Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

'ญี่ปุ่น' เตรียมคลายล็อกเปิดประเทศ อนุญาตกลุ่มนักธุรกิจก่อน ส่วนนักท่องเที่ยงยังต้องรอ

สมาพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น เสนอรัฐบาลให้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 แล้ว นายกฯ รับปากจะเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นเป็นตอน คาดเปิดทางให้นักธุรกิจและครอบครัวชาวญี่ปุ่นก่อน

สมาพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น หรือเคดันเร็ง ได้ยื่นชุดข้อเสนอต่อนายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ เป็นต้นว่า ให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วได้รับการยกเว้นไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางเข้าญี่ปุ่น และให้ลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเป็นไม่เกิน 10 วัน รวมทั้งให้อนุญาตให้จำหน่ายชุดตรวจหาเชื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป

นายมาซาคาสุ โทคูระ ประธานไคดันเร็ง ระบุว่าเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในต่างประเทศ ข้อมูลรับรองการฉีดวัคซีนสามารถใช้เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เข้าร้านอาหาร และใช้บริการระบบขนส่งสถานที่สาธารณะ

นายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ รับปากว่า รัฐบาลจะพิจารณาข้อเสนอทั้งหลายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน พร้อมระบุว่า รัฐบาลจะออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนแบบดิจิทัลในสมาร์ทโฟนได้ในเดือนธันวาคมนี้

ญี่ปุ่นได้ออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ไม่ใช้การฉีดวัคซีนเป็นเงื่อนไขในการเข้าใช้บริการต่าง ๆ ภายในประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติต่อคนที่ไม่อยากฉีดวัคซีน หรือไม่สามารถฉีดวัคซีนได้

ญี่ปุ่นได้ระงับการเข้าประเทศของชาวต่างชาติมานานเกือบ 2 ปีจากการระบาดของโรคโควิด ผู้ที่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ในขณะนี้ คือผู้ที่มีสิทธิ์พำนักในญี่ปุ่นอยู่แล้วเท่านั้น แม้แต่นักศึกษาต่างชาติ คนทำงาน ครอบครัวที่ยื่นขอวีซ่าใหม่ก็ยังไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้

ล่าสุด มีรายงานว่า สถานทูตญี่ปุ่นในหลายประเทศได้เริ่มออกวีซ่าใหม่ให้กับนักศึกษาทุนรัฐบาล และครอบครัวของชาวญี่ปุ่นแล้ว สมาคมนักธุรกิจต่างชาติในญี่ปุ่นคาดว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดทางให้นักธุรกิจระหว่างประเทศเดินทางได้ก่อนปลายปีนี้ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังต้องรออีกนานกว่าจะมาเที่ยวญี่ปุ่นได้อีกครั้ง


ที่มา : https://mgronline.com/japan/detail/9640000088412

'จีน' เตรียมเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ เน้นรองรับธุรกิจ SMEs ของจีน เข้าทำนอง 'จีนทำ จีนใช้  จีนเจริญ จีนไม่สนฝรั่ง'

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่ง วช.

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น โพสต์ลง Facebook ในเรื่องนี้ว่า…

#ตลาดหุ้นจีนแห่งใหม่ คงตอบโจทย์คาใจใครหลายคนนะคะ การที่จีนคุมเข้มบริษัทจีนออกไป IPO ต่างประเทศ แล้วบริษัทจีนเหล่านั้นจะไประดมทุนที่ไหน ? จะเติบโตได้อย่างไร ? don’t worry นะ จีนเตรียมการไว้แล้ว ก่อนจะลงมือ #จัดระเบียบทุน จนสั่นสะเทือนไปทั้งโลกทุนนิยม !!!  #สีจิ้นผิง ประกาศจะตั้งตลาดหุ้นแห่งใหม่ #ตลาดหุ้นปักกิ่ง เตรียมเปิดรองรับการระดมทุนจีนเองเลยจ้า แถมจะเป็นตลาดหุ้นจีนที่เน้นรองรับ SMEs จีนด้วยนะ เข้าทำนองว่า “จีนทำ จีนใช้  จีนเจริญ จีนไม่สนฝรั่ง” ???? #จีนโนแคร์

Note: จีนมีตลาดหุ้น 2 แห่งแล้วบนแผ่นดินใหญ่ คือ #ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และ #ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น แล้วก็ยังมี #ตลาดหุ้นฮ่องกง ด้วยนะ ดังนั้น บริษัทจีนมีทางเลือกตรึมเลยจ้า ไม่ต้องไปแคร์ฝรั่ง #โลกแตกแกน #TheGreatDecoupling ????

