Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

รองผอ.สำนักพุทธ ชี้!! เทศน์ผ่านไลฟ์ของ 'พระมหาสมปอง-พระมหาไพรวัลย์' เป็นไปตามยุคสมัย แต่เจ้าอาวาสจะพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ เปิดพ.ร.บสงฆ์ ให้อำนาจพิจารณาโทษได้

กระแสการไลฟ์เฟซบุ๊กของ 'พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ' และ 'พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต' พระภิกษุวัดสร้อยทอง กทม. เป็นที่นิยมและสร้างความฮือฮาต่อเนื่อง 2 คืนที่ผ่านมา ยอดผู้ชมไลฟ์เกิน 2 แสนคน ด้วยการไลฟ์พูดคุยที่มีความบันเทิงเป็นเนื้อหาหลัก สอดแทรกธรรมะประปราย ลีลาท่าทางการพูดคุย ขบขันบันเทิง ศัพท์ภาษาแสลงที่ใช้ภาษาวัยรุ่น ยุคโซเชียลมีเดีย หยอก กัดกัน เน้นอารมณ์ขัน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ บ้างตั้งข้อสังเกตถึงความสำรวมในสมณเพศ และวินัยสงฆ์

นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มองว่า การตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิดวินัยสงฆ์ ไม่ใช่หน้าที่ของสำนักพุทธศาสนา แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ คือ 'เจ้าอาวาส' ที่เป็นผู้บังคับบัญชาขั้นต้นของพระทั้ง 2 รูป 

"พระสองรูปนี้ไม่ได้เป็นเจ้าคณะปกครอง ท่านเป็นเพียงพระลูกวัดวัดหนึ่ง เพราะฉะนั้นหน้าที่โดยตรงที่จะต้องพิจารณาว่าเรื่องนี้เหมาะหรือไม่เหมาะ ก็คือ เจ้าอาวาสวัดที่เป็นผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของพระสองรูปนี้"

"ท่านจะต้องพิจารณาว่าที่พระในปกครองของท่านได้ทำการเผยแผร่รูปแบบพระพุทธศาสนาในรูปแบบนี้มันเหมาะสมหรือไม่ มันมีอะไรควรและมีอะไรไม่ควรก็เป็นเรื่องของทางเจ้าอาวาสที่จะต้องใช้ดุลยพินิจวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน" รองผอ.พศ. กล่าว

นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยังบอกอีกว่า ส่วนตัวมองว่าการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เมื่อวันเวลาผ่านไป ยุคสมัยเปลี่ยนไป คงไม่มีใครอยากนั่งฟังธรรมแบบยุคก่อน แต่สิ่งสำคัญในความเป็นพระภิกษุสงฆ์คือ 'ความสำรวม' ซึ่งตนเองเชื่อว่าประชาชนสามารถพิจารณาได้เองว่าพระทั้ง 2 รูป ที่เผยแผ่พุทธศาสนาผ่านไลฟ์สดนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ ส่วนตัวจะไม่ไปวิเคราะห์แทน

ขณะที่ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ได้บัญญัติไว้ชัดเจนในมาตรา 38 ว่า เจ้าอาวาสมีหน้าที่อบรมบ่มนิสัยบรรพชิตและคฤหัสถ์ให้ตั้งอยู่บนความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา และหากบรรพชิตและคฤหัสถ์ไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสสามารถขับให้เสียจากวัดได้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  (พศ.) ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เท่าที่ดูแล้วไม่ถือว่ามีความผิดวินัยรุนแรงของพระสงฆ์ ทั้งนี้ พศ. มอบหมายให้ นายสิปบวร โฆษกพศ. เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ แต่โดยหลักขั้นตอนเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงทำหน้าที่รักษาการณ์เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ซึ่งแม้ไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีอำนาจเต็มที่จะปกครองสั่งการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ตามเห็นสมควร


ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/155665
https://ch3plus.com/news/program/256408

‘บิ๊กบี้’ นำถก ผบ.หน่วยฯ สรุปผลงาน 1 ปี ช่วยเหลือ ปชช. ปรับขีดความสามารถ ทบ. รับมือโควิดควบคู่การ ‘พิทักษ์พล’ ไม่ให้ติดเชื้อ พร้อมขอบคุณทหารเกษียณฯ ก.ย.64ทำงานเพื่อ ทบ.-ประเทศ ยาวนาน เป็นผู้มีความรู้มีประสบการณ์ ให้คำแนะนำแก่หน่วยทหารได้

พล.ท. สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกในวันนี้ (6 ก.ย. 64) ซึ่งพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมผ่านระบบออนไลน์ โดยได้กล่าวถึงการปฏิบัติงานของกองทัพบกในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมขอบคุณผู้บังคับหน่วยและกำลังพลทุกนายที่ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจของรัฐบาล ดูแลประชาชนได้อย่างเรียบร้อย ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันในความพร้อมจากการฝึกฝนและเตรียมการของกองทัพบกภายใต้สถานการณ์ที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก 

ทั้งการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติ การช่วยเหลือเกษตรกร การแก้ไขสถานการณ์ภัยแล้งและไฟป่า การสกัดกั้นยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กองทัพบกได้ปฏิบัติอย่างเต็มที่ ในการช่วยเหลือประชาชน การสนับสนุนการปฏิบัติงานของกระทรวงสาธารณสุข ได้นำทรัพยากรทุกอย่างที่มีทั้งกำลังพล สิ่งอุปกรณ์ ความรู้ขีดความสามารถทางทหารมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์โควิด สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในความช่วยเหลือจากภาครัฐ 

