Wednesday, 14 May 2025
NEWS FEED

กกพ. เคาะ ‘ค่าไฟ’ งวดใหม่ 4.18 บาท  เท่ากับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน

(27 มี.ค. 67) นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บในงวดเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2567 คงเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย 

ทั้งนี้ เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วยแล้ว ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น 4.1805 บาทต่อหน่วย เท่ากับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน

สำนักงาน กกพ. ได้เปิดรับฟังความเห็นผลการคำนวณค่าเอฟทีสำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2567 ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 8 - 22 มีนาคม 2567 

โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงความเห็นจำนวนทั้งสิ้น 147 ความเห็น แบ่งเป็นการแสดงความเห็นต่อค่าเอฟทีตามกรณีศึกษาที่ กกพ. เสนอรวมทั้งสิ้น 61 ความเห็น แสดงความเห็นโดยเสนอค่าเอฟทีอื่น ๆ นอกเหนือจากกรณีศึกษารวม 50 ความเห็น และความเห็นในลักษณะข้อซักถามหรือคำถามอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับค่าเอฟทีจำนวน 36 ความเห็น

นายคมกฤช กล่าวอีกว่า การใช้ไฟฟ้าในระบบของ กฟผ. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงจำเป็นต้องนำเข้า LNG เพื่อเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นในการผลิตไฟฟ้า ดังนั้น ในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง สำนักงาน กกพ. จึงขอให้ผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ให้มีสภาพการใช้งานที่ดี เพื่อประหยัดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีสภาพอากาศร้อน

รวมทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าได้ง่าย ๆ 5 ป. ได้แก่ ปลด หรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าลดการใช้ไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จ ปิด หรือดับไฟเมื่อเลิกใช้งาน ปรับ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 26 องศา เปลี่ยน มาใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้าน 

ซึ่งทั้ง 5 ป. จะช่วยลดการนำเข้า LNG ลดการเกิดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดรอบใหม่ (New Peak Demand) ในระบบไฟฟ้าและยังช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้า

'โซเชียล' เชิดชู!! 'หนุ่มเมืองเพชรฯ' เข้ากรุงเทพฯ ตอนตี 3  เก็บขยะสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ เผย!! แค่อยากทำให้มันสะอาด

(27 มี.ค.67) จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Vorasil Thaweethong' โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในกลุ่ม ART & CRAFT Lovers Market ถึงเป้าหมายที่อยากจะทำความสะอาดทางรถไฟสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ซึ่งเป็นสถานีต้นทางไปตลาดร่มหุบ ที่มีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติมาเที่ยวแต่ละปีเยอะมาก ซึ่งทำให้มีขยะเยอะมากด้วยเช่นกัน โดยได้ระบุข้อความว่า...

"ผมยืนคิดและจินตนาการจะเก็บอะไรก่อนดีนะ"

เดินหาแก้วเพื่อจะใส่หลอดดูดน้ำ ใส่ฝาขวดน้ำอัดลมและไม้เสียบลูกชิ้น

ตามด้วยถ้วยเพื่อจะใส่ก้นบุหรี่

ผมนั่งและใช้สมาธิในการเก็บมันเป็นขยะชิ้นเล็ก ๆ ในซอกหิน

ขอบคุณน้องกนกกับเพื่อนที่มาช่วยเก็บและถ่ายรูปให้

ขอบคุณน้องผู้หญิงที่เอาเงินมาให้ 100 บอกมีคนฝากมา ขอบคุณน้ำดื่ม น้ำเก็กฮวยจากพี่ผู้หญิงที่มีน้ำใจมาก

มาเก็บที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่เป็นครั้งที่ 2 มาเช้าเย็นกลับ ผมตื่นตี 3 ขับรถเข้าเมืองเพชรบุรี รอขึ้นรถตู้เที่ยวแรกตี 4 กว่า มาถึงหมอชิตต่อด้วยแท็กซี่ ใช้งบไป 600 กว่า

"ผมเพิ่งรู้ว่าสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่คือ ต้นทางที่จะไปตลาดร่มหุบที่มีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติมาเที่ยวแต่ละปีเยอะมากจริง ๆ มันคือ เป้าหมายที่อยากจะทำให้มันสะอาด"

และหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวโซเชียลให้ความสนใจ กดไลก์ กดแชร์ และร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บ้างก็ว่า ควรเป็นข่าว, ตั้งแต่เจอมา พี่เป็นคนที่เก็บได้มีระเบียบที่สุด, นับถือพวกคุณมาก ๆ เลยค่ะ ชื่นชมจากใจ, ขอชื่นชมครับ, โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ, ขอบคุณที่ทำให้โลกนี้สดใสขึ้น, อิ่มบุญ อิ่มใจครับ, ขอบคุณในความเสียสละจริง ๆ ครับ

AIT ชี้!! ทุกการวิจัยทั้งหมด ต้องดำเนินการด้วยความซื่อสัตย์-ถูกต้อง ห้าม 'ปลอมแปลง-บิดเบือน' เมื่อเงยหน้าจะได้ไม่อายฟ้า ก้มหน้าจะได้ไม่อายดิน

(27 มี.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'LVanicha Liz' ได้โพสต์เนื้อหาในหัวข้อ 'AIT #เงยหน้าไม่อายฟ้าก้มหน้าไม่อายดิน' ระบุว่า...

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2567 อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ได้ส่งอีเมลเตือนความจำไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายภายในสถาบันเรื่อง 'การผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตในการวิจัย' มีใจความโดยย่อว่า AIT มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานสูงสุดในการ #กำกับดูแลกิจกรรมการวิจัยทั้งหมด...

การวิจัยทั้งหมดจะต้องดำเนินการด้วยความซื่อสัตย์ ถูกต้อง และเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณสูงสุด นี่เป็นสิ่งสำคัญในการรับประกันการมีคุณภาพสูงของงานวิจัย และรักษาไว้ซึ่งความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในนักวิจัย ตัวสถาบันเอง และประชาคมวิจัยโดยรวม...

โดยเราจะต้องทำให้แน่ใจได้ว่างานของเราได้ดำเนินไปด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และเคารพในทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น ประกอบด้วย...

การตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลและสิ่งที่ค้นพบทั้งหมดถูกนำเสนออย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา #โดยไม่มีการปลอมแปลงหรือบิดเบือน (#WithoutFabricationOrManipulation)

หากพบเห็นหรือสงสัยว่ามีการทุจริตทางวิชาการ ให้รายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบสวน...

ฯลฯ

ในฐานะประชาคมวิจัย เราต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความเคารพต่อการมีส่วนร่วมทางปัญญาของบุคคลทุกคน

ป่านนี้มหาวิทยาลัยไทยบางแห่งจัดการงานวิจัยปลอมแปลงไปถึงไหนแล้ว มีการผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตในการวิจัย รวมทั้งส่งเสริมความรับผิดชอบกันหรือยัง

AIT #เงยหน้าไม่อายฟ้าก้มหน้าไม่อายดิน

กุมตัว 'ไอ้เด่น' มือขวา 'ไอ้ยักษ์' ลิงเกเรจ่าฝูงแห่งเมืองลพบุรี เตรียมดัดนิสัยลดความห้าว ก่อนส่งกลับสวนลิงลพบุรีอีกครั้ง

(27 มี.ค.67) เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์ที่ 1 พร้อมทีมงาน รวม 10 คน ลงพื้นที่จับลิงลพบุรี ที่เกเร ก้าวร้าว ดุร้าย แย่งของกินประชาชนต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 

วันนี้ได้ใช้กรงดักจับลิงเกเร เอาข้าวโพดมาล่อเหมือนเดิม บริเวณตึกหน้าสำนักงานเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ถนนราชดำเนิน ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี โดยจุดนี้เป็นจุดที่มีลิงเกเร กระโดดแย่งของชาวบ้านติดต่อกันหลายครั้ง สร้างความเดือดร้อน และได้รับบาดเจ็บ ในรอบเดือนเดียวกันที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าจุดนี้ถือเป็นจุดสำคัญมีลิงอันธพาลหลายตัว ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านร้านค้า ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียง กับที่ได้มีการวางกรงดักจับลิง ไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งจับลิงไปได้จำนวน 9 ตัว