พร้อมสาระสำคัญขยายความ อ้างอิงจากเพจ Nihao-Sawadee ว่า... 
Credit: https://www.facebook.com/117547923447097/photos/a.130779808790575/333247238543830/?type=3

#บทวิเคราะห์ เปิดเหตุผล “ทำไมจีนเตรียมเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ในปักกิ่ง แม้ปัจจุบันมีตลาดหุ้นถึง 2 แห่ง ในจีน”

กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงในช่วงสุดสัปดาห์นี้เลย สำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุมสุดยอดการค้าภาคบริการโลกของงานมหกรรมการค้าบริการนานาชาติจีน (China International Fair for Trade in Services: CIFTIS) 

ใจความสำคัญของการกล่าวสุนทรพจน์ของสี จิ้นผิง เป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาการค้าภาคบริการของจีนและความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจโลก หลังจากเผชิญวิกฤติแพร่ระบาดโควิด-19 

โดย “แผนเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ในกรุงปักกิ่งของประเทศจีน” จากถ้อยแถลงของสี จิ้นผิง ได้รับการจับตามองจากทั่วโลกทันที จึงขอสรุปเหตุผล “ทำไมจีนต้องเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ เป็นแห่งที่ 3 ของประเทศจีน” 

จากการรายงานของสถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ชี้ให้เห็นว่า ทางสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ของจีน เป็นอย่างมาก จีนจึงจะเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ที่ปักกิ่ง เพื่อสนับสนุนและรองรับธุรกิจ SMEs ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาด้านนวัตกรรม 

อีกเหตุผลหนึ่งคือ เป็นการดึงดูดเงินลงทุนหลั่งไหลจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นจีนแห่งนี้ ซึ่งก็ส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจ SMEs ตามเหตุผลแรกที่ระบุไปแล้วว่า เปิดตลาดหุ้นเพื่อรองรับ SMEs จีน ที่มุ่งเน้นในการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งสี จิ้นผิง ได้กล่าวถึงการพัฒนาเขตสาธิตการพัฒนาเชิงนวัตกรรมการค้าภาคบริการของรัฐ และเขตสาธิตการค้าดิจิทัล เป็นข้อบ่งชี้ถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศจีนภายใต้การนำของสี จิ้นผิง ว่าเน้นทางนวัตกรรม และให้ความสำคัญกับ SMEs อย่างแท้จริง


แหล่งข้อมูล:
https://news.cgtn.com/news/2021-09-02/Xi-Jinping-China-to-establish-new-stock-exchange-in-Beijing-13exDdi89CE/index.html
http://m.news.cctv.com/2021/09/02/ARTIfvz5TL90CyY0GoLTyLkW210902.shtml

'รมว.แรงงาน' ห่วงใยแรงงานนอกระบบยะลา มอบบัณฑิตแรงงาน และอสร. เดินรณรงค์เคาะประตูบ้าน เชิญชวนฉีดวัคซีน ยึดหลัก "D-M-H-T-T-A" คุมการแพร่ระบาดกลุ่มเปราะบาง 1,740 ครัวเรือน

วันที่ 6 ก.ย. 2564 นางสาวพุทธชาติ อินทร์สวา รักษาราชการแรงงานจังหวัดยะลา Kick off เริ่มกิจกรรมสร้างการรับรู้ต้านภัยโควิด-19ให้แก่แรงงานนอกระบบ 1,740 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย.2564 ตามข้อสั่งการของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมต.แรงงาน ซึ่งมีความห่วงใยแรงงานนอกระบบในจังหวัดยะลา ให้เร่งสร้างการรับรู้ในการป้องกันภัยจากโรคติดเชื้อโควิด-19

โดยมอบบัณฑิตแรงงานและอสร.เดินรณรงค์เคาะประตูบ้าน ยึดหลัก "D-M-H-T-T-A" พร้อมเชิญชวนฉีดวัคซีน ลดความเสี่ยงและควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ 1,740 ครัวเรือน

