Wednesday, 14 May 2025
NEWS FEED

‘หนุ่มวัยรุ่น’ เรียกแท็กซี่ไปดอนเมือง ได้ฟังเรื่องปรัชญา จากการสนทนากับ ‘คนขับ’ โชเฟอร์อดีตวิศวกร สอนการใช้ชีวิต ย้ำ!! ‘อย่าเป็นหนี้-อย่ายุ่งการพนัน’ มีสิบล้านก็หมด

(23 มิ.ย.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Hroyrang Studio’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ การได้พูดคุยกับพี่คนขับรถแท็กซี่ โดยได้ระบุว่า...

สายของวันกับการเรียกแท็กซี่ไปดอนเมือง..

โชเฟอร์: น้องดูบอลยูโรไหม..

โอม: ดูแต่คู่ 2 ทุ่มครับพี่ คู่ดึกดูไม่ไหว

โชเฟอร์: โอ้ย! เหมือนพี่เลย ปีนี้พี่คิดว่าเยอรมันน่าจะไปถึงรอบลึกเลย

โอม: ผมก็เชียร์เยอรมันครับ 

โชเฟอร์: พี่ก็เชียร์ พี่ชอบบอลระบบ 

โอม: เหมือนกันครับพี่

โชเฟอร์: ไม่รู้เกี่ยวกับการเป็นวิศวะหรือเปล่านะ (หัวเราะ)

โอม: วิศวะ?

โชเฟอร์: ก่อนมาขับแท็กซี่ พี่เป็นวิศวกรโยธามา 21 ปี ทำงานระบบพวกรถไฟฟ้าใต้ดินฐานราก แต่เบื่อแล้ว

โอม: แล้วทำไมมาขับแท็กซี่ครับ?

โชเฟอร์: อ๋อ..ตอนนั้นโฟร์แมนที่ทำงานด้วยเขาขับมาก่อน เขาเล่าให้พี่ฟัง พี่เลยขอยืมรถเขาไปขับ สรุปมันทำเงินได้เว้ย ที่สำคัญ มันไม่ต้องไปทะเลาะกับใครให้วุ่นวายเหมือนงานที่เราทำที่ต้องทะเลาะกับ ลูกค้า ตำรวจ ประปา อาคาร

โอม: ขับมากี่ปีแล้วครับ

โชเฟอร์: ผมขับมา 7 ปีแล้วนะ ขับจนได้เขียวเหลืองมา 1 คัน ผมปล่อยให้เช่าวันละ 600 แต่ก่อนจะออกจากงานผมวางแผนนะ ว่าต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะพอ ไม่เดือดร้อน ตอนทำวิศวกรเงินดี ผมก็ไม่ได้มีหนี้สินอะไรมาก เต็มที่ตอนนั้นคือ มีบ้านราคา 3.8 ล้าน เมื่อ 20 ปีที่แล้วนะ ผมก็รีบปิดได้ภายใน 8 ปี แบ่งเงินจากเงินเดือนและโบนัสมาโปะๆๆ ก็หมด 

โอม: โหดมากครับพี่ งี้พี่มีลูกไหมครับ

โชเฟอร์: มีสิ! มี 4 คน ค่าเทอมมาพร้อมกันทีหลักแสนได้ แต่ก่อนจะมีลูกมีภรรยา พี่ต้องสร้างความมั่นคงก่อน พี่มามีคู่ชีวิตตอนอายุ 38 โน่น

โอม: (นี่กูคุยกับใครอยู่ว่ะเนี่ย!) พี่ลงทุนไหมครับ

โชเฟอร์: ไม่มี..ลงทุนไม่เป็น พวกทองคำ กองทุน หุ้น ลงทุนไม่เป็น พี่ตั้งใจทำงาน เก็บเงิน และซื้อที่ดินเอา มีอยู่ 50-60 ไร่ที่หนองคาย

โชเฟอร์: ทำงานนี้มันสบายใจนะ แต่มันต้องมีเป้า อย่างขับแต่ละวันเป้าพี่คือ 1,200 - 1,300 บาทต่อวันนะ เพราะพี่มี Fix Cost คือ เบียร์วันละ 3 ขวด (หัวเราะ)

