Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

DITP ตอบโจทย์ผู้ประกอบการอาหารไทยสำเร็จรูปยุคใหม่ เปิดตัว T-SAPP อบรมออนไลน์ก้าวทันสถานการณ์การค้าโลก

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP เปิดตัวโครงการ T-SAPP หลักสูตรอบรมออนไลน์ ตอบโจทย์ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปยุคใหม่ แนะช่องทางต่อยอดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคในตลาดโลก พร้อมพัฒนากลยุทธ์ส่งออกและสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าให้เหมาะกับสถานการณ์การค้าปัจจุบัน

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมการค้าและจัดกิจกรรมการตลาดระหว่างประเทศในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กระทรวงพาณิชย์และนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ที่มุ่งเน้น “ตลาดนำการผลิต”

“สำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงได้จัด โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปสู่ตลาดโลก หรือ Thai SELECT Apprentices Program (T-SAPP) ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อบ่มเพาะและอบรมเชิงปฏิบัติการในเชิงลึกแก่ผู้ผลิตและผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีศักยภาพ ให้เกิดการจัดทำแผนกลยุทธ์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปของบริษัท และพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการนำอาหารไทยมาพัฒนาต่อยอดสู่อุตสาหกรรมอาหารและขยายสู่การส่งออก รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมากที่มีศักยภาพและต้องการขยายธุรกิจสู่การค้าระหว่างประเทศ อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการสินค้า OTOP ผู้ประกอบการสินค้าประเภท Street Food หรือเจ้าของร้านอาหารที่ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปของตนเอง ซึ่งอาจยังไม่สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่จำเป็นในการเพิ่มขีดความสามารถในด้านต่างๆ ดังนั้น โครงการ Thai SELECT Apprentices Program (T-SAPP) ในรูปแบบออนไลน์จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ ในการพัฒนาความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการเสริมสร้างทักษะในด้านการตลาดระหว่างประเทศ การสร้างแบรนด์ การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผ่านการอบรมและสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Training & Workshop) และการใช้คำปรึกษาในเชิงลึก (Coaching) รวมถึงการปฏิบัติจริง ล้วนมีส่วนในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ให้สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน”

สำหรับปีนี้ มีผู้ประกอบการสินค้าอาหารสำเร็จรูปสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 52 ราย โดยหลังจากนี้จะเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ และการให้คำปรึกษาเชิงลึกรายบริษัทจากผู้เชี่ยวชาญ นำโดยนายสมชนะ กังวารจิตต์ ผู้ก่อตั้ง Prompt Design ซึ่งเป็นผู้ที่คว้ารางวัลด้านการออกแบบ บรรจุภัณฑ์จากเวทีการประกวด ชั้นนําในระดับนานาชาติถึง 86 รางวัล และ ดร.ปรเมษฐ์  ชุ่มยิ้ม ที่ปรึกษาอาวุโสเมืองนวัตกรรมอาหาร ผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมอาหารและเชี่ยวชาญด้านโมเดลธุรกิจ จากนั้นในเดือนกันยายนจะได้ร่วมเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าเสมือนจริง THAIFEX-Virtual Trade Show  ผ่านแพลตฟอร์ม THAIFEX – Virtual Trade Show (www.thaifex-vts.com) เพื่อให้ผู้ประกอบการสินค้าอาหารสำเร็จรูปได้มีประสบการณ์ในการเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าอาหารในระดับนานาชาติ รวมถึงศึกษาแนวโน้มสินค้าอาหารในปัจจุบัน

ผู้ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะได้เพิ่มพูนความรู้ทางด้านการตลาด โดยเฉพาะการตลาดระหว่างประเทศ ในอันที่จะเตรียมความพร้อม รวมถึงพัฒนาศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตระหว่างประเทศ


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์

บริษัท มิวท์ จำกัด คุณภัทรพร โทร. 087 366 3915 

'มาสด้าผนึกกำลังสวาทแคท' พร้อมลุย! ศึกไทยลีกเต็มกำลัง ตั้งเป้าทำอันดับดีที่สุดในไทยลีกฤดูกาลใหม่

เมื่อวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมกับ สโมสร นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ประกาศเดินหน้าสานต่อนโยบายขับเคลื่อนวงการฟุตบอลไทยเป็นปีที่ 10 จัดงานแถลงข่าวแบบไลฟ์สตรีมมิ่ง ภายใต้สโลแกน “SWATCAT 2021 We will fight till the end: สวาทแคท 2021 พวกเราจะสู้จนหยดสุดท้าย” เปิดตัวผู้บริหารชุดใหม่ นักเตะใหม่ ชุดแข่งใหม่จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมงัดกลยุทธ์เด็ดทั้งเกมส์รุกและเกมส์รับ ที่จะมาสร้างสีสันให้กับแฟนๆ วงการลูกหนังเมืองไทย พร้อมนำทีมก้าวสู่อันดับที่ดีที่สุดในการแข่งขันไทยลีก 2021 ประเดิมนัดแรกออกไปเยือน หนองบัว พิชญ ในวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 นี้ เวลา 18:00 น.

