Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

'ผู้ว่าฯ ปู' โพสต์ข้อความ โควิด-19 ยังอยู่อีกนาน และปัญหาฝุ่น PM 2.5 เริ่มมากขึ้น ลั่น! พร้อมแก้ไขทั้งสองปัญหา

แม้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไป 

อย่างไรก็ตามทางด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า... 

เจอสถานการณ์โควิดอย่างทุกวันนี้ ลำบากกันถ้วนหน้า ขยับอย่างไร ยากจะหาความพอใจได้ทุกคน ณ เวลานี้ ต้องขอแต่เพียงประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

คิดแต่เรื่องโควิด จนเกือบลืมไปว่า ที่สมุทรสาครเป็นดงโรงงาน ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 กำลังคืบคลานมา และเป็นปัญหาหนักตอนปลายปีเสมอ

เราเตรียมรับมือเชิงรุกกับ PM 2.5 ไว้ 2 เรื่อง... 

1.) ปรับภูมิทัศน์ถนนเอกชัยเป็นถนนนำร่อง ความยาวประมาณ 13 ก.ม. ครอบคลุม 5 ตำบล ปลูกต้นไม้ให้เป็นแบบเดียวกัน

ใช้ต้นไม้เป็นตัวกรองมลพิษที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

2.) ติดตั้งเครื่องวัดคุณภาพอากาศในทุกตำบล อย่างน้อยตำบลละ 1 จุด เพื่อบอกถึงคุณภาพอากาศในแต่ละจุดย่อย

ที่มีอยู่แล้ว เป็นเครื่องขนาดใหญ่ บอกให้เราทราบได้ถึงปัญหาของจังหวัด

แต่ถ้าจุดตรวจสอบเล็กลง เราจะสามารถเกาได้ถูกที่คันมากขึ้น

ทั้งสองเรื่อง สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจไม่แสวงหากำไร) เป็นโต้โผใหญ่

ทั้งหมดผ่านการประชุมทางไกลเรียบร้อยแล้ว
คาดว่าท้องถิ่นแต่ละแห่ง จะสามารถดำเนินการได้ในเร็ววันนี้

ใครจะไปคิดมาก่อนว่า วันนี้ เราต้องมาอยู่ในโลกออนไลน์เต็มตัว ประชุมออนไลน์ แลกเปลี่ยนความเห็นออนไลน์ ให้สัมภาษณ์ออนไลน์ เป็นวิทยากรออนไลน์

โควิดยังอยู่กับเราอีกนาน


ที่มา: https://www.facebook.com/2321609178162644/posts/3108695139454040/

‘เทพ โพธิ์งาม’ ฝากข้อคิดการสู้ชีวิต 5 ข้อ ผ่านเพจ ‘ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ’

เพจ ‘ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ’ ได้โพสต์ข้อความแนวคิดการสู้ชีวิต ของ ‘เทพ โพธิ์งาม’ หรือ ป๋าเทพ เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า 5 ข้อคิด จาก - เทพ โพธิ์งาม 

1.) ยอมรับความเปลี่ยนแปลง - ปรับตัว
เราควรยอมรับการเปลี่ยนแปลง สภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่เหมือนสมัย 10 - 20 ปีก่อน ยังคล่องตัวอยู่ ไม่หนักหนาสาหัสขนาดนี้ บางคนมักนำปัจจุบันไปเปรียบเทียบกับอดีตแล้วไม่ยอมรับ ซึ่งที่จริงแล้วควรต้องยอมรับ เพราะโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พร้อมให้แง่คิดในสไตล์แกว่า “เมื่อเราสมัครมาจะเป็นมนุษย์แล้ว ร้อนก็ต้องอยู่ได้ หนาวก็ต้องอยู่ได้ ในโลกปัจจุบันเราก็ต้องปรับตัวประคองเอาชีวิตให้อยู่รอด ให้มีชีวิตอยู่”

