Wednesday, 14 May 2025
NEWS FEED

ฝรั่งเป็นงง คนไทยขี่มอเตอร์ไซค์ ขึ้นรถสองแถว ถ่ายคลิป โพสต์ลง TikTok ย้ำ มันคือสิ่งที่แปลกประหลาดมาก

(23 มี.ค.67) ฝรั่งแชร์คลิป รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นสองแถว แถมคนขับขี่ยังซ้อนท้ายไปด้วย ชาวไทยแห่คอมเมนต์ อะเมซิงไทยแลนด์ของแทร่

คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ได้รับการแชร์จากชาวต่างชาติรายหนึ่ง ซึ่งโพสต์คลิปลงใน TikTok cinematic.di ซึ่งเธอได้ระบุว่าเป็นเหตุการณ์บนถนนในประเทศไทยซึ่งเป็นสิ่งแปลกประหลาดมาก

โดยคลิปดังกล่าวถ่ายให้เห็นสองแถวที่เดินทางระหว่างอำเภอ ข้างรถเขียนว่า ดอยนางแก้ว ซึ่งเป็นสถานที่แห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ เป็นเส้นทางสัญจรถนนสายเชียงราย – เชียงใหม่เป็นทางโค้งลงเขาค่อนข้างลาดชัน

คลิปแสดงให้เห็นการโดยสารรถสองแถวแบบไทยแท้ ๆ คือ มีคนเอารถจักรยานยนต์ ขึ้นมาไว้ที่ท้ายรถโดยสาร ไม่พอ ยังมีคนนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์อีกด้วย

ท่ามกลางคอมเมนต์ของชาวไทย ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น ซึ่งระบุ ปกติรถจักรยานยนต์แบบนี้จะยกขึ้นหลังคารถ ซึ่งมักจะเห็นภาพแบบนี้ ช่วงที่เด็กปิดเทอมและเอารถกลับบ้านไปด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ถือเป็นภาพแปลกมาก สำหรับคนไทยเองด้วยเช่นกัน

สลด ลูกผีพนัน แอบขายบ้าน เอาเงินไป แทงบอล ทำพ่อ-แม่เดือดร้อน ไม่มีที่ซุกหัวนอน ทั้งที่ป่วยหนัก

(23 มี.ค.67) จากกรณีมีผู้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า “พ่อแม่อยู่บ้าน ลูกร้อนเงิน เอาบ้านมาแอบขาย ขายบ้านเสร็จ ลูกหนีหาย ทิ้งพ่อแม่ แม่ป่วยติดเตียง พ่อทำงานรับจ้าง อยู่กันสองตายาย ไม่ย้ายออก ขอยอมตายที่นี่ ผมกับน้องซื้อเข้ารีโนเวต ดอกเบี้ยเดือนละ 2 หมื่นกว่า 

จะครบปีละจ่ายดอกไป 2 แสนบาท ก็เห็นใจลุงกับป้า จะสงสารใครก่อนดี? การเจรจาครั้งสุดท้าย!!! กับข้อเสนอ หาบ้านเช่าให้และจ่ายค่าเช่าให้ล่วงหน้า 1 ปี พร้อมช่วยดูแลการขนย้ายให้ฟรี หากไม่รับเงื่อนไข คงต้องรอคำสั่งศาลเท่านั้นครับ #บ้านมือสองเชียงใหม่“

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านดังกล่าวได้พบกับลุงสิงห์ มีลักษณะป่วยเป็นโรคท้าวแสนปม และป้าไล เป็นผู้ป่วยติดเตียง นอนอยู่บ้านบนเตียงผู้ป่วยภายในบ้าน จากการสอบถามป้าไลระบุว่า ปลายปี 2564 ลูกชายคนโตได้มาเยี่ยมที่บ้านและพาตนไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล

และขอให้ตนช่วยเหลือนำบ้านไปจำนอง ที่สำนักงานที่ดินอำเภอสารภี เพื่อนำเงินไปลงทุน 3 แสนบาท ตนจึงยินยอมเซ็นให้ พอมารู้ตัวอีกครั้งว่าบ้านถูกลูกนำไปขายช่วงตรุษจีนปี 2566 น้องสาวของคนที่ซื้อบ้านมาดูบ้านและมีการพูดคุยกันทราบว่าลูกชายได้ขายบ้านหลังนี้ไปในราคา 1.4 ล้านบาท

หลังจากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อลูกชายคนนี้ได้อีก คาดว่าเงินที่ขายบ้านได้ทั้งหมดลูกชายน่าจะไปเสียพนันบอลไปแล้ว แต่เนื่องจากตนไม่มีที่อยู่ประกอบกับตนป่วยติดเตียงจึงไม่สามารถไปไหนได้ ซึ่งตนก็พยายามหาบ้านเช่าอยู่ อยากได้แถวย่านถนนวัวลาย เนื่องจากมีญาติอยู่แถวนั้น และจะสามารถค้าขายได้ด้วย ซึ่งสามีได้เก็บข้าวของเตรียมย้ายออก และได้ขอให้เจ้าของบ้านคนใหม่ช่วยเหลือในการขนย้ายและค่ามัดจำห้องเช่าแห่งใหม่ให้ แต่ตอนนี้ยังหาบ้านเช่าให้ไม่ได้

ตำรวจภาค 4 เด็ดปีกผู้ค้าต่อเนื่อง สืบจังหวัดร้อยเอ็ด สกัดจับแก๊งค้ายาบ้า ยึดคารถ 1.6 แสนเม็ด

ตามนโยบายของ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ให้ทุกท้องที่กวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่อีสานเหนือ

โดยก่อนการจับกุม พ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้สืบสวนทราบว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบขนยาบ้าผ่าน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อไปส่งที่ลูกค้าที่ จ.มหาสารคาม จึงวางแผนจับกุมและนำกำลังเฝ้าระวังตามเส้นทาง ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มี.ค.67  เวลาประมาณ 22.30 น. พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ สว.กก.สส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.พนมไพร เข้าจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ได้บริเวณถนนบ้านกุดน้ำใส ต.กุดน้ำใส อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ขณะร่วมกันลำเลียงยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม จำนวน 2 ราย คือ นายณัฐพล ทำหน้าที่สำรวจเส้นทาง พร้อมรถกระบะ สีขาวหมายเลขทะเบียน ขง 74xx อุบลราชธานี  และ นายนัฐกรณ์ ทำหน้าที่ขับรถกระบะ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1ขก 55xx กทม. ที่มีการซุกซ่อนยาเสพติด จากการตรวจสอบภายในรถพบยาบ้าถูกวางอยู่เบาะด้านหลังคนขับจำนวน 80 มัด รวม 160,000 เม็ด จึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.พนมไพร ดำเนินคดี

เบื้องต้นผู้ต้องหารับว่า ยาเสพติดดังกล่าวจะนำไปส่งลูกค้าใน จ.มหาสารคาม และมีผู้ร่วมขนยาเสพติดครั้งนี้อีก 2 คน ได้หลบหนีไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม นอกจากนี้ตำรวจชุดจับกุมได้ขยายผลไปตรวจยึดทรัพย์สินของผู้ร่วมขบวนการ รวมทั้งสิ้น 6 รายการ ได้แก่ รถยนต์ จำนวน 4 คัน รถ จยย. 2 คัน รวมมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไป

‘อีซูซุ’ ยกระดับให้ กีฬาต่อสู้ประจำชาติไทย เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในชื่อ “Isuzu Thailand Championship”