ซึ่งลิงตัวที่ถูกเจ้าหน้าที่ใช้กรงดักได้ที่บริเวณหน้าหลังโรงจอดรถภายในสหกรณ์การเกษตรที่ชาวบ้านในบริเวณนั้น ตั้งฉายา ‘ไอ้เด่น’ ลูกสมุนจ่าฝูงอย่าง ‘ไอ้ยักษ์’ ที่เป็นหัวหน้าฝูงในย่านนี้ มีลักษณะดุร้าย เกเร มีลูกสมุนหลายตัวได้ถูกจับกุมตัวไปได้แล้วตั้งแต่วันแรก และในวันนี้เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับตัวไอ้เด่นได้แล้วด้วยการใช้กรงดัก ซึ่งไอ้เด่นถือเป็นลูกสมุนมือขวาที่เกเรมากซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับลิงได้ประมาณ 5-6 ตัว หลังถูกจับไอ้เด่นยังพยายามส่งเสียงร้องเรียกพวก ลักษณะคล้ายจะให้เข้ามาช่วยตัวเองออกจากกรง เสมือนให้มาชิงตัวของมันและเพื่อนลิงด้วยกันที่ถูกจับอยู่ในกรง

เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะดำเนินการจับลิงเกเรตัวใหญ่ไปตลอดทั้งวัน ซึ่งไม่ได้กำหนดยอดว่ากี่ตัว ก่อนจะนำลิงกลับไปพักฟื้นตัว ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า เพื่อดัดนิสัยลดความเกเรลงและเพื่อรอความพร้อมของสวนลิงของทางเทศบาลเมืองลพบุรีแล้วจะส่งกลับมาที่สวนลิงลพบุรีอีกครั้ง

คุณลุงบุญธรรม รัตนโสม ผู้ประกอบการร้านค้า เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่มาจับกลุ่มลิงเกเรและสามารถจับหัวโจกและลูกสมุนไปหลายตัวก็จะทำให้ช่วงนี้อาจจะเงียบสักหน่อยของฝูงลิง เนื่องจากมันกลัวเจ้าหน้าที่ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ไปแล้วสักวันสองวันมันก็คงจะกลับมารบกวนชาวบ้านอีกอย่างแน่นอน 

'สลากออมสิน' แจกหนัก 111 ล้าน แก่ผู้ถูกรางวัลที่ 1 งวด 16 พ.ค.นี้ ชี้!! ฝากแค่ 100 บาท ก็มีสิทธิ์ลุ้น เปิดฝาก 1 เม.ย. - 15 พ.ค. นี้

(27 มี.ค. 67) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารจัดแคมเปญส่งเสริมการออมครั้งใหญ่ มอบโชค 111 ล้านบาท แก่ผู้ถูกรางวัลที่ 1 สลากออมสินพิเศษ 1 ปี งวดวันที่ 16 พ.ค. 2567 เพียงรางวัลเดียวเท่านั้น

สำหรับผู้ที่ฝากสลากออมสินทั้งแบบใบสลาก และสลากดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 15 พ.ค.2567 โดยสามารถฝากได้ตั้งแต่ 100 บาท ก็มีสิทธิ์ลุ้น และไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ผู้สนใจสามารถฝากสลากออมสินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอพ MyMo โดยกำหนดออกรางวัลที่ 1 มูลค่า 111 ล้านบาท ในวันที่ 16 พ.ค. 2567

ทั้งนี้ สลากออมสินพิเศษ 1 ปี เมื่อฝากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.35 บาท พร้อมกับเงินต้น และมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลทุกเดือน ทั้งรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 10 ล้านบาท รวมถึงรางวัลอื่นๆ และรางวัลเลขท้าย รวม 12 ครั้ง กำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน

นอกจากนี้ สำหรับแฟนพันธุ์แท้กระปุกออมสินไม่ควรพลาด ‘กระปุกออมสินวาระครบ 111 ปี’ ที่ธนาคารสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ โดยนำงานหัตถกรรมตีลายแผ่นแร่ซึ่งเป็นลวดลายดอกมะลิมาตกแต่งลงบนกระปุกออมสิน ถ่ายทอดผลงานอันทรงคุณค่าด้วยอัตลักษณ์ที่มีความอ่อนช้อยงดงามตามศิลปะล้านนา

ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิมของชุมชนบ้านป่าสักขวาง จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นการสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพที่เป็นมรดกทางภูมิปัญญาของชาติ

อีกทั้งยังเกิดคุณค่าร่วมที่สร้างประโยชน์ให้แก่ผู้คน ชุมชน สังคม และธุรกิจได้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับการดำเนินภารกิจธนาคารออมสินภายใต้บทบาทธนาคารเพื่อสังคม

