Wednesday, 14 May 2025
NEWS FEED

‘ข่าวสามสี’ ออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังถูกติเตียนในเรื่องเสนอข่าวพาดพิงศิลปินจีน

กลายเป็นประเด็นเดือดสุด ๆ หลังรายการข่าวสามสี ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวในหัวข้อ “จีนผุดนโยบายปฏิวัติวัฒนธรรม แบนหนุ่มหน้าหวาน ห้ามปรากฏตัวออกสื่อ” ซึ่งระหว่างการดำเนินรายการได้มีการฉายภาพตัวอย่างดารา-ศิลปินหลายคน จนทำให้เหล่าแฟนคลับและคอซีรีส์จีนไม่พอใจ เนื่องจากการนำเสนอข่าวเช่นนี้อาจทำให้หลายคนเข้าใจว่าศิลปินในภาพโดนแบน อีกทั้งศิลปินที่ยกตัวอย่างมานั้นก็ไม่ได้มีลักษณะที่ดูไม่แมนแต่อย่างใด ซ้ำยังเป็นศิลปินแนวหน้า ที่ได้ขึ้นแท่นสามีแห่งชาติกันทั้งนั้น!

จนทำให้แฮชแท็กร้อนอย่าง #แบนข่าวสามสี พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยไปเมื่อวันก่อน 

ทำให้ล่าสุดทางรายการข่าวสามสีได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษ โดยมีใจความว่า

ประกาศขอน้อมรับทุกคำติเตียนและขออภัยเป็นอย่างสูง

เรื่อง การนำเสนอข่าว “จีนผุดนโยบายปฏิวัติวัฒนธรรม แบนหนุ่มหน้าหวาน ห้ามปรากฏตัวออกสื่อ” ด้วยทางรายการข่าวสามสี ได้นำเสนอข่าว ‘จีนผุดนโยบายปฏิวัติวัฒนธรรม แบนหนุ่มหน้าหวาน ห้ามปรากฏตัวออกสื่อ’ ออกอากาศทางช่อง 33 เมื่อวานที่ 6 กันยายน 2564 ทางรายการต้องขออภัยเป็นอย่างสูงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ข่าวดังกล่าวได้กระทบกับความรู้สึกของแฟนคลับศิลปินจีนจำนวนมาก และต้องขออภัยที่ไม่ได้ตรวจสอบไปยังข่าวต้นฉบับของทางการจีน

ผู้ผลิตรายการข่าวสามสีขอยืนยันว่าทางรายการไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวอ้างว่านักแสดงที่นำภาพมาประกอบเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข่าว อย่างไรก็ตามทางผู้ผลิตรายการข่าวสามสีไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความเสียหายใด ๆ กับตัวศิลปิน ทางรายการขอน้อมรับความผิดพลาดที่ไม่เหมาะสมต่อการกระทำในครั้งนี้เและขออภัยต่อศิลปิน ต้นสังกัด รวมถึงแฟนคลับ และผู้ชมรายการทุกท่าน เป็นอย่างสูงและทางรายการข่าวสามสีจะนำคำติเตียนในครั้งนี้มาแก้ไขเพื่อพัฒนางานให้ดีขึ้นต่อไป 

บรรณาธิการข่าวสามสี

'ร้านปาจิงโกะ' ในโอซากาล้างภาพลักษณ์สถานพนัน ผันตัวมาเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนในชุมชน

ร้านปาจิงโกะกลางเมืองโอซากาให้ใช้สถานที่เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 สำหรับประชาชนในพื้นที่ ได้รับตอบรับอย่างดีจากชุมชนและหน่วยงานสาธารณสุข

ปาจิงโกะคือเกมยิงลูกเหล็กเพื่อลุ้นรางวัล เป็นการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายของญี่ปุ่น แต่ในช่วงการระบาดของโควิด ร้านปาจิงโกะถูกมองว่าเป็นแหล่งมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค

“ฟรีด้อม” ร้านปาจิงโกะขนาดใหญ่ในย่านเทนจินปาชิ ถนนสายชอปปิ้งที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ใจกลางเมืองโอซากา ประกาศว่าจะงดให้บริการในวันที่ 13-14 ก.ย. และ 12-13 ต.ต. เป็นใช้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีน

ที่นั่งหน้าตู้ปาจิงโกะกว่า 1,000 ที่จะรองรับผู้เข้าฉีดวัคซีน ทั้งพนักงานของร้านและครอบครัว พนักงานบริษัทคู่ค้า เจ้าของร้านค้าและประชาชนในชุมชน ซึ่งจะได้รับวัคซีน “โมเดอร์นา” โดยแพทย์จากศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่จะมาฉีดวัคซีนให้

จุนกิ ฮิรากาวะ ประธานบริษัท Avance Co. ผู้ดำเนินการร้านปาจิงโกะแห่งนี้ บอกว่า ชุมชนมีความสำคัญต่อธุรกิจ การประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐบาลทำให้ธุรกิจซบเซาไปทั่ว และร้านปาจิงโกะยังเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลได้ เมื่อรัฐบาลประกาศโครงการฉีดวัคซีนโดยภาคเอกชน ซึ่งภาคธุรกิจต่าง ๆ บริษัท หรือมหาวิทยาลัยจะจัดหาสถานที่และเจ้าหน้าที่มาฉีดวัคซีนที่รัฐบาลจะจัดสรรให้ เขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ แม้ว่าการปิดให้บริการ 4 วันจะต้องสูญเสียรายได้หลายสิบล้านเยน

ฮิรากาวะ บอกว่า ร้านปาจิงโกะตกเป็นเป้าวิจารณ์มาตลอดว่าเป็นแหล่งการพนัน ยิ่งในช่วงการระบาดของโควิดก็ยิ่งมีภาพลักษณ์ติดลบหนักขึ้นไปอีก การใช้พื้นที่เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนจึงเป็นการตอบแทนสังคมและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ด้วย

ผู้แทนของศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่สนับสนุนแนวคิดนี้ ร้านปาจิงโกะเหมาะกับเป็นสถานที่ฉีดวัคซีนอย่างยิ่ง เพราะพื้นที่กว้างขวาง มีระบบปรับอากาศ และแต่ละที่นั่งมีการเว้นระยะห่าง และมีแผงพลาสติกกั้นระหว่างผู้เล่นแต่ละคนอยู่แล้ว จึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้

ทางร้านได้เปิดให้ประชาชนในพื้นที่จองคิวเข้ารับวัคซีน 1,500 คนผ่านทางเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ของร้านในวันที่ 17 ส.ค. และภายใน 10 วันคิวทั้งหมดก็ถูกจองเต็ม ชาวบ้านในพื้นที่ต่างยินดีกับแนวคิดนี้ เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเผชิญความยากลำบากในการจองคิวฉีดวัคซีนกับภาครัฐ และทุกคนอยากจะได้รับวัคซีนให้เร็วที่สุด
 

'ตอลิบาน' เผย จัดตั้งรัฐบาลอัฟกัน รมว.มหาดไทยมีชื่ออยู่ในบัญชีก่อการร้ายของสหรัฐฯ

ตอลิบานดึงคนวงในระดับสูงเข้ามาดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในรัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถานในวันอังคาร (7 ก.ย.) ในนั้นรวมถึงสหายคนหนึ่งของผู้ก่อตั้งขบวนการเคลื่อนไหวนักรบอิสลามิสต์แห่งนี้ที่ถูกดันขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนชายผู้เป็นที่ต้องการตัวในบัญชีก่อการร้ายของสหรัฐฯ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

บรรดามหาอำนาจโลกแนะนำกับตอลิบานว่ากุญแจสู่เสรีภาพและการพัฒนาก็คือรัฐบาลที่ครอบคลุม ซึ่งจะเข้ามาทำตามคำสัญญาของทางกลุ่มที่เคยบอกว่าจะใช้แนวทางประนีประนอมกว่าเดิม ยึดมั่นในสิทธิมนุษยชน หลังจากครั้งที่อยู่ในอำนาจคราวก่อนระหว่างปี 1996-2001 พวกเขาแปดเปื้อนไปด้วยความอาฆาตนองเลือดและบังคับกดขี่ผู้หญิง

ไฮบาตุลเลาะห์ อาคุนซาดา ผู้นำสูงสุดของตอลิบาน ระบุในถ้อยแถลงต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พวกนักรบบุกยึดครองกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ว่า ตอลิบานจะยึดมั่นกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญาและข้อตกลงทุกฉบับที่ไม่ขัดกับกฎหมายอิสลาม