(23 มี.ค.67) มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุได้จัดการแข่งขันมวยรอบถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ และยาวนานที่สุดของไทยมากกว่า 3 ทศวรรษ จนได้ชื่อว่า 'มวยไทยทางทีวีระดับตำนาน' ปีนี้เราได้ปรับปรุงรูปแบบใหม่ เป็นการแข่งขัน 18 สุดยอดนักมวยจากทั่วประเทศ เพื่อชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง ในชื่อ 'Isuzu Thailand Championship' ผู้ชนะเลิศการแข่งขันในปี 2024 นี้จะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นใหม่ …เหนือลิมิต พิชิตโลก จำนวน 3 คัน พร้อมเข็มขัดแชมป์ และสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขัน THAI FIGHT 2024 อีกด้วย”

การแข่งขันมวย Isuzu Thailand Championship เป็นการยกระดับมวยไทยถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ให้สูงยิ่งขึ้น เพิ่มความสนุกเร้าใจตลอดเกมการแข่งขัน ด้วยเกมการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบของนักสู้บนสังเวียนมวยไทย พร้อมความเดือดทะลุจอด้วยการเปลี่ยนจากมวยสวมนวมเป็นมวยคาดเชือกโดยการจัดแข่งขันชกมวยแบบ 'ยกทีมปะทะกัน' ซึ่งThai Fight International Boxing Association (TFIBA) หรือ สมาคมกีฬามวยไทยไฟท์นานาชาติ เป็นผู้รับรองการแข่งขัน ด้วยการนำนักมวยท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค จัดเป็นทีม ๆ ละ 3 คน เป็นตัวแทนของภูมิภาค โดยแบ่งเป็น 6 ภูมิภาค นักมวย 18 คน ดังนี้

1. ภาคเหนือ
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น เฟเธอร์เวต ได้แก่ กล้าศึก ส.รัตนพล
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ซามูไร สีโอปอล
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ วรจักรเล็ก เกียรติฉัตรชัย

2. ภาคอีสานตอนบน
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น เฟเธอร์เวต ได้แก่ ชัยบุรี ลูกสิงห์นำชัย
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ เพชรตะวัน เกียรติเมืองปรางค์
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ ศักดิ์ณรงค์ ป้ายนต์ผลไม้

3. ภาคอีสานใต้
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ เพชรเอก บ้านไร่มณฑา
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ปูซาน ปราสาทหินพิมาย
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ กิตติศักดิ์ ศิษย์ช่างเปา

4. ภาคตะวันออก + ตะวันตก
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ ธงชัย เพชรรุ่งเรือง
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ฉลามดำ ที.บี.เอ็ม.ยิม
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ สิบสองปันนา เกียรติวินัย

5. ภาคกลาง
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ เพชรภาคใหม่ ช.ชนะมวยไทย
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ยอดเทวินทร์ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ ชนะชัย ช.ชนะมวยไทย

6. ภาคใต้
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ เมืองทรัพย์ เกียรติทรงฤทธิ์
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ รักณรงค์ ช.ณรงค์ศักดิ์
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ ยอดแสนชัย นายกเอท่าศาลา

รูปแบบการแข่งขัน
ทำการแข่งขันชกในรูปแบบมวยคาดเชือก แข่งขันชกกัน 3 ยก จะมีทีมเข้าแข่งขัน 6 ทีม ตามภูมิภาคที่กำหนดไว้ และทำการแข่งขันแบบยกทีม ซึ่งนักมวยทั้ง 3 คน 3 รุ่นน้ำหนักของแต่ละทีม จะต้องแข่งขันชกเพื่อชัยชนะในการสะสมคะแนน ซึ่งทุกทีมจะแข่งขันแบบพบกันหมด ทั้ง 6 ทีม โดยทุกทีมจะทำการแข่งขันในรอบแรก ทีมละ 5 ไฟท์ รวมการแข่งขันในรอบแรก และมีการเก็บคะแนนแบบระบบ League โดยกำหนดการให้คะแนน ดังนี้
• ชนะน็อค ได้ 3 แต้ม
• ชนะคะแนน ได้ 2 แต้ม
• ในกรณีแข่งขันชกครบ 3 ยก ผลการตัดสินออกมา 'เสมอ' จะทำการแข่งขันชกกันต่อในยกที่ 4 ซึ่งจะเป็นยกตัดสิน เพื่อหาผู้ชนะ