2.) รู้จักตัวเอง ทำแค่พอดีตัว อย่าประมาท
ถ้าจะเริ่มธุรกิจต้องดูตัวเอง ความหมายก็คือ ต้องรู้จักประเมินศักยภาพ ความสามารถของตนเองเสียก่อน รวมถึงเงินทุนที่มีอยู่ อย่าเพิ่งไปมองธุรกิจอะไรที่เกินกำลัง เพราะถ้าต้องไปกู้มาลงทุนเกินกำลัง นั่น คือ ความประมาท

ทั้งนี้ ป๋าเทพ บอกว่า “อย่าประมาท” คือ บทเรียนที่แกจำขึ้นใจ เพราะนี่คือปัจจัยสำคัญที่เคยทำให้แกเจ๊งมาหลายครั้ง โดยในข้อนี้ น่าจะเหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มออกมาใช้ชีวิตวัยทำงาน หรือ มองหาเส้นทางในการสร้างธุรกิจของตนเอง

3.) ก้าวข้ามความผิดพลาดในอดีต อยู่กับปัจจุบัน
เพราะความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ทุกการลงทุน ย่อมมีความเสี่ยง แต่สำหรับป๋าเทพเอง ในเรื่องนี้แกมองว่า ถ้าทำพลาด หรือ ล้มไปแล้ว ก็ให้ล้มไป แต่ควรผ่านมันไปให้ได้ และไม่ควรมานั่งเสียดาย เสียใจ ยึดติดกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ต้องมองไปข้างหน้าว่าจะมีช่องว่างอะไรที่ทำให้เราได้คิด ได้วางแผน หรือไม่

โดยกล่าวว่า “ชีวิตไม่ได้หมดแค่นั้น ชีวิตพลาดทีเดียวไม่ได้หมายความว่าจบ หรือ หมดแค่นั้น คนที่เขาประสบความสำเร็จ บางคนเขาก็เจ๊งมาเยอะแยะ แต่มีความไม่ยอมแพ้ เชื่อไหมว่าคนทำหมื่นคน จริง ๆ มันมีคนพลาดเกือบ 9 พันกว่าคน สำเร็จออกมาไม่ถึง 10 คน แต่สุดท้ายก็อยู่ตรงที่ตัวเราเองว่าจะพัฒนา หรือ ดูแลให้ได้มาตรฐานที่ดีขึ้นอย่างไร”

4.) เรียนรู้จริงจากมหาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ถือเป็นคำกล่าวอมตะที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จหลายคนมักนำมาพูดถึง แต่ในมุมของนักสู้ชีวิตที่ล้มเหลวมาแล้วหลายครั้งก็นำสิ่งนี้มาใช้เช่นกัน โดยป๋าเทพถือว่าความล้มเหลวที่ผ่านมาคือการลงทุนเพื่อหาความรู้ให้ตนเองผ่านมหาลัยชีวิต ที่แกนิยามไว้ดังนี้

“โรงเรียนมหาลัยชีวิต คือ โรงเรียนที่ต้องคิดว่าเริ่มต้นมาแล้วจะทำยังไง มันไม่มีวิชาในสถาบันเลยพวกนี้ มันเป็นวิชาที่ต้องมาเรียน เก่งมาจากไหน จบมาจากไหนก็ต้องมาเรียน เงินที่ลงทุนทำมาหากินไปมันเหมือนเป็นค่าเรียน พลาดพลั้งบ้างอะไรบ้าง มนุษย์มีกรอบอยู่ ความคิดสามารถเลยกรอบได้ แต่การประคองชีวิตมันก็ต้องเสี่ยง และใช้ความสามารถมากหน่อย มันจะมีสิ่งที่เป็นวิชาใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ตลอดเวลาที่เรานึกไม่ถึงก็มี นั่นแหละก็คือการเรียน

5.) ทุกอย่างต้องวิเคราะห์
เพราะ “การวิเคราะห์” เป็นอีกหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ หรือ ทำงานต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ ช่วยสะท้อนจุดอ่อน จุดแข็ง หรือ ช่องโหว่ รอยรั่วที่มี เพื่อให้เราสามารถเติม หรือ เสริมในส่วนนั้น ๆ ได้ทัน ซึ่งในความล้มเหลวต่าง ๆ ที่ผ่านมา ป๋าเทพ ก็ยอมรับว่า นี่ถือเป็นอีกจุดอ่อนสำคัญที่แกได้เรียนรู้และพบเจอ

