Tuesday, 13 May 2025
NEWS FEED

รรท.รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนงานพิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง วาง 10 มาตรการ 3 มิติงาน มุ่งยกระดับประเทศไทยสู่ระดับ Tier 1

วันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.(มค) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล ที่ตระหนักและให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดเกี่ยวกับเด็ก สตรี ครอบครัว การป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง พร้อมกับการนำประเทศไทยไปสู่ระดับกลุ่มที่ 1 (Tier 1) ซึ่งได้มีการกำหนดไว้ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยมุ่งหวังให้ ตร. มีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาล มาสู่การปฏิบัติ โดยจัดตั้งศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) และมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.(มค) เป็น ผอ.ศพดส.ตร. เพื่อขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้มอบนโยบายพร้อมขับเคลื่อนและติดตามผลการปฏิบัติกับหน่วย บช.น., ภ.1-9, บช.ก., บช.สอท., สตม., สยศ.ตร., สทส., จต. และ วน. เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ใน 3 มิติงาน 10 มาตรการ ดังนี้

มิติด้านการดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย ต้องเร่งรัดให้มีผลการจับกุมคดีการกระทำความผิด
เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ อย่างน้อย บช. ละ 3 คดีต่อเดือน และให้ชุดจับกุมสืบสวนขยายผลไปสู่ความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องทุกครั้ง โดยต้องมีความละเอียดรอบคอบในการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน กรณีจับกุมคนต่างด้าวเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานภาคประมง ทั้งในอุตสาหกรรมบนบกและทางทะเล ให้พิจารณานำกลไกการส่งต่อ NRM (National Referral Mechanism) มาใช้ในกระบวนการคัดแยกเหยื่อ เพื่อขยายผลคดีการหลอกลวงและการบังคับใช้แรงงาน สำหรับประมงผิดกฎหมาย เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในรูปแบบแรงงานประมงและแรงงานในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าประมง นอกจากการตรวจกลางทะเล ให้ บก.รน. ขยายผลการสืบสวนในกลุ่มผู้ใช้แรงงานด้านประมงนี้ด้วย โดยประสานข้อมูลกับ 22 จว. ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล และนำกลไกการส่งต่อระดับชาติ มาใช้กับการจับกุมเรือประมงไม่ปรากฏสัญชาติด้วย ในคดีค้ามนุษย์ทุกคดี ให้พนักงานสอบสวนประสานกับอัยการแผนกคดีค้ามนุษย์โดยใกล้ชิด ก่อนมีความเห็นทางคดี และส่งสำนวนคดี เพื่อการสั่งคดีที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ นอกจากนี้ทุก สน./สภ.ต้องรายงานผลตามแบบ ปคม.01 และบันทึกข้อมูลลงระบบ E-AHT ให้ครบถ้วนสมบูรณ์เป็นปัจจุบัน

มิติด้านการคุ้มครองดูแลผู้เสียหาย ภายใต้หลักการสากลและเท่าเทียม ให้ผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง คำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจ และคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายภายใต้กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) ให้มีความพร้อม มีการคัดแยกผู้เสียหายค้ามนุษย์ทุกราย 
ก่อนส่งตัวให้ สตม. ผลักดันส่งกลับประเทศ เน้นการบูรณาการแสวงหาความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม NGOs รวมถึงการนำเทคโนโลยี ลดปัญหาการทำงานที่ล่าช้า และให้ทุกหน่วยให้ถือปฏิบัติตามแนวทางการปฏิบัติ ตร. กรณีคนต่างด้าว เป็นผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาในคดีอาญา หรือถึงแก่ความตายโดยผิดธรรมชาติอย่างเคร่งครัด
   
มิติด้านการป้องกัน เน้นการสร้างภาคีเครือข่าย เฝ้าระวังปัญหาการค้ามนุษย์แบบมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน มีการทำงานเชิงรุก และให้ความสำคัญในคดีการบังคับใช้แรงงาน บริการภาคประมง และการนำคนมาขอทานให้มากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการดำเนินโครงการ D.A.R.E 2 C.A.R.E อย่างต่อเนื่อง และให้ บก.รน. และ ภ.จว. ที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล 22 จว. ให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับศูนย์รับแจ้งเรือเข้าออก PIPO (Port In Port Out) อย่างใกล้ชิด พร้อมกับให้ความสำคัญกับการปราบปรามการค้ามนุษย์ในรูปแบบใหม่ทางออนไลน์ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
 