เหมือนบทสนทนาได้ย่นระยะทางจากคอนโดมาดอนเมืองเพียงไม่กี่นาที มองถนนอีกทีอาคารดอนเมืองก็อยู่ตรงหน้า และรถก็ค่อยๆ เทียบจอดใกล้ทางเท้าสนามบิน

โอม: มีอะไรที่พี่อยากจะบอกผมไหมครับ

โชเฟอร์: อื้ม...อย่าเป็นหนี้! ถ้าอยากได้อะไรลองอดใจก่อน ลดความอยาก เราจะได้รู้ว่ามันจำเป็นป่าว อีกอย่างช่วงนี้ก็บอลยูโร อย่าไปยุ่งกับการพนัน มันแก้ยาก ต่อให้คุณมีเงินสิบล้านก็หมดได้

เหมือนเป็นการนั่งฟัง Talk Show ระหว่างไปดอนเมืองในราคาตั๋วเพียง 160 บาท (ค่าโดยสาร) เท่านั้น

‘ลูกค้า’ วีนใส่ ‘แม่ค้า’ สั่ง ‘ข้าวหมูแดง’ แต่ดันมี หมูกรอบ ใส่ปนมาด้วย คนขาย ยัน!! ทำให้ถูกแล้ว ก็ไม่ได้สั่ง ‘หมูแดงล้วน’ งานนี้ชาวเน็ตมีเสียงแตก

(23 มิ.ย.67) ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ‘ชมรมคนรักข้าวหมูแดง หมูกรอบ 叉烧饭’ มีสมาชิกรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า 

สอบถามหน่อยค่ะ เหตุการณ์แบบนี้คุณว่าใครผิดคะ เดินเข้าร้านข้าวหมูแดงแล้วสั่ง ‘ข้าวหมูแดงจานนึง’ บอกแม่ค้าว่า ‘เอาข้าวหมูแดงจานนึงค่ะ’ สักพักแฟนเดินตามมาทีหลังสั่งข้าวหมูแดงหมูกรอบ แล้วแม่ค้าทำข้าวหมูแดงหมูกรอบมาให้ทั้ง 2 จาน เลยโวยวายใส่แม่ค้าว่า "ฉันสั่งข้าวหมูแดงล้วนนะ" แต่แม่ค้าตอบกลับมาว่า "ลูกค้าสั่งข้าวหมูแดงนะคะไม่ได้สั่งหมูแดงล้วน"

ลูกค้าก็ตอบกลับมาว่า "ก็สั่งข้าวหมูแดงไงคะ!" ทางแม่ค้าจึงตอบกลับว่า "ถ้าหากต้องการแดงล้วนก็ต้องสั่งแดงล้วนนะคะ เพราะข้าวหมูแดง มันชื่ออาหารสั่งข้าวหมูแดงก็ได้แดงกรอบค่ะ คนอื่นเขาสั่งข้าวหมูแดงก็ได้แบบนี้" 

ลูกค้าจึงเริ่มวีน "เออ! งั้นก็ไม่เอา!" แล้วก็เดินออกจากร้านไปเลยทั้งๆ ที่แม่ค้าทำข้าวให้แล้ว โชคดีที่ราดน้ำไปแค่จานเดียว สักพักแฟนเขาก็เดินตามออกไปพร้อมกับจ่ายเงินค่าข้าว 1 จานที่ราดน้ำไปแล้วโดยที่ยังไม่ได้กิน อีกจานนึงที่ทำแล้วแต่ยังไม่ได้ราดน้ำแม่ค้าต้องนำมาจัดใส่ห่อใหม่ให้ลูกค้าอีกท่าน อยากทราบว่าเหตุการณ์แบบนี้ใครผิดคะ ถ้าตลอดมา 80 ปีขายแบบนี้

ป.ล.หมูแดงล้วน หมูแดงกรอบราคา 50 เท่ากันนะไม่ได้เพิ่ม บางเม้นถามว่าสั่งหมูกรอบทำไมไม่มีหมูแดง เพราะหมูกรอบล้วนราคาแพงกว่า 10 บาทค่ะ