ซึ่งกองทัพบกยังคงดำรงการปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวให้สอดคล้องตามสถานการณ์ต่อไป ควบคู่ไปกับมาตรการพิทักษ์พลเพื่อป้องกันการติดเชื้อภายในหน่วยทหารและกำลังพล ที่หน่วยทหารของกองทัพบกจะยังคงมีความเข้มงวดและไม่ผ่อนปรนมาตรการเร็วเกินไป เพื่อรักษาระดับการป้องกันโควิด-19 และคงความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ การดำเนินชีวิต รวมทั้งการนำบทเรียนจากการปฏิบัติงานในช่วงโควิดที่ผ่านมาเพื่อประยุกต์ใช้ในการฝึกศึกษาทางทหารภายใต้สถานการณ์โรคอุบัติใหม่ที่ยังคงมีอยู่  

การประชุมในวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน เน้นย้ำภารกิจสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นไปตามขั้นตอน ภายใต้ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งการดูแลพื้นที่ชายแดนด้วยเครื่องมือและระบบเฝ้าตรวจอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ความมั่นคงและสงบสุขในพื้นที่ชายแดนจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนและสนับสนุนการป้องกันโรคได้อีกทางหนึ่ง โดยให้กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบกดำเนินการควบคู่ไปกับการติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาค และความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับการทำงานของกองทัพบกในรอบปีที่ผ่านมาที่ได้มีการพัฒนาระบบคัดเลือกกำลังพลเข้าปฏิบัติราชการ โดยเฉพาะให้โอกาสทหารกองประจำการและผู้ที่มีใจรักในอาชีพทหาร ได้เข้ามาสู่ระบบการคัดสรรอย่างทั่วถึง ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะยังคงเดินหน้าต่อโดยจะเพิ่มระบบการคัดเลือกเข้าเป็นทหารแบบรวมการ เพื่ออำนวยความสะดวกการสมัครสอบเป็นกำลังพลประเภทต่างๆ ได้ในครั้งเดียว สอดรับกับนโยบายให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสเข้าถึงระบบการคัดเลือกมากขึ้น 

ส่วนในช่วงฤดูฝนนี้ ผู้บัญชาการทหารบกกำชับให้หน่วยทหารได้ติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมแผนการช่วยเหลือประชาชนทั้งในด้านกำลังพล เครื่องมือ รวมถึงการประสานและสนับสนุนหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ย้ำว่าการดำเนินการบรรเทาสาธารณภัยใดๆ ต้องตระหนักถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ภายใต้มาตรการป้องกันการติดเชื้อ ทั้งกับประชาชนและผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ  

ผู้บัญชาการทหารบกได้ใช้วาระการประชุมในครั้งนี้กล่าวขอบคุณผู้ที่เกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2564 ถือว่าเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์และได้ใช้ช่วงเวลาของการรับราชการปฏิบัติงานเพื่อกองทัพบก ประชาชนและประเทศชาติมาอย่างยาวนาน ขอให้ทุกหน่วยดูแลให้ทุกท่านเกษียณอย่างมีสุขภาพที่ดี ทั้งนี้ ผู้เกษียณอายุราชการเป็นผู้มีความรู้มีประสบการณ์ สามารถที่จะให้คำแนะนำคำปรึกษาแก่หน่วยทหาร และถือว่าเป็นครอบครัวของกองทัพบกตลอดไป

บราซิลประกาศระงับการใช้วัคซีนซิโนแวคกว่า 12 ล้านโดส หลังตรวจพบว่าผลิตจากโรงงานที่ไม่ได้รับอนุญาต

อันวิซา (Anvisa) ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านสาธารณสุขแห่งรัฐบาลกลางบราซิล เมื่อวันเสาร์ (4 ก.ย.) ระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยซิโนแวค ไบโอเทค บริษัทสัญชาติจีนกว่า 12 ล้านโดส หลังพบว่ามันผลิตโดยโรงงานที่ไม่ได้อนุญาตแห่งหนึ่ง

ถ้อยแถลงของอันวิซา ระบุว่า พวกเขาได้รับแจ้งจากสถาบันบูตันตัน ของรัฐเซาเปาลู ศูนย์ชีวการแพทย์ที่ร่วมมือกับซิโนแวค ในการผลิตและทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในบราซิล ว่ามีวัคซีนจากโรงงานดังกลาวส่งมายังบราซิล 25 ล็อต หรือ 12.1 ล้านโดส

"แผนกการผลิตไม่ได้ผ่านการตรวจสอบและไม่ได้รับการรับรองจากอันวิซา ในการอนุมัติใช้วัคซีนที่กล่าวถึงในกรณีฉุกเฉิน" คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านสาธารณสุขแห่งรัฐบาลกลางบราซิลระบุ พร้อมบอกว่า "คำสั่งแบนเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะก่อความเสี่ยงแก่ประชาชน"

สถาบันบูตันตันยังได้แจ้งต่ออันวิซาด้วยว่าวัคซีนอีก 17 ล็อต รวมแล้ว 9 ล้านโดส ที่ผลิตในโรงงานเดียวกันกำลังมุ่งหน้ามายังบราซิล

ระหว่างคำสั่งแบนเป็นเวลา 90 วัน อันวิซาจะดำเนินการตรวจสอบโรงงานและหาคำตอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยของกระบวนการผลิตในโครงการจ่ายวัคซีนของบราซิลในช่วงต้นปี วัคซีนส่วนใหญ่ที่ดำเนินการฉีดให้แก่ประชาชนก็คือจากซิโนแวค ก่อนจะเข้าถึงวัคซีนจากผู้ผลิตอื่น ๆ หลังจากนั้น