พล.ต.ท.ประจวบฯ รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้ายว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งหวังว่าการระดมสรรพกำลัง ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วน ในการเร่งรัดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเด็ก สตรี ครอบครัว การป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมงจะประสบผลสำเร็จ ตอบสนองนโยบายรัฐบาล เสริมสร้างความเสมอภาค เท่าเทียม และรักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ภายใต้กรอบของกฎหมาย ประชาชนและสังคมมีความสงบเรียบร้อยสืบไป

โรงพยาบาลตำรวจ ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจำปี 2567 ลงพื้นที่นำทีมแพทย์พยาบาล ตรวจสุขภาพทั่วไป พร้อมแจกสิ่งของเครื่องใช้ อาหารเครื่องดื่ม ให้เด็กนักเรียน และประชาชน จ. ประจวบคีรีขันธ์

วันพุธที่ 19 มิถุนายน 2567 ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านคลองน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พลอากาศโท เพชร เกษมสุวรรณ เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ/ประธานสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8)/นายกสำรอง,พล.ต.ท.บุญยรัสน์ พุกกะเวส กรรมการกีฬา สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย, พล.ต.ต.เอกลักษณ์ ดีรุ่งโรจน์ นายแพทย์ (สบ 6) โรงพยาบาลตำรวจ,  พล.ต.ต.หญิง รชยา บุรพลพิมาน ผู้บังคับการกองอำนวยการ โรงพยาบาลตำรวจ, พ.ต.อ. หญิง ศิริกุลศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจำปี 2567

ครั้งนี้ลงพื้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคลองน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทางสมาคมและหลายหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรมนำชุดแพทย์เคลื่อนที่ 4 เหล่า ให้บริการ

ตรวจโรคทั่วไป ตรวจฟัน ตรวจตา คัดกรองโรคหัวใจ ตรวจศัลยกรรม ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 200 โดส ให้เด็กนักเรียนและประชาชน พร้อมมอบสิ่งของ อุปกรณ์จำเป็น, อุปกรณ์กีฬา, ตู้ยาสามัญประจำบ้านพร้อมยา จำนวน 2 ตู้, ชั้นใส่หนังสือ ให้กับโรงเรียนนำไปใช้ประโยชน์ 

โดย มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สนับสนุนกระเป๋าสะพาย (ประถม) 101 ใบ, พล.ต.ต.หญิง กรทอง การพานิช ผู้บังคับการโรงพยาบาลตำรวจ สนับสนุนไก่ทอด KFC 100 กล่อง,บริษัทวิริยะ ประกันภัยสนับสนุนเครื่องเขียน และอุปกรณ์การเรียนการสอน บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริจาค ถั่วมารูโจ้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือ เป็นขวัญกำลังใจให้กับเด็กนักเรียน และประชาชนในพื้นที่

พลอากาศโท เพชร เกษมสุวรรณ เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ/ประธานสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวขอบคุณนายกสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ท่านเดิม ที่ริเริ่มโครงการดีๆให้สานต่อ  และขอขอบคุณบุคลากรสมาคมแพทย์ทั้ง 4 เหล่า ที่มาร่วมสร้างบุญกุศล ช่วยเหลือสังคมในครี้งนี้ โดยมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น สำหรับเด็กนักเรียน และประชาชนผู้ยากไร้ รวมไปถึงทีมแพทย์พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ทั้ง4เหล่าทัพที่จัดกิจกรรมให้บริการตรวจโรคกับประชาชน สร้าง ความสุขและรอยยิ้มให้กับทุกคน

สำหรับโรงเรียนในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 มีทั้งสิ้น 11 โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคลองน้อย มีครู  และบุคลากร 11 คน นักเรียน 149 คน ส่วนใหญ่มีฐานะยากจนขาดแคลนอุปกรณ์ในการพัฒนาการเรียนการสอน จำเป็นต้องได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่ใจดี และผู้มีจิตศรัทธา ที่เล็งเห็นความสำคัญมาจัดกิจกรรมให้ โรงเรียนซาบซึ้งใจ และขอบพระคุณสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และทุกหน่วยงานที่ให้ความอนุเคราะห์จัดกิจกรรมดีๆในครั้งนี้