เมื่อทุกทีมทำการแข่งขันครบทุกทีมแล้ว จะนำเอาทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 1 - 4 เข้ารอบสองต่อไป แล้วทำการแข่งขันกันต่อ เพื่อหาทีมที่ดีที่สุด

การแข่งขันรอบแรก จะมีจำนวนทีม 6 ทีม นำมาแข่งขันแบบพบกันหมด โดยทุกทีมจะทำการแข่งขันในรอบแรก ทีมละ 5 ไฟท์ แล้วเอาทีมที่มีคะแนนเก็บมากที่สุด 4 อันดับแรก นำเข้าสู่รอบสอง (รอบ 4 ทีมสุดท้าย)

การแข่งขันรอบสอง จะมีจำนวนทีม 4 ทีม นำมาแข่งขันแบบไขว้ทีม คือ ด้วยการนำเอาทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 1 มาแข่งขันกับทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 4 และนำทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 2 มาแข่งขันกับทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 3 ในกรณีที่ทีมมีคะแนนผลการแข่งขันรวมเท่ากัน ก็จะนำเอาผลการให้คะแนนย่อยในแต่ละยก ของแต่ละคู่ นำมารวมกันทั้ง 3 คู่ ออกมาเป็นคะแนนรวมตัดสิน ซึ่งจะทำการแข่งขันยกทีมเพียงแค่ 2 ไฟท์ ทีมใดแพ้จะตกรอบทันที และทีมที่ชนะจะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศในสังเวียน THAI FIGHT และนักมวยทีมชนะเลิศ จะเป็นนักมวยในสังกัด THAI FIGHT โดยทีมที่เป็นแชมป์จะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเข็มขัดแชมป์ และรถปิกอัปอีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค 1.9 Ddi คนละ 1 คัน รวมทั้งหมด 3 คัน เป็นมูลค่ารวมกว่า 1,700,000 บาท พร้อมได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนนักชกไทยในสังเวียนมวยโลก THAI FIGHT 2024

ผลการแข่งขันในไฟท์ที่ 1
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท
ภาคกลาง - เพชรภาคใหม่ ช.ชนะมวยไทย [แพ้คะแนน] ภาคตะวันออก - ธงชัย เพชรรุ่งเรือง
ภาคเหนือ - กล้าศึก ส.รัตนพล [ชนะคะแนน] ภาคอีสานเหนือ - ชัยบุรี ลูกสิงห์นำชัย

พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท
ภาคเหนือ - ซามูไร สีโอปอล [ชนะน็อค ยก 2] ภาคอีสานเหนือ - เพชรตะวัน เกียรติเมืองปรางค์
ภาคกลาง - ยอดเทวินทร์ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง [เสมอ] ภาคตะวันออก - ฉลามดำ ที.บี.เอ็ม.ยิม

พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท
ภาคกลาง - ชนะชัย ช.ชนะมวยไทยยิม [ชนะคะแนน] ภาคตะวันออก - สิบสองปันนา เกียรติวินัย
ภาคเหนือ - วรจักรเล็ก เกียรติฉัตรชัย [ชนะคะแนน] ภาคอีสานเหนือ - ศักดิ์ณรงค์ ป้ายนต์ผลไม้

แฟนมวยสามารถติดตามรายการ 'Isuzu Thailand Championship' ทุกวันอาทิตย์ ทางช่อง 8 และ YouTube ช่อง THAI FIGHT OFFICIAL ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.00 น. ถ่ายทอดสดจาก THAI FIGHT ARENA @BEAT ACTIVE ไบเทค บางนา

ขนส่งทางบก เดินหน้าพัฒนานายช่างตรวจสภาพรถเพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน

วันนี้ (23 มี.ค. 67) ณ ห้อง Salon A ชั้น 2 โรงแรมสวิสโซเทล รัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร นายชีพ น้อมเศรียร ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมยานยนต์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม หลักสูตร ด้านการตรวจสภาพรถ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รุ่นที่ 2 

นางเพียงจันทร์ พจน์โพธิ์ศรี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาบุคคลและสวัสดิการ กล่าวว่า การจัดการฝึกอบรมในครั้งนี้ ซึ่งมีผู้บริหารและผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้าร่วมพิธีเปิดดังกล่าว 

ทั้งนี้เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรกรมการขนส่งทางบก ตำแหน่งนายช่างตรวจสภาพรถทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมการขนส่งทางบก ด้านการพัฒนาและส่งเสริมระบบทางถนนให้มีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของทั้งรถ คน และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่จะทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ทบทวนและเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ ความเข้าใจวิธีการปฏิบัติงานรวมถึงกฎ ประกาศ ระเบียบ ด้านการตรวจสภาพรถ ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ที่มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมต่อไป

ไขข้อข้องใจ เหตุใด ไอศกรีมร้านบุฟเฟต์ ถึงแข็ง-ตักยาก ชาวเน็ตถกกันสนั่น ร้านตั้งอุณหภูมิไว้ เย็นไปป่าว

(23 มี.ค.67) เป็นที่ทราบกันดีว่า สำหรับคนไทยที่ชอบรับประทานร้านปิ้งย่างแบบบุฟเฟ่ต์ เมื่อจบมื้อก็จะตบท้ายด้วยของหวานอย่าง 'ไอศกรีม' โดยลูกค้าต้องเป็นฝ่ายเดินไปตักจากถัง หรือตู้แช่มาทานเอง

แน่นอนว่า ไอศกรีมในร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ก็ขึ้นชื่อเรื่องความตักยาก จนกล้ามขึ้น กลายเป็นปัญหาโลกแตกของใครหลายคน

เช่นเดียวกับหนุ่มรายนี้ ได้ออกมาโพสต์ภาพตอนตักไอศกรีม พร้อมตั้งคำถามผ่านเฟซบุ๊กว่า

“ทำไม ไอศกรีมในร้านบุฟเฟ่ต์ถึงต้องตักยากครับ เล่นเอาซะเส้นแขน ท่อนแขนตึงเลย
อันนี้ผมสงสัยจริงๆครับ ไม่ได้ตำหนิอะไรร้านนะครับ”

งานนี้เมื่อแชร์ออกไป กลายเป็นที่ถกสนั่น จนมีผู้รู้เรื่องนี้ เข้ามาตอบถึงทฤษฎี เรื่องไอศกรีมว่า “เพราะเจ้าของร้านไม่เข้าใจเรื่องของการควบคุมอุณหภูมิ ว่าอาหารหรือเครื่องดื่มนั้น ๆ ต้องควบคุมอุณหภูมิที่เท่าไหร่”

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีคนแย้งกลับเช่นกัน โดยมองถึงการที่ร้านกดอุณหภูมิให้ต่ำเกินกว่ามาตรฐานจริง เป็นการลดต้นทุน ทำให้คนตักไอศกรีมได้น้อยลง ยิ่งตักยาก ยิ่งเสียเนื้อไอศกรีมน้อย นับเป็นทริกอย่างหนึ่ง มิเช่นนั้นคงไม่เป็นกันทุกร้าน

ทว่าเรื่องนี้มีคนแย้งกลับว่า สาเหตุที่ต้องตั้งอุณหภูมิตู้ไอศกรีมให้เย็นกว่าปกติ ไม่ใช่ต้องการควบคุมต้นทุนทำให้คนตักน้อย

แต่เป็นเพราะร้านบุฟเฟต์มีคนตักถี่กว่าร้านที่ขายเอง จนมีการเปิดตู้บ่อย ๆ ซึ่งถ้าตั้งอุณหภูมิตามปกติ พอเจอคนเปิดตู้บ่อย ๆ ไอศกรีมจะละลายจนไม่เป็นก้อน