เมื่อวันเสาร์ (4 ก.ย.) บราซิล รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จำนวน 21,804 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 692 คน


(ที่มา : รอยเตอร์)
https://mgronline.com/around/detail/9640000087980

อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ 'ระวังบาป!' กรณีมีคนกล่าวหา 'มหาสมปอง-มหาไพรวัลย์' อลัชชี

6 ก.ย. 64 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การกล่าวหา พระมหาสมปองและพระมหาไพรวัลย์ว่าเป็นอลัชชีนั้น เป็นบาป 

ที่ท่านมหาทั้งสอง พูดจาในเชิงตลกโปกฮาบ้าง ก็เป็นบุคลิกส่วนตัวของท่าน 

ยังไม่ปรากฏว่าท่านล่วงละเมิดพระวินัย โดยเฉพาะในข้อปาราชิก ท่านจึงดำรงฐานะเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา อันควรต้องให้ความเคารพ

อัธยาศัยของพระภิกษุแต่ละรูปนั้น เป็นวิบากของแต่ละท่านที่ตกทอดมา บางรูปก็มีอุปนิสัยออกไปทางโลภะ บ้างก็โทสะ บ้างก็โมหะ บ้างก็ฟุ้งไป

แต่ตราบใดที่ท่านยังประพฤติพรหมจรรย์ ดำรงตนอยู่ในพระวินัยแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ยังเป็นพระภิกษุ และหลายรูปก็บรรลุมรรคผลภูมิธรรมขั้นสูงในพระศาสนาให้ปรากฏมาแล้ว สำหรับท่านพระมหาสมปองและพระมหาไพรวัลย์เอง เมื่อได้ยินเสียงติเตียนแล้ว ก็พึงพิจารณาด้วยปัญญาของท่านเถิดว่า การใดเป็นโลกาวัชชะ การใดเป็นที่ตั้งแห่งความเคารพสักการะศรัทธา ในพระพุทธศาสนา ตอนนั้นท่านพึงทำเถิด

ถ้าท่านมหาทั้ง 2 รูป สนใจจะสนทนาธรรมกันก็ขอนิมนต์ไว้ ณ ที่นี้


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/115756

'สี จิ้นผิง' ดันนโยบาย Common Prosperity บีบคนรวยช่วยคนจน ลดความเหลื่อมล้ำ บริษัทยักษ์ใหญ่ในจีนต่างขานรับแบบไม่อิดออด

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่ง วช. ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า... 

#บีบคนรวยช่วยคนจน แนวคิด Common Prosperity #ลดเหลื่อมล้ำแบบจีน แนวคิดนี้ริเริ่มโดยเหมาเจ๋อตงถูกนำมาลงมือทำอย่างจริงจังในยุคสีจิ้นผิง #จัดระเบียบความรวย เพื่อให้ “มั่งคั่งร่วมกัน” ได้รับการขานรับจากมหาเศรษฐีจีนผู้ก่อตั้งบริษัทยักษ์ใหญ่และบรรดาบิ๊กเทคในจีนเป็นอย่างดี #น้อมรับไม่งอแง  

#รวยแล้วต้องแทนคุณแผ่นดิน การตั้งโครงการหรือกองทุนเพื่อช่วยเหลือสังคมด้านต่าง ๆ ของบริษัทที่รวยแล้วของจีน เพื่อหันมาช่วยคนจีนที่ด้อยโอกาสมากขึ้น โดยเน้นช่วยใน 3 หลักประกันขั้นพื้นฐานและจำเป็นที่สีจิ้นผิงประกาศให้คนจีนต้องเข้าถึงและรับบริการได้ครบ คือ การศึกษาขั้นพื้นฐาน Education การเข้าถึงสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน Healthcare และที่อยู่อาศัย Housing 

ตัวอย่างโครงการ/นโยบายช่วยเหลือสังคมของมหาเศรษฐีจีนหรือบริษัทมั่งคั่ง #รวยแล้วต้องแบ่งปัน เช่น... 

-- #Alibaba ตั้งงบ 100,000 ล้านหยวน (US$15.5 billion) เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมกันในจีน ระยะโครงการถึงปี 2025 ผ่านการโปรโมทการลงทุนในเทคโนโลยี ช่วยสนับสนุนบริษัทขนาดเล็ก ช่วยพัฒนาชนบท ช่วยบริษัทขนาดเล็กขยายกิจการไปต่างประเทศ จ้างงานให้เสริมรายได้พิเศษสำหรับผู้ไม่ได้ทำงานประจำ รวมทั้งพนักงานส่งของหรือคนขับรถ

-- #Pinduoduo นาย Chen Lei ประธานและซีอีโอของบริษัทฯ ประกาศว่า บริษัทจะตั้งงบ 10,000 ล้านหยวน​ (US$1.5 billion) เพื่อสนับสนุนโครงการด้านการเกษตรเพื่อช่วยคนชนบทที่มีรายได้ต่ำกว่าคนเมือง มี income gap ห่างกัน 3 เท่า

-- #Tencent ประกาศตั้งกองทุนอีก 7,700 ล้าน US$ เพื่อช่วยคนมีรายได้น้อย ให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพ สนับสนุนการพัฒนาของชนบท และการศึกษาของชาวบ้านชนบท

-- #Geely บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน จะแจกหุ้น 1.67ล้าน ให้กับพนักงาน 10,884 คน