การออกหน่วยแพทย์สี่เหล่าครั้งนี้มียอดผู้ลงทะเบียน 336 คน 

- ฉีดวัคซีน
ประชาชนทั่วไป 189 คน 
ครูตชด 11 คน รวม 200 คน 

-คัดกรองผู้ป่วยเหนื่อยอ่อนเพลียง่ายทำ EKG 30 คน echo 20 คน
ผลตรวจปกติให้คำแนะนำตามอาการ 

-ตรวจโรคศัลยกรรมปรึกษาปวดท้องจุกเสียดกรดไหลย้อน 22 คน ให้คำปรึกษาไทรอยด์ 1 คน

- ตรวจอัลตราซาวด์ 11 คน
โรคที่พบไขมันพอกตับ 
มดลูกโต 
เนื้องอกมดลูก 
ไตเสื่อม 

-ตรวจตายอด 210 คน

-ตรวจโรคทั่วไป 72 คน

-ถอนฟัน 47
เคลือบฟูโอไรด์ 42 

-ใบสั่งยา 85 ใบ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร และโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ขออนุญาตเผยแพร่ภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีภาพบุคคลในกิจกรรมดังกล่าว

"ศูนย์กลางข่าวสาร ประสานฉับไว ใส่ใจบริการ เพื่อตำรวจและประชาชน“

#กิจกรรมเพื่อสังคม สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
#สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
#PGH
#โรงพยาบาลตำรวจ
#ศูนย์ประชาสัมพันธ์สื่อสารองค์กรและโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ

‘ครูโหน่ง K9’ ยื่นมือช่วย ‘น้องหมา 8 ตัว’ บนเรือน้ำมันเถื่อนสงขลา ยัน!! แข็งแรงทุกตัว แต่ต้องฝึกใหม่หมด เพราะทั้งชีวิตอยู่แต่ในเรือ

(20 มิ.ย.67) จบปัญหา ‘สุนัข 8 ชีวิต’ บนเรือขนน้ำมันเถื่อน ขึ้นจากเรืออยู่ที่ใหม่ ทุกตัวแข็งแรง มีเพียงเห็บหมัดเท่านั้น คืบหน้ากรณีน้ำมันเถื่อน 3 ลำ เทียบชาติถ้าเทียบเรือตำรวจน้ำสงขลาและอยู่บนเรือ

เมื่อเวลา 17.00 น. เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.67) เจ้าหน้าที่จากศูนย์ฝึกสุนัขครูโหน่ง K9 จำนวน 5 คน ลงไปจับสุนัขที่อยู่บนเรือจำนวน 8 ตัว โดยใช้วิธีการเอาเชือกคล้องแล้วดึงเข้าบล็อก เพื่อให้สุนัขปลอดภัยที่สุด ก่อนที่จะนำไปดูแลที่ศูนย์ฝึกสุนัขครูโหน่ง K9 

ทุกตัวให้ความร่วมมือ มีเพียงตัวเดียวที่กระโดดหนีลงจากเรือ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันไล่จับและสามารถจับได้ ตรวจสุขภาพเบื้องต้นทุกตัวปลอดภัยแข็งแรง มีเพียงเห็บหมัดและสังกะตังเท่านั้น ทุกตัวยังแข็งแรง อารมณ์ดี แต่เล็บเท้ายาวเจ้าหน้าที่จะทำการดูแลทั้งหมด

โดย ครูโหน่งเปิดเผยว่า ตัวเองได้รับการติดต่อ จาก The hope สงขลา และ The hope Thailand ให้มาช่วยเหลือสุนัขที่อยู่บนเรือ ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาคดีเรือขนน้ำมันเถื่อน จำนวน 8 ตัว ซึ่งหลังจากนี้จะนำน้องทั้ง 8 ตัวไปที่ศูนย์ฝึก เพื่อทำการดูแล ทั้งการอาบน้ำ การฝึก เพื่อให้น้องหมา อารมณ์ และนิสัยดีขึ้น ให้เขามีความสุขมากขึ้น

“เมื่อกลับไปถึงศูนย์ฝึกจะให้ยากำจัดเห็บหมัด และให้คุณหมอเข้าไปตรวจเลือด โดยสุนัขทั้งหมดเป็นพันธุ์ไทยผสม น้อง ๆ สุนัขทุกตัวน่าเป็นห่วง เนื่องจากอยู่บนเรือมาตลอดช่วงชีวิตของเขาเลย และเพิ่งกลับมาอยู่บนบก จะต้องมีการปรับตัวสำหรับน้องหมา ครูโหน่งและทีมงานจะ ดูแลให้เป็นอย่างดี เพื่อให้มีความสุขทุกตัว”