"ในอนาคต ทุกเรื่องของการปกครองและการใช้ชีวิตในอัฟกานิสถาน จะกำหนดโดยกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ชารีอะห์" ไฮบาตุลเลาะห์ อาคุนซาดา กล่าวในถ้อยแถลง ซึ่งเขายังใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีกับชาวอัฟกานิสถาน ในสิ่งที่เขาเรียกว่าการปลดปล่อยประเทศจากกฎเกณฑ์ของต่างชาติ

การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีขึ้น 3 สัปดาห์หลังจากตอลิบานคว้าชัยชนะในด้านการทหาร ท่ามกลางการถอนตัวของกองกำลังต่างชาติที่นำโดยสหรัฐฯ และการพังครืนของรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนของตะวันตก ทั้งนี้ ตอลิบานไม่ส่งสัญญาณผูกไมตรีใด ๆ กับฝ่ายต่อต้าน

ชาวอัฟกันมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในด้านการศึกษาและเสรีภาพพลเมืองในช่วงเวลา 20 ปีภายใต้รัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และการประท้วงยังคงเกิดขึ้นในทุก ๆ วันนับตั้งแต่ตอลิบานก้าวเข้าสู่อำนาจ ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองใหม่ของอัฟกานิสถาน

ในวันอังคาร (7 ก.ย.) ระหว่างการแถลงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ บรรดาสตรีชาวอัฟกันกลุ่มหนึ่งรวมตัวบนท้องถนนในกรุงคาบูล แสดงพลังต่อต้านตอลิบาน แต่พวกเธอต้องรีบวิ่งหาที่กำบัง หลังสมาชิกตอลิบานยิงปืนขึ้นฟ้าสลายการชุมนุมของพวกเธอที่มีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน

ครั้งสุดท้ายที่ตอลิบานปกครองอัฟกานิสถาน เด็กผู้หญิงไม่มีสิทธิไปโรงเรียน สตรีไม่ได้รับอนุญาตให้ไปทำงานและศึกษาเล่าเรียน โดยตำรวจศาสนาจะเฆี่ยนตีใครก็ตามที่ละเมิดกฎ และลงโทษต่อสาธารณะ

ตอลิบานเรียกร้องให้ชาวอัฟกานิสถานอดทนและประกาศจะใจกว้างมากขึ้นในคราวนี้ คำสัญญาที่ชาวอัฟกันและบรรดามหาอำนาจต่างชาติจะคอยตรวจสอบกลั่นกรองอย่างพินิจพิเคราะห์ ในฐานะที่มันเป็นส่วนหนึ่งในเงื่อนไขมอบความช่วยเหลือและการลงทุนที่จำเป็นอย่างมากสำหรับอัฟกานิสถาน

มุลเลาะห์ ฮาซาน อาคุนด์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเขาก็เหมือนกับแกนนำตอลิบานคนอื่น ๆ ที่ได้รับความเคารพจากการที่เขามีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับ มุลเลาะห์ โอมาร์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้รักความสันโดษที่ล่วงลับไปแล้ว ขณะที่ โอมาร์ เคยขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสภาสูงสุดอัฟกานิสถาน ซึ่งถือเป็นประมุขรัฐ ในสมัยตอลิบานปกครองประเทศเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน

อาคุนด์ เป็นประธานสภาการตัดสินใจสูงสุดของกลุ่มตอลิบานที่ชื่อว่า Rehbari Shura หรือสภาผู้นำ มาช้านาน เขาเคยนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและจากนั้นก็เป็นรองนายกรัฐมนตรี ตอนที่ตอลิบานอยู่ในอำนาจครั้งก่อน และก็เหมือนกับว่าที่รัฐมนตรีคนอื่น ๆ อีกหลายคน เขาอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จากบทบาทของเขาในรัฐบาลนั้น

ซีราจุดดิน ฮักกานี รัฐมนตรีมหาดไทยคนใหม่ เป็นลูกชายของผู้ก่อตั้งเครือข่ายฮักกานี ซึ่งถูกวอชิงตันขึ้นบัญชีก่อการร้าย เขาเป็นหนึ่งในชายซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของเอฟบีไอ สืบเนื่องจากความเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายหลายครั้งและมีความสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์