รวมทั้งมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง #Meituan บริษัทจัดส่งอาหารรายใหญ่ของจีนก็ขานรับที่จะทำโครงการช่วยผู้อื่นและยกย่องชื่นชมนโยบาย Common Prosperity ของสีจิ้นผิง

สีจิ้นผิงใช้แนวคิด #CommonProsperity หวังจะบีบคนรวยช่วยคนจน เพื่อลดปัญหารวยกระจุก #IncomeGap และเพื่อบีบคนรวยแล้วต้องแบ่งปัน #รวยแล้วต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อสร้างเสถียรภาพทางสังคมในระยะยาว จะสำเร็จหรือไม่ เกาะติดกันค่ะ

共同繁荣  gong tong fan rong อ่านว่า “ก้ง ถง ฝัน หรง” #มั่งคั่งไปด้วยกัน

#เหมาเจ๋อตงริเริ่ม #สีจิ้นผิงลงมือทำ 
"Common prosperity" was first mentioned in the 1950s by Mao Zedong, founding leader of what was then an impoverished country, and repeated in the 1980s by Deng Xiaoping, who modernized an economy devastated by the Cultural Revolution.

#ใครรวยได้รวยก่อน ยุคเติ้งเสี่ยวผิง
Deng said that allowing some people and regions to get rich first would speed up economic growth and help achieve the ultimate goal of common prosperity.

China became an economic powerhouse under a hybrid policy of "socialism with Chinese characteristics", but it also deepened inequality, especially between urban and rural areas, a divide that threatens social stability.


Credit : 
https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3147185/chinas-big-tech-answers-xis-call-common-prosperity-tencent-meituan
และ
https://www.reuters.com/world/china/what-is-chinas-common-prosperity-drive-why-does-it-matter-2021-09-02/


ที่มา: ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น
https://www.facebook.com/1037140385/posts/10223890601746410/?d=n

'นิพิฏฐ์' โพสต์ข้อความ ฟังธรรมต้องฟังให้เกิดปัญญา ลั่น!! ท่านไม่สำรวม อายศาสนาอื่น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ เพราะมีเรา จึงมีสงฆ์ โดยระบุรายละเอียดว่า ปกติผมไม่ค่อยเขียนเรื่องพระหรอก แต่วันนี้ ต้องเขียน เพราะมีคนถามมาเยอะในฐานะที่ ผมเป็นนักการเมืองไม่กี่คนที่ได้รับพระราชทานรางวัล "เสาเสมาธรรมจักร" จึงขอแสดงความเห็นบ้าง ตามสมควร 

1.) พระพุทธองค์ทรงฝากศาสนาไว้กับภิกษุ, ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา มิได้ฝากไว้กับสงฆ์ผู้เป็นสาวกเพียงอย่างเดียว เราเป็นผู้อุปถัมภ์สงฆ์ให้ท่านมีเวลาศึกษาพระธรรมวินัยเพื่อมาสั่งสอนเรา เพราะมีเราจึงมีสงฆ์ ไม่มีเราก็ไม่มีสงฆ์ สงฆ์ท่านจึงควรรับฟังเราบ้าง

2.) ถ้าสิ่งไหนที่สงฆ์ท่านทำแล้วเป็นความสุขของท่าน ก็ให้ท่านทำไปเถอะ ผมก็ไม่อยากไปขัดความสุขของท่าน เห็นท่านพูดคุยหัวเราะร่วนกันเชียว ถ้าให้ผมเขียนตรง ๆ ก็คือ "ท่านไม่สำรวม" ผมอายคนในศาสนาอื่น กลัวเขาจะหมิ่นเอาได้ว่าสงฆ์ของเราสอนธรรมด้วยอาการไม่สำรวมอย่างนี้หรือ

3.) สำหรับชาวบ้านอย่างเรา ผมขอแนะนำให้อ่านหนังสือ "พุทธธรรม" ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) เลือกอ่านบางเล่ม บางบท ถือเป็นหนังสือ 1 ใน 100 เล่มที่คนไทย "ต้องอ่าน" ครับ หนังสือ "พุทธรรม" ไม่ต้องหาซื้อ เข้าไปใน google แล้วพิมพ์คำว่า "หนังสือพุทธธรรม" แล้วโหลดอ่านได้เลย สะดวกสบาย ถ้าให้ผมแนะนำ ผมแนะนำให้อ่านภาค 3 อารยธรรมวิถี ตอนที่ 6 ชีวิตที่ดีเป็นอย่างไร ก็น่าจะพอแล้วสำหรับการเกิดมาในโลกนี้และได้พบพระพุทธศาสนา 

4.) ส่วนท่านใดจะฟังพระสงฆ์ท่านใดพูดสนุก ๆ คลายเครียด ก็ฟังไปครับ แต่สำคัญสำหรับชาวพุทธต้องฟังให้เกิด "ปัญญา" ด้วย ถ้าฟังแล้วสนุก แต่ไม่เกิดปัญญา นั่นไม่ใช่คำสอนของพระพุทธองค์ แต่เป็นการพูดตลกของพระ ก็ไม่ว่าไร ผมไม่กล้าว่าใครหรอก

ผมอาจจะพลาดตรงที่ผมไม่เคยฟังพระคุณเจ้าท่านอื่นสอนธรรม ก็ต้องกราบนมัสการขออภัยไว้ตรงนี้  ผมคงอายุมากแล้วจึงไม่มีเวลาฟังธรรมของพระสงฆ์ท่านอื่นมากนัก จึงอ่าน/ฟัง เฉพาะคำสอนหลวงพ่อพุทธทาส กับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) เท่านั้น