ด้านชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันไป บ้างก็กล่าวว่า ถ้าสั่งข้าวหมูแดงจะมีหมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง ไข่ต้ม รวมกันอย่างละหน่อย ถ้าเอาหมูแดงล้วนก็ต้องบอกหมูแดงล้วน แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งแย้งว่า ข้าวหมูแดงก็คือข้าวหมูแดงอย่างเดียว ข้าวหมูกรอบก็คือข้าวหมูกรอบอย่างเดียว สั่งแบบไหนได้แบบนั้น ถ้าสั่งข้าวหมูแดงหมูกรอบก็จะได้แบบนั้นมา จึงยังไม่ได้ข้อสรุปว่าตกลงแล้วข้าวหมูแดงจะต้องใส่หมูแดงอย่างเดียว หรือมีหมูกรอบร่วมด้วย

สาวจะไป รพ. เจอ ‘แท็กซี่’ สายซิ่งเปิด ‘โตเกียวดริฟ’ พร้อมร้องตาม ขับเหวี่ยงไปมา  จัดเต็ม!! ‘แสง-สี-เสียง’ เหมือนมีปาร์ตี้ในรถ ขับหลง-บอกยังไม่ได้นอน ตั้งแต่เมื่อคืน

(23 มิ.ย.67) ผู้ใช้ติ๊กต็อก @maneelininkeo ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะที่กำลังนั่งแท็กซี่คันหนึ่ง โดยเจอกับคนขับที่มีพฤติกรรมประหลาด พร้อมระบุแคปชั่นว่า ‘จากผู้โดยสาร กลายเป็นผู้ประสบภัย อเมซิ่งไทยแลนด์’ 

โดยคนขับรถคันนี้ เปิดเพลงเสียงดังพร้อมร้องประสาน ในรถมีไฟหมุนราวกับอยู่ในปาร์ตี้ แถมยังขับซิ่งเหวี่ยงไปมาและหลงทางอีก สุดท้ายคนขับเฉลยว่า ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน

ล่าสุด คุณมินนี่ เจ้าของโพสต์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.30 ของเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.67) โดยตนเรียกแท็กซี่แถวพระราม 9 เพื่อไปยังโรงพยาบาลย่านฝั่งธนฯ ซึ่งตอนแรกคนขับบอกว่า แถวนี้เขาไม่กดมิเตอร์กัน ตนจึงปฏิเสธในการขึ้นรถ แต่สักพักคนขับก็เปลี่ยนใจให้ขึ้นมาและกดมิเตอร์ให้

เมื่อขึ้นรถไปตอนแรก ตัวคนขับก็ดูพูดจาปกติดี ไม่ได้เปิดเพลงหรือมีท่าทีแปลกๆ แต่ต่อมาคนขับก็หยิบเอาโทรศัพท์มาเปิดเพลงเสียงดัง เปิดไฟหมุนที่มีแสงสี พร้อมร้องประสานเพลงไปตลอดทาง

สักพักก็เริ่มขับเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนตนเริ่มกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ จึงอยากขอลงกลางทาง แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวเสียน้ำใจ เลยทนนั่งต่อไปจนสุดทางเป็นเวลา 45 นาที โดยระหว่างทางคนขับกลับรถผิดที่และหลงทางจนต้องขับวนอีกรอบ พร้อมบอกตนว่า “เดี๋ยวพี่เร่งให้นะ”

พอใกล้ถึงโรงพยาบาล คนขับเล่าให้ตนฟังว่า เขายังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เมื่อคืน ได้แค่งีบหลับ 30 นาทีเท่านั้น เนื่องมาจากบ้านของเขาถูกตัดไฟ ถ้ากลับไปบ้านก็ไม่รู้จะนอนยังไงเพราะร้อน และก็เป็นห่วงลูกสาวของเขา จึงต้องการหาเงินให้ได้ 5,000 บาท ซึ่งตอนนี้ได้เพียง 2,000 บาทเท่านั้น เลยต้องขับแท็กซี่ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้เงินครบ

คุณมินนี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนขับแท็กซี่คันดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีมาคุกคาม แต่สิ่งที่ตนกังวลใจคือ การขับรถของแท็กซี่คันนี้น่ากลัวมาก กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะทั้งขับซิ่ง ขับเหวี่ยง และร้องเพลงไปด้วย ส่วนภายในรถ เป็นรถเก่า ไม่มีข้อมูลอะไร นอกจากคิวอาร์โค้ดสแกนจ่ายและป้ายขอบคุณที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งตนคาดว่าน่าจะเป็นแท็กซี่ที่ขับในช่วงกลางคืนและไม่ได้นอนยาวมาจนรับตนในช่วงกลางวัน