สามารถเป็นเจ้าของกระปุกออมสินในวาระ 111 ปีได้ โดยลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th และ LINE OFFICIAL : GSB Society ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 มี.ค.2567 และเปิดให้ฝากเงิน ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป พร้อมรับกระปุกในวันที่ 1 – 4 เม.ย. 2567 ณ สาขาธนาคารออมสินที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ (1 กระปุก ต่อ 1 ท่าน) ของมีจำนวนจำกัด

และสำหรับเด็กที่เกิดในวันที่ 1 เม.ย. 2567 ธนาคารได้มีการมอบเงินทุนประเดิมให้เด็กรายละ 500 บาท โดยบิดาหรือมารดาของเด็กที่มีสัญชาติไทย สามารถนำสูติบัตรฉบับจริงของเด็ก พร้อมบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของบิดาหรือมารดา มาแสดงตัวตนที่สาขาธนาคารออมสิน ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2567

นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน ยังแจกโชคต่อเนื่อง อีก 111 รางวัล สำหรับผู้ที่สมัครและใช้จ่ายผ่าน ‘บัตรเดบิตออมสิน’ มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin รุ่น Standard Range สี Coral Pink จำนวน 3 รางวัล และทองคำแท่ง หนัก 2 สลึง จำนวน 108 รางวัล

สำหรับลูกค้าที่สมัครบัตรเดบิตใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 ก.ย. 2567 มีสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลทันที โดยสมัครบัตรเดบิตออมสิน อินสแตนท์ ได้รับ 1 สิทธิ์/บัตร บัตรเดบิตแบบมีความคุ้มครองทุกประเภท รับ 5 สิทธิ์/บัตร

ส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตออมสินทุกประเภทที่มียอดการใช้จ่ายตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป จะได้รับ 1 สิทธิ์/รายการ ยิ่งสะสมมากยิ่งมีสิทธิ์มาก โดยจะทำการจับรางวัลในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า และร่วมฉลองในโอกาส 111 ปี ธนาคารออมสิน

'นักร้องปินส์' นำเพลงไทยไปแปลงเนื้ออังกฤษ ดังจนติดชาร์ต Spotify แต่ไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์

เมื่อวานนี้ (26 มี.ค. 67) เพิ่งเสร็จศึกสุขุมวิท 11 แก๊งกะเทยไทย - ฟิลิปปินส์ซัดกันนัว ล่าสุดก็มาเปิดศึกกันอีกครั้งเมื่อพบว่า ดาว TikTok ชาวฟิลิปปินส์ นำเพลงฮิตของไทยไปเปลี่ยนเนื้อเป็นภาษาอังกฤษแถมอัปลง Spotify ให้คนสตรีมมิ่งจนติดชาร์ต แต่งานนี้เหมาเงินเรียบแบบไม่ให้เครดิตคนทำงานฝั่งไทย แถมไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย ทำเอานักร้องเจ้าของเพลงเตรียมดำเนินการทางกฎหมาย

เรียกได้ว่าเพลง ‘พี่ชอบหนูที่สุดเลย’ ( I Like You The Most ) ของศิลปิน PONCHET ft. VARINZ ที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง แม้แต่ เตนล์ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล จากวง NCT ก็นำไปร้องจนแฟนเพลงเค-ป็อปทั่วโลกให้ความสนใจ

งานนี้หนุ่มดาว TikTok ของฟิลิปปินส์ที่ชื่อว่า SHAD ก็ได้อาศัยกระแสมาชุบมือเปิบ นำเพลงไปเปลี่ยนเนื้อเป็นภาษาอังกฤษ แต่เท่านั้นไม่พอยังอัปลงสตรีมมิ่งดัง ๆ มากมายทั้ง Spotify, iTunes รวมถึง Melon สตรีมมิ่งเพลงของเกาหลีใต้

ซึ่งเพลงได้รับความสนใจจนถึงขั้นติดท็อปชาร์ต Spotify Viral Songs และ Spotify PH Viral Songs ซึ่งงานนี้ไม่มีการให้เครดิตทางฝั่งศิลปินไทย และกวาดรายได้รวมถึงค่าลิขสิทธิ์เข้ากระเป๋าตนเองคนเดียวเต็ม ๆ

ทำเอาชาวไทยไม่อยู่เฉย พากันเหมารถทัวร์ไปเปิดศึกช่วยกันรุมรีพอร์ตแถมยังพากันไปถล่มคอมเมนต์มากมายใส่ดาว TikTok รายนี้ และแนะนำไม่ให้คนสนับสนุนหรือดาวน์โหลดเพลงด้วย ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าของเพลงฝั่งไทยทราบเรื่องแล้ว และเตรียมดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับเหตุการณ์ชุบมือเปิบครั้งนี้ด้วย

'รศ.ดร.สุวินัย' เลคเชอร์!! พระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่? แนะ!! ไม่ต้องถก แค่เข้าใจคำสอนที่เป็นหัวใจแห่งพุทธธรรมก็พอ

(27 มี.ค.67) รองศาสตราจารย์ ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เห็นเมื่อสองวันก่อน อยู่ดี ๆ พิภพ ธงชัย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนเสื้อเหลือง) ก็โพสต์ขึ้นมาลอย ๆ ว่า "พระพุทธเจ้าไม่มีจริง!"