‘ห้างฯโรบินสัน ศรีนครินทร์’ ประกาศ ‘เตรียมปิดห้างถาวร’ หลังเปิดมานาน ‘30 ปี’ ให้บริการวันสุดท้าย ‘20 ส.ค.’ นี้

(20 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีนครินทร์ ของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ได้เตรียมปิดให้บริการถาวร โดยเปิดให้บริการวันสุดท้ายในวันที่ 20 ส.ค. 2567 หลังเปิดให้บริการพร้อมกับศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มานานถึง 30 ปี

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดโปรโมชัน BIG THANK YOU SALE ลดครั้งใหญ่แทนคำขอบคุณ โดยนำสินค้าลดราคาแบบไม่ขนกลับ สูงสุด 80-90% พร้อมรับส่วนลดท้ายใบเสร็จ 200 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ และรับคูปองแทนเงินสดลดสูงสุด 3,500 บาท เฉพาะห้างโรบินสัน ศรีนครินทร์เท่านั้น ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 20 ส.ค. 2567

สำหรับห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีนครินทร์ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2537 หรือเมื่อ 30 ปีก่อน สมัยที่นายมานิต อุดมคุณธรรม เป็นผู้ก่อตั้ง ในช่วงเวลาเดียวกับการเปิดศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ก่อนที่กลุ่มเซ็นทรัลจะเข้ามาถือหุ้นใหญ่เมื่อปี 2538 และได้ถูกโอนให้มาอยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด หรือห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีนครินทร์ ทำให้เหลือสาขาให้บริการในกรุงเทพมหานครเพียง 3 สาขา ได้แก่ สุขุมวิท บางรัก และลาดกระบัง แต่ยังมีสาขาใกล้เคียงเปิดให้บริการ ได้แก่ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2557 และโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2562

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2565 ห้างสรรพสินค้าโรบินสันปิดสาขาบางแค ภายในศูนย์การค้าซีคอนบางแค เจ้าของเดียวกับซีคอนสแควร์ โดยย้ายสาขาไปยังโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ส่วนที่ตั้งเดิมปรับปรุงเป็นโฮมโปร สาขาซีคอนบางแค ซึ่งย้ายมาจากศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค เปิดเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา

'อาดำ ศุภสรณ์' นักพากย์ระดับตำนานเสียชีวิต ปิดฉากเสียง 'ปู่ Max' Ben 10 ในวัย 78 ปี

(20 มิ.ย.67) เพจ 'คนรักหนังพากย์ไทย' ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยให้กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ 'อาดำ ศุภสรณ์ มุมแดง' ระบุว่า...

นักพากย์เจ้าของเสียงไทย 'ปู่ Max' ใน Ben10 ซึ่งเสียชีวิตลงในวันนี้ (19 มิ.ย.67) 

ทางเราขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของอาดำ และขอให้ดวงวิญญาณของคุณอาไปสู่สุคติครับ

สำหรับผลงานของ 'อาดำ ศุภสรณ์' ประกอบไปด้วยการพากย์ตัวละคร...

- Max – Ben 10 (Cartoon Network)
- Théoden (Bernard Hill) - The Lord of the Rings : The Two Towers / The Return of the King (2002 / 2003)
- Eddie Scrap-Iron Dupris (Morgan Freeman) – Million Dollar Baby (2004)
- Toll Road (Randy Couture) – The Expendables 2-3 (2012-2014)
- Robert Baratheon (Mark Addy) – Game of Thrones (Catalyst)
- Ratchet – Transformers 1-4 (2007-2014)
- ชางหยู – Mulan (1998)
- Slinky Dog – Toy Story 2-3 (1999-2010)
- Gill – Finding Nemo (2003)

'อ.พงษ์ภาณุ' ติง 'ธปท.' ไร้ความรับผิดชอบ ค้านรัฐปรับกรอบเงินเฟ้อ ยัน!! ควรจะทำนานแล้ว ไม่ถือเป็นการแทรกแซงนโยบายการเงิน

(20 มิ.ย.67) อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ กล่าวถึงกรณีเมื่อวานนี้ ผู้ว่า ธปท. ออกมาค้านการปรับกรอบเงินเฟ้อ โดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ ซึ่งล้วนฟังไม่ขึ้นและสะท้อนถึงการขาดวุฒิภาวะและการไร้ความรับผิดชอบของ ธปท. ในยุคนี้ แถมยังขู่ว่าจะไม่ขอต่อสัญญาเป็นผู้ว่าการต่ออีก 1 สมัย ว่า...

