Wednesday, 14 May 2025
NEWS FEED

รรท.ผบ.ตร. สานต่อ “ทำดี มีรางวัล” มอบเกียรติบัตรตำรวจจราจร สน.บางซื่อ ใช้ AED สภากาชาดไทย ช่วยชีวิตคนขับรถตู้หมดสติ วันนี้ (25 มี.ค.67) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี

วันนี้ (25 มี.ค. 67) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่ข้าราชการตำรวจ สน.บางซื่อ ที่ได้ช่วยชีวิตประชาชนบนท้องถนนด้วยการใช้เครื่อง AED ที่สภากาชาดไทยได้ทำการติดตั้งให้ 

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 มี.ค.67 เวลาประมาณ 10.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนขับรถตู้หมดสติคาพวงมาลัย บริเวณแยกกำแพงเพชร แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ด.ต.ไกรศร พลตาล ผบ.หมู่.งานจราจร สน.บางซื่อ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยมีสัญญาณชีพเพียงเล็กน้อย ด.ต.ไกรศรฯ จึงได้ดำเนินการตามหลักการช่วยฟื้นคืนชีพ กล่าวคือ ได้ขอความช่วยเหลือด้วยการวิทยุแจ้งรถกู้ภัยให้มายังที่เกิดเหตุ และเริ่มทำการฟื้นคืนชีพโดยการนำเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ซึ่งติดตั้งโดยสภากาชาดไทยที่แยกกำแพงเพชร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร มาทำการช่วยเหลือ และทำการ CPR ตามขั้นตอน จนชายคนดังกล่าวกลับมามีสัญญาณชีพ จึงนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

โดยเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ดังกล่าว เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ที่ได้ทรงส่งเสริมและสนับสนุนให้มีติดตั้งเครื่อง AED ในทุก สน. และบริเวณทางแยกจราจรที่มีการสัญจรหนาแน่นและมีประชากรจำนวนมาก พร้อมทั้งทำการฝึกอบรม CPR และใช้เครื่อง AED ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า ตนขอชื่นชมการปฏิบัติงานของ ด.ต.ไกรศรฯ ที่มีไหวพริบปฏิภาณสามารถนำองค์ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลและทักษะด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ได้รับการอบรมมาช่วยเหลือชีวิตของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และทันท่วงที จึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมต่อไป
 

‘เพจดัง’ แฉ!! เคสคนพา ‘แมว’ ขอทานตามงานวัด นอนนิ่ง 4 ตัวไม่ขยับ เร่งหน่วยงานช่วยตรวจสอบ

(25 มี.ค. 67) กลายเป็นภาพสุดสะเทือนใจ ขอเหล่าทาสสัตว์ หลังเพจ ‘อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6’ ออกมาแฉเคสขอทานแมว นอนนิ่งเร่ขายกลางงานวัด โดยระบุว่า

“ทาสจะไม่ทน…นอกจากน้องหมาที่ราชบุรีแล้ว ที่กาญจนบุรีก็มีน้องแมวเอาน้องมาหากินใช่ไหมนอนนิ่งเลย ทรมานสัตว์มาก พิกัดวัดพระแท่นดงรัง (กาญจนบุรี)

- โห นิ่งผิดปกติมาก แย่มาก
- พรุ่งนี้มีงานวัดวันสุดท้าย อยากให้มีหน่วยงานรีบเข้าไปดูค่ะ ไม่รู้จบงานแล้วจะพาน้อง ๆ ไปทรมานที่ไหนต่อ เท่าที่เห็นน้ำก็ไม่มีกิน ละอากาศก็ร้อนมากด้วย
- เห็นไปทุกงานวัดค่ะ น่าจะไปมาหลายที่แล้ว เราสงสารน้องแมวมากเลย
- มันเดินสายไปทุกจังหวัดเลยครับที่มีงานใหญ่ ๆ ไอ้เด็กชุดลิเกนี่ แมว 4 ตัวนี้ 3 เดือนที่แล้วพึ่งจะมางานบ้านผม น่าจะทำกันเป็นขบวนการ”

ไม่เพียงแค่นั้น เพจดังกล่าวยังระบุอีกว่า “ใครรู้จักผู้ใหญ่ใจดีก็ช่วยแชร์ส่งต่อไปนะ ทางทีมงานส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นแล้ว”