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าขอขอบคุณชาวโคราชเป็นอย่างสูงที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนากีฬาฟุตบอลตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ รวมถึงได้มีส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสให้กับผู้ที่รักในกีฬาฟุตบอล ได้มีพื้นที่ในการแสดงความสามารถและขับเคลื่อนวงการฟุตบอลไทยให้ยั่งยืน ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นพลังของแฟนๆ ที่ส่งเสียงกึกก้องไปทั่วสนาม เรารับรู้ได้ถึงสปิริต แรงศรัทธา ที่แฟนบอลทุกคนมีให้กับทีม เพราะสวาทแคทคือทีมฟุตบอลที่เป็นหนึ่งเดียวในใจของชาวโคราช และมาสด้ายังคงเชื่อมั่นถึงความเป็นยอดนักสู้ของนักเตะและทีมงานทุกคน ที่สำคัญ คือ กองเชียร์ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อให้ทีมของเราก้าวไปสู่ชัยชนะในทุกเกมส์การแข่งขัน ซึ่งแม้ว่าในปีนี้ เราทุกคนจะต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ แต่เราเชื่อมั่นว่าเราจะก้าวผ่านทุกอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ด้วยดี เพราะเราทุกคนมีสปริตและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งจะช่วยพาทีมไปสู่จุดหมายที่วางไว้ในปีนี้ได้อย่างแน่นอน

ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กล่าวว่า สำหรับฤดูกาลใหม่นี้ เราได้มีการปรับกลยุทธ์ใหม่ภายใต้การนำทัพของนายแพทย์ วรรณรัตน์  ชาญนุกูล ประธานสโมสรฯ เพื่อสร้างความสำเร็จ โดยได้เสริมทัพผู้บริหารใหม่ ได้แก่ คุณบัญชา พิมพ์สมบูรณ์ รองประธานฝ่ายบริหารและผู้อำนวยการสโมสรฯ และ คุณนฬาพร ไชยนิน รองประธานฝ่ายหารายได้-สิทธิประโยชน์ และผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรสโมสรฯ รวมถึงได้มีการปรับทัพผู้เล่นทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย โดยได้นำนักเตะจากอคาเดมี่ของเรา ที่ได้เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชนมาเสริมทีม เรียกได้ว่ามีทั้งความพร้อม ความสมบูรณ์ และมีสปิริตของทีมอย่างดียิ่ง ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้จะสามารถสร้างประสบการณ์และความมั่นใจให้กับนักเตะ และช่วยพลักดันให้ก้าวไปสู่เป้าหมายของการแข่งขันในฤดูกาลนี้ แม้ว่าปีนี้เราต้องเจอกับสถานการณ์ความยากลำบากจากการระบาดของโควิด-19 แต่เราก็จะฟันฝ่าไปและจะพาทีมไปสู่จุดหมายที่วางไว้ เพื่อให้แฟนๆ ชาวโคราชและแฟนๆ ทั่วประเทศไทยภูมิใจให้จงได้

ด้าน “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กล่าวถึงเป้าหมายและแผนการเล่นในฤดูกาลนี้ว่า แม้ว่าในฤดูกาลที่แล้วเราจะจบที่อันดับ 9 แต่เป้าหมายของเราก็ไม่เคยปรับลง และเราได้ตั้งเป้าที่จะทำอันดับให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ ปี โดยได้ทั้งวางแผน นำข้อผิดพลาดมาเรียนรู้ และเตรียมความพร้อมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการวางกลยุทธ์ทั้งเกมส์รุกและเกมส์รับ การทำงานแบบทีมเวิร์ค การสร้างความแข็งแกร่งของนักเตะ โดยได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นทั้งชาวต่างชาติและไทยเกือบจะทั้งหมด ซึ่งล้วนเป็นนักเตะดาวรุ่งมากฝีมือที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้เล่นรุ่นพี่ในทีม ซึ่งขอให้ทุกท่านช่วยส่งกำลังใจและช่วยกันเชียร์ทีมสวาทแคทไปด้วยกัน

นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานคือการเปิดตัวชุดแข่งขันประจำฤดูกาล 2021 ที่ได้แบรนด์ชุดกีฬาระดับโลก KELME (เกลเม) แบรนด์กีฬาสัญชาติสเปน ผู้ผลิตชุดกีฬาชั้นนำระดับโลก ภายใต้การบริหารงานในไทยโดย บริษัท จี ทเวนตี้ทู จำกัด นำโดย นายกันต์ ตันสุวรรณรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ในฐานะผู้นำเข้า และ จัดจำหน่ายแบรนด์ KELME (เกลเม) ในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว ซึ่ง เกลเม ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1960 เคยเป็นผู้สนับสนุน และผลิตชุดแข่งขันให้กับ สโมสรเรอัล มาดริด ร่วมคว้าแชมป์สโมสรยุโรปในฤดูกาล 1997/1998 และผลิตชุดแข่งขันให้กับ ทีมชาติสเปน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1992 ที่ประเทศสเปน และปัจจุบัน เกลเม ก็ยังผลิตชุดแข่งขันให้กับหลายทีมทั่วโลก ซึ่งในฤดูกาลนี้ แบรนด์ “เกลเม” ได้เป็นเป็นพันธมิตรผู้สนับสนุนด้านเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายของนักกีฬา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “PASSION TO WIN” โดยชุดหลักยังคงเป็นสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำสโมสร ส่วนชุดเสื้อฟุตบอลเยือน มาในชุดเหลือง และสีดำ สำหรับเสื้อแข่งขันในฤดูกาลนี้จัดจำหน่ายในราคา 690 บาท ซึ่งแฟนๆ สวาทแคท สามารถสั่งจองได้ในวันที่ 29 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ผ่านทางช่องทาง SWATCATSHOP.com และ ช่องทางอื่นๆ ของทางสโมสรฯ