ส่วนตัวไม่ได้อยากตัดสินคนขับคนดังกล่าว เพียงแค่ลงติ๊กต็อกตั้งคำถามเฉยๆ ว่า ‘ถ้าคุณโบกแท็กซี่แล้วเจอแบบนี้ คุณจะทำอย่างไร’ ซึ่งคนอื่นอาจจะมีวิธีที่ดีกว่าการอดทนนั่งไปตลอดทาง เพราะตอนนั้นตนก็กังวลเรื่องความปลอดภัยและอยากลงจากรถ แต่ด้วยความเกรงใจและสงสารคนขับ จึงไม่รู้จะบอกกับคนขับอย่างไรให้เขาไม่รู้สึกไม่ดี

ด้านคอมเมนต์ในติ๊กต็อก ก็มีหลายคนมาแชร์ประสบการณ์ว่า เคยเจอคนขับแท็กซี่คนดังกล่าวเช่นกัน เขาขับซิ่งมาก ชอบเปิดเพลง และแสงสีประกอบไประหว่างขับรถ ผู้โดยสารที่เจอก็ทำได้แค่เพียงสวดมนต์ขอให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

'เพจดัง' เผย!! เด็กมัธยมเดินย่านดัง หิ้วกระเป๋าใบหลักหมื่น ฝันหิ้วหลักแสน ใช้ของแพงเกินระดับเงินเดือนประเทศไทยไปเยอะมากตั้งแต่เด็ก

(23 มิ.ย.67)เพจ 'สานต่อเจตนารมย์ อาจารย์สมเกียรติ โอสถสภา' ก็ได้ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นด้วยเช่นกัน ว่า...

เพิ่งเห็นคลิปสอบถามเด็กมัธยมที่เดินแถวสยามว่าสะพายกระเป๋ายี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่กันบ้าง?

คำตอบที่ได้มีตั้งแต่ใบละ 20,000 - 50,000 และถ้าเป็นไปได้อยากสะพายใบละ 100,000 อัพ

ชื่อยี่ห้อที่เด็กๆ ตอบกลับมามีตั้งแต่ Goyard, Marimekko (ถูกไหม? ผมไม่รู้จัก), Chanel, YSL ฯลฯ

ไม่อยากเอาคลิปมาลงเพราะมีหน้าเด็กๆ แต่ละคน และชุดเครื่องแบบโรงเรียน

ข้อคิดที่ได้คือ:

1. เด็กไทยที่บ้านมีตังค์ใช้ของแพงเกินระดับเงินเดือนประเทศไทยไปเยอะมากตั้งแต่เด็ก 

2. ผู้หญิงไทยรุ่นใหม่ระดับไฮเอน ค่า Maintenance ไม่ Realistic กับชีวิตจริงของคนที่ยังต้องสร้างฐานะ 

3. ผู้ชายไทยที่ไม่รวยมาก ยังต้องสร้างตัว ควรพิจารณาหาเมียจากผู้หญิงประเทศรอบๆ บ้าน ที่ยังไม่ติดหรู อยู่แพง พอใจแล้วกับแค่การได้มาใช้ชีวิตธรรมดาๆ ที่เมืองไทย

พูดง่ายๆ คือผู้หญิงไทยแพงเกินไป

‘ธนกร’ หนุน ‘นายกฯ-รัฐบาล’ เดินหน้า นโยบายปราบการทุจริต เน้น!! ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้นักลงทุน

(23 มิ.ย.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ  สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศติดตามจับกุมตัวนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีทุจริต บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 14,778 ล้านบาท  ซึ่งใช้เวลากว่า 8 เดือนในการติดตามตัว ผู้ต้องหาที่ทุจริตหลบหนีไปต่างประเทศกว่า 1 ปีกลับมาเข้าสู่กระบวนการได้สำเร็จ  จึงขอชื่นชมนายกรัฐมนตรี รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่จริงจังต่อนโยบายปราบปรามการทุจริตในตลาดทุนและทุกระดับ

ทั้งนี้ ขอฝากรัฐบาล เดินหน้านโยบายการปราปรามทุจริตในทุกแวดวง ทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การใช้งบประมาณของทุกกระทรวง ทุกกรม ข้าราชการประจำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะตลาดทุนของไทย ตนขอฝาก คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ตรวจสอบเข้มงวด เกี่ยวกับบริษัทในตลาดทุน ให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้และป้องกันการทุจริต