นางสาวพุทธชาติ อินทร์สวาได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่เดินรณรงค์ต้องการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของ 8 อำเภอ จ.ยะลา โดยบัณฑิตแรงงาน 76 คน และอาสาสมัครแรงงาน 58 คน จัดทีมงานเดินรณรงค์เคาะประตูบ้านแรงงานนอกระบบที่เป็นกลุ่มเปราะบางให้มีความรู้เพื่อป้องกันตัวจากโควิด-19 ตามมาตรการ D-M-H-T-T-A และแจกหน้ากากอนามัยเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล

พร้อมเชิญชวนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ภายใต้โครงการศูนย์แรงงานอำเภอเคลื่อรที่ด้วยรอยยิ้ม จังหวัดยะลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ครั้งนี้ 2 สำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา

‘อนุทิน’ ยอมรับ ข้อมูลสาธารณสุขโดนแฮกจริง แต่แค่ข้อมูลเบื้องต้น ย้ำไม่ต้องตื่นตระหนก

วันที่ 7 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่โซเชียลเปิดเผยว่าข้อมูลผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุขถูกแฮก ว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่จ.เพชรบูรณ์ และเคยเกิดที่สระบุรี เมื่อทราบข่าวได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำเนินการและได้สั่งการเรียบร้อยแล้ว โดยข้อมูลที่ถูกโจรกรรมเป็นข้อมูลเบื้องต้นทั่วไป ไม่ได้เป็นความลับอะไร 

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 จะปรับมาตรการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากนี้จะปรับมาตรการทางปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น เราไม่คิดจะมีคนคิดทำได้ขนาดนี้ แต่เชื่อว่าทางโรงพยาบาลจะมีการจัดข้อมูลชั้นความลับของคนไข้ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักปลัดกระทรวงต้องไปแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ไม่มีอะไรตื่นตระหนก

เมื่อถามถึงแนวทางการยุบ ศบค.กระทรวงสาธารณสุข พร้อมรับไม้ต่ออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ด้านการสาธารณสุข มีความพร้อม แต่ต้องหาวิธีการบูรณาการกับภาคส่วนอื่นโดยเฉพาะด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมาย เรื่องการสนับสนุนระหว่างกันของหน่วยงาน แต่คิดว่าจะต้องหารือกัน

‘คุณสมบัติ’ ประธานกลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดสัมมนา PoE "Power Over Ethernet" พร้อมทีมวิทยากรชั้นนำมาเจาะลึกเทคโนโลยี PoE

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน กลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงานสัมมนา PoE "Power Over Ethernet" เทคโนโลยีการส่งไฟฟ้าในสายสัญญาณสำหรับงานภายในอาคารและภายนอกอาคาร

พร้อมนำทีมวิทยากรชั้นนำมาเจาะลึกเทคโนโลยี PoE ที่จะเข้ามาช่วยให้การเชื่อมต่อระบบของลูกค้าเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น โดยงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ากลุ่มผู้บริหารไอที จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศกว่า 350 คน

???? LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

ก.อุตฯ ร่วมกับผู้ประกอบการญี่ปุ่น มอบวัสดุอุปกรณ์ใช้ป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ส่งต่อ รพ.สนามพื้นที่ 7 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

ผู้ประกอบการในจังหวัดชิมาเนะ ของประเทศญี่ปุ่น มอบวัสดุอุปกรณ์ใช้ป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ส่งมอบให้โรงพยาบาลสนามพื้นที่สีแดงเข้ม ผ่านสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.)

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเป็นประธาน ในกิจกรรมรับมอบวัสดุอุปกรณ์ป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากบริษัท ฮิโรเสะ โปรดักส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ

ทางบริษัท ฮิโรเสะฯ ได้ห่วงใยคนไทยจึงให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันและรักษาโรคฯ จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 5 ลิตร จำนวน 18 เครื่อง หน้ากากอนามัย N95 จำนวน 8,634 ชิ้น ชุดป้องกันส่วนบุคคล หรือ PPE สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน จำนวน 2,050 ชุด ถุงหุ้มรองเท้า จำนวน 1,800 คู่  หมวกคลุมผม จำนวน 3,600 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำไปส่งต่อให้แก่โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร ชลบุรี โดยให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ในพื้นที่นั้น ๆ เป็นผู้ประสานงานและส่งมอบ และได้ปล่อยขบวนรถ เพื่อส่งต่อวัสดุอุปกรณ์ฯ โดยเร็ว โดยเฉพาะเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีความจำเป็นต่อผู้ป่วยอาการหนัก และในปัจจุบันเครื่องดังกล่าวมีไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย

“นอกจากนี้ ผมได้อนุมัติงบประมาณ 8 แสนบาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ส่วนภูมิภาคจัดซื้อชุดตรวจโควิด (Antigen Test Kit) และชุด PPE สำหรับใช้ปฏิบัติงานเมื่อลงพื้นที่ตรวจประเมินสถานประกอบการ ในฐานะที่กระทรวงฯ เป็นเจ้าภาพหลักในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในโรงงาน ซึ่งขณะนี้มีการติดเชื้อลดลง อย่างต่อเนื่อง และจากคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 14/2564 สั่งการ ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2564 ได้มอบหมายให้

ผมเป็น “หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ในสถานประกอบกิจการและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะครอบคลุมทั้ง ภาคการค้า การบริการ และการท่องเที่ยว ที่ต่างได้รับผลกระทบจากโควิด

ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้ยกร่างคำสั่งฯ แล้วเสร็จ และมีแผนที่จะประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ ในวันที่ 8 กันยายน 2564 โดยจะหารือเพื่อนิยามสถานประกอบกิจการที่ภาครัฐเข้าไปดูแล ซึ่งจะสอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลาย และเป้าหมายของภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อจากนี้ธุรกิจอุตสาหกรรมในยุคปกติใหม่ (New Normal) จะต้องดำเนินกิจการไปพร้อมกับมาตรการควบคุมโรค และทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติ ไม่ว่าจะรัฐ เอกชน รวมทั้งประชาชน” นายกอบชัย กล่าว

นายมานาบุ เทะสึโมโตะ (Mr. Manabu Tetsumoto) ประธานบริษัท ฮิโรเสะ โปรดักส์ สำนักงานใหญ่ จังหวัดชิมาเนะ ประเทศญี่ปุ่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบจากการระบาดของโรค โควิด-19 ต่อคนไทยจึง ให้การสนับสนุนและคาดหวังที่จะช่วยเหลือผู้คนได้เป็นจำนวนมาก แม้ปัจจุบันบริษัทฯ จะมีเพียงฝ่ายขายในไทยก็ตาม ทั้งนี้ก่อนที่โรคโควิด-19 จะระบาด ตลาดสินค้าที่ทำจากไม้ในไทย มีการขยายตัวสร้างผลประกอบการที่ดี เพราะนอกจากเมืองไทยมีร้านอาหารมากมายแล้ว สินค้าของบริษัทฯ ยังตอบสนองนโยบายลดการใช้พลาสติกของรัฐบาลไทย และกระแสผู้บริโภคที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้น หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลายลง บริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนตั้งโรงงานผลิตในไทยในอีก 1- 2 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ บริษัท ฮิโรเสะฯ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมาเนะ ประกอบธุรกิจจำหน่ายและส่งออกสินค้าทุกชนิดซึ่งทำจากไม้หรือไม้ไผ่ เช่น ไม้เสียบอาหาร/ไอศกรีมแท่ง ช้อนส้อม ตะเกียบ โดยมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น และได้มีการขยายการลงทุนในอาเซียน คือ ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย

อบจ.พัทลุง​ จัดสรรงบ 1 ล้านบาท ซื้อถุงยังชีพ 2,000 ถุง ช่วยเหลือชาวพัทลุงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

(6 ก.ย.64)​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่โรงยิมเนเซี่ยม 1,000 ที่นั่ง สนามกีฬากลางจังหวัดพัทลุง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง ร่วมกับ นางสาวสุพัชรี  ธรรมเพชร ผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าส่วนราชการมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด ผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในเขตจังหวัดพัทลุง​ นำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 11 อำเภอ 

นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง  กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านการดำรงชีพของประชาชนชาวพัทลุงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ (COVID-19) 

ทาง อบจ. จึงได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อจัดหาถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด ช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว

นายก อบจ.พัทลุง ยังกล่าวด้วยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดที่ผ่านมา ทาง​ อบจ.​ ได้ร่วมมือกับทาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง โรงพยาบาลพัทลุง  และทางจังหวัดในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์การแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ การจัดซื้อหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ ช่วยเหลือประชาชนผ่านทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ฯลฯ 

ส่วนในกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำไม  อบจ.พัทลุง​ ไม่พิจารณาจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนนั้น นายวิสุทธิ์ฯ นายก อบจ.ได้ชี้แจงว่า จากการหารือกับทางจังหวัดได้รับการยืนยันว่า ในเดือน ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้จะมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเกือบ 100  เปอร์เซ็นต์​