สำหรับการแข่งขัน 4 นัดแรกในฤดูกาล 2021 นี้ สวาทแคทจะบุกเยือนนัดแรกในวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 เวลา 18:00 น. โดยจะพบกับทีม หนองบัว พิชญ เอฟซี นัดที่สองวันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2564 บุกไปเยือนสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, ส่วนนัดที่สามวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2564 เป็นเจ้าบ้านพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี และนัดที่สี่วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2564 ออกไปเยือนเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ขอเชิญชวนแฟนบอลร่วมชม และเชียร์เจ้าแมวพิฆาตไปพร้อมกัน

เงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาท เริ่มโอน 1-7 ก.ย. นี้ เช็กช่องทางตรวจสอบสิทธิผ่านระบบออนไลน์ 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการ โดยมีความคืบหน้าดังนี้

กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้เริ่มการเบิกจ่ายเงินสำหรับโครงการ “อว.ลดค่าเทอม” แล้วตั้งแต่ 26 ส.ค. 64 สำหรับมหาวิทยาลัยและสถาบันที่ได้จัดส่งข้อมูลผ่านการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง ขณะนี้มีจำนวน 29 แห่ง รวมเป็นเงิน 2,250 ล้านบาท ซึ่งมหาวิทยาลัย/สถาบันอุดมศึกษาจะนำไปใช้ลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาภาคเรียนที่ 1/2564 ในสัดส่วนเงินสนับสนุนจากรัฐบาลตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้เร่งติดตามและตรวจสอบระบบการเบิกจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด เงินทุกบาทที่รัฐบาลสนับสนุน ต้องถึงมือนิสิตนักศึกษา คืนให้กับคนที่ได้ชำระค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาไปแล้ว หรือใช้ลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับผู้ที่กำลังจะชำระเงิน โดยมหาวิทยาลัยไม่เก็บเงินดังกล่าวไว้แต่อย่างใด 

ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งให้เร่งตรวจสอบและยืนยันข้อมูลนักศึกษาส่งมาที่กระทรวงโดยเร็ว เพื่อดำเนินการอนุมัติเบิกจ่ายแก่สถาบันที่เหลือ อีกประมาณ 100 กว่าแห่ง ให้เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาต่อไป

ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาผู้ปกครองและนักเรียน จำนวน 2,000 บาท กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับงบประมาณ จำนวน 1.95 หมื่นล้านบาท สำหรับเด็กนักเรียน 9.79 ล้านคน เมื่อ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา และทำการจัดสรรไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแลแล้ว ได้แก่

 - สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รับเงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่โรงเรียน

- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รับเงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่โรงเรียน

- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รับเงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่สถานศึกษา

- สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) รับเงินเยียวยานักเรียน คนละ 2,000 บาท โดยรับเงินสดที่สถานศึกษา 

ทั้งนี้ ผู้ปกครองที่ไม่ได้รับเงินภายในเวลาดังกล่าว ขอให้ติดต่อโรงเรียนที่บุตรหลานศึกษาอยู่ หรือโทร หมายเลข 1579 / 1693

“นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทั้งสองกระทรวง ติดตามตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด ทุกขั้นตอน ไม่ให้มีการทุจริต ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องถึงมือผู้ปกครองนักเรียน และนักศึกษาอย่างครบถ้วน ” น.ส.รัชดา กล่าว

สำหรับ ช่องทางเช็กสิทธิรับเงินเยียวยา 2,000 บาท สามารถเข้าตรวจสอบสิทธิ ได้ที่ https://student.edudev.in.th โดยระบบจะให้กรอกเลขประจำตัวประชาชนของนักเรียน เลขประจำตัวนักเรียน เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูล


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

แพทยสภา พักใบอนุญาต ‘หมอของขวัญ’ กรณี ‘ร้อยไหมทองคำ’ ไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้

สะพัดหนังสือแพทยสภา กรณีร้องสอบมาตรฐาน ‘หมอของขวัญ’ ร้อยไหมทองคำแล้วใบหน้าไม่ดีขึ้น พบมีความผิดจริง ใช้ไหมละลายเคลือบทอง แถมรักษาไม่ได้ผล สั่งพักใช้ใบอนุญาต 3 เดือน เริ่มปีหน้า ด้านแหล่งข่าวเผยเกิดขึ้นเมื่อ 3-4 ปีก่อน จัดร้อยไหมราคา 6 แสน มีไฮโซใช้บริการเกือบ 20 รายแล้วไม่ได้ผล มาร้องเรียน แต่เพิ่งพิจารณาเสร็จเมื่อเดือนเมษายน