ไม่ต้องมาเถียงกันหรอกว่า พระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่?

เราควรมาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนดีกว่าว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร และอะไรคือคำสอนที่เป็นหัวใจของพุทธธรรม?

ถ้าเป็นชาวพุทธจริง ๆ ย่อมทราบดีว่า การเจริญสติเป็นแก่นคำสอนของพระพุทธองค์ และเป็นทางเอกไปสู่การบรรลุพุทธะ

'สติ' ตามความหมายของพุทธธรรมคือ 'สติ' ที่เป็นสภาพธรรมฝ่ายดี เป็นเจตสิกที่เกิดกับจิตที่ดีเท่านั้น ... โดยจะไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย

สติจึงเป็นเจตสิก และเป็นเจตสิกที่เป็นสังขารขันธ์ 

เจตสิกหมายถึงองค์ประกอบของจิต อาการหรือการแสดงออกของจิต

ถ้าแบ่งเจตสิกตามประเภทของ ขันธ์ จะแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ เวทนาขันธ์ (เวทนาเจตสิก), สัญญาขันธ์ (สัญญาเจตสิก) และ สังขารขันธ์ (ซึ่งเป็นเหมือนรหัสพันธุกรรมของจิต)

ดังนั้น ขณะใดที่เป็น 'อกุศล' ขณะนั้นย่อมไม่มี 'สติ' ตามความหมายของพระพุทธองค์

แต่ถ้าขณะใดที่เป็น 'กุศล' ไม่ว่าระดับใด ขณะนั้นย่อมมี 'สติเจตสิก' เกิดร่วมด้วยเสมอ 

เพราะ 'สติ' ทำหน้าที่ระลึก และกั้นกระแสกิเลสที่เกิดขึ้น ไม่ให้เกิดขึ้นในขณะที่ 'สติ' เกิด

นอกจากนี้ 'สติ' ยังมี 4 ขั้นในคำสอนเชิงปฏิบัติของพระพุทธองค์ คือ…

(1) สติขั้นทาน (ระลึกที่จะให้)
(2) สติขั้นศีล (ระลึกที่จะไม่ทำบาปทางกาย-วาจา-ใจ)
(3) สติขั้นสมถะ (ระลึกลมหายใจ)
(4) สติขั้นวิปัสสนา (ระลึกลักษณะสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตรงหน้า พร้อมกับ 'รู้' ว่ามันไม่มีตัวตน)

ในวิชาอภิธรรมของพระพุทธองค์... 'สติ' สังกัดอยู่ใน ‘โสภณเจตสิก 25’

โสภณเจตสิก หมายถึง กลุ่มเจตสิกฝ่ายดีงาม เป็นกลุ่มที่ประกอบได้กับ 'โสภณจิต' โดยที่โสภณเจตสิกมีอยู่ 25 ดวง แบ่งเป็น 4 กลุ่มดังนี้...

กลุ่มที่หนึ่ง ‘โสภณสาธารณเจตสิก 19’ 
ได้แก่ สติ, สัทธา, หิริ, โอตตัปปะ, อโลภะ, อโทสะ, ตัตรมัชฌัตตา (อุเบกขา) รวมเป็น 7

ที่เหลือจัดเป็น 6 คู่รวมเป็น 12 คือการบังคับควบคุมเจตสิกและจิตที่ดี ได้แก่...
(1) กายลหุตา จิตลหุตา (ทำกายเบาจิตเบา)
(2) กายมุทุตา จิตมุทุตา (ทำกายอ่อนจิตอ่อน)
(3) กายกัมมัญญัตตา จิตกัมมัญญัตตา (ทำกายจิตควรแก่งาน คือพอประมาณ)
(4) กายอุชุตา จิตตอุชุตา (ทำกายจิตให้ตรง ไม่เอนเอียง)
(5) กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ (ทำกายจิตให้สงบ)
(6) กายปาคุญญตา จิตตปาคุญญตา (ทำกายจิตให้คล่องแคล่ว)