งานนี้เมื่อแชร์ออกไป ชาวเน็ตต่างแห่กันคอมเมนต์ถกสนั่นถึงการทารุณกรรมสัตว์ พร้อมวอนให้หน่วยงานเร่งตรวจสอบ และลงโทษขบวนการขอทานที่ใช้สัตว์เป็นตัวเรียกความสงสารคนใจบุญ หรือเหล่าทาสสัตว์เลี้ยงอย่างหนัก

สาวๆ กรี๊ด!! ‘สารวัตรแจ๊ะ’ แห่งสืบนครบาล IDMB ‘ประวัติดี-ผลงานเพียบ’ มักปรากฎตัวในหลายคดีดัง

(25 มี.ค. 67) ใครที่ได้ติดตามเฟซบุ๊กเพจ ‘สืบนครบาล IDMB’ ของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะได้เห็นหนุ่มน้อยใส่แว่น สวมหมวกไหมพรมสีเทา กางเกงยีนส์ สวมเสื้อแจ็คเก็ต ‘สืบนครบาล’ ร่วมกับทีมงานจับกุมผู้ต้องหาบ่อยครั้ง

ประกอบกับน้ำเสียงดุดัน หนักแน่นกับผู้ต้องหา ซักถามกันแบบตรง ๆ แต่สุภาพอ่อนโยนกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี และด้วยความเป็นหนุ่มแว่น ตาคมกริบ ผิวขาวแบบโอปป้าเกาหลี ทำให้สาว ๆ ต้องใจละลายแทบกรี๊ดสิครับ กรี๊ดนะ กรี๊ดเลย ไม่ต้องกลั้นเอาไว้

ซึ่งหลายคนอยากรู้ว่านายตำรวจหนุ่มโอปป้าคนนี้เป็นใคร และหลายที่ได้เปิดวาร์ปไปแล้ว แต่ขอเปิดวาร์ปเท่าที่พอทำได้ เพราะเจ้าตัวยังคงต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อประชาชน สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี

โดยนายตำรวจหนุ่มคนนี้มีชื่อเล่นว่า ‘สารวัตรแจ๊ะ’ ยศพันตำรวจตรี ตำแหน่งสารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 69 ส่วนชื่อจริงและนามสกุลจริง ละไว้ในฐานที่เข้าใจ

เริ่มต้นชีวิตข้าราชการตำรวจในตำแหน่งรองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ก่อนจะมารู้จักกับ ‘ผู้การจ๋อ’ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล

จากนั้นได้ย้ายไปอยู่กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน ตำรวจนครบาล 4 ต่อด้วยรองสารวัตร กลุ่มงานการข่าว กองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บก.ขส. บช.ปส.)

เคยร่วมงานกับ พล.ต.ต.ธีรเดช สมัยที่เป็นผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 ฉายา ‘ฉลามจ๋อ’ และเป็นหัวหน้าชุด PCT 5 ทำคดีใหญ่ ๆ หลายคดี ทั้งทลายเว็บพนันออนไลน์, รวบโจรกางเกงในลักทรัพย์มือถือร้านไอที, ทลายโกดังสินค้าออนไลน์ สั่งซื้อโทรศัพท์กลับได้ผงซักฟอก, รวบโจรหลอกลงทุนผลิตชุด ATK, รวบโจรหลอกขายน้องหมาไซบีเรียน, รวบอดีตรองผู้จัดการเขตธนาคารโกงเบี้ยประกัน, ตามจับผัวปืนโหดยิงเมีย, รวบหนุ่มข่มขืนสาว 8 ชั่วโมง เป็นต้น

กระทั่งย้ายข้ามห้วยจาก บช.ปส. มาอยู่นครบาล เป็นสารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ถือเป็นลูกน้อง ลูกหม้อ ‘ผู้การจ๋อ’ แห่งสืบนครบาลเต็มตัว วาดฝีมือลวดลายตามจับกุมผู้ต้องหานับร้อยคดี