“จะทำอะไรมันต้องมีการวิเคราะห์ สมัยก่อนที่ป๋าเจ๊งมาตลอด ก็มาจากส่วนหนึ่งเราไม่ได้คิดจ้องแต่จะโดดอย่างเดียว มองภาพสวยงาม เช่น ทำตรงนี้ได้กำไรเท่านี้แน่เลย แต่ไม่ได้คิดเลยว่าถ้าขายไม่ได้จะทำยังไง ไปหวังแต่สิ่งที่คิดว่าจะได้ พอมันพลาดก็เสียใจ เพราะว่าไม่ได้รอบคอบ ไม่ได้เรียนรู้มาก่อน สุดท้ายเราต้องสู้ ถ้ากูยอม กูก็อด อย่าไปท้อ”

“ความฝันตื่นมาแล้วก็จบ แต่ความจริงคือสิ่งที่ต้องติดตาม” และนี่คืออีกหนึ่งแง่มุมที่กลั่นออกมาเป็นบทเรียนจากชีวิตจริงของชายที่ชื่อว่า เทพ โพธิ์งาม


Cr. บทสัมภาษณ์จาก aommoney / Cr.ภาพจาก Zurrreal)

"คนพิการไทย หัวใจแบ่งปัน" จากผู้รับกลายเป็นผู้ให้...โดยนายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ร่วมส่งมอบข้าวสารให้แก่คนพิการ สืบเนื่องจากปัญหาสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2564 ณ ชุมชนทิวสนพัฒนา ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สืบเนื่องสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้พี่น้องประชาชน / คนพิการ  / ผู้ยากไร้ ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ ขาดรายได้ ตกงาน และเกิดปัญหาอีกมากมายตามมา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น "นายณรงค์ ไปวันเสาร์" นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มอบข้าวสารขาว 100% คัดพิเศษ จำนวนหนึ่ง เพื่อส่งมอบให้กับ "คนพิการ" และผู้ป่วยติดเตียง โดยมี "นายภูชิชย์ พิทักษ์กรณ์ " ฑูตอารยสถาปัตย์จังหวัดชลบุรี รหัส AX-3051 /สมาชิกสามัญคนพิการแห่งประเทศไทย (จังหวัดชลบุรี) ดำเนินการประสาน "นายวรวิทย์ รังสิโย" สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางพระ (สท.ฉัตร) และคณะกรรมการชุมชนทิวสนพัฒนา ประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งจัดผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมารับบริจาคสิ่งของต่าง ๆ ในวัน-เวลา ดังกล่าว (สำหรับคนพิการที่ไม่สามารถเดินทางมารับได้ด้วยตนเอง ทางเรามีหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปมอบถึงที่บ้าน หรือญาติมารับแทนก็ได้)

โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยจึงถือหลัก "New Normal" วิถีชีวิตแนวใหม่ และมีเจ้าหน้าที่ อสม. มาร่วมวัดอุณหภูมิคัดกรอง ฉีดพ่นแอลกอฮอล์ ให้กับผู้ที่มาร่วมงานทุกท่าน


ภาพ/ข่าว  น.ท.หญิงพิมพ์ผกา พิทักษ์กรณ์

เพจดัง “Drama-addict” งัดผลวิจัย ชี้! บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ทำให้เซลล์ตายใน 30 นาที

จากการนำเสนอข่าว “เตือนสูบบุหรี่ไฟฟ้า 30 นาที เซลล์ถูกทำลาย เสี่ยงป่วยโรคหัวใจ ปอด มะเร็ง” โดยเพจ “อีจัน” โดยอ้างข่าวจากแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีและประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ทำให้ชาวเน็ตหัวร้อน เข้าไปแสดงความคิดเห็นโต้แย้ง จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ในขณะนี้นั้น “จ่าพิชิต" เจ้าของเฟซบุ๊กเพจชื่อดัง “ดราม่า แอดดิก” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ “ดราม่า แอดดิก” (Drama-addict) ระบุว่า จากงานวิจัยไม่ได้แปลว่า สูบแล้วเซลล์ตายในสามสิบนาที และยังคงต้องศึกษาต่อไปว่าระดับของอนุมูลอิสระในเซลล์ หรือ cellular oxidative stress ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่

