

ทั้งนี้ ระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวนายวรพงษ์ ไปที่ห้องกักขังผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุไม่ตอบคำถามใดๆ แต่ผู้ก่อเหตุได้หันไปทำท่า ‘วันทยหัตถ์’ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยสุขภาพประชาชนในวิกฤตค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน มอบหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95 มูลค่า 3.2 หมื่นบาท ผ่าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.

วันนี้ 25 มีนาคม 2567) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ  พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ และนายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ กรรมการ เข้าพบ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อมอบหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95 จำนวน 206,000 ชิ้น รวมมูลค่า 320,000 บาท (สามแสนสองหมื่นบาทถ้วน) นำแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่เขตต่างๆ และบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือตามแต่ทางกรุงเทพมหานครเห็นควร เพื่อบรรเทาทุกข์ในช่วงสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน โดยมี นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และนางชญาน์นันท์ สรพลจิโรจเดชา หัวหน้าแผนกสื่อสารองค์กร (จีน) พร้อมคณะ ร่วมในพิธี ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) กรุงเทพฯ

ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
.
## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

‘ดี้ นิติพงษ์’ แนะ!! ทริค 10 ข้อ ก่อน ‘อ่านตัวเลข’ จำนวนมาก หลัง ‘ธิษะณา’ ปล่อยไก่โชว์สกิลอ่านตัวเลขหลักร้อยล้านไม่ลงตัว

(25 มี.ค.67) จากกรณี น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงงบประมาณ ปี 2567 ในสภาฯ และได้ปล่อยไก่ อ่านตัวเลขหลักร้อยล้านกลางสภาฯ แต่อ่านอย่างไรก็ไม่ลงตัวสักทีนั้น

ล่าสุด ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nitipong Honark แนะนำทริคก่อนอ่านตัวเลขจำนวนมาก โดยระบุว่า เวลาต้องอ่านออกเสียงตัวเลขจำนวนมากจากในกระดาษหรือจอ ถ้ามีเวลาเตรียมตัว ให้ซ้อมอ่านออกเสียงสัก 5-10 ครั้งก่อนจะอ่านออกมาต่อหน้าสาธารณชน เพื่อป้องกันการผิดพลาด…

ฉันมักจะเห็นผิดพลาดกันบ่อยครั้ง ใครสติดีก็แก้ไขได้เร็ว ณ จุดนั้น ขออภัยคำเดียว แล้วครั้งที่สองก็ผ่านไปได้…แต่ถ้าไหวพริบและสติไม่ค่อยแข็งแรง ก็จะหลงไปกันใหญ่ เลขพันกัน อะไรมาก่อนไม่รู้แล้ว พันแสนหมื่นล้านร้อย…

สำหรับท่านที่ไม่มีเวลาหรือไม่ทันเตรียมตัวซ้อมอ่านมาก่อน ขอแนะนำดังนี้…

พออ่านมาถึงตรงที่เป็นตัวเลขจำนวนเยอะ ๆ ยาว ๆ  ให้หยุดดูจำนวนรวมสักสองวินาที

2. หายใจลึก ๆ 

3. ตัวเลขส่วนใหญ่บนกระดาษหรือจอ มักจะมีเครื่องหมาย ‘ลูกน้ำ’ หรือ ‘จุลภาค’ (comma) คั่นตัวเลข ทุก ๆ 3 ตัว ถ้าไปเห็นตัวเลขที่ไหนเขียนมาให้ท่านอ่านโดยไม่มีลูกน้ำคั่น ให้ขออนุญาตผู้ชม เอาปากกามาเขียนลูกน้ำเอง ทุก ๆ 3 ตัว แล้วค่อยอ่าน หลังเสร็จงานควรกลับไปด่าไอ้คนที่เขียนตัวเลขยาว ๆ มาให้อ่านโดยไม่มีลูกน้ำ ว่า ไอ้หอยหลอด ไอ้ไม่มีการศึกษา หรือไอ้อะไรก็ได้ตามแต่พอใจ (ยกเว้นกรณีเลขสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะไม่ใช่จำนวน…แต่เป็นวาสนา)

4. เมื่อตั้งสติเห็นเลขยาว ๆ ที่เขามีลูกน้ำคั่นมาให้แล้ว ให้อ่านตามข้อ 5 เป็นต้นไป (ถ้าตัวเลขมีแค่สามตัว…อ่านไปเลย ถ้าสามตัวยังอ่านผิด กรุณาอย่าอ่านอะไรให้ใครฟังต่อไปอีก)

5. เลขหน้าลูกน้ำตัวแรกจากขวามือของจำนวนที่เขียน คือ ‘พัน’ ตัวที่สองต่อมาคือ ‘ล้าน’ ตัวที่สามต่อมาคือ ‘พัน’ ตัวที่สี่ต่อมาคือ ‘ล้าน’ สลับกันไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะยาวแค่ไหน ก็ต้องนับลูกน้ำอย่างนี้ ถอยหลังจากทางขวา มาทางซ้าย

6. ที่จะทำให้ออกทะเลได้ง่ายที่สุด คือ ตั้งหลักแรกไม่ได้ ว่าเป็น ‘พัน’ หรือเป็น ‘ล้าน’ ซึ่งมักจะทำให้หลงหลักพันพัวนัวเนียดิ้นไม่หลุดอยู่เสมอ

7. สายตาต้องไว กวาดไปนับลูกน้ำก่อน ว่ามีกี่ตัว ท่องถอยหลังมา ว่า พัน-ล้าน-พัน-ล้าน แล้วค่อยเริ่มต้นอ่าน

8. ถ้าตัวเลขมันยังไม่ถึงลูกน้ำตัวต่อไป ก็จะมีสองหลักตามมา คือ ‘ร้อย’ สลับกับ ‘แสน’ เพราะฉะนั้นเวลาเห็นเลขสามตัวนำหน้าลูกน้ำ ก็ให้พิจารณาดูว่าเป็น หลักร้อย หรือ หลักแสน

9. โดยทั่วไปตัวเลขที่ต้องอ่าน ก็มักจะยาวไม่เกินลูกน้ำ สามสี่ตัวดอก แต่ถ้าจำนวนมากกว่านั้น ก็ตั้งสติอ่านให้ช้าหน่อยก็ไม่มีใครว่ากระไร ทุกคนเข้าใจ

10. ถ้ามีอาชีพต้องอ่านตัวเลขบ่อย ๆ ให้ฝึกอ่านโดยใช้วิธีนี้บ่อย ๆ แล้วจะคล่องตัวจนแทบไม่ต้องตั้งหลักในการอ่านนานจนผิดสังเกต

11. แถมอีกนิด คือ ต้องแม่นวิชาเลขคณิตตอนประถมด้วยว่า ล้าน แสน หมื่น พัน ร้อย สิบ หน่วย  ต้องเป็นการนับให้ติดปาก สลับกันเมื่อไหร่ ฮาเมื่อนั้น

หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อแม่ประไพ พ่อทิดเอิบทั้งปวงของฉัน ถ้าหากมีใครใจดี เอาไปทำเป็นกราฟิกอินโฟได้ ก็จะอ่านง่ายกว่าเป็นอักษรบรรยายเช่นนี้  

ขอให้ประสบความสำเร็จในการอ่านตัวเลขโดยทั่วกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top