มุลเลาะห์ อับดุล กานี บาราดาร์ ประธานสำนักงานการเมืองของตอลิบาน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ การเดินหน้าแต่งตั้ง บาราดาร์ นั่งเก้าอี้ระดับสูงในรัฐบาลถือว่าสร้างความประหลาดใจแก่ผู้คนบางส่วนไม่น้อย ในขณะที่เขามีหน้าที่รับผิดชอบพูดคุยต่อรองการถอนทหารสหรัฐฯ ระหว่างการเจรจาในกาตาร์ และเป็นตัวแทนที่เผยโฉมหน้าตอลิบานต่อโลกภายนอก

บาราดาร์ เคยเป็นผู้บัญชาการระดับสูงของตอลิบานในการสู้รบอันยาวนานกับกองกำลังสหรัฐฯ เขาเคยถูกจับและโดนคุมขังอยู่ในปากีสถานปี 2010 ก่อนก้าวเข้าสู่สำนักงานทางการเมืองของตอลิบานในกรุงโดฮาร์ หลังได้รับการปล่อยตัวในปี 2018

มุลลาห์ โมฮัมหมัด ยาคูบ บุตรชายของมุลเลาะห์ โอมาร์ ได้รับการแต่งตั้งในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะดำรงตำแหน่งในฐานะรักษาการเท่านั้น โฆษกของตอลิบานระบุ

เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ระหว่างที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังบินไปยังนิวยอร์ก จะไม่มีการรับรองรัฐบาลตอลิบานเร็ววันนี้

โฆษกของตอลิบาน ยังได้พูดถึงการพังครืนของระบบบริการสาธารณะและการล่มสลายทางเศรษฐกิจท่ามกลางการถอนตัวอันยุ่งเหยิงของต่างชาติ โดยบอกว่ารัฐบาลรักษาการชุดนี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานของชาวอัฟกานิสถาน และระบุจะค่อย ๆ มีการเติมเต็มเก้าอี้รัฐมนตรีที่เหลืออยู่ ครั้งที่พบผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว


(ที่มา : รอยเตอร์)
https://mgronline.com/around/detail/9640000088846

คปภ. คลอด 4 มาตรการแก้ปัญหากันบริษัทเครมประกันโควิดช้า

สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มีบริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัยโควิดล่าช้า คปภ. ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย ล่าสุดได้กำหนดมาตรการเร่งด่วน 4 มาตรการเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหา คือ

1. เร่งดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย กรณีบริษัทกระทำการเข้าข่ายเป็นความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งมีบทลงโทษตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่ถือว่าเป็นการประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หรือประวิงการคืนเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2549 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท และปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 20,000 บาท โดยจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ ในวันอังคารที่ 14 กันยายน 2564 และหากพบว่าบริษัทประกันภัยแห่งใด จงใจฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าว ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ก็จะยกระดับการบังคับใช้กฎหมาย ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัยฯ 

2. ให้บริษัทฯ เร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัยโควิด-19 ให้แล้วเสร็จ โดยในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้เกี่ยวข้องของบริษัทฯ มาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่มีการร้องเรียนในแต่ละกรณีเพื่อให้สามารถยุติเรื่องร้องเรียนโดยเร็ว

3. ให้บริษัทฯ ปรับปรุงหน่วยงานรองรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนและเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับประกันภัยโควิด-19 โดยเพิ่มบุคลากรให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัย และให้นำระบบออนไลน์มาใช้ในการบริหารจัดการการรับเรื่องร้องเรียนและการติดตามความคืบหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันภัย และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาที่บริษัทฯ รวมทั้งลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของผู้เอาประกันภัย 

4. ให้บริษัทฯ เร่งปรับปรุงและเพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้เอาประกันภัยให้ถูกต้องและชัดเจน 

ทั้งนี้ คปภ. จะใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับทุกบริษัทที่ฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมทั้งจะติดตามและดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยให้บริหารจัดการการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และแก้ไขกรณีการจ่ายเคลมประกันภัยโควิด-19 ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงเชื่อว่าปัญหาการจ่ายค่าสินไหมทดแทนล่าช้าจะคลี่คลายโดยเร็ว