"ผมเห็นว่าท่านพูดถูกข้อหลังอยู่ข้อเดียว เพราะถึงจะอยากอยู่ต่อรัฐบาลก็คงจะไม่ต่อสัญญาให้ ความจริงท่านควรจะไปตั้งนานแล้ว เพราะ ธปท. ภายใต้การนำของท่านล้มเหลวในการดำเนินนโยบายการเงินมาอย่างต่อเนื่องทุกปี เงินเฟ้อหลุดกรอบที่ตกลงไว้กับรัฐบาลเป็นประจำจนไม่รู้จะมีเป้าเงินเฟ้อไว้ทำไม มีการเล่นการเมืองในการดำเนินนโยบายการเงินเกินกว่าเหตุ สังเกตได้จากการดีเลย์การขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565 ในยุครัฐบาลเผด็จการ ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกขึ้นดอกเบี้ยกัน เป็นเหตุให้เงินเฟ้อไทยในปี 2565 ขึ้นไปสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แล้วจึงมาเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 เมื่อมีรัฐบาลประชาธิปไตยแล้ว ทำให้ไทยมีเงินเฟ้อติดลบ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล"

อ.พงษ์ภาณุ กล่าวอีกว่า "ดังนั้นนโยบายปรับกรอบเงินเฟ้อ (Inflation Targets) ของรัฐบาลจึงมีความเหมาะสม และไม่ถือเป็นการแทรกแซงนโยบายการเงินแต่อย่างใด และก็ควรจะทำมานานแล้ว เมื่อมีการดำเนินการผิดเป้าซ้ำแล้วซ้ำอีก ธปท.ยังคงมีอิสระอย่างเต็มที่ในด้านการดำเนินการและเครื่องมือ (Operational and Instrumental Inddependence) แต่ไม่สามารถทำอะไรตามใจชอบแบบไร้ขอบเขตและไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม (Accountability) เหมือนเช่นที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความเคยตัวและการใช้อำนาจในทางที่ผิด (Abuse of Power)"

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังและ ธปท. ควรที่จะร่วมพิจารณากันอย่างรอบคอบและเป็นการภายใน และไม่ใช่ออกมาคัดค้านผ่านสื่ออย่างที่ผู้ว่า ธปท. ทำ เพราะอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดได้ จึงไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าการออกข่าวลักษณะเช่นนี้จะประสงค์ดีหรือประสงค์ร้ายต่อประเทศชาติ

‘สหพันธ์ขนส่งทางบกฯ’ เตรียมถก 12 ผู้ประกอบการฯ บ่ายนี้ ขู่!! จ่อขึ้นค่าขนส่ง 9% หากรัฐเพิกเฉย ไม่ตรึงดีเซล 30 บาท

เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.67) นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 มิถุนายน จะมีการประชุมหารือร่วมกับสมาชิกผู้ประกอบการขนส่ง 12 สมาคม เพื่อจะรองรับมติว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหากรัฐบาลยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของสมาพันธ์ฯ ก่อนหน้านี้ ที่ต้องการให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร โดยสมาพันธ์จะปรับขึ้นราคาค่าขนส่งขึ้น 9% หากรัฐบาลไม่มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด หรือปรับขึ้นประมาณ 3% ต่อราคาน้ำมันดีเซล 1 บาท ที่เกิน 30 บาทต่อลิตร

“การปรับขึ้นดังกล่าวหากจะคิดง่าย ๆ ก็จะทำให้ค่าขนส่งเดิมที่คิดราคา 10,000 บาท จะถูกเพิ่มขึ้นอีก 900 บาทนั่นเอง” นายอภิชาติ กล่าว

โดยนายอภิชาติ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มรถกระบะ หรือปิคอัพ ที่เป็นผู้ประกอบการขนส่ง ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ขนส่งฯ ที่พร้อมจะปรับขึ้นราคาค่าขนส่งอีก 9% เช่นเดียวกัน หากราคาน้ำมันดีเซลยังอยู่ในระดับปัจจุบันที่ 32.94 บาทต่อลิตร

สำหรับการประชุมหารือจะเริ่มเวลาประมาณ 13.00-15.00 น. ที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย

แถลงข่าว เดิน–วิ่ง การกุศล ซุปเปอร์ มินิมาราธอน รพ.พระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ครั้งที่ 17 ชิงถ้วยพระราชทานฯ

วันที่ 19 มิ.ย.67 พล.ร.ต.ดนัย ปานแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขัน เดิน–วิ่ง การกุศล ซุปเปอร์ มินิมาราธอน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ครั้งที่ 17 ประจำปี 2567 ภายใต้ ระหัส “RUN FOR HEALTH วิ่งเพื่อสุขภาพของนักกีฬา ” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีผู้มีเกียรติ ผู้สนับสนุนเดิน-วิ่งการกุศลฯ สื่อมวลชน ผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากร รพ.ฯ เข้าร่วมการแถลงข่าว ณ ห้องโถงอาคารตรวจโรคผู้ป่วยนอก รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

การแข่งขัน “RUN FOR HEALTH วิ่งเพื่อสุขภาพของนักกีฬา” เป็นกิจกรรม เดิน–วิ่ง การกุศล ซุปเปอร์มินิมาราธอน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ครั้งที่ 17 

กำหนดจัดการแข่งขัน ในวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลา 04.00 - 08.30 น. เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2567 รายได้สุทธิจากการจัดการแข่งขัน สมทบทุนจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลฯ และเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนในพื้นที่ 

ตลอดจน ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ตามระยะต่างๆ ที่กำหนด ได้แก่ ระยะทาง 13.55 กม. ระยะทาง 5 กม. และ 3 กม. เปิดรับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทาง https://race.thai.run/srkrunforheart2024

'ครูเป็ด' ชื่นชมครูรุ่นใหม่ ให้เด็กได้ลอง 'ขีด-เขียน-ลบ' บนกระดาษจริง หน่วงชีวิตเด็กให้ช้าลง ผ่านปลายปากกาแสนฝืด-รอยลบเตือนความผิด

(19 มิ.ย.67) ครูเป็ด-มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร นักแต่งเพลง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กอธิบายเหตุผลที่ทำไมคุณครูคนรุ่นใหม่ จึงยังให้นักเรียนจดบันทึกลงบนกระดาษว่า เพื่อเป็นการให้เด็กได้เห็นและทบทวนข้อผิดพลาดในอดีตของตน ระบุว่า...

เมื่อวานผมได้ประชุมออนไลน์กับอาจารย์ของโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่ง เพราะผมจะต้องไปสอนเด็กนักเรียนในหัวข้อการอ่านจับใจความ

ความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้...

ในการสอนจำเป็นจะต้องส่งเรื่องไปให้นักเรียนอ่าน เพื่อเป็นตัวอย่างว่าเราจะจับใจความเรื่องอย่างไร...ผมก็ถามทางอาจารย์ว่า ปกติเขาใช้แพลตฟอร์มอะไรในการแจกจ่ายเอกสารแบบนี้

เพราะผมมองว่าเด็กนักเรียนรุ่นนี้ เขามีอะไรก็คงจะขีด ๆ เขียน ๆ บนแท็บเล็ตของเขา คงไม่ได้ใช้กระดาษแล้วมั้ง

ทางอาจารย์ซึ่งก็เป็นคนหนุ่มคนสาวรุ่นใหม่ ก็ขอว่าให้ผมส่งไฟล์ให้ทางโรงเรียน แล้วเขาจะปริ้นเป็นกระดาษออกมาให้เด็กเอง

มีอะไรก็จะให้เด็กขีดเขียนลงบนกระดาษ

เหตุผลของอาจารย์เป็นเรื่องละเอียดอ่อนน่าชมเชย...แกบอกว่าอยากให้เด็กได้สัมผัสกับความรู้สึกจับต้องกระดาษ ได้เขียนอะไรลงบนกระดาษ ความรู้สึกที่ปลายปากกามันฝืด ๆ นิดนึง ตอนลากไปบนกระดาษ...

และถ้าเขียนอะไรผิดก็ต้องลบ ซึ่งมันจะทิ้งร่องรอยให้เห็นว่า นั่นไงที่เราเคยผิดหรือเคยทำพลาดไว้...

คือตอนนี้อะไรที่ผ่านมาในชีวิตมันเร็วเหลือเกิน มาแล้วก็ไป ก็เลยอยากให้มีอะไรบางอย่างหน่วงชีวิตให้ช้าลงบ้าง...เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดี

ผมเก๊ตความคิดนี้และชื่นชมครับ...