กลุ่มที่สอง ‘วิรัตติ 3’
ได้แก่ สัมมาวาจา(เจรจาชอบ) สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ) และ สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)

กลุ่มที่สาม ‘อัปปมัญญา 2’
ได้แก่ กรุณา กับ มุทิตา

กลุ่มที่สี่ ‘ปัญญา 1’
ได้แก่ ปัญญินทรีย์ หรือการกำหนด 'รู้'

จะเห็นได้ว่า ‘ลมปราณกรรมฐาน’ เป็นกรรมฐานที่ทรงพลังมากในการเจริญ 'สติเจตสิก' เพราะลมปราณกรรมฐานมุ่งเจริญ ‘โสภณสาธารณเจตสิก 19’ โดยตรงนั่นเอง

ใครจะด้อยค่าพุทธธรรมยังไง...ก็ตามใจเถิด 

ใครจะไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า...ก็แล้วไปเถิด

ใครจะอวดดีประกาศว่าพระพุทธเจ้าไม่มีจริง...ก็ทำไปเถิด

เพราะเพชรแท้ ไม่ว่าจะถูกมองยังไง...มันก็ยังเป็นเพชร (แห่งปัญญา) อันเลอค่าอยู่ดี

~ สุวินัย ภรณวลัย
Suvinai Pornavala

มาจริง! 'นายกฯเศรษฐา-แพทองธาร' ร่วมกับผู้ก่อตั้ง SUMMER SONIC แถลงข่าวจัดคอนเสิร์ตระดับโลก ที่เมืองไทย หวังดันไทย เป็น Festival HUB แห่งเอเชีย รัฐอำนวยความสะดวกเต็มที่ เปิดไลน์อัพศิลปินตัวท็อป ปลื้มวงไทย 'BODYSLAM-วี วิโอเลต' ร่วมด้วย

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีการจัดงานแถลงข่าว 'SUMMER SONIC BANGKOK' อย่างเป็นทางการ โดยมี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ , แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และ นาโอกิ ชิมิซุ ผู้ก่อตั้ง SUMMER SONIC และ CEO ของ Creativeman Productions , โอตากะ มาซาโตะ อุปทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าว 

สำหรับเทศกาลดนตรี 'SUMMER SONIC' เป็นงานดนตรีที่ก่อตั้งในปี 2543 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีมาเป็นระยะเวลากว่า 23 ปี โดยมีศิลปินชื่อดังระดับโลกมาร่วมงานมากมายและยังได้เปิดโอกาสให้ศิลปินดาวรุ่งทั่วเอเชียได้ขึ้นแสดงและแจ้งเกิดในตลาดเอเชีย รวมถึงในระดับสากลเช่นกัน และในปี 2024 นี้ เป็นครั้งแรกที่ 'SUMMER SONIC' จะออกจากประเทศญี่ปุ่นและจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ 'SUMMER SONIC BANGKOK' ในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ณ อิมแพค เมืองทองธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและญี่ปุ่น ที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนานซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล ด้วยการส่งเสริมศิลปินไทยให้สร้างชื่อเสียงไปยังต่างประเทศ และ ยังสนับสนุนการท่องเที่ยว เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวประเทศไทย รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมทางด้านดนตรีของศิลปินหลากหลายประเทศ ให้ได้รับการยอมรับสู่ระดับสากล โดยทางรัฐบาล และ คณะกรรมซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติสนับสนุนงานในครั้งนี้

แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า เทศกาลดนตรีหนึ่งงานมันหมายถึงโอกาสทาง Festival Economy เทศกาลหนึ่งงาน รวมคนหลายหมื่น ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ไว้ด้วยกัน คือการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในหลากหลายมิติ ทั้งการเดินทาง ที่พัก โรงแรม อาหาร ร้านค้า จนไปถึงธุรกิจอีเว้นท์ นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านเทศกาลดนตรี ระหว่างผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ คนทำงาน และศิลปิน จะได้ต่อยอดพัฒนาการทำงานของตัวเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศไทยระยะยาว 