สภากาชาดไทย จับมือ GGC และ สแตนดาร์ด แมนูแฟคเจอริ่ง ลงนาม MOU ความร่วมมือบริจาค โครงการ “มอบชุดธารน้ำใจสู่ผู้สูงวัย ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ทั่วประเทศ”

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย , นายไพโรจน์ สมุทรธนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) และนายจิรโรจน์ ลัญฉนะวณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแตนดาร์ด แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบริจาคเพื่อโครงการ “มอบชุดธารน้ำใจสู่ผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ทั่วประเทศ” โดย GGC ได้สนับสนุนเจลแอลกอฮอล์ภายใต้แบรนด์ CHOB จากโครงการ Green Health Project มูลค่า 1,353,550 บาท เพื่อนำไปบรรจุลงในชุดธารน้ำใจสู่ผู้สูงวัยมอบให้แก่กลุ่มผู้เปราะบาง ผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิง ติดบ้าน ติดเตียง ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ณ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย

คอลเกต สนับสนุนผลิตภัณฑ์มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ผ่านโครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่มอาสา Up for Thai เพื่อส่งมอบแก่โรงพยาบาลสนามบุษราคัม

โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่มอาสา Up for Thai ยังคงดำเนินการเปิดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคสำหรับโครงการเฉพาะกิจ ​#missionบุษราคัม75 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และภาคสื่อสารมวลชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัม บุคลากรทางการแพทย์และอาสา ให้การดำเนินการของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่นเป็นระยะเวลา 75 วัน ก่อนจะมีการย้ายไปยังสถานที่ใหม่ 

สำหรับในโอกาสนี้​ ต้องขอขอบคุณบริษัท คอลเกต-ปาล์ม โอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัดที่เล็งเห็นความสำคัญของโครงการดังกล่าว​ ซึ่งได้ร่วมบริจาคผลิตภัณฑ์ “ยาสีฟันคอลเกต Dare to Kiss” จำนวน 21,600 หลอด มูลค่าถึง 1,058,400 บาท โดยมีหม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ “ต้องรอด” และอาสาสมัครกลุ่ม Up for Thai เป็นตัวแทนส่งมอบให้แก่นพ.พงษ์ศักดิ์ นิติการูญ รองผู้อำนวยโรงพยาบาลสนามบุษาราคัม เพื่อให้บุคลากรด่านหน้าและผู้ป่วยมีกำลังใจ ยิ้มสู้ไปด้วยกัน 

นอกจากโครงการเฉพาะกิจ ​#missionบุษราคัม75 กลุ่มอาสา Up for Thai ยังคงปฏิบัติภารกิจหลักโครงการ “ต้องรอด” ควบคู่กันไป ทั้งการแจกจ่ายอาหารปรุงสุกและสิ่งของอุปโภคบริโภคไปยังชุมชน คลัสเตอร์ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงการรับบริจาคและส่งต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคล ให้กับโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม สถานีอนามัย ศูนย์พักคอย เจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย อาสาด่านหน้าทั่วประเทศ อีกทั้งยังจัดเตรียมชุดยังชีพอันประกอบด้วยอาหารแห้งพร้อมทานและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น จัดส่งให้แก่ชุมชน ผู้พิการ คนชรา ครอบคลุมถึงผู้ป่วยติดเตียง ผู้ติดเชื้อ COVID-19 และครอบครัวที่ต้องกักตัว

ร่วมส่งต่อความช่วยเหลือกับ "ต้องรอด" ได้ที่
สถานที่ปฎิบัติงานและรับบริจาค :
ศูนย์อาสาต้องรอด Up For Thai วัดเทวสุนทร https://goo.gl/maps/X6VJJXWgD7FxVM6X6

ที่อยู่ในการจัดส่งสิ่งของบริจาค :
กองอำนวยการ Up For Thai ต้องรอด วัดเทวสุนทร
เลขที่ 1 ม.19 ถ.กำแพงเพชร 6 ลาดยาว จตุจักร กทม. 10900

หากส่ง delivery กรุณาแจ้ง tracking มาที่ LINE
สมทบทุนเป็นเงินสดที่
กสิกรไทย 096-3-23974-2
(ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล และนางสมใจ พุ่มสมบัติ)