ข้อความในเฟซบุ๊กเพจ “ดราม่า แอดดิก” (Drama-addict) ระบุว่า “อันนี้คอมเมนต์กำลังเดือด จ่าเลยไปหางานวิจัยอ้างอิงมาอ่านดูเป็นงานวิจัยแบบนี้ครับ นักวิจัย เอาเด็กวัยรุ่น 30 กว่าคน มาแบ่งสามกลุ่ม แบ่งเป็น 1. กลุ่มที่ไม่สูบบุหรี่ 2. สูบบุหรี่ปรกติ 3. สูบบุหรี่ไฟฟ้า จากนั้นให้ทั้งสามกลุ่ม ปื้ด ๆ ๆ สูบบุหรี่ไฟฟ้า แล้วก็วัดค่า cellular oxidative stress หลังจากสูบสามสิบนาที ซึ่ง cellular oxidative stress นี้ หมายถึง ภาวะเครียดที่เกิดจากออกซีเดชัน ประมาณว่า เกิดพวกอนุมูลอิสระ ที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ ในระยะยาวก็อาจทำให้เซลล์ตาย หรือเสื่อมสภาพจนเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ ทีนี้ นักวิจัย วัดค่า cellular oxidative stress นี้ เทียบในทั้งสามกลุ่ม พบว่า ค่านี้ ในกลุ่มที่สูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าอยู่แล้ว ไม่ได้สูงขึ้นแต่อย่างใด (นักวิจัยโน๊ตไว้ว่า น่าจะเป็นเพราะค่าเบสไลน์ของกลุ่มนี้สูงอยู่แล้ว) แต่ค่านี้ในกลุ่มที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย พุ่งสูงขึ้น 2-4 เท่า”

“ซึ่งยังต้องศึกษากันต่อไปว่า cellular oxidative stress ที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ มีปัจจัยใดในบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีผลต่อมันบ้าง และจะมีผลระยะยาวต่อสุขภาพอย่างไร และคนที่ปรกติไม่สูบบุหรี่อยู่แล้ว ก็ดีแล้ว อย่าลองสูบ ไม่ว่าจะบุหรี่จริงหรือบุหรี่ไฟฟ้า เพราะมันมีผลกับค่านี้เยอะกว่าในกลุ่มที่สูบอยู่แล้วมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่า สูบแล้วเซลล์ตายในสามสิบนาทีนะเธอว์ คนละประเด็นกัน”

โพสต์ดังกล่าวมีสมาชิกแฟนเพจเข้ามากดถูกใจกว่า 6 พันราย และยังแสดงความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่องอีกเกือบ 900 ราย ซึ่งต่างก็บอกตรงกันว่าเคยสูบบุหรี่มาหลายปี ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพราะรู้ว่าเป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ และก็พบว่าร่างกายดีขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ในขณะที่ส่วนใหญ่ก็เรียกร้องให้หยุดแอนตี้บุหรี่ไฟฟ้าและนำเสนอข้อมูลที่ไม่บิดเบือน รวมถึง เจ้าของเพจดัง 'เบ๊น อาปาเช่' ที่มาแสดงความคิดเห็นเช่นกันว่าเป็นหนึ่งในผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่

‘เกาะติดภารกิจพันธมิตรจิตอาสา’ มอบข้าวปันอิ่มชุมชนพหลโยธิน 66 รวมใจพัฒนา หวังสร้างความสุข เติมรอยยิ้ม สู้ภัยโควิดไปด้วยกัน