ที่มา : https://www.facebook.com/100000777267045/posts/4244908312211702/
https://www.thaipost.net/main/detail/115748

ประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิของทัพพาราลิมปิกไทย 'พงศกร แปยอ' ผู้คว้า 3 เหรียญทองจากการแข่งขัน Wheelchair Racing ในโตเกียวพาราลิมปิก 2020

แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทย ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจในโตเกียวพาราลิมปิก 2020 (Paralympic Tokyo 2020) ตั้งแต่ต้นจนจบ 

เริ่มตั้งแต่การผ่านคัดเลือกเข้าไปร่วมแข่งขันมากถึง 74 คนซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าพาราลิมปิกทุกครั้งที่ผ่านมา และยังคว้ามาได้ถึง 18 เหรียญ ดันไทยขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 25 ของตารางสรุปเหรียญ

ถึงกระนั้น มหกรรมกีฬาคนพิการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง 'พาราลิมปิกเกมส์' ที่จัดขึ้นครั้งที่ 16 โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็มักจะทำให้เห็นภาพเดิม ๆ นั่นคือการได้รับความสนใจและชื่นชมจากคนไทยและสื่อไทยน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่พวกเขาสามารถสร้างทั้งความภูมิใจในตนเอง ให้รู้สึกว่าชีวิตมีค่า รวมถึงสามารถเป็นตัวแทนประเทศไทยไปสร้างชื่อเสียงได้ในระดับโลก ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย

ดังนั้น การที่ 'พงศกร แปยอ' ได้กลายเป็นนักกีฬาคนแรกของไทยที่คว้า 3 เหรียญทองรวดจาก Wheelchair Racing ระยะ 100, 400 และ 800 เมตร พร้อมทำลายสถิติสำคัญของโลกได้หมดทั้ง 3 รายการ จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดา และไม่ควรเป็นเรื่องธรรมดาที่สังคมไทยจะเพิกเฉย 

ต่อจากนี้ไป การหันมามองและให้ความสำคัญแก่พวกเขาที่มิใช่เพียงแค่ พงศกร แต่ยังรวมถึงฮีโร่พาราลิมปิกไทยทุกคนนั้น ควรมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่านี้

สำหรับประวัติพอสังเขปของ 'กร' พงศกร แปยอ เป็นเด็กหนุ่มจากจังหวัดขอนแก่น เกิดวันที่ 1 ธันวาคม 2539 วัย 24 ปี โดยเจ้าตัวเป็นโปลิโอขาทั้งสองข้างตั้งแต่กำเนิด และเริ่มเล่นกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งตั้งแต่อายุได้ 13 ปี จากนั้นอาจารย์ สากล ทัพสมบัติ ที่สนิทกันชักชวนให้ไปแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 30 "นครสุโขทัยเกมส์" เมื่อปี 2552 และประเดิมด้วยการคว้า 2 เหรียญทองแดงรายการ 100 ม. กับ 400 ม. ทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มคัดติดเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติหลังจากนั้น

ส่วนจุดเริ่มต้นบนเส้นทางทีมชาติชุดใหญ่ของ พงศกร นั้นเกิดขึ้นจากการที่ ประวัติ วะโฮรัมย์, เรวัฒน์ ต๋านะ และ อำไพ เสือเหลือง สามนักวีลแชร์เรซซิ่งดีกรีทีมชาติไทยเห็นแววความสามารถและรูปร่างของหนุ่มน้อยที่ตอนนั้นอายุเพียงน้อยนิด จึงตัดสินใจไปขอพ่อแม่ของ พงศกร เพื่อนำมาดูแลสนับสนุนในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเล่นกีฬาหรือการกินอยู่ พร้อมทั้งสัญญากับทางบ้านของพงศกรว่าจะพยายามปลุกปั้นให้พัฒนาความสามารถจนประสบความสำเร็จให้ได้ 

อีกทั้ง ประวัติ วะโฮรัมย์ เจ้าของ 2 เหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ปี 2016 ยังได้มอบรถวีลแชร์ที่เคยใช้ และสภาพยังดีอยู่ให้ พงศกร เพื่อเข้าแข่งขันรายการต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จในช่วงแรก นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ พงศกร จะเริ่มพัฒนาตัวเองหลังจากนั้นและกลายเป็นเบอร์ 1 ของโลกในทุกวันนี้

#ParalympicsTokyo2020


ที่มา : https://www.siamsport.co.th/other/other/view/250086

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=388822782611381&id=100044509866439

https://www.bbc.com/thai/58430656

‘ศรีสุวรรณ’ ร้องเอาผิด 2 พระสงฆ์ไลฟ์ไม่เหมาะ ชี้!! ย่ำยีศาสนา ทำให้เป็นเรื่องตลกขบขัน

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ทำคำร้องส่งไปยังมหาเถรสมาคม (มส.) ผ่าน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อขอให้มีบัญชาสอบสวนเอาผิดภิกษุอลัชชี (ผู้ไม่ละอาย) ที่ชอบเล่นโชเขียลมีเดียโดยไลฟ์สดเอาธรรมะมาสอนเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่พอมีคนสนใจเข้ามาดูมาก ๆ รวมทั้งมีเพจที่มาคอมเมนท์ขายสินค้า มาโปรโมทแบรนด์ตัวเอง กลับมาทวงถามให้จ่ายค่ามาใช้พื้นที่เพจของตนในขณะไลฟ์สดนั้น

พฤติกรรมดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า พส. ดังกล่าวมิใช่วัตรปฎิบัติของภิกษุ ที่เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มุ่งแสวงหาปรมัติอันเป็นทางหลุดพ้นจากกิเลสสงสาร เพื่อถึงการดับทุกข์ โดยมีพระวินัยบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้ภิกษุทุก ๆ รูปที่บวชมาในพระศาสนาต้องปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยบัญญัติทุกรูป ถ้าทำไม่ได้ก็จะเป็นเพียงคนโกนหัวแล้วเอาผ้ามาห่มตนให้ดูเหลืองคล้ายดั่งพระภิกษุ ที่ไม่สังวรณ์ว่าตนต้องบิณฑบาตเลี้ยงชีพเป็นอาจิณ หาใช่มาแสวงหาเงินทองความร่ำรวยจากการบวชเป็นพระ ที่บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อเหมือนประชาชนทั่วไปเท่านั้น

ข้ออ้างของการไลฟ์สดเพื่อต้องการเผยแพร่ธรรมะให้เท่าทันยุคสมัยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่จะได้เข้าถึงธรรมะได้นั้น เห็นว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่ไร้น้ำหนักของเหล่าพระสงฆ์พวกนี้เท่านั้น เพราะคนจะซาบซึ้งในธรรมะต้องมาจากระบบการสั่งสอนอบรมมาตั้งแต่ครอบครัว วัด โรงเรียนร่วมกัน มิใช่มาจากภิกษุที่ทำตนเป็นคณะตลกที่เปลี่ยนหน้าจากหม่ำ เท่ง โหน่ง มาเป็น 2 พระสงฆ์กลุ่มนี้แต่อย่างใด และเชื่อว่าไม่มีใครซาบซึ้งจากข้อธรรมะ ที่นำมาพูดให้ขบขันได้ แต่กลับเป็นการทำให้ศาสนามัวหมองถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์จากเหล่าพระสงฆ์ดังกล่าว โดยสังเกตดูได้จากการโพสต์ทวงเพจต่าง ๆ ที่มาโปรโมทแบรนด์ของตนในขณะที่พระสงฆ์ไลฟ์โดยให้เบอร์พร้อมเพย์ อย่างไม่ละอายต่อพระธรรมวินัย

ตามพระวินัยปิฎก ได้ระบุเอาไว้ในพระมหาวิภังค์ ว่า “อนึ่ง ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์” อันถือเป็นอาบัติ เป็นโลกวัชชะ หรือการกระทำที่ทำให้ขาวโลกติเตียนได้ และการเผยแพร่ธรรมะด้วยวิธีตลกขบขัน ไม่ปรากฎในพระไตรปิฎกแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้เหล่าพระสงฆ์พวกนี้ก็เคยมีปัญหาจากข้อขัดแย้งเกี่ยวกับค่าตัวที่ไปเป็นวิทยากรในเวทีต่าง ๆ มาแล้ว หรือบางรูปก็ไปช่วยไลฟ์โฆษณาสินค้าต่าง ๆ ด้วย ซึ่งก็เข้าข่ายต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งตามหลักพระธรรมวินัยนั้นหากต้องอาบัติลักษณะนี้บ่อยครั้งต้องหลุดจากความเป็นพระดั่งโทษปาราชิกเลยทีเดียว

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่อาจปล่อยให้ภิกษุอลัชชีเหล่านี้กระทำการย่ำยีพุทธศาสนาได้อีกต่อไป จึงส่งคำร้องไปยังมหาเถรสมาคมผ่านสำนักพุทธฯ เพื่อให้มีบัญชาวางกฎเหล็กห้ามภิกษุใด ๆ กระทำเยี่ยงนี้อีกและให้สอบสวนเอาผิดพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติซ้ำดังกล่าวเพื่อลงโทษขั้นเด็ดขาด

เปิดแล้ว...สายคาเฟ่ห้ามพลาด!! ชิมกาแฟ แนบชิดธรรมชาติ ‘ร้านเบลลินี่ เบค แอนด์ บรู’ สาขาระยอง ริเวอร์ไซด์ ได้แล้ววันนี้!

เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ร้อยตรี พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง / นางนิลวรรณ เหมะรักษ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง / พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง / นายชรัส ลิขิตคุณวงศ์ ที่ปรึกษาคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ร่วมแสดงความยินดีและเปิดร้านเบลลินี่ เบค แอนด์ บรู สาขาระยองริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง อย่างเป็นทางการ

โดยมี นายวัชรินทร์ นางรัตนา นายวสินธ์ และนายธนภัทร ล่องดุริยางค์ ผู้บริหารเบลลินี่ เบค แอนด์ บรูสาขาระยอง ริเวอร์ไซด์ ให้การต้อนรับ พร้อมได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในจังหวัดระยอง อาทิ นายอินทรีย์ เกิดมณี ปลัดจังหวัดระยอง คุณดารณี เกิดมณี รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง นายวรฉัตร ทีงาม อดีต ปลัดจังหวัดระยอง คุณมะลิวัลย์ ทีงาม ประชมรมแม่ดีเด่นจังหวัดระยอง พันตำรวจเอก วรวุฒิ ชัยเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง นายกิตติ เกียรติมนตรี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง นายวิชิต ศรีชลา นายกเทศมนตรีนครระยอง ดร.อนุชิดา ชินศิรประภา ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดระยอง คุณประชิด ชินราช ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดระยอง ดร.จารุณี ตันติเวชวุฒิกุล นายกสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนระยองวิทยา คุณพิศมัย ศุภนันตฤกษ์ กรรมการผู้บริหารโรงแรมโนโวเทล สตาร์ คอนเวนชั่นระยอง นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ นายอำเภอเมืองระยอง พ.ต.ท.อธิวัฒน์ อภิวุฒิชัยกิตติ์ สว.จร.สภ.เมืองระยอง ฯลฯ