ส่วนในเดือน พฤศจิกายน 2564 ก็จะมีการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนด้วย จึงไม่ต้องการทำงานซ้ำซ้อนกัน และที่สำคัญนั้นทาง อบจ.พัทลุงมีงบประมาณที่จำกัด ซึ่งในปีงบประมาณ 2564 นี้ ทางรัฐบาลยังค้างการจัดสรรงบประมาณให้ อบจ.พัทลุงมากกว่า 50 ล้านบาท

​​​​​​

บันทึกความร่วมมือ โครงการนำร่องการเชื่อมโยงข้อมูลและส่งต่อข้อมูลผู้เสียหายเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัว ระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ

(6​ ก.ย.​ 64) นางอโนชา ชีวิตโสภณ อธิบดีผู้พิพากษา ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และพันตำรวจเอกกฤษฎางค์ จิตตรีพล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) โครงการนำร่อง การเชื่อมโยงข้อมูลคดีและส่งต่อข้อมูลผู้เสียหายเพื่อให้คำปรึกษาเพื่อแนะนำช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัวกลาง ระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางและสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ

โดยมีเจตจำนงที่จะร่วมมือและสนับสนุนการให้คำปรึกษา​ เพื่อแนะนำช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัว ให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย อำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลคดีเยาวชนและครอบครัวระหว่างหน่วยงานในการให้คำปรึกษา​ เพื่อแนะนำช่วยเหลือผู้เสียหาย และครอบครัวในโอกาสแรกที่มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจ ในรูปแบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น และแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เกิดความสะดวก รวดเร็ว ผู้เสียหายและครอบครัวได้รับการคำปรึกษา แนะนำและช่วยเหลือเยียวยาในทันทีสอดคล้องกับนโยบายประธานศาลฎีกา ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 5 อาคารศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร 

การนี้​ ได้รับเกียรติจาก นางอุไรรัตน์ น้อยสุวรรณ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นายภัทรศักดิ์ ศิริสินธว์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นางสาวอัมภัสชา ดิษฐอำนาจ เลขานุการศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และผู้แทนหน่วยงานเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว

'กลุ่มนักเรียนเลว' นัดหยุดเรียนออนไลน์ 6-10 ก.ย. นี้ พร้อมทั้งประกาศ 5 ข้อเรียกร้อง เร่งรัฐรีบดำเนินการ

แฮชแท็ก #ไม่เรียนออนไลน์แล้วอิสัส กลับมาติดเทรนด์ร้อนแรงในทวิตเตอร์ไทยอีกครั้ง หลังจากที่กลุ่มนักเรียนเลว ออกมาเชิญชวนหยุดเรียนออนไลน์ (Strike) ซึ่งวันนี้เป็นวันแรก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 6-10 ก.ย. 64 เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการเรียนออนไลน์ที่กดทับพวกเขา

โดยเพจ 'นักเรียนเลว' ระบุว่า เปิดใช้งานแล้ว! ตลอด 5 วัน เว็บไซต์ลงชื่อขาดเรียน นับจำนวนคน Strike แบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มพลังในการกดดันผู้มีอำนาจให้ทำตามข้อเรียกร้องของพวกเรา ใครหยุดเรียนแล้ว มาเช็กขาดกันได้เลย https://badstudent.co

ขณะเดียวกัน สังคมทวิตเตอร์ ก็มีกลุ่มนักเรียนเข้ามาแสดงความเห็นและปัญหาที่พบเจอขณะเรียนออนไลน์ ด้าน https://badstudent.co เริ่มมีนักเรียนเข้ามาเช็กชื่อหยุดเรียนออนไลน์แล้ว 2,430 คน 

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็ได้โพสต์ทวิตเตอร์ @wirojlak ระบุว่า การแก้ไขเบื้องต้น คือ การปรับลดวิชาเรียน ให้เหลือเฉพาะวิชาหลัก ส่วนวิชาอื่น ๆ ให้งดไปก่อน แล้วไปจัดกิจกรรมแบบบูรณาการแทน ตอนที่เปิดเรียนได้ 

สำหรับการนัดหยุดเรียนครั้งนี้ ทางกลุ่มนักเรียนเลวมีข้อเรียกร้องต่อปัญหาการเรียนออนไลน์ ดังนี้... 