แพทองธาร กล่าวต่อว่า Summer Sonic เป็นเทศกาลที่ให้โอกาสกับศิลปินหน้าใหม่ทั่วโลก ได้มาพบเจอกับแฟนๆในเอเชีย และเป็นโอกาสของศิลปินไทยได้แสดงศักยภาพ และในฐานะของรัฐบาล Summer Sonic Bangkok มีความสำคัญต่อการพัฒนาให้ประเทศไทย เป็น Festival HUB ของภูมิภาค เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้ภาครัฐทำงานร่วมกับเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทศกาล ให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการจัดงานเทศกาลมากขึ้นผ่านนโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น One Stop Service สำหรับการจัดเทศกาลดนตรี การออกแบบพื้นที่สำหรับการจัดคอนเสิร์ตในอนาคต การแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคของการพัฒนา การก่อตั้ง Festival Academy สถาบันเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการจัดเฟสติวัล และอีกหลายเรื่องที่รัฐจะอำนวยความสะดวกให้สามารถจัดเทศกาลดนตรี ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการ

"ขอขอบคุณ Naoki และ Paradise E& A , ICA และขอชื่นชมและเป็นกำลังใจคณะผู้จัดงาน ที่ผลักดันให้เกิดเทศกาลนี้ในประเทศไทย เอกชนของไทยมีความสามารถค่ะ ที่สามารถสร้างโอกาสดีๆ นี้ให้กับประเทศไทยได้ หวังว่า Summer Sonic Bangkok ในปีแรกนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยและเกิดการพัฒนาต่อยอดไปในอนาคต" แพทองธาร กล่าวจบ 

จากนั้น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เทศกาลดนตรีระดับโลก SUMMER SONIC จะมาจัดงานเทศกาลที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยเป็นการจัดงานครั้งแรกอย่างเป็นทางการนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยงาน SUMMER SONIC ในญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 350,000 คนต่อปี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น และยินดีอย่างยิ่งที่จะประเทศไทยจะได้มีโอกาสจัดงานดังกล่าว ตอบรับกับการเป็น Tourism Hub ตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand ที่ได้ ประกาศไป ขอบคุณ รัฐบาลญี่ปุ่นที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยสำหรับการจัดงานนี้

งาน SUMMER SONIC จะเป็นโอกาสสำหรับศิลปินไทยที่มีหัวใจรักดนตรี สอดแทรกความเป็นไทย แสดงออกไปให้ชาวโลกรับรู้รวมทั้งสร้างให้ประเทศไทยเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของโลกดนตรี โดย รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2024 ให้ประสบความสำเร็จในประเทศไทยและให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองอันอบอุ่น เราพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ศิลปินและผู้เข้าร่วมงาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนก็จะร่วมเป็นส่วนร่วมในการผลักดันงานเทศกาลฯ ให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างความทรงจำที่ดีให้แก่ทุกคนที่มาร่วมงาน และขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลกที่ชื่นชอบเทศกาลดนตรีเข้าร่วมงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2024 ซึ่งจะมีศิลปินกว่า 20 วงตลอดการแสดง 2 วันเต็ม และขอส่งกำลังใจให้ศิลปินไทยและศิลปินจากต่างประเทศในการแสดงผลงาน ที่ยอดเยี่ยมในงานนี้ด้วย มั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้จะพัฒนาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวของไทย ให้เป็น World Event Destination ได้อย่างแน่นอน 

สำหรับไลน์อัพชุดที่ 1 ของศิลปิน ที่จะมาร่วมแสดงในคอนเสิร์ต Bangkok Summer Sonic 2024 ที่ประเทศ มีวงดนตรีและศิลปินชื่อดังจากทั้งไทยและต่างประเทศอาทิ LAUV , YOASOBI , LAUFEY AURORA , BODYSLAM (special guests BABYMETAL & F. HERO) , NOTHING BUT THIEVES , BRIGHT , HENRY MOODIE , VIOLETTE WAUTIER เป็นต้น และหลังจากนี้จะมีการเปิดไลน์อัพศิลปินเพิ่มอีก ซึ่งเป็นศิลปินระดับเซอร์ไพรส์ผู้ชมอย่างแน่นอน 

ชลบุรี-ปิดเทอม นักว่ายน้ำเยาวชนเกือบ 200 คน ร่วมว่ายน้ำรอบเกาะ เก็บขยะ ปลูกฝังรักษ์เต่า รักษ์ทะเล