ที่ผ่านมาสารวัตรแจ๊ะได้เรียนรู้วิชาสืบสวนสอบสวนก่อนลงสนามจริง มีความสามารถในการวางแผน เก็บรายละเอียดทุกการเคลื่อนไหว ก่อนวาดลวดลายเขียนข่าวแจก แบบชนิดที่ว่าออกมาจากใจคนทำงาน

สำหรับหมวกไหมพรมสีเทานั้น เป็นหมวกที่ ‘ผู้การจ๋อ’ ให้มาเมื่อ 6 ปีก่อน ไว้ใส่เวลาทำงานเพื่ออำพรางใบหน้าในระหว่างลงพื้นที่สืบคดี กระทั่งกลายเป็นที่พูดถึงบนโลกโซเชียลฯ ถึงขนาดเปรียบเทียบกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ‘โคจอน’ มาแล้ว

ส่วนสถานะหัวใจนั้น บอกได้คำเดียวว่าไม่ว่างแล้ว เพราะชีวิตอีกด้านหนึ่งยังเป็นพ่อลูกอ่อน แต่ทุกวันนี้แทบไม่มีเวลาดูแลลูกน้อย เพราะต้องทำหน้าที่แกะรอยตามจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ ๆ

ถึงกระนั้น แฟนคลับทั่วฟ้าเมืองไทยต่างปันใจให้กับ ‘สารวัตรโอปป้าหมวกไหมพรม’ ไปแล้ว

‘มาดามแป้ง’ เปิดแผนเอาใจแฟนบอล ในศึกฟุตบอลโลก 2026 สั่งเปิดทางเข้าราชมังฯ เพิ่ม 2 เท่า - เข้าสนามเร็วกว่าเดิม 3 ชม.

(25 มี.ค. 67) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า…

เพื่อความสะดวกแฟนช้างศึก! มาดามแป้ง สั่งเปิดทางเข้าราชมังฯ เพิ่ม 2 เท่า-เข้าสนามเร็วกว่าเดิม 3 ชม.

‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อำนวยความสะดวกแฟนบอลเต็มที่ หลังสั่งเปิดทางเข้าสนามราชมังคลากีฬาสถาน เพิ่ม 2 เท่า ในเกมสำคัญ เตรียมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 

โดยสั่งการเพิ่มช่องทางเข้า Main entrance 2 บริเวณด้านสระว่ายน้ำอีก 15 ช่อง รวมกับด้านหน้า เป็น 30 ช่องทาง เพื่ออำนวยความสะดวกแฟนบอล รวมถึงยังเปิดให้แฟนบอลเข้าสู่สนามเร็วขึ้นกว่าเดิม คือ ก่อนเกม 3 ชั่วโมง หรือ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เพื่อระบายความแออัด และช่วยให้การตรวจค้น รวมถึงตรวจบัตร มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย ‘มาดามแป้ง’ นายกสมาคมฯ ยังกล่าวขอบคุณ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหนึ่งในสภากรรมการ ที่ช่วยดูแล และ สั่งเข้มงวดเรื่องนี้เต็มที่ โดยเพิ่มเจ้าหน้าที่บริเวณจุดต่าง ๆ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้แฟนบอล ทั้งในสนาม และ นอกสนาม

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึง พื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (สนามราชมังคลากีฬาสถาน) สามารถเข้าได้ 3 ทาง ประกอบด้วย

- ประตู 1 (ติดกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถนนรามคำแหง)
- ประตู 2 (ตรงข้ามกับ FBT ถนนรามคำแหง)
- ประตู 4 (ด้านหลัง ตรงข้ามกับแม็คโคร ถนนรามคำแหง 24)

จากนั้น เมื่อเข้ามาในพื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทยแล้ว เปิดทางเข้า 2 ช่องทางดังนี้

- ทางเข้าที่ 1 MAIN ENTRANCE 1 สำหรับ แฟนบอล Zone N/W / ประตูเปิดเวลา 16.30 น.
- ทางเข้าที่ 2 MAIN ENTRANCE 2 สำหรับ แฟนบอล Zone E/S /  ประตูเปิดเวลา 16.30 น.