เกาะติดภารกิจพันธมิตรจิตอาสา วันที่ 2 กันยายน ที่ชุมชนพลโยธิน 66 รวมใจพัฒนา เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร น.อ.วันชัย ทับเงิน ประธานกรรมการชุมชน พร้อมคณะกรรมการ รับมอบข้าวกล่องพร้อมทานจาก "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จากนายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรจิตอาสาจากองค์กรต่างๆ ประกอบด้วย มูลนิธิสหชาติ สำนักข่าว News Online Thailand เว็ปไซต์ข่าวจั่นเจา Canchaonews.com หนังสือพิมพ์ดีดีโพสต์ นิวส์ เพื่อส่งมอบถึงมือชาวบ้านได้ปันอิ่ม

นายสมชาย จรรยา เปิดเผยว่า กิจกรรมที่สมาคมฯร่วมกับพันธมิตรจิตอาสาครั้งนี้ ได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม จนถึงวันที่ 26 กันยายน โดยเป็นสะพานบุญ รับมอบเพื่อส่งต่อข้าวกล่องพร้อมทานโครงการ "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" ของบริษัทในเครือซีพี  และ น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ร่วมส่งกำลังใจถึงพี่น้องประชาชนผ่าน “ข้าวกล่องปันอิ่ม”

นำไปมอบให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดเชื้อโควิด เพื่อช่วยเหลือให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน ซึ่งวันนี้มอบให้กับชุมชนตั้งอยู่ตะเข็บรอยต่อระหว่างกรุงเทพมหานครฝั่งเหนือ ติดกับ จ.ปทุมธานี

ด้านน.อ.วันชัย ทับเงิน กล่าวว่า ชุมชนแห่งนี้มีผู้พักอาศัยจำนวน 108 ครัวเรือน มีสมาชิกกว่า 400 คน มีผู้ที่ติดเชื้อโควิด และส่งตัวไปทำการรักษายังโรงพยาบาลแล้ว 4 ราย และผู้ป่วยติดเตียงอีก 2 ราย โดยภายในชุมชนมีทั้งผู้ป่วยติดเตียง คนพิการ ผู้ติดเชื้อโควิด คนตกงาน ล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา

นอกจากนี้ พันธมิตรจิตอาสา ยังนำข้าวกล่องพร้อมทานส่งมอบให้กับ พนักงานทำความสะอาดกทม. วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และคนเร่ขายไอศครีม ได้ปันอิ่ม

“สท.เจี๊ยบ” วสิตา  บุญริ้ว  ลงพื้นที่แพรกษา เยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยโควิด-19  พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ติดเชื้อ  ฝ่าวิกฤตโควิด-19

นางวสิตา  บุญริ้ว  สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพรกษา  เขต 3  พร้อมด้วย  คณะเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองแพรกษา  ลงพื้นที่ภายในชุมชนเขตพื้นที่  ต.แพรกษา  อ.เมือง  จ.สมุทรปราการ  เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19  ตามชุมชนต่างๆ พร้อมกับนำถุงยังชีพไปมอบให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19  ที่ต้องกักตัวภายในบ้านพักเพื่อประเมินอาการป่วย

โดยการลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19  นั้น  นางวสิตา  บุญริ้ว  สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพรกษา  ตลอดจนคณะสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพรกษามีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในชุมชนที่ติดเชื้อโควิด-19  ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  อย่างต่อเนื่อง  อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของทางเทศบาลเมืองแพรกษา  นำถุงยังชีพมามอบให้กับผู้ติดเชื้อเนื่องจากทางเทศบาลเมืองแพรกษา  มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ต้องกักตัวภายในบ้านพักเพื่อประเมินอาการป่วย  และยังแสดงออกถึงความห่วงใยที่มีต่อประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองแพรกษา

อย่างไรก็ตาม  การลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้ติดเชื้อภายในชุมชนต่างๆ นั้น  นางวสิตา  บุญริ้ว  สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพรกษา  ยังได้รับความร่วมมือจากทางร้านข้าวแกงละเวิก  นำอาหารแห้งประเภทอาหารกล่องมาร่วมสนับสนุนนำไปแจกให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19  อีกด้วย  สำหรับถุงยังชีพที่นำมามอบให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19  ทางเทศบาลเมืองแพรกษาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่งและขอให้ประชาชนมีความอดทนเพื่อที่เราจะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