วันนี้ (31 ส.ค.) ในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Vaccine เป็นหนังสือจากแพทยสภา ที่ พส.011/(ส.2)/8791 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เรื่อง แจ้งมติคณะกรรมการแพทยสภา ระบุว่า ตามที่ท่านได้ทำคำร้องยื่นต่อแพทยสภา สรุปความได้ว่า ... ของท่านได้เข้ารับหัตถการร้อยไหมบริเวณใบหน้า ฉีดคางและขมับ ใส่สปริงร่องแก้ม แก้ไขปัญหาเหนียงคอ และคางสั้นถดถอย ที่สถานพยาบาลของขวัญคลีนิกเวชกรรม สาขาทองหล่อ โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาแจ้งว่าใช้ไหมทองคำในการรักษา แต่ปรากฎว่าเป็นเพียงไหมละลายเคลือบทอง อีกทั้งการรักษาส่วนอื่นไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันและการรักษาไม่ได้ผลตามที่กล่าวอ้าง แต่เก็บค่ารักษาในราคาสูงทั้งที่ไม่ได้ใช้วัสดุตามที่ตกลงและยังปกปิดชื่อและยี่ห้อของเวชภัณฑ์ที่ใช้ทำการรักษา ทำให้ผู้เข้ารับการบริการหลงผิดจ่ายค่ารักษาในราคาที่สูงแต่ผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่แพทย์กล่าวอ้างและผู้รักษาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญตามสาขาที่กล่าวอ้าง ขอให้แพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรมของผู้ถูกร้อง นั้น

ในการนี้ แพทยสภาได้ดำเนินการพิจารณาคำร้องดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมการแพทยสภาในการประชุมครั้งที่ 5/2564 วันที่ 8 เมษายน 2564 มีมติลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์หญิงของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 กรณี 1.) มาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2.) หลอกลวงให้หลงเข้าใจผิดเพื่อประโยชน์ของตน 3.) ไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองของผู้ป่วย เป็นระยะเวลา 3 เดือน จึงเรียนมาเพื่อทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ พลอากาศตรี นายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา

แหล่งข่าวจากบุคลากรทางการแพทย์รายหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามที่เพจดังกล่าวเผยแพร่เอกสารออกมา เท่าที่สอบถามทางแพทยสภาเพื่อตรวจสอบ ยืนยันว่าเป็นเอกสารจริง เพิ่งส่งออกไปเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) โดยปกติแบบฟอร์มแจ้งคำสั่งต้องใส่ชื่อนิติกรด้วย ในฐานะที่เป็นผู้ส่งหนังสือฉบับดังกล่าว คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว มีผู้เสียหายรายหนึ่งไปร้องเรียนต่อแพทยสภาว่า แพทย์หญิงของขวัญได้ทำการร้อยไหมแก่ผู้สนใจในราคา 6 แสนบาท ที่ของขวัญคลีนิก ข้างโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โดยมีบรรดาเศรษฐีและไฮโซเข้ารับบริการมากกว่า 20 ราย ปรากฎว่าทำออกมาแล้วใบหน้าไม่ได้ดีขึ้น ตามที่โฆษณาอ้างว่าเป็นไหมทองคำในการรักษา นำไปสู่การร้องเรียนต่อแพทยสภา แม้ภายหลังผู้เสียหายจะได้รับเงินชดเชยจากแพทย์หญิงของขวัญก็ตาม แต่การดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานการประกอบวิชาชีพของแพทยสภาดำเนินต่อไป กระทั่งมีมติออกมาว่าแพทย์หญิงของขวัญมีความผิดจริง คดีนี้เป็นคดีเก่า ตัดสินไปเมื่อเดือนเมษายน 2564 ส่วนการกำหนดบทลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์หญิงของขวัญ 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ปีหน้านั้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการแพทยสภาที่เป็นผู้กำหนดออกมา


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000086270
https://www.facebook.com/vaccinemagazine/photos/a.109467213739343/585387986147261/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

เกาะติดภารกิจพันธจิตอาสา! ลุยฝ่าสายฝน ‘ส่งมอบข้าวกล่องบรรเทาทุกข์...ส่งความสุขปันอิ่ม’ ที่ชุมชนชายคลองบางบัว หลักสี่

การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด ส่งผลให้หลายครัวเรือนไม่สามารถออกไปทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว และยังรอคอย ความช่วยเหลืออย่างมีความหวัง จากทุกภาคส่วนในสังคมไทย