หมายเหตุ : ในวันแข่งขันไม่อนุญาตให้จอดรถภายในพื้นที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย

สำหรับ ทีมชาติไทย เตรียมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 ในวันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 19.30 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี, Youtube Changsuek Official และ Facebook Changsuek Official

‘มิสแกรนด์ฯ’ ประกาศร่วมมือกับ ‘Tiktok’ เอาผิดคนสั่งซื้อสินค้าแล้วกดยกเลิก หลังผู้เข้าประกวดไลฟ์ขายของแล้วโดนกันอ่วม ชี้!! จะดำเนินการตาม กม.ต่อไป

(25 มี.ค.67) เพจเฟซบุ๊ก Miss Grand Thailand ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

จากการกรณีที่มีผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 บางส่วนโดนยกเลิกคำสั่งซื้อในการ Live ขายของบนแพลตฟอร์ม TikTok ทางองค์กรมิสแกรนด์ฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว และได้ร่วมมือกับทาง TikTok เพื่อเอาผิดผู้ที่สร้างคำสั่งซื้อสินค้าแล้วยกเลิก โดยการกระทำในลักษณะนี้ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา และจะดำเนินการในขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป 

‘ชาวเน็ต’ ถล่ม!! ช่องยูทูบล้านซับหลอกใช้แรงงาน นศ.ฝึกงาน ‘ทำงาน 7 วัน - เลิกงานตี 3 - ไม่จ่ายค่าแรง’ ล่าสุดแถลงชี้แจงแล้ว

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่องยูทูบ ‘บ้านกูเอง’ ที่มีผู้ติดตาม 1 ล้านกว่าคน โดยทางช่องมักจะลงคอนเทนต์วิพากษ์วิจารณ์สังคมได้อย่างดุเดือด ส่งผลให้มีผู้ติดตามขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ

โดยล่าสุด ช่องดังกล่าวได้โพสต์วิดีโอ ‘แฉ! YouTuber หลายล้านซับหลอกใช้แรงงานนักศึกษาฟรี 30+ ชีวิต /ทำงาน 7 วัน เลิกงานตี 3 /ใช้ทำงานนอกช่อง’

ทั้งนี้ ภายในคลิปจะปรากฏอดีตนักศึกษาฝึกงานที่เคยฝึกกับยูทูบเบอร์ชื่อดัง มาพูดเปิดใจภายในคลิป ความว่า ต้องทำงานมากถึง 7 วัน แม้จะเป็นวันหยุด ที่สำคัญพนักงานประจำรวมตัวผู้บริหารบริษัทแล้วมี 8 คน โดยแต่ละคนก็มีช่องยูทูบเป็นของตัวเอง ซึ่งมีเพียง 5 คนที่ทำงานเบื้องหลัง (ตัดต่อ) อีก 3 คนออกกล้อง แต่รับนักศึกษาฝึกงานมาทำงานมากถึง 30 กว่าคน รวมถึงการทำงานที่ล่าช้า เจ้านายไม่ยอมตรวจ

อดีตเด็กฝึกงานกล่าวอีกว่า การสอนงานเป็นไปแบบเด็กฝึกงานสอนกันเอง ค่าตอบแทนไม่มี แต่มีน้ำเปล่าให้แค่นั้น

โดยองค์กรนี้จะถ่ายคลิปเยอะ เนื่องจากแต่ละคนก็มีช่องเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งธรรมชาติของแต่ละช่องก็จะแตกต่างกัน รวม ๆ แล้วใน 1 สัปดาห์ เด็กฝึกงานต้องทำคอนเทนต์ประมาณ 10 เรื่อง

ส่วนเรื่องการเข้างาน ถ้าหากเข้างานสาย 1 นาทีจะถูกเช็กขาด แต่ถ้าอยู่เกินเวลาทำงานหลังสองทุ่มไม่มีอะไรให้เช่นกัน แต่ต้องอยู่ยาวยันตี 3-4 และดูเหมือนการทำงานแบบนี้เหมือนใช้แรงงานมากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย

โดยตำแหน่งงานต่าง ๆ ที่รับสมัครเข้าไปคือ ครีเอทีฟ ตัดต่อ เออี และตำแหน่งอื่น ๆ จนแทบเป็นหนึ่งบริษัทได้เลย โดยเน้นปริมาณการทำงาน เอาไม่เอาค่อยเลือกทีหลัง อีกทั้งในองค์กรก็มีช่องแยกออกไปอีก ทำให้นักศึกษาเข้าไปทำงานช่องอื่นที่เป็นของพนักงานตัวเอง