เข้าชมฟรี!! ‘สวนนงนุชพัทยา’ เปิดให้บริการแล้ว! พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เข้าชมสวนฟรี

ตามคำสั่งจังหวัดชลบุรีให้สถานที่ท่องเที่ยวทั้งราชการและเอกชนทุกแห่งให้เปิดบริการ มีผลตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2564 เป็นต้นไป สวนนงนุชพัทยาพร้อมเปิดให้บริการควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยตามมาตรฐาน SHA และ Safe travels ซึ่งได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่าทางสวนนงนุชพัทยาได้ปฎิบัติตานนโยบายดังกล่าวข้างต้นพร้อมเปิดให้บริการ ที่ผ่านมาสวนนงนุชเตรียมความพร้อมในการเปิดทุกวันและเพิ่มโซนต่าง ๆ อาทิเช่น เนิร์สเซอรี่ไม้ภายใน ,เนิร์สเซอรี่ตะบองเพชร และพิพิธภัณฑ์หัวโขน ในการเปิดให้บริการครั้งนี้ทางสวนนงนุชพัทยา ยินดีมอบสิทธิพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สารมารถเข้าชมสวนนงนุชฟรี เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ สนับสนุนการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย

ทั้งนี้ เพียงท่านแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนให้กับเจ้าหน้าที่บริเวณชานชาลาประตูทางเข้าท่านจะได้รับสิทธิพิเศษเข้าชมสวนสวยมากว่า 40 สวนฟรี ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ถึง 30 ก.ย 64

ส.ส.สุโขทัย ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ‘ติดตามเงินชดเชยยาสูบ และขับเคลื่อนการปลูกพืชทดแทนกัญชง’ ย้ำ! ขึ้นภาษีบุหรี่แบบค่อยเป็นค่อยไป ยันไม่ขึ้นอัตราร้อยละ 40 ในปี 2564 แน่นอน

ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ประชุมร่วม นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัย / นายประดิษฐ์ พละทรัพย์ ประธานชมรมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์สุโขทัย / นายประเสริฐ สงวนทรัพย์ นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบ จ.สุโขทัย พร้อมตัวแทนเกษตรกร ที่สำนักงานยาสูบสุโขทัย อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย

ทั้งนี้ จากการติดตามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องชาวไร่ยาสูบอย่างต่อเนื่อง ดร.พรรณสิริ ได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไปยังการยาสูบแห่งประเทศไทย กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ตลอดจนเสนอญัตติ ให้ตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบอย่างเป็นระบบ โดยมีประเด็นปัญหาที่สำคัญ คือ ขอให้กระทรวงการคลังชดเชยโควตาที่ลดลงตั้งแต่ปี 2562  เป็นจำนวนเงิน 159.9 ล้านบาท ต่อปี จนกว่าจะมีนโยบายและแนวทางการปลูกพืชทดแทนที่ชัดเจน และขอให้กรมสรรพษามิต งดการขึ้นภาษีบุหรี่ในอัตราร้อยละ 40 ตามที่มีข้อมูลว่าจะเริ่มปรับในวันที่ 1 ตุลาคม  2564 เป็นต้นไป รวมถึงขอให้การยาสูบประกาศนโยบายโค้วตายาสูบให้ชัดเจน และส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนกัญชงหรือ พืชอื่น ๆ ให้กับเกษตรกรเพื่อให้มีรายได้ไม่น้อยกว่าการปลูกยาสูบ

อย่างไรก็ตาม จากการประชุมในครั้งนี้ ดร.พรรณสิริ ได้แจ้งข้อสรุปว่า วงเงินชดเชยกระทรวงการคลัง ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป โดยการขึ้นภาษีบุหรี่ จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปและในปี 2564 ไม่ขึ้นในอัตราร้อยละ 40 อย่างแน่นอน ในส่วนของโค้วตายาสูบนั้น ผู้ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทยแจ้งว่า ทางการยาสูบแห่งประเทศไทย  จะพยายามคงโควตาไว้อย่างเดิม พร้อมมีแนวทางส่งเสริมการปลูกพืชทดแทน กัญชง ซึ่งได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง หน่วยงานภาคเอกชน และผู้สนับสนุนส่วนต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือให้คำแนะนำแก่เกษตรกรผู้สนใจอย่างเป็นระบบแล้ว