เกาะติดภารกิจพันธจิตอาสา วันที่ 31 สิงหาคม ที่บริเวณชุมชนชายคลองบางบัว เขตหลักสี่ คุณสร้อยทอง ขำประดิษฐ์ ที่ปรึกษาชุมชน พร้อมด้วย นายวัฒนา เย็นวารี รองประธานชุมชน ร่วมรับมอบข้าวกล่องพร้อมทาน "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" และเครื่องดื่มเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย จากสมาคมโฮมีโอพาธีย์ ประเทศไทย โดยมี นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาวพรทิพย์ เตชะสมบูรณากิจ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทในเครือ เวิลด์เมดิคอลซัพพลาย จำกัด นายสิทธิกิตติ์ รัชตะทรัพย์ และนายธราธพ ชาตรี ซึ่งเป็นตัวแทน นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 1 (ปสม.1) และหลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข สสสส.รุ่น 9-11-12 สถาบันพระปกเกล้า พร้อมตัวแทนพันธมิตรจิตอาสา จากองค์กรต่างๆ อาทิ มูลนิธิสหชาติ สำนักข่าว News Online Thailand เว็ปไซต์ข่าวจั่นเจา Canchaonews.com หนังสือพิมพ์ดีดีโพสต์ นิวส์

นายวัฒนา เย็นวารี เปิดเผยว่า ในชุมชนแห่งนี้มีประชากร 1,300 คน มีผู้พักอาศัย 400 หลังคาเรือ จาสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อจำนวน 20 ครัวเรือน หรือ 30 คน และได้รับการรักษาจนปัจจุบันหายดีกันหมดแล้วและกลับมาพักฟื้นใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตามปกติ ขอบคุณพันธมิตรจิตอาสา ที่นำอาหารมาส่งมอบให้คนในชุมชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทางคณะกรรมการชุมชนต้องขอขอบพระคุณกับน้ำใจมาแบ่งปัน

ด้านนายสมชาย จรรยา เปิดเผยว่า โครงการดีๆที่คนไทยห่วงใยไม่ทิ้งกัน เกิดจากโครงการ "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" ของบริษัทในเครือซีพี รวมทั้ง  น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ร่วมส่งกำลังใจถึงพี่น้องประชาชนผ่าน “ข้าวกล่องปันอิ่ม” โดยมีพันธมิตรจิตอาสา จากองค์กรต่าง ๆ รวมตัวกันทำความดีช่วยเหลือสังคม ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญรับข้าวกล่องพร้อมทาน เพื่อส่งมอบต่อถึงมือผู้คนตามชุมชนต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และจังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรง มีทั้ง ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ผู้ที่กักตัวรักษาอยู่ในบ้าน ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤจติโควิด-19 ได้รับประทานเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ได้ระดับหนึ่ง

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.และคณะตรวจเยี่ยม ตม.จว.ปทุมธานี โดยมี พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จว.ปทุมธานี ให้การต้อนรับในการตรวจ

ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ให้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.หฤษฎ์  เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 เดินทางตรวจเยี่ยม มอบนโยบาย กำชับการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปทุมธานี และตรวจความคืบหน้า ให้คำแนะนำในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยของ ตม.จว.ปทุมธานี

ทั้งนี้ ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญ อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และสิ่งอุปโภค บริโภค สำหรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 

พร้อมทั้งได้มอบนโยบาย กำชับการปฏิบัติราชการให้แก่หน่วย ดังนี้

1.ให้หัวหน้าหน่วยทำความเข้าใจผู้ใต้บังคับบัญชาให้ถือปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการข้อกำหนดต่างๆ ที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรการที่ ผจว.มีประกาศ คำสั่ง รวมทั้งข้อสั่งการของ ตร. และให้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

2.ให้หัวหน้าหน่วยดำเนินการหามาตรการและประชาสัมพันธ์คนต่างด้าวในพื้นที่ที่ระยะเวลาการอนุญาตจะครบกำหนด 31 ต.ค.64 ให้มาดำเนินการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรก่อนการอนุญาตสิ้นสุด 45 วัน เพื่อลดความแออัดและเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19

3.ให้หัวหน้าหน่วยมีมาตรการป้องกันและจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ชุด PPE ให้กับข้าราชการในสังกัด และจัดไว้ ณ ที่ทำการ จุดบริการประชาชนอย่างเพียงพอ หากไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับสนุนจาก สตม.

4.กรณีพบข้าราชการตำรวจในสังกัดหรือครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 ให้ หน.ตม.จว./ด่าน ตม. รับผิดชอบ ควบคุม กำกับดูแลในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข การรับการรักษาที่สถานพยาบาล การแยกกักตัว ตลอดจนดูแลช่วยเหลือด้านสวัสดิการ การช่วยเหลืออื่นๆ ตามขีดความสามารถและรายงานข้อมูลในกลุ่มไลน์ระดับ บก. เพื่อประสานงาน

5.การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ถือปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติ Standard Operation Procedures (SOP) แต่ละแผนกของ สตม.