Bellinee’s Bake & Brew (เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู) ร้านเบเกอรี่ เฮ้าส์ ระดับพรีเมียม เอาใจสายคาเฟ่เมืองระยองเปิดร้านเบลลินี่ เบค แอนด์ บรู แห่งล่าสุด  สาขาระยองริเวอร์ไซด์ พร้อมเสิร์ฟเบเกอรี่อบสดใหม่ทุกวัน พร้อมอาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย ริมแม่น้ำระยอง สุดชิลล์

นายชรัส ลิขิตคุณวงศ์ ที่ปรึกษาคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวถึงแนวคิดและจุดเด่นของ ร้าน เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู (Bellinee’s Bake & Brew) ว่า “เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู เป็นร้านเบเกอรี่เฮ้าส์ระดับพรีเมียม ที่มีความโดดเด่นด้านเบเกอรี่อบสดและอาหาร ผ่านการคิดค้นและสร้างสรรค์เมนู อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีครัวซองเฮอริเทจที่นำเข้าจากฝรั่งเศสมาอบเสิร์ฟทุกวัน รวมถึงเครื่องดื่ม กาแฟสดระดับพรีเมียม ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการถ่ายทอดมาจากแรงบันดาลใจสู่ความอร่อยและคุณภาพที่ได้มาตรฐาน สอดคล้องกับชื่อนักประพันธ์เพลงชาวอิตาเลียน ‘Vincenzo Bellini’ ผู้ถ่ายทอดเพลงบรรเลงด้วยหัวใจ และส่งมอบความสุขให้กับผู้ฟังในทุกช่วงเวลาและเพื่อเป็นการมอบประสบการณ์แห่งความสุขและเพื่อมอบสุนทรียภาพในการรับประทานเบเกอรีและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมให้กับพี่น้องชาวไทย”

ล่าสุด Bellinee’s Bake & Brew (เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู) ได้เตรียมเปิดสาขาแห่งใหม่ ระยองริเวอร์ไซด์ เปิดจำหน่ายเบเกอรี่อบสด พร้อมเครื่องดื่มระดับพรีเมียม โดยเฉพาะครัวซองต์ที่ได้นำเข้าจากฝรั่งเศสมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แป้งบางกรอบ หอม ฉ่ำเนย สไตล์ต้นตำรับแท้ ๆ ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นในราคาที่จับต้องได้ เพื่อเอาใจนักชิม สายคาเฟ่ ชาวเมืองระยอง

นายชรัส เพิ่มเติมว่า “เช่นกัน…ความสุขของเรา คือ ความสุขที่ได้ใส่ใจในสินค้าและการบริการ พร้อมส่งต่อความสุขที่แท้จริงให้กับลูกค้า  และความสุขของลูกค้า คือ ความอร่อยจากสินค้าที่มีคุณภาพ เราจึงคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ รังสรรค์เมนูใหม่โดยเชฟและบาริสต้ามืออาชีพ พร้อมทั้งออกแบบให้ร้านมีบรรยากาศสไตล์ยุโรปร่วมสมัย(Contemporary European)ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง ดั่งคอนเซ็ปต์ที่ว่า “Happiness Brings Us Together”

ด้านนายวสินธ์  ล่องดุริยางค์ ผู้บริหารร้าน Bellinee’s Bake & Brew (เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู) สาขา ระยองริเวอไซด์ กล่าวว่า เรามีความตั้งใจนำเสนอประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานเบเกอรี่และกาแฟระดับพรีเมี่ยมให้กับพี่น้องชาวจังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียง ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ เพื่อรังสรรค์ให้เป็นเบเกอรี่แสนอร่อยอบสดใหม่ทุกวัน บริการพร้อมเครื่องดื่มมีทั้งกาแฟ และเมนูหลากหลาย

สำหรับร้านเบลินี่ฯ สาขาระยองริเวอร์ไซด์ ได้เลือกทำเลสุดพิเศษ มอบเป็นความสุขที่จับต้องได้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำระยอง เพื่อให้ลูกค้าได้จิบกาแฟท่ามกลางธรรมชาติในบรรยากาศสบาย ๆ มีให้เลือกทั้งแบบ Indoor และ Outdoor พร้อมมุมถ่ายภาพไม่ซ้ำใคร

ร้าน เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู สาขา ระยองริเวอร์ไซด์ แห่งนี้ พร้อมให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 - 20.00 น. และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของภาครัฐในการลดความเสี่ยงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางร้านจึงได้เปิดบริการให้นั่งรับประทานในร้าน หากเป็น Indoor (ห้องปรับอากาศ)เปิดให้นั่งได้ 50% ของที่นั่ง และ ภายนอก Outdoor เปิดให้นั่งได้ 75% ของที่นั่ง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความสนใจและสร้างความประทับใจให้กับพี่น้องชาวระยอง นายวสินธ์ ล่องดุริยางค์ กล่าวทิ้งท้าย


ภาพ/ข่าว  ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน

ผบก.ตม.1 ห่วงใยการต่อวีซ่า! ตามกำหนดไว้ของชาวต่างชาติ ในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้มีการให้เปิดทำการนอกเวลาราชการในวันเสาร์เป็นกรณีพิเศษ เริ่มเสาร์ที่ 4 ก.ย. นี้! พร้อมรับมือต่างชาติขออยู่ต่อช่วงโควิด