1.) กระทรวงศึกษาธิการต้องออกคำสั่งปรับลดตัวชี้วัด ชั่วโมงการเรียน ภาระงานของครูและนักเรียนให้ชัดเจน รวมไปถึงปรับหลักสูตรการศึกษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์การเรียนออนไลน์ในปัจจุบันโดยทันที

2.) กระทรวงศึกษาธิการต้องจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือและเยียวยาสภาพจิตใจนักเรียนจากการเรียนออนไลน์ที่มีความเคร่งเครียดมากกว่าปกติ รวมทั้งจัดให้มีช่องทางการรายงานปัญหาต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบ และหาทางแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง

3.) ในกรณีที่สถานศึกษายังไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาฉีดให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง กระทรวงศึกษาธิการต้องจัดหาอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และเยียวยาค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงอย่างเร่งด่วนและทั่วถึง

4.) กระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งทำให้การศึกษามีคุณภาพอย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยอาจมีการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการศึกษา พักชำระหนี้การศึกษา และจัดหาสวัสดิการในเบื้องต้นให้กับนักเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้มีนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษาไปมากกว่านี้

5.) รัฐบาลต้องนำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงมาฉีดให้นักเรียน นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนทั่วไป โดยต้องมีการเปิดเผยข้อมูล สัญญา และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนอย่างโปร่งใส และดำเนินการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อให้ระบบการศึกษา สังคม และเศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ข้อเรียกร้องเหล่านี้ เป็นสิ่งพื้นฐานที่นักเรียนควรได้รับตั้งแต่แรก แต่เมื่อเขาไม่ให้เราจึงต้องเรียกร้อง การสไตรค์ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการแสดงความไม่พอใจต่อการเรียนออนไลน์แล้ว ยังมีข้อเรียกร้องที่เราทุกคนต้องช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้น 6-10 กันยายนนี้ ร่วมทวงคืนชีวิตวัยเด็กของเรากลับมา!


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/115755
https://www.naewna.com/likesara/600155
https://www.facebook.com/104541321337821/posts/369599871498630/

เพจไทรักษา โพสต์ข้อความขอโทษแทนคนไทย หลังมีกลุ่มด้อยค่าวัคซีน ย้ำ เป็นเพียงแค่บางกลุ่มเท่านั้น

ไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก 'ไทรักษา' ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพว่า... 

จากที่ สถานเอกอัคราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก ในเรื่องที่คนไทยบางกลุ่ม "กำลังด้อยค่าวัคซีน Sinovac ของจีน" 

พวกเรา...ในฐานะเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ก็รู้สึกเศร้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นร่วมกับคนไทยอีกมากมายเช่นกัน 

วันนี้เราจึงต้องมาแสดงออก เพื่อขอบคุณพี่น้องชาวจีนในความรักและน้ำใจที่มีให้คนไทยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ เลย...

ในตอนนี้ เราทุกคนต่างรับรู้กันดีแล้วว่า ไม่มีวัคซีนยี่ห้อไหนที่ดีที่สุด และเราคนไทยก็กำลังเข้าใจไปในทางที่ดีแล้ว 

ขอชี้แจงกับพี่น้องชาวจีน และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยว่า... 

>> คนไทยที่ด้อยค่าวัคซีนของจีน เป็นเพียงคนกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่ใช่การแสดงออกของคนไทยทั้งหมด

พวกเรา จึงขอออกมาส่งเสียงแทนคนไทยอีกนับล้าน ๆ คน เพื่อเอ่ยคำขอโทษต่อพี่น้องชาวจีน พร้อมกับคำมั่นสัญญา ว่าเราจะรักและจริงใจต่อกันเสมอไม่เปลี่ยนแปลง จากคนไทย จากประเทศไทยค่ะ 好朋友 ... 

#ขอโทษพี่น้องชาวจีน
#ประเทศไทย
#Sinovac

ทั้งนี้ ทางเพจยังได้โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า... 

เพิ่งได้ทราบข่าวเมื่อสักครู่ว่า "เสียงขอบคุณและคำขอโทษ" จากพวกเราคนไทยทุกคน ที่ได้ช่วยกันส่งไปถึงพี่น้องชาวจีน เริ่มถูกเผยแพร่ในโซเชียลของประเทศจีนแล้วครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/112605123796060/posts/354831459573424/


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top