6.ให้เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณงบกลางโควิด 2019 ที่ได้รับจัดสรรเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงให้ข้าราชการผู้มีสิทธิรับเงินและชี้แจงความเข้าใจถึงสิทธิ์และรายละเอียดหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายให้แก่ข้าราชการในสังกัดเข้าใจ อย่าให้เกิดการทุจริตหรือการร้องเรียนโดยเด็ดขาด

7.ให้สนับสนุนกำลังพลและอุปกรณ์เมื่อได้รับการร้องขอจากหน่วยตำรวจในพื้นที่ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด โดยให้ผู้บังคับบัญชาในหน่วยหมุนเวียนไปตรวจเยี่ยมและกำชับการปฏิบัติ

8.การโพสต์ข้อความต่างๆ ลงสื่อออนไลน์ ให้ผู้บังคับบัญชากำชับข้าราชการตำรวจในสังกัดมิให้แสดงความคิดเห็นในลักษณะไม่เหมาะสม ส่งผลกระทบต่อหน่วยงาน และกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

รัฐบาลจีนออกคำสั่งเฉียบขาด หั่นชั่วโมงเล่นเกมเด็กจีนเหลือเพียง 1 ชั่วโมงต่อวันเฉพาะสุดสัปดาห์ สกัดโรคติดเกม ละลายชั่วโมงชีวิตบนโลกเสมือน

รัฐบาลจีนได้ออกคำสั่งตรงถึงผู้ให้บริการเกมออนไลน์ในจีน โดยจำกัดการเข้าถึงผู้เล่นเกมที่เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้สามารถล็อกอินเล่นเกมได้ในช่วงเวลา 20.00 - 21.00 น. เฉพาะวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าเด็กจีน สามารถเล่นเกมออนไลน์ได้เพียง 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนมีนโยบายจำกัดการเล่นเกมออนไลน์ของเยาวชน เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2019 จีนได้ออกระเบียบที่ระบุว่าเยาวชนไม่ควรเล่นเกมเกินวันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อป้องกันปัญหาการติดเกมในเยาวชน โดยเปรียบการเล่นเกมมาก ๆ นั้น ก็เหมือนกับการติดยาเสพติดทางจิตใจที่จะส่งผลเสียต่อเด็ก ทั้งทางสุขภาพกาย และสุขภาพจิตอย่างมากในอนาคต

นอกจากนี้ ผู้เล่นเกมสมัครใช้บริการเกมออนไลน์ จะต้องลงทะเบียนด้วยชื่อจริง และข้อมูลจริงเท่านั้น อีกทั้งยังจำกัดวงเงินในการเติมเกมสำหรับผู้เล่นเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี ให้ใช้ได้ไม่เกิน 200 หยวนต่อเดือน หากอายุ 16-18 ปี ให้ใช้ได้ไม่เกิน 400 หยวนต่อเดือน โดยทางการจีนจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบผู้ให้บริการออนไลน์อยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่า มาตรการใหม่นี้จะมีการบังคับใช้จริงอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตามคำสั่งของรัฐบาลในการจำกัดช่วงเวลาให้เข้าถึงเกมออนไลน์ของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เหลือเพียง 1 ชั่วโมงต่อวันนั้น สร้างผลกระทบกับผู้ให้บริการเกมออนไลน์ รายใหญ่ของจีนอย่าง Tencent และ NetEase

หุ้นของทั้งสอง ร่วงลงทันทีที่รัฐบาลจีนออกมาตรการจำกัดการเล่นของผู้ใช้งานกลุ่มเยาวชน ที่มีมากกว่า 110 ล้านคนทั่วประเทศ และอาจจะกระเทือนตลาดเกมออนไลน์จีนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกา

แน่นอนว่านโยบายการจำกัดชั่วโมงเล่นเกมออนไลน์ของเด็กจีนในครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะถูกโยงไปถึงนโยบายของรัฐบาลจีน ที่ต้องการตัดตอนบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยี ที่มีเครือข่ายผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์จำนวนมหาศาลในจีน อย่างเช่น Alibaba, Tencent, Baidu, Didi หรือ Meituan ไม่ให้มีอิทธิพลในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในจีนมากเกินไป 

อย่างไรก็ตาม จีนก็ได้ออกมาตรการหลาย ๆ อย่าง เพื่อส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพเยาวชนจีนรุ่นใหม่ อาทิ การยกเลิกระบบการสอบในชั้นเรียนของเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี เพื่อลดความกดดันในการสอบแข่งขันตั้งแต่ในวัยเด็ก 

นโยบายงดการเรียน การสอนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ห้ามธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และต้องจดทะเบียนบริษัทในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ที่ต้องเสียให้แก่โรงเรียนกวดวิชานอกชั่วโมงเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนอย่างเต็มที่ในชั้นเรียน และมีเวลาว่างเหลือให้ใช้ร่วมกับครอบครัวในวันหยุด  

แต่สุดท้าย แผนการพัฒนาคุณภาพของเด็กจีนครั้งใหญ่นี้ จะได้ดีตามเป้าหมายของรัฐบาลหรือไม่ ก็อาจจะขึ้นอยู่กับคนในครอบครัวเป็นสำคัญด้วยว่า จะสามารถดึงความสนใจของเด็กที่เคยหลงไปในวังวนแห่งโลกออนไลน์ กลับสู่อ้อมอกของคนในครอบครัวได้มากน้อยเพียงใด