ในช่วงปิดภาคเรียนเด็กๆ และเยาวชนนักว่ายน้ำจากสโมสรต่างๆ อาทิ สโมสรว่ายน้ำวิชั่น สโมสรว่ายน้ำราชนาวีสัตหีบ และนักว่ายน้ำเพื่อการอนุรักษ์ (Open water Swimming) ภาคประชาชน ตลอดจนผู้ปกครองและจิตอาสาเกือบ 200 คน ได้มารวมตัวกันใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ร่วมทำกิจกรรม รณรงค์สร้างความตระหนักในการว่ายน้ำรอบเกาะขาม เพื่อการอนุรักษ์ และเก็บขยะ เพื่อกระตุ้นและปลูกฝังการอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาทางทะเล เต่าทะเล สัตว์น้ำทะเล และปะการัง โดยใช้ทักษะความเป็นเลิศด้านการว่ายน้ำที่ถนัดว่ายน้ำรอบเกาะขาม แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะทาง 3 กม. ภายใต้โครงการ “เกาะขาม รักษ์เต่า รักษ์ทะเล ลดขยะ” ณ อุทยานใต้ทะเลเกาะขามแสมสาร สัตหีบ

โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทัพเรือ โดยพลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นาวาเอกอโศก ศรีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 พล.ต.สุรจิตร รวยรื่น ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำมาราธอน สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย จ.อ.ไพฑูรย์ แสงแก้ว คณะกรรมการฝ่ายว่ายน้ำมาราธอน สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย และผู้ช่วยผู้ฝึกสอนสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย คุณอโณมา ศรัณย์ศิขริน (เมจิ อโณมา) ร่วมสมทบทุนอนุรักษ์เต่าทะเล เรือตรี มาโนช ผลยังส่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีพซี คอมเมอร์เชียล ไดฟ์วิ่ง จำกัด ร่วมสมทบทุนอนุรักษ์ เต่าทะเล นาวาเอกนิติรักข์ การดี ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 1 ที่ปรึกษากิจกรรม นาวาตรีวสันต์ ภิรมย์โพธิ์ ผบ.ร้อย บก.ทรภ.2  ประธานฝ่ายกิจกรรมและดูแลควบคุมความปลอดภัยทางน้ำ และคณะกรรมการฯ ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรม ในวันนี้

สำหรับกิจกรรม "เกาะขาม รักษ์เต่า รักษ์ทะเล ลดขยะ" นับเป็นช่องทางหนึ่งในการรณรงค์ให้ทุกๆ คน ได้ตระหนักและใส่ใจในการช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลของพื้นที่สัตหีบ และไม่ทิ้งขยะโดยเฉพาะขยะจำพวกพลาสติก ซึ่งเป็นอันตรายต่อเต่าทะเล และสัตว์น้ำทะเล อื่นๆ

ซึ่งการรณรงค์ดังกล่าว จะส่งผลให้ท้องทะเลของประเทศไทยสวยงาม เป็นมรดกส่งต่อสืบทอดไปถึงบุตรหลานรุ่นหลัง ต่อไปอีกด้วย 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

‘หนุ่มสุรินทร์’ ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจจากสุรินทร์ไปจีน ระยะทาง 2,589 กม. เพื่อสัมผัสหิมะครั้งแรกในชีวิต

เมื่อวานนี้ (26 มี.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘ป่าน แก้วปลั่ง’ โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า…

“ความฝันอยู่ตรงนั้นเอง  อีกไม่ไกลเลย เราจะเอาเวฟไปขับบนหิมะ”

ต่อมาได้โพสต์ข้อความอีกว่า “2,589 กม.จากสุรินทร์ นี่คือหิมะครั้งแรกของผมและเห่าดง จัดไปสักครั้งในชีวิต เวฟมันทำได้เชื่อดิ”

โดยเจ้าของโพสต์เป็นชาว จ.สุรินทร์ ขี่จักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ ที่เขาตั้งชื่อว่าเห่าดง จากสุรินทร์ไปถึงเมืองจีน เพื่อตามล่าความฝันขับรถบนหิมะ 

โดยออกเดินทางพร้อมกับเพื่อน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เริ่มต้นจากจังหวัดสุรินทร์ ผ่านด่านช่องจอม ก่อนขี่จักรยานยนต์ออกจากไทยทาง สปป.ลาว เพื่อไปยังประเทศจีน โดยใช้เวลาเดินทาง 7 วัน

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น สุดจริง, สุดยอดครับพี่, ของแทร่อ่าค้าบบบ, ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ามาก น้อยคนที่จะทำได้แบบนี้ อยากลุยแบบนี้บ้างจัง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top