เด็กรุ่นนี้โตมากับเทคโนโลยี เขาอาจจะได้สัมผัสเพียงด้านเดียวคือความว่องไว ความสำเร็จรูป ความได้อย่างใจ...

จะมีอีกมุมหนึ่งที่เทคโนโลยีไม่ได้สอน...คือความอดทน การรอคอย รับมือกับความผิดพลาด รับมือกับความไม่สมหวัง...

เทคโนโลยีจะไปเร็วแค่ไหน แต่หัวใจคนก็ยังเต้นประมาณ 80 ครั้งต่อนาที...เหมือนเมื่อร้อยปีหรือพันปีที่แล้ว

ชื่นชมครับที่ครูรุ่นใหม่ ๆ เห็นคุณค่าของเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ และพยายามสอดแทรกเข้าไปในการเรียนการสอน 

‘ชาวบ้านแม่น้ำคู้’ ผวา!! ‘โจ๋เขมร’ ตั้งแก๊งไล่ทำร้ายคนไทย-เพื่อนร่วมชาติ ต้องวิ่งหนีเข้าป่าเอาชีวิตรอด ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีใครกำราบ

เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย. 67) ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งที่แม่น้ำคู้ซอย 3 ในพื้นที่ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง หลังทราบข้อมูลจากชาวบ้านว่ามีคนไทยและกัมพูชา ถูกกลุ่มวัยรุ่นชาวกัมพูชาไล่ทำร้ายร่างกายจนต้องวิ่งหนีเข้าป่าเพื่อเอาชีวิตรอด

ทั้งนี้ ที่บริเวณห้องเช่าดังกล่าว มีห้องพักอยู่ติดกันกว่า 20 ห้อง พบชาวบ้านกว่า 20 คนอยู่ในอาการผวา พร้อมจับกลุ่มคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพบรถจักรยานยนต์ 1 คันยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์-ดำ มีรอยคล้ายถูกมีดฟันที่ตัวรถ ตะกร้าหน้ารถบิดเบี้ยวและชิ้นส่วนแตกหลุดออกมา

ด้าน น.ส.ศิริพร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปีให้ข้อมูลว่า ตนและแฟนออกไปทำธุระกับเพื่อน พอแยกกันตนกับแฟนถึงห้องแล้วแต่เพื่อนแฟนยังไม่ถึง ภายหลังทราบว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นชาวกัมพูชาไล่ทำร้ายและหนีเอาชีวิตรอดมาได้ ตอนนี้ชาวบ้านแม่น้ำคู้ต้องอยู่แบบหวาดผวา วัยรุ่นกัมพูชากลุ่มนี้มีอยู่กว่า 10 คน เกเรมาก พวกเขาก่อเหตุไล่ทำร้ายคนไทยและไล่ทำร้ายคนชาติเดียวกันด้วยมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครมาจัดการได้

นายสุริยะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปีผู้เสียหาย เล่าว่า ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาน้อง พอถึงกลางซอยแม่น้ำคู้ 3 แถวร้านสะดวกซื้อ มีวัยรุ่นกัมพูชาขี่รถตามมาและตบที่ต้นคอจนตนตกใจ เมื่อหันไปก็เห็นคล้ายกับมีอาวุธด้วย ตนจึงรีบขี่รถหนี แต่คิดว่าคงหนีไม่พ้นจึงทิ้งรถ หนีเข้าไปซ่อนตัวในป่าจนรอดมาได้

ผู้เสียหายอีก 1 รายชื่อนายวิทย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี เป็นแรงงานชาวกัมพูชา ซึ่งขี่รถผ่านมาพอดีก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นชาติเดียวกันขี่ตามไล่ทำร้ายร่างกายเช่นกัน จนต้องทิ้งรถ จยย.วิ่งหนีเข้าป่าจึงรอดมาได้ ส่วนรถถูกมีดฟันได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทั้งคนไทยและชาวกัมพูชาที่พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าดังกล่าวต่างใช้ชีวิตกันอย่างหวาดผวา และได้เตรียมแจ้งความที่ สภ.ปลวกแดง เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมอยากฝากให้ สภ.ปลวกแดง เร่งจัดการกับกลุ่มกัมพูชากลุ่มนี้เพราะเป็นอันตรายต่อชุมชนอย่างมาก 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top