“เช่นคดีหุ้น STRAK คดีนี้ ต้องใช้เวลาและกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหานานถึง 8 เดือน ที่หลบหนีไปต่างประเทศ  ซึ่งเป็นคดีที่มีผลกระทบกับนักลงทุนทั้งรายเล็ก รายกลาง และรายใหญ่ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อตลาดทุนไทย  หากมีการเข้มงวดกวดขันให้รัดกุมจะสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนได้มากขึ้น”นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

ผบ.มชด.เยี่ยมพบปะและบำรุงขวัญ พื้นที่รับผิดชอบและหน่วยใน มชด.

นาวาเอก อโศก  ศรีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่1/ผู้บังคับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (รอง เสธ.ทรภ.1/ผบ.มชด.) พร้อมคณะฯ เดินทางลงพื้นที่พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร รับฟังอุปสรรค ปัญหาข้อขัดข้อง และบำรุงขวัญกำลังพลทางเรือใน(มชด.) ได้แก่ สถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ จว.จันทบุรี ศรชล จว.จันทบุรี ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่1สถานีตำรวจน้ำ 5 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ จว.ตราด ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะช้าง หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.)

ทั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการข่าวสรุปสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามรูปแบบต่าง ๆ ทั้งรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ ติดตามผลการปฏิบัติงานตามนโยบายที่สำคัญ รวมถึงอาศัยกรอบความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในทุกระดับ เพื่อแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังมีภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน พร้อมเยี่ยมบ้านพักอาศัย ความเป็นอยู่กำลังพลใน (มชด.) ให้โอวาทและมอบสิ่งของให้กับกำลังพลในพื้นที่ชายแดน เพื่อบำรุงขวัญให้แก่กำลังพล อีกด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535655

นายกฯ ตรวจราชการ จ.ชลบุรี ติดตามการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ รองรับการลงทุนชาวต่างชาติในพื้นที่ EEC ยัน ต้องเร่งผลักดัน รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินให้เกิดในปี 71

วันนี้ (23 มิถุนายน 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ รุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุลพรรณ อมรวิวัฒน์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง โดยเฉพาะภารกิจสำคัญในการติดตามการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินอู่ตะเภา และตรวจติดตามโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล เช่น ด้านมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก Eastern Economic Corridor (EEC)

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมหารือกับผู้แทนของการท่าอากาศยานอู่ตะเภาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยรอบ ซึ่งประเด็นการพูดคุยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องโครงการพัฒนาและ ส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจรวมทั้งระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญได้แก่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่ปัจจุบันพบว่ามีความล่าช้าหลังจากมีกำหนดเสร็จเดิมภายในช่วงสิ้นปี 67 นี้แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการซึ่งจากการรับรายงานทราบว่าช่วงเริ่มโครงการก็ติดปัญหา การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 รวมไปถึงสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ทำให้ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก อีกทั้งยังมีเรื่องของ BOI ที่ดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามกรณีกรณีดังกล่าวนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวชี้แจงว่าได้มีการหารือกับบริษัทผู้รับจ้างแล้วและมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยคาดว่า จะสามารถได้ผลสรุปภายในเดือนกรกฎาคมนี้แน่นอนจากนั้นก็จะดำเนินการก่อสร้างตามเป้าหมาย

ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่าควรจะกรรมการให้แล้วเสร็จภายในปี 71 เพราะโครงการนี้มีความสำคัญนอกจากเป็นเรื่องของการขนส่งการแล้ว ยังมีเรื่องของการลงทุน รวมทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวที่เข้ามามีส่วนร่วมอีกด้วย  ขณะที่ในส่วนของท่าอากาศยานเองก็กำลังดำเนินการในส่วนของการสร้างรันเวย์เพิ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่การจัดจัดทำพื้นที่สำหรับคาร์โก้ศูนย์ซ่อมอากาศยานและโรงเรียนการบิน ในอนาคตด้วย

‘ชนินทร์ เย็นสุดใจ’ ผู้ต้องหา คดีหุ้น ‘STARK’ ถึงไทยแล้ว  ดีเอสไอคุมตัวสอบเข้ม ก่อนส่งฟ้องอัยการ วันพรุ่งนี้