อย่างไรก็ตาม มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีนี้มากมาย อาทิ

-ใช้แรงงานน่ากลัวมาก ตอนดึกควรจะได้นอนพักผ่อนแต่ต้องมาทำงานอีก
-ฟ้องกรมแรงงานได้นะ ถ้าจะเอาจริงๆ และแน่ๆ ถ้าน้องเขาแฉ

-นักศึกษาฝึกงานน่าจะมีตลอดทุกปี หลอกใช้ฟรีแบบนี้ ลดต้นทุนสุดๆ หัวหมอมาก
-นักศึกษาฝึกสอนไม่ได้เงินเลยอะ มีแต่คนบอกว่าคุณขอมาทำเอง โรงเรียนให้ทำก็ดีแค่ไหนแล้ว เอาตรงปะนี่ทำได้ดีมากเลยนะพานักเรียนไปแข่งตลอด ได้ดีตลอด อยากจะcrazy

-มีเยอะมากครับบริษัทแนวนี้ ที่จะหาช่องทางในการลดค่าจ้างจากการใช้เด็กฝึกงานเป็นพนักงาน รู้สึกแปลก แต่ไม่ได้แปลกใจครับ เพราะว่าอาจารย์เคยเล่าให้ฟัง 555 ถ้าเจอบริษัทที่ดีก็จะพอบริหารและเข้าใจได้เนื่องจากอาจจะเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กเลยต้องการคนเข้าไปช่วยสักจำนวนนึง แต่ถ้ามีลักษณะแบบนี้แล้วเป็นบริษัทใหญ่ด้วย ก็จ้องจะเอาเปรียบแน่นอนครับ

-เข้ามาฟังคลิปนี้ เพื่อเรียนรู้เป็นบทเรียน เราจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นแบบนี้ แต่ยอมรับเลย ฟังไม่ถึง 5 นาที รู้สึกรังเกียจวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทนี้

หลังจากเผยแพร่คลิปวิดีโอออกไปแล้ว กระแสวิพากย์วิจารณ์ค่อยข้างแรง จนล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก The Snack ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นนักศึกษาฝึกงาน โดยระบุว่า 

“เรียนทุกท่าน

บริษัท The Snack ได้รับทราบถึงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับการรับนักศึกษาฝึกงานมาทำงานหนักเกินไป ทางบริษัทขอแสดงความเสียใจต่อความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น และขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

นโยบายการรับนักศึกษาฝึกงาน

บริษัท The Snack มีนโยบายในการรับนักศึกษาฝึกงาน เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจริง โดยทางบริษัทพิจารณาให้นักศึกษาฝึกงาน ได้รับโอกาสและบทบาทความรับผิดชอบที่ท้าทาย สอดคล้องกับทักษะและความรู้ ส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และทักษะอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อให้มีศักยภาพพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต

ข้อตกลงก่อนการฝึกงาน

ก่อนที่จะรับนักศึกษาฝึกงานเข้ามา ทางบริษัทมีการพูดคุย และทำข้อตกลงกับนักศึกษาฝึกงานอย่างละเอียดเกี่ยวกับรายละเอียดของงาน ขอบเขตงาน ระยะเวลาฝึกงาน ข้อกำหนดเรื่องสวัสดิการ เงินตอบแทน และเป้าหมายการฝึกงานของตัวนักศึกษาฝึกงานเองอย่างชัดเจนก่อนเริ่มฝึกงาน

การดูแลนักศึกษาฝึกงาน

ทางบริษัทมีนโยบายในการดูแลนักศึกษาฝึกงานอย่างใกล้ชิด โดยมีพนักงานพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ สนับสนุน ติดตามผลงาน และให้คำปรึกษาอยู่เสมอ

การชี้แจงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์

จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนักศึกษาฝึกงานถูกใช้งานหนักเกินไป ทางบริษัทได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า :