ดร.พรรณสิริ กล่าวขอบคุณราชการส่วนจังหวัดสุโขทัย ที่เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุขจังหวัด ที่ออกใบอนุญาติปลูกแล้ว จำนวน 6 ราย ขณะที่เกษตรจังหวัดนำร่องการเปลูกใน 2 พื้นที่ เพื่อเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับจังหวัดสุโขทัยในด้านองค์ความรู้ มีวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสนใจสมัครตามโครงการของมหาวิทยาลัยนเรศวร แล้ว ราว 30 วิสาหกิจชุมชน นอกจากนี้ การยาสูบแห่งประเทศไทย ได้ให้แนวทางการส่งเสริมผลักดันโดยประสานภาคเอกชน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ช่วยกันหนุนเสริม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ยาสูบสุโขทัยที่จะปลูกพืชกันชงเป็นพืชทดแทนยาสูบต่อไปในอนาคต โดยมอบหมายให้นายประเสริฐ สงวนทรัพย์ นายกสมาคมยาสูบจังหวัดสุโขทัย และนายประดิษฐ์ พละทรัพย์ ประธานชมรมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์สุโขทัย เป็นผู้ประสานงาน  พร้อมขับเคลื่อนแนวทางต่าง ๆ ต่อไป

ครม. เห็นชอบจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดส รองรับการฉีดวัคซีนสูตรผสม ร่นระยะเวลาฉีดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เร็วขึ้น 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ก.ย. มีมติเห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงิน 4,254.36 ล้านบาท สำหรับจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม จำนวน 12 ล้านโดส เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่ประชาชน ใน 4 กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ 

1.) กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง (ปอดอุดกั้น หอบหืด) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 (ไตวายเรื้อรัง) โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน (BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 35 น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม) 

2.) ประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป

3.) เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย เช่น ด่านควบคุมโรคตามชายแดน สถานกักกันโรค ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่เก็บขยะติดเชื้อเป็นต้น 

4.) ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

การจัดหาวัคซีนซิโนแวคจำนวน 12 ล้านโดสนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชน เพราะเป็นวัคซีนที่ผลิตแล้ว ทำให้สามารถส่งมอบได้ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. และยังเป็นการรองรับการฉีดวัคซีนสูตรผสมและเพิ่มความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศที่รวดเร็วยิ่งขึ้น 

ผู้ปกครอง "คนพิการทางการเรียนรู้ (LD)” ศึกษาดูงานการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อผู้ปกครองละเด็กพิเศษ ณ ศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติก

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ณ ศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติก ชลบุรี ถ.อ่างศิลา ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ‘นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล’ ผู้ปกครองคนพิการทางการเรียนรู้ (LD) และตำแหน่ง นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย เข้าพบ ‘นางสาวอารยา แดงแสง’ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติก ชลบุรี เพื่อเป็นต้นแบบในการดำเนินงานสนับสนุนและส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิตของผู้ปกครองและน้อง ๆ ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (LD)

โดย "นางสาวอารยา แดงแสง" ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ให้เกียรติพาเยี่ยมชม การทอผ้าไหมด้วยเครื่องทอผ้า "ซาโอริ" / การทำขนมทองม้วน การทำพวงกุญแจ / การทำขนุนอบแห้ง / การสกรีนร้อนบนแก้วน้ำ / การทำผ้าเช็ดเท้า / การนำเศษผ้ามาทำผ้าเช็ดคราบสกปรกในโรงงานอุตสาหกรรม และ การรับงานจากบริษัทมาทำงานที่บ้าน ซึ่งได้รับการสนับจาก บริษัท ยาฮะตะ อินดัสตรี (ประเทศไทย) จำกัด

หลังจากนั้น "นางสาวอารยา แดงแสง" ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้ให้คำแนะนำแนวทางการพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตของน้อง ๆ เด็กพิเศษ และแนวทางการสร้างเสริมขวัญกำลังใจให้กับผู้ปกครองให้มีความกล้าหาญ ความแข้มแข็ง ความอดทน เพื่อร่วมกันยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ปกครองและเด็ก ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top