ดังนั้น จึงต้องตั้งอุณหภูมิให้ต่ำลงถึงจะทำให้ไอศกรีมไม่เละ จนกลายเป็นแข็งอย่างที่เห็น

ขณะเดียวกัน สำหรับคนที่มองว่า ร้านทำให้ไอศกรีมแข็งเพื่อลดต้นทุน อาจจะลืมมองอีกมุมว่า การที่ตั้งค่าให้ตู้ไอศกรีมเย็นกว่าปกติ ก็ต้องใช้ไฟมากขึ้นก็นับว่าเป็นต้นทุนเช่นกัน

นอกจากนี้ก็ยังมี คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

ผมเคยตั้งให้ตักง่ายๆแล้วครับ แต่พอลูกค้าเปิด-ปิดบ่อย ความเย็น เย็นไม่ทัน ไอศกรีมละลาย ไม่สามารถเซ็ตตัวได้

พอเซ็ตไว้อุณหภูมิ ปกติ แต่ถ้าลูกค้าไม่มาเปิดเลยนานๆ มันจะแข็งมากๆ ตักยากปวดมือครับ
ไม่ได้เป็นเทคนิคใดๆหรอกครับ

เคยเจอร้านนึง ขูดไว้ให้เป็นก้อนเลยค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาและแรงขูดเอง

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุกรณีเจ้าของรถเก๋งแต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง หลังตำรวจตักเตือนรีบเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นตัวอย่างที่ดี ย้ำหากพบการกระทำผิด ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายทุกราย

วันนี้ (23 มีนาคม 2567) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3  ว่า พ.ต.อ.เด่นโดม ลาภานันต์ ผกก.สน.ฉลองกรุง และ พ.ต.ท.ปรีชากรณ์ รัตนสิรอตระกูล รอง ผกก.ป.สน.ฉลองกรุง ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่ามีรถเก๋งฮอนด้ารุ่นเก่า แต่งซิ่ง ท่อไอเสียเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านในชุมชนหมู่บ้านปรีชา สุวินทวงศ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค แต่งซิ่ง ติดสติกเกอร์สีรอบคัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ท่อไอเสียเสียงดัง จอดอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว ต่อมานายกษิดิศฯ ได้มาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปพูดคุยประชาสัมพันธ์ สอบถามเบื้องต้นทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าว นายกษิดิศฯ ซื้อมาแบบโอนลอยจากเพื่อน ในสภาพดังกล่าว และยังไม่ได้มีการนำรถไปขึ้นทะเบียนให้เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ว่ากล่าวตักเตือน แนะนำให้ไปแก้ไขรถให้กลับมาเป็นสภาพเดิมที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีคุณย่าของเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวเป็นพยาน รับปากว่าจะให้หลานชายนำรถไปแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเร็ว ซึ่งต่อมานายกษิดิศฯ ได้รีบแก้ไขให้กลับสู่รถสภาพเดิม ท่อไอเสียปกติ ไม่สร้างมลพิษทางเสียงให้แก่ชุมชนและผู้ใช้รถใช้ถนน มีทะเบียนรถถูกต้องตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ พล.ต.ท.สำราญ ฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือทำตามกฎหมาย ทำการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจง่ายขึ้น ไม่ต้องมีการใช้มาตรการเข้ม บังคับใช้กฎหมายเข้มงวดตลอดเวลา ก็สามารถสร้างสังคมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข จึงอยากให้กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ดีในการเคารพกฎหมาย และเคารพในสิทธิของคนในสังคม ซึ่งหากมีการกระทำผิด ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกราย

นอกจากนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ และการรวมตัวบนท้องถนนที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยสามารถแจ้งเบาะแสเหตุด่วนเหตุร้าย ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