ทางบริษัทไม่ได้บังคับให้นักศึกษาฝึกงานทำงานล่วงเวลา
ทางบริษัทมีกฎระเบียบและนโยบายที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อนรับสมัคร เพื่อมุ่งเน้นการผลิตนักศึกษาที่มีคุณภาพและทัศนคติที่ดี ออกสู่โลกการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทตระหนักดีว่ายังมีบางจุดที่ต้องปรับปรุง ทางบริษัทจึงได้ดำเนินการดังต่อไปนี้

ทบทวนนโยบายการรับนักศึกษาฝึกงาน

กำหนดขอบเขตงานของนักศึกษาฝึกงานให้ชัดเจน
เพิ่มจำนวนพนักงานพี่เลี้ยง
จัดกิจกรรมอบรมให้กับพนักงานพี่เลี้ยง

บทสรุป

บริษัท The Snack ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และการเรียนรู้ของนักศึกษาฝึกงานอย่างแท้จริง เราขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของประเด็นนี้ และขออภัยอย่างจริงใจสำหรับความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบที่ตามมา

หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด เราได้ดำเนินการทบทวน และปรับปรุงนโยบายการรับนักศึกษาฝึกงานโดยมีการปรึกษาจากองค์กรภายนอก เพื่อรับประกันความเป็นธรรม และความชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราจะเพิ่มการฝึกอบรมสำหรับพนักงานพี่เลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขารู้วิธีการสนับสนุนและช่วยเหลือนักศึกษาฝึกงานได้อย่างเต็มที่

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การเติบโต และการพัฒนาส่วนบุคคล และเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างดียิ่งขึ้น

ขอบคุณที่มอบโอกาสให้เราแสดงความมุ่งมั่นในการปรับปรุง และเรียนรู้จากสถานการณ์นี้

ขอแสดงความนับถือ

บริษัท The Snack World

24 มีนาคม 2567

'อิตาเลียนไทย' ยอมจ่ายเงินเดือนให้พนักงานแล้ว 6,626 คน  คาดว่าจะจ่ายครบทุกคนภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ 

(25 มี.ค. 67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยความคืบหน้าในการช่วยเหลือลูกจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกค้างจ่ายค่าจ้าง ล่าสุดทยอยจ่ายไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท ลูกจ้างได้เงินแล้ว 6,626 คน ด้านนายจ้างเร่งแก้ปัญหา คาดจ่ายค่าจ้างครบ 100% ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้

โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานตรวจแรงงาน ได้เชิญผู้แทนบริษัทฯ มาพบที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 เพื่อให้ข้อเท็จจริงและหารือร่วมกันถึงปัญหาการค้างจ่ายค่าจ้าง

ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้แทนบริษัทให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทฯ มีลูกจ้างทั้งหมด 20,188 คน และมีโครงการก่อสร้างกระจายอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศไทย รวม 115 โครงการ กรณีปัญหาที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ยอมรับว่าเกิดจากการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหาโดยการขอสินเชื่อหรือขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนภายในบริษัทฯ

โดยในปัจจุบันมีสถาบันทางการเงินเข้ามาสนับสนุนโครงการของบริษัทฯ แล้ว จำนวน 79 โครงการ ทำให้สามารถจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างได้ตามปกติ

สำหรับ 36 โครงการที่เหลือรวมถึงสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัทฯ อยู่ระหว่างติดต่อประสานกับสถาบันการเงินเข้ามาสนับสนุน ซึ่งผู้แทนบริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างได้ตามปกติประมาณเดือนเมษายน 2567

และจากการที่ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบไซต์ก่อสร้างในเครือบริษัทอิตาเลียนไทย พบว่า ในหลายโครงการหลายจังหวัดเริ่มทยอยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย โดยลูกจ้างได้รับค่าจ้างตามปกติแล้ว เป็นลูกจ้างที่มีทั้งสัญชาติไทยและแรงงานข้ามชาติ จำนวน 6,626 คน ได้แก่ ลูกจ้างในจังหวัดระยอง ปทุมธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา และเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 และพื้นที่ 3 เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท

‘แสนชัย’ จัดหนัก!! ‘นักมวยพม่า’ หลังแลบลิ้นยั่วใส่บนเวทีไทยไฟต์ ประเคน ‘หมัด-เท้า-เข่า-ศอก’ พร้อมเตะก้านคอจนน็อกไปยกแรก