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: BBC / The Guardian


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

องค์การเภสัชกรรมแจงปมจัดซื้อ 'ซิโนแวค' ยันไม่มีส่วนต่าง ด้าน 'หมอโอภาส' วอนอย่าด้อยค่าวัคซีนสูตรผสม มีผลการศึกษา ใช้ใน COVAX ย้ำมีประสิทธิภาพ

องค์การเภสัชกรรมแจงปมจัดซื้อ 'ซิโนแวค' ยันไม่มีส่วนต่าง-ไม่ใช่นายหน้าค่าวัคซีน โต้กลับไม่มองข้อเท็จจริง ชี้ชิปเม้นท์แรก ๆ ราคาสูง เหตุจัดหาจำนวนน้อย ปัจจุบันราคาต่ำแล้ว ขณะที่ 'หมอโอภาส' วอนอย่าด้อยค่าวัคซีนสูตรผสม มีผลการศึกษา-ถูกใช้ใน COVAX ย้ำมีประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 64 นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวถึงกรณีที่มีการอภิปรายในสภาว่า องค์การเภสัชฯ ทำหน้าที่เป็นนายหน้าค่าวัคซีนซิโนแวคว่า ประเด็นแรก องค์การเภสัชฯ มิได้เป็นหน่วยงานแรกที่เข้าไปซื้อวัคซีนชนิดนี้ มีเอกชนรายอื่น พยายามเข้าไปประสาน แต่ทางซิโนแวคปฏิเสธทำธุรกิจด้วย ระหว่างนั้นทางองค์การเภสัชฯ ยังหารือกับซิโนฟาร์ม แต่ติดเงื่อนไขหลายข้อ ก่อนที่ภาครัฐจะให้องค์การเภสัชฯ เข้าไปหารือกับซิโนแวค ซึ่งพบว่ามีความยืดหยุ่น และทำได้เร็วกว่า ท่ามกลางสถานการณ์ขณะนั้นต้องแข่งกับเวลาในการหาวัคซีน มารองรับสถานการณ์ช่วงต้นปี 2563 ในที่สุดจึงตกลงดีลกับซิโนแวค สั่งมาทั้งหมด 16 ชิปเม้นท์

ส่วนชิปเม้นท์แรก ๆ ราคาสูง เพราะจัดหามาในจำนวนน้อย ราคาย่อมสูงกว่าที่บางประเทศซื้อเป็นจำนวนมาก แต่ชิปเม้นท์หลังราคาต่ำลงมาก และมีการเอาเฉพาะราคาแรกไปเผยแพร่ โดยไม่มองข้อเท็จจริงว่า ราคา ณ ปัจจุบันแปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เราเคยซื้อ 17 USD ปัจจุบันราคาเหลือ 8.9 USD

ขณะเดียวกันกรณีอ้างว่าองค์การเภสัชฯ มีส่วนต่าง ขอย้ำว่าเราจัดการตามกฎหมายกำหนด และเราต้องชำระก่อนด้วย ถึงจะไปเบิกกรมควบคุมโรคตามจริง ยืนยันว่าไม่มีส่วนต่างใดทั้งสิ้น

ส่วน นพ.โอภาส การกวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค ภายหลัง ส.ส. ฝ่ายค้าน ออกมาโจมตีด้วยว่า วัคซีนซิโนแวคมีการศึกษาประสิทธิภาพจากการใช้จริงไปแล้ว อาทิ จากทีมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็พบว่า มีประสิทธิภาพสูงมาก ผลการศึกษากับบุคลากรการแพทย์ ที่จังหวัดเชียงราย ค่าประสิทธิภาพอยู่ที่ 70 - 80% นับว่าสูง

"ขอย้ำว่า ไม่มีวัคซีนยี่ห้อไหนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% ไปจนถึงป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกได้ซื้อวัคซีนซิโนแวค เพื่อใช้ในโครงการโคแวกซ์ (COVAX) หลายร้อยล้านโดส การมาด้อยค่าวัคซีน จึงไม่ถูกต้อง"

อย่างไรก็ตาม นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า วัคซีนทุกชนิด เมื่อมาเจอกับสายพันธุ์เดลตา ปรากฏว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนทุกชนิดล้วนลดลง ประเทศไทยต้องปรับตัว ใช้สูตรวัคซีนซิโนแวค ผสมกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งทางคณะนักวิชาการจากหลายสถาบันทางการแพทย์ ทั้งศิริราช จุฬาฯ ไปจนถึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ย้ำว่า วัคซีนสูตรนี้มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย

"มาถึงจุดนี้ อย่าด้อยค่าวัคซีนกันเลย เพราะวัคซีนชนิดนี้ ช่วยให้เรามาตั้งแต่ต้นปี ในการควบคุมการระบาด จากนี้เราจะเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน” นพ.โอภาส กล่าว


ที่มา : https://www.isranews.org/article/isranews/102082-isranews-vac-19.html


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

ซิลลิคฯ ส่งหนังสือถึงองค์การเภสัชกรรม เร่งนำเข้า-ทยอยส่งมอบช่วงต้นไตรมาส 4 ปีนี้ จำนวน 1,958,400 โดส