จับตา 3 บริษัท เดินหน้าทดลองยาเม็ดต้านโควิดโค้งสุดท้าย ด้าน ไฟเซอร์ เล็งขออนุมัติสิ้นปีนี้

บริษัท Pfizer ผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 เผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนายา PF-07321332 ซึ่งเป็นยาต้านโควิด-19 ชนิดเม็ด สำหรับผู้ป่วยที่แสดงอาการแต่ไม่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล

โดยขณะนี้ยาดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการทดลองระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะยื่นขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

Pfizer เผยว่าในการทดลองมีอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1,140 คน ที่ได้รับยา PF-07321332 ซึ่งออกแบบมาเพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่สำคัญของไวรัสโคโรนา ควบคู่กับยาริโทนาเวียร์ (ritonavir) ในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ป่วยจะได้รับยาตัวนี้ร่วมกับยาต้านไวรัสตัวอื่น ๆ

บริษัทผู้ผลิตคาดว่าหากการทดลองประสบความสำเร็จจะสามารถยื่นขออนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

ด้านบริษัท Merck & Co Inc จากสหรัฐฯ ก็กำลังอยู่ระหว่างการทดลอง molnupiravir ยาเม็ดต้านโควิด-19 ในระยะสุดท้ายเช่นกัน

โดยจะทำการประเมินว่าตัวยาจะช่วยลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้หรือไม่ โดยคาดการณ์ว่าจะยื่นขออนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินภายในสิ้นปีนี้

เช่นเดียวกับ Roche Holding AG บริษัทเวชภัณฑ์สัญชาติสวิสซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการทดลองยาเม็ดต้านโควิด-19 ในระยะที่ 3 เช่นกัน

โดยมีการเปิดเผยข้อมูลการทดลองเบื้องต้นเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมาว่า AT-527 ยาต้านโควิด-19 ชนิดเม็ดของบริษัทช่วยลดปริมาณไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

ทั้ง Pfizer, Merck และ Roche Holding AG เป็นบริษัทที่มีความคืบหน้ามากที่สุดในการพัฒนายาเม็ดต้านโควิด-19 ท่ามกลางการจับตามองว่าบริษัทใดจะสามารถพัฒนายาเม็ดรักษาโควิด-19 ได้สำเร็จเป็นเจ้าแรกของโลก


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/662120


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'เกาหลีเหนือ' ปฏิเสธไม่รับวัคซีนซิโนแวค ให้เหตุผลคุมโควิดดีแล้วและยังมีชาติอื่นจำเป็นมากกว่า

2 ก.ย. 64 เว็บไซต์ นสพ.The Straits Times ของสิงคโปร์ เสนอข่าว North Korea rejects offer of nearly 3 million Sinovac Covid-19 vaccines ระบุว่า เกาหลีเหนือปฏิเสธรับวัคซีนโควิด-19 สัญชาติจีน ยี่ห้อซิโนแวค จำนวน 3 ล้านโดส โดยอ้างว่าควรนำไปบริจาคให้ประเทศที่จำเป็นต้องได้รับก่อนดีกว่า อีกทั้งยังอ้างด้วยว่าไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่รายเดียว ด้วยมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด ทั้งการปิดประเทศและควบคุมการเดินทางในประเทศ

รายงานข่าวยังอ้างข้อมูลจากหน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ ระบุว่า เมื่อเดือน ก.ค. 64 เกาหลีเหนือยังปฏิเสธวัคซีนสัญชาติอังกฤษ ยี่ห้อแอสตราเซเนกา เนื่องจากกังวลเรื่องผลข้างเคียง ส่วนประเด็นไม่รับวัคซีนจีนนั้นคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องประสิทธิภาพ แต่พบว่าสนใจวัคซีนของรัสเซีย ทั้งนี้ หลายประเทศที่ใช้วัคซีนซิโนแวค เช่น ไทย อุรุกวัย เริ่มให้วัคซีนชนิดอื่นสำหรับผู้ที่ฉีดซิโนแวคเป็นเข็มแรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรค

ด้านองค์กร GAVI เจ้าภาพหลักของโคแว็กซ์ โครงการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ชี้แจงว่า ยังคงทำงานกับเกาหลีเหนือเพื่อรับมือกการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่องค์กรยูนิเซฟ เปิดเผยว่า กระทรวงกิจการสาธารณะของเกาหลีเหนือ ยังคงติดต่อกับโคแว็กซ์เพื่อรับวัคซีนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/599264


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

สปสช. เผย จ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังจากการฉีดวัคซีนแล้ว เป็นเงินกว่า 110 ล้านบาท

2 ก.ย. 64 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช.เปิดให้ผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. 64 ข้อมูลจนถึงวันที่ 27 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นคำร้องเข้ามาทั้งหมดจำนวน 3,888 รายและยังอยู่ระหว่างรอข้อมูลเพิ่มเติมอีก 99 ราย โดยทางคณะอนุกรรมการระดับเขตได้พิจารณาจ่ายเงินชดเชยแล้ว 2,875 ราย และพิจารณาไม่จ่าย 914 ราย รวมเป็นเงินที่จ่ายชดเชยเบื้องต้นไปแล้ว 110,295,000 บาท 

นพ.จเด็จ กล่าวว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นจะแบ่งเป็น 3 ระดับตามความรุนแรงของอาการไม่พึงประสงค์นั้น ๆ โดยระดับ 1.) มีอาการป่วยต้องรักษาต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท มีผู้รับเงินเยียวยาแล้ว 2,641 ราย ระดับ 2.) เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 2.4 แสนบาท มีผู้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว 12 ราย และ ระดับ 3.) กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท มีญาติผู้เสียชีวิตรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว 222 ราย  

นพ.จเด็จ กล่าวด้วยว่า หากพิจารณาแยกตามเขต พบว่าสปสช.เขต 13 กทม. มีผู้ยื่นคำร้องเข้ามามากที่สุด จำนวน 840 ราย รองลงมาคือ สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ จำนวน 559 ราย และ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี 451 ราย อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากจำนวนเงินที่มีการจ่ายเยียวยาไป พบว่า สปสช.เขต 4 สระบุรี จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวนประมาณ 13 ล้านบาท รองลงมาคือ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี จำนวนประมาณ 11 ล้านบาท และ สปสช.เขต 6 ระยอง จ่ายเงินแล้วจำนวนประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนเขตที่มีผู้ยื่นคำร้องมากที่สุดอย่าง สปสช.เขต 13 กทม. มีการจ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว ประมาณ 7.5 ล้านบาท 

นพ.จเด็จ กล่าวว่า หลักการจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ สปสช.นั้น ไม่ไช่การพิสูจน์ถูกผิดหรือชี้ชัดว่าเป็นผลที่เกิดจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด แต่เป็นเงินเยียวยาเพื่อลดผลกระทบที่เกิดแก่ประชาชนเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ซึ่งแม้ในภายหลังจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าสาเหตุของอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากวัคซีน ก็ไม่เป็นเหตุให้เรียกเงินคืนแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ใน 3 จุด คือ ที่หน่วยบริการที่ไปรับการฉีด ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือที่ สปสช.เขตพื้นที่ ซึ่งหลังจากได้รับคำร้องแล้ว จะมีคณะอนุกรรมการในระดับเขตซึ่งประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนภาคประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าจะจ่ายเงินเยียวยาหรือไม่และจ่ายเป็นจำนวนเท่าใด ตามหลักฐานทางการแพทย์และระดับความหนักเบาของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย


ที่มา : https://www.naewna.com/local/599297


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

มารู้จัก 'โยชิมิสึ ยาบุตะ' พนักงานแมคโดนัลด์ วัย 93 ปี ผู้รักการทำงาน

"ผมรักการทำงาน" 