(25 มี.ค.67) เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในศึก ไทยไฟต์ ปลวกแดง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยในคู่ที่ 9 เป็นการชกของโคตรมวยสารคาม แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม อีกหนึ่งยอดมวยไทย วัย 43 ปี พบกับ มาน เย จอ ซัว นักมวยชาวเมียนมา ตัวตึงแห่งมัณฑะเลย์ วัย 28 ปี โดยชกในน้ำหนัก 68 กิโลกกรัม

ปรากฎว่าการชกจบลงเพียงยกแรก โดยทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้น ทั้งคู่ต่างเปิดฉากแลกอาวุธกันอย่างดุเดือด โดยที่ช่วงหนึ่ง มาน เย จอ ซัว ได้แลบลิ้นยั่ว แสนชัย

ทำให้ ยอดมวยสารคาม ประเคนอาวุธแบบจัดหนัก ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ใส่นักมวยเมียนมา ก่อนที่จะได้จังหวะเตะซ้ายก้านคอ เอาชนะน็อกนักมวยเมียนมา ไปได้ในยกที่ 1

‘ตร.ขอนแก่น’ หวังดีช่วยเหลือชาวบ้านน้ำมันหมด แต่ดันเติมผิดประเภท พร้อมยืดอกรับผิด ขอรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการ

(25 มี.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับกรณี ตำรวจ สภ.ขอนแก่น ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่น้ำมันรถยนต์หมด จึงได้นำน้ำมันไปเติมให้กับรถยนต์คันดังกล่าวของประชาชน ซึ่งต่อมามีชาวเน็ตเข้ามาทักท้วงว่า เติมน้ำมันผิดชนิดหรือไม่นั้น

ล่าสุด เพจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ยอมรับกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะรับผิดชอบกับค่าเสียหายทั้งหมด

พร้อมระบุข้อความว่า รายงานเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือรถประชาชนน้ำมันหมด สภ.เมืองขอนแก่น ขอรายงานเหตุการณ์ วันนี้ (24 มี.ค.67) เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.วรทรรศน์ กัสนุกา รอง สว.(ป.)ฯ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรประจำการ (20-1) พร้อมด้วย จ.ส.ต.ฉัตรชัย เมืองทอง ระหว่างออกตรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนคร แจ้งว่าประชาชนรถยนต์น้ำมันหมดขอความช่วยเหลือ โดยได้ไปซื้อน้ำมัน จำนวน 300 บาท ตามที่เจ้าของรถแจ้งมาและนำไปเติมให้เรียบร้อย จากนั้นได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียลเฟซบุ๊ก ได้มีคอมเมนต์แจ้งว่าได้เติมน้ำมันผิดประเภท

ต่อมาเวลา 20.00 น. จึงได้ทำการตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมัน พบว่าได้ซื้อน้ำมันผิดจริง (ดีเซล B7) ซึ่งเกิดจากการสื่อสารกันคลาดเคลื่อน โดย สภ.เมืองขอนแก่น จะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการและกราบขออภัยเจ้าของรถที่เกิดเหตุการณ์นี้

“เราดูแลคุณ เพื่อให้คุณไปดูแลประชาชน”

ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง

วันที่ 25 มีนาคม 2567 เวลา 08.00 น. นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ ศาลพ่อปู่ชินพรหมมา และสักการะพระพุทธรูปในห้องทำงานผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ชั้น 8 อาคารกระทรวงแรงงาน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน โดยมี ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ร่วมพิธี ณ บริเวณกระทรวงแรงงาน

สำหรับ นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท รัฐประศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรที่สำคัญ ได้แก่ นักบริหารประกันสังคม รุ่นที่ 14 นักบริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข รุ่นที่ 1 นักบริหารระดับสูง (ส.นบส.) รุ่นที่ 13 การพัฒนาผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ระดับสูงภาครัฐ รุ่นที่ 30 ผู้ตรวจราชการระดับกรม ประจำปี 2565

เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ได้แก่ หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี สาขาศรีราชา ประกันสังคมจังหวัดพังงา ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต ประกันสังคมจังหวัดสุราษฎรธานี ผู้อำนวยการสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้อำนวยการสำนักสิทธิประโยชน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานในปัจจุบัน

ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top