วัคซีนโมเดอร์นา เป็นวัคซีนชนิด mRNA อีกหนึ่งยี่ห้อที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งจัดซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนจองไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ได้มีหนังสือมายังองค์การเภสัชกรรม เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ว่า วัคซีนโมเดอร์นาจะเริ่มทยอยส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 (ตุลาคม-ธันวาคม) จำนวน 1,958,400 โดส และในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 (มกราคม-มีนาคม) อีกจำนวน 3,110,400 โดส

โดยวัคซีนโมเดอร์นาล็อตแรกสำหรับการส่งมอบตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อมาเสริมแผนการฉีดวัคซีนของภาครัฐและสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนให้ได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามบริษัทแจ้งว่า หากมีความคืบหน้าในการส่งมอบวัคซีนล็อตแรกเพิ่มเติม ทางบริษัทจะได้รีบแจ้งให้ทราบโดยทันที

อย่างไรก็ตาม องค์การเภสัชกรรม ยืนยันว่า การส่งมอบวัคชีนยังคงเป็นไปตามกรอบของแผนที่กำหนดไว้ และประชาชนจะได้รับวัคซีนโมเดอร์จากโรงพยาบาลตามที่ได้ทำการจองไว้ โดยวัคซีนทั้งหมดจะทยอยนำเข้ามา ซึ่งองค์การฯ จะได้ประสานกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนและหน่วยบริการต่าง ๆ เพื่อบริหารจัดการทยอยจัดสรรกระจายตามสัดส่วนที่แต่ละโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรไว้ก่อนหน้านี้แล้ว


ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/155273


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

สหภาพยุโรปเห็นพ้องถอดสหรัฐฯ และอีก 5 ชาติ ออกจากบัญชีเดินทางปลอดภัย เหตุหวั่นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

บรรดารัฐบาลในสหภาพยุโรปเห็นพ้องกันในวันจันทร์ (30 ส.ค.) ถอดสหรัฐฯ ออกจากบัญชีเดินทางปลอดภัยของอียู ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่น่ากังวลของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หมายความว่าผู้มาเยือนจากสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ อีก 5 ชาติ อาจเจอมาตรการควบคุมเข้มงวดขึ้น อย่างเช่น ตรวจเชื้อโควิด-19 และกักกันโรค

นอกจากสหรัฐฯ แล้ว อิสราเอล โคโซโว เลบานอน มอนเตเนโกร และนอร์ท มาเซโดเนีย ก็ถูกปลดพ้นจากรายชื่อประเทศเดินทางปลอดภัยของสหภาพยุโรปเช่นกัน โดยบัญชีดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อแสวงหากฎระเบียบด้านการเดินทางร่วมกันทั่วอียู แต่มันไม่มีผลผูกพัน และแต่ละชาติสมาชิกมีอิสระในการกำหนดนโยบายพรมแดนของตนเอง

ที่ผ่านมา สมาชิกอียูบางประเทศ เช่น เยอรมนีและเบลเยียม จัดให้สหรัฐฯ อยู่ในกลุ่มประเทศสีแดง บังคับตรวจเชื้อและกันกันโรค ผิดกับฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ ที่จัดให้สหรัฐฯ อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความปลอดภัย

บัญชีนี้ส่วนใหญ่แล้วจำแนกกลุ่มต่าง ๆ บนพื้นฐานของสถานการณ์โควิด-19 ในแต่ละประเทศ แต่ประเด็นการพึ่งพาอาศัยกันก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาเช่นกัน

เคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 450 คนต่อประชากร 1 ล้านคน ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 สิงหาคม จากที่เคยต่ำกว่า 40 คนต่อประชาชร 1 ล้านคน ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นครั้งที่สหภาพยุโรปเพิ่มชื่อสหรัฐฯ เข้าไปในบัญชีเดินทางปลอดภัย

อัตราการติดเชื้อในอิสราเอล โคโซโว และมอนเตเนโกร ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

เวลานี้บัญชีเดินทางปลอดภัยของอียูมีอยู่ 17 ประเทศ ในนั้นรวมถึงแคนาดา ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์

แม้ทางกลุ่มอนุญาตให้นักเดินทางจากประเทศต่าง ๆ นอกอียูที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเดินทางเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังสามารถใช้มาตรการตรวจเชื้อและกักกันโรค ขึ้นอยู่กับประเทศที่นักเดินทางเหล่านั้นเดินทางเข้ามา

อียูมีความเห็นแตกแยกกันเกี่ยวกับท่าทีของสหรัฐฯ และเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา หลังจากก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้พลเมืองยุโรปเดินทางเข้าประเทศโดยเสรี แม้อียูส่งเสียงวิงวอนก็ตาม

รัฐสมาชิกบางประเทศแสดงความกังวลเกี่ยวกับจุดยืนไม่ถ้อยทีถ้อยอาศัยของสหรัฐฯ และเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในอเมริกา แต่ก็มีบางส่วนซึ่งต้องพึ่งพิงภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ลังเลที่จะกำหนดข้อจำกัดนักเดินทางจากสหรัฐฯ


(ที่มา : รอยเตอร์)
https://mgronline.com/around/detail/9640000085880


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top