3 ก.ย. 2564  พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 เปิดเผยว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 แจ้งเปิดให้บริการเพิ่มเติมในทุกวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ โดยจะเปิดให้บริการวันแรก ในวันเสาร์ที่ 4 ก.ย.2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง ณ บก.ตม.1 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะฯ และจุดบริการชั่วคราวของ บก.ตม.1  ณ “ศูนย์เมืองทองธานี”  ร่วมด้วย  พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ฝท.บก.ตม.4 รรท. ผกก. 2 บก.ตม. 1 และเจ้าหน้าที่ของ บก.ตม.1 พร้อมให้บริการเสริมเพิ่มเติมช่วงวันหยุดในทุกวันเสาร์

  

ประกอบกับมาตรการผ่อนผันการอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ซึ่งยื่นคำร้องขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเพื่อเหตุผลความจำเป็นและมีระยะเวลาอนุญาตถึงวันที่ 31 ต.ค. 64  มีเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกคนต่างด้าวที่ประสงค์จะยื่นคำร้องขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ก่อนระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุด 45 วัน อันเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อลดความแออัดในการมารับบริการ  บก.ตม.1 จึงขอประชาสัมพันธ์การเปิดให้บริการเพิ่มเติม ดังนี้

1. คนต่างด้าวสามารถติดต่อขอรับบริการขออยู่ต่อฯ ทุกประเภท ได้ก่อนวันอนุญาตสิ้นสุด 45 วัน โดยสามารถติดต่อขอรับบริการที่เคาน์เตอร์ L, M, N, J ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

 - ขออยู่ต่อระยะยาว (เคาน์เตอร์ L, M, N) ประเภท Non-Immigrant Visa อาทิเช่น NON-O, NON-B, NON-ED ประกอบด้วยเหตุผล เกษียณอายุ, เยี่ยมคู่สมรส/เยี่ยมบุตร, สามีไทย/ภรรยาไทย/อุปการะบุตร, ธุรกิจ, ครู/นักเรียน, องค์การระหว่างประเทศ มูลนิธิ สมาคม

 - ขออยู่ต่อระยะสั้น (เคาน์เตอร์ J) ประเภท Tourist Visa (TR-60) และ เคาน์เตอร์ K ที่ทำการชั่วคราวเมืองทองธานี

 - ขออยู่ต่อระยะสั้น ประเภทคนเดินทางผ่าน ไม่มีวีซ่า  Visa on Arrival และประเภทอื่น ๆ รวมถึงการแก้ไข ย้ายตราประทับ และหนังสือเดินทางสูญหาย

ในวันและเวลาราชการ และให้บริการเพิ่มเติมในวันเสาร์ (ทุกวันเสาร์ จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง) ทั้งนี้ ตั้งแต่ 4 ก.ย.2564 เป็นต้นไป

2. การรายงานตัว 90 วัน และการแจ้งที่พัก สามารถติดต่อขอรับบริการที่เคาน์เตอร์ A, B ที่ทำการชั่วคราวเมืองทองธานี ในวันและเวลาราชการ และให้บริการเพิ่มเติมในวันเสาร์ (ทุกวันเสาร์ จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง) ทั้งนี้ ตั้งแต่ 4 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป

พล.ต.ต.ปิติ กล่าวเพิ่มเติมว่าการเปิดให้บริการเสริมช่วงวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ เป็นการดำเนินการตามนโยบายและข้อสั่งการของ  พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์  เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม. ที่ได้อนุมัติให้มีการเปิดให้บริการเสริมในวันหยุดราชการวันเสาร์เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากมีความห่วงใยชาวต่างชาติที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศและประสงค์ยื่นคำร้องขอยู่ต่อในราชอาณาจักรสืบเนื่องมากจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19  รวมถึงมาตรการผ่อนผันการอนุญาตให้อยู่ในราชการอาณาจักร  และคนต่างด้าวที่ยื่นคำร้องขออยู่ต่อมีระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดถึงวันที่ 31 ต.ค.64  ซึ่งจะให้กลุ่มชาวต่างชาติมาติดต่อขอรับบริการเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการกำหนดมาตรการเพิ่มช่องทางการเปิดรับบริการในวันหยุดราชการวันเสาร์เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือกลุ่มชาวต่างชาติ รวมถึงเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในการรับบริการให้ดียิ่งขึ้น

ทางด้าน พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/โฆษก ตม.1  ขอประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติโปรดศึกษาข้อมูลการให้บริการอย่างละเอียด และจัดเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อที่จะสามารถไปรับบริการได้อย่างถูกต้อง ทางช่องทาง Website http://bangkok.immigration.go.th  และทางช่องทาง Facebook: https://www.facebook.com/immigrationdivision1 และโปรดช่วยแจ้งข่าวและเผยแพร่ตามสื่อแขนงต่างๆ และช่องทางต่าง ๆ ช่วยกันกระจายข่าวให้กับชาวต่างชาติให้ทราบโดยด่วนว่า สามารถไปติดต่อขอรับบริการได้ที่ บก.ตม.1 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และจุดบริการชั่วคราวของ บก.ตม.1  ณ ที่ทำการชั่วคราวเมืองทองธานี ได้ในวันเสาร์ที่ 4 ก.ย. 64 ที่จะถึงนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top