‘เอกนัฏ’ เผย กระทรวงอุตฯ ยุคนี้ ให้ความสำคัญกับ ปชช. เรื่องมลพิษ ชงแก้กฎหมาย ให้โรงงานต้นเหตุ ต้องจ่ายค่าเยียวยาเอง

(23 มี.ค.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิกเกี่ยวกับการชดเชยราคาอ้อยสดว่า ถ้าสามารถเพิ่มราคาน้ำตาลในประเทศได้ก็จะสามารถเก็บเงินเข้ากองทุน ไม่ต้องเป็นภาระนำงบกลาง ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนมาใช้ สามารถนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายชดเชยราคา ในการตัดอ้อยสดได้เลย

สำหรับ สำหรับงบการอบรมของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ (กพร.) ความเป็นจริงกพร. ได้รับงบน้อยมาก การรับรู้ของประชาชน และผู้ประกอบการเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจเหมืองแร่ในประเทศยังน้อยมากไม่ควรปรับลดงบลงมา แต่ควร เพิ่มงบให้ด้วย เพื่อให้ข้าราชการในกพร. สามารถออกไปเผยแพร่องค์ความรู้ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการได้มากกว่านี้ ให้พวกเขาได้ร่วมรักษาผลประโยชน์ของประเทศ

นายเอกนัฏ กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมปัจจุบันภารกิจน้อยไป มีการแยกงานบางส่วนไปอยู่กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ซึ่งมีกองทุนอยู่ด้วย ถ้าให้มีการนำเงินไปอุดหนุนปัจจัยการผลิตตามที่สมาชิกขอ ก็แทบจะไม่ใช่ภารกิจของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม แต่ภารกิจสำคัญของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมคือการออกไปพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพให้ความรู้กับกลุ่มผู้ประกอบการ และพัฒนาสินค้าต้นแบบ

อย่างไรก็ตาม การจะไปคำนวณว่าใช้เงินต้นทุน ในการพัฒนาผู้ประกอบการต่อหัวเท่าไหร่ อาจจะเป็นมุมที่บิดเบือนวัตถุประสงค์การใช้เงินในก้อนนี้ ได้รับการยืนยันจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมว่า เงินทั้งหมดที่ใช้ในการพัฒนาองค์ความรู้สินค้าต้นแบบ จะทำให้เพิ่มมูลค่าได้ 7,000 กว่าล้านบาท จึงอยากให้สมาชิกได้มองอีกมุมหนึ่ง อย่ามองแต่เรื่องค่าใช้จ่ายรายหัว ให้มองมูลค่าที่เพิ่มจากการทำภารกิจของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

สำหรับ โครงการดีพร้อมชุมชน นายเอกนัฏ ชี้แจงว่า อาจเป็นความเข้าใจผิดในโครงการที่เคยมีปัญหาในอดีต แต่ภารกิจเหล่านั้น ปัจจุบันแทบไม่ได้ทำแล้ว ปัจจุบันนี้งบของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม งบที่ได้มาส่วนใหญ่จะนำไปเพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการและสินค้ามากกว่า ตัวเนื้องานของกลุ่มเสริมส่งเสริมใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณภาพเน้นการออกไปพัฒนามากกว่า

นายเอกนัฏ กล่าวถึงความต้องการที่จะให้ตั้งงบประมาณเพื่อเยียวยาปัญหาจากกากอุตสาหกรรม และมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมว่า น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรมให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก งานหลักของกระทรวงอุตสาหกรรมคือการเพิ่มอุตสาหกรรมของประเทศ แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าคือคุณภาพชีวิตของประชาชน การทำมาหากินการค้าขายหรือการสร้างมูลค่าอุตสาหกรรมต้องไม่ไปทำลาย หรือทำร้ายพี่น้องประชาชน