นี่เป็นคำพูดของพนักงานแมคโดนัลด์ ที่อายุมากที่สุดในญี่ปุ่น วัย 93 ปี ซึ่งทำงานกะดึกสัปดาห์ละ 4 วัน

แมคโดนัลด์ประเทศญี่ปุ่น ฉลองการครบรอบ 50 ปีร้านสาขาแรกในประเทศ โดยประกาศแคมเปญ 'แวะไปแมคโดนัลด์สาขาที่เป็นที่หนึ่งของญี่ปุ่นกัน!' โดยหนึ่งในนั้น มีพนักงานแมคโดนัลด์ที่อายุมากที่สุดในญี่ปุ่น 'วัย 93 ปี' อยู่ด้วย!!

คุณโยชิมิสึ ยาบุตะ อายุ 93 ปี พนักงานแมคโดนัลด์ประจำสาขาสถานีรถไฟทากาโอกะ เอคิ มินามิ เมืองโทนามิ จังหวัดโทยามะ เป็นพนักงานแมคโดนัลด์ที่อายุมากที่สุดในบรรดา 2,900 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยคุณยาบุตะเริ่มทำงานพาร์ทไทม์ในร้านแมคโดนัลด์ ตั้งแต่ปี 2019 ด้วยอายุ 90 ปี ทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน ในช่วงกะดึกเป็นเวลา 5 ชั่วโมง โดยเขาทำหน้าที่ทำความสะอาดโต๊ะและจัดเตรียมเมนูอาหารล่วงหน้า

"ผมรักการทำงาน และรักที่ได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานมาก ๆ ด้วย" คุณยาบุตะกล่าวให้สัมภาษณ์อย่างภูมิใจ การทำงานด้วยความมุ่งมั่นของคุณยาบุตะไม่เพียงแค่สนับสนุนภาพลักษณ์ของร้านเท่านั้น แต่ยังสร้างกำลังใจให้กับคนรอบข้างได้อีกด้วย "เขาทำให้เห็นว่า มนุษย์เราสามารถทำสิ่งที่ท้าทายตัวเองได้ ไม่ว่าจะเริ่มจากตอนอายุเท่าไหร่ก็ตาม" เพื่อนร่วมงานของคุณยาบุตะกล่าว 

คุณยาบุตะเคยทำงานเป็นช่างไฟฟ้าก่อนจะเกษียณอายุ และผันตัวมาเป็นพนักงานกะดึกในร้านเกมเซนเตอร์ ก่อนจะสมัครเป็นพนักงานแมคโดนัลด์ เนื่องจากสามารถเลือกเวลาทำงานได้อย่างอิสระ "ผมไม่รู้ว่าจะใช้เวลาที่อยู่บ้านเฉย ๆ ไปทำอะไร เลยคิดที่จะทำงานกะดึกเพราะร่างกายยังแข็งแรงดีและคิดว่าคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" คุณยาบุตะกล่าว

ผู้จัดการร้าน นายเคียวเฮ อิโนโมโตะ (36 ปี) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการทำงานของพนักงานวัย 93 ปีคนนี้ว่า "เขาเปรียบเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ ที่คอยดูแลรักษาความสะอาดภายในร้าน และจัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานในกะเช้าทำงานต่อได้อย่างราบรื่น" 

ยิ่งไปกว่านั้น ในร้านแมคโดนัลด์สาขาเดียวกันนี้ ยังมีพนักงานที่อายุน้อยที่สุดคือนักเรียนชั้นมัธยมปลายวัย 15 ปี ซึ่งทำให้แมคโดนัลด์สาขานี้ มีพนักงานที่อายุห่างกันมากที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย คุณยาบุตะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการได้ทำงานร่วมกับคนที่อายุน้อยกว่าว่า "ถ้าความคิดเห็นเราไม่ตรงกัน ผมก็จะพยายามทำความเข้าใจความคิดของทั้งสองฝ่าย"


ที่มา : เพจ J-doradic https://www.facebook.com/192426614202169/posts/4027438394034286/
https://news.yahoo.co.jp/articles/be8e4d497dc6b6e780b123f6bea361dc1a0899a9


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top