(23 มิ.ย.67) เมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตผู้บริหารบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว หลังจากหลบหนีนานเกือบ 1 ปี ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวสอบปากคำเพิ่มเติมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อนำส่งให้ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี และสอบปากคำตามขั้นตอน ภายใน 48 ชั่วโมง

นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงรับตัว นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ว่า ข่าวหุ้น Stark เป็นข่าวที่ได้รับความสนใจในวงกว้าง โดยนายชนินทร์ หลบหนีไปต่างประเทศในช่วงกลางปี 2566 คดีนี้เป็นคดีที่มีผลกระทบกับนักลงทุนทั้งรายเล็ก กลาง ใหญ่ เป็นภาพที่ไม่ดีต่อตลาดทุน เร่งดำเนินการตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค. 2566 ใช้เวลา 8 เดือน ในการดำเนินการนำตัวนายชนิทร์กลับมา เป็นความร่วมมือหลายหน่วยงงานตั้งแต่ดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายชนินทร์บ้างหรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า มีพูดคุยบ้างในเรื่องการร้องขอความปลอดภัย เนื่องจากในช่วงอยู่ในต่างประเทศถูกคุกคาม โดยขั้นตอนต่อไปจะส่งตัวไปที่ดีเอสไอส และช่วงบ่ายในวันนี้น่าจะให้รายละเอียดของคดีเพิ่มมากขึ้น ในตอนนี้เป็นส่วนของการนำตัวนายชนินทร์กลับมาได้แล้ว

สำหรับคดีหุ้น STARK พบว่ามีการตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 15,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาดีเอสไอสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 11 คน หนึ่งในนั้น คือ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ แต่หลบหนีออกประเทศ ก่อนจะได้รับการประสานจากทางการสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่าได้เข้าควบคุมตัวนายชนินทร์ตามการร้องขอของรัฐบาลไทยไว้เรียบร้อยแล้วในวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา

‘กปถ.’ เดินหน้าทำงานเชิงรุก เพื่อความปลอดภัย ในการเดินทางของปชช. เน้น!! มุ่งลดจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนน ตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน

(23 มิ.ย.67) นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงาน 20 ปี กปถ. พลังขับเคลื่อนถนนปลอดภัยทั่วไทยอย่างยั่งยืน ในชื่อ Driven sustainable road safety across Thailand เน้นการทำงานเชิงรุก โปร่งใส ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ‘คมนาคม เพื่อความปลอดภัย ในการเดินทางของประชาชน’ และลดอัตราเสียชีวิตบนท้องถนนตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับโลก 

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานในพิธีฯ กล่าวว่า กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) โดยกรมการขนส่งทางบก ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ปรากฏผลงานที่สร้างประโยชน์ต่อประชาชนตลอด 20 ปี และเป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงคมนาคม ด้านคมนาคม เพื่อความปลอดภัย ในการเดินทางของประชาชน และสนับสนุนเป้าหมายหลักของประเทศในการลดอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนน

จากรายงาน Global Status Report on Road Safety ขององค์การอนามัยโลก พบว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุและอัตราการเสียชีวิตของคนไทยในรอบ 10 ปี ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากอัตราผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ที่  38.1 คนต่อประชากร 1 แสนคนใน พ.ศ. 2556 ลดลงยู่ที่ 25 คนต่อประชากร 1 แสนคนใน พ.ศ. 2566 อยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก อย่างไรก็ตาม ความสูญเสียของประเทศยังคงอยู่ในลำดับต้นๆ ของโลก ประเทศไทยจึงมีเป้าหมายการลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้เหลือเท่ากับ 12 คนต่อประชากรแสนคน หรือ 8,478 คน ในปี 2570 เป็นไปตามเป้าหมายและตัวชี้วัดภายใต้แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์แห่งชาติ ประเด็นโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล อีกทั้งเป็นเป้าหมายของแผนแม่บทด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทย และนโยบายรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนมีความสุขในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความปลอดภัย การให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากลและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก¬¬ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อเป็นทุนสนับสนุนและส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการใช้ถนน และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยบนท้องถนน ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา 20 ปี กปถ. ได้จัดการประมูลไปแล้วทั้งสิ้น 533,286 หมายเลข ได้มีการจัดสรรเงินงบประมาณ ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินกองทุนฯไว้ โดยได้สนับสนุนทุนจัดซื้ออุปกรณ์ให้ผู้พิการไปแล้วทั้งสิ้น 18,134 ราย สนับสนุนทุนโครงการด้านการศึกษาวิจัย เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน 109 โครงการ สนับสนุนโครงการด้านการดำเนินการ ลดอุบัติเหตุทางถนน 1,703 โครงการ 

ก้าวต่อไปจากนี้ กปถ. ยังคงทำงานเชิงรุกและบริหารจัดการกองทุนอย่างเป็นธรรม โปร่งใส เป็นมิตรและเป็นหนึ่งเดียวกัน สร้างและร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ตั้งแต่ ‘ต้นน้ำ’ ในการขับเคลื่อนในส่วนของแผนงาน และโครงการศึกษาวิจัยเพื่อป้องกันในทุกปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุไปจนถึง ‘ปลายน้ำ’ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน ทาง กปถ. จัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่ประสบภัยอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ  และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลเพิ่มประสิทธิภาพ ในแผนปฏิบัติราชการ เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ทั้ง 4 พันธกิจหลักของ กองทุนฯ ให้เป็นผลสำเร็จ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กองทุน เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนได้เป็นส่วนหนึ่ง ในการขับเคลื่อนความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประเทศ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืนของสหประชาชาติด้านความปลอดภัย ในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ลงครึ่งหนึ่งภายใน พ.ศ. 2573 ซึ่งกำหนดแผนปฏิบัติการทศวรรษแห่งความปลอดภัย ทางถนน พ.ศ. 2564-2573 (Second Decade of Action Road Safety 2021-2030) และการก้าวย่างไปสู่ปีที่ 21 ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศ ให้ลดลงตามเป้าหมายและสร้างความเสมอภาค ให้กับผู้พิการที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน ด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ผู้พิการเพื่อให้มีคุณภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น

‘อ.ต่อตระกูล’ เผย ‘เด็กไทย’ ที่เข้าเรียนชั้นประถม มีความคิดสร้างสรรค์ต่ำ ชี้!! โรงเรียนเน้นสอนแต่ให้จำ ทำให้ ‘ไอคิวต่ำ’ ทำลายสมองที่ดี

(23 มิ.ย.67) รองศาสตราจารย์ ต่อตระกูล ยมนาค นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยว่า 

พบเด็กไทยมีความคิดสร้างสรรค์ต่ำ เคยมีผลสำรวจอีกชิ้นหนึ่งเมื่อ หลายสิบปีก่อน ก็พบว่าเด็กไทยที่เข้าเรียนในหลักสูตรประถมศึกษาไทยนั้น วัดไอคิว IQ แล้วได้ผล ออกมาต่ำกว่าเด็ก ที่อยู่บ้านไม่ได้เข้าเรียน สรุปว่า ยิ่งไปเรียนยิ่งโง่ เรียนแล้วทำลายสมองดีๆ ให้ดีแต่จำเก่ง พร้อมแชร์โพสต์จาก TNN ซึ่งได้ระบุว่า

‘ความคิดสร้างสรรค์’ เด็กไทย รั้งท้ายโลกในผลประเมิน PISA

รายงานฉบับล่าสุดของ PISA ว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเด็กทั่วโลก พบว่า ประเทศที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด คือ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ 

ไม่เพียงเท่านั้น หากดูในกราฟที่แสดงสัดส่วนเด็กว่า มีความคิดสร้างสรรค์ระดับไหน (Level 3 ขึ้นไป ถือว่าเกินมาตรฐาน) จะพบว่า เด็ก ๆ ในประเทศเหล่านี้ มีความคิดสร้างสรรค์สูงมาก และคนที่ความคิดสร้างสรรค์ต่ำ กว่าเลเวล 2 ก็มีสัดส่วนน้อยอย่างมาก

หากเทียบกัน ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 54 ตามหลังมาเลเซีย ที่อยู่อันดับ 38 ไม่เพียงเท่านั้น น่าสนใจที่เด็กไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ระดับสูง คือ ตั้งแต่ Level 3 ขึ้นไปมีน้อยนิด แต่กลับมีเด็กที่ไร้ความคิดสร้างสรรค์คิดเป็นส่วนใหญ่ของทั้งหมด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top