“ความจริงเราไม่ต้องใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียวไม่ต้องมาหากรรมาธิการงบประมาณเพราะรมว.อุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับการแก้กฎหมาย เพื่อให้โรงงานและกลุ่มผู้ประกอบการที่สร้างปัญหาให้ประชาชนเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ต้องมาใช้เงินภาษีของประชาชนในการเยียวยา มีการแก้กฎหมายให้ผู้ประกอบการที่ สร้างมลพิษเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ปัญหาที่เกิดก่อนการแก้กฎหมาย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นฉุกเฉินไม่มีการตั้งงบไว้ในปี 2567 หวังว่าสัญญานี้ส่งไปถึงรัฐบาลควรตั้งงบกลางมาแก้ปัญหาในกรณีฉุกเฉิน ด้วย”นายเอกนัฏ กล่าว

โครงการขอบคุณสื่อมวลชน มทร.รัตนโกสินทร์ 2567

ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2567 มทร.รัตนโกสินทร์ โดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มอบหมายให้รศ.ดร.อาคีรา ราชเวียง รองอธิการบดี กล่าวต้อนรับ และเปิดโครงการขอบคุณสื่อมวลชน มทร.รัตนโกสินทร์ 2567 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนข่าวสารของทางมหาวิทยาลัย ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอันเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก และเป็นการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย ให้เป็นที่รู้จักแก่นักศึกษาและบุคคลทั่วไปให้เข้าใจถึงบทบาทต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นอันดี ต่อมหาวิทยาลัย สำหรับในช่วงบ่ายได้พาสื่อมวลชนเข้าศึกษาดูงานด้านการประชาสัมพันธ์ และด้านการบริการวิชาการ ณ มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเพาะช่าง โดยมี ผศ.สุรัฐ บุญทรง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง ให้การต้อนรับ

‘กองสลากฯ’ ประกาศ เพิ่มช่องทางการจำหน่าย แผงสลากดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวก เริ่มแล้ว ตั้งแต่งวดนี้

(23 มี.ค.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ออกประกาศเรื่องการจัดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก แบบดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม

โดยใช้ช่องทางเว็บไซต์จำหน่ายสลาก ภายใต้ชื่อ www.glolotteryshop.com หรือ 'แผงสลากดิจิทัล' ให้กับร้านค้าของตัวแทนจำหน่าย ที่ทำสัญญาจำหน่ายสลากดิจิทัลกับสำนักงานสลากฯ และได้รับจัดสรรสลากตามจำนวนที่สำนักงานสลากฯกำหนด

โดยสามารถใช้ช่องทางเว็บไซต์จำหน่ายสลากได้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 67 หรือ งวดวันที่ 1 เม.ย.67 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลที่ทำสัญญาไว้กับสำนักงานสลากฯ สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจำหน่ายสลากดิจิทัล ที่จะเข้าถึงพฤติกรรมผู้ซื้อสลากฯ มากขึ้น

นายคารม กล่าวว่า การซื้อสลากดิจิทัลผ่านแผงสลากดิจิทัล จะต้องชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น ในราคาใบละไม่เกิน 80 บาท ผู้ซื้อสลากฯ เมื่อเลือกหมายเลขได้ตามที่ต้องการแล้ว ให้ตรวจสอบหมายเลขสลาก และสร้างคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน โดยเปิดแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสแกนคิวอาร์โค้ด

หากผู้ซื้อไม่ชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด สลากดิจิทัลที่เลือกไว้จะกลับเข้าสู่ร้านค้าของตัวแทนจำหน่ายสลากแบบดิจิทัลต่อไป หากชำระเงินสำเร็จ ผู้ซื้อจะได้รับสลากแบบดิจิทัลปรากฏในแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยกรรมสิทธิ์สลากแบบดิจิทัลดังกล่าวจะตกเป็นของผู้ซื้อสลากทันที และผู้ซื้อไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิในสลากแบบดิจิทัล ที่ได้ทำการซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแล้วนั้นไปยังบุคคลอื่นได้ ไม่ว่